เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    แหม.. ช่างบังเอิญอีกแล้วนะคะคุณเฉลย คุณเฉลยมีน้องเป็นป่าไม้ขจรวรรณก็มีพี่ชายเป็นป่าไม้เหมือนกันเลยค่ะ แต่เค้าอยู่ที่สุโขทัยค่ะ.. ครั้งที่แล้วเกือบได้ไปแถวบ้านคุณเฉลยแล้วค่ะ เพราะตาม Program จะได้เที่ยวบ่อน้ำร้อนที่พระร่วงแต่ด้วยความสดชื่นของน้ำตกคลองลานจึงเถลไถลไม่ยอมไปน่ะค่ะ.. ที่ไปคลองลานเพราะรู้จักพี่อยู่คนนึงเป็นปลัดอำเภออยู่ที่นั่นเลยได้อาศัยบารมีเค้าไปด้วย.. อิอิ.. น้อง ๆ ที่ไปด้วยเค้าอยากจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาวงศ์ด้วยนะคะแต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีเวลาอีกก็ไม่รู้ค่ะ..

    พูดถึงกำแพงเพชรก็นึกถึงเหตุการณ์แปลก ๆ แต่ งง ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ.. คือเมื่อปลายเดือนเมษาที่ผ่านมาก็ขับรถกลับจากบ้านที่ต่างจังหวัด ก่อนถึงกำแพงเพชรก็คุยกับเพื่อนว่าถนนขากลับช่วงกำแพงเพชรไม่ค่อยดีเลย เพราะรถสิบล้อวิ่งกันเยอะทำให้ถนนเสีย พอเข้าเขตกำแพงเพชรในช่วงที่ตำรวจขอตรวจดุใบขับขี่นั้นหางตาทางซ้ายก็มองเห็นพระกลุ่มใหญ่ยืนกันอยู่เต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ขับรถมาเรื่อย ๆ ตามถนนสายเอเซียซึ่งเป็น 2 เลน และขับรถตามรถคันอื่นอีกตั้งหลายคันที่สำคัญคือเราขับอยู่ในเลนขวาตลอด แต่ไม่ทราบว่ารถของเราเข้าไปในถนนแปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็นที่สำคัญคือในขณะนั้นไม่มีรถยนต์คันอื่นเลยยกเว้นรถของเราคันเดียว ยังไม่พอถนนที่เราวิ่งอยู่นั้นเป็นถนนใหม่ ๆ ที่เหมือนพึ่งทำใหม่ สองข้างทางมีต้นไม้คล้าย ๆ ต้นไม้ที่พึ่งผลิใบ ที่ใบไม้เหมือนสีใบตองอ่อน วิ่งมาเรื่อย ๆ ก็เป็นทุ่งนา แต่ไม่มีบ้านของผู้คนอาศัยอยู่เลยมีแต่ต้นไม้กับท้องนา แถมยังไม่พอไม่มีป้ายบอกทาง มีแต่หลักกิโลเก่า ๆ ที่บอกเป็นระยะ ๆ ว่ากำแพงเพชรก็ขับรถมาตามทางเรื่อย ๆ จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ลักษณะสะพานคล้าย ๆ ทางรถไฟคือมีเหล็กอยู่ข้างบน รู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็ขับรถต่อไปเรื่อย ๆ ปรากฏว่าทันทีที่รถถึงสะพานแห่งนั้น เรากลับรู้สึกขนลุกซู๋ไปทั้งตัวตลอดทางจนรถถึงถนนสายเอเซีย.. ขณะพิมพ์อยู่นี้ก็ยังขนลุกอยู่เลยค่ะ.. ไม่รู้ว่าถนนเส้นนั้นเป็นถนนอะไรก็ไม่รู้ค่ะคุณเฉลย..
    (b-wow)
     
  2. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ใจดีกว่าพ่ออีก ก็กินเจตั้งแต่อยู่ในท้อง สูงกว่าพ่อสูงเกือบ 180 และหล่อมั๊กมาก เล่นดนตรีก็เก่ง ชาติภพของเค้ามาจากเทพนาคาชั้นสูงทั้งสองคนครับ เอาไว้มีโอกาสจะเอาไปให้ดูตัว
    อยากได้น้องธัญญานะ บอกพ่อเค้าด้วยถ้าไม่กลับจากนอก ลุงเหลยจะเอามาอยู่ด้วย
     
  3. Mila

    Mila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    สวัสดีค่ะ วันนี้เกดขอเข้ามาโดยใช้ชื่อใหม่(ไม่รู้ทามมัยชื่อเก่าใช้ไม่ได้น้า)

