เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    อานุภาพของความรัก

    เป็นข่าวดีทีเดียวที่มีข้อมูลที่ออกมาสนับสนุนในทิศทางเดียวกันอีกมากมาย โลกของเรามีวิวัฒนาการที่ไม่เคยหยุดยั้ง วิวัฒนาการทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆแตกแขนงออกไปจากความรู้เก่าๆมากมาย ซึ่งเหนี่ยวนำให้เราเปลี่ยนความเชื่อในทางที่ผิด หวลกลับไปสู่ความรู้ต้นกำเนิดอันเป็นของกลางของสากลโลก เสมือนหยดน้ำที่แยกย้ายกันอยู่คนละทิศละทางมายาวนาน และในที่สุดก็จะกลับคืนสู่มหาสมุทรแห่งจิตวิญญาณ อันเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในที่สุด

    [​IMG]

    ประโยคที่คุณ Mead เขียนว่า มวลสารเล็กๆรวมตัวกัน จากอนุภาคเป็นอะตอม >โมเลกุล>ตัวตน
    เกิดจากพลังงานความรักที่เหนี่ยวรั้งกันขึ้นมาเป็นหนึ่งเดียวกัน


    ทำให้พี่นักเขียนตระหนักถึงช่องโหว่ของคำตอบ ที่ตนเองยังไม่ได้ให้ความกระจ่างกับคุณหนูลูกเกดและคุณน้องขจรวรรณว่า เราจะค้นพบจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของเรา และถ่ายทอดความรู้ความสามารถมาใช้งานได้อย่างไร พี่นักเขียนได้ตอบเรื่องเด็กอัจฉริยะไปแล้วว่า เราจะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า มีเจตนาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นว่าเราทำได้ นอกจากนี้พี่นักเขียนจะกล่าวถึงปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือความรัก ซึ่งทำให้การถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ จากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ และจากจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติ มาสู่ตัวตนของเราได้

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า เราทุกคนมาเผชิญกับบทเรียนชีวิตที่ทำให้เราต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเกลียดเป็นความรัก เรียนรู้ที่จะรักอย่างปราศจากเงื่อนไข ความรักเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเกิดขึ้นได้ การรับและถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณอื่นๆจะเกิดขึ้นได้ก็จากความรัก หากเรารักที่จะเรียนรู้สิ่งใด ความรักนั้นๆจะเหนี่ยวนำให้เราได้พบกับบุคคลหรือข้อมูลความรู้ที่เรารักที่จะเรียนเสมอ

    ชั่วชีวิตของเราทุกคน เราเป็นนักเรียนกันมาไม่มากก็น้อย เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิชาใดที่เรารักคุณครู-เรามักจะเรียนเก่ง และวิชานั้นจะดูเสมือนว่าง่ายกว่าวิชาอื่นๆ วิชาใดที่เราไม่รักคุณครู-ต่อให้เรารักวิชานั้นๆมากเพียงใด-เราก็ทำไม่ได้ดี สอบไม่ได้ดี และบางทีก็พาลโทษว่า เราไม่ได้คะแนนดีเพราะคุณครูไม่รักเรา แต่แท้จริงแล้วมันตรงกันข้าม เมื่อเราไม่รักคุณครู วิชาความรู้ของท่านก็ถ่ายทอดมาสู่เราไม่ได้ การที่ใครจะรักเราได้นั้น เราจำเป็นต้องรักเขาด้วยเสมอ เราจึงจะมองเห็นความรักของเขา หากเราไม่รักเขา ต่อให้เขารักเรามากเพียงใด เราก็มองเห็นไม่ได้
    การรักตนแต่ตนเองโดยไม่รู้จักรักผู้อื่น เป็นความรักที่ไม่อาจให้ความสุขกับตนเองได้ เรียกได้ว่ารักตนเองไม่เป็น
    การที่เราจะถ่ายทอดข้อมูลความรู้และความสามารถจากจิตวิญญาณอื่นๆก็ไม่ต่างไปจากความรักที่เรามีให้ครู หากเราพบความสามารถในตััวเขาที่เราอยากจะเป็น ความรักและเทิดทูนเขา ย่อมเหนี่ยวนำให้เราถ่ายทอดความรู้ความสามารถนั้นๆมาได้ในทิศทางอันเป็นเอกลักษณ์ของเรา พี่นักเขียนเล่าถึงคุณครูสอนเปียโนของพี่นักเขียน ที่ท่านพยายามเล่น Et?de ของ Chopin และเล่นได้ดีเลิศอย่างน่าประหลาด เบื้องหลังของการถ่ายทอดความสามารถของ Chopin มาสู่ตัวตนของท่านได้สำเร็จก็คือความรักที่คุณครูมีให้ Chopin อย่างหมดใจ คุณครูรักและเทิดทูนในความสามารถของ Chopin และตั้งจิตขอถ่ายทอดความสามารถเหล่านั้นมาสู่ตนเอง

