พระที่ยืน ขออาหาร + เงิน อยู่ตามตลาด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย TT_GOVERNMENT, 16 มีนาคม 2013.

  1. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    พระที่ยืน ขออาหาร + เงิน อยู่ตามตลาด แล้วมีรถ มารับ ตอนเช้าๆ

    ไม่ทราบว่า ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่
     
  2. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    พระจริงหรือเปล่าไม่รู้ หากินกับผ้าเหลืองเยอะครับ เดี๋ยวนี้เยอะจนกลมกลืนกับพระที่บวชแล้ว เห้นข่าวจับได้บ่อยๆ ทั้วพระจริง พระปลอม ระดับเจ้าอาวาสก็มี
     
  3. ผงธุลี

    ผงธุลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +2,494
    พระมีหลายแบบครับ

    พระจริง...........แต่ไม่แท้ (พระที่บวชจริงแต่ไม่ปฏิบัติตามวินัยสงฆ์)

    พระทั้งจริงทั้งแท้ (พระที่บวชจริงและปฏิบัติตามพระวินัย)

    พระปลอม (อันนี้ไม่ต้องขยายความ)

    ยุคปัจจุบันพระปลอมเต็มเมือง

    พระจริง....แต่ไม่แท้ก็มีมากมาย ที่สร้างความเสื่อมให้แก่พระศาสนา

    พระทั้งจริงทั้งแท้.......มีน้อยและหายากเหลือเกิน ท่านใดที่พบและเจอ ก็ขอให้บำรุง อุปฐากด้วยนะครับ

    ผมอยากให้มีกฏหมายออกมาสำหรับ พระที่ไม่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือทำความเสื่อม

    เสียแก่พระศาสนา ผู้บวชหรือนักบวชจะได้ตะหนักกันดีว่า ถ้าทำไม่ดีมีโอกาสติดคุกได้

    ไม่อย่างนั้ทุกวันนี้ทำความเสื่อม ก็ได้แต่สึกออกไปเท่านั้น แล้วก็ไปบวชใหม่
     
  4. mazima

    mazima Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +49
    กรณีแบบนี้ ของที่พระนำมาที่วัด แล้วญาติโยม นำไปบริโภคหลังจากทีเทกองรวมกันแล้ว
    โดยยังไม่มีการสวด หรือพิจารณาก่อน โดยเจ้าอาวาสอนุญาตให้นำไปกินได้ โดยท่านจัดหาให้เอง แบบนี้ผิดหรือไม่ ?
     
  5. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    อยากทราบคำตอบเหมือนกันค่ะ
    แต่ก็คิดว่า ในสมัยนี้ การเดินทางค่อนข้างลำบาก ถ้าให้พระท่านเดินไกลๆ นี่จะยังไงนะ
     
  6. Art_ie

    Art_ie สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +19
    ตลาดปากเกร็ดตอนเช้าๆครับ อื้อเลย
     
  7. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 349
    ปิณฑจาริกวัตร

    [๔๒๖] สมัยนั้น ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรนุ่งห่มไม่เรียบร้อย
    ไม่มีมรรยาทเที่ยวบิณฑบาต ไม่กำหนดเข้าไปสู่นิเวศน์บ้าง ไม่กำหนดออกไป
    บ้าง รีบร้อนเข้าไปบ้าง รีบร้อนออกไปบ้าง ยืนไกลเกินไปบ้าง ยืนใกล้
    เกินไปบ้าง ยืนนานเกินไปบ้าง กลับเร็วเกินไปบ้าง ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต
    เป็นวัตรรูปหนึ่ง ไม่กำหนดเข้าไปสู่นิเวศน์ เธอเข้าใจว่าประตูเข้าไปสู่ห้องน้อย
    แห่งหนึ่ง ในห้องน้อยนั้นมีหญิงเปลือยกายนอนหงายอยู่ เธอได้เห็นหญิงนั้น
    แล้ว รู้ว่านี้ไม่ใช่ประตู นี้เป็นห้องน้อย จึงออกจากห้องน้อยนั้นไป สามีของ
    หญิงนั้นได้เห็นหญิงนั้นเปลือยกายนอนหงายก็สำคัญว่า ภิกษุนี้ประทุษร้าย
    ภรรยาของเรา จึงจับภิกษุนั้นทุบตี ในทันใด หญิงนั้นตื่นขึ้น เพราะเสียงนั้น
    จึงถามสามีว่า นายท่านทุบตีภิกษุนี้ทำไม เขาตอบว่า เพราะภิกษุนี้ประทุษร้าย
    เธอ นางตอบว่า นาย ภิกษุนี้ไม่ได้ประทุษร้ายฉันเลย ท่านไม่ได้ทำอะไร
    แล้วให้ปล่อยภิกษุนั้น ภิกษุนั้นไปอารามบอกเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย บรรดา
    ภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย. . .ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุผู้
    เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรจึงนุ่งห่มไม่เรียบร้อย ไม่มีมรรยาทเที่ยวบิณฑบาต ไม่
    กำหนดเข้าไปสู่นิเวศน์บ้าง ไม่กำหนดออกไปบ้าง รีบร้อนเข้าไปบ้าง รีบร้อน
    ออกไปบ้าง ยืนไกลเกินไปบ้าง ยืนใกล้เกินไปบ้าง ยืนนานเกินไปบ้าง
    กลับเร็วเกินไปบ้าง จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
    พระผู้มีพระภาคเจ้า. ..ทรงสอบถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า
    . . . จริงหรือ

