ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรชมพู “เบญจรัตน" ตอน ๒๐ ผู้คล่องในปุพเพนิวาสานุสติญาณ

    IMG_20130220_180101.jpg

    ขอกล่าวถึงเจ้าชายทั้งสอง คือ เจ้าชายมิตตราช และเจ้าชายสุทธิราช พระโพธิราชฤาษีได้สอนวิชาจนสำเร็จวิชชาสาม และอภิญญา ๕ ตลอดทั้งวิชาเล่นแร่แปรธาตุต่าง ๆ ก่อนที่จะไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    เจ้าชายมิตตราชนั้นมีความคล่องตัวนทิพยจักขุญาณ (เห็นผี เทวดา อมนุษย์) และปุพเพนิวาสานุสติญาณ (สามารถระลึกชาติได้ไม่จำกัด) ประกอบกับเป็นผู้มากด้วยพรหมวิหารธรรม พระองค์จึงเป็นที่รักของเทวดา และอมนุษย์ทั้งหลาย มีเรื่องใด เทวดามักจะมาบอกกล่าวให้พระองค์ทราบล่วงหน้าเสมอ

    ส่วนเจ้าชายสุทธิราชนั้นนิยมวิชาธาตุ ๔ และวิชาเล่นแร่แปรธาตุ พระองค์ได้ตรัสกับพระเชษฐาว่า ในระหว่างรอพระอาจารย์ทั้ง ๔ กลับมา จะขอเข้าสมาบัติ เป็นเวลา ๓ เดือน และจะกำหนดถอนจากสมาบัติก่อนพระอาจารย์ทั้ง ๔ จะกลับมา


    เจ้าชายมิตตราชได้สั่งการให้ทหารทั้งสอง คอยผลัดเวรยามดูแลกายเนื้อของเจ้าชายสุทธิราชทั้งวันทั้งคืน ส่วนพระองค์จะเป็นผู้หาผลไม้ น้ำดื่มน้ำใช้แก่ชนทั้ง ๓ เป็นเช่นนี้เรื่อยมา

    ครั้นเวลาพระฤาษีทั้ง ๔ และพระดาบสินีทั้ง ๓ ได้ไปถวายจักรชมพูแก่ท้าวสักกเทวราช เทวดาผู้หนึ่ง ซึ่งเคยเป็นพระญาติของท่านในอดีต ได้แสดงให้เจ้าชายมิตตราชเห็นในนิมิตว่า ขณะนี้พระอาจารย์และดาบสินีทั้ง ๓ กำลังทำอะไร

    เดิมทีเจ้าชายมิตตราชนั้นไม่เคยเห็นดาบสินีทั้ง ๓ จึงมิได้รู้สึกอะไร แต่เมื่อพระองค์ได้พบกับพุทธาราดาบสินีในนิมิต ด้วยบุพกรรมแต่กาลก่อน เกิดจิตปฏิพัทธ์อย่างรุนแรง ถึงกับต้องถอนออกจากสมาธิทันที

    เมื่อพระองค์พยายามสงบระงันนิวรณ์ได้แล้ว จึงย้อนหลังไปด้วยปุพเพนิวาสานุสติญาณ ได้เห็นบุพกรรมแต่อดีตต้นชาติที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธาราดาบสินี...
    มีต่อ...
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรชมพู “เบญจรัตนw ตอน ๒๑ เจ้าชายมิตตราช-ย้อนอดีตในกาลก่อน

    ภาพที่ปรากฏเป็นหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง มีครอบครัวชาวนายากจนครอบครัวหนึ่ง มีบุตรสาวเพียงผู้เดียว นามว่า นางสัตตนะ นางกำลังช่วยบิดาไถนา หว่านพืชเพาะปลูก มารดาของนางก็พิการตาบอด บิดามารดาของนางสัตตนะ มีบุตรเมื่อแก่

    เมื่อนางอายุได้ ๑๕ ปี บิดามารดาของนางก็แก่ชรามาก นางจึงต้องทำงานทุกอย่างในบ้านแทนบิดามารดาโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เมื่อเสร็จหน้าเพาะปลูก นางก็หาของป่าไปขายในเมือง เพื่อแลกเครื่องนุ่งห่ม และอาหารมาเลี้ยงดูบิดามารดา

    ในเมืองชยุตยนคร มีครอบครัวเศรษฐี นามว่า “สิริโชค” ภรรยาได้เสียชีวิตนานแล้ว ท่านมีบุตรชาย-หญิง ๓ คน บุตรชายคนโตนามว่า “สหธน”(อ่านว่า สะ-หะ-ทะ-นะ) แปลว่า ผู้รวมทรัพย์ บุตรชายคนรองนามว่า “สีลภูษะ” แปลว่า ผู้มีอาภรณ์เป็นปกติ และบุตรสาวคนเล็กนามว่า “สิริจินดา”

