{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย Amuletism, 2 มกราคม 2012.

  1. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    งดงามมากๆครับพี่หนุ่ม....
    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  2. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ขอบคุณมากครับ พี่นอร์และพี่โอ๋สะพาน
     
  3. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    พี่ครับ สายตรงเนื้อดิน วิจารย์ให้ผมทีครับ ทั้ง สอง องค์ เลยนะครับ รับฟังได้เต็มที่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_8658.JPG
      DSC_8658.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.8 MB
      เปิดดู:
      123
    • DSC_8661.JPG
      DSC_8661.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6 MB
      เปิดดู:
      123
  4. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ขอบคุณครับ พี่สีจำปา ที่มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์
    สำหรับหลวงพ่อเกีย ผมไม่มีความรู้เลยครับ
    พี่พอจะเล่าเรื่องราว พุทธคุณ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับ
    เหรียญหล่อที่มีเสน่ห์นี้ให้ฟังบ้างได้ไหมครับ
     
  5. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    รูปหล่อโบราณหลวงพ่อทบ วัดชนแดน รุ่นบูรณะบันได
    หรือเรียกว่าพิมพ์โหม่งมะพร้าว ปี 2516

    [​IMG]

    องค์นี้ลูกประคำ หน้าตาหลวงพ่อทบหล่อติด สภาพสมบูรณ์ครับ




     
  6. weetak

    weetak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2013
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +232
    พี่หนุ่มอย่าลืมสององค์นี้นะครับ รอพี่ฟันธงอยู่
     
  7. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ประสบการณ์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค

    [​IMG]

    ครอบครัวหนึ่งอยู่ในตลาดช่องแค ภรรยา ทำขนมเค้กขาย ลูกชายคนเล็กตอนอายุไม่ถึงขวบ ได้เป็นโรคไทฟอร์ย นอนรักษาตัวที่รพ. นาน เป็นอาทิตย์ ทำให้สองสามีภรรยากลัวเด็กคนนี้อายุไม่ยืน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ได้ไปกราบหลวงพ่อให้ดูให้หน่อย หลวงพ่อให้เด็กน้อย คลานเข้าไปหา เด็กไม่ยอมคลาน ท่านจึงหยิบส้มเขียวหวานบางมด ขึ้นมาลูกหนึ่ง แล้วบอกว่า “ไอ้หนู คลานมาหามะ” เด็กเลยคลานเข้าไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงหยิบเหรียญรุ่นแจกทานสังฆาฏิยาว พร้อมกลีบผลส้มที่ใส่มือเด็ก แล้วอุ้มเด็กขึ้นมาบอกกับสองสามีภรรยาว่า .มันคลานมาถึงนี้ได้ไม่เป็นอะไรแล้ว เอาเหรียญนี้ไปแขวนคอให้สะ ทั้งคู่จึงเอาไปเลี่ยมนาคให้
    วันหนึ่ง พี่สาวคนโต ได้อุ้มไปเลี้ยงบนบ้าน แล้วเผลอหลับ เด็กจึงคลานออกมา เนื่องจากเป็นบ้านไม้ที่เคยเป็นสำนักงานโรงโม่หินเก่า พื้นชั้นบนซึ่งสูงมาก ประมาณ 4-5 เมตร เด็กคลานมาถึงบันได ตกลงมาจากชั้นบนร้องไห้ดังทั่วตลาด ทุกคนตกใจ วิ่งเข้าไปหาปรากฏว่าเด็กไม่เป็นอะไร นอกจากหัวโน
    ต่อเมื่อประมาณปี 2521-2522 ช่วงที่ซุปเปอร์แมน ภาค 1 เข้ามาฉายในเมืองไทย ลูกชายจมซนเจ้านี้ ก็เล่นเป็นซูเปอร์แมน กระโดด จากนั่งร้าน แล้วขึ้นไปกระโดดใหม่อย่างนี้หลายรอบ แม่เด็กคนนี้บอกว่า ไอ้หนูระวังอย่าโดดใส่ตู้เค้กแม่นะ อย่างไรให้เหลือตู้ในบ้านสะใบ ที่ไม่แตกโดยฝีมือเราบ้าง ยังไม่ทันขาดคำ ลูกชายจอมซนก็กระโดดใส่ตู้เค้กใบนั้นอย่างจัง หัวมุดเข้าไปในตู้ แม่เด็กเป็นลม เพราะตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้น้าแอ๋วมาช่วยแม่เด็ก คนในตลาด ที่อยู่ใกล้ก็รีบ มาช่วยเอาเด็กคนนี้ออกมา เนื่องจากกระจกแตกเป็นปากฉลาม จ่อคอหอยลูกชายจอมซน จึงต้องช่วยอย่างระมัดระวัง คนมาช่วยบางคนโดนกระจกบาด แต่พอไปถึงร้านป้าช่วย (ซึ่งเป็นร้านหมอช่วยรักษาคนที่ช่องแคเล็กๆน้อยๆ) ปรากฏว่า เด็กคนนี้ไม่เป็นอะไรเลย หัวไม่มีรอยกระจกบาด ตามศีรษะ ไรผมมีแต่เศษกระจกไม่มี บาดแผลเลย ทุกคนแปลกใจมาก
    พออีกสองปีต่อมา โรคพิษสุนัขบ้ากำลังระบาด ในจังหวัดนครสวรรค์ ลูกคนเล็กจอมซนก็ก่อเรื่องอีก คราวนี้ เดินไปใกล้ร้านขายข้าวเหนียว หมูย่าง และขนม ของน้าเสริม ซึ่งตอนนั้นร้านยังไม่เปิด เด็กหันไปเห็นสุนัขฉี่อยู่ จึง ทำท่าล้อเลียน ทำท่าฉี่ตามหมา หมามันคงนึกว่าจะแตะมันหรือเปล่า จึงกัดเข้าให้ เด็กวิ่งไปบอกพ่อ แล้วพาไปร้านป้าช่วย ปรากฏว่า หมากัดไม่เข้า เป็นแต่รอยจ้ำ

