ตะลึง! พระบรมฉายาลักษณ์ “ในหลวง” ไม่ถูกไฟไหม้ แต่ห้องวอดทั้งหลัง

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย 5314786, 13 มีนาคม 2013.

  1. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวศรีราชา - เพลิงไหม้แคมป์คนงานข้างโรงกลั่นน้ำมัน เสียหายกว่า 20 ห้อง ขณะที่พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงในกองเพลิงกลับไม่ไหม้ คาดว่าเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

    เมื่อเวลา 13.45 น. วันนี้ (13 มี.ค.) นายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันสาธารณภัย เทศบาลนครแหลมฉบัง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้แคมป์คนงานบริษัท สว็อต คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซับคอนแทรกต์ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ จึงไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงของเทศบาล ซึ่งทางโรงกลั่นได้ส่งรถดับเพลิงมาสนับสนุน ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง

    จากการตรวจสอบพบว่า ไฟไหม้ห้องพักไป 23 ห้อง ไม่พบผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต เนื่องจากเป็นช่วงที่คนงานออกไปทำงานกันหมด โดยต้นเพลิงมาจากห้องที่ 5/2 ซึ่งน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จากนั้นได้ลุกลามไปยังห้องข้างใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเทศบาลได้ประสานบริษัทช่วยเหลือคนงาน เช่น ที่พักชั่วคราว

    นายเกรียงไกร นาคะพงศ์ ผู้จัดการแผนกบริหารงานชุมชน เครือไทยออยล์ กล่าวว่า แคมป์คนงานตั้งอยู่ใกล้กับรั้วของทางโรงกลั่น แต่เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อโรงกลั่น

    <iframe width="640" height="480" src="http://www.youtube.com/embed/O7nCNJBZ7E8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    นายสมบูรณ์ ศรีแก้ว คนงานรายหนึ่งกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ได้รับแจ้งจากเพื่อนข้างห้องว่า ห้องพักของตนเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่ที่ไซต์ จึงรีบเดินทางมาเพื่อเก็บข้างของที่ค่า แต่พอมาถึงก็พบว่าไฟไหม้ห้องหมดแล้ว แต่พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งติดไว้ที่ฝาพนังห้องพักไม่ถูกไฟไหม้ ตนเองก็ขนลุก เพราะถึงแม้ว่าทรัพย์สินภายในห้องพักเสียหายหมด แต่ยังเหลือพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงที่เราเคารพรัก และเทิดทูนอยู่

    ที่มาจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000031059
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    มีหลายครั้งที่มีเหตุการณ์แบบนี้ แต่พระบรมฉายาลักษณ์ไม่เสียหายทั้งๆที่เป็นเพียงกระดาษปฎิทินเท่านั้น บารมีท่านเทียบเท่าพระโพธิสัตว์ สาธุ ทรงพระเจริญ
     
  3. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    บารมีของพระองค์ท่านหาใดเปรียบ พระโพธิสัตว์มาเกิดโดยแท้ ไม่ว่าท่านจะทรงเสด็จเหยียบย่างลงที่ตรงไหนที่นั่นก็ร่มเย็นเป็นสุขเสมอ ขอกราบเบื้องพระบาทพระองค์ท่าน ขอให้ท่านทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  4. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    "ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"
    พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

    สำหรับปฐมเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกล่าวความเช่นนี้ ก็เกิดมาจากการที่ท่านได้กล่าวเตือนญาติโยมบางรายที่ไปนมัสการว่า
    "การ ที่คุณเอาธนบัตรที่มีรูปในหลวงไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนั้น ไม่ดีเลย เพราะในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ การเอาพระรูปของท่านไปไว้ในที่ต่ำอย่างนั้น ย่อมบังเกิดโทษเป็นอันมาก ทีหลังอย่าพากันทำ..!!?!"