    บุตรชายเศรษฐีทั้งสองนั้น มีนิสัยแตกต่างกัน สหธนนั้นเป็นคน ชอบอยู่กับบ้าน เอางานเอาการ เป็นผู้ดูแลทรัพย์ตามที่บิดามอบหมายให้อย่างดี เมื่อไปทำการค้าก็ได้กำไรงาม

    ส่วนสีลภูษะนั้น เป็นคนที่ไม่ชอบหยุดนิ่ง ชอบท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ เพื่อหาสินค้าใหม่ ๆ เป็นขายต่างเมือง และนำประสบการณ์ต่าง ๆ จากการเดินทางมาพัฒนาสินค้าของตน ทำให้สินค้าที่สิริโชคเศรษฐีนำไปขายนั้น มีราคาดี

    วันหนึ่งสีลภูษะนั้นได้ผ่านหมู่บ้านของนางสัตตนะ ซึ่งห่างไกลจากเมืองชยุตยนครพอสมควร ได้ผ่านบ้านของนางสัตตนะ เห็นนางทำงานคนเดียวไม่ได้หยุดพัก และยังดูแลบิดามารดาผู้แก่ชราอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย จึงรู้สึกชื่นชมในตัวนาง แม้ทราบว่า บ้านนี้ยากจนอาจจะไม่มีอะไรขายให้แก่ตน แต่ด้วยความอยากรู้จักนางสัตตนะ จึงเข้าไปสอบถามว่า..

    “น้องหญิง เราเป็นพ่อค้าต่างเมืองมาหาสินค้าใหม่ มิทราบว่า นางมีสินค้าใดจะขายแก่เราหรือไม่”


    นางสัตตนะนั้น รู้สึกแปลกใจว่า บ้านของตนมิเคยมีผู้ใดผ่านมาเลย จึงตอบไปว่า “ข้าฯแต่นายท่าน บ้านของดิฉันนั้นยากจน มิมีสินค้าใดพอจะขายแก่นายท่านได้หรอก หน้านี้เป็นหน้าเพาะปลูก ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ต้องขออภัยนายท่านอย่างยิ่ง”

    สีลภูษเศรษฐีนั้น เมื่อได้ยินถ้อยคำอันอ่อนหวานจากนางแล้ว รู้สึกพึงพอใจในตัวนาง แต่เมื่อนึกถึงฐานะที่แตกต่างกันแล้ว จึงต้องระงับความพึงพอใจนั้นเสีย จึงกล่าวแก่นางว่า....

    “เราหาน้ำผึ้งป่าไปขายต่างเมือง หากนางมีน้ำผึ้งป่า หรือของป่าอะไรก็ได้ ให้ไปหาเราอยู่ห่างจากหมู่บ้านของน้องหญิง ไปทางทิศตะวันตก เดินไปเรื่อย ๆ จะพบทาง ๓ แพร่งให้น้องหญิงเดินไปทางทิศเหนือ ไปเรื่อย ๆ จะพบเรือนของเรา ให้นำสินค้ามาขายให้แก่เรา หรือถามหาเรือนสิริโชคเศรษฐี เราจะให้ราคาอย่างงาม”


    นางสัตตนะนั้น ก็รับคำ และกล่าวว่า ...

    “ขอบใจท่านมาก หากมีโอกาสในภายหน้า ดิฉันคงหาของไปขายแก่นายท่าน” ก่อนที่สีลภูษะจะจากไป ได้มอบผ้าแพรผืนหนึ่งแก่นาง และกล่าวว่า...

    “ผ้านี้ เป็นผ้าคลุมศีรษะ เราให้น้องหญิงเก็บไว้ วันหนึ่งหากพบกันจะได้จำได้”

    จากวันนั้นเวลาผ่านไป ๓ ปี มารดาของสัตตนะได้เสียชีวิตลง นางสัตตนะได้เลี้ยงดูบิดาต่อ เมื่อเสร็จหน้าเพาะปลูกนางก็เข้าป่าหาของป่า ซึ่งนางโชคดีรวบรวมน้ำผึ้ง และของป่าได้จำนวนมาก นางจึงให้บิดาต่อรถลาก เพื่อนำไปขายในเมือง
    ยังมีต่อ...
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักร "เบญจรัตนฯ" ตอนที่ ๒๒ ย้อนอดีตในกาลก่อน(๒)