    ห้องวิทย์เดินทางมานานเลย แต่เป็นถนนสายสั้นทางลัด
    ที่หลายคนอาจไม่ต้องเสียเวลาเดินทางจนเหนื่อยจนล้า
    ซึ่งหลายครั้งเมื่อเดินมาถึงทางแยกของถนน
    ก็อาจลังเล สงสัยว่าควรเลี้ยวไปทางใด หรือกลับไปเริ่มต้นใหม่ดี
    ทางไหนจะนำเราไปยังปลายทางได้
    ในขณะเดียวกันเรื่องราวในห้องวิทย์ห้องนี้ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางแยก
    ที่หลายคนสงสัยว่าเป็นทางที่ถูกหรือไม่ก็ได้

    ทางสายนี้อาจดูแปลก แตกต่างจากถนนหลายสาย
    มันเหมือนสวนสนุกมากกว่าถนนสายหนึ่งด้วยซ้ำ
    เป็นเวลานานที่หลายคนเดินอยู่บนถนนสายเปลี่ยวเหงา
    บางสายสงบร่มรื่น บางสายมีธรรมชาติสวยงามดั่งภาพวาด
    แต่ถนนสายนี้ ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นเด็กตัวเล็ก
    ที่แสนอยากรู้อยากเห็น เล่นกับจินตนาการแสนสนุก
    เด็กเหล่านี้มีรอยยิ้มละไม เมื่อร้องไห้ก็ได้ไม่นาน
    และเมื่อ ร้องขอ ขนมหรือของเล่นชิ้นใหม่ ก็มักจะได้จากผู้ใหญ่เสมอ
    เมื่อเด็กขอ เขามักจะได้ไม่ใช่หรือ
    มันง่ายเพียงแค่นี้
    ผู้ใหญ่ชอบลืมกันไปแล้ว

    ผู้เดินผ่านมาที่ถนนสายนี้ ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
    เพียงบางคนแอบหม่นในมุมเปลี่ยวเหงา
    แม้สายตาจะเหลือบมองชิงช้าสวรรค์เป็นระยะ
    บางคนไม่รับรู้ว่าเสียงหัวเราะ แบบเด็กๆจะมีผลอะไร
    ต่อการเดินไปถึงจุดหมายปลายทาง หลายครั้งส่ายหัวด้วยความรำคาญ
    เขาลืมไปว่า การเก็บเกี่ยวความสุขเต็มล้นระหว่างทาง
    อาจมีค่ามากกว่า การเฝ้าเพียรจินตนาการถึงปลายทางว่าเป็นอย่างไร
    มีความสุขแค่ไหน
    แล้วจะกำหนดความสุขให้มันอยู่ที่ปลายทาง(ตรงขอบฟ้านู่น)ทำไม
    ในเมื่อเราทนุถนอม ให้มันอยู่กับเราตอนนี้ก็ได้
    เราก็แค่กระโดดขึ้นม้าหมุน แล้วหัวเราะดังๆ
    ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    หลายคน วิพากษ์ ว่าสิ่งใด "ถูก" หรือ "ผิด"
    สิ่ง ถูก ผิด มีจริงหรือ?
    เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เวลาใด?
    หรือนั่น เป็นเพียงมุมมองของแต่ละคน?

    มุมมองมากมาย
    ถนนหลายสายนับไม่ถ้วน
    ทุกวินาธีก็มีถนนใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา

    วันนี้คุณน้านักเขียนมาชวนเราขึ้นม้าหมุน
    และบอกหนูๆว่า ถ้าอยากได้ขนม

    "หนูก็ขอสิ
    มีแต่คนเอ็นดูเด็กๆทั้งนั้น
    แล้วอย่าลืมแบ่งขนมให้เพื่อนๆด้วยนะจ๊ะ"

    ก็เป็นมุมมองของเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
    มาหัวเราะแบบเด็กกันเถอะค่ะ
    (555)
     
  4. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    แหม ยิ่งพูดยิ่งอยากเห็นคนหล่อซะแล้ว 555
    daddyของคุณหลานธัญญ่ากลับมาแล้วล่ะ อดลักพาตัวเลย
    ตอนแม่ไปอยู่เลี้ยงก็เจอวีรกรรมขำๆหลายเรื่อง แม่กลับกรุงเทพแล้วธัญญ่าเหงาน่าดู
     
  5. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอบคุณค่ะคุณเฉลยที่ช่วยหาคำตอบ ไม่รู้ว่าเราศึกษากันจบเล่มนี้แล้วพี่นักเขียนจะออกข้อสอบมาทดสอบความรู้ของพวกเรารึปล่าวก็ไม่รู้นะคะ.. ในความคิดของขจรวรรณเข้าใจว่า ตามคำกล่าวของท่านอาจารยอนาลัยที่ว่า
    จิตวิญญาณคือความรู้ และความรู้ก็คือจิตวิญญาณนั้น..

