เหนื่อยใจ เบื่อชีวิต

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Acellus, 7 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Acellus

    Acellus สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +8
    เรียนอยู่ต่างประเทศค่ะ มาตั้งเเต่ตอนอายุ8ขวบ ตอนนี้กำลังเรียนที่คณะเทคนิคการแพทย์ชีวิตเหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดี เเต่มันรู้สึกท้อเเท้มาก ท้อเเท้เศร้าซึมโดยไม่มีสาเหตุใดๆ มันช่างยากลำบากเหลือเกิน กว่าที่แต่ละวันจะจบลง
    ชีวิตมีเเม่ พ่อเลี้ยง ญาติๆ ที่ล้วนดีกันเราทั้งสิ้น เเต่ทำไมมันเบื่อ ไม่อยากมีอะไรทั้งนั้นอยากลอยไปไกลๆ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ยิ้มเฮฮาได้ เเต่เหมือนทุกอย่างมันเป็นเเค่ภาพลวงตา พออยู่คนเดียวก็เศร้าก็ซึม ถ้าไม่ติดว่าฆ่าตัวตายบาปเเละสงสารเเม่ที่เลี้ยงเรามา ถ้าเราตายเเล้วเเก่มาใครจะเลี้ยงเเม่ ใครจะดูเเลเวลาเจ็บ มันเหนื่อย ไม่มี motivation ที่ยึดให้ใช้ชีวิต เเต่มันคือความรับผิดชอบ เคยมีคนบอกว่าพระเจ้าให้ชีวิตเธอมานั้นเป็นของหวัญที่ล้ำค่า เเต่ชั้นไม่ได้ต้องการของขวัญนี่ ชั้นไม่ได้ต้องการรับ responsibility ที่ต้องใช้ชีวิตนี้ให้มันจบๆ ไป คนอื่นกลัวความตายไม่อยากตาย เเต่ตัวเองกลับอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ อยากอยู่เเบบสงบ ไม่อยากเกิดอีกซ้ำเเล้วซ้ำเล้า อยากให้มันจบมันเหนื่อย เฝ้าถามตัวเองตายเเล้วไปไหน ตายเเล้วไม่อยากรอเกิดอีก ตายเเล้วให้มันหยุดเเค่นี้ไม่ได้เหรอ มันเหนื่อยเหลือเกิน

    ขอโทษที่เขียนยาวเเละวนไปวนมา เเต่มันเก็บเอาไม่ไหวเเล้ว
     
  2. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    อย่าเพิ่งเบื่อเลยค่ะ ที่จริงชวิตมนุษย์มันก็มีแค่นี้แหล่ะ

    เกิดมา แล้วก็ต้อง พยายามอยู่ให้รอด ตั้งแต่เป็นเด็กก็เรียนๆๆ จนโต ก็ทำงานๆเหมือนว่าต้องดิ้นรน
    มันเป็นแพทเทิร์นที่เหมือนกันทุกคน

    หาเลี้ยงชีวิต อยากได้นั่นนี่ จุดสุดท้ายคือ ต้องตายทุกคน

    มากิคิดเหมือนกันค่ะ ว่า เฮ้อ มันไม่มีอะไรเลย แต่อยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้ล่ะค่ะ

    อยู่ทำประโยชน์ให้พ่อ(แม่เสียแล้ว) ให้ญาติพี่น้อง และอยู่เพื่อตัวเอง

    ขอบอกว่า คิดเหมือนกับคุณค่ะ แต่ก็อยู่ต่อไป :cool:

    อะไรที่ชอบก็ทำ ไม่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์เท่าไหร่นัก

    ถึงเวลาตาย ก็ไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดค่ะ ตายก็ตาย ตามที่ธรรมชาติกำหนดมาค่ะ
     
  3. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    เป็นสัญญาเก่าของคุณเอง ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีนะครับ ความเบื่อในครั้งนี้จะทำให้คุณเริ่มค้นหาความจริงของชีวิต และอาจทำให้คุณได้พบหนทางอันประเสริฐที่คุณคาดไม่ถึงก็เป็นได้
     