    ระหว่างทางนั้น ก่อนจะเข้าเมืองชยุตยนคร เป็นเวลาพลบค่ำ นางสัตตนะได้พบสมณะผู้หนึ่งเข้าสมาบัติมีผิวพรรณผ่องใสยิ่งนัก จึงคิดว่า จะแบ่งอาหารที่นำพกมา และน้ำผึ้งถวายแก่สมณะผู้นี้ ด้วยจิตที่เลื่อมใส นางจึงหาที่พักห่างจากพระสมณะพอสมควร และได้พักผ่อนหลับนอนด้วยความอ่อนเพลีย

    ครั้นรุ่งสาง นางรีบล้างหน้าล้างตา หาน้ำฉันน้ำใช้มาเตรียมเพื่อรอถวายแก่สมณะ ครั้นนางเตรียมของทุกอย่างเสร็จไม่นานนัก สมณะรูปนั้น ก็ลืมตาขึ้นมา นางสัตตนะได้กล่าวว่า....

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ดิฉันกำลังจะนำสินค้าไปขายในเมือง ผ่านมาเห็นพระคุณเจ้าทำความสงบ จึงรอเพื่อจะนำน้ำผึ้ง และข้าวปั้นตามสมควร ขอพระคุณเจ้าเมตตารับของคนยากอย่างดิฉันด้วยเถิดเจ้าค่ะ”


    สมณะผู้สง่างาม แย้มโอษฐ์เล็กน้อย พร้อมยื่นมือออกไป แสดงถึงการยอมรับให้นางมอบของให้ นางรู้สึกยินดี วางน้ำผึ้ง และข้าวปั้นบนใบไม้พอแก่ขบฉันของพระสมณะ พร้อมน้ำล้างมือ และน้ำดื่ม จากนั้น นางได้หลีกออกไป เพื่อให้พระสมณะได้ขบฉันอาหาร

    ครั้นเรียบร้อยแล้ว สมณะรูปนั้นกล่าวว่า “ ดูกรภคินี เธอเป็นผู้มีศรัทธา และเป็นผู้เปี่ยมล้นด้วยความกตัญญู นับแต่นี้ไปเธอจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอเธอจงรักษาความดีที่มีอยู่ต่อไปตราบสิ้นอายุขัย”

    นางสัตตนะนั้น แม้ไม่เข้าใจในคำกล่าวของพระสมณะรูปนั้น แต่ก็มีความปิติยินดีอย่างยิ่งที่ได้ถวายทานแก่ท่าน จึงได้กราบลา พระสมณะได้กล่าวว่า ....

    “เราขอมอบของอย่างหนึ่งแก่น้องหญิง”
    ท่านได้หยิบดวงแก้วมณีขนาดเล็กสีขาวใสขึ้นมาดวงหนึ่ง และกล่าวว่า..

    “แก้วมณีนี้ ชาวนาคมอบแก่เรานานแล้ว ขอนางจงรักษาไว้เถิด หากมีสิ่งใด ขอให้นางตั้งจิตอธิษฐานกับดวงแก้วมณีนี้ แล้วจะสมความปรารถนา”

    นางสัตตนะรู้สึกปิติใจอย่างยิ่ง จึงได้ถวายน้ำผึ้งแก่พระสมณเพิ่มอีก เหลือเพียง ๑ ใน ๓ ส่วนเพื่อนำไปขาย นางตั้งจิตอธิษฐานว่า...

    “ขอให้ดิฉันมีปัญญาสว่างไสวคล้ายพระคุณเจ้าในทุกภพชาติที่เกิดมาด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

    แท้จริงพระสมณรูปนั้น เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อรับน้ำผึ้งจากนั้นแล้ว กล่าวว่า... “เอวังโหนตุ"

    จากนั้นท่านได้เหาะไปกลางอากาศ นำน้ำผึ้งที่นางสัตตนะถวายไป ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าอีก ๕๐๐ รูป ซึ่งท่านได้ให้นางได้เห็นภาพต่าง ๆ ด้วยทิพยจักขุญาณ ยิ่งเพิ่มความปิติแก่นางสัตตนะยิ่งนัก นางจึงนึกถึงบิดา และมารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว จากนั้น นางจึงได้นำน้ำที่เหลือจากการถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า กรวดลงดิน และกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระแม่ธรณี ขอท่านได้โปรดเป็นสักขีพยานแก่ดิฉันด้วยเถิด บุญครั้งนี้ ขอมอบแด่ตัวท่าน และบิดามารดาของดิฉันด้วยเถิด”


    กระแสบุญส่งผลไปถึง เทพธิดานางหนึ่ง นามว่า “มุรตีเทพธิดา” อันเป็นอดีตมารดาของนาง ได้ออกจากสมาบัติตรวจดูด้วยทิพยเนตรพบว่า บุตรสาวของตนได้ ส่งบุญที่ได้ถวายน้ำผึ้งและข้าวปั้นแก่พระปัจเจกพุทธเจ้ามาให้ จึงปิติยิ่งนัก จึงคิดตอบแทน

    เมื่อตรวจดูแล้ว นางเคยเป็นคู่ครองแต่กาลก่อนกับบุตรชายของเศรษฐี จึงใช้ทิพยอำนาจ บันดาลให้ทรัพย์สินในคลังของสิริเศรษฐี กลายเป็นหิน และอธิษฐานว่า...

