ใครอ่านเรื่องนี้...แล้วเข้าใจ "ประเด็นที่เจ้าของเรื่อง" ต้องการจะสื่อบ้าง ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Andromeda Galaxy, 31 มกราคม 2013.

  1. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    ไม่ทราบว่ามีใครเคยอ่าน link ที่เราแนบมาให้อ่านนี้ บ้างหรือเปล่านะ
    เรื่องมีอยู่ว่า เรา search ข้อมูลไปเรื่อยๆอ่านเล่นๆไป
    ก็ไปเจอ link นี้อย่างบังเอิญ ก็เลยหยุดอ่านดู .........
    แต่


    ขอสารภาพว่า.....อ่านแล้วทำเอา " งง " อยู่เหมือนกัน
    ลองแปลไทยเป็นไทย(ในใจ)ก็แล้ว
    ก็ยังไม่ get สิ่งที่เจ้าของเรื่องสื่อมา..อยู่ดี
    เราเลยลองเอามาแปะ link ไว้ที่นี้


    http://parus2012.blogspot.com/




    เผื่อว่ามีใครเขาที่....อ่านปุ๊ป ! แล้ว get ปั๊ป !
    คืออ่านแล้วเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของเรื่องเขียนมาทันที
    ...ประมาณนี้นี่แหละ
    ก็อยากจะขอความช่วยเหลือ
    คือช่วย(ลอง)สรุปใจความสำคัญๆมาให้อ่านกันอีกรอบ
    อันเนื่องมาจากว่า .....
    เพราะว่าคุณอรรณพ (คือปารุส อรหัตมานัส)
    ซึ่งเป็นเจ้าของเวบ เขามาโพสให้คนทั่วไปได้อ่านกัน




    เราน่ะเข้าใจว่า ......พี่เขาคงได้รับการสื่อมาจากภูมิธรรมชั้นสูงมา
    แล้วพี่เขาก็มาเขียนเวบนี้ขึ้นมาเพื่อสื่อความออกไป
    แต่ทีนี้ .....คนอ่านอย่างเรา (หัวไม่ไว เข้าใจช้า) ....
    อ่านแล้วไม่ค่อย get คำพูดพี่เขาน่ะ
    เลยยก link มาให้คนอื่นๆ(ที่หัวไวกว่าตัวเรา) ลองอ่านกันดู
    เผื่อว่ามีคนอื่น....อ่านแล้วเข้าใจในสิ่งที่พี่เขาสื่อมา....




    ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบค่ะ
    และขอขอบคุณคุณอรรณพ (หรือคุณปารุส อรหัตมานัส )
    ผู้เป็นเจ้าของเรื่อง มา ณ ที่นี้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  2. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    เอ...ไม่เข้าใจว่าทำไมทำเป็น link
    แล้วมันคลิ๊กตรง link ไม่ได้

    ขอลองทำ link ที่ว่าอีกที

    ประชากรจักรวาล
     
  3. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    โอเคล่ะ
    ทำ link มาให้อ่านกันง่ายๆแล้วนะคะ
    นึกว่าจะทำ link ไม่ได้ซะแล้ว
     
  4. Bonbnn

    Bonbnn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +20
    ขออนุญาต...แสดงความคิดครับ

    เมื่อผมได้อ่าน??? บทที่ 20

    "รู้ไว้เถิด เกิดกับตายคือการเคลื่อนที่มา และเคลื่อนที่ไป
    สถานะของจักรวาลแต่ละชั้น คือจุดหมาย
    ในระหว่างทางจึงไม่มี นอกเหนือจากสถานีตามชั้นเป็นสุดท้าย
    ถึงเอกภพแต่ละชั้นจะอยู่กว้าง มีระยะห่างจากกันไกล
    ทุกชีวิตขณะตายจึงปฏิสนธิไป เคลื่อนที่ได้รวดเร็วไว
    จนยากที่จะวัดหรือเทียบเทียมได้ เพราะไม่มีอะไรจะยิ่งกว่า"