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า



    [๔๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร คิดว่า

    จักเข้าบ้านในบัดนี้ เมื่อปกปิดมณฑลสาม พึงนุ่งให้เป็นปริมณฑล คาดประ

    คดเอวห่มผ้าซ้อน ๒ ชั้น กลัดลูกดุม ล้างบาตรแล้ว ถือเข้าบ้านโดยเรียบร้อย

    ไม่ต้องรีบร้อน พึงปกปิดกายด้วยดีไปในละแวกบ้าน พึงสำรวมด้วยดีไปในละ

    แวกบ้าน พึงมีตาทอดลงไปในละแวกบ้าน อย่าเวิกผ้าไปในละแวกบ้าน อย่า

    หัวเราะลั่นไปในละแวกบ้าน พึงมีเสียงน้อยไปในละแวกบ้าน อย่าโยกกายไป

    ในละแวกบ้าน อย่าไกวแขนไปในละแวกบ้าน อย่าโคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน

    อย่าค้ำกายไปในละแวกบ้าน อย่าคลุมศีรษะไปในละแวกบ้าน อย่าเดินกระโหย่ง

    ไปในละแวกบ้าน เมื่อเข้านิเวศน์พึงกำหนดว่า จักเข้าทางนี้ จักออกทางนี้ อย่า

    รีบร้อนเข้าไป อย่ารีบร้อนออกเร็วนัก อย่ายืนไกลนัก อย่ายืนใกล้นัก อย่ายืน

    นานนัก
    อย่ากลับเร็วนัก พึงยืนกำหนดว่า เขาประสงค์จะถวายภิกษา หรือไม่

    ประสงค์จะถวาย ถ้าเขาพักการงาน ลุกจากที่นั่งจับทัพพี หรือจับภาชนะ หรือตั้ง

    ไว้พึงยืนด้วยคิดว่า เขาประสงค์จะถวาย เมื่อเขาถวายภิกษา พึงแหวกผ้าซ้อนด้วย

    มือซ้าย พึงน้อมบาตรเข้าไปด้วยมือขวา แล้วพึงใช้มือทั้งสองประคองบาตรรับ

    ภิกษา และไม่พึงมองดูหน้าผู้ถวายภิกษา พึงกำหนดว่าเขาประสงค์จะถวายแกง

    หรือไม่ประสงค์จะถวาย ถ้าเขาจับทัพพี จับภาชนะ หรือตั้งไว้ พึงยืนอยู่ด้วย

    คิดว่า เขาประสงค์จะถวาย เมื่อเขาถวายภิกษาแล้ว พึงคลุมบาตรด้วยผ้าซ้อน

    แล้วกลับโดยเรียบร้อย ไม่ต้องรีบร้อน พึงปกปิดกายด้วยดี ไปในละแวกบ้าน

    พึงสำรวมด้วยดีไปในละแวกบ้าน พึงมีตาทอดลงไปในละแวกบ้าน ไม่พึงเวิก

    ผ้าไปในละแวกบ้าน ไม่พึงหัวเราะลั่นไปในละแวกบ้าน พึงมีเสียงน้อยไปใน

    ละแวกบ้าน ไม่พึงโยกกายไปในละแวกบ้าน ไม่พึงไกวแขนไปในละแวก

    บ้าน ไม่พึงโคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน ไม่พึงค้ำกายไปในละแวกบ้าน ไม่พึง