    “ขอให้ผู้ที่เปลี่ยนหินเป็นทรัพย์นี้ มีเพียงนางสัตตนะแต่เพียงผู้เดียว และขอให้นางได้แต่งงานกับบุตรเศรษฐี”


    เมื่อนางเทพธิดาอธิษฐานแล้ว ทรัพย์ทั้งหลายก็กลายเป็นหินทันที ร้อนถึงผู้ดูแลคลังของสิริโชคเศรษฐี ได้นำข่าวไปแจ้งว่า ทรัพย์ในคลังเปลี่ยนสภาพเป็นหินไปหมด ท่านเศรษฐีจึงได้ให้คนเชิญพราหมณ์มาตรวจดู พราหมณ์นั้นได้กล่าวว่า..

    “ขอท่านเศรษฐีอย่าได้วิตกให้บุตรชายของท่านนำทรัพย์นั้นไปวางที่ตลาด หากมีหญิงใดเห็นทรัพย์ของท่านเป็นทรัพย์ ให้นางแตะทรัพย์นั้น แล้วทรัพย์ของท่านจะคืนสู่สภาพเดิมทันที แต่ท่านจะต้องให้นางแต่งงานกับบุตรชายของคน ผู้ที่นำทรัพย์ไปวาง”

    ท่านสิริโชคเศรษฐีได้ให้สหธนเศรษฐี นำทรัพย์ไปวางแล้ว ร้องขายว่า...

    “มีใครจะซื้อหินนี้บ้าง”

    สร้างความประหลาดใจแก่ชาวเมือง ที่อยู่ ๆ บุตรของเศรษฐีได้นำหินไปวางขาย บ้างก็ว่า บุตรเศรษฐีนี้คงเพี้ยนไป

    กล่าวถึงนางสัตตนะได้นำน้ำผึ้ง และของป่ามาถึงเมืองนี้ ได้เข้าไปที่ตลาด เพื่อหาอาหารทาน ก่อนจะเข้าไปเรือนสิริโชคเศรษฐี พบว่าบุตรเศรษฐีร้องว่า มีหินมาขายนางรู้สึกประหลาดที่เห็นทรัพย์กองเต็มไปหมด แต่ไม่มีใครสนใจ จึงเข้าไปถามสหธนเศรษฐีด้วยเสียงเบา ๆ ว่า

    “ข้าฯแต่นายท่าน เหตุใดท่านจึงนำทรัพย์จำนวนมาก มาวางขายเช่นนี้ แล้วเหตุใดจึงร้องว่า ใครจะซื้อหิน”


    สหธนเศรษฐีได้ยินเช่นนั้น รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นกุลธิดานางหนึ่งมาทักเช่นนั้น จึงกล่าวว่า ..
    “ท่านว่าอย่างไรนะ ท่านว่า เราขายอะไร”นางสัตตนะกล่าวว่า..
    “ท่านนำทรัพย์มากองขายทำไม มิกลัวโจรจะมาลักหรือ แถมยังป่าวร้องให้คนมาซื้อหินอีก” สหธนเศรษฐี จึงถามว่า..

    “นางกล่าวว่า นี้คือทรัพย์หรือ” นางตอบว่า..


    “ใช่เจ้าค่ะ นายท่าน” สหธนเศรษฐีกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น ขอเชิญน้องหญิงไปยังเรือนของเราเถิด” นางจึงติดตามสหธนเศรษฐีไป

    ครั้นเมื่อไปถึงนางจึงทราบว่า นี้คือเรือนของสิริโชคเศรษฐี นางจึงปิติยินดียิ่งนัก สหธนเศรษฐีได้พานางมาพบสิริโชคเศรษฐี และกล่าวว่า..

    “ท่านพ่อขอรับ กระผมได้พานางผู้นี้ ตามคำที่ท่านพราหมณ์บอกไว้ทุกประการ”

    ท่านสิริโชคเศรษฐีได้ให้นางสัมผัสหินดังกล่าวทันที ด้วยสัจจะวาจาของมุรตีเทพธิดา บันดาลให้มนต์คลาย ทรัพย์กลับสู่สภาพเดิม สร้างความปิติใจแก่สิริโชคเศรษฐีอย่างมาก จึงได้กล่าวแก่นางว่า..