    ในหลวงกับ"พุทธภูมิ"

    --------------------------------------------------------------------------------






    ในทางพระพุทธศาสนา มีการบำเพ็ญบารมี 2 แนวทางหลัก คือ

    1. พุทธภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
    (หรือ เรียกว่า บำเพ็ญบารมีแบบโพธิสัตว์)

    2. สาวกภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระอรหันต์สาวก

    การสนทนาธรรม โดยทั่วไป ส่วนมากเป็นในแนวทางสาวกภูมิ
    เพราะ มีจำนวน ผู้ปรารถนาสาวกภูมิ มากกว่า พุทธภูมิ อย่างมากๆ

    แต่การบำเพ็ญบารมีของพุทธภูมินั้น ก็มีธรรมะหลายประการ ที่น่าสนใจศึกษา
    เช่น นิทานชาดกอดีตชาติของพระพุทธเจ้า, บารมี 30 ทัศ, อัธยาศัยพระโพธิสัตว์ ฯลฯ
    ซึ่งจะเป็นประโยชน์ แก่ ทั้งท่าน พุทธภูมิ และ สาวกภูมิ





    จาก การที่ได้หาโอกาสศึกษาและมีวาสนาได้กราบไหว้ใกล้ชิด พระอัจฉริยเถราจารย์ผู้ทรงคุณธรรมเบื้องสูงจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ได้รับการบอกกล่าวถึงเรื่องอันพิเศษๆเป็นอันมาก ที่นอกเหนือจากสามัญมนุษย์ทั่วไป ซึ่งไร้ซึ่งญาณปรีชาจะพึงทราบชัด ให้ถูกถ้วนตามความเป็นจริงได้เป็นอันเอนกปริยาย ดังที่ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะ และความรู้รอบตัวต่างๆเป็นธรรมวิทยาทานมาโดยลำดับ ความย่อมเป็นที่แจ้งใจอยู่โดยทั่วไปแล้วนั้น

    บัดนี้ เป็นกาลอันสมควรแล้ว ที่จะได้นำเอาเรื่องราวที่บรรดาพระอริยคณาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้เคยกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแสดง เพื่อน้อมถวายความจงรักภักดีแด่พระมหาธรรมราชา ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแห่งประชาชาติไทยพระองค์นั้น และเพื่อยังความเป็นสวัสดิมงคลอันยิ่ง ให้บังเกิดขึ้นแก่แผ่นดินและมหาชนทั้งหลายสืบไปตราบชั่วจิรัฏฐิติกาล...







    "ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"
    พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

    สำหรับปฐมเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกล่าวความเช่นนี้ ก็เกิดมาจากการที่ท่านได้กล่าวเตือนญาติโยมบางรายที่ไปนมัสการว่า
    "การ ที่คุณเอาธนบัตรที่มีรูปในหลวงไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนั้น ไม่ดีเลย เพราะในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ การเอาพระรูปของท่านไปไว้ในที่ต่ำอย่างนั้น ย่อมบังเกิดโทษเป็นอันมาก ทีหลังอย่าพากันทำ..!!?!"








    "พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย.."
    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่



    ครั้งหนึ่ง มีผู้พูดถึง"ผู้ยิ่งใหญ่"ระดับประเทศบางท่านให้หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า"เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์เบื้องหน้า"ฟัง สังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน"เฉย"มากๆ ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า

    "เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากเหมือนกับในหลวงหรอก..!!!!!"



    ในหลวงกับ"พุทธภูมิ"

    --------------------------------------------------------------------------------






    ในทางพระพุทธศาสนา มีการบำเพ็ญบารมี 2 แนวทางหลัก คือ

    1. พุทธภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
    (หรือ เรียกว่า บำเพ็ญบารมีแบบโพธิสัตว์)

    2. สาวกภูมิ
    คือ ผู้บำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาสำเร็จเป็นพระอรหันต์สาวก

    การสนทนาธรรม โดยทั่วไป ส่วนมากเป็นในแนวทางสาวกภูมิ
    เพราะ มีจำนวน ผู้ปรารถนาสาวกภูมิ มากกว่า พุทธภูมิ อย่างมากๆ

    แต่การบำเพ็ญบารมีของพุทธภูมินั้น ก็มีธรรมะหลายประการ ที่น่าสนใจศึกษา
    เช่น นิทานชาดกอดีตชาติของพระพุทธเจ้า, บารมี 30 ทัศ, อัธยาศัยพระโพธิสัตว์ ฯลฯ
    ซึ่งจะเป็นประโยชน์ แก่ ทั้งท่าน พุทธภูมิ และ สาวกภูมิ