    คลุมศรีษะไปในละแวกบ้าน ไม่พึงเดินกระโหย่งไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดกลับ

    บิณฑบาตจากบ้านก่อน ภิกษุนั้น พึงปูอาสนะไว้ พึงจัดตั้งน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า

    กระเบื้องเช็ดเท้า พึงล้างภาชนะรองของฉันตั้งไว้ พึงตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ไว้ ภิกษุใด

    กลับบิณฑบาตจากบ้านทีหลัง ถ้าอาหารที่ฉันแล้วยังเหลืออยู่ ถ้าจำนงก็พึงฉัน

    ถ้าไม้จำนงก็พึงเททิ้ง ในที่ปราศจากของเขียวสด หรือพึงเทลงในน้ำที่ไม่มีตัว

    สัตว์ ภิกษุนั้นพึงรื้อขนอาสนะ เก็บน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้า พึง

    ล้างภาชนะรองของฉัน เก็บไว้ พึงเก็บน้ำฉัน น้ำใช้ พึงกวาดโรงฉัน ภิกษุ

    ใดเห็นหม้อน้ำฉัน หม้อน้ำใช้ หรือหม้อน้ำชำระว่างเปล่า ภิกษุนั้นพึงจัดหาไป

    ตั้งไว้ ถ้าเป็นการสุดวิสัย พึงกวักมือเรียกเพื่อนมา ให้ช่วยกันจัดตั้งไว้ แต่

    ไม่พึงเปล่งวาจาเพราะข้อนั้นเป็นเหตุ

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นวัตรของภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร..



    พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ในพระไตรปิฏก มีการกล่าวไว้ ถึง วิธีวินิจฉัย บุญ

    โดย มีพระท่านหนึ่ง เป็นใหญ่ในอาวาส แต่ อาวาสนั้น ตั้งใกล้
    กับ สำนักนางโลม

    ทุกวัน ก็จะต้องมีการออกมาบิณฑบาท และ แน่นอนที่ หญิง
    สาวที่สวยที่สุด ที่คนนิยมที่สุด ในสำนีกนั้น เห็น ผ้าเหลือง เห็น
    กริยากิจที่เป็นบุญ ก็หมายจะทำบุญ

    ทุกเช้า หญิงนางโลมก็จะมาตักบาตร

    ทุกเช้า พระที่มาบิณฑบาตรก็ต้องเจอโลกที่เขาว่างดงามทุกวัน

    สุดท้าย

    หญิงที่ทำบุญ แม้ชาติกำเหนิดจะลำบาก ต้องไปทำอาชีพที่คน
    ส่วนใหญ่ตำหนิ แต่เมื่อตายไป หญิงคนนั้นได้เกิดเป็นเทพในสวรรคิ์
    มีความรุ่งเรืองมาก มีรัศมีผ่องใสมาก

    ส่วน พระที่มาบิณฑบาตร เมื่อเจอโลกที่สวยงามเข้าทุกวัน ก็
    ประสบกับความประมาทในธรรม ตายไปแล้วก็ได้ชาติกำเหนิด
    อันต่ำ

    สรุปคือ

    บุคคลที่มารับทาน จะเป็น พระมีศีลบริสุทธิก็ดี ศีลไม่บริสุทธิก็ดี เป็น
    คนทั่วไปก็ดี เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ดี กริยาบุญที่คนตั้งใจประกอบ ย่อม
    ให้อานิสงค์ทีดีตอบแทนอยู่แล้ว

    ส่วนคนที่มีฐานะปัจจุบันดี มีหน้าตาดี มีปากดี ! หาก ประมาทในธรรม
    แล้วไซร้ ก็ใช่ว่า ฐานะในปัจจุบันจะทำ คงความได้ดิบได้ดี ไว้ได้

    ***************

    อนึ่ง พระในสมัยพุทธกาล บางองค์เคยก่อกรรมไว้กับ มด คือ มด
    มันมากินขนมปังที่ตนตั้งทิ้งเอาไว้ ด้วยความตระหนี่ ในทาน ได้
    เอาไฟมาเผามดให้ตายจนหมด แล้วเอาขนมปังของตนกลับคืน