    เมื่อจิตวิญญาณคือความรู้แล้วดังนั้นความรู้ทุกแขนงทั้งความรู้เก่าที่มีอยู่แล้ว ความรู้ที่กำลังศึกษา และความรู้ที่จะศึกษาอีกต่อไปในอนาคต ย่อมจะสามารถรวมกันได้เสมอ ซึ่งความรู้ดังกล่าวไม่มีหน่วยนับ ไม่สามารถคำนวณหรือใช้มาตรวัดใด ๆ ทางคณิตศาสตร์ได้ จิตวิญญาณจึงไม่มี 1 ดวง 2 ดวง อย่างที่เราเข้าใจกัน คุณสมบัตของจิตวิญญาณมีแต่ความใฝ่รู้และแสวงหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความจริง ซึ่งขยายตัวออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง.. ไม่ทราบว่าถูกมั้ยคะพี่นักเขียน..
    (sing)
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อ้าว..คุณเกดนั่นเอง
    เตรียมจะรับน้องใหม่ (เกือบไปแล้ว)
    ใช้ชื่อใหม่ wp-ivory ก็ขอต้อนรับชื่อใหม่ด้วยแล้วกันครับ
    มาหัวเราะแบบเด็กๆด้วยคนนึงคับ+
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image001.gif
      image001.gif
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      425
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2007
  7. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    เส้นทางที่คุณขจรวรรณเล่าให้ฟังมีอยู่เยอะเลยครับในกำแพงเพขร บ้านคุณขจรวรรณอยู่ที่ใหนครับ ตากหรือพิจิตร ครับ
     
  8. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ใช่ค่ะคุณ Mead น่าสนใจจริง ๆ ทำให้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องของจิตวิญญาณไปได้อีกเยอะเลยนะคะ.. ไม่รู้ว่าคุณ Mead จะปั่นงานเสร็จทันบรรยายของ อ.ปริญญา รึปล่าวนะคะเนี่ย เมื่อวานได้รับแจ้งจากอาจารย์ว่าวันจันทร์นี้จะบรรยายธรรมะภาคปฏิบัติและอบรมจิตสำนึกในหัวข้อเรื่อง " ฝึกจิตพิชิตกิเลส " ไว้เจอกันค่ะ..
    (b-smile)
     
  9. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    หัวเราะด้วยคนครับ อยากกลับไปสู่วัยเด็กด้วย
    บทความน้องเกดกับของน้องชมภูเขาทำให้ห้องวิทย์เรา มีชีวิตชีวาเยอะเลยครับ
     
  10. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    จังหวัดพะเยาค่ะ.. เกือบไม่ใช่คนไทยแล้วอีกนิดเดียวก็เป็นประเทศลาวแล้วค่ะ.. อิอิ..(f)
     
  11. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอถามพี่นักเขียนต่อเลยนะคะ..หน้า 57 - 58 หากเธอไม่พอใจสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและหวาดกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เธอก็สามารถแก้ไขอดีตและอนาคตได้จากความรู้สึกนึกคิดและการกระทำในปัจจุบันเสมือนการเปลี่ยนทิศทางของคลื่นด้วยการโยนหินก้อนใหม่ลงไปและสร้างกระแสคลื่นในลักษณะใหม่ที่เธอพอใจ

    จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าการที่คนเราจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดจากสภาวะหนึ่งไปสู่อีกสภาวะหนึ่งให้ดีขึ้นนั้น จำเป็นจะต้องใช้พลังอำนาจในตนเองให้มากพอสมควรในระดับหนึ่ง จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะหากพลังความคิดของเราไม่เพียงพอจิตของเราจะคล้าย ๆ ถูกดึงให้จมอยู่กับความคิดเดิม ๆ พี่นักเขียนพอจะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้พวกเราสามารถสร้างพลังอำนาจในตนเองได้มากขึ้นบ้างมั้ยคะ?
    (b-green)
     
  12. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ช่วยหาคำตอบครับ
    จิตวิญญาณคือความรู้ และสามารถรวมตัวกันได้ วิธีการรวมตัวก็โดยการจัดเป็นหมวดหมู่ของความรู้ และเวลาเกิดมาในโลกต่างๆ ความรู้นั้นเราเรียกเป็นสัญชาติญาณ ซึ่งจะเห็นว่าคนเราเกิดมาจะมีสัญชาติญาณคล้ายกัน จะมีบ้างที่ผิดแผกไป
    ไม่รู้ว่าใช้ได้มั๊ยครับ เดี่ยวคืนนี้ไปอ่านคำตอบที่อาจารย์ตอบไว้ฮะ
     
