ถามเรื่องการปฏิบัติครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย fluke892541, 30 มีนาคม 2013.

  1. fluke892541

    fluke892541 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +42
    เพิ่งเริ่มปฏิบัตินะครับ พอหลังจากสวดมนต์ไหว้พระก็นั่งสมาธิครับ
    พอนั่งไปเรื่อยๆรู้สึกจิตสงบเลยครับ แต่ร่างกายจะเกร็งบ้างโยกบ้าง
    ถ้าถึงจุดนี้แล้วควรจะทำยังต่อไปครับ ปกติผมดูลมหายใจแล้วภาวนา พุท-โธ
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อาการปิติเป็นอาการที่ถามกันมาก.....ซึ่งผู้ปฏิบัติมักจะข้องใจเมื่อเกิดอาการนี้....

    อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ




    อาการของอุปจารสมาธิคือปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์
    จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยมไม่เคยพบความสุข
    อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุข
    ร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการ
    ทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
    ๑.อาการขนลุกซู่ซ่าเมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์
    ใจเป็นสุขขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจเมื่อสมาธิ
    สูงขึ้นหรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเองอาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควร
    ภูมิใจว่าเราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว อย่ากังวลอาการของร่างกาย
    ๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ได้แก่อาการน้ำตาไหล
    ๓.อาการของปีติขั้นที่ ๓คือร่างกายโยกโคลงโยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง
    บางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น
    ๔.อาการของปีติขั้นที่ ๔ตามตำราท่านว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศแต่ผลของการปฏิบัติ
    ไม่แน่นัก บางรายก็เต้นเหมือนปลุกตัว บางรายก็ตัวลอยขึ้นบนอากาศเมื่อลอยไปแล้ว ถ้าสมาธิ
    คลายตัวก็กลับมาที่เดิมเอง(อย่าตกใจ)
    ๕. อาการของปีติขั้นที่ ๕คือมีอาการแผ่ซ่านในร่างกายซู่ซ่าเหมือนมีลมไหลออก
    ในที่สุดเหมือนตัวใหญ่และสูงขึ้นหน้าใหญ่แล้วมีอาการเหมือนลมไหลออกจากกายในที่สุด
    ก็มีความรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่ท่อนหัว
    อาการทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดขึ้นอารมณ์ใจจะมีความสุข ฉะนั้นนักปฏิบัติให้ถืออารมณ์ใจ
    เป็นสำคัญอย่าตกใจในอาการตามที่กล่าวมาแล้วนั้นพอสมาธิสูงถึงระดับฌานก็จะสลายตัว
    ไปเองปีตินี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอารมณ์จะเป็นสุขคือถึงระดับที่สี่ ที่จะเข้าถึงปฐมฌาน ต่อไปก็
    เป็นปฐมฌานเพราะอยู่ชิดกัน

    **************************************************


    เข้าศึกษาได้ตั่งแต่เริ่มต้น...ทั้งหมด....ได้ที่นี่....หนังสือเล่มนี้เนื้อหาเพียงพอสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติด้วยตนเอง....รวบรวมวิธี...และอาการทางสมาธิ...ทั้งหมด....ควรศึกษาให้เข้าใจสัก 1 รอบ(ไม่ยาวนัก)แล้วปฏิบัติได้เลย....คำถามทางสมาธิส่วนใหญ่ที่ถามในบอร์ดมักอยู่ที่นี่.......

    วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ....โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( ฤาษีลิงดำ )...
    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=7
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ทำอย่างไรต่อไป ......

    ลองพิจารณาแบบนี้เพิ่มด้วย

    ลองพิจารณาว่า เรานั่งสมาธิ หรือ สวดมนต์ไหว้พระ สิ่งนี้เริ่มจาก
    เกิดอะไรที่ใจเรา "ความพอใจ" จะประกอบสิ่งนั้น ใช่หรือไม่

    ทีนี้ พอทำสมาธิไปสักพัก หรือ สวดมนต์ไปสักพัก ก็จะครบกำหนด
    หรือ ครบวัตถุประสงค์ เช่น ต้องการนั่งสมาธิ 2 ชั่วโมง นั่งได้ครบ
    2 ชั่วโมง เราก็หยุดทำสมาธิ หรือ สวดมนต์จบแล้ว เราก็หยุดสวด

    ตอนที่ หยุดทำสมาธิ หรือ หยุดสวด ให้ กลับไปพิจารณา "ความพอใจ"
    ที่เป็นตัวเหตุ ว่า มันเป็นอย่างไร มันยังตั้งอยู่ได้ไหม หรือ ว่ามันดับไป

    พิจารณากลับมาอีก เหตุดับไป ผลก็ดับไป คือ ความพอใจจะทำสมาธิ
    ดับไป เราก็หยุดทำสมาธิไปด้วย พิจารณากลับไป กลับมา แบบนี้ไว้
    เพิ่มเติมด้วย

    แล้วจะรู้เลยว่า ต้องทำอะไรต่อ ด้วยตัวเอง ....