    พระท่านนี้ สามารถภาวนาจนสำเร็จอรหันต์ แต่ทว่า กรรมที่เคย
    ตระหนี่ถี่เหนียวในทาน ฆ่ามดเพื่อเอาขนทปังของๆตน กลับคืน ก็
    ส่งผลให้ แม้จะเป็น พระอรหันต์มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เป็นเนื้อนา
    บุญให้กับสัตว์ทุกจักรวาลได้ แต่สุดท้าย ก็ต้องเป็น พระที่ไม่
    สามารถกินได้อิ่ม พอได้อาหารมาในบาตร ตักกินได้คำเดียว ข้าว
    และอาหารในบาตรจะอันตรธานหายไป

    ดังนั้น

    บุญมาก บุญน้อย มีเท่าไหร่ ก็ไม่พอ หากเคย ก่อกรรมเอาไว้
    แล้ว กรรมนั้นเขาจะส่งผลขึ้นมา อะไรก็หยุดไม่ได้ จึงไม่ควร
    ประมาทในธรรม ในทาน ในศีล ในการภาวนา อย่าถือว่าตัวดี
    อย่าถือว่าปากดี ปากสวย

    *****

    สรุปอีกที


    " ทำบุญกันเต๊อะ "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2013
  9. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    นั้นสิ ทำบุญกันเถอะ ทำตามกำลัง ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่าไปว่าท่านเลย

    บุญที่เกิดจากการให้ที่บริสุทธิ์ ย่อมส่งผลที่ดี ไม่ทำก็ไม่เป็นไร รักษาใจให้เป็นปกติ

    อันนี้สิ ใช่เลย! !
     
  10. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,074
    ค่าพลัง:
    +638
    แถวบ้านมีพระขึ้นรถกระบะจากวัดมาลงที่หมู่บ้าน แล้วก็เดินบินทบาตร เสร็จแล้วก็ขึ้นกระบะกลับวัด เป็นแบบนี้มานานแล้ว เนื่องจากหมู่บ้านผมจากปากทางเข้าหมู่บ้านถึงตลาดในหมู่บ้านไกล 1.1 กิโล จากปากทางหมู่บ้านไปถึงวัดก็น่าจะ 1 กิโลกว่า ๆ จะให้พระเดินมาบินทุกวันก็คงไม่ไหว ยุคเปลี่ยนไปครับ คนเราทุกวันนี้ตื่นเช้ามาทำงานให้ทันก็แย่แล้ว มีพระมายืนใกล้ ๆ แล้วให้เราทำบุญ มันก็ดีไม่ใช่หรือ แต่คงไม่ยืนตั้งแต่เช้ายัน 10 โมง แบบนี้ก็รับไม่ได้ สายกลางดีกว่าไหม
     
  11. cleaner

    cleaner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +394
    ทางสายกลางใช้ได้ทุกสถานะการณ์ ทุกกริยาการกระทำอยู่ที่เจตนา ฟ้ารู้ดินรู้
     
  12. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ประเทศไทย เป้นประเทศที่หากินกับความเชื่อได้ง่ายครับ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ใน พระวินัยปิฏก มีความตอนหนึ่ง เกี่ยวกับ การทำทาน ต่อ พระ

    พระ แน่นอนว่า เอาเข้าจริงๆ จะมีอยู่สองพวก ที่บวชอยู่ คือ พวก
    หนึ่งเป็น ธรรมวาที ส่วนอีกพวกหนึ่ง เป็น อธรรมวาที

    ธรรมวาที คือ พวกที่กล่าวคำสอนไม่ผิด

    ส่วน พวกอธรรมวาที คือ พวกที่กล่าวธรรมผิด และ พวกนี้
    เวลาตายไปจะต้อง ตกนรกหมกไหม้ยาวววววววนานนนนนน
    กว่า พวกเดียรถีย์ที่ไม่ได้ปรารภว่าเป็นพุทธมามะกะ แสนโกฏิเท่า

    เรียกว่า เป็นเดียรถียทำผิดมีนรกเป็นที่ไป แต่ ยังได้รับโทษน้อย
    กว่า คนในธรรมวินัย(ปรารภตัวเองเป็น พุทธมามะกะ) แต่ กลับทำ
    อธรรมวาที

