ภิกษุสันดานกา โดย ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ (กระทู้นี้สุดยอด ห้ามพลาด!)

ถ้าคนทั่วไปดูแล้วรับไม่ได้ ศิลปินก็ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ คนเข้าใจอาจจะมี แต่คนที่ไม่เข้าใจ แล้วไปทำร้ายจิตใจเขาหล่ะ

ถ้าคุณวาดแล้วเอาไว้ แปะฝาบ้านคุณเอง หรือโชว์ให้เพื่อนๆ ดู
ไมได้เอามานำเสนอให้คนทั่วไปดูไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก

แต่นี่สื่อให้คนทั่วไป รับรู้ มันไม่สมควรอย่างยิ่งคะ

 

การแสดงออกของบุคคล ย่อมแสดงออกของจริตแต่ละบุคคล


ผมไม่เชื่อว่าพระพุทธศาสนา จะเสือม แต่กลับกลายเป็นคนในสังคมต่างหากที่เสือม เพราะ ไม่ยอมเอาธรรมมะ เข้ามาประดับตน เอาแต่เปลื่อกนอก
--------หนทางดับทุกอยู่ที่ไหน หนอ--------
--------ลด ละ เลิก กิเลส------------
--------แสวง บุญ แต่ ตัก กิเลสไม่เลิก------
--------ลด ความ อยาก คือ หนทาง สงบ---

 

ยากสอบถามหน่อยน่ะครับ ว่าทางเวปต้องการอะไรจากภาพนี้ เห็นลงหน้าเวปซะ 3 กระทู้เลย จะสื่ออะไรกันแน่ครับ

 

ไม่คิดว่าพุทธศาสนาจะเสื่อมถอย

พระพุทธศาสนาเข้ามาประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.1600 หลายพันปีมาแล้ว คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาถูกทนุบำรุง และเจริญก้าวหน้า ตามความเจริญของชาติบ้านเมือง ปัจจุบันประชากรมากขึ้น ประชากรหนาแน่น ทำให้สังคมยิ่งต้องการพุทธศาสนา มาช่วยกล่อมเกลาจิตใจของประชาชนให้มีที่พึ่งทางใจมากยิ่งขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมของคนหมู่มาก ย่อมมีความแตกต่างมากขึ้น ทั้งนี้รวมไปถึงความนึกคิด ก็ย่อมแตกต่างกันออกไป ผู้คนจะอยู่ร่วมกันได้ในความแตกต่างนั้น สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง นั่นคือการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล

ในส่วนตัวของผมคิดว่า "ทำตัวเราเองให้ดีที่สุด"

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ท่านไม่มีมรดกใดๆ นอกจากมรดกทางธรรม ที่ทิ้งไว้ให้ พุทธศาสนิกชน ได้นำไปปฏิบัติ "คิดดี ทำดี พูดดี คบคนดี ไปในที่ดีดี"

สำหรับตัวผมเอง ถ้ามีลูกมีหลานก็จะขอนำคำสอนของหลวงพ่อปัญญาไปสอนลูกหลาน และจะบอกลูกหลานว่าทุกอย่างเริ่มต้นทำดีได้ที่ตัวเรา และถ้าบังเอิญในอนาคตลูกหลานมีอาชีพ ที่ต้องเผยแพร่สิ่งต่างๆสู่สาธารณะชน ผมก็จะสอนพวกเขาเหล่านั้นว่า

"ถ้าลูกมีภาพ 2 ภาพจะนำเสนอต่อสาธารณะชน เช่น1.ภาพคนร้ายตัดคอคน 2.ภาพเด็กกตัญญูคนหนึ่งกราบเท้าพ่อแม่ ขอให้ลูกนำเสนอภาพหลังนะ เพราะภาพพจน์ต่างๆที่ออกมาน่าชื่นชมเอาเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆและเยาวชน ที่ควรปฏิบัติ"

ขออนุโมทนาบุญ แด่สาธุชนที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ด้วยเทอญ สาธุ

 

