"ปาราชิก" แล้วกลับมาบรรพชาอุปสมบทอีก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย manymoons123, 30 มีนาคม 2013.

  1. manymoons123

    manymoons123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +416
    T_T ทำไมท่านใจดีจัง กราบขอบพระคุณท่าน และท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
     
  2. จาบคาเล็ก

    จาบคาเล็ก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    พอเห็นข้อความของเจ้าของกระทู้ก็เลย สงสัยว่าหากอาบัติปราชิกแล้วจะไม่บรรลุธรรมจริงหรือ เลยไปเจอมาอันหนึ่ง อาจใช้อ้างอิงได้ ให้เป็นข้อมูลไว้เผื่อมีท่านซึ่งรู้จะได้ให้ข้อมูลกันถูกครับ

    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

    ปาราชิก คือประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภท ครุกาบัติ อาบัติ

    หนักที่สุด ที่เรียกว่า อาบัติปาราชิก พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่

    กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ

    ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่

    1.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)

    2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย)

    3.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) หรือแสวงหาศาสตราอันจะนำไปสู่ความตายแก่

    ร่างกายมนุษย์

    4.กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้า

    ในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของ

    ตัวเอง)

    สำหรับ พระ ที่ต้องอาบัติ ปาราชิก แต่หากสึกออกมาเป็นเพศคฤหัสถ์แล้ว

    สามารถอบรมปัญญา และ บรรลุ มรรคผล เป็นพระอริบุคคลได้ เพราะ อาบัติ

    ไม่ได้ติดตัวมา สำหรับผู้ที่กลับมาเ็ป็นเพศคฤหัสถ์ ครับ

    ดังข้อความในพระไตรปิฎก

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 119

    ข้อความบางตอนจากอรรถกถา อัจฉราสังฆาตวรรค

    .......ไม่พึงอาจละฐานะได้ แต่นั้นบาปของภิกษุเหล่านั้น กำเริบขึ้น จะ

    พึงทำเธอให้จมลงในอบายถ่ายเดียว แต่ฟังเทศนากัณฑ์นี้แล้ว เกิด

    ความสังเวช ละฐานะ. ตั้งอยู่ในภูมิแห่งสามเณร บำเพ็ญศีล ๑๐

    ประกอบขวนขวายในโยนิโสมนสิการ บางพวกเป็นพระโสดาบัน

    บางพวกเป็นพระสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวกบังเกิด

    ในเทวโลก. พระธรรมเทศนาได้มีผลแม้แก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิก

    ด้วยอาการอย่างนี้. ฝ่ายภิกษุนอกนี้ ถ้าไม่พึงได้ฟังพระธรรมเทศนา

    กัณฑ์นี้ไซร้ เมื่อกาลล่วงไป ๆ ก็จะพึงต้องอาบัติสังฆาฑิเสสบ้าง

    ปาราชิกบ้าง ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้แล้ว คิดว่า พระ-

    พุทธศาสนา ช่างขัดเกลาจริงหนอ พวกเราไม่สามารถจะบำเพ็ญ

    ข้อปฏิบัตินี้ตลอดชีวิตได้ จำเราจักลาสิกขา บำเพ็ญอุบาสกธรรม

    จักพ้นจากทุกข์ได้ ดังนี้แล้ว จึงพากันสึกไปเป็นคฤหัสถ์. ชนเหล่านั้น

    ตั้งอยู่ในสรณะ ๓ รักษาศีล ๕ บำเพ็ญอุบาสกธรรม บางพวกเป็น

    พระโสดาบัน บางพวกเป็นสกทาคามี บางพวกเป็นอนาคามี บางพวก

    บังเกิดในเทวโลกแล. ฯลฯ

    เผื่อเป็นแนวทางให้ ท่านเจ้าของกระทู้ ได้น้อมนำมาศึกษาพรพุทธศาสนาอย่างจริงจังครับ
     
  3. ไกสร

    ไกสร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +53
    ถูกต้องครับ เพราะคือการ ทำหลังอ่อน มาเสพเมถุนกับตัวเองทางปาก จึงอาบัติปาราชิก
     

แชร์หน้านี้

Loading...