รวมธรรมะ สั้น ๆ ของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่แบน ธนากโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Ji_ramet, 22 มกราคม 2013.

  1. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    [​IMG]

    ในพุทธภาษิต พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สติมโต สทา ภทฺทํ. ผู้มีสติมีความเจริญทุกเมื่อ

    ในการศึกษา การดูหนังสือ หรือการฟังครูอาจารย์บอกสอนหรืออธิบาย ถ้ามีสติเราสามารถที่จะรับเอาความรู้จากที่ครูอาจารย์อธิบายนั้นได้มาก
    ถ้าหากว่าไม่มีสติ การที่จะรับเอานั้นมีเปอร์เซ็นต่ำ
    ถ้ามีสติมากคำพูดของอาจารย์ทุกคำพูดนี่ รับเอาได้หมดไม่ตกหล่นไม่เสียหาย สติจึงเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่พยายามทำให้เกิดให้มีขึ้นในใจ

    หลวงปู่แบน ธนากโร

    (ปล.ขออนุญาตตั้งกระทู้นี้เพื่อเผยแพร่ธรรมะขององค์หลวงปู่ครับ)

    http://palungjit.org/attachments/a.2466874/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤศจิกายน 2013
  2. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    การบริกรรมพุทโธเป็นการกระทำภายในใจ ต้องมีสติกำกับในการบริกรรม ไม่ใช่บริกรรม พุทโธๆ แต่ไม่มีสติกำกับ ถ้าหากว่ามีสติควบคุม ก็จะไม่หลงลืม แล้วการบริกรรมพุทโธนั้นก็จะมีความละเอียด หรือมีความสดใสเพิ่มขึ้นเป็นลำดับๆ พุทโธกับสติก็มีโอกาสที่จะรวมเป็นอันเดียวกัน

    หลวงปู่แบน ธนากโร

    http://palungjit.org/attachments/a.2467071/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ที่ท่านว่าผ้าเหลืองร้อนนั้น ร้อนมาจากจิตจากใจ จิตใจมันร้อน ร้อนเพราะความบกพร่อง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามแต่เราไม่ห้ามเรา พระพุทธเจ้าทรงห้ามเรา เราต้องห้ามเรา พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้เราปฏิบัติ เราก็ต้องปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้ประพฤติปฏิบัตินั้น

    หลวงปู่แบน ธนากโร

    http://palungjit.org/attachments/a.2467123/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    เขาใส่บาตรเรา เขาก็มีน้ำใจทั้งๆ ที่เขาไม่รู้ว่าพระมาจากไหน โจรปลอมมาบวชมาซ่อนมาหลบอยู่ตรงนี้หรือไม่เขาก็ไม่คิด
    ไปบิณฑบาตรเขาก็ใส่บาตรให้ฉัน เป็นเรื่องที่น่าคิด ก็คนไม่รู้จักหน้าตา ไม่รู้มาจากไหน เช้าไปบิณฑบาตรเขาก็ใส่บาตรให้
    จึงว่าอำนาจของพระพุทธศาสนาครอบโลกธาตุ จิตใจของชาวโลกยอมรับอย่างสนิทใจทีเดียว

    หลวงปู่แบน ธนากโร

    http://palungjit.org/attachments/a.2467977/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7230.jpg
      7230.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      465
  5. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ทำไมเราจึงล้างบาตรกันทุกวัน ก็เพราะอาหารที่เราฉันนั้นมันสกปรกทุกวันก็ต้องล้างทุกวัน นี่ไม่ค่อยจะคิดกันนะ
    ทำไมเราจึงล้างกันทุกวัน ก็ของที่เราฉันกันนั้นมันเป็นของปฏิกูลทุกวัน กลิ่นก็เป็นของที่ไม่ดีทุกวัน กลิ่นก็เหม็นพูดให้มันชัด
    ทำไมเราจึงต้องล้างทุกวันคิดกันบ้างหรือเปล่า