    เวลานี้ผมนิยามโดยใช้ สิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด คือ หลักการของผู้ที่เลือกสำหรับการดำเนินชีวิต

    น้อมนอบ,ล้อมกรอบ,สร้างขอบ,มุ่งมั่นในศาสนามีชื่อว่า

    "พุทธศาสนา" ได้คำว่า "นิพพาน"

    เพียงแต่ "ท่านผู้จารึก" ผู้นี้ได้จารในสิ่งที่ผมไม่ทราบว่าจะนิยามด้วยคำใดแล

    มิสามารถกล่าวได้เช่นกันว่า "สิ่งนี้ มิมี ตัวตน "

    -->ตัวตน<-- จับต้องได้รือ...พึงตราบ

    คืออันใด คงไม่สามารถกล่าวได้อย่างชัดเจน...???

    ขอยกตัวอย่างวลีสัก 1 คำ

    เช่น ความเร็ว<--ถ้ามองว่าเป็นได้ทุกอย่างตามแต่ใครจะกำหนด

    หากสร้าง "นิยาม" สำหรับความเร็ว...อาจเปลี่ยนร่างได้หลายหลาก-ล้วนมากสำคัญสิ่ง

    สมมุติคือ 1.ประธาน 2.กริยา 3.กรรม <-- แล้วสิ่งนี้แท้จริง นั้นคืออันใด???

    ล้วนซึ่งสุดแท้ตามแต่ --> จินตนาการ

    เอื้อนเอ่ยเคยกล่าว...ย่างก้าวกาลเก่ามี-->ชีวี

    ศุภทวี...มณีคล้าย --> สุริยา

    ดำเนิน...อย่างไร -->ไปถึง

    ตราตรึง...พร่ำถึง -->ไม่มี




    ...ศิวัช...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  5. ใส้เดือน

    ใส้เดือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +2,085
  6. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    สรรพสิ่งทั้งปวง คือผลของผล ของผล ของผล ของผลๆๆๆๆๆ...อันเกิดจากการสั่น
    สะเทือนของพลังงาน ภายใต้สภาวะวนเวียน วนเวียน วนเวียนๆๆๆ...ไม่จบสิ้น


    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อ่านแล้ว สรุปออกมาได้ว่า มันก็เป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ความแน่นอนเดียวของทุกชีวิตก็คือ ปัจจุบันที่ยังหายใจอยู่
    ซึ่งปัจจุบันที่แน่นอนหายใจอยู่ ก็ตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนทั้งหมดทั้งสิ้น

    ปัจจุบันของผม ก็ปัจจุบันไปเรื่อยๆ ไม่มีพื้นที่เก็บความทรงจำอะไรเลย เหมือนไม่ต้องจำอะไร หรือไม่มีที่ให้จำสิ่งใดเลย ไม่มีสมองแล้วมั้ง เราโง่นะเนี่ย โง่กว่าปลาทองเสียอีก
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เอ เราเกิดมา นี่ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ทำไม มันไม่ หือ ไม่อือ อะไรเลย
    นี่น่ะหรือ โลก ชีวิต ความสุข ความทุกข์ อะไรที่ สมควรทำ คนส่วนใหญ่ที่เกิดมา ยังเข้าไม่ถึงเลย หึหึ ปล่อยให้ คนพวกนี้ วนเวียน ต่อไปอยู่แบบนี้ ก็ ดีเน๊าะ
    ผมเคยได้ยินมาประโยคหนึ่ง จาก ผู้รู้ท่านหนึ่ง ท่านพูดว่า

    ปล่อยพวกมันคนเก่งทั้งหลายเอาไว้แบบนี้แหล่ะ โทษประหารยังไม่สาสม หรอก
    ให้พวกมันได้อยู่กับความไม่รู้ ต่อไปแบบนี้แหล่ะ สาสมที่สุด ท่านว่าอ่ะนะ