    “นางผู้เจริญ นางผู้มีสิริ ขอนางจงมาสู่เรือนของเรา เพื่อเป็นสะไภ้แก่เราเถิด นางมีบิดามารดาหรือไม่ เราจะไปสู่ขอนางจากบิดามารดา”


    นางสัตตนะนั้น รู้สึกประหลาดใจที่อยู่ ๆ ท่านเศรษฐีได้ขอตนให้บุตรชาย นางจึงกล่าวกับท่านเศรษฐีว่า...

    “ดิฉัน กำพร้ามารดา เหลือเพียงบิดาผู้แก่ชราเจ้าค่ะ หากท่านประสงค์เช่นนั้น ได้โปรดไปสู่เรือนของดิฉัน แจ้งแก่บิดาดิฉันเถิดเจ้าค่ะ”

    ท่านเศรษฐีจึงส่งรถไปยังเรือนของนาง และรับบิดานางมา สิริโชคเศรษฐีได้สู่ขอนางสัตตนะแก่สหธนเศรษฐี และกำหนดจะแต่งงานกันอีก ๗ วันข้างหน้า

    กล่าวถึงสีลภูษะ บุตรชายคนรอง ได้กลับมาจากต่างเมืองทราบเรื่องราวต่าง ๆ ก็รู้สึกยินดียิ่งนัก จึงไคร่อยากพบว่าที่พี่สะใภ้ของตน จึงได้ไปยังเรือนรับรองที่ท่านเศรษฐีเตรียมให้ว่าที่ลูกสะไภ้และบิดาของนางพักผ่อน ครั้นเมื่อเห็นหน้าของนาง รู้สึกเสียใจยิ่งนักที่แท้นางก็คือ ผู้ทึ่ตนเคยพึงพอใจนั่นเอง

    ความจริงสหธนเศรษฐีนั้น เคยเป็นคู่ครองกับนางสัตตนะมาแต่อดีตนั่นเอง ทำให้โชคชะตาส่งให้คนทั้งสองได้มาพบกันตามวาระบุญ ส่วนสีลภูษะนั้น แม้มีความพึงพอใจในตัวนาง แต่มิเคยร่วมบุญกัน จึงทำให้คาดแคล้วกันไป

    สีลภูษะเมื่อคิดได้จึงได้ตัดใจ และอธิษฐานว่า “กาลข้างหน้าขอให้ตนได้ครองคู่กับนางด้วยเถิด ไม่ว่าจะนานเท่าใด ก็จะรอ”

    จากนั้นภาพต่าง ๆ จึงได้หายไป เจ้าชายมิตตราชนั้น เมื่อทราบเหตุและผล ทราบว่า แท้จริงแล้วพุทธาราดาบสินีก้คืออดีตพี่สะไภ้ของตนนั้นเอง จากนั้นพระองค์ได้ย้อนไปอีกหลายชาติ พบว่า ส่วนใหญ่นางก็ยังครองคู่กับพี่ชายของพระองค์ มีเพียงไม่กี่พันชาติที่ได้ครองคู่กับพระองค์

    พระองค์จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้า ขอตั้งจิตอธิษฐาน ไม่ว่ากี่ภพชาติก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าสมหวังในรักกับนาง และขอครองคู่กับนางผู้นี้แต่เพียงผู้เดียว”

    เมื่อสิ้นคำอธิษฐาน ก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าบริเวณใกล้ ๆ คล้ายเป็นพยานในการอธิษฐานนั้น จากนั้น ท่านได้บอกกล่าวแก่ทหารคนสนิทว่า ท่านจะเข้าสมาบัติเพื่อรอพระอาจารย์เป็นเวลา ๑๕ วัน
     
  4. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    22/02/2013 12:18 PM
    ขออภัยครับคุณจันทกาล
    จะโมทนาด้วยแต่มือไปโดนไม่เห็นด้วย
     
  5. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ให้อธิษฐานขอขมาพร้อมกับการขอขมาพระรัตนตรัยค่ะ กล่าวคือ ให้นำธูปเทียนแพ พวงมาลัยดอกไม้ ยกขึ้นอธิษฐานว่า..

    "กรรมใดที่ลูกเคยล่วงเกินในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ หรือท่านผู้ทรงฌาณ ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม

    ขอพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และท่านผู้ทรงฌาณทุกท่านได้โปรดอดโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด สาธุ.."