    อนิถบาทเศรษฐี กับ นางวิสาขา ซึ่งเป็น โสดาบันแล้ว ได้ทูลถาม
    พระพุทธองค์ว่า จะให้ทำทาน ตักบาตร คนที่ทำ อธรรมวาที เหล่า
    นั้นไหม

    พระพุทธองค์ก็กล่าวตอบว่า อย่าว่าแต่จะตักบาตรเลย ต่อให้ พวก
    อธรรมวาที แสดงธรรมให้ฟัง เราก็ต้องฟัง ห้ามปฏิเสธการฟังธรรม

    เพราะอะไร

    เพราะว่า คนเรา หรือ ตัวเรา หรือ ตัวคนทำบุญ เวลาพิจารณาเรื่อง
    " โลภ โกรธ หลง " ย่อมศึกษาเองได้ รู้ได้ด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวอะไร
    กับคนอื่น

    ดังนั้น การที่ไปดำริว่า หากไปทำบุญกับพระทุศีล เดียรถีย์ เดรัจฉาน
    แล้ว เกรงว่าจะพิจารณาธรรมไม่ได้ อันนี้ เรียกว่า คนๆนั้น ยังห่าง
    ไกลการฟังธรรม

    เพราะถ้า ใกล้พอ ฟังธรรมได้เข้าใจ ก็ต้อง รู้อยู่แก่ใจ ว่า โลภ โกรธ
    หลง คุณ และ โทษ ของธรรมสามอย่างนี้ ทุกๆคน พิจารณาได้ด้วย
    ปัญญาอันยิ่งของตัวเอง

    บุญจากการภาวนา จึงเป็นอิสระจาก โลกธรรมทุกชนิด

    บุญจากการภาวนา ชนะบุญทั้งปวง ( บาป ไม่ต้องกล่าวถึง ลองว่า ชนะบุญได้ ก็เพียงพอแล้ว )

    บุญจากการภาวนา อาศัยบัญญัติทุกชนิด เพื่อเข้าถึง การฟังได้

    ธรรมที่ควรฟังอย่างยิ่งคือ " ธรรมสังเวช " ( ซึ่ง เกิดที่ตน มี
    ตนเป็นแหล่งกำเหนิด มีตนส่งไปเผียรเผา )

    พอฟังธรรมเป็ม จะเป็น คนไม่อิ่มในกุศลทั้งปวง

    ถ้ายังฟังธรรมไม่เป็น เราจะเลือก กิเลสหลอกให้สร้างเงื่อนไข

    เงื่อนไขเกิดเมื่อไหร่ จิตก็ส่งส่าย หมดความองอาจในธรรม โดน
    กิเลสหลอกให้สร้างเงื่อนไข เพื่อตัดกำลังจิต ป้อแป้ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2013
  14. visanu

    visanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2005
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +197
    ที่สะพานเหล็ก เดินบิณทบาตรเกมเยอะเหมือนกันคับ
     
  15. ดวงเดือนโอ

    ดวงเดือนโอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +846
    คนส่วนใหญ่จะยินดีกับพระธุดงค์เพราะเชื่อมั่นว่าท่านเป็นพระปฏิบัติ แต่ในกรุงเทพมีพระที่นุ่งห่มจีวรแบกกลดแบบพระธุดงค์มาบิณฑบาตรใจกลางเมืองกรุงตามตลาดนัดทุกวันเสาร์อาทิตย์ดูแปลกมาก แม้บางครั้งเป็นช่วงเข้าพรรษาก็ยังแบกกลดมาบิณฑบาตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตลาดนัดของหมู่บ้านการเคหะคลองจั่นจะมีพระธุดงค์มามากเหลือเกิน มีพระภิกษุนั่งในรถกระบะประพรมน้ำมนตร์ให้คนมาร่วมทำบุญ มีพระจีนหลายรูป และมีชีพราหมณ์ปลอมที่มาแจกซองทำบุญประจำอยู่ 2 คน ที่กล้าบอกว่าชีพราหมณ์ปลอมเพราะทั้งสองคนแจกซองแถบรามคำแหงด้วยและมีอยู่วันหนึ่งได้โต้เถียงกันเรื่องแบ่งเงินไม่ลงตัว พอดีเพื่อนได้ยินและจำได้ว่านี่คือชีพราหมณ์ที่เคยพบเห็นที่ตลาดนัดการเคหะคลองจั่น มีพระภิกษุต่างถิ่นนำเณรหรือพระเดินเป็นแถวมารับบิณฑบาตรมีการถือกล่องไม้สำหรับให้ญาติโยมทำบุญ ซึ่งเท่าที่ทราบแบบนี้กรมศาสนาไม่อนุญาตให้ทำ นึกแปลกใจอยู่ว่าทำไมไม่มีใครจากกรมศาสนาไปตรวจบ้าง มูลนิธิต่างๆก็มาเี่รี่ยไรมากมาย ไม่อยากให้มิจฉาชีพหากินกับผ้าเหลืองทำให้พระพุทธศาสนาของเราต้องมัวหมอง และไม่อยากให้ใครมาใช้วิธีการหลอกลวงมาทำลายศรัทธาคนที่ตั้งใจจะมาทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2013
  16. Pranikai