    อะไรก็ตามที่เราทำให้ มันสถิตอยู่ในใจได้ มี"สติ"ระลึกถึง ก็รู้ว่า สำเร็จ
    แล้วประกอบแล้ว(สัมปชัญญะ) มีแล้ว หากสิ่งนี้ปรากฏ ไอ้ที่เขาว่า "งาน
    จบ" "จบกิจ" มันเป็นอย่างไร จะพึงทราบด้วยปัญญาอันยิ่งได้ไหม ก็
    ว่ากันต่อไป ใช่หรือไม่ใช่
     
  5. fluke892541

    fluke892541 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบคุณทุกตวามเห็นที่มาแนะนำครับ
     
  6. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ลองดูเนาะ

    ฝึกแบบนี้ สมาธิเราก็ได้ฝึก ฝึกสำเร็จ ก็ทวนกระแสไปเห็น ตัณหาเกิด แล้วก็ดับ

    ตามเห็นตัณหาเป็นสิ่งเกิดดับอยู่เป็นประจำ สมาธิก็ได้เป็นพยานกับกายอีก

    สุขจากการเห็นตัณหาสิ้นไป ก็ได้

    สุขจากการหมั่นประกอบสมาธิ ก็ได้

    สุขใดเหนือนการสิ้นตัณหา อันนี้ อยู่ที่ จะโน้ม มนสิการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  7. jintanakarn

    jintanakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    ทำความรู้จักกับสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดอาการอย่างไรให้รู้ดูอยู่อย่างนั้น ดูจนเกิดการรู้การเปลี่ยนแปลงไปตามอาการที่เกิดขึ้น ให้รู้สิ่งที่กำลังปรากฏในสมาธิแต่อย่าไปบังคับปรุ่งแต่งไปตามความนึกคิดของตัวเอง อย่าได้เอาความรู้ที่อ่านมาเข้ามาบังคับแก้ไขให้เป็นไปตามตำรา เพราะนั่นคือการสร้างตัวตนในสิ่งสมมุติไม่ได้เกิดจากสภาวะที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ สภาวะที่เกิดขึ้นจริงๆต้องมาจากผลกรรมที่เราได้สร้างมาในอดีต จึงปรากฏให้เห็นในขณะจิตที่สงบ พอเราหยุดการกระทำทางกาย วาจา (ในขณะนั่งสมาธิ) ก็คงเหลือแค่ทางใจ เมื่อทำความสงบทางใจได้ สภาวะต่างๆก็จะปรากฏให้รู้เห็นตามแต่ผลกรรมในอดีตที่ได้สร้างมา อยู่ในรูปแบบองค์ของสมาธิ(ฌาน)ในขั้นต่างๆ ใครบำเพ็ญมามาก(ในอดีตสะสมสิ่งดี)ก็จะง่ายต่อการปฏิบัติ ส่วนผู้บำเพ็ญมาน้อยก็จะเกิดอาการต่างๆย่อมแตกต่างกัน อาการเป็นอย่างไรให้รู้ให้ชัด รู้สึกที่กายให้รู้ที่กาย รู้สึกที่ใจให้รู้ที่ใจ จะพอใจหรือไม่พอใจหรือแม้กระทั่งเฉยๆให้รู้อาการอย่างเดียว สุขทุกข์ก็ให้รู้อยู่เฉยๆ สภาวะความรู้สึกอาการและการเปลี่ยนแปลงต่างๆนั่นคือธรรมะที่แท้จริง การทำความเพียร อดทน อดกลั้น วิริยะขันติ ในขณะบำเพ็ญเพียร ย่อมนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางสมาธิ ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ ความก้าวหน้าของสมาธิก็ลดน้อยถอยลง ขอให้ท่านเจริญก้าวหน้าในทางธรรม ขออนุโมทนา
     
  8. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ท่านสำเร็จแล้วเหรอ??? สอนผิดๆถูก มันเป็นกรรมหนักนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  9. jintanakarn

    jintanakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    555 ยังไม่จบ ก่อนอื่นต้องขออภัยท่านจขกท.นี้ก่อน ที่มีเพื่อนสมาชิกบางท่านยังมีอารมณ์ค้างมาจากกะทู้อื่นแล้วมาลงกะทู้นี้ แต่น่าสงสารเสียจริงที่เป็นสมณะในพระพุทธศาสนายังมีอารมณ์แบบนี้อยู่ นึกว่าเกิดแล้วดับ การที่ข้าพเจ้าตอบแนะนำท่านจขกท.นี้ก็เป็นเรื่องธรรมดามิไช่เหรอ จะถูกหรือผิดก็คงไม่แปลกอะไรเพราะข้าพเจ้าเป็นแค่ปุถุชนคนทั่วไปไช่ชี้นำให้จขกท.ให้ทำตามหรือให้หลงทำตามจนปักใจเชื่อในตัวตนของข้าพเจ้า จะทำตามก็ได้ไม่ทำตามก็ได้ ไช่เรื่องใหญ่ เพราะในกะทู้นี้ทุกคนที่เป็นสมาชิกสามารถแนะนำได้มิไช่เหรอ ส่วนจขกท.จะทำหรือไม่ทำตามก็แล้วแต่ท่านจขกท. ถ้าท่านที่มีอารมณ์ค้างอยู่นี้ขอแนะนำให้ท่านไปที่กะทู้ของท่านน่าจะดีกว่า และข้อความที่ข้าพเจ้าบอกไปแล้วในข้อความสุดท้ายของกะทู้ของท่าน ขอให้ท่านโปรดไปอ่านดู
     
  10. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    พยายามทำลายอย่างที่ตั้งใจไว้เลยนะ คุณ จินตนาการ 55
     
  11. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ท่า บุญเก่า เยอะ จัง นะจ๊ะ อนุโมทนา ด้วย จ๊ะ

    คง ถึง เวลาแล้ว ที่ ต้องใกล้ชิด กับ พระอาจารย์ สักท่านนึง เพื่อติดตาม สภาวะ ให้ใกล้ชิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...