    จาก การที่ได้หาโอกาสศึกษาและมีวาสนาได้กราบไหว้ใกล้ชิด พระอัจฉริยเถราจารย์ผู้ทรงคุณธรรมเบื้องสูงจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ได้รับการบอกกล่าวถึงเรื่องอันพิเศษๆเป็นอันมาก ที่นอกเหนือจากสามัญมนุษย์ทั่วไป ซึ่งไร้ซึ่งญาณปรีชาจะพึงทราบชัด ให้ถูกถ้วนตามความเป็นจริงได้เป็นอันเอนกปริยาย ดังที่ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะ และความรู้รอบตัวต่างๆเป็นธรรมวิทยาทานมาโดยลำดับ ความย่อมเป็นที่แจ้งใจอยู่โดยทั่วไปแล้วนั้น

    บัดนี้ เป็นกาลอันสมควรแล้ว ที่จะได้นำเอาเรื่องราวที่บรรดาพระอริยคณาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้เคยกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแสดง เพื่อน้อมถวายความจงรักภักดีแด่พระมหาธรรมราชา ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแห่งประชาชาติไทยพระองค์นั้น และเพื่อยังความเป็นสวัสดิมงคลอันยิ่ง ให้บังเกิดขึ้นแก่แผ่นดินและมหาชนทั้งหลายสืบไปตราบชั่วจิรัฏฐิติกาล...







    "ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"
    พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร

    สำหรับปฐมเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯกล่าวความเช่นนี้ ก็เกิดมาจากการที่ท่านได้กล่าวเตือนญาติโยมบางรายที่ไปนมัสการว่า
    "การ ที่คุณเอาธนบัตรที่มีรูปในหลวงไปใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนั้น ไม่ดีเลย เพราะในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์ การเอาพระรูปของท่านไปไว้ในที่ต่ำอย่างนั้น ย่อมบังเกิดโทษเป็นอันมาก ทีหลังอย่าพากันทำ..!!?!"








    "พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย.."
    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่










    ครั้งหนึ่ง มีผู้พูดถึง"ผู้ยิ่งใหญ่"ระดับประเทศบางท่านให้หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า"เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์เบื้องหน้า"ฟัง สังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน"เฉย"มากๆ ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า

    "เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากเหมือนกับในหลวงหรอก..!!!!!"








    ในหลวงสนทนาเรื่อง"พุทธภูมิ"กับหลวงตามหาบัว

    "...เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดคือ เมื่อปี พ.ศ.2531 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จไปนิมนต์หลวง ตาไปในงานในวัง ปกติหลวงตาท่านไม่ค่อยไปไหน แต่ตอนที่พระเจ้าอยู่หัวฯ ไปนิมนต์ ท่านไปนิมนต์ด้วยพระองค์เอง เรายังจำได้..

    วันนั้นเป็นวันที่ 7 มกราคม 2531 เป็นปีเฉลิมราชรัชมังคลาภิเษกที่ทรงครองราชย์มากกว่ากษัตริย์ใด ในประวัติ ศาสตร์ไทย ท่านนิมนต์หลวงตาเข้าวัง มาเป็นขบวนใหญ่ หลวงตาท่านจะอยู่ที่กุฏิ ท่านให้เราควบคุมดูแลญาติโยม ดูแลพวกทหารที่มา พระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จมาตอน 6 โมงเย็น

    เมื่อขบวนพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาถึง เรายืนตรงนี้ ผู้ว่าฯ สายสิทธิ์ยืนตรงนี้ หมออวย แล้วใครต่อใครยืนเป็นแถวรอรับเสด็จ แล้วท่านก็ขึ้นไปข้างบนซึ่งหลวงตารอท่านอยู่แล้ว ส่วนเราก็อยู่ตรงบันได ส่วนหลวงตาอยู่ข้างบน ที่ขึ้นไปก็มีพระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จครบหมดเลย พระราชินี พระบรมฯ พระเทพฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ หมดทั้งครอบครัวเพื่อจะนิมนต์หลวงตาไปงานพิธีในวัง

    พอพระองค์ท่านกราบหลวงตาเสร็จ ท่านก็ถวายคำถามแรก ( พระเจ้าอยู่หัวเรียกหลวงตาว่า "หลวงปู่" )
    "หลวงปู่... สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร" โอ้... พระเจ้าอยู่หัวถามปัญหาหลวงตาขนาดนี้