    16 กันยายน ๒๕๔๕

    http://palungjit.org/attachments/a.2468009/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  6. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    การบวชก็เป็นวิธีการเพื่อจะให้มีโอกาสศึกษาและปฏิบัติได้อย่างเต็มที่และมีโอกาสจะได้ดูจิตดูใจของตนเองได้มาก
    การเป็นฆราวาสมีการเกี่ยวข้องมีหน้าที่มีการงาน มีภาระที่จะต้องรับผิดชอบบริหารมาก โอกาสที่จะมองเห็นจิตใจมีโอกาสเห็นได้ยาก
    การบวชจึงมีโอกาสได้มองใจเห็นใจชัด
    ในเมื่อมองใจเห็นใจชัดแล้วก็มีโอกาสที่จะมองเห็นสิ่งที่จะเป็นข้าศึกกับใจ และก็พยายามจะละสิ่งที่เป็นข้าศึกกับใจนั้นด้วยข้อปฏิบัติ

    3 มีนาคม ๒๕๓๗

    http://palungjit.org/attachments/a.2469060/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0550.jpg
      IMG_0550.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      494
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  7. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ของเกิดขึ้นทั้งหมด เกิดแล้วไม่ดับไม่มี สังขารเป็นส่วนรูปส่วนนามเกิดแล้วจะต้องสลายตัว
    เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นข้าศึก ไม่ได้เกิดมาให้เรายึดถือ
    ไม่ได้เกิดมาเพื่อแผดเผาจิตใจของเราของสัตว์โลก
    มีแต่ความไม่เข้าใจชัดในสิ่งที่เกิดมาเพื่อดับเท่านั้น
    แล้วไปยึดถือเอาไว้ไปหวงแหนเอาไว้ เอามาแผดเผาเจ้าของเอง
    หน้าที่การงานของเรามีเท่านี้ คือให้มุ่งศึกษา
    ผลของการศึกษาเรานี้ล่ะจะเป็นผู้รู้ที่เห็นเป็นผู้ที่มีวิชาความรู้ เราจะเป็นผู้สำเร็จมรรคสำเร็จผล

    ๒๙ สิงหาคม ๒๙

    http://palungjit.org/attachments/a.2469349/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0574.jpg
      IMG_0574.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      247
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  8. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    เดี๋ยวนี้มีการตายกันที่ไหน โอ้โฮ เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตจริงๆ
    เรื่องตายของคนๆ เดียวเท่านั้น แล้วเป็นงานขึ้นมา แล้วปลาไม่รู้ต้องตายตามกันไปเท่าไร เป็ดไก่ต้องตายตามไปเท่าไหร่ ถ้าหากว่ามีการมีงานลองดูซิ
    ถ้าหากจะมีการนิมนต์พระไปฉัน กลับมาแล้วต้องหาไก่มาฆ่าซิ แล้วก็ปาดคอถลกหนังเท่านั้นแหละ เอามาต้มแกงผัดกินกัน เอาไปทำบุญกัน
    โอ้การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมันเป็นบุญกุศลได้ยังไง ก็มีแต่บาปกันเท่านั้น ถ้าเป็นกันอย่างนั้นล่ะ

    ๒๗ ก.ค. ๒๗
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1020196.jpg
      p1020196.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.6 KB
      เปิดดู:
      198
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2013
  9. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    โง่ก็โง่อย่างนักปราชญ์ หากฉลาดก็จะฉลาดอย่างคนโง่
    เข้าใจไหม โง่อย่างนักปราชญ์คือยังไงล่ะ นักปราชญ์ท่านศึกษาของจริงในจิตนี้
    ฉลาดอย่างคนโง่ก็คือรู้หมดสารพัด รู้ตามตำราผูกนั้นผูกนั้น นั่นล่ะ..
    ฉลาดอย่างคนโง่ โง่อย่างนักปราชญ์ฉลาดอย่างคนโง่เราจะเอาอย่างไหน