    ความรักมีพลังอำนาจอันประหลาดที่เหนี่ยวนำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมาสู่เรา ผู้ที่รักความสุขสบายก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย ผู้ที่รักความหรูหราก็ใช้ชีิวิตได้อย่างหรูหรา ผู้ที่รักความสุขสงบก็มักมีชีวิตที่สุขสงบ ผู้ที่รักความรู้ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับการศึกษา ผู้ที่รักทะเลก็ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ทะเล ผู้ที่รักดนตรีก็ได้ใช้ชีวิตหรือทำงานผูกพันธ์กับดนตรี

    หากเราไม่ได้สิ่งที่พึงปรารถนาในชีวิต สิ่งแรกที่เราควรจะสำรวจตนเองคือ เรากำลังใช้ความรักของเราผิดทิศหรือเปล่า ? จุดอ่อนของคนจำนวนมากคือ หากเราปรารถนาที่จะได้-จะเป็น-จะทำบางสิ่งบางอย่าง เรามักจะเผลอที่จะรักแต่ตนเอง เช่น ในกรณีของคุณครูสอนเปียโนของพี่นักเขียน หากท่านเผลอรักแต่เพลงของ Chopin และอยากจะเล่นเพลงของ Chopin ให้เก่งเท่าหรือเก่งกว่า Chopin ความรักนั้นเป็นความรักตนเอง และย่อมทำให้ความรู้ความสามารถของ Chopin ซึ่งอาจเป็น จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ หรือจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างต่างมิติของท่าน ถ่ายทอดมาสู่ตัวตนของคุณครูไม่ได้ แต่เมื่อคุณครูท่านรัก Chopin เทิดทูน Chopin ความรู้ความสามารถของ Chopin ก็ถ่ายทอดมาสู่ท่านได้อย่างง่ายดาย ในกรณีนี้เรียกได้ว่า เมื่อรักครู(ในที่นี้คือ Chopin) ความรู้ของครูก็ถ่ายทอดมาสู่นักเรียน(ในที่นี้คือคุณครูสอนเปียโนของพี่นักเขียน)ได้ด้วยความรัก

    พี่นักเขียนอยากจะเป็นช่างตัดผมที่มีฝีมือ และอย่างถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์มาสู่ตัวตนของพี่นักเขียน ช่างตัดผมที่มีฝีมือมักทำให้ลูกค้าของเขามีความสุข ความพอใจของลูกค้าคือความสุขของช่าง ความพอใจของลูกและสามีคือความสุขของพี่นักเขียน เรียกได้ว่าความรักที่เรามีให้ผู้อืืื่นเป็นปัจจัยที่ผลักดันความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์มาสู่ตัวตนของเรา แม้ว่าทิศทางของความรักจะต่างไปจากคุณครูสอนเปียโน แต่มันก็เป็นความรัักที่ได้ผลไม่น้อยไปกว่าทิศทางแรก

    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นบุคคลในแดนไกลที่เราไม่รู้จักตัวตน พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน คนรัก คนใกล้ตัว หรือแม้แต่ศัตรูก็เป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติของเรา หากเราปรารถนาจะถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากบุคคลใดๆมาสู่ตัวตนของเรา เราก็ต้องใช้ความรักของเราให้ถูกทิศทาง เช่นเดียวกับที่เรารักคุณครูสอนวิชาเลข และเราก็เก่งเลขได้ดังปรารถนา เป็นต้น

    มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะใช้ความเกลียดดึงดูดสิ่งต่างๆที่เราปรารถนามาสู่ตัวตนของเรา นอกจากความเกลียดจะผลักไสสิ่งที่เรารักออกไปไกลแล้ว มันยัังดึงดูดสิ่งที่เราเกลียดหรือไม่พึงปรารถนาเข้ามาสู่ชีวิตของเราอีกด้วย

    ตัวอย่างเช่น หากเราเกลียดคุณครูผู้สอนวิชาเลขคณิต แต่เรารักวิชาคณิตศาสตร์ อยากจะเก่งคณิตศาสตร์ เพราะเป้าหมายของเราคืออยากจะเป็นวิศวกร ความเกลียดของเรานอกจากจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่จะถ่ายทอดความรู้ความสามารถของคุณครูผู้สอนมาสู่ตัวตนของเราไม่ได้แล้ว ยังทำให้เราไม่สมความปรารถนาและอาจดึงดูดวิชาชีพที่เราเกลียดมาสู่ชีวิตของเราอีกด้วย

    ความรักจึงเป็นสิ่งที่มีอานุภาพอันล้ำลึก และเป็นปัจจัยที่ทำให้เรามีอารมณ์?-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกได้เสมอ เพราะเมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่น และสามารถถ่ายทอดความรู้ความสามารถของเขามาสู่ตัวตนของเราได้ ความรู้ความสามารถเหล่านั้นจะแปลงสภาพไปเป็นเอกลักษณ์ในทิศทางของเรา เราจะเห็นคุณค่าของทุกคนที่ให้ความรู้แก่เรา

    ในนัยนี้ หากเราพิจารณาให้ลึกซึ้ง เราจะพบว่าไม่ใช่เพียงบุคคลที่เราเรียกว่าครู หรือผู้รู้เท่านั้นที่สามารถให้ความรู้แก่เราได้ แต่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา สามารถให้ความรู้แก่เราได้เสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากเราจะเปิดใจกว้างและมองหาความรู้ความสามารถจากบุคคลทั้งหลาย แม้แต่จากเด็กน้อยๆที่นั่