  4. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    มีคนที่ลําบากกว่าคุณหลายล้านคนนะครับ..เสียอารายก็เสียได้แต่..อย่าให้ใจมันเสียนะขอรับ..บ่อยครั้งที่เรามักคิดไปว่า ผลของความดีที่จะตอบสนองนั้น คือ ความร่ำรวย อยากได้อะไรก็ได้...เคยมานั่งพิจารณาถึง หลวงพ่อทวด,หลวงปู่ดู่,หลวงปู่มั่นและครูบาอาจารย์หลายๆองค์ ท่านก็เกิดในชาติตระกูลที่ยากจน จะว่าท่านเหล่านี้ทำบุญมาน้อยก็หาไม่ เช่นหลวงพ่อทวดเกิดมาในตระกูลทาส ทั้งที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมากที่สุดแล้วในยุคนี้ก็ว่าได้ เพื่อนบางคนเป็นคนที่ดีมาก มีศีลมีธรรม ซื่อสัตย์ ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันได้ แต่ก็ประสบเคราะห์กรรม ต้องตกทุกข์ได้ยากเป็นอันมาก อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ส่วนตัวนั้นเมื่อมาพิจารณาใคร่ครวญแล้วก็เห็นว่า หากชีวิตเกิดมาสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทองแล้ว จะไม่ได้เห็นทุกข์ เมื่อไม่เห็นทุกข์ก็ไม่ได้เห็นธรรม เมื่อนั้นก็ไม่มีโอกาสจะหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารได้เลย ทุกข์นี้บีบคั้นสรรพสัตว์ที่มีปัญญาน้อยให้เศร้าหมอง แต่ทำให้สัตว์ผู้มีปัญญาได้อาศัยเป็นเหตุให้รู้ธรรมเห็นธรรมได้ จนเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน...แม้เจ้าชายสิทธัตถะเองก็หาได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณในรั้วในวัง แต่กลับต้องทนทรมานกับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสเกินกว่ามนุษย์ทั่วๆไปจะทนได้ โดยส่วนตัวจึงเห็นว่าความทุกข์นี้แหละสร้างคน...ความสบายนั้นแหละทำลายคน ทำลายปฏิปทาในการประพฤติปฏิบัติธรรม อาจด้วยเหตุนี้กระมัง ผู้หวังการไม่กลับมาเกิดใหม่ จึงไม่ยินดีในความร่ำรวย มั่งมีด้วยลาภสักการะ ให้ยิ่งไปกว่าโอกาสของการเข้าถึงธรรม ซึ่งล้ำค่ากว่าความมั่งมี ร่ำรวยอย่างเทียบกันไม่ได้ .. ข้าพเจ้าก็หวังว่าความเห็นอันเล็กน้อยนี้ของข้าพเจ้าจะช่วยบรรเทาทุกข์ทางใจของพุทธมามะกะ ที่ยังคงจมอยู่ในกองทุกข์ จะได้อาศัยทุกข์นี้พิจารณาเพื่อให้เห็นสมุทัย โดยอาศัยมรรควิถี จนจะได้รู้ธรรม เห็นธรรม และเป็นธรรมในที่สุด...:cool:
     
  5. lista

    lista เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +683
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=E94OvbjHuwc]เพลง วนเวียนดังวัฏฏะ - YouTube[/ame]


    ^-^
     
  6. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอมองมุมต่างค่ะ... ว่าคุณเป็นคนมีธาตุธรรมในตัวนะ
    ถ้าวันหนึ่งได้ปฎิบัติธรรม จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
    เพราะเห็นอริยสัจสี่ข้อหนึ่งแล้ว
    คือ ชีวิตเป็นทุกข์

    (มีอีกหลายล้านคนที่ยังลุ่มหลงในชีวิต เพลิดเพลินกับสิ่งที่ไม่เป็นจริง....อนิจจัง
    โดยยังไม่รู้สึกเบื่อกับการมีชีวิต...ยังต้องเกิด ต้องตายไปเรื่อยๆ
    นับอนันต์ชาติ...แค่คิดก็สยองแล้ว )

    ขอบอกว่าผู้ปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน ถึงช่วงหนึ่ง จะรู้สึกเบื่อชีวิต
    (และหาทางพ้นทุกข์) แต่คุณยังเป็นฆราวาส ขอให้มองโลกในแง่ดีไว้
    คิดว่า ตอนนี้เรายังต้องอยู่เพื่อทำหน้าที่ต่อตัวเอง และผู้อื่น (พ่อแม่)
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ที่ท้อแท้เพราะความคาดหวัง เพราะคนรอบข้างไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะการงานไม่เป็นอย่างที่หวัง ตัวเราไม่ได้ในสิ่งที่หวัง ตัวเราต้องประสบแต่สิ่งที่ไม่ชอบใจ และเมื่อคาดหวังแล้วไม่ได้อย่างที่หวังก็เกิดขัดใจ พอขัดใจรวมกันเข้าเป็นสิบเป็นร้อยเรื่องก็เกิดเบื่อขึ้นมา เมื่อเบื่อมากๆ และเป็นอัตโนมัติมันก็เหมือนเบื่อแบบไม่มีสาเหตุ เมื่อเบื่อมากเข้าก็กลายเป็นท้อใจ หดหู่ ซึมเศร้า มันก็ต้องแก้ที่ตัวความคาดหวังนั่นแหละ เลิกคาดหวังกับคนอื่น เลิกคาดหวังกับทุกสิ่งเลยถ้าทำได้ เวลาที่เราเบื่อก็ลองนั่งดูความเบื่อ ความไม่สมหวังของใจนั่นแหละมัน พอนั่งอย่างสงบแล้วมันจะเห็นชัดว่ามีเรื่องอะไรผ่านเข้ามาบ้าง แล้วต้องถามตัวเองด้วยว่าทำไมถึงทุกข์กับ คน เหตุการณ์ ที่ผ่านเข้ามา มันจะเห็นใจตัวเองเลยว่าเผลอไปหวังให้คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ จากเรื่องหนึ่งมันจะผ่านเข้ามาเรื่อยๆ เป็นสิบเป็นร้อยเรื่องเมื่อรู้ทันว่าเราคาดหวังอย่างไรเราจะหายเลย ใจจะโล่งสบายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
     
  8. Acellus

    Acellus สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคูณทุกคนที่เข้ามาอ่านเเละให้ความรู้เเละกำลังใจ