    มาดูเรื่องจากหนังสือ หน้าที่ 26 เรื่องที่ สี่ (เล่มแดงของคุณสุนทร)

    เรื่องที่สี่ เมื่อปี 2522 ประมาณเดือนกันยายน ถึง พฤศจิกายน เฮียฮุย (เพื่อนผู้เขียน) บ้านอยู่ตรอกพระยาสุนทร ใกล้ๆ สถานีรถไฟหัวลำโพง มีอาชีพขายเม็ดน้ำตาลลูกอม ขายส่งตามตรอกซอย และตามแผงทั่วไปทั่วกรุงเทพฯ คือก่อนเกิดเหตุ เฮียฮุยทำลูกอมน้ำตาลกับแม่บ้านดึกไปหน่อย จึงนอนตื่นสาย ลูกชายอายุ 4-5 ขวบก็ตื่นก่อน เดินลงบันไดเพื่อจะลงมาชั้นล่าง เกิดก้าวพลาด ตกไถลลงมาอย่างแรงจากชั้นบน ที่พื้นหน้าบันไดมีตู้กระจกใบใหญ่ ซึ่งจัดโชว์ลูกอมสีต่างๆ ไว้ขายเด็กๆ ร่างของลูกชายเฮียฮุยได้ปะทะกับตู้กระจกอย่างแรง เสียงดังสนั่น ร่างเจาะทะลุไปโผล่อีกด้านหนึ่งของตู้ จนทุกคนในบ้านตกใจตื้น ลุกขึ้นวิ่งมาตามเสียง เมื่อเห็นภาพ เฮียฮุยกับแม่ของเด็กก็ตกใจมาก ตามเนื้อตามตัวของเด็กเต็มไปด้วยเศษกระจก มองไปที่ตู้ลูกอมเห็นกระจกทะลุเป็นโพรงกระจกบางชิ้นแตกเป็นปากฉลาม ดูน่าหวาดเสียว แม่เด็กเมือเห็นก็แทบลมจับ รีบอุ้มลูกชายขึ้นมา ปัดเศษกระจกตามตัวและใบหน้าอก พร้อมกับสำรวจบาดแผลตามตัวลูก กลับพบว่ามีแต่รอยขีดข่วน สั้นบ้างยาวบ้าง ตามลำตัวและใบหน้า แต่ไม่มีบาดแผลใหญ่แต่อย่างใด ผู้เป็นแม่กอดลูกไว้แน่น ร้องไห้ตามลูกไปด้วย ก็ได้แต่พร่ำพูดว่าเพราะบารมีของหลวงพ่อพรหม ที่ช่วยลูกไว้ เพราะได้ให้ลูกชายห้อยเหรียญแจกทานของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ไว้ติดตัว

    มาดูเรื่องคล้ายกันนี้หนังสือ อาณาจักรพระเครื่อง เล่มที่ 67 ตีพิมพ์เมื่อปี 2521 หน้า 21-22