แล้วแต่คนมอง มองกันคนละมุม

 

พระทีดีนั้นยังมีอีกมาก พระที่ดูแลด้านนี้อยู่ควรมาถกกันมากกว่าที่จะประท้วงน่ะ สังคมสะท้อนออกมาในรูปแบบนี้นั้นเค้าไม้ได้มีเจตนาที่จะทำลายศาสนาหรอกแต่เค้า ตั้งใจที่จะเตือนสติพระบางกลุ่มว่าควรที่จะหาทางนำบุคคลเหล่านี้ออกจากศาสนาไป ซึ่งถ้ามีบุคคลเหล่านี้มากเท่าไรนั้นก็คือความเสื่อมถ่อยของศาสนาพุทธลงไปทุกวันนั้นเอง
เมื่อมีใครมาบอกข้อเสียของเรามักไม่มีใครค่อยชอบ แต่ที่เค้าเตือนก็เพราะหวังดี อย่างโบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา

 

คนนับถือศาสนาด้วยปาก
ไม่มีทางรับรู้ถึงความรู้สึก
ของผู้ที่เคารพศาสนาด้วยใจ
ไม่มีใครต้องการอะไรมากมายมากกว่า ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

 

มันก็เป็นไปตามวัฏจักรของมัน มันมีสูงสุด มันก็มีต่ำสุด มันไม่ต่ำสุดในวันนี้ มันก็ต่ำสุดในวันพรุ่งนี้อยู่ดี แล้วมันก็จะกลับไปสูงสุดเช่นที่มันเคยเป็น เพียงจะเป็นไปเมื่อไร อย่างไร เท่านั้นเอง

 

ภาพที่เขียนออกจากใจผู้เขียนแต่ความรู้สึกที่ดีหรือไม่ดีออกจากใจของผู้ชม
บางทีหรือบ่อยๆก็มานึกว่าเรื่องดีๆในด้านพุทธศาสนามีมามายแต่ไม่ได้รับการเผยแพร่แต่เรื่องแย่ๆกลับเป็นข่าวลงหน้าหนึ่งประจำ

 

การนับถือศาสนาใด ๆ อย่างน้อยก็ต้องมีศรัทธาที่จะนับถือศาสนานั้น ในศาสนาอื่น ๆ ทุกศาสนาเน้นในเรื่องนี้มาก ส่วนพุทธศาสนาของเราไม่ได้เน้นในเรื่องนี้มากนัก แต่อย่างน้อยศรัทธาก็เป็นเครื่องประกอบที่จะทำให้เกิดความเพียรในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างมีสติปัญญาได้ต่อไป สติ ปัญญา ศรัทธา ความเพียร ต้องประกอบกันเข้าอย่างสมดุลย์ จึงจะพากันบรรลุเป้าหมายในธรรมที่ควรปฏิบัติได้ ในกรณีอย่างนี้ผมว่า ดร.ปฐมพงษ์ ท่านกล่าวไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เพราะท่านได้อธิบายในกรณีของเหตุการณ์โลกได้อย่างถูกต้องตามหลักธรรมที่ยกมาทุกประการ แต่ไหนแต่ไรแม้ในกรณรีอื่น ๆ ที่ผ่านมาผมมักจะเห็นว่า บางท่านก็ยกเอาธรรมในเชิงโลกุตรมาอธิบาย เช่นกล่าวในเชิงศาสนาไม่เสื่อม มีแต่คนเสื่อมจากธรรม อธิบายไปถึงความยึดมั่นถือมั่น สิ่งที่มากระทบตา กระทบใจ จนจะออกไปทางสูญญตา ในทางส่วนตัวผมมองว่าจะพาหลงไปในโลกของโลกุตรธรรมจนมองไม่เห็นปัจจุบันธรรมที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นมากก็อาจจะถึงขั้นเห็นคนอื่นเขาเอารูปพระพุทธไปสกรีนบนกางเกงในก็ยังทำวางเฉยด้วยเข้าใจว่าเมื่อจิตของตนคิดว่าตนเองไม่เอาจิตไปจับสิ่งเหล่านั้นให้เป็นสาระแสดงว่าเรานี่ละได้บรรลุธรรมกิเลสเบาบางแล้วอะไรกันอย่างนั้นเลยหรือ บทบาททางโลกผู้เป็นพุทธศาสนิกชนก็ยังคงต้องแสดง ต้องประกอบอยู่ในธรรมเหล่านั้นเนื่องด้วยว่ายังอยู่ในสังคมมนุษย์ที่หลากหลาย หากเพิกเฉยต่อสิ่งที่จะทำให้ศรัทธาของผู้คนเสื่อมต่อพระรัตนตรัยอันจะทำให้บุคคลที่เกิดมาทีหลังไม่เกิดศรัทธา ขาดโอกาสที่จะได้รับทราบถึงธรรมอันจะนำความสุขมาสู่ชีวิต และอีกทั้งยังเป็นการบั่นทอนอายุของพระพุทธศาสนาซึ่งก็อาจจะขึ้น อันชื่อได้ว่าเป็นผู้ละทิ้งหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่ดีได้