  13. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    จากหน้า 69 - 70 หากความจำของจิตวิญญาณในตำแหน่งต่าง ๆ ของเซลล์เปลี่ยนแปลง สภาวะของเซลล์นั้น ๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยความทรงจำข้ามชาติภพ จึงมีผลต่อโรคภัยไข้เจ็บและการแปลงสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

    การลบล้างความจำในเซลล์เปรียบเสมือนการลบล้างข้อมูลที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำ ทำให้มันเปลี่ยนขนาดและสภาวะไปด้วย โรคภัยไข้เจ็บซึ่งดูเสมือนไม่มีการรักษาได้ในความเห็นของแพทย์ ก็สามารถหายไปได้ด้วยการลบล้างความจำของเซลล์ การลบล้างความทรงจำข้ามชาติภพทำได้จากปัจจุบัน

    มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ความจำของจิตวิญญาณในตำแหน่งต่าง ๆ ของเซลล์เปลี่ยนแปลงไป? มีบางกรณีที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ว่าเป็นโรคอะไร? แต่ผู้เชียวชาญทางจิตวิญญาณสามารถวินิจฉัยโรคได้ว่าเกิดจากกฏแห่งกรรมหรือเกิดจากพลังงานแฝงหรือไสยศาสตร์ และเคยมีอาจารย์ท่านนึงเคยกล่าวไว้ว่าหากเจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยคนนั้นไม่ยอมความก็จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ จึงอยากจะทราบว่าการลบล้างความจำในเซลล์ในที่นี้เปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงความเชื่อของผู้ป่วยถูกต้องหรือไม่? และเราจะสามารถลบล้างความจำในระดับเซลล์ได้โดยวิธีใด?
    (b-evil2)
     
  14. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Connie Talbot

    น่ารักมากเลยค่ะคุณ Mead
    ฟังแล้วทำให้คิดถึงหนูน้อย Connie Talbot อายุ 6 ขวบ
    ผู้เข้าแข่งขันในรายการ Britain's Got Talent
    หากชนะเลิศจะได้ร้องเพลงต่อหน้า Queen Elizabeth
    หนูน้อยคนนี้ได้เข้ารอบ Semi Final แต่ก็ชนะใจผู้ชมและกรรมการ

    หนูน้อย Connie เล่าให้ผู้ชมฟังว่า
    มีนางฟ้ามาหาในความฝัน และบอกว่า
    อยากจะร้องเพลงผ่านหนู Connie
    หนูน้อยก็รับปากกับนางฟ้าว่า จะร้องเพลงให้นางฟ้าอย่างดีที่สุด
    และจะร้องต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด นางฟ้าได้สอนให้หนูน้อยร้องเพลงในความฝัน

    แม่ของหนู Connie บอกว่า นับแต่นั้นเป็นต้นมา พ่อกับแม่ได้ยินหนู Connie ร้องเพลงในขณะที่หนูน้อยนอนหลับเสมอๆ ยามตื่นหนู Connie ร้องเพลงทั้งวัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ร้องเพลงไปด้วยเสมอ

    แขกไปใครมาที่บ้านจะได้ยินเสียงของหนูน้อย Connie ร้องเพลงอย่างมีความสุขเสมอ
    และต่างก็พากันสงสัยว่า พ่อแม่ของหนู Connie ส่งลูกไปเรียนร้องเพลงที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไร
    แต่พ่อแม่ก็บอกว่าไม่เคยส่งหนูน้อยไปเรียนที่ไหนเลย นอกจากได้ยินแกร้องตอนหลับเสมอๆ

    เพลงที่หนู Connie ร้องจนได้เข้ารอบ Semi Final คือ
    Somewhere Over The Rainbow

    หนูน้อย Connie ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
    "การได้ร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมนับพันนับหมื่น เป็นเสมือนความฝันที่หนูไม่อยากจะให้มันจบลง"
    [​IMG]
    ไปฟังและชมนางฟ้าร้องเพลงกันค่ะ

    Somewhere Over The Rainbow
    http://www.youtube.com/watch?v=hkcE6Vy-e6c

    เพลงน่ารักอีกเพลงของนางฟ้าคือ
    BEN
    http://www.youtube.com/watch?v=sWyile34-Hg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2007
  15. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ไม่มีอดีตและอนาคต-มีแต่ปัจจุบัน