    ๒๘ ส.ค. ๓๑

    http://palungjit.org/attachments/a.2469816/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0553.jpg
      IMG_0553.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      313
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  10. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ให้พากัน...เชื่อมั่นลงในหลักของกรรมฐานนี้
    ถ้าหากว่ายังมีการทะนุถนอมไม่สนใจในการที่จะพิจารณากรรมฐาน
    หวงกรรมฐานของเจ้าของทั้งๆ ที่เป็นของเกิดมาตาย ทั้งๆ ที่เป็นของปฏิกูล
    แต่กลับไม่ยอมพิจารณาให้แจ้งชัดตามความเป็นจริงของเขาแล้ว
    อันนี้ล่ะมันปิดประตูปิดช่องทางมรรคผลนิพพานทีเดียว ยังมืดมนอนธการไม่รู้ทางไปทางมา
    ถ้าหากว่าเปิดอันนี้แจ้งชัดเมื่อไหร่ เห็นประตูมรรคผลเมื่อนั้น

    ๒๗ ธ.ค. ๒๙

    http://palungjit.org/attachments/a.2471398/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0555.jpg
      IMG_0555.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      303
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  11. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    เราอาบน้ำทุกๆ วัน ใช้สบู่ถูตัวทุกวันๆ บางวันหลายครั้ง
    เช้าก็ล้าง กลางวันก็ล้าง กลางคืนก็ล้างกัน ล้างก็ยังต้องเอาสบู่เอาอะไรมาถูมาขัด ทำไมจึงต้องล้างต้องขัด
    นี่ ถ้าลองไม่อาบน้ำสักสามวันลองดู ลองเอามือลูบๆ ไป แล้วเอามาดมดูก็จะรู้ว่ามันเหม็นหรือหอม
    อย่างปากของเราล้างเช้าล้างเย็น ขี้ฟันมันเหม็นหรือมันหอม

    ๘ เม.ย. ๒๗

    http://palungjit.org/attachments/a.2471406/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  12. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ลมออกจากปากหรือลมหายใจของคนเรานี่ก็เหมือนกัน เข้าไกล้กันหายใจใส่กันล่ะ เหม็น
    เพราะมันผ่านของเหม็นเข้าไป แล้วก็ผ่านของเหม็นออกมา แล้วมันจะหอมยังไง
    ลมออกจากปอดก็เหมือนกัน เพราะมันผ่านปากผ่านคอผ่านของเหม็นมามาก ออกมามันจึงเหม็น
    ไอๆ เสียงที่มันดังๆ ออกมานี่ ก็เสียงออกจากปากที่มันเหม็นๆ นั่นเอง

    ๒๖ ม.ค. ๓๐
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2013
  13. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    จึงให้พิจารณาของปฏิกูลเหล่านี้ เหงื่อเป็นของปฏิกูล เหงื่อมันออกมาจากไหน มันก็ออกมาจากเรา
    ขี้ไคลน้ำมูกน้ำลายเป็นของปฏิกูล มันออกมาจากไหน มันก็ออกมาจากเรา
    กลิ่นทั้งหลายที่มันเหม็นเปื้อนเสื้อเปื้อนผ้ามันออกมาจากไหน มันก็ออกมาจากเรา
    ของสกปรกปฏิกูลทั้งหลายนี้ มันมีแต่ออกมาจากเราทั้งนั้นนี่

    ๒๘ ก.ค. ๒๙
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    อาหารที่บิฑบาตได้นั้น เป็นอาหารขึ้นมาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง เป็นขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อเรียกว่าเป็นของที่บริสุทธิ์เกิดจากน้ำพักน้ำแรง
    แสวงหาได้ด้วยความบริสุทธิ์นั้นมาบริจาค มาทำบุญทำทานจึงมีอานิสงส์มาก
    พระพุทธเจ้าจึงทรงให้มีความเคารพในไทยทานของศรัทธาญาติโยม คำว่าเคารพในไทยทาน พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแยกว่าไทยทานนั้นอยู่ในประเภทใด
    ไทยทานทั้งหมดจะเป็นชนิดไหน ลักษณะใดๆ ก็ช่างให้มีความเคารพในไทยทานนั้น
    ถ้าหากว่าไม่มีความเคารพ ทำไทยทานก็ตกไปปรับเป็นโทษเรียกว่ากลายเป็นพระนักโทษ ฆราวาสเขาทำสิ่งที่เป็นโทษก็เป็นโทษถูกจองจำ
    พระถ้าทำสิ่งที่เป็นโทษก็เป็นพระนักโทษเหมือนกัน พระผู้มีโทษก็ต้องถูกจองจำ คำว่าจองจำในที่นี้หมายถึงเกิดความกังวลในใจ
    การที่ใจมีความกังวลนั้นล่ะเรียกว่าใจถูกจองจำ ลักษณะพระนักโทษเป็นอย่างนี้