    เหรียญใบสาเกเป็นเหรียญขนาดเล็กใกล้เคียงกันกับเหรียญแจกทาน ซึ่งส่วนใหญ่ เหรียญรุ่นนี้จะตกอยู่กับคนบ้านไกลเสียหมด ในท้องถิ่นจึงหายาก เฉพาะในบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่แล้วจะแหนหวงเหรียญใบสาเกมากที่สุด ซึ่งส่วนมากมักนิยมเลี่ยมแขวนคอเด็กเล็กๆ และสุภาพสตรีเพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดและเหมาะสมสวยงามดี ได้แอบกระซิบถามลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่งว่า ที่หวงๆกันนักนะมีประสพการณ์อย่างไรบ้าง
    ครับลองเขาหวงกันอย่างนี้เห็นจะมีดีแน่
    เขาว่า ตัวเขาเองแขวนเหรียญใบสาเกรุ่นนี้ให้กับลูกชายจอมซนของเขาทุกๆคน มีน้องคนสุดท้องขนาดอายุสักสองขวบเห็นจะได้เคยตกบันไดหลายหน ไม่ปรากฏหัวแตกเลยอย่างเก่งก็แค่บวมๆโนๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งวิ่งถลาหัวกระแทกเข้าไปในตู้กระจกคอไปพาดอยู่กับรอยกระจกซึ่งแตกและคมกริบ พลางในใจคิดว่าแหวะหวะน่าดู แต่มันน่าหัศจรรย์ครับ รอยเลือดสักหยดก็ไม่มีนอกจากรอยขีดเป็นสีแดงๆ ซึ่งเกิดจากคมกระจกเท่านั้น อย่างนี้คุณจะไม่ให้ผมหวงได้อย่างไร ซึ่งแซ่ ตำบลที่อยู่ผมจดมาหมดแต่ทว่าท่านผู้เป็นเจ้าของเรื่องซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องซึ่งเป็นศานุศิษย์ในหลวงปู่คนนี้ได้ขอร้องว่าอย่างเอาชื่อลงเลย เขาจะหาว่าผมเชียร์ท่านซึ่งเป็นอาจาย์ และกล่าวทิ้งทายไว้อย่างน่าฟังว่า “คุณคอนฟังกิติศัพท์ของท่านก็แล้วกัน ยิ่งนานท่านยิ่งดัง”

    สำหรับหนังสือ เหรียญหลวงพ่อพรหม ของสำนักพิมพ์เจริญสาส์น ชุดที่ 30 ตีพิมพ์เมื่อ เมษายน 2518 ไม่ได้มีเรื่องนี้ ซึ่งไม่แปลก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลัง ปี 2518

    เรื่องข้างต้น ที่ไม่ใช่จากหนังสือดังกล่าว ผมกล้ายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะลูกชายคนเล็กจอมซน ทุกวันนี้ผมรู้จักดี คือ ตัวผมเอง และเหรียญแจกทานรุ่นสังฆาฏิยาวที่พูดถึง ก็คือองค์นี้ ผมใส่มานานจนอยู่เข้าประถม 4 พ่อผมจึงเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่น ไม่ว่าจะเป็น รุ่นโล่ใหญ่ รุ่น 1 หน้าหนุ่ม 08 รุ่นสรงน้ำ รุ่น90ปี เหรียญระฆัง เหรียญเสมาใหญ่เต็มองค์ ใส่จนสึกก็เปลี่ยนองค์ใหม่ไปใส่ จนช่วงอยู่ มอ 5 มอ. 6 ก็เลิกแขวน เนื่องจากคิดว่าเราเคารพอย่างเดี่ยวก็พอ อยู่ที่ใจ เหรียญองค์นี้ พี่สาวผมเคยเอาเขากว้างหลังเต็มเนื้อทองระฆังมาแลกผมก็ไม่ยอมแลกครับ (เพราะที่บ้านทุกคนรู้นะครับว่าเป็นองค์ที่หลวงพ่อพรหมใส่มือผมเอง)
    ส่วนเรื่องที่ลงหนังสืออาณาจักรพระเครื่อง เมื่อปี 2521 เล่มที่ 67 นั้น พ่อผมสารภาพว่าเป็นคนให้ข่าวเอง แต่เขาลงผิดรุ่น เพราะรุ่นใบสาเกเป็นรุ่นพี่สาวผมใส่ รุ่นที่ผมใส่คือองค์ที่โชว์อยู่นี้ แล้วเมื่อหนังสือออกคนเขียนก็เอาหนังสือที่ลงมาให้ชุดหนึ่ง แล้วท่านก็ซื้อเก็บไว้อีกชุดหนึ่งไว้เป็นที่ระลึก ไว้ให้ลูกหลานดูศึกษา น่าสังเกตนะครับ หลวงพ่อพรหม ก็ดังจริงอย่างที่ท่านว่าไว้เมื่อปี 2521 เกือบ 30 ปีมาแล้ว

    ที่มา เด็กตลาดช่องแค
     
  8. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ตระกรุดปกป้องคุ้มครองพรหมจรรย์...หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค

    ผมไปอ่านเจอเรื่องราวหนึ่งที่เป็นของขลังของเกจิอาจารย์   หลวงพ่อพรหม  วัดช่องแค  จ.นครสวรรค์ อยากนำมาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องแปลกๆ  เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังที่คนไทยมีความเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ

    ตระกรุดเมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ เป็นเครื่องรางของขลังทำมาจากวัตถุต่างๆตามตำราของแต่ละอาจารย์ทางไสยเวทย์ทำจากแผ่นโลหะบางๆ หรือวัสดุอื่น  มาลงอักขระ  เลขยันต์ ด้วยเหล็กจารแล้วม้วนเป็นท่อกลมมีให้มีรูตรงกลางซึ่งจะใช้ร้อยเชือกคาดเอว  หรือร้อยสร้อยห้อยที่คอของผู้ที่เชื่อถือ บางคนก็จะเก็บไว้ในที่เชื่อว่าจะคุ้มให้ผลได้