    คุณ bluebaby2 คือเราไม่ได้ควาดหวังอะไรเลยออกจะหมดหวังด้วยซ้ำไป ทุกคนดีหมดอะไรดีหมด เเต่มันเเค่เหนื่อยที่จะใช้ชีวิตอยู่ มันไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้น เหมือนเป็นคนที่ไร้เหตุผล รู้สึกเป็นคนที่เห็นเเก่ตัวทั้งๆ ที่มีบ้านให้อยู่มีทุกอย่างเมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีบ้านไม่มีเเม้เเต่อันจะกิน ขอบคุณอีกครั้งที่มาเเนะนำเเนวทาง คงต้องฝึกนั้งสมาทิเเล้วอยู่ให้ได้จนวันตาย
     
  9. MHEEGRIZZLY

    MHEEGRIZZLY Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +70
    ผมเองตอนนี้ก็เป็นคล้ายๆคุณครับ

    เบื่อการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไม่รู้ว่าจะต้องทนกับเรื่องพวกนี้ไปอีกนานแค่ไหน
    แต่ผมพยายามหาสิ่งที่ผมทำแล้วมีความสุขครับ แล้วเราก็จะลืมเรื่องพวกนี้ไปได้

    ความสุข หรือ ความทุกข์เกิดจากจิตใจเราล้วนๆ เราเลือกได้ครับ
     
  10. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    อารมณ์ความเบื่อหน่ายก็เป็นทุกข์ โอกาสมาแล้วรีบไขว่คว้าเอาไว้ ถ้ามันไปแล้วคงยากที่จะกลับมาแบบนี้ ศึกษาและเรียนรู้มันเลยค่ะ
     
  11. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    ถ้าหาสาเหตุไม่เจอ ก็อาจจะเกี่ยวกับระดับสารเคมีในสมอง อาหาร การพักผ่อน การออกกำลังกาย ลองอ่านดูค่ะ อาจช่วยได้

    5 วิธีบำบัดอาการซึมเศร้า


    หมวด: บำบัด/รักษา
    เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์, 23 เมษายน 2555 09:10
    เขียนโดย Super User


    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต วันนี้ทีมงานห้องสมุด ฝ่ายวิชาการ โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต มีเกร็ดสั้นๆ 5 วิธีบำบัดการซึมเศร้า โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูล จากนิตยสารชีวจิต ปีที่ 13 ตุลาคม 2554 และ มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิท เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา มาฝากสั้นๆ ให้หลายท่านที่สนใจปฏิบัติ เราจึงนำมาบอกต่อดังนี้ค่ะ

    "หากคุณมีอาการเซื่องซึม คิดอะไรไม่ออก กิจวัตรประจำวันที่เคยทำได้ก็กลับทำไม่ได้ วิตกกังวล ทุกข์ใจ และขาดความมั่นใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ โดยมีอาการดังกล่าวเกินกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป"

    อย่าปล่อยทิ้งไว้ รีบหาทางแก้ก่อนเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าแบบเรื้อรังจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และนำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาพฤติกรรมฆ่าตัวตายได้ เช่น

    1. ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง เต้นแอโรบิค (อยู่ในศูนย์พักพิงก็สามารถทำได้)

    ข้อมูลวิชาการ : การศึกษาวิจัยที่ยืนยันผลทางการรักษานี้ กล่าวว่า การออกกำลังกายที่สามารถรักษาโรคซึมเศร้าได้นี้เป็นเพราะสามารถเพิ่มระดับสารเคมีในสมองที่ชื่อ เซโรโทนิน (Serotonin) เช่นเดียวกัน ที่มีการพูดคือ ออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งก็คือ สารธรรมชาติที่ออกฤทธิ์ระงับปวดคล้ายกับมอร์ฟิน (Morphine) แต่อย่างไรก็ตาม เอนเดอร์ฟินตัวนี้มักจะอยู่ในกระแสเลือด และมีผลต่อสมองน้อยกว่าและอยู่ไม่นาน (เพียง24 ชม. หลังออกกำลังกาย) ก็หมดไป จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์บางรายเชื่อว่ามีผลต่อการรักษาโรคซึมเศร้าได้น้อยกว่า (Frayne, 2002) แต่อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้คนเราอารมณ์ดีขึ้น

    ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวยืนยันว่า การออกกำลังกายที่จะมีผลต่อการรักษาโรคได้นั้น จะต้องทำติดต่อกันอย่างน้อย 10 วันขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายสามารถเพิ่มระดับซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองตัวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า สามารถลดระดับอาการโรคซึมเศร้าได้ ยืนยันผลโดยคะแนนจากการทำแบบทดสอบด้วยตนเองของกลุ่มตัวอย่างของ Hamilton Scale (ในวันที่ 10 ของการออกกำลังกาย) มีคะแนนลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยเป็นผลการศึกษาของ Proest and Haleon ในปี คศ.2001 และเผยแพร่ในวารสาร The British Journal of Sport Medicine ฉบับเดือน กันยายน 2006

    นอกจากวิธีการในข้อ 1 แล้ว ถ้าสนใจทำกิจกรรมเพิ่มเติมก็มีข้อเสนอแนะจากวารสารชีวจิตเพิ่มดังนี้ค่ะ