    ซึ่งตอนนี้ ผมก็ คิดได้ว่า นี่แหล่ะ เหมาะสมที่สุดแล้ว อิอิ สมควรที่สุดแล้ว
     
  10. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    สะดุดกับประโยคนี้จัง กำลังมีปัญาอยู่พอดี

    เธอต้องจดจำให้ขึ้นใจซึ่งคำนี้
    ทุกสรรพสิ่งต้องพึ่งพิงอิงอาศัยกัน ฉะนั้นอย่าคิดแยก


    ผู้มาจากขั้วเหนือ ท่านมีพลังแห่งความสว่างไสว จนทำให้เรานึกถึงพุทธเกษตร
    ฮึมม... ขณะที่อ่านบทความนั้น รู้สึก เย็น ๆ ดี... ขอบคุณค่ะ
     
  11. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ไม่งงนะ พอเข้าใจได้
     
  12. pomm_2012

    pomm_2012 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +59
    ตัวอักษรทุกตัวได้มีความหมาย...อยู่ในตัวเองโดยแท้..ไม่เชื่อ..ลองใช้ใจอ่านดู..
     
  13. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบ
    เราว่าสงสัยจะเป็นที่ตัวเราเองแล้วล่ะ
    ที่อ่านแล้วไม่ค่อยจะเข้าใจ

    เพราะเราเองก็แปลกไม่เหมือนชาวบ้านเขา
    เรื่องบางเรื่องที่ใครต่อใครบอกว่า
    อ่านแล้วเข้าใจยาก อ่านแล้วไม่เข้าใจ
    เรากลับอ่านแล้ว get เลยนะ
    ทั้งๆที่คนอื่นบอกว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ


    แต่ -
    เรื่องบางเรื่องที่คนอื่นเขาอ่านแล้วเข้าใจกันทั้งนั้น
    กลับจะมีเราคนเดียวที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ
    แบบว่าอ่านยังไงๆก็ไม่ get


    อย่างเช่นเรื่องๆนี้เป็นต้น
    คนอื่นเขาอ่านแล้ว get กันทั้งนั้น
    แต่มีตัวเราเองนี่แหละที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ
    สงสัยว่าจะเป็นที่ตัวเราเองแล้วล่ะ
    ...ที่อ่านเรื่องนี้แล้วไม่ get เอง
     
  14. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    เป็นครูบาอาจย์ที่ไม่มีตัวตน

    เป็นครูบาอาจย์ที่ไม่มีตัวตนบอกให้หลงผิดและถูก

    ที่สมารถทำอย่างไรก็ได้เช่นภาพและเสียงไม่เว้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

    หรือสิ่งที่เห็นด้วยตาเป็นความจริงก็มีไม่จริงก็มี

    สำหรับตัวอังษรหนังสือมีแต่คนเป็นเขียนคนตายไม่ได้เขียน

    ผมเองก็เคยเจอทุกวันนี้ไม่สามารถที่จะเชื่อสิ่งใดได้ง่ายๆ

    ตนแลเป็นที่เพิ่งแห่งตน
     
  15. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936


    http://parus2012.blogspot.com/

    ผู้บันทึกเหตุการณ์ได้ยินเสียงร้องเรียก ในช่วงดึกประมาณ 02.00 นาฬิกา ของวันจันทร์ที่24 พฤศจิกายน 2540
    ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 12 ปีฉลู ข้าได้ยินเสียงนั้นชัดเจนว่า

    "1. อรรณพ ลุกขึ้น
    อรรณพ ลุกขึ้นมานั่ง.
    เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังนี้ ผู้บันทึกเหตุการณ์ก็ยังนอนอยู่
    เพราะไม่แน่ใจว่าใคร
    ร้องเรียก จะร้องเรียกไปทำไมในยามวิกาลเช่นนี้
    ตัวข้าผู้บันทึกฯก็ยังนอนอยู่
    ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอย่างชัดเจนว่า