    บทความจากหนังสือลานโพธิ์โดยนามปากกาว่า พิชัยคราม  ปีที่ 39 ฉบับที่ 1108 ปักษ์แรกเดือนมกราคม2556 ท่านได้สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องและรู้จักหลวงพ่อ พรหม ที่มีการบันทึกไว้  โดยคุณหมอสมสุข  คงอุไร เล่าว่า ท่านเป็นเลิศเรื่องการทำตระกรุด ซึ่งจะมีชื่อเสียงคู่กันมา กับ หลวงพ่อเดิมที่ท่านเป็นเลิศเรื่องมีดหมอ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    เรื่องได้เล่าถึง “ตระกรุดปกป้องคุ้มครองพรหมจรรย์ชีสาว”

    ชีสาวผู้หนึ่งได้เยี่ยมญาติที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดช่องแค   และทำงานประกอบภัตตาหารถวายหลวงพ่อพรหม เหตุที่บวชก็มาจากมีหมอดูทำนายว่ากำลังมีเคราะห์จึงมาบวชแก้   หลังจากมาได้ 4 วันก็เข้าไปลาหลวงพ่อ หลวงพ่อได้ให้เข้าไปหาแล้วมอบตระกรุดที่ทำจากฝากระป๋องโอวัลติน  สวมที่คอและผูกพระเวทย์กำกับให้ เมื่อกลับไปถึงบ้านเนื่องจากเป็นคนสวยเป็นที่หมายปองของของชาย และตัวเธอเองมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ทำให้มีมนุษย์บ้ากาม 5 คนยกพวกมาดักฉุดเธอเพื่อไปข่มขืนในวันหนึ่งระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน
    แต่ตระกรุดและพระเวทย์ทำให้ข่มขืนเธอไม่ได้ ” ปากถ้ำได้ปิดสนิทมนุษย์ใจทรามย่ำยีทำอะไรเธอไม่ได้” พอดีในขณะนั้นมีคนผ่านมา  พวกมนุษย์ใจทรามจึงได้หนีจากไป

     

    วันรุ่งขึ้นมนุษย์ใจทรามเหล่านี้ได้ไปเล่าเรื่องโจษขานกันว่าฉุดไปแต่ทำอะไรกันไม่ได้   ดีที่คู่หมั้นมีจิตใจที่มั่นคง เชื่อในความบริสุทธิ์ของเธอและตัดสินใจแต่งงานตามที่ได้หมั้นหมายกันเอาไว้
    หลังงานแต่งงานผ่านไป 7 วัน เจ้าบ่าวก็ไม่สามารถทำอะไรกับเจ้าสาวได้เหมือนคนทั่วๆไป(เพราะปากถ้ำปิด)
    ทั้งคู่ก็เลยกลับมาหาหลวงพ่อพรหมที่วัดกราบแล้วบอกว่า ”หนูแต่งงานแล้ว หลวงพ่อเอาของคืนไปเถอะ”
    หลวงพ่อพรหมก็ถอนพระเวทย์ที่ผูกไว้และรับตระกรุดคืนจากหญิงสาว   หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปี ก็กลับมาหาหลวงพ่ออีกพร้อมกับนำลูกชายมาด้วย   ซึ่งหลวงพ่อได้เมตตาตั้งชื่อให้ด้วยว่า “สวัสดี”

    เรื่องนี้หลวงพ่อได้เคยสนทนาหยอกกับสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น) ที่ไปตรวจงานทางสงฆ์ ที่วัดช่องแค ซึ่งสมเด็จฯท่านได้ถามถึงเรื่องของดี(ขลัง)ต่อหลวงพ่อพรหม ว่ามีของดีอะไร
    หลวงพ่อได้ตอบว่า “(เคยให้)ให้(ตระ)กรุดไปดอกหนึ่ง  มันไปเอากันไม่เข้า  ต้องเอามาคืน “
    ซึ่งตามบันทึกสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น)เล่ากันว่า  สมเด็จฯท่านชอบใจมากกับคำสนทนาที่หลวงพ่อพรหมท่านเล่า

    ก็มีเรื่องเล่าอีกถึงตระกรุดที่กัน เอา นี่อีกรวมทั้งเรื่องเหลือเชื่อจากเด็กที่โดนรถทับแล้วไม่เป็นอะไร ทำให้ตระกรุดของท่านเป็นที่ปรารถนาของคนทั่วไป    เด็กๆแถววัดที่ท่านเคยให้ตระกรุดก็มักจะโดนขโมยหมด

    [​IMG]

    จากคำบอกเล่าบอกไว้ว่า  ถ้าผู้หญิงจะถูกคนร้ายข่มขืนอย่าไปต่อสู้กับมัน  เพราะผู้หญิงกำลังสู้มันไม่ได้ ให้มีสติแล้วนึกถึงท่าน พร้อมกับว่าคาถา(พระเวทย์)กำกับ