    ๒๐ ก.ค. ๓๒
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    อย่าฉันที่กุฏิ

    การฉันน้ำร้อน ฉันอะไรที่กุฏิ ถ้าหากว่าไม่ป่วยไม่ไข้ควรเลิกอย่าให้มีฉันเฉพาะที่ประชุมก็พอแล้ว
    ไม่จำเป็นจะต้องไปฉันที่กุฏิ แต่ก่อน ๓ วันจึงฉันน้ำร้อนกันครั้งหนึ่ง
    ถึงว่าจะบวชใหม่บวชเก่า พระเล็ก เณรน้อย ก็อยู่ในระเบียบที่จะอิสระเสรีตามใจชอบใจไม่มี
    ถึงครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้มีการกวดขันอะไรมาก
    แต่ความรู้จักพอดีมันมีว่าควรไม่ควร ถ้าหากความรู้จักควรไม่ควรไม่มีในเจ้าของ
    อันนี้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติอย่างมากทีเดียว มันไม่เป็น จะเป็นได้อย่างไร ก็กังวลแต่เรื่องกิน

    ๑๑ ก.ค. ๒๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0570.jpg
      IMG_0570.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      162
  16. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ดูพระ ดูปัดตาด

    ดูพระ ดูการปัดตาดก็พอ ดูกรรมฐาน ดูการกราบการไหว้
    ปัดตาดต้องตั้งใจจริงจังในการทำ ถ้าหากบกพร่อง แม้แต่นอนก็ยังฝันเห็นจุดที่บกพร่องนั้น
    ปัดตาดเป็นข้อวัตร มีสติ ไม่คุยไม่เล่นกัน ให้จริงจังในการทำ ประโยชน์ของการปัดตาดจึงจะเกิดขึ้น
    สังเกตพระเณรที่อยู่ด้วยกัน สังเกตจากข้อปฏิบัติ
    ใครสม่ำเสมอในข้อปฏิบัติ การประกอบความพากเพียร มีความอดความทน
    มีจิตใจเป็นนักต่อสู้ ผู้นั้นจะราบรื่นเสมอต้นเสมอปลาย ผู้ใดหาความจริงจังไม่ได้ อันนั้นชีวิตการบวชไม่ราบรื่น

    ๑๐ ต.ค. ๔๔
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0591.jpg
      IMG_0591.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      180
  17. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    อัศจรรย์ในข้อปฏิบัติ

    ยามนี้ยามใบไม้หล่น ปีนี้ฝนดีตลอดไม่ทิ้งช่วง เป็นปีที่ใบไม้ดกใบไม้มาก
    ใบไม้ดกเท่าไหร่มากเท่าไหร่ถึงเวลาหล่นเขาก็หล่นมาก คิดถึงแต่ก่อนปัดตาดสนุกจริงๆ สนุกมากๆ
    เวลาอยู่น้อยๆ กัน ตามปกติไม่ค่อยมาก ๙ องค์ ๑๐ องค์
    ช่วงฤดูใบไม้หล่นเป็นช่วงที่พระเณรอยู่กันน้อย ปีนั้นอยู่ด้วยกัน ๒ องค์
    ปัดตาดตั้งแต่บ่าย ๒ โมงถึงมืด ฤดูนี้เป็นฤดูที่มืดเร็ว หนาวก็หนาวแต่หนาวปัดตาดดี
    ตรงไหนที่บริเวณกว้าง ๒ มือแกว่งไปแกว่งมากลับไปกลับมา
    ตรงที่แคบๆ มันมีก้อนหิน มันมีต้นไม้แกว่งแรงแกว่งกว้างไม่ได้ก็ต้องปัดสั้นๆ ปัดสั้นๆ ก็ต้องปัดเร็วๆ เรียกว่าซอยกันถี่ยิบขนาดนั้นยังไม่ทันเอากันจนมืด