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai

    ขออนุญาติยกข้อความของคุณพี่น้ำใสครับ
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาในธรรมทานครั้งนี้ครับ
     
  6. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    วันนี้ได้ร่วมงานสร้างพระเจ้าทันใจ หน้าตัก 7 เมตร ที่วัดพระพุทธบาทหริภุญชัยห้วยทรายขาว จ.ลำพูน ด้วยครับ แต่เสียดายไม่ได้อยู่ร่วมจนเสร็จต้องรีบกลับครับ ใครได้อยู่ร่วมแบบเต็ม ๆ เล่าให้ทีครับ
     
  7. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,407
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,419
    ทำบุญวันมาฆบูชา ที่สนามหลวง

    เมื่อวานไปทำบุญที่สนามหลวงมาครับ
    เลยเอาบุญมาฝากชาวเมือง ให้ได้โมทนากันครับ


    1.เวียนเทียนวันมาฆบูชา ที่สนามหลวง

    2.ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธเจ้าน้อย
    เพื่อนำไประดิษฐานที่ลุมพินีสถาน (สถานที่ประสูติ)


    3.ร่วมทำบุญ หุ้มปิดทองยอดฉัตรมหาเจดีย์พุทธคยา
    ประเทศอินเดีย

    4.ทำบุญสร้างศาลาบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า
    28 พระองค์ และห้องน้ำ
    ณ วัดถ้ำพระธาตุช้างแดง ต.บ้านช้างแดง
    อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


    5.ทำบุญสังฆทาน ยา ผ้าไตรจีวร แก่พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
    ณ วัดถ้ำพระธาตุช้างแดง ต.บ้านช้างแดง
    อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


    6.ทำบุญถวายผ้าไตร หนังสือสวดมนต์
    เพื่อพระภิกษุ-สามเณรในถิ่นทุรกันดาร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0428.JPG
      IMG_0428.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      32
    • IMG_0431.JPG
      IMG_0431.JPG
      ขนาดไฟล์:
      914.6 KB
      เปิดดู:
      40
    • IMG_0432.JPG
      IMG_0432.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      31
    • IMG_0434.JPG
      IMG_0434.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      74
    • IMG_0441.JPG
      IMG_0441.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_0437.JPG
      IMG_0437.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      30
  8. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,407
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,419
    ทำบุญวันมาฆบูชา ที่สนามหลวง (2)

    7.ทำบุญถวายค่าภัตตราหารแก่พระภิกษุ-สามเณร

    8.ทำบุญสร้างพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา
    ฉบับภูมิพโลภิกขุ


    9.ทำบุญกับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


    ถวายเป็นพุทธบูชา ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญกุศล
    ร่วมกันครับ และขอให้ได้รับอานิสงส์เช่นเดียวกันครับ
    อีกทั้งขอให้มีสมบัติจักรพรรดิ์ตักไม่พร่อง มีสมบัติอัศจรรย์ทันใช้
    มีแก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา
    เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันหมดเพื่อใช้ในการสร้างบารมี
    ทำความดีในพระพุทธศาสนาบังเกิดผลโดยพลันทันใจ
    นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ติดตัวทุกภพทุกชาติ
    ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0438.JPG
      IMG_0438.JPG
      ขนาดไฟล์:
      844.7 KB
      เปิดดู:
      64
    • IMG_0440.JPG
      IMG_0440.JPG
      ขนาดไฟล์:
      997.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_0439.JPG
      IMG_0439.JPG
      ขนาดไฟล์:
      961.8 KB
      เปิดดู:
      33
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  9. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    *** ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับคุณ Clearly ด้วยค่ะ
     
  10. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966

    อนุโมทนาบุญในธรรมทานของพี่น้ำใส และขอบคุณ...คุณPrar ด้วยค่ะที่ถามคำถามที่ดีมากๆ เลย, ขอยืมคำตอบ
    ของพี่น้ำใสไปใช้หน่อยนะคะ
     
  11. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณธรรมวิวัฒน์ ด้วยครับที่ทำประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาไว้มากมายครับ และขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่น้ำใสด้วยครับ สาธุ สาธุ
     
  12. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966


    อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับคุณธรรมวิวัฒน์ ที่ได้แบ่งปันให้ชาวเมืองได้ร่วมอนุโมทนาบุญตลอด ตลอด
    ขอให้บุญกุศลที่คุณธรรมวิวัฒ์ได้ สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งผลโดยพลันสมความตั้งใจค่ะ
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เดิมทีตั้งใจว่าจะไปร่วมงานนี้ แต่เสียดายช่วงนี้ลูกสาวติดสอบเลยไม่ได้ไปค่ะ ได้แต่ฝากวัตถุมงคล และปัจจัยไปร่วมบุญค่ะ