    ตั้งนะโมสามจบแล้วท่อง

    กุ  รุ  มุ  ถุ  กิ  กิ  ริ  มิ  ถิ  เก  เร  เม  เถ  กะ  ระ  มะ  ถะ 

    เวลาท่องให้เอาลิ้นดุนเพดานกลางปากภาวนาคาถานี้ไว้ในใจ   จนน้ำลายออกชุ่มปากเอานิ้วป้ายน้ำลายใต้ลิ้น

    ถ้าเป็นผู้ชายให้ป้ายคาดที่คอ  ถ้าเป็นผู้หญิงให้ป้ายคาดที่เอวใต้สะดือแล้วผูกด้วยคาถามัดไว้ว่า

    อิมัง  กายะ  พันธนานัง  อธิฐามิ 

    ...

    มีคาถาอีกบทหนึ่งที่บันทึกไว้

    ถ้าปรารถนาสิ่งอื่น(ต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม  ไม่ผิดศีลธรรม)

    ให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วท่อง

    พุทโธ  พะ  ระ  หะ  มะ  (3 จบ)

    (พะระหะมะ มาจากชื่อของท่านคือพรหมนั่นเอง) แล้วอธิษฐานบอกท่านก็จะได้ตามปรารถนา

    ...

    ..

    จากเรื่องที่ผมเอามาเล่าสู่กันฟังก็เพียงแต่เพียงอยากให้ได้ทราบถึงเรื่องแปลกๆถึงเครื่องรางของขลัง ผมยังไม่เคยอ่านเจอเลยว่ามีเกจิอาจารย์ท่านใด  มีเครื่องรางของขลังแบบนี้ที่มีการเล่าถึงพร้อมบันทึกคำบอกเล่าที่มีการอ้างถึงตัวบุคคลไว้ยืนยันข้อมูลได้ ถ้าเป็นความจริงและยังสามารถหาได้ในปัจจุบันนี้ก็จะดีไม่น้อย     คดีข่มขืนก็จะน้อยลงหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
    ผมคิดต่อแบบคนขี้สงสัยก็อยู่แต่ว่าถ้าอ่านแล้ว   ดันไปทดลองคาถาโดยการภาวนาพระเวทย์กำกับตระกรุด ตอนป้องกันน่ะคงไม่เป็นไร ...แต่ถ้าหมดเหตุการณ์แล้วต้องถอนคาถาให้หมดฤทธิ์จะต้องถอนยังไง

    ถ้าถอนไม่ได้ละก็เรื่องยุ่งแน่ๆ   เพราะ เอาก็ไม่เข้า  ตอนฉี่จะทำยังไง

    หลวงพ่อท่านก็สิ้นไปยาวนานแล้ว...ใครจะถอนคาถานี้ได้เล่าครับ

    ลาดื้อๆแล้วครับสำหรับเอนทรี่แปลกเอนทรี่นี้

     
    ขอขอบคุณเรื่องและภาพจากหนังสือลานโพธิ์ ปีที่39 ฉบับที่ 1108 ปักษ์แรก เดือนมกราคม 2556

    โดย คุณพิทักษ์ ok nation blog
     
  9. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    อภินิหาร 'หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค'
    สยบอสรพิษร้าย “งูจงอาง” ช่วยชีวิตเด็ก

    “เหนือลิขิต? ประกาศิตฟ้าดิน?” ฉบับนี้ขอนำ “นาทีระทึกขวัญ” ขณะเด็กน้อยผู้หนึ่งต้อง “ผจญภัย” กับอสรพิษร้ายที่เรียกกันว่า “งูจงอาง” กลางหลุมลึกทั้งที่ “เด็กน้อย” ผู้นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยแต่กลับ “รอด” จากถูกอสรพิษร้ายฉกกัดได้ดุจปาฎิหารย์ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น “ผู้พ่อ” ที่มาพบเห็นจึงเชื่ออย่างสนิทใจเป็นเพราะ “พุทธบารมี” และอำนาจแห่ง “พุทธานุภาพ” ของ “เหรียญคุณพระ” ที่เด็กชายคนนั้นแขวนอยู่บนคอแสดงปาฏิหารย์เป็นที่น่าอัศจรรย์ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ฉบับนี้จึงขอนำ “เรื่องอันน่าพิศวง” เรื่องนี้มาเสนอท่านผู้อ่านเช่นเคย