    2.สร้างเสียงหัวเราะให้ตัวเอง ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนขำขัน สามารถช่วยคลายความวิตกกังวลและลดความเครียดได้

    3.ระบายอารมณ์เสียบ้าง อาการซึมเศร้ามักเกิดจากการเก็บกดอารมณ์โกรธไว้โดยไม่แสดงออก การระบายอารมณ์มีหลายวิธี ทั้งตะโกน ร้องไห้ หรือเขียนความรู้สึกลงในสมุดบันทึก

    4.พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ การเล่าเรื่องให้ผู้อื่นฟังจะช่วยลดความฟุ้งซ่าน ทั้งยังได้ข้อคิดและเรียนรู้ว่าความทุกข์ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราเพียงคนเดียว

    5.มองโลกในแง่ดี ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทุกอุปสรรคย่อมมีโอกาส การมองโลกในแง่ดีช่วยลดความวิตกกังวล ทำให้ค้นพบแนวทางในการแก้ไขปัญหา

    หากพบว่าตนเองหรือคนรอบข้างซึมเศร้า อย่านิ่งนอนใจรีบหาทางแก้ไขนะคะ
     
  12. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    เป็นเรื่องปกติของอารมณ์ทั่วๆไป

    มีสุข มีทุกข์ มีหิว มีอิ่ม มีอยาก มีเบื่อ

    มันก็วนๆเวียนๆอยู่ในตัวเราทุกๆคน

    ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ในพระพุทธศาสนา จิตก็แกว่งไปเรื่อย ตามสภาวะอารมณ์ในขณะนั้น

    ถ้าเป็นคนที่รู้พระพุทธศาสนา ก็เอาสภาวะอารมณ์นั้น มาเปลี่ยนใจให้เรียนรู้เรื่องโลกธรรม จิตก็จะสงบ ไม่แกว่งตามอารมณ์นั้นๆ

    เปรียบเหมือนแก้วใส่น้ำ ที่ถืออยู่ในมือ มันจะกระเพื่อมไปตามมือของเรา

    ถ้าเอาแก้ววางลง ไม่นานน้ำก็นิ่งสงบ

    ขอให้คุณผ่านพ้นสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นให้นี้ ไปด้วยดี ขอเป็นกำลังให้คุณ
     
  13. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    คิดเหมือนกัน

    มีอะไร พีเอ็มมาได้
     
  14. aapinyah

    aapinyah เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2012
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +160
    คิดได้แบบนี้เก่งมากเลย ทั้ง จขกท และ คุณ MHEEGRIZZLY ขอบคุณที่ยังมีจิตที่คิดบวก น่านับถือจริง
     
  15. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    แปลว่า ถึงเวลาปฏิบัติธรรม
     
  16. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมขอฝากหนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ ที่อยู่ใต้ comment ของผมให้คุณ Acellus ลอง download ไปอ่านดูครับ หนังสือเล่มนี้ดีมาก ๆ ผมอยากให้คุณ Acellus ตั้งใจอ่านให้จบดูครับ ใน link มีหนังสืออยู่ 2 เล่มคือ หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ กับ หนังสือทําบ้านให้เป็นสุข ยังไงลองอ่านให้จบดูครับ อ่านจบแล้ว เราจะได้คิดอะไรได้อีกหลาย ๆ อย่างครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้คุณ Acellus เก็บหนังสือ 2 เล่มนี้ไว้ใน computer ของคุณเลย คือถ้าวันไหนคุณ Acellus จิตตกอีก ก็เปิดอ่านหนังสือ 2 เล่มนี้ได้ครับ เวลาผมจิตตกเหมือนจะไม่ไหว ผมจะชอบเปิดหนังสือชึวิตเป็นอย่างนี้อ่านครับ อ่านทีไรผมก็จะกลับมามีสติได้เหมือนเดิมทุกครั้ง ยังไงก็ download ไปอ่านดูนะครับ อ้อ ถ้ากดที่ link แล้วเข้าไม่ได้ ก็ไป google แล้วพิมพ์ว่า download หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ แล้วเดี๋ยวจะขึ้นมาเองครับ อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2013
  17. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    ขออนุญาตตอบย้อนหลัง หากคุณ Acellus ยังอ่านกระทู้นี้อยู่นะครับ ให้ลองพิจารณาความรู้สึกลึกๆของตนดังนี้ดูนะครับ

