บทอธิษฐานละลายกรรม

บทอธิษฐานละลายกรรม ที่จะกล่าวในที่นี้ ดูเผินๆอาจเป็นแค่บทสวดธรรมดา
แต่เป็นการสื่อใจถึงจิตโดยตรงซึ่งใช้ภาษาไทยที่เรารู้ซึ้งกันดี
และมีการอันเชิญบารมีของพระพุทธเจ้ารวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
อีกทั้งเป็นการแผ่พลังกุศลบารมีอันจัดเป็นทานบารมีแห่งนามอีกด้วย
ข้าพเจ้าใช้อธิษฐานเป็นประจำ มีอาณุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก..

1.ตั้งจิตเป็นสมาธิ ตั้งนะโม 3 จบ
2.ไตรสรณะคมณ์
3.บทอธิษฐานแบบคัดย่อ คือ

**ด้วยอาณุภาพแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
พลานุภาพแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
จงเป็นพละปัจจัยให้บุญกุศลบารมีอันวิเศษทั้งหลายที่มีอยู่ในสากลจักรวาล
และที่ข้าพเองเคยสั่งสมบำเพ็ญมาแล้วในอดีตจนถึงปัจจุบัน

- จงถึงแด่ เทวดาประจำตนของข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอให้เทวดาประจำตนของข้าพเจ้าปกปักคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้อยู่ดีมีสุข
ห่างไกลจากโรคาพญาภัยทั้งหลายด้วยเถิด **

- จงถึงแก่ บรรพบุรุษทั้งหลายของข้าพเจ้าที่ล่วงลับไปแล้วด้วยเถิด**
- จงถึงแก่ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกิด ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด
ก็ดี ขอได้โปรด อโหสิกรรม และรับกุศลบุญนี้ด้วยเถิด**

- จงถึงแด่ พระภูมิเจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองดูแลรักษา ณ บริเวณที่แห่งนี้ด้วยเถิด **

- จงถึงแด่ สรรพวิญญาณทั้งหลายที่อยู่อาศัย ณ บริเวณนี้ด้วยเถิด**
- จงถึงแด่ สรรพดวงจิตทั้งหลายทั่วทุกสารทิศด้วยเถิด ***

ในท้ายนี้มี*บทอธิษฐานสมประสงค*์มาเผยแพร่เพิ่มเติมครับ
เป็นเคล็ดลับสู่ความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งหากสิ่งที่ปราถนานั้นยากเกินกว่าจะทำให้สำเร็จได้ ก็ลองใช้บทอธิษฐานนี้ดูครับ
ลำดับแรกตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ตั้งนะโม 3 จบ
(อันเิชิญบารมีแห่งพระรัตนไตร)*ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์
พลานุภาพแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

(อันเชิญบารมีแห่งเทวดาประจำตน)ด้วยพลังบารมีอันศักดิ์สิทธิื์์ของเทวดารักษาตน
พลังบารมีแห่งเจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้
และด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลบารมีอันวิเศษบริสุทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมา
จงเป็นพลังปัจจัยหนุนหนำให้สิ่งที่ข้าพเจ้าปราถนานี้(นึกสิ่งที่ประสงค์)
ขอจงสำเร็จลุล่วงด้วยความราบรื่นดังใจปรารถนาด้วยเทอญ....

(ท้ายสุดขออนุโมทนา และขอบคุณทุกท่าน ต่อการแวะมาเยี่ยมเยือนกระทู้ธรรมนี้ครับ)
******บทอธิษฐานนี้จะอธิษฐานตอนไหนเวลาใดก็ได้ตามสะดวก
ซึ่งเป็นการเจริญแผ่เมตตาและเสริมสร้างบารมีแห่งธรรมไปด้วยในตัว..
​

 