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 ที่ จังหวัดตรัง และเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “คุณสาธร ตีระกานนท์” ซึ่งเป็นนักสะสมพระเครื่องอีกผู้หนึ่งได้เผยว่า “ในปี 2517 ได้ปลูกบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ้านหลังเก่า ซึ่งก่อนปลูกบ้านก็จะต้องมีพิธี “ยกเสาเอก” ตามแบบอย่างโบราณจึงขุดหลุม “สี่เหลี่ยม” กว้างเมตรครึ่งและลึกเมตรเศษเพื่อทำพิธียกเสาเอก หลังจากขุดหลุมเสร็จจึงไปหาซื้อข้าวของสำหรับจัดพิธีในตัวตลาด แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็น “ลูกชาย” อายุขวบเศษที่ปล่อยให้นอนอยู่ยังบ้านหลังเดิมเพียงลำพัง จึงเดินตามหารอบๆบ้านพร้อมทั้งตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบ จึงเดินไปดูตรงที่ขุดหลุมไว้เพื่อยกเสาเอกก็เห็นลูกชายตัวน้อยตกลงไปในหลุม ที่มี “งูจงอางตัวเขื่อง” ยาวประ มาณเมตรเศษตัวดำเมี่ยมนอนขดตัวอยู่ตรงหน้า “ลูกชาย” ที่ขณะนั้นมีทีท่าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆเลย “คุณสาธร” จึงรีบยื่นมือคว้าเอาตัวลูกชายขึ้นจากหลุมอย่างระมัดระวังพร้อมถาม “โดนงูกัดหรือเปล่าลูก” ลูกชายสั่นหัวแทนคำตอบเนื่องจากขณะนั้นพูดอะไรไม่ออก “คุณสาธร” จึงสำรวจเนื้อตัวลูกชายเมื่อไม่พบ “รอยถูกงูกัด” จึงโล่งใจแต่ก็เกิดอาการฉงนไฉนลูกชายจึงไม่ถูก “งูฉกกัด” ทั้งที่อยู่ในหลุมแคบๆด้วยกันชั่วครู่จึงมองไปที่คอลูกชายก็พบว่ามี “เหรียญหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค” รุ่น “แจกทาน” ที่ตนเองเป็นผู้ให้ลูกชายแขวนไว้จึงยกมือขึ้นสาธุเพราะรู้ทันทีว่าด้วยบารมี อันศักดิ์สิทธิ์ของ “หลวงพ่อพรหม” ที่ช่วยชีวิตลูกชายไว้เนื่องจากสัญชาติ “อสรพิษร้าย” อย่างงูจงอางหากอยู่ใกล้คนเป็นต้องฉกกัดทันทีดังนั้นเมื่อ “ลูกชาย” รอดจากถูกงูฉกกัดเช่นนี้จึงนับเป็น “ปาฏิหาริย์” ที่ “หลวงพ่อพรหม” บันดาลขึ้นโดยแท้ต่อมาหลังจากทำพิธี “ยกเสาเอก” เสร็จเรียบร้อยโดยจับ “งูจงอาง” ปล่อยเข้าป่าไป “คุณสาธร” ก็พาลูกชายพร้อมครอบครัวไปทำบุญกับ “หลวงพ่อพรหม” ที่วัดช่องแคพร้อมกราบขอบพระคุณที่ท่านช่วยลูกชายทั้งที่ท่านได้ละสังขารไป นานแล้ว

    “หลวงพ่อพรหม ถาวโร” แห่ง “วัดช่องแค” ตำบลพรหมนิมิตร อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 5ค่ำเดือน 5ปีมะแม ตรงกับวันที่ 12เมษายน พ.ศ.2426 ณ ตำบลบ้านแพรก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในขณะยังเยาว์วัยได้ศึกษาอ่าน-เขียนกับพระในวัดใกล้บ้าน พออ่านออกเขียนได้แล้วหลวงพ่อก็เรียนอักษรขอมควบคู่กับภาษาไทย จึงมีความรู้ภาษาขอมพอสมควรครั้นอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดเขียนลาย ตำบลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ 15มีนาคม พ.ศ.2447 โดยมี หลวงพ่อถมยา วัดเขียนลาย เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า “ถาวโร” และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาขอมเพิ่มเติมจนชำนาญ จากนั้นเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลวงพ่อเคยเล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า หลวงพ่อเริ่มศึกษาวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคมจากอาจารย์ซึ่งเป็นฆราวาสชื่อ อาจารย์พ่วง ต่อมาหลังจากอุปสมบทแล้วจึงได้ศึกษา อสุภกรรมฐาน สมถกรรมฐาน วิปัสสนา จาก หลวงพ่อดำ ประมาณ 4ปีในพรรษาที่5 อาจารย์พ่วง ซึ่งเป็นอาจารย์คนแรกได้พาไปฝาก อาจารย์ปู่วอน ซึ่งเป็นฆราวาสและได้ศึกษาวิชาแขนงต่างๆเป็นเวลา5ปีเต็ม จากนั้นหลวงพ่อไม่ได้ไปศึกษาวิชากับอาจารย์ท่านใดโดยตรงอีก แต่อาจมีการแลกเปลี่ยนวิชากับอาจารย์รุ่นพี่ระหว่างธุดงค์บ้างเช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อพรหมเคยเดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า จนถึงเมืองร่างกุ้งและไปนมัสการ พระเจดีย์ชะเวดากอง หลวงพ่อได้เดินธุดงค์อยู่ในประเทศพม่านานพอสมควร จึงเดิน ทางลัดเลาะตามแม่น้ำสายต่างๆผ่านมาทาง ด่านแม่ละเมา จังหวัดตาก และเดินทางเรื่อยมาจนถึง เขาช่องแค ตำบลพรหมนิมิตร อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เกิดฝนตกหนักจึงไปหลบฝนในถ้ำเล็กๆบนเขาช่องแค ต่อมาหลวงพ่อเห็นว่าเขาช่องแคนี้เป็นที่วิเวก เหมาะแก่การบำเพ็ญธรรมจึงปฏิบัติธรรมอยู่ ณ เขาช่องแค ซึ่งขณะนั้นมีภิกษุจำพรรษาอยู่เพียง 2 รูป โดยไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดใดอีกเลยตลอดระยะเวลา 58ปีจำพรรษาอยู่ วัดช่องแค หลวงพ่อได้สร้างประโยชน์โดยการทำนุบำรุงศาสนาก่อสร้างเสนาสนะต่างๆภายในวัด พร้อมทั้งให้การอุปถัมภ์ โรงเรียนวัดช่องแค กระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 30 มกรา คม พ.ศ.2518 ณ โรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี รวมอายุ 91 ปี 71 พรรษา