    1. เหมือนคุณเบบี้บลูบอกไว้น่ะครับ ส่วนลึกๆใจเราปารถนาอะไรบางอย่าง อาจจะอยากพบเจออะไรใหม่ๆที่ทำให้ขีวิตได้มีการค้นหา หรือ พบสิ่งที่แปลกใหม่ที่ไม่จำเจ เก่าๆเหมือนที่ผ่านมาที่เป็นอยู่ หรือ อยากพบใดๆที่ทำให้อัศจรรย์ใจบ้าง นี่ก็เรียกว่า "ความปารถนา" นี่แหล่ะที่เป็นตัวสร้างความหงุดหงิดเบื่อหน่ายให้เกิดขึ้นแก่จิตใจ
    2. เมื่อมองลงสู่ความเป็นอยู่ลึกๆของใจแล้ว รู้ว่าส่วนลึกในใจนั้นตนปารถนาสิ่งไรๆอยู่ เมื่อรู้แล้วให้พิจารณาตามจริงดั่งสัจจะธรรมที่พระตถาคต(พระพุทธเจ้า)ตรัสสอนไว้ดังนี้ว่า
    - "ปารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์"
    นี่มองลงไปดูใจลึกๆนะ พอมันเกิดความพอใจยินดีสำคัญมั่นหมายใดๆไว้ในใจแล้ว ใจเรามันก็มักจะปารถนาที่จะได้ ที่จะพานพบ ที่จะเจอ ที่จะมี ตามใจปารถนานั้นๆ เมื่อเกิดความพอใจยินดีสำคัญมั่นหมายใดๆไว้ในใจปุ๊บ ความไม่พอใจยินดีก็เกิดมีขึ้นปั๊บ เพราะมีสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบจึงมีเกิดขึ้น
    - ความประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจทั้งหลายนั้น นั่นก็เป็นทุกข์
    นี่มองลงไปดูใจลึกๆนะ พอมันเกิดความไม่ชอบใจ-ไม่พอใจยินดีขึ้นแก่จิต ความขุ่นมัวใจมันเกิดขึ้นทันทีใช่มั้ย เมื่อขุ่นมัวใจปุ๊บมันก็ปรุงแต่งเกิดเป็นทั้งความ อึดอัดใจ ขัดเคืองใจ คับแค้นใจ อัดอั้นใจ เบื่อหน่ายไม่พอใจยินดี ไม่มีความว่างสงบแก่จิตใจ ความเบื่อหน่ายใดๆนี้มันเกิดมาแต่ โทสะ โมหะ
    - เพราะเรามีความพอใจยินดีตั้งสำคัญมั่นหมายไว้ในใจอยู่ จึงยังให้เกิดความปารถนาใคร่ได้ยินดี และ ความไม่พอใจยินดี-ไม่ปารถนาใคร่ได้ยินดี
    - สิ่งที่ให้พิจารณานี้น่ะคุณต้องสัมผัสเอาความรู้สึกจริงๆ มองลึกเข้าไปในจิตใจตนแล้วพิจารณาดูสภาพจิตของตน การพิจารณาอย่างนี้เป้นการรู้ในสภาพจิตใจตน เรียกว่าเป็นธรรมชั้นสูงที่รู้ได้เฉพาะตน คนที่ไม่ได้เจริญปฏิบัติใน มหาสติปัฏฐาน จะไม่อาจหยั่งรู้ถึงเหตุแห่งทุกข์ของตนนี้ได้เด็ดขาด เว้นแต่มีปัญญามากพอที่จะเห็นชอบใน ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และ ทางพ้นทุกข์

    3. เมื่อคุณรู้เหตุแห่งความทุกข์ ความเพื่อหน่าย อึดอัดใจ อัดอั้นใจ นั้นแล้ว ให้ละมันเสีย มันทุกข์เกิดแต่กายกับใจ ก็ละมันที่กายกับใจเรานี่แหละ

    แล้วจะละอย่างไร

    - วิธีที่ง่ายไม่ต้องเรียนรู้มากคือ พึงระลึกถึงความติดข้องใจสิ่งใดๆไป ทั้งที่พอใจยินดีและไม่พอใจยินดี(ชอบ หรือ ไม่ชอบ) ตั้งความสำคัญของใจกับสิ่งใดๆไปมันก็มีแต่ทุกข์ ไม่มีสุข์ ไม่มีความว่างสงบใดๆเลย หาประโยชน์ใดๆกับมันไม่ได้นอกจากทุกข์ ละความติดข้องใจนั้นๆไปเสียมันไม่มีประโยชน์แก่เรา หายใจเข้าระลึก "พุทธ" หายใจออกระลึก "โธ" พิจารณาดูลมหายใจเข้าออก ความสงบจะเกิดขึ้นแก่ใจเรามากขึ้น
    - เมื่อสงบขึ้นบ้างแล้วแต่ยังไม่ดับความเบื่อหน่ายอึดอัดใจไป ก็ให้คุณพึงระลึกรู้สภาพความคิด-จิตใจความรู้สึกใดๆที่เกิดขึ้นแก่คุณนั้น ว่ามันเป็นเพียงความปรุงแต่งจิต ไม่ใช่จิตใจของคุณ ไม่ใช่คุณ มันสักแต่เพียงมาปรุงแต่งผสมคละเคล้าเกิดขึ้นพร้อมกับจิตคุณมันหาประโยชน์ใดๆจากความปรุงแต่งนึกคิดรู้สึกนั้นๆไม่ได้ พึงพิจารณาให้เห็นเป็นดังนี้จิตคุณจะวางจากความเบื่อหน่ายอึดอัดใจนั้นเอง จะเกิดความว่างมีใจกลางๆ สงบ ผ่องใสแก่ใจคุณเอง
     
  18. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    กระทู้ของท่านเจ้าของที่ว่า เหนื่อยใจ เบื่อชีวิต ทั้ง ๆที่ การเรียนกำลังไปได้สวย คุณ