    หลวงตาตอบว่า...
    "พุทธ ภูมิ ก็เหมือน ดั่งเรานั่งรถไฟ นั่งรถไฟไปเชียงใหม่หรือนั่งรถไฟไปอุดรนั่นแหละพุทธภูมิ แต่ถ้าเรานั่งจักรยานมาหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปนั่นแหละ...สาวกภูมิ เพราะฉะนั้นการเป็นพุทธภูมิก็คือการ นำคนไปได้เยอะ ๆ ส่วนสาวกภูมินั้นนำไปได้น้อยๆ ไม่ได้มากนัก อย่างเก่งก็ 1 คน หรือ 3-4 คน ก็ว่ากันไป นั่นคือสาวกภูมิ เข้าใจไหมล่ะพ่อหลวง"

    พระเจ้าอยู่หัวฯ ตอบหลวงตาว่า "เข้าใจแล้วหลวงปู่ แล้วนิพพานเป็นอย่างไรนะ หลวงปู่"

    หลวงตาตอบ : "อ้อ พ่อหลวงเหมือนพ่อหลวงมาวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ รู้ไหมว่าวัดป่าบ้านตาดอยู่ตรงไหน อยุ่บนกุฏินี่เหรอ วัดป่าบ้านตาดอยู่ไหนล่ะ แต่พอพระมหากษัตริย์มาถึงนี่แล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดคือวัดป่าบ้านตาดนี้แหละ แต่จะชี้ลงไปว่าที่กุฏิอาตมาก็ไม่ใช่ ที่กุฏิพระก็ไม่ใช่ ที่ศาลาก็ไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เมื่อรวมกันทั้งหมดในกำแพงวัดนี้นี่แหละคือวัดป่าบ้านตาด นี่แหละพระนิพพานก็มีความหมายแบบเดียวกัน"

    และ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวฯ ขอบารมีหลวงตาช่วยต่ออายุให้แม่หลวง (คือสมเด็จย่า) ตอนนั้นสมเด็จย่าทรงประชวรอยู่ หลวงตาท่านก็ตอบปฏิเสธเลยว่า... "พ่อหลวงนั่นแหละก็จัดการเองได้ ขอเองได้" ท่านว่างั้นนะ... "พ่อหลวงก็สามารถจัดการได้เอง" ท่านบอกไปเลยนะว่า... ให้พระเจ้าอยู่หัวขอเอง จัดการเอง จัดการเองอาตมาต่อให้ไม่ได้หรอก

    พระเจ้าอยู่หัวฯ ได้กราบลาว่า "เอาล่ะ ได้เวลาแล้ว จะกลับแล้ว ท่านหลวงปู่มีอะไรจะบอกไหม"

    หลวงตาท่านได้เทศน์สั้น ๆ ว่า

    "การ เป็นพุทธภูมิ สร้างบารมีเพื่อความเป็นพุทธะ พอจบพุทธภูมิได้ก็เป็นพระพุทธเจ้า แล้ว พระพุทธเจ้าก็มีพุทธกิจ 5 คือ ตอนเช้าบิณฑบาต ตอนบ่ายสอนคหบดีมนุษย์ทั่วไป ตกเย็นสอนนักบวช สมณะชีพราหมณ์ ตอนกลางคืนแก้ปัญหาเทวดา พอมาตอนเช้ามืดเล็งญาณดูสัตว์โลก สัตว์โลกตัวไหนมีกิเลสเบาบางพอที่จะบรรลุธรรมได้ ท่านก็จะเล็งญาณดูรีบไปโปรดก่อน พระพุทธเจ้าสร้างบารมีพุทธภูมิจนได้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็มีพระพุทธกิจ 5 อย่างนี้ แต่... ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของประเทศไทยปรารถนาอะไร ทำงานกันจนไม่มีเวลาจะพักผ่อน..เอาล่ะ ๆ ... อาตมาจะให้พร"


    พอฟังมาถึงตรงนี้นะ เรายังจำได้แม่น เพราะพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านถามเรื่องพุทธภูมิ เสร็จแล้วพอท่านจะลากลับ หลวงตาท่านสรุปให้เสร็จสรรพเลย... ไม่รู้ว่าพ่อหลวงแม่หลวงของไทยทำงานปรารถนาความเป็นอะไร... ทำงานกันจนไม่มีเวลาพักผ่อน... เอาล่ะ ๆ ...อาตมาจะให้พร