    2. ตื่นเถิดมนุษย์ อย่ามัวหลับฝัน
    ควรรับรู้กันในวันนี้ รู้กันเสียที
    เอกภพคือสากลจักรวาลมิใช่อื่นไกล แต่เป็นที่อาศัยของชีวิต
    มนุษย์เอ๋ย ควรรู้ไว้ เอกภพก็มีขั้วเหนือกับขั้วใต้
    ดูช่างคล้าย....หรือเปรียบกันได้กับโลกใบนี้

    3. ตื่นเถิด...! จะมัวนอนหลับมากไปทำไม
    รีบตื่นขึ้นมาไวๆ วันนี้หรือวันไหนๆ
    มีการงานมากมาย ที่มนุษย์ยังไม่ได้สร้างสรรค์
    ถึงสรรพสิ่งต้องสลายเป็นแม่นมั่น
    แต่อย่าให้คืนกับวัน ต้องสูญเปล่า
    ชีวิตต้องเกิดแก่เจ็บตาย ต่างก็หนีไม่พ้น
    แต่เธออย่าเป็นคนไร้งาน การสร้างสรรค์

    4. รู้ไว้เถิด รู้เดี๋ยวนี้ อยากรู้มากใช่ไหม
    ถามว่าเอกภพเป็นอย่างไร
    นี่คือคำตอบที่จะบอกให้ เพื่อรับรู้กันเสียใหม่
    เอกภพเป็นชั้นๆ มีโครงสร้างไพศาลและกว้างไกล
    เกินจินตนาการของใครๆ และไม่มีชั้นใดที่เหมือนกัน
    ทั้งชั้นโน้นชั้นนี้ต่างหมุนลอยไป ไม่ว่าชั้นไหนก็อยู่ในอวกาศ
    จักรวาลมีเหลือหลายและยากจะนับได้ เพราะมีมากมายในทุกชั้น
    ต่อให้ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายมานับต่อๆกันไป
    ก็ไม่มีจำนวนใดจบสิ้นลง

    5. เอกภพโดยรวมเป็นอย่างไร ถามไถ่มิใช่หรือ
    เอกภพโอบอุ้มมวลหมู่จักรวาลทุกชั้นไว้
    ทั้งขั้วเหนือและขั้วใต้ ต่างดึงดูดหรือดันกัน
    เอกภพไร้หนทางในอวกาศที่เคลื่อนที่ไป
    จะเคลื่อนที่ไปไหนจุดหมายไม่มี
    นี่คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เป็นไป
    เพราะไม่มีสิ่งใดอยู่ได้โดยไร้การพึ่งพิงหรืออิงกัน
    เธอต้องจดจำให้ขึ้นใจซึ่งคำนี้
    ทุกสรรพสิ่งต้องพึ่งพิงอิงอาศัยกัน ฉะนั้นอย่าคิดแยก
    ไม่ว่าขณะนี้หรือเมื่อใด
    เอกภพไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกชั้นต่างโอบอุ้มกันไว้แล้วเคลื่อนที่ไป
    จะเคลื่อนที่ไปไหน จุดหมายไม่มี
    ห้วงอวกาศไร้ขอบเขต แต่มีความพิเศษเป็นธรรมชาติหนึ่งเหมือนกัน

    6. รู้ไว้เถิด ! เอกภพก็มีทั้งขั้วเหนือและขั้วใต้
    สรรพชีวิตมีมากมาย รูปแบบก็หลากหลาย
    เพราะสสารสร้างโลกไว้ มีอยู่มากมายหลายชั้นสถานะ

    7. ตื่นกันเสียที ผู้มีชีวิต ตื่นขึ้นมา อย่าได้สั่นกลัว
    ทุกแห่งหนรวมทั้งบนหน้าผืนแผ่นดินนี้ ไม่มีผีที่มาหลอนหลอก
    ตื่นเถิด ! ตื่นขึ้นมา ! อย่ากลัว ! อย่ากลัว !
    รู้จักกับผู้ที่มาแต่เอกภพขั้วเหนือ
    ความสามารถมีเคลื่อนที่ได้เร็วไว
    มิใช่ผู้มาจากขั้วใต้ ที่นั่นการเคลื่อนที่ได้ยากและลำบากเหลือ