    ทำไมจะต้องปัดจนมืดจนค่ำ ถ้าหากว่าปัดตาดไม่แล้วไม่ดี เวลาเดินจงกรม เวลานั่งสมาธิมันเหมือนมันคั่งค้าง
    แม้แต่เวลานอนหลับฝันก็ฝันไปในลักษณะนั้นก็รกรุงรัง ชอบฝันในบริเวณหน้าโบสถ์ บริเวณภายในกุฏิ
    ทั้งๆ ที่เราปัดกวาดเช็ดถู จึงว่าความอัศจรรย์ในธรรมในวินัย ความอัศจรรย์ในข้อปฏิบัติ
    ความอัศจรรย์ในศาสนธรรมของพระพุทธเจ้ามีความอัศจรรย์ตลอดเสมอต้นเสมอปลาย

    จึงว่าการปัดตาดเป็นเครื่องบอกเครื่องวัดบอกพระบอกเณร
    เป็นเครื่องวัดเป็นเครื่องบอกวัดแต่ละวัดแต่ละสถานที่การปัดตาดเป็นเครื่องบอก
    ข้อวัตรปฏิบัติทุกอย่างแม้แต่ผ้าเช็ดเท้าก็เป็นเครื่องบอก ไม่จำเป็นจะต้องเพ่งฌาณเล็งญาณอะไร
    มองให้ลึกมันบอกอย่างนั้น เพราะคนตายทำอะไรไม่เป็นเพราะมันไม่มีหัวใจ
    ที่มันเคลื่อนไหวทำนั่นทำนี่เป็นเรื่องของใจทั้งนั้น จึงให้พากันให้ความสำคัญให้ความเคารพในการปัดตาดให้มาก อย่าถือว่าไม่รู้จะไปปัดทำไมกวาดแล้วก็รกอีก

    เมื่อวานลมมาก ปัดตาด ๒ ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่บ่าย ๒ โมงถึงบ่าย ๔ โมงจึงสรงน้ำ
    มันได้ข้อคิดอะไรต่ออะไร เราปัดตาดมาในบริเวณนี้ถึง ๕๐ ปี
    มันระลึกหมดนะ อายุ ๒๕ ปีเริ่มมาพักปัดตาดหรือประพฤติปฏิบัติอยู่ในที่นี้ ไม่ใช่ระยะสั้นๆ นะ ครึ่งร้อย
    เราก็ยังต้องมาปัดอย่างนี้ เกิดความสลดใจ สลดใจมากๆ ทีเดียวถ้าหากว่าเป็นคนน้ำตาตื้นน้ำตามันไหลออกมาแล้ว
    การเกิดการตายไม่มีใครแล้วเป็น แม้แต่การกินการถ่ายก็ไม่แล้วเป็น อะไรไม่แล้วเป็นทั้งนั้นซ้ำๆ ซากๆ อยู่แต่ของเก่า

    คิดถึงพระพุทธเจ้าทรงเบื่อๆ ๆ แล้วก็คิดถึงพระฆ่าตัวตายเพราะเบื่อ
    จึงว่าดูแล้วไม่มีอะไร เบื่อแต่ของซ้ำซาก เบื่อแต่ของทิ้ง เบื่อแต่ของตาย ยินดีแต่ของตาย มีเท่านี้
    จึงว่าคนตายทำอะไรไม่เป็น ตอไม้มันทำอะไรไม่เป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ มันทำอะไรไม่เป็น มันทำมาจากหัวใจ หัวใจมันเป็นทั้งนั้น
    ความละเอียดความหยาบอะไรต่ออะไรมันบอกมาหมด บอกมาจากจิตใจทั้งนั้น การปัดตาดนี้บอกชัดๆ ทีเดียว
    จึงว่าทำให้ถึงแล้วผลของการทำมันจึงจะปรากฏขึ้น และใจเท่านั้นจะเป็นผู้สัมผัสผลของการกระทำ