    เมื่อพระเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จลงมา ท่านก็ตรัสว่า อยากให้ท่านอาจารย์อยู่กับหลวงตาไปนาน ๆ ...เราก็ได้ตอบท่านว่า เจริญ พร...มหาบพิตร อาตมาก็อยากจะอยู่ แต่ถ้าถึงเวลาที่อาตมาจะต้องเอา ตัวเองให้รอด อาตมาก็ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน เพราะทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล ถึงเวลาไปก็ต้องไปเหมือนกัน แล้วพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็บอกขอทำบุญกับหลวงตา 200,000 ถวายอาจารย์ 20,000 แล้วท่านก็ถามว่าพระที่อยู่ในวัดนี้กี่รูป เราก็ตอบท่านทั้งหมด 29 รูปรวมหลวงตานั่นแหละ... ท่านจึงถวายให้รูปล่ะ 2,000 "แล้วปัจจัยจะให้ไว้กับใคร" ท่าน ถาม...ท่านหยิบออกมาให้เลยนะ ท่านผู้ว่าฯ ยังรับมือสั่น พระเจ้าอยู่หัวไม่เพียงมากราบหลวงตา ท่านมาที่วัดท่านยังมาทำบุญกับพระด้วยปัจจัยที่เตรียมพร้อมจากพระหัตถ์ของ ท่านเอง จากนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็เสด็จออกไปเยี่ยมประชาชนแล้วก็ขึ้นรถไป

    นั่นแหละเราได้ฟังมา เรื่องของพุทธภูมิ เรื่องของพระโพธิสัตว์ สาวกภูมิกับพุทธภูมิต่างกันอย่างไร เสร็จแล้วพอตอนจบขอพร หลวงตาท่านก็สรุปและให้พร จึงบอกได้ว่าเป็นบทสนทนาของจอมปราชญ์...

    ที่มานิตยสาร น่านฟ้า ปีที่1 ฉบับที่ 8 ประจำเดือนธันวาคม 2550 หน้า18


    เมื่อต้นปีพ.ศ. 2498 คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมได้ปรารภกับศิษยานุศิษย์ของท่านว่า
    "มีใครเป็นห่วงพระเจ้าแผ่นดินองค์น้อย(ในหลวง)บ้าง..??"

    เมื่อทุกคนกล่าวรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากมีข่าวที่น่าเป็นกังวลมาให้ได้ยินอยู่ คุณแม่บุญเรือนก็ว่าต่อไปอีกหน่อยว่า
    "ถ้าเป็นห่วง ก็ขอให้แม่อธิษฐานช่วยพระองค์ท่านซิ" (ตามอริยประเพณี พระอริยะจะทำการสิ่งใดโดยปราศจากเหตุหรือไม่มีผู้อาราธนามิได้)

    เมื่อศิษย์ทุกคนกล่าวคำขอให้คุณแม่ใช้อิทธิฤทธิ์ช่วยในหลวงให้ทรงพระเจริญและแคล้วคล
    ดจากสรรพภยันตรายทั้งปวงแล้ว คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมจึงได้กำหนดที่จะไปเข้า"นิโรธสมาบัติ" คุ้มครองถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่บ้านนาซา(เป็นเคล็ดให้เรื่องร้าย"สร่างซา"ลงไป) ของนางสาววาย(เป็นเคล็ดให้เรื่องราวที่ไม่ดีมีอันต้อง"วาย"หายสูญ ไป) วิทยานุกรณ์ (น้องสาวพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์) ที่ปากน้ำประแสร์ จ.ระยองเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็ม โดยช่วงนั้น คุณแม่บุญเรือนได้สั่งห้ามมิให้ศิษย์คนใดเข้ามารบกวนท่านในช่วงเวลานั้นเป็น อันเด็ดข
    ด..!!!!