    8. ตัวข้าผู้บันทึกเหตุการณ์จึงลุกขึ้นจากที่นอน แต่ยังมากด้วยความกลัว
    ขยับตัวสองสามครั้งก็ไปถึงผนังห้องที่อยู่บนหัวนอนตรงกับหน้าต่าง
    แล้วก็พิงผนังนั้น พร้อมกับยกมือพนมขึ้นท่วมหัว ขณะนั้นได้เกิดความ
    อัศจรรย์ ซึ่งไม่เคยมีไม่เคยเห็นกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า ทำให้ขนลุกขน
    พองขึ้นทั้งตัว พระผู้มีรัศมีมากยืนปรากฏกายอยู่หน้า ห่างออกไปประมาณ
    สามวา ตัวข้าจึงได้ตั้งคำถามขึ้นในใจว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้มีรัศมีมากพระองค์เป็นใคร ทรงเป็นอะไร
    ทรงมาจากฟากฟ้า ใดและแห่งหนไหน ทรงเป็นแสงสว่าง ทรงเป็นพระผู้ทรงรู้ ทรงเห็น พระองค์ คือพระผู้ควรแก่การกราบไหว้
    ควรต่อการนอบน้อมทุกอย่าง ทรงควรแก่การสรรเสริญและบูชา เฉพาะแต่พระองค์ผู้เดียวใช่หรือไม่พระเจ้าข้าหรือว่าทรงเป็นพระผู้เริ่มต้น
    ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งรวมทั้งชีวิตที่อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ ด้วยใช่หรือไม่ พระเจ้าข้า

    9. เพราะมีคำถามจึงมีคำตอบโดยจะทันทีว่า
    นั่นก็ชีวิต ! นี่ก็ชีวิต ! ชีวิตโน้น ! ชีวิตนั่น !
    เราต่างก็เป็นชีวิตเสมอเหมือนกัน
    ไม่ว่าเล็ก ปานกลาง หรือใหญ่
    จะอยู่แห่งหนจักรวาลใด ชีวิตไหนๆ ก็เท่าเทียมกัน
    ทุกจักรวาลรวมทั้งหมดทั้งสิ้น มีแต่สรรพชีวินทั้งนั้น
    เพราะความหลากหลายสารพัดจะ
    มี แต่ทุกที่คือสัตว์สังขาร

    10. รู้เถิด ! จงรู้ไว้ ในคืนมืด
    จักรวาลนี้ จักรวาลโน้น ทั้งด้านเหนือหรือด้านใต้
    ทุกๆชั้นย่อมแตกต่างกันไป นี่เพราะอะไร
    ควรที่คนสั่นกลัวจะถามไถ่ ใช่หรือไม่ ?
    ฟังให้ดีๆ นี่คือคำตอบ ด้วยมนุษย์ไม่เคยเข้าใจ
    เป็นเพราะสัตว์และสสาร ต่างมีพฤติกรรมนำทางจึงวิวัฒนาการได้
    ชั้นของโลกสสารเป็นเช่นไร สรรพชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นได้อย่างนั้น
    ทั้งสสารกับชีวิตเป็นธรรมชาติที่คู่เคียง จึงไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่ากัน
    สสารมีหลายสถานะ คือเป็นชั้นๆต่างจัดกันอยู่
    สรรพชีวิตก็เคียงคู่ กระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่เป็นได้เหมือนนั้น

    11. เราจะย้ำ! ด้วยคำย้ำ เธอจงฟังให้ดี
    โลกคือที่อยู่อาศัยมีรูปแบบมากมาย
    สสารคือตัวการ อาศัยกันและกันจึงสร้างไว้
    ปรากฏการณ์ที่เป็นคือสถานะหรือชั้น แต่ทั้งหมดด้วยกันคือจักรวาล
    เพราะไม่มีสสารใด อยู่โดดเดี่ยวเอกา
    แต่จะเคลื่อนที่ไปมารวมกันอยู่ เป็นหมวดหมู่หรือแถวถิ่น
    สสารมีพฤติกรรม สัตว์ก็มีพฤติกรรม
    นี่คือกระบวนการที่สัมพันธ์
    เกิดเป็นจักรวาลที่หมุนไปในอวกาศ ไม่จบสิ้น