    เท่าที่ทราบบริเวณที่สร้างพระใหญ่ มีเทวดามาบอกว่า เคยมีพระอรหันต์บรรลุธรรมอยู่ตรงนั้น ช่วงหลังพุทธกาล ๕๐๐ กว่าปีมาแล้วค่ะ ปัจจุบันพระธาตุได้เคลื่อนไปอยู่บริเวณพระพุทธบาทแล้วค่ะ เพื่อกันคนผู้คนเหยียดย่ำ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องด้วยค่ะ

    Numsai
     
  14. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    สวัสดีค่ะคุณPrar และก็ยินดีที่ได้รู้จักกับกลัยาณมิตร อีกท่านหนึ่ง ค่ะ

    ไม่เป็นไรนะค่ะ สำหรับที่กดไปโดน (ไม่เห็นด้วย)นะค่ะ

    และก็อนุโมทนากับคุณ prar ด้วยนะค่ะ

    จันทรกาล
    yimm
     
  15. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณPrar ด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    จันทรกาล
     
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักร “เบญจรัตนฯ” ตอน ๒๓ เจ้าชายมิตตราช –อัญเชิญแก้วกายสิทธิ์


    หลังจากเจ้าชายมิตตราชได้แจ้งแก่ทหารคนสนิททั้งสองว่า จะเข้าสมาบัติ เป็นเวลา ๑๕ วันแล้ว ก่อนเข้าสมาบัติพระองค์ทรงปรารถนาที่จะเสี่ยงทายเรื่องคู่บารมีว่าจะสำเร็จตามคำปรารถนาหรือไม่ จึงได้ไปอาบน้ำชำระกายในบ่อน้ำทิพย์แล้ว ตั้งจิตอธิษฐานว่า..

    “ข้าพเจ้าตั้งใจเข้าสมาบัติครั้งนี้ เพื่อรวบรวมบุญแต่อดีต ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะมีคู่ เพื่อร่วมสร้างบารมีในการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณ หากคำอธิษฐานของข้าพเจ้าสำเร็จได้นางมาช่วยสร้างบารมีแล้ว ขอให้ดวงแก้วมณีอันเป็นสมบัติของนางแต่กาลก่อน จงมาปรากฏแก่ข้าพเจ้า หลังจากออกจากสมาบัติใน ๑๕ วันข้างหน้าด้วยเถิด”


    จากนั้น พระองค์ก็ได้เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๕ วัน เมื่อครบ ๑๕ วันแล้ว ปรากฏมีเสียงครืนดังลั่น ทหารคนสนิทถึงกับสะดุ้งหวั่นไหวในเสียงนั้น หลังสิ้นเสียง ปรากฏดวงแก้วมณีขนาดเล็กดวงหนึ่ง อยู่บนบัลลังก์ไม่ห่างจากกายของเจ้าชายมิตตราชมากนัก


    เมื่อทรงออกจากสมาบัติ พบว่า มีดวงแก้วมณีดวงเล็ก ๑ ดวงปรากฏอยู่ไม่ห่างกายนัก ก็รู้สึกปิติยินดียิ่งนัก เมื่อรับน้ำดื่ม และผลไม้สุกจากทหารคนสนิทแล้ว ได้นำดวงแก้วมณีไปประดิษฐานในที่เหมาะสม อีกไม่ถึง ๑๐ วันเจ้าชายสุทธิราชก็ออกจากสมาบัติ เพื่ออธิษฐานดวงแก้วมณี

    หลังจากพักผ่อนตามสมควรแล้ว ทรงดำริว่า จากอดีตในกาลก่อนนั้น พระองค์มิอาจได้ครองคู่นางสัตตนะ หรือพุทธาราดาบสินีได้ เหตุใดคำอธิษฐานนี้จึงสำเร็จ ปรากฏดวงแก้วมณีอยู่ตรงหน้าอย่างอัศจรรย์
    จึงนั่งสมาธิเข้าฌาน ๔ จากนั้นถอยมาอยู่ที่อุปจารสมาธิ และตั้งจิตอธิษฐานถึงปวงเทพยดาที่เคยมาสงเคราะห์พระองค์ วสุปุญญเทพได้ปรากฏตรงหน้า และตอบว่า..

    “เหตุที่ดวงแก้วมณีปรากฏแก่ท่านนั้น เพื่อเป็นกำลังใจในการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณของพระองค์ และพุทธาราดาบสินีนั้นจะมาเป็นผู้ช่วยบำเพ็ญบารมีครั้งนี้ เนื่องจากพระโพธิสัตว์คู่บารมีของนางได้ลาพุทธภูมิ เพื่อบำเพ็ญเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว”

    เจ้าชายมิตตราช รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง เท่าที่ทราบจากการย้อนอดีตของพระองค์ พบว่าพระเชษฐาในอดีต เป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็งมาก อีกประการท่านได้รับการพยากรณ์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เหตุใดจึงลาพุทธภูมิ...วสุปุญญเทพบุตรกล่าวว่า ...