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึงความเชื่อที่ว่า การมาถือกำเนิดในชาติภพน้ีเป็นไปเพื่อการรับกรรม รับโทษ รับบาป ซึ่งเป็นความเชื่อทางศาสนาที่เราต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากเราไม่เข้าใจว่า ธรรมชาติแห่งความเป็นจริงของจิตวิญญาณ ไม่มีอดีตและอนาคต-มีแต่ปัจจุบัน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด เราจะเข้าใจไม่ได้ว่าพลังอำนาจที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราอยู่ที่ปัจจุบัน เราจะเข้าใจไม่ได้ว่าการจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ดึ-ที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก จะสามารถสร้างสรรค์ได้แม้แต่อดีตที่เราเชื่อว่าผ่านพ้นไปแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว และสามารถแก้ไขได้แม้แต่อนาคตที่เราเชื่อว่ายังไม่ได้เกิดขึ้น และไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า เราเปลี่ยนแปลงแก้ไขและสร้างสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่างได้จากปัจจุบัน

    ความเข้าใจในการรับกรรม รับโทษ รับบาป เป็นความเข้าใจในเส้นทางแห่งกาลเวลาเช่นว่า
    บุคคลหนึ่งทำผิดในอดีตและต้องรับโทษในปัจจุบัน หรือ บุคคลหนึ่งทำผิดในป้จจุบันและต้องรับโทษในอนาคต

    แต่ถ้าหากพิจารณาตามธรรชาติที่ว่าจิตวิญญาณไม่มีอดีตและอนาคต-มีแต่ปัจจุบัน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกัน หมด ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า การลงโทษจะเป็นเหตุเป็นผลต่อไปอีกไม่ได้ เพราะอะไรล่ะที่ว่าเกิดขึ้นก่อน การทำผิด หรือการลงโทษ ? - ไม่ใช่ทั้งสอง หากแต่ว่ามันมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน ซึ่งคำกล่าวของท่านนั้นหมายถึงว่า การกระทำสิ่งที่เลว การก่อกรรม ย่อมได้รับผลเป็นป้จจุบันทันด่วน ไม่มีการรอรับกรรมข้ามชาติภพ และในทางตรงกันข้าม การกระทำสิ่งที่ดี การสร้างบุญกุศล ย่อมได้รับผลเป็นปัจจุบันทันด่วนเช่นกัน (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Eternity6.jpg
      Eternity6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.5 KB
      เปิดดู:
      36
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2007
  16. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    มาหัวเราะกันดีกว่า



    ขอบคุณหนูลูกเกดที่มาเยี่ยมเยียนห้องวิทย์ฯ พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ และปรัชญาอันคมกริบที่พี่นักเขียนเองก็ต้องสะกิดให้ตนเองระลึกเสมอๆว่า พลังอำนาจทั้งหมดมีอยู่เพียงในปัจจุบันนี้เท่านั้น แม้เราจะเหนี่ยวนำให้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราจดจ่อกับความสุข ความสำเร็จ ที่ยังมาไม่ถึง แต่ทั้งหมดที่เราจะสัมผัสได้ รู้สึกได้อย่างฉับพลัน ก็มีแต่เพียงปัจจุบันนี้เท่านั้น

    ดังนั้นเมื่อเผชิญกับความผิดหวัง ความทุกข์ ความเสียใจ ความท้อแท้ ให้เราบอกกับตนเอง พรุ่งนี้ฉันจึงจะค่อยทุกข์ พรุ่งนี้ฉันจึงจะค่อยเสียใจ พรุ่งนี้ฉันจึงจะค่อยกังวล

    วันนี้ฉันจะเป็นสุข วันนี้ฉันจะไม่เสียใจ วันนี้ฉันจะไม่ท้อแท้

    แต่เมื่อพรุ่งนี้มาถึงมันก็กลายเป็นวันนี้ไปอีกซะแล้ว ทุกข์พรุ่งนี้ เสียใจพรุ่งนี้ กังวลพรุ่งนี้จึงไม่มีวันมาถึง

    แม้มันจะไม่ง่ายนักที่เราจะผลักความทุกข์ ความเสียใจ ความกังวลให้เลื่อนเวลาออกไปอีกทุกวันๆ
    แต่พี่นักเขียนก็เชื่อว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบของเราจะเปลี่ยนนิสัย ที่จะคล้อยตามความเชื่อในแง่ลบนั้นได้ทีละนิด-วันละก้าว จนเราสามารถเป็นอิสระจากความเชื่อในแง่ลบนั้นๆได้ในทึ่สุด
    [​IMG][​IMG]
    หัวเราะกับลูกเกดด้วยคนค่ะ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2007
  17. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เปลี่ยนความเชื่อได้-จึงเปลี่ยนอารมณ์ได้

    การปรับเปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดจากสภาวะหนึ่งไปสู่อีกสภาวะหนึ่งให้ดีขึ้นนั้น เป็นไปไม่ได้หากความเชื่อของเราไม่เปลี่ยน

    เมื่อเผชิญกับปัญหาที่ทำให้มีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบเกิดขึ้น พี่นักเขียนเชื่อว่า สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการค้นหาความเป็นจริงว่า อะไรคือความเป็นไปที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันนี้ การค้นหาความเป็นจริงให้พบจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนความเชื่อได้ การค้นหาความเป็นจริงก็คือหาความรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวพันกับสิ่งที่กำลังเป็นตัวปัญหาอยู่ในขณะนั้น หากเราไม่ได้รู้ความเป็นจริงทั้งหมด สิ่งที่เรากำลังคิด กำลังมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดจดจ่ออยู่ ย่อมไม่ใช่ความเป็นจริงทั้งหมดแต่เป็นไปตามความเชื่อที่เกิดจากการรู้เห็นเพียงน้อยนิด หรือส่วนหนึ่งของความเป็นจริงที่ยังบิดเบือนอยู่

    หากความเป็นจริงทั้งหมดเปิดเผยแล้ว เราจะพบว่าปัญหาที่เราเผชิญ นอกจากจะมีทางแก้ไขได้แล้ว สิ่งที่ดูเสมือนว่าเป็นตัวปัญหาจะสลายตัวไป เพราะความคลุมเครือ ความไม่รู้ที่บดบังเราอยู่ในตอนแรกได้หายไป มันจะเหลือแต่ความสว่าง

    การเปลี่ยนความเชื่อได้นั้น มีตัวช่วยหลายทาง บางครั้งหากเราไม่สามารถค้นหาความเป็นจริงหนึ่งๆได้ด้วยตนเอง หากเรามีความเชื่อว่า เราจะหาความรู้หรือความเป็นจริงได้จากบุคคลอื่นๆที่อยู่รอบตัวเรา เราก็ย่อมทำได้ด้วยการสื่อสาร และหาความรู้ให้เต็มภาพได้ด้วยตนเอง

    แต่ถึงกระนั้นแม้เราจะสามารถขอข้อมูลความรู้และความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ก็จริง แต่เมื่อเราได้ข้อมูลความรู้ทั้งหมดมาแล้ว การเปลี่ยนความเชื่อก็เป็นหน้าที่ของเราโดยตรง พี่นักเขียนเชื่อว่าพลังอำนาจที่ว่าไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากความรู้ เพราะเมื่อเราสามารถรวบรวมข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวพันกับปัญหาที่ทำให้เราขุ่นมัว หรือมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบได้แล้ว มันย่อมทำให้เราตาสว่างขึ้น เปลี่ยนมุมมองไป และเปลี่ยนความเชื่อในแง่ลบเป็นแง่บวก หรือเปลี่่ยนเป็นความรู้ไปได้ในที่สุด ทำให้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเปลื่ยนไปโดยปริยาย (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2007
  18. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    การรวมตัวของจิตวิญญาณ

    การรวมตัวของจิตวิญญาณ หรือการรวมตัวของความรู้ย่อมเกิดการแปลงสภาพเสมอ การเกิดหมวดหมู่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้อมูลทางกายภาพ แต่เมื่อเราพูดถึงข้อมูลความรู้ที่สถิตย์อยู่ในจิตวิญญาณ เช่น เราเรียนรู้วิชาเคมี เรารู้จักคุณสมบัติของสารเคมีแต่ละตัว นอกจากนั้นเราก็เรียนรู้เกี่ยวกับชีวภาพของมนุษย์

    ความรู้เกี่ยวกับสารเคมี เป็นข้อมูลหมวดหนึ่ง และ ความรู้เกี่ยวกับชีวภาพ เป็นข้อมูลอีกหมวดหนึ่ง เมื่อเรานำข้อมูลความรู้สองหมวดนี้มีบูรณาการกัน และคิดค้นตัวยารักษาโรคขึ้นมา ความรู้สองหมวดนั้นแปลงสภาวะเป็นความรู้ใหม่ขึ้นมาบางส่วน คงสภาพความรู้เก่าทั้งสองหมวดไว้ด้วยบางส่วน และอาจแตกแขนงเป็นความรู้หมวดใหม่ขึ้นมาอีกมากมาย เช่น ความรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใช้ยานี้ ผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ ฯลฯ และอาจเหนี่ยวนำให้เกิดการค้นพบใหม่ๆที่เป็นความรู้ใหม่โดยสิ้นเชิงด้วย