    12. สำหรับคนตื่นนอน จงรู้ไว้ขอย้ำอีกที ฟังให้ดี
    สัตว์ สสาร อวกาศต่างมีพฤติกรรม ประจำตัว
    เพราะเหตุนี้ สสาร สรรพชีวิตและอวกาศเป็นที่สุด
    ธรรมชาติทั้งสามเสมอภาคกัน ไม่เหลื่อมล้ำ
    เพราะการสั่นไหวมีอยู่ภายใน ของสัตว์และสสาร
    ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ นี่แหละคือกลไกธรรมชาติสองอย่างนั่น
    ส่วนอวกาศทั้งมืดและว่าง ทุกทิศทางขอบเขตไม่มี
    ให้สังเกตดีๆไม่มีการเคลื่อนที่ แต่อย่างใด
    อวกาศมีพฤติกรรมก็เพราะอาศัยสัตว์และสสาร จึงสั่นไหวแต่อยู่กับที่
    นี่คือส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปของธรรมชาตินั้น

    13. นอกเหนือจากกลไกหรือเงื่อนไขนี่ ผู้สร้างไม่มี
    ผู้ทำให้เกิดขึ้นไม่มี ผู้ริเริ่มก็ไม่มี
    การเริ่มต้นกับจุดจบจะมีได้อย่างไร
    เพราะสิ่งทั้งหมดต่างก็เป็นเช่นนั้น ไม่เป็นอื่น
    ใครจะกะเกณฑ์ให้มีผู้เสกหรือผู้สร้างขึ้นก็ได้ ตามใจชอบ
    แต่ก็อยู่นอกเหนือคำตอบ จากกลไกนั่น
    สรรพชีวิตคือสัตว์ พืช หรือสสาร
    ทุกชนิดที่มีชื่อเรียกหรือใครตั้งให้ จะแยกเป็นส่วนเดี่ยวๆ โดดๆ
    โดยไร้การปรุงแต่งไม่รวมกัน ก็หามีไม่
    ทั้งสากลจักรวาลเที่ยวค้นหา หรือกว้านให้ทั่ว
    ทุกเวลาต่อให้นานเท่านาน เธอเอ๋ย ! มันหาไม่ได้
    เพราะสรรพสิ่งไร้ตัวตน ไร้ตัวตน

    14. ฟังเถิด ! มนุษย์ ! อย่ารีรอ ! ฟังการตอบคำถาม
    มนุษย์คือใคร อยากเข้าใจใช่ไหมหรือ
    มนุษย์คือผู้อยู่ในดาราจักร
    ได้แก่หมู่มวลจักรวาลในระหว่างกลาง ที่กำลังขยายตัวออกไป
    โลกในดาราจักรทุกแห่งบรรดามี มีวันกับคืนแสนสั้นสลับกันไปมา
    แต่เอกภพขั้วเหนือไม่มีคืนกับวัน ที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันเหมือนอย่างนี้
    แต่ละชั้นมีแสงสว่างหลากสีสาดส่อง ผุดผ่องและอ่อนละไมอยู่ทุกเวลา
    ฤดูฝน หนาวหรือร้อน ใบไม้ร่วง รวมทั้งผลิบานก็ไม่มี
    แต่เวลาก็ยังคืบคลานอยู่ดี ไม่หยุดลง

    15. ถามอีกใช่หรือไม่ ว่าใครคือผู้ส่งเสียง
    ฟังเถิดฟังให้ดี ชีวิตที่พูดอยู่นี่
    มาจากขั้วเหนือ มิใช่เอกภพขั้วใต้
    มนุษย์พูดได้ ผู้มาจากที่ไกลไกลก็พูดได้เหมือนกัน
    มีภาษาศัพท์เสียงพร้อมทั้งสำเนียงสูงต่ำ
    นำประโยคสั้นยาวและวรรคตอนมา