    “หนทางแห่งการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณนั้น ยิ่งเข้าสู่ปรมัตถบารมีแก่กล้าเท่าใด การเจริญวิปัสสนาญาณยิ่งมีความเข้มข้นเท่านั้น ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่ายประการหนึ่ง
    อีกประการหนึ่ง ท่านผู้นั้น เป็นผู้ที่มีความคล่องตัวในการระลึกชาติเช่นเดียวกับท่าน พบว่า กี่ชาติพระองค์ปรารถนานางแก้วผู้นี้ ท่านพิจารณาว่า หากท่านลาพุทธภูมิแล้ว นางสามารถช่วยเหลือพระองค์ในการบำเพ็ญบารมีได้ จึงพิจารณาด้วยเหตุ และผล จึงลาพุทธภูมิ”


    เจ้าชายมิตตราชนั้น ทรงถามว่า “แล้วท่านผู้นั้น เวลานี้อยู่ที่ใด เกล้ากระผมประสงค์กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านผู้นั้น”

    เทพบุตรกล่าวว่า... “บัดนี้ ท่านเข้าสมาบัติอยู่ในพรหมโลกชั้น ๑๑ รอลงมาเกิด เพื่อบำเพ็ญเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หากถึงวาระในชาตินี้ท่านคงได้พบกับท่านผู้นั้น”

    เมื่อสิ้นสงสัยแล้ว เจ้าชายมิตตราชทรงตรัสขอบคุณเทพบุตร วสุปุญญเทพบุตรจึงได้กลับสู่วิมานของตน
    ยังมีต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  17. Gangfoo Panda

    Gangfoo Panda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +2,108
    ว้าวววว.....ปลื้ม ใจจังงง...............แอบอิจฉาเล็กๆๆ
     
  18. Clearly

    Clearly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +281
    อยากอ่านต่อจังเลย มานั่งปูเสื่อรอพี่น้ำใสเล่าต่อนะคะ
     
  19. Clearly

    Clearly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +281
    นำบุญมาฝากนะคะทุกท่าน

    เมื่อวานได้ตั้งใจถือศีล 8 เพื่อเป็นพุทธบูชาในวันมาฆบูชา เวียนเทียนรอบอุโบสถ

    ก่อนวันมาฆบูชาได้ร่วมบุญนั่งร้านเพื่อสร้างโรงครัวที่วัดศรีศัทธาธรรม จ.มุกดาหาร

    ร่วมบุญสร้างสระอโนดาต ที่วัดหงษ์(วัดพระเจ้าใหญ่) จ.บุรีรัมย์

    ขอบุญที่กล่าวมานี้ และบุญต่างๆที่ข้าพเจ้ามิได้กล่าวจงสำเร็จแด่ทุกท่านเฉกเช่นเดียวกันกับข้าพเจ้า และได้สำเร็จตามความปรารถนากันทุกประการค่ะ สาธุๆๆ
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ร่วมประมูลดวงแก้วสิทธิจักรนาวาคมน์ พร้อมจักรรัตนสิทธิ..

    แก้วสิทธิจักรนาวาคมน์.jpg IMG_20130220_180509.jpg


    ขอเชิญร่วมประมูล ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้วสิทธิจักรนาวาคมน์” ขนาดกว่า ๑๐ กิโลกรัม พร้อมจักรรัตนสิทธิ อัญเชิญจากถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน

    ดวงแก้วนี้ ปรากฏในสมัยสมเด็จพระพุทธโลกุตตรพุทธเจ้า โดยมีพระสิทธิจักรรัตนโพธิสัตว์ เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ๓๒,๘๙๐,๙๐๐ องค์ ปัจจุบันอยู่ชั้นสวรรค์ดุสิต รอการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล

    เริ่มต้นที่... ๑๘,๙๙๙ บาท

    กติกาในการประมูล

    ๑. เริ่มวันที่ ๒๖-๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ภายใน ๑๙.๕๙ น. ตรงกับวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง
    ๒. หากที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
    ๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วัน เมื่อโอนปัจจัยแล้ว จะทำการจัดส่งดวงแก้วให้แก่เจ้าของต่อไปค่ะ

    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    สาขาถนนศรีนครินทร์(กรุงเทพ-กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์


    ปัจจัยส่วนหนี่ง ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่าย ร่วมบุญสร้างหน้าบรรณลวดลาย และลายไทยประตูโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี อ.เมือง จ.สุรินทร์

    และปัจจัยร่วมบุญ ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-100#post6885657

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...