    ความรู้จึงรวมตัวกันในทิศทางที่คำนวณไม่ได้และปราศจากขีดจำกัด
    จิตวิญญาณจึงรวมตัวกันในทิศทางที่คำนวณไม่ได้และปราศจากขีดจำกัด
    (rose)
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    การลบล้างความจำในระดับเซลล์

    เมื่อคุณน้องขจรวรรณกล่าวว่า :
    - มีบางกรณีที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ว่าเป็นโรคอะไร? แต่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิญญาณสามารถวินิจฉัยโรคได้ว่า เกิดจากกฏแห่งกรรมหรือเกิดจากพลังงานแฝงหรือไสยศาสตร์
    - อาจารย์ท่านนึงเคยกล่าวไว้ว่าหากเจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยคนนั้นไม่ยอมความก็จะไม่สามารถรักษาให้หายได้

    พี่นักเขียนมีความเห็นว่า เราน่าจะถามคำถามว่า อะไรคือข้อพิสูจน์ความเป็นจริงว่า
    - ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิญญาณสามารถวินิจฉัยโรคได้ - จริง
    - เจ้ากรรมนายเวรไม่ยอมความ - จริง

    สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ความเป็นจริงไม่ได้ด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้น
    นอกเสียจากว่าผู้ป่วยจะเชื่อว่ามันเป็นความเป็นจริง

    ในกรณีของผู้วินิิจฉัยโรคทางจิตวิญญาณ ผู้ป่วยรับมือกับคำถามและคำตอบที่ตนเองมักจะไม่สามารถเป็นผู้ให้ข้อมูลได้ด้วยซ้ำไป เพราะผู้ป่วยบอกไม่ได้ว่าไปก่อกรรมอะไร? ในชาติภพใด? เขามักจะได้แต่เป็นผู้รับข้อมูล รับคำวินิจฉัยและการวิเคราะห์นั้นๆโดยปริยาย เรียกได้ว่าเป็นการวินิจฉัยทางเดียว เมื่อผู้ป่วยยอมรับการวินิจฉัยว่าเขาป่วยด้วยกรรม หรือด้วยพลังงานในแง่ลบ ฯลฯ เขาก็มักจะยอมรับการวินิจฉัยต่อไปโดยปริยายด้วยเช่นกันว่า เขาจะหายหรือไม่หายป่วยด้วยวิธีการใดต่อไปที่ผู้วินิจฉัยระบุหรือกำหนดให้เขา
    ความเชื่อของผู้ป่วยในกรณีนี้ เกิดจากการรับเอาคำวินิจฉัยของผู้รักษาโรคด้วยจิตวิญญาณ


    แพทย์แตกต่างไปจากผู้วินิจฉัยโรคทั้ง 2 อาชีพที่คุณน้องขจรวรรณกล่าวถึงตรงที่ว่า แพทย์วินิจฉัยโรคจากสภาวะทางกายภาพ หากเขาหาหลักฐานทางกายภาพไม่พบ เขาก็มีความตรงไปตรงมาหรือซื่อสัตย์พอที่จะบอกกับผู้ป่วยว่า เขาหาสาเหตุไม่พบ บ่อยครั้งแพทย์ซักถามผู้ป่วยถึงอาการข้างเคียงที่จะช่วยระบุได้ว่า ผู้ป่วยนั้นป่วยด้วยโรคอะไร เรียกได้ว่าเป็นการวินิจฉัยสองทาง หากอาการข้างเคียงนั้นๆไม่ปรากฏ แพทย์ก็อาจจะหาสาเหตุไม่พบ
    ความเชื่อของผู้ป่วยในกรณีนี้ เกิดจากการรับเอาคำวินิจฉัยของแพทย์ - ร่วมกับการวินิจฉัยตนเองด้วยการให้ข้อมูลส่วนตนกับแพทย์

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า ความเชื่อเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ป่วยยอมรับโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเขา ความเชื่อทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่คล้อยตามความเชื่อนั้นก่อน และก่อให้เกิดอาการของโรคขึ้นภายหลัง-ไม่ใช่ในทางกลับกัน การรักษาโรคจึงเป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่คล้อยตามความเชื่อและส่งผลกระทบในแง่ลบต่อสุขภาพร่างกาย
    [​IMG]
    ความจำของจิตวิญญาณในตำแหน่งต่างๆของเซลล์เปลี่ยนแปลงได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดที่คล้อยตามความเชื่อที่มีต่อส่วนต่างๆของร่างกาย และมีต่อความเชื่อถือในธรรมชาติและความเป็นไปของร่างกาย