    ที่มา,หนังสืออนุสรณ์ อดีตเจ้าอาวาส วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง พ.ศ. 2551

    เมื่อหลายสิบปีก่อน ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ถูกลอบปลงพระชนม์ ถึงเสด็จสวรรคต หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา เคยเล่าว่าท่านเกิดความสลดสังเวชมาก ว่าคนไทยหลายคน ยังขาดกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อพระเจ้าอยู่หัว ท่านคิดอยู่เสมอว่า จะให้คนไทยมีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ได้อย่างไร..???

    สำหรับองค์ของหลวงปู่ดู่เองนั้น ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้กาลเวลาล่วงเลยไป หลายสิบปี กิจวัตรอันหนึ่งที่ท่านทำอยู่มิได้ขาด คือ การสวดมนต์ถวายพระพรแด่ในหลวงทุกวันตลอดมา ขอให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนานเป็นมิ่งขวัญคนไทยตลอดไป

    หลวงพ่อยังได้กล่าวไว้อีกว่า เพราะพระเจ้าแผ่นดิน(ร.9) ท่านปฏิบัติ(ธรรม) ต่อไปพุทธศานาในเมืองไทยจะเจริญขึ้น เพราะท่านเป็นผู้นำเป็นแบบอย่าง

    สมัยหนึ่งเมื่อหลวงปู่ดู่ ยังทรงสังขารอยู่นั้นบ่ายของวันที่แดดร่มลมตก จู่ ๆ ท่านก็เปรยกับคณะศิษย์ที่ประกอบด้วย "คนตาดี" หลายคนว่า
    "พวกแกลองดูทีซิว่า มีพระรูปไหนอยู่กับในหลวงบ้าง"

    เข้าใจว่าท่านคงหมายถึง กายทิพย์หรือบารมีที่พระมหาเถระแต่ละองค์อธิษฐานพิทักษ์รักษาในหลวง
    ศิษย์ท่านหนึ่งก็ "เข้าที่" ตามหลวงปู่สั่ง พักหนึ่งก็ลืมตาแล้วตอบว่า

    "หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปางครับ"
    หลวงปู่ยิ้มแล้วว่า "นั่นองค์หนึ่งละ มีใครอีก"
    ศิษย์แสนซนคนหนึ่งตอบทันที "หลวงพ่อนั่นแหละครับ"
    ท่านมองหน้าแล้วถาม "ทำไมแกจึงว่าอย่างนั้น"
    ศิษย์อธิบายว่า
    "อ้าว ก็หลวงพ่อรู้ได้ว่ามีองค์นั้น องค์นี้อยู่กับในหลวง แสดงว่าหลวงพ่อก็ต้องไปมาด้วยน่ะสิ ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไง"
    เมื่อเข้าเนื้อท่านโบกมือให้ยุติเรื่องทันที ศิษย์ก็ถึงที่ยิ้มไป...


    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา เคยบอกกับผมเมื่อสมัยที่บวชอยู่กับท่านว่า...

    "วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก"

    หลวงพ่อมองหน้าผมแล้วย้ำว่า...

    "ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ"

    และอีกเยอะแยะที่

    http://palungjit.org/threads/ในหลวงกับ-พุทธภูมิ.201846/


    ผมไม่สงสัยอะไรในตัวพ่อหลวงเลยครับ ผมบอกตรงๆผมภูมิใจมากที่เกิดเป็นลูกหลานไทยของท่านครับ ท่านตัวคนเดียวผมว่าท่านก็สามรถทำดีที่สุดได้เท่านี้แหละครับ ท่านสอนให้พอเพียงถ้าเราทำกันได้ก็จะมีความสุข ความจริงแล้วประเทศไทยเราไม่ต้องดิ้นรนก็อยู่กันได้ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ประเทศไทยเราจะไม่ง้อประเทศอื่นก็ได้เพราะเราสามารถปลูกข้าวกินเองได้ ปลูกพืชผักทุกอย่างได้ แต่เรากลับมองข้างไปให้ค่านิยมกับวุตถุกันซะมาก
    ถ้าหากคุณเชื่อในพระอริยเจ้าหลายองค์ที่พูดตรงกัน ฉะนั้นก็ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้วครับ พ่อหลวงเราเป็นคนดีแน่นอนครับ
     
  5. ประพฤติ

    ประพฤติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +696
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเหล่าเทพเทวดา
    ปกป้องรูปภาพนี้ไว้ อัพราะพระองค์ท่านเป็นที่รักเเละ
    ที่เคารพของเทวดาเหล่านั้น!!
     