    หลังจากหลวงพ่อพรหมมรณภาพแล้ว คณะกรรมการวัดได้บรรจุศพของท่านซึ่งปรากฏว่าไม่เน่าเปื่อย มด ไร มอด และแมลง ไม่ได้รบกวนทำลายชิ้นส่วนใดในร่างกายของท่านแม้แต่น้อย คล้ายกับหลวงพ่อนอนหลับเฉยๆถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพมาแล้วถึง 33ปี ก็ตามนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นกับสังขารของท่านหลังจากละสังขารแล้วก็คือ 1. เส้นผมงอกยาว 2. เส้นขนคิ้วงอกยาว 3. เส้นขนตางอกยาว 4. หนวดงอกยาว 5. เคราใต้คางยาว 6. เล็บมืองอกยาว 7. เล็บเท้างอกยาว ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งหากท่านผู้อ่าน มีโอกาสก็สามารถเดินทางไปกราบนมัสการ ขอพรจากสังขารของท่านที่นอนสงบนิ่งอยู่ ณ วัดช่องแค ได้เพราะบารมีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อมีหลายรุ่นมักจะมีรูประฆังไม่ว่าจะเป็น “เหรียญ” หรือ “พระเนื้อผง” มีรูปหลวงพ่อนั่งอยู่ในระฆังจนดูเหมือนวัตถุมงคล “รูประฆัง” จะเป็นเอกลักษณ์ประจำ ตัวของหลวงพ่อนอกจากนั้นก็มีวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ อีกมากมายหลายแบบล้วนมีพุทธคุณเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาทั่วไป ปัจจุ บันวัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการปลอมแปลงมากมายแทบทุกรุ่นทุกแบบ ท่านที่ต้องการแสวงหาควรพิจารณาอย่างรอบคอบ มิเช่นนั้นอาจเสียทรัพย์ไปโดยไม่ได้ของแท้มาสักการบูชา

    By : news พรครูบา
     
  10. กำแพงพระ

    กำแพงพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +1,966
    ของดีทั้งคู่ ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ
     
  11. กำแพงพระ

    กำแพงพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +1,966
    พี่ Amuletism จะจัดทัวร์ธรรมะก็ไม่บอก
    จะได้ขอสมัครร่วมเดินทางด้วยคนครับ
    สุดยอดพระเกจิทั้งนั้น ที่พี่แวะไปกราบไหว้
     
  12. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    สวยมากครับ พี่ Amuletism :cool:
     
  13. กำแพงพระ

    กำแพงพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +1,966
    พี่ amuletism ให้ข้อมูลแบบจัดเต็ม
    ไม่มีกั๊กเหมือนเคย ขอบคุณครับ
     
  14. Soul Power

    Soul Power เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +452
    หลวงพ่อคูณเสมหะมากหมองดออกนอกห้อง

    นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.นครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้าพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบ ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.55 ว่า จากการตรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา หลวงพ่อคูณมีเสลดเสมหะมากขึ้น โดยเสลดเสมหะมากขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้มาแล้ว โดยเฉพาะช่วงกลางคืน คณะแพทย์ต้องทำการดูดเอาออก 2-3 ครั้ง นอกจากนี้มีอาการไอบ้างเล็กน้อย ซึ่งการดูดเสลดเสมหะอย่างนี้ทำให้หลวงพ่อคูณมีอาการเพลีย เนื่องจาก 2-3 วันมานี้อากาศเปลี่ยนแปลงเย็นลงอีกแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ต้องระวังคือภาวะแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ โดยเฉพาะหลอดลม รวมทั้งการสำลัก แต่จากการตรวจยังไม่เห็นว่ามีการติดเชื้อ โดยรวมอาการทั่วไปดี รู้ตัว รู้เรื่อง รับอาหารได้ดี ไม่มีไข้ และช่วงนี้งดให้ท่านออกนอกห้องชั่วคราวจนกว่าสภาพอากาศจะอุ่นขึ้น

    ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- จันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
     
  15. captainzire

    captainzire เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,551
    ค่าพลัง:
    +2,822
    สวยงามทั้งพิมพ์ เข้มขลังทั้งพิธีการปลุกเสก
    นับเป็นของดี ที่ราคาย่อมเยาว์จริงๆ ครับ
     
  16. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    [​IMG]

    [​IMG]

    ปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่บัว ถามโก - ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม 16 พฤศจิกายน 2553 - เนื้อพระกริ่งชินบัญชร จัดสร้าง 655 เหรียญ ไม่มีให้สั่งจอง - สร้างจากเนื้อพระกริ่งที่เหลือจากการเทพระกริ่งชินบัญชร ญสส. เพชรกลับ ประมาณ 10 กิโลกรัม มาผสมทองแดงเพื่อให้เกิดความอ่อนนุ่มพอที่จะสามารถปั๊มเป็นเหรียญได้ - จะมีโค๊ต "เพชรในดอกบัว" ซึ่งเป็นโค๊ตที่ตอกในพระกริ่ง ชินบัญชร ญสส. เพชรกลับ - หมายเลข เป็นชุดหมายเลขตัวใหญ่ ซึ่งจะตอกเฉพาะเนื้อพระกริ่งชินบัญชร เพียงเนื้อเดียว
     
  17. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    [​IMG]

    เหรียญเจริญพร เต็มองค์ หลวงปู่บัว ถามโก วัดศรีบูรพาราม (วัดเกาะตะเคียน)
    วัตถุประสงค์ เพื่อนำวัตถุมงคลสักการะ แจกทหารตำรวจและข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่งานสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศอย่างไม่หวั่นเกรง และย่อท้อ ตลอดจนสมทบทุนดำเนินการต่างๆ ตามวัถุประสงค์ อันจะเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป

    พิธีเททองหล่อพระ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ และพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เททองหล่อพระ กดพิมพ์นำฤกษ์ปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงปู่บัว ถามโก วัดศรีบูรพาราม จ.ตราด
     
  18. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    สวัสดียามเย็นครับ พี่Amuletism พี่กรุพระ พี่captainzire พี่ทิพย์มงคล พี่โอกระบี่ พี่โอ๋สะพาน พี่24hrs พี่001not พี่Soul Power คุณนอร์และ พี่ๆทุกท่านครับ ^__^
     
  19. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    สวัสดีครับ พี่บอย
    ขอบคุณที่นำเอาเหรียญสวยๆ
    และข้อมูลดีๆ มาให้ศึกษากันครับ

     
  20. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    พระองค์แรกเป็นพระพิมพ์นางกำแพงกลีบบัว
    องค์ที่สองพิมพ์คล้ายพระซุ้มกอที่ถูฝนขอบด้านบนทั้งสองข้าง

    ประเด็นหลักในการพิจารณาพระทุ่งเศรษฐี คือ
    พระกลุ่มนี้เป็นพระเนื้ออ่อน เป็นเนื้อดินผสมว่าน
    มีว่านดอกมะขามสีแดงเข้ม (เลือดหมู) ในเนื้อพระ
    และด้วยเหตุที่พระมีเนื้ออ่อนจึงมักปรากฏราดินในเนื้อพระ
    ที่วงการเรียกว่ารารัก และเนื้อหาจะดูเปียก (หนึกนุ่ม)
    หากมีลักษณะเฉพาะดังที่ว่าปรากฏชัดเจน
    ก็จะถือว่าเป็นพระแท้ดูง่าย
    แต่พระกรุนี้ หลังๆ ก็มีพระฝีมือดีๆอยู่ไม่น้อย

    พระพิมพ์ซุ้มกอองค์นี้ ผมว่าคราบกรุดูแน่นๆ
    และไม่ปรากฏลักษณะธรรมชาติของรารักที่ชัดเจน

    สำหรับนางกำแพงกลีบบัว แม้เนื้อจะดูเหมือนแห้ง
    แต่ก็ค่อนข้างดูแกร่ง และผิวใต้คราบในซอกแขน
    และที่ส่วนฐานใต้ขาที่มีเนื้อกระเทาะ ดินสีค่อนข้างสดไปนิด
    สีเขียวๆ ที่อยู่บนคราบในซอกแขน
    ก็ไม่ใช้ลักษณะธรรมชาติที่พบเห็นโดยทั่วไป

    แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีพระที่เนื้อแห้งๆนะครับ
    บางทีไม่เห็นองค์จริงทั้งหมด
    ก็ไม่สามารถวิจารณ์ได้อย่างเต็มที่
    เพราะภาพก็มีข้อจำกัดของมันครับ

    ยังไง ถ้ามีเวลาว่างแวะไปพันธ์ทิพย์
    ลองไปให้หมอยก สุพรรณ ดูสักที
    เขาเก่งเนื้อดิน และก็ไว้วางใจได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...