    16. เอกภพช่างกว้างใหญ่
    เกินกำลังที่จะวัดหรือกะคำนวณได้
    มีภูมิอวกาศคล้ายกับภูมิศาสตร์ของที่นี้
    ในทุกชั้นทุกที่มีความแตกต่างกันไกล
    จะบอกว่ามีระบบนิเวศน์เป็นขอบเขต
    ประกอบด้วยเส้นรุ้งเส้นแวงจัดแบ่งพื้นที่ก็ได้
    เอกภพ ... ฤดูกาลก็มีเธอเชื่อหรือไม่
    ผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปเป็นได้ถึงสี่ฤดู...เป็นได้ถึงสี่ฤดู
    ฤดูหนึ่งผ่านไปฤดูใหม่ก็หมุนมา
    แต่นับเป็นปีๆเหมือนกับที่นี่ไม่ได้ เพราะยาวนานเกินไป
    ฤดูทั้งสี่นี่แหละคือเวลารวม.......ของเวลาใหญ่
    ถ้ามนุษย์รู้จักเปรียบก็ทำได้
    คล้ายกับโลกแห่งนี้ คล้ายกัน ! ในเรื่องการหมุนเวียนของฤดู
    แต่มนุษย์ในวันนี้ไม่รู้ความหมาย
    เพราะเกิดแก่เจ็บตาย ภายในเวลาที่แสนสั้น
    ไม่เห็นไม่รู้ ฤดูกาลที่หมุนยาวของเอกภพได้จึงไร้หนทาง

    17. ฟังเถิด ! จะบอกให้ ในเรื่องกาลกาละ
    ชีวิตกับเวลาทั้งมีและเป็นมาพร้อมกัน เธอรู้ไหม ?
    ทั้งสองแยกกันไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายอาศัยกันและพันติด
    คนหรือใครที่ไม่รู้เพราะมีอวิชชา จึงกล่าวไว้ผิดๆ
    หลงเสียแล้วที่บอกว่าเวลาและชีวิต คือผลผลิตของจุดเริ่มต้น
    ทั้งเริ่มแรกหรือการนับเป็นปฐมก็ดี ทั้งสองอย่างนี้คือสมมุติ
    ทุกจำนวนจงรู้ไว้ จะเริ่มนับที่ตำแหน่งแห่งใดก็ได้
    สุดแต่ความชอบใจของมนุษย์
    จำนวนแรกกับจำนวนสุดท้าย ที่จริงแล้วไม่มีดอกเธอน่ะ
    เอกภพ จักรวาล สสาร อวกาศ ชีวิตและเวลา
    ทั้งข้างหลังข้างหน้าหมุนวนไปมา ต่อกัน
    จึงไม่เป็นเส้นตรงที่มีข้างต้นกับข้างปลาย
    เกิดดับซ้ำซากจึงยากที่ชีวิตแสนสั้น จะระลึกหรือจำความได้
    ถึงเรามีชีวิตไม่เป็นอมตะนิรันดร์ แต่ก็อยู่นานหลายกัปกัลป์ได้
    จึงดูจึงรู้จึงเห็น ทุกอย่างต่างก็เป็นเฉกเช่นที่กล่าวมา
    มองฤดูกาลที่ผลัดเปลี่ยน เห็นสัตว์และสสารวนเวียน
    เปลี่ยนตำแหน่งสถานที่ ในอวกาศ ตามชั้นและเวลา

    18. เรื่องเวลา มีความหมายอยู่ตรงนี้
    ให้เธอระวัง ! สังวรไว้ อย่าประมาท !
    ด้วยเวลากลืนกินชีวิตทุกขณะ จึงแสดงออกมาเป็นอายุ
    เวลากับจำนวนเป็นปรากฏการณ์อยู่ ชีวิตคือผู้มาดูมารู้มานับ
    ธรรมชาติไม่รับรู้อันใด มีแต่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่สิ้นสุด
    จะทำสิ่งที่ดีๆ ให้รีบๆเข้าไว้
    เธอเอ๋ย ! อย่าช้าเลย การอยู่เฉยๆจะได้อะไร