นี่ ไม่ได้มาค้าน ดร.น้อท นะ
คืออยากจะพูดทั่วๆไปว่า
กฏแห่งกรรมนั้น คือ อย่าสร้างกรรมชั่ว หรือ อกุศลกรรม ให้สร้างกรรมดีหรือ กุศลกรรม
ดังนั้น เมื่อเราทำกรรมชั่วไปแล้ว...ไม่สามารถแก้ได้ ต้องรับ
ส่วนกรรมดี เมื่อเราทำไปแล้ว เราก็ต้องรับ
ดังนั้น ถ้าเรามัวไปคอยล้างละลายกรรมชั่ว เดี๋ยวจิตก็พาให้คิดว่า ล้างได้ ละลายได้ ก็จะทำชั่วต่อๆไปไม่จบสิ้น.....แล้วถ้าเกิดมันล้างไม่ได้ขึ้นมา ก็จะมานั่งทุกข์
สู้เราทำกรรมดี เติมความดีในทุกๆวัน จะดีกว่ามานั่งสวดมนต์ล้างความชั่ว ซึ่งเสียเวลาในการทำกรรมดี...แรงไปไหมนี่ ฮา

 

ลอง..เปรียบเทียบดูน่ะครับ สมมุติเราไปพูดไม่ดีกล่าวเสียๆหาย กับคนผู้หนึ่งไว้
เมื่อเวลาผ่านมาสักระยะในปัจจุบันหากเราไม่ไปขอขมาหรือทำดีเพื่อเป็นการลบล้าง
ต่อคนผู้นั้นสักวันเมื่อเขามีโอกาศเขาอาจกล่าวร้าย หรือว่าเรากลับก็ได้ แต่หากเราไปขอขมาและสำนึกผิดต่อเขาผู้นั้น ความบาดหมางก็จะบรรเทาเบาบางหรือ ลดลงได้ในระดับหนึ่ง ดังเช่นเนื้อหาในบทอธิษฐานนี้ก็มีบางตอน ที่ขอขมา(อโหสิกรรม)และอุทิศบุญกุศลไปยังเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย...
อย่างน้อยก็ทำให้ใจเราไม่ต้องร้อนรนว่าจะโดนเจ้ากรรมนายเวรในอดีตมาตามราวี
เพราะเราแผ่บุญและอธิษฐานจิตอันเป็นกุศลไปยังเขาเหล่านั้นแล้ว ......
(ขอขอบที่ร่วมแสดงความคิดเห็นมาครับ โมทนาสาธุ...)​

​

[/B]

 

พลังกุศลบารมีในปัจจุบันย่อมมีพลานุภาพสูงกว่าอกุศลกรรมในอดีต
เรื่องร้ายๆที่จะเกิดจึงสามารถผ่อนคลายให้กลายเป็นดีได้
โมทนาธรรมทุกท่านครับ​

 

ขอบคุณค่า เข้ามาอ่านแล้วนะคะ

 

อยากสอบถามว่าบทอธิฐานละลายกรรม ใช้สวดตอนไหนคะ ตอนตักบาตรเสร็จ ก่อนนอน หรือยังไงคะ จะได้ทำให้ถูกต้อง /ขอบคุณล่วงหน้าค๊า:VO

 

สวดตอนไหนก็ไม่ผิดครับแต่สำหรับผมจะใช้อธิษฐานตอนเช้า
เวลาเดินทางไปมาไหน แล้วก็ก่อนนอนครับ
หากใช้อธิษฐาน ในช่วงที่ทำบุญตักบาตร
หรือเวลาสร้างบุญกุศลใดๆเสร็จ อาณุภาพจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นครับ

โมทนาในธรรมครับ
​

 

สาระธรรมมา ใหม่ที่ข้าพเจ้าเขียนบรรยาย ในหัวข้อ อารมณ์แห่งธรรม
สนใจอ่านตามนี้เลยคับ http://palungjit.org/posts/7425139
เจริญในธรรมน่ะครับทุกท่าน
<< อินทรปัญญาสกุล >>​