    แม่ก็รัก และคุณพ่อเลี้ยงก็รักเอ็นดู แต่เหมือนมี ไร? บางอย่างที่ทำให้ใจของตน ซึม

    เศร้า และอยากตาย ๆ ไปซะ และท่านยังบอกอีกว่าหากฆ่าตัวตายไม่เป็นบาป ก็อยาก

    ทำ แต่เพราะเป็นห่วงคุณแม่ กลัวท่านแก่ไม่มีคนเลี้ยงดู และบอกว่าเคยมีคนบอกว่า

    พระเจ้าให้ชีวิตเธอซึ่งก็เป็นสิ่งล้ำค่า แต่ท่านเจ้าชอกระทู้ไม่ต้องการไม่อยากได้ ไม่

    อยากรับผิดชอบ กับชีวิตนี้อยากให้มันจบ ๆ กันไป เร่งวันเร่งคืนเมื่อไรหนอจะถึงวันแห่ง

    ความตาย? ตายแล้วให้มันจบแค่นี้ไม่ได้หรือ? ไม่อยากเกิดอีกแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ

    สงสัยว่าตายแล้วไปไหน?

    ชีวิตเกิดมากว่าจะมาเป็นมนุษย์เนี่ยแสนยากนักและที่จะมีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่นแบบท่าน

    เจ้าของกระทู้ก็ยากอีกนั้นแหละ บางคนใฝ่ฝันอยากเรียนให้สูง ๆ ก็ยังไม่มีโอกาส ขอ

    อนุญาตินำตัวอย่างที่น่าสงสารและรันทดอย่างสุดซึ้งกับข่าวที่ผ่านมา กรณีหนูน้อย วัย 9

    ขวบ ขี่จักรายานออกจากบ้านราวเที่ยงคืน เพื่อไปหาคุณแม่ซี่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

    ที่โรงพยาบาล โดยหนูน้อยเองก็ไม่ทราบเพราะมีการปิดไว้ไม่บอกเด็กว่าแม่เด็กถูกย้ายไป

    แล้วเพราะหมดทางรักษา อนิจจา! หนูน้อยไปไม่ถึงโรงพยาบาลเพราะถูกรถชนจนตัวลอย

    กระเด็นเสียชีวติทันทีคาที่ส่วนคนใจบาปก็ชับรถหนีไปทันทีไม่มีเมตตาแม้แต่ลงมาดูหรือ

    เหลียวแลช่วยเหลือ แม่เด็กป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าลูกชายคนเดียวเสียชีวิตคาที่ไปแล้วเพราะ

    เพื่อนนักเรียนด้วยกันไม่มีใครกล้าบอก จากข่าวทราบว่าแม่เด็กเป็นแม่บ้านอยู่กับเจ้านาย

    ตอนได้ยินข่าวท่านเชื่อไหม? ดิฉันกับสามีเรามีความรู้สึกเหมือนกันทันที มันยิ่งกว่า

    สงสารชะตากรรมของหนูน้อยอย่างที่สุด เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกที่คอดิฉัน

    แวบแรกคิดถึงลูกตัวเองทันที เพราะความเป็นพ่อ แม่คน ทำให้นึกว่าหากแม่เด็กล่วงรู้

    ว่าลูกน้อยตายอย่างอนาถแล้วนั้น จะเป็นเช่นไร? อะไร ทำไมชีวิตมันจะรันทดขนาด

    นั้น? ใจนั้นแหละทำให้คิดต่ออีกว่าหากแม่เด็กตายก่อนเพราะเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว

    หนูจะอยู่กะใคร จะอยู่ยังไง? เด็กอายุแค่ 9 ขวบขี่จักรยานออกจากที่พักเที่ยงคืนเพราะ

    หนูน้อยคิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่น่าจะนอนไม่หลับและหนูก็ยังเด็กไม่มีคนดูแลมีเพียงแม่ซึ่ง

    เป็นคนรับใช้เพียงคนเดียวบนโลกใบนี้และแม่กำลังจะตาย หนูคงห่วงแม่ถึงได้ออกไปดึกๆ

    ดื่นดื่น จนถูกรถชนตาย นี่หากแม่รู้ ที่กำลังจะตายคงตายทันที เพราะใจก็คงห่วงลูก

    และหากตัวเองตายก่อนลูกจะอยู่ยังไง? หนูน้อยต้องมาตายก่อนเวลาและตายอนาถ

    อย่างเจ็บปวดกลางถนนไม่มีแม้โอกาสบอกลาแม่ จากเหตุการณ์ CASE เล็ก ๆ แต่

    มากไปด้วยความรู้สึกสะเทือนใจนี้ อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้ มองแล้วคิดว่าชีวิตทุกชีวิตมี

    ค่ามากมายนัก แม่เด็กก็คงไม่อยากตายด้วยมะเร็งร้ายระยะสุดท้ายเพราะอยากใช้ชีวิต

    ดูแลลูกรัก ถึงจะยากดีมีจนยังไงก็ ลูกน้อยวัย 9 ขวบ ก็ไม่ได้อยากตายเลย มีแต่

    ความกตัญญูและคิดถึงแม่มากจนทำให้นอนไม่หลับกะจะไปหาแม่หาความอบอุ่นไปดูแลแม่

    แต่! ไม่ได้อยากตายแน่นอน กว่าจะเกิดมาเป็นมนุษย์เนี่ยยากนัก เพราะหากมีบาป

    เวร กรรมที่ทำมามากมาย ขอบอกว่าก็ยากจะได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และ