  7. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆครับ ดิ่งลงในหัวใจเลยครับ สาธุ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ศัตรูใดๆทำอันตรายมิได้ และขอให้ศัตรูทั้งหลายของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของไทย จงแพ้ภัยตัวเองในเร็ววัน
     
  8. pummuq

    pummuq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +352
    ถ้าบ้านหลังที่เก็บภาพยังไหม้เล็กน้อยภาพก็ไม่ไหม้ จากภาพเห็นผ้าห่มกับเตียง และฝาบ้านที่รูปอยู่ยังไม่ไหม้ แต่มีควันดำ
     
  9. Unlimited Indy

    Unlimited Indy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,228
    ค่าพลัง:
    +803
    เย็นศิระเพราะพระบริบาล เย็นทั่วหล้าเพราะพระบารมี

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  10. pontook

    pontook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +976
    ก็เพราะพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเป็นเนื้อนาบุญอันบริสุทธิ์ ด้วยพระบารมีท่านจึงปกปักษ์รักษาประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ไงล่ะค่ะ

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  11. ระยิบ

    ระยิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +181
    ไม่มีกษัตริย์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินใดในโลกจะเทียมเท่าในหลวงของ
    ไทยเราที่เสียสละแรงกายและความสุขสบายส่วนตัว เวลา
    และทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์เพื่อช่วยประชาชนของพระองค์ในทุกด้าน
    มาเป็นเวลากว่า 60 ปี โดยไม่คำนึงถึงความยากเข็ญของปัญหา
    และความลำบากของพระวรกายไม่ว่าประชาชนของพระองค์จะอยู่
    ในถิ่นทุรกันดารขนาดไหนในที่หนแห่งใดในประเทศไทย
    พระองค์ก็มีแต่พยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือและความร่มเย็นให้
    อย่างสุดความสามารถ

    ความเสียสละอันใหญ่หลวงของพระองค์ตลอดชีวิตส่วนพระองค์
    เพื่อประชาชนอันเป็นที่รักของพระองค์นั้นไม่เลือกเวลา
    ไม่ว่าจะเป็นเวลาเช้า หรือกลางวันแดดร้อนกลางแจ้งเพียงใด
    หรือกลางคืนดึกสักเพียงใด พระองค์ก็ทรงงานหนักเพื่อ
    ช่วยบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน
    แม้ในยามสุขภาพของพระองค์จะไม่แข็งแรงก็ตาม
    พระองค์ก็ยังเอาใจใส่ดูแลการงานเพื่อช่วยประชาชนของพระองค์
    อย่างสุดความสามารถ

    สภาพด้อยพัฒนาของป.ท.ไทยเมื่อ 60 ปีกว่าที่แล้วมานั้นเป็น
    ปัญหาอันหนักหน่วงยากในการแก้ไข
    แต่เป็นเพราะความเพียรและความอดทน
    ประกอบกับพระปรีชาความสามารถอันสูงส่ง
    อีกทั้งความรักอันล้นพ้นที่มีต่อประชาชนและประเทศชาติ
    ของพระองค์ ทำให้ท่านมีกำลังใจอันยิ่งใหญ่และ
    ยอมแบกรับภาระอันใหญ่หลวงนี้ใน
    การต่อสู้กับปัญหาสาระพัดในการพัฒนาป.ท.ชาติจาก
    แทบไม่มีอะไรในตอนแรกในทุกๆด้านจนกระทั่งเกิด
    ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักและยกย่องของนานาชาติซึ่ง
    ใช้เวลาตลอดชีวิตของการครองราชย์ของพระองค์

    จะมีคนใดในประเทศไทยหรือในโลกที่จะรับภาระทำงานชิ้นใหญ่ที่
    ยากลำบากขนาดนี้โดยตลอดมา...เพื่อคนอื่นๆในชาติได้นานกว่า 60 ปี....
    อย่างในหลวงเราก็ไม่มี เพราะไม่ใช่ของง่ายๆ
    มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ทำได้
    คนที่ทำงานนี้ได้โดยใช้ความดี คุณธรรม ความรัก ความเมตตาอันบริสุทธิ์
    และความอดทนสูงมาตลอดหลายปีจนเกิดความสำเร็จเพื่อประโยชน์
    ของปวงชนและชาติเป็นหลัก ถือว่าเป็นคนเหนือคน