    Pranikai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +21
    ผิดวินัยแน่นอน100%ครับ
     
  17. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    555555555555+

    สงสัย สมัยนี้ คงต้องให้ พระเข้าร้านอาหาร ซื้อ สั่งอาหาร รับประทานเอง
     
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ญาติ โยม เค้าจะทำบุญ กุศล ทำทานของเค้า

    ถ้าไม่มีพระยืนคอยรับ จะให้ไปทำที่ไหน

    หรือจะอ้างว่า ก็ให้รอพระ ที่เดินไปเดินมา หรือให้ไปใส่บาตรที่วัด ? คงไม่ต้องไปทำงานทำการกันแล้วละมั้ง

    คนบางคนนะ อยากจะบอกว่า ใจตัวเองไม่ดู ไปดูใจคนอื่น

    คนอื่นเค้า ทำบุญ กุศล นี่ตัวเองไม่ได้ทำไม่ได้ใส่ด้วยตัวเองแล้ว

    ยังไปตำนิกรรม การกระทำของคนอื่นอีก

    ถ้าเกิดช่วยที่ กำลังคิดอกุศลกรรม อยู่ เกิดลูกปืนตกใส่หัวตายขึ้นมา คงไม่ต้องบอกว่าไปตรงไหน เหอๆ

    พระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ห่มเหลือง ก็แล้วแต่ ถึงจะยืน นั่ง อยู่ ก็ยังเป็น สาวก เป็นพระอยู่นั่นเอง


    ไม่ใช่ใครที่ไหน ใครปลอมตัวมาเป็นพระปลอมๆ

    .

    ลองพิจารณาก็แล้วกัน หรือจะให้เหมือนบางประเทศ ขนาดจะหาพระ หาพระจะใส่บาตร ยังไม่มีให้ใส่

    หรือบางประเทศ มีพระให้ใส่ แต่ไม่มี ญาติโยม ที่ไหนใส่บาตร ให้พระ

    .
    ลองถามตัวเองดูนะ

    ซื้อโทรศัพท์ ซื้อรถ ซื้ออาหารที่ตัวเองอยากกิน ดูหนังฟังเพลง ใช้เงินเลี้ยง ... ซื้อคอม ซื้อกล้อง บลาๆๆ กินเหล้า เที่ยว ใช้เงินเรื่องพวกนี้ได้ ไม่เห็นอ้างโน้นอ้างนี้กันเลย


    แล้วพอเห็นคน ทำบุญ บริจาคทาน เงิน ให้พระ จะเป็นจะตาย ขึ้นมาให้ได้ อย่างนั้นอย่างนี้ เหอๆ

    เห็นพระยืนบิณฑบาตร ก็ว่า ยืนขออาหาร + ขอเงิน

    ลองถามตัวเองดู ว่า ใน 1 วัน กำลังใจเท่าคนที่เค้าใส่บาตร บริจาคทาน เงิน บ้างไหม คนอื่น ญาติโยม เค้าทำบุญ แล้วลองมองตัวเอง ว่า ทำอะไรอยู่



    ลองถามตัวเองดู ว่า กำลังใจอยู่ในระดับไหน

    ทำบุญอะไรก็แล้วแต่ จะทำบุญ ทำทานกับใครก็แล้วแต่ ขึ้นว่าทำความดี ไม่มีชั่ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  20. poopae191

    poopae191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +1,872
    ยืนขอ อาหารเลยเหรอคะ pity_pigpity_pigpity_pigpity_pigpity_pig
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...