    การลบล้างความจำในระดับเซลล์ จึงเป็นไปได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อบุคคลมีความศรัทธาและเชื่อถือในธรรมชาติว่า จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง มีคุณสมบัติเสมอเหมือนกับต้นกำเนิดอันได้แก่จิตวิญญาณที่มีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข

    เราลบล้างความจำที่ขมขื่นหรือทุกข์ระทมได้ด้วยการจดจ่อกับความสุขสดชื่น แม้เราอาจจะยังจดจำความขมขื่นหรือระทมทุกข์นั้นๆได้บ้าง ไม่ถึงกับลืมสนิท แต่การจดจ่อกับความสุขสดชื่นเสมอๆก็สามารถทำให้ความทุกข์ระทมขมขื่นนั้นๆจางหายไปได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว หากเราสามารถจดจ่อกับความสุขสดชื่นได้มากและบ่อยเท่าไร โอกาสที่เราจะหวลระลึกถึงความทุกข์ระทมขมขื่นก็น้อยลงเท่านั้น หากเราจดจ่อกับความสุขสดชื่นได้ตลอดเวลาจนเป็นนิสัย เราก็จะลืมความทุกข์ระทมขมขื่นไปได้โดยปริยาย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วมันยังคงอยู่ในความจำเสมือนอยู่ในแฟ้มเก็บข้อมูล แต่เมื่อเราไม่จดจ่อกับมัน มันก็กลายเป็นข้อมูลที่ถูกเก็บหรือปิดตาย และไม่มีผลต่อเราอีกต่อไป เช่นเดียวกับข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายมหาศาลในจิตวิญญาณ แต่ก็ถูกเก็บหรือปิดตาย ตราบใดที่เราไม่ได้จดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้องจองกับมัน มันก็จะไม่ถูกเผยหรือเปิดออก

    ความจำในระดับเซลล์ โมเลกุลและอะตอมคิือความจำในสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับรูปกายหรือร่างกาย มันไม่ได้แปลกแยกไปจากความจำในสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับตัวตนภายนอก หรือตัวตนที่เราคิดว่าเป็นของเรา-คือเรา และไม่ได้แปลกแยกไปจากความจำในสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับตัวตนภายในเลย ท่านอาจารย์อนาลัยแยกแยะการทำงานออกเป็นสามส่วนเพียงให้เราเข้าใจได้เท่านั้นว่า สติสัมปชัญญะควบคุมการเป็นบุคคลตัวตนทั้งหมดของเราอย่างไรบ้าง

    ดังนั้นการจดจ่อกับความเชื่อในแง่บวกที่ทำให้เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวก จึงเป็นการลบล้างความจำในสติสัมปชัญญะที่จดจ่อรูปกายหรือร่างกาย และ ความจำในสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับตัวตนภายนอก ซึ่งทำให้มันคล้องจองกับความจำในสติสัมปชัญญะส่วนที่จดจ่อกับตัวตนภายใน อันเป็นความจำของจิตวิญญาณที่คล้องจองกับต้นกำเนิด ทำให้จิตวิญญาณสามารถเหนี่ยวนำคุณสมบัติอันเสมอเหมือนกับต้นกำเนิดมาสู่รูปกายและจิตใจได้ทุกอนูเสมอค่ะ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2007
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ผู้อ่านฝากมาขอบคุณ

    มีผู้อ่านชาวไทยในต่างประเทศ ซึ่งอ่านกระทู้ของเราทุกวัน แต่พิมพ์ภาษาไทยไม่ได้เพราะแป้นพิมพ์ไม่มีตัวอักษรไทย รวมทั้งผู้อ่านชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทยซึ่งอ่านกระทู้ของเราทุกวันแต่ไม่ได้ post เขียน e-mail มาถึงพี่นักเขียน ฝากขอบคุณพวกเราชาวห้องวิทย์ฯที่ช่วยถามคำถามแทนมากมายที่ตรงใจค่ะ

    [​IMG]
    พี่นักเขียนก็ต้องขอขอบคุณพวกเราชาวห้องวิทย์ฯด้วยเช่นกัน ที่นอกจากจะสละเวลาส่วนตัวตั้งคำถามแทนผู้อ่านจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสซักถามปัญหากับพี่นักเขียนแล้ว ยังเป็น entertainer ทางจิตวิญญาณที่หาได้ยาก ช่วยให้พวกเราได้ออกกำลังภายในด้วย inner jogging บ้าง จินตนาการบ้าง ลับสมองบ้าง (rose)
     

แชร์หน้านี้

Loading...