    ป.ท.ไทยจะไม่สามารถเจริญพัฒนาก้าวไกลมาถึงปัจจุบันวันนี้ได้ถ้า
    ไม่มีในหลวงเป็นผู้สละแรงกายและความสุขสบายส่วนตัว
    เพื่อบุกเบิก ฝ่าฟันกำจัดปัญหาอันยากลำบากในการพัฒนาประเทศ
    ตั้งแต่ต้นการครองราชย์ เป็นต้นมา และปูพื้นฐานความเจริญจน
    กลายเป็นความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองของทั่วทุกภาคประเทศ
    เพื่อชาวไทย และชาติจากอดีตจนถึงทุกวันนี้

    กาลเวลาอันยาวนานกว่า 60 ปี ในการประกอบกิจภาระของในหลวง
    ด้วยคุณธรรมความดีนี้เพื่อความเจริญและความสงบสุขทุก
    หย่อมหญ้าบนผืนแผ่นดินไทยน่าจะเป็นเครื่องเตือนใจให้
    คนไทยทุกคนพึงระลึกไว้ตลอดชีวิตของตนว่า….
    เราคนไทยโชคดีเหลือเกินที่ได้เป็นประชาชนอันเป็นที่รักของ
    ในหลวงถึงเพียงนี้ และโชคดีเหลือเกินที่เรามีพระเจ้าแผ่นดินที่
    ดีเลิศล้ำด้วยคุณงามความดีและคุณธรรมสูงยิ่งเป็น
    ผู้ปกครองป.ท.ไทย อีกทั้งมีพระปรีชาสามารถใน
    ทุกด้านเหนือคนทั่วไป

    ความดีของในหลวงเรานี้ไม่สามารถจะถูกลบเลือนออกไป
    จากหัวใจของคนไทยที่รู้คุณของพระองค์รวมถึงแผ่นดินไทย
    ทุกกระเบียดนิ้วก็ต้องจารึกคุณของกษัตริย์มหาราชที่ยิ่งใหญ่
    พระองค์นี้ของไทยเราไว้สืบทอดต่อไปถึงลูกหลานในอนาคต

    เราคนไทยควรถือว่าเรามีบุญและโชคดียิ่งนักที่ได้เกิดอยู่
    ในประเทศไทยในสมัยเดียวกับที่ในหลวงของเราครองราชย์และ
    ได้มีโอกาศชื่นชมพระองค์และบารมีอันสูงยิ่งนี้
    เป็นบุญและความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

    ความดีของในหลวงมีมากมายจนบรรยายไม่จบได้ง่ายๆ
    พระคุณของในหลวงเรามีมากล้นแผ่นดินไทย
    จะตอบแทนบุญคุณท่านก็ยัง”ไม่หมด”ได้ในชีวิตนี้
    แต่อย่างน้อยสุดเราก็ขอระลึกคุณของพระองค์ในดวงใจและ
    ขอเทิดทูนเหนือเกล้าประกาศเกียรติคุณของพระองค์และ
    จงรักภัคดีต่อพระองค์ตลอดไปเพื่อแสดงความกตัญญูต่อ
    ผู้มีพระคุณของเราเพราะท่านเป็นเสมือนทั้งพ่อและ
    พระนอกเหนือจากการเป็นกษัตริย์ของเรา

    เรารักในหลวง
    ขอให้พระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    เป็นคู่ขวัญของปวงชนชาวไทยไปนานแสนนาน
     
  12. ระยิบ

    ระยิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +181
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุที่นำข่าวนี้มาให้อ่านกันนะคะ
     
  13. ระยิบ

    ระยิบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +181
    ขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุที่นำความรู้อันดีมากๆนี้มาให้อ่านกันนะคะ


    ---------------------
     
  14. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,925
    ค่าพลัง:
    +5,747
    อ่านแล้วถึงกับน้ำตาคลอหน่วย
    พ่อผู้เสียสละ เพื่อลูกๆ ชาวไทยตลอดมา
    อนิจจา คนไทย บางคน ไม่เคารพนับถือท่านด้วยซ้ำ
     
  15. ครองตน

    ครองตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +186
    ทรงพระเจริญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...