 

การนำศาสนามาหากิน

บางคนพยายามจะนำเสนอศิลปะในแง่มุมต่างๆ แต่ลืมคิดไปหรือด้อยปัญญาก็ไม่ทราบได้ว่าการกระทำของตนนั้นส่งผลเสียต่อศาสนาอย่างไร และสร้างบาปกรรมให้ตนเองเช่นไร ผู้ที่จ้องจะทำลายศาสนาพุทธของเรานั้นก็มีเยอะแล้ว กอปรกับชาวพุทธปลอม ที่ไม่เคยศึกษา ปฎิบัติธรรมก็เยอะมากมาย ทำให้ไม่เข้าถึงแก่นคำสอนของพระพุทธองค์ จึงไม่มีปัญญาพิจารณาความจริงว่าศาสนามิได้เสื่อมไป แต่ใจของคนต่างหากที่เสื่อมไปจากศาสนา สังคมต่างหากที่เสื่อมไป เรื่องดีไม่โพทนาแต่กลับตอกย้ำมุมมืดของสังคม(รวมถึงสื่อมวลชนที่ไร้จรรยาบรรณด้วย) อย่างไรซะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ขอให้ทุกท่านช่วยกันปกป้องพระศาสนาด้วยเถิด ...สาธุ (b-wow)

 

น่าสงสารสัตว์โลกส่วนใหญ่

มองเห็นรูปแล้วใจปรุงแต่งให้เกิดความทุกข์ เกิดโทสะ ไม่เคยมองเห็นมัน

ไม่มีวันหลุดพ้น

 

อีกไม่นานกระทู้นี้ก็จะตกไป ตามกาลเวลาที่กัดกินแม้กระทั่งตัวของมันเอง

 

ด้วยความเคารพความคิดเห็นของทุกท่านนะครับ:
ส่วนตัวผมไม่เห็นว่าศาสนาโดยรวมมันจะเสียหายตรงไหน ผมเคยเห็นอะไรที่มันแย่กว่าภาพนี้มากมาย ศาสนาก็ยังคงอยู่มาได้อย่างเข้มแข็ง ผมก็ยังนับถือพุทธศาสนาเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังศึกษามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้ากรรมอยู่ที่เจตนาเราก็คงตัดสินใจแทนคนอื่นไม่ได้กับประเด็นนี้

 

ด้วยความเคารพความคิดเห็นของทุกท่านนะครับ:
ส่วนตัวผมไม่เห็นว่าศาสนาโดยรวมมันจะเสียหายตรงไหน ผมเคยเห็นอะไรที่มันแย่กว่าภาพนี้มากมาย ศาสนาก็ยังคงอยู่มาได้อย่างเข้มแข็ง ผมก็ยังนับถือพุทธศาสนาเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังศึกษามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้ากรรมอยู่ที่เจตนาเราก็คงตัดสินใจแทนคนอื่นไม่ได้กับประเด็นนี้