    มีครอบครัวที่อบอุ่น พร้อมทุกด้าน ยิ่งหากเคยฆ่าตัวตายมาก็ต้องมาเวียนเกิดมาฆ่าตัวตาย

    ซ้ำซาก MONOTONY แบบเดิม ๆ ไปอีกจนกว่าจะหมดเศษกรรม และต้องไปก่อกำเนิด

    เป็นสัตว์เดรัจฉานซึ่งไม่รู้ บุญ บาป อีก ไม่รู้เมื่อไรจะสามารถหลุดพ้นออกมาได้ หาก

    ไม่มีบุญเดิมเคยอุดหนุนมาก่อนก็มิอาจทราบได้ว่าเมือใด หรือเวลาใดจะหลุดพ้นจากนรก

    ขุมนั้น ๆ ออกมาได้ไอ้ที่มนุษย์เรา เอ๊ะอะ ก็ทนไม่ได้อยากตายๆนะ หาก ลองได้ฆ่าตัว

    ตายไปละก็ ไอ้ที่ร้องว่าทุกข์เหลือเกินโลกมนุษย์เนี่ย จะเป็นจะตายน่ะ ก็ไม่อาจเทียบ

    ได้กับในขุมนรกที่จะต้องลงไปชดใช้แน่นอน เมื่อนั้นกลัวอย่างสุดขีด อยากกลับสู่

    มนุษย์โลกเพื่อประพฤติปฏิบัติตนใหม่ให้เป็นคนดี มีศีล ธรรม ก็ไม่สามารถทำ ได้ซ้ำไม่มี

    เวลามาคิดอะไรได้เลยเพราะมันมีแต่ความทุกข์ ๆ อย่างสาหัสสากรรจ์จริง ๆ คราวนี้ ของ

    จริงเสียยิ่งกว่าจริง!(ที่ว่าทุกข์) แต่ก็สายเสียแล้ว และเมื่อหลุดออกมาได้ ก็มาเป็น

    มนุษย์ที่ทุพลภาพ หูหนวก ตาบอด ใบ้ บ้า พิกล พิการอีก 500 ชาติ มากำเนิดเกิด

    กับครอบครัวที่แทบไม่มีอะไรจะกิน จนสุดแสนก็เพราะเศษกรรมที่เคยฆ่าตัวตายมาก่อน

    ทำให้ต้องรับกรรมต่อไปและเมื่อจนมากๆ ก็มักโทษฟ้า ดิน ไม่เมตตา ทำไมเราถึงได้

    เกิดมาจนยากอนาถาขนาดนี้ แต่หารู้ไม่ว่า ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ต้องมีเหตุมาก่อน

    เสมอผลที่ได้รับจึงมี เพราะตัวเคยทำกรรมไว้ ในอดีตชาติผลของกรรมยังไม่หมดจึง

    ต้องมีผลให้ต้องเป็นเช่นนี้ ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้ เป็นบัณฑิตที่มีความกตัญญูจงเร่ง

    หาหนังสือธรรมมะ มาศึกษาดู ปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระพิชิตมารเทอญ องค์สมเด็จ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้นน้ำพระทัยท่านเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาทรงชี้ทาง บรรเทาทุกข์

    และสุขเกษมให้มนุษย์ไว้ นั้นคือประทาน อริยสัจ 4

    1.ทุกข์ คือ อุปาทาน ขันท์ 5 ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เราท่าน

    ยึดว่าเป็นเราเป็นของเรา

    2.สมุทัย คือเหตุของความทุกข์ คือ ตัณหา ความทะยานอยาก ที่จะทำให้เกิดความ

    ยึดมั่นถือมั่น เป็นตัวเป็นตน ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้น

    3.นิโรธ คือ ความดับทุกข์ / นิพพาน

    4.มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับของทุกข์ โดยย่อคือ ศีล สมาธิ ปัญญา

    สำหรับสิ่งที่ต้องทำ ตามแนวอริยสัจ คือ

    เมื่อทราบว่า เราทุกข์ใจไป เพราะอะไร? หาเหตุที่มาก่อน เพราะเรานำทุกข์วิตกวิจารณ์

    มาสุมไว้เป็นกองทุกข์ใช่หรือไม่?

    เมื่อรู้แล้ว ว่าใช่ใจเป็นทุกช์หม่นหมอง เพราะใครทำ คำตอบว่าก็เราคิดเอง เออ

    เอง ไม่มีใครผู้ใดทำให้เป็นทุกข์ได้เท่าตนก็ หยุดซะ ดับซะ เพื่อจะได้ไม่ทุกข์ วิธีดับ

    ทุกข์ องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคท่านก็ประทานอาวุธให้มนุษย์ใช้ดับทุกข์ ไว้คือ ต้อง

    ปฏิบัติให้มาก (มรรค) เพื่อจะถึงทางดับทุกข์ได้ และเมื่อนั้น ท่านเจ้าของกระทู้ จะพบ

    ความเกษม และหนทางไม่ต้องมาเวียนตาย เวียนเกิดใน วัฏสงสารอย่างที่ท่านพูด

    และที่ท่านถามว่า ตายแล้วไปไหน? คงต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับคน นั้น ๆ ว่า ยามเป็น