    ๑๖ พ.ย. ๔๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0592.jpg
      IMG_0592.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      147
  18. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    สำเหนียกในการเป็นบรรพชิต

    การเคลื่อนไหวในอริยาบถใดๆ ต้องรู้ว่าเราเป็นบรรพชิต การสำเหนียกในการเป็นบรรพชิตอันนี้เป็นเครื่องประดับบรรพชิตให้มีความงดงาม
    เป็นการปฏิบัติที่จะเพิ่มพูนพระศาสนาและเป็นเครื่องดึงดูดจิตใจของชาวโลกทั้งหลาย ให้หันหน้ามาสนใจในข้อปฏิบัติ หันหน้ามาสนใจในพระศาสนากัน

    เวลาลูกหมูลูกหมามันคะนองมันมีความน่ารัก หากว่าบรรพชิตมีการคะนองอย่างลูกหมูลูกหมา
    อันนั้นมันเป็นการทำลายผู้ที่มีศรัทธาแล้วให้เสื่อมให้คลาย ผู้ที่ไม่ศรัทธาในพระศาสนาก็จะไม่เกิดศรัทธาขึ้น

    พากันระวังเรื่องเหล่านี้ให้มาก เรื่องเหล่านี้เป็นของเล็กๆ น้อยๆ แต่ทีนี้ในเมื่อมันมากขึ้น มันก็กลายเป็นความเสื่อมเสียมากขึ้น

    ๑๙ ก.ค. ๒๙
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0552.jpg
      IMG_0552.jpg
      ขนาดไฟล์:
      967.6 KB
      เปิดดู:
      152
  19. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    มีข้อปฏิบัติพระศาสนาคงอยู่

    ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นผู้ที่รักษาพระศาสนา พระศาสนาไม่ใช่หมายถึง วัดวา กุฏิ วิหาร
    สิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติของพระศาสนาเท่านั้น เป็นสถานที่ประพฤติปฏิบัติรักษาไว้ซึ่งพระศาสนา พระศาสนาซึ่งจะทรงไว้จะมีอยู่ไม่หมดไม่สิ้นต้องอาศัยข้อปฏิบัติ

    มีการปฏิบัติ มีข้อปฏิบัติอยู่ตราบใดพระศาสนายังคงอยู่ตราบนั้น ในเมื่อไม่มีข้อปฏิบัติ ไม่มีการประพฤติปฏิบัติศาสนาก็หมดสิ้น
    ถึงจะมีวัดเต็มบ้าน เต็มเมือง พระเต็มวัดเต็มวา แต่ไม่มีข้อปฏิบัติแล้วศาสนาอยู่ตรงไหน ศาสนาอยู่ที่โกนหัวหรือ ศาสนาอยู่ที่ถือบาตรไปขอข้าวหรือ
    พระศาสนาไม่ใช่อยู่กับสิ่งเหล่านี้

    ๑๘ ส.ค. ๔๕
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0606.jpg
      IMG_0606.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      123
  20. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    สันโดษมักน้อย

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญความสันโดษมักน้อย คำว่าสันโดษมักน้อยก็หมายความว่าสันโดษและมักน้อยในปัจจัยทั้ง ๔
    ถึงแม้จะมีอะไรมากมายหลายอย่างเพิ่มขึ้นๆ ก็สรุปลงในปัจจัยทั้ง ๔ ไม่ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าทรงยกย่องสรรเสริญผู้ที่มีความมักมาก
    มีแต่ทรงตำหนิประการต่างๆ ทำไมพระพุทธเจ้าจึงทรงยกย่องสรรเสริญความสันโดษและมักน้อย
    เพราะการสันโดษและมักน้อยเป็นการบั่นทอนกำลังของกิเลสหรือเป็นการทำลายกิเลสโดยตรงทีเดียว

    ๒๒ ม.ค. ๒๙
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0558.jpg
      IMG_0558.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      118

แชร์หน้านี้

Loading...