 

ด้วยความเคารพความคิดเห็นของทุกท่านนะครับ:
ส่วนตัวผมไม่เห็นว่าศาสนาโดยรวมมันจะเสียหายตรงไหน ผมเคยเห็นอะไรที่มันแย่กว่าภาพนี้มากมาย ศาสนาก็ยังคงอยู่มาได้อย่างเข้มแข็ง ผมก็ยังนับถือพุทธศาสนาเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังศึกษามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้ากรรมอยู่ที่เจตนาเราก็คงตัดสินใจแทนคนอื่นไม่ได้กับประเด็นนี้

 

อยากถาม ผู้รู้ ผู้ประเสิรฐทั้งหลาย ว่า........
.
จริงๆ แล้ว ภิกษุในภาพ ทำให้ ศาสนาเสื่อม.... หรือ..
.
คนวาดภาพ นั้นขึ้นมา ทำให้ ศาสนาเสื่อม...... กันหนอ...
.
ช่วยตอบที

 

ตอนแรกผมเองก็ไม่เห็นว่ามันเสียหาย กลับเห็นข้อดีด้วยซ้ำ
แต่คิดพอดูให้เป็นกลางแล้ว พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดได้

ถ้าคนส่วนใหญ่มีความเห็นถูก พวกที่อยู่ในสุขคติคงมากกว่าทุขคติไปแล้ว

ศีล ทั้้งห้าข้อต้องยกตัวอย่างพฤติกรรมอันเลวร้ายให้เห็น แล้วสอนว่ามันไม่ดี
ถ้าทุกอย่างมีแต่ความสุขสวยงามแล้วดี พระพุทธเจ้าท่านไม่ออกจากวังมาตรัสรู้ในโลกแห่งความจริงหรอกครับ

ถ้าเจริญสติ ใช้สติมองก็เห็นเป็นเพียงภาพนะครับ

แต่.....อย่างว่านะครับ

คนส่วนใหญ่จริงๆแล้วไม่แตกฉานถึงขั้นมองให้เป็นแบบนั้นได้ เห็นภาพนี้แล้วก็ปรุงแต่งเป็นอารมณ์

-ส่วนหนึ่งเกิดเหมารวมว่าพระสงฆ์ทั้งหมดไม่ดี เป็นเช่นนี้ไม่นับถือศาสนาดีกว่า
-ส่วนหนึ่งเกิดโทสะแล้วด่าว่า สาปแช่งผู้วาด ว่าทำลายศาสนา จริงๆแล้วนะครับ ถ้าท่านเห็นภาพนี้แล้ว สาปแช่งคนที่วาดเพื่อเชิดชูศาสนา
แค่เริ่มสาปแช่งท่านก็ทำลายศาสนาด้วยใจของท่านแล้ว

-มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถใช้สติพิจารณาให้เกิดประโยชน์ เช่นเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับสงฆ์
-ส่วนหนึ่ง มองเห็นเป็นแค่รูปมากระทบแล้วปล่อยวางทันที ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากที่ทำได้

สุดท้ายแล้ว ภาพนี้ก่อให้เกิดประโยชน์น้อยมาก และยังสร้างกรณีที่ทำให้แตกแยกในสังคมอีก

สรุปไม่วาดขึ้นมาจะดีกว่าครับในสังคมนี้


ไม่มีที่ใดรักษาศาสนาได้ดีเท่าใจของเราเองนะครับ รักษาใจเราให้ดีเถอะ

 

เห็นด้วยกับอาจารย์ ดร.ปฐมพงษ์ ค่ะ

 

ทำไมพระมหาโชไม่กล่าวว่า รูปที่ออกมาคิดจะเตือนพระสงฆ์ ถ้าออกมารูปเดียวก็ไม่เป็นไร เพราะศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าออกรูปมามากๆ มากกว่า 2 รูป ขึ้นไป จะไม่ดี จะทำให้เสื่อมเสียกับศาสนาได้