    19. ยังจะเตือนเธออีก สำหรับค่ำคืนนี้ด้วยปรานีจากใจ
    มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเวลา ที่จาระไนต่อให้อีก
    คือชีวิตนี้และทุกชีวิต
    ความเกิดได้นำความตายมา ความตายก็ให้ความเกิดได้มีอีกต่อไป
    อดีต ปัจจุบันและอนาคต เป็นเวลาเดียวซึ่งต่อเนื่องกันมา
    แต่ในระหว่างได้มีความเกิดกับความตาย มาคั่น
    ทั้งสองไม่ทำเวลาให้สะบั้น หรือต้องขาดกันแต่อย่างใด
    เธอตระหนักบ้างไหม เวลาปัจจุบันสั้นที่สุดและหยุดไม่ได้
    อดีตกับอนาคตเป็นอนันต์มันช่างยาวไกล ไม่มีที่สุดจะกำหนดได้
    ถ้ารู้จักมันธรรมชาติทั้งสองนั้นมิได้มีอยู่ ณ แห่งหนไหน
    มีแต่เคลื่อนที่มาหรือเคลื่อนไป อาศัยอยู่ในปัจจุบันแค่นั่นเอง

    20. รู้ไว้เถิด เกิดกับตายคือการเคลื่อนที่มา และเคลื่อนที่ไป
    สถานะของจักรวาลแต่ละชั้น คือจุดหมาย
    ในระหว่างทางจึงไม่มี นอกเหนือจากสถานีตามชั้นเป็นสุดท้าย
    ถึงเอกภพแต่ละชั้นจะอยู่กว้าง มีระยะห่างจากกันไกล
    ทุกชีวิตขณะตายจึงปฏิสนธิไป เคลื่อนที่ได้รวดเร็วไว
    จนยากที่จะวัดหรือเทียบเทียมได้ เพราะไม่มีอะไรจะยิ่งกว่า

    21. ทรงหยุดนิ่ง มีแต่ความเงียบสงบเท่านั้นที่ดำรงอยู่
    แล้วทรงเอื้อนเอ่ยขึ้นอีกว่า
    ศาสนานั้น ศาสนานี้ ทุกความเชื่อเท่าที่มี
    นับถือตามๆกันมา คนยึดมั่นถือมั่นฝังใจจมดิ่ง
    ผิดๆถูกๆก็ถือนิ่ง ชมเชยว่าดี
    นานต่อมาจึงเปลี่ยนแปลง และเกิดสิ่งใหม่
    เมื่อถึงเวลาศาสนาทั้งหลายก็มลายไป เพราะไม่มีสิ่งไหนอยู่ค้ำฟ้า
    คนโง่งมทั้งหลายต่างก็ตายไป ไม่ได้มาดูเหตุการณ์ใหม่ต่างเวลา
    สองพันปี สามสี่พันปีก็ได้ ที่ยังอยู่
    สิ่งที่ถือไว้ก่อนตาย วันหนึ่งก็แตกสลายไร้ร่องรอยเสียแล้ว.."

    .............................................................

    เป็นบทความที่สื่อ ให้เห็นถึงความจริง อันเป็นปรมัตถ์

    น่าสนใจมาก...จนผมต้องเซฟเก็บไว้อ่าน

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  16. jibakun

    jibakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +204
  17. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    แก่นไม้ต่างๆ

    ในโลกนี้มีต้นไม้หลายชนิด คนก็ชอบใช้งานหลายอย่างเช่นกัน บางคนชอบต้นมะขามเทศ บางคนชอบต้นมะม่วง บางตนชอบต้นมะค่า บางคนชอบต้นมะขาม บางคนชอบต้นมะละกอ ธรรมะก็มีแก่นเหมือนต้นไม้นี้เอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...