    มนุษย์ เขาเหล่านั้น ได้เคยประกอบอะไรที่เรียกว่า คุณงามความดี เอาไว้ในโลกใบนี้บ้าง

    ไหม? ศีลธรรมที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านมอบให้มนุษย์ 5 ข้อ นั้นนะ เพียงเพื่อ

    ให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไม่วุ่นวายหนอเท่านั้น แต่ไม่เพียงพอให้ไม่ต้องมากำเนิดเกิด

    ใหม่อีกนะคะ? หากเรา ท่านยังไม่สามารถปฏิบัติให้หลุดพ้นสิ้นอาสวักกิเลสได้แล้วละก็

    แม้ไม่อยากเกิดอีก! ต้อง!!! เกิดแน่นอนคะ แต่เกิดเป็นอะไร? ที่ไหน ? บนโลกนี้

    หรือ ร่วงลงพื้นนรกภูมิ หรือ สวรรค์ภูมิ ก็สุดจะคาดการณ์ได้ ความสำคัญอยู่ที่ต้องตอบตัว

    เองให้ได้ก่อนว่า หากไม่อยากมากำเนิดเกิดอีก เราต้องมีดี ท่านต้องปฏิบัติตามแนว

    ทางของพระพุทธองค์ทำความหลุดพ้นจนสิ้นอาสะวักกิเลสได้แล้วเมื่อนั้นท่านจะไม่กลับมา

    เกิดอีกแน่นอน

    ขอท่านจงเป็นผู้เจริญในธรรม กำหนดมีพระพุทธเจ้าในใจเป็นพุทธานุสติเสมอค่ะ
     
  19. Nak_Palangtip

    Nak_Palangtip สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    ้ปัญหาป่วยใจซึมเศร้าเป็นปัญหาที่สุดจะอธิบายได้ สารเคมีที่ขาดความสมดุลในร่างการก็มีส่วนสำคัญ ถ้าเป็นเช่นนั้นอะไรก็แก้ได้ยากยกเว้นใช้ยานอกจำพวก zoloft อะไรประมาณนั้น แต่ยาจำพวกนี้ใช้ไปซักระยะจะติด ผมอยู่ซานฟรานมา 10 ปี ช่วงระยะ 5 ปีแรกเศร้ามากคิดถึงบ้านหงอยเหงา พอดีได้เข้าไปดูในเว็ปเกี่ยวกับพลังจิตรบำบัดทุกข์ ของอาจารย์วิฑูรย์ เพชรสุวรรณนาคะ ท่านได้ให้ข้อคิดฉีกไปในแนวที่ผมเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ท่านกล่าวว่า "ทุกอย่างกำหนดด้วย กรรม" อืม! คำนี้ผมจำได้พระทุกรูปชอบนำมาเตือนพวกเราเสมอ ฟังแล้วก็ดูธรรมดา แต่หลังจากนั้นท่านก็ใช้พลังเพ่งดูรูปของผมที่ผมส่งไปให้ท่าน ปรากฏว่าท่านชี้ไปที่บ้านที่ผมเช่าอยู่มีผีจอมปลวกคอยเล่นงานผมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมปวดหัว ซึมเศร้าตลอดเวลา ท่านแนะให้หาบ้านเช่าใหม่ ฟังดูก็งง งง ฦรั่งมีผีด้วยหรือ และท่านทราบได้อย่างไร
    แต่ผมก็ย้ายบ้านเพื่อพิสูจน์ดูว่าจะช่วยได้หรือไม่ ปรากฏว่าไอ้ที่มันปวดหัว กลุ้ม วิตก ต่างๆ หายเป็นปลิดทิ้ง ท่านแนะนำให้ไปที่วัดไทยและอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรมากๆด้วยเพราะท่านนั่งเช็คดู เขาบอกว่าครอบครัวผมทารุณแลฆ่าทาสในสมัยชาติก่อนๆมามาก จึงมีแต่คำสาปแช่งส่งลงมาถึงลูกถึงหลานในปัจจุบันให้มีแต่ความทุกข์ ทำอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
    หากคิดว่าอะไรก็แก้ไม่ได้ ลองเช็คกรรมของตัวเองดูสักครั้งก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะผมเชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรม อาจจะสามารถแก้ไขบรรเทาลงได้ และอาจจะช่วยให้อาการซึมเศร้าดีขึ้นเหมือนอย่างที่ผมเคยเป็นมาก่อน
    ขอเป็นกำลังใจให้สู้ชีวิตต่อไปนะครับ
     
  20. sad boy

    sad boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +454
    art บําบัดดิ บางครั้งผมก็เบื่อนะ เบื่องานบ้าง เบื่ออะไร ผมก็จะใช้ art บําบัด ละบายความรู้สึก อย่าคิดให้มันเป็นเรื่องยากสับซ้อนครับ เวลาเบื่อกะเเค่ออกไปโยนโบลิ่ง เเล้วกลับมาดื่มนมเเก้วใหญ่ใหญ่เเล้วหลับซะ เมื่อได้เจอมุมมองใหม่ใหม่ไม่จําเจไม่ยึดติดกับอาการเบื่อไป เรื่อยเรื่อย มันก็จะลืมเบื่อเองนะครับ

    อย่าคิดหลายหลายเรื่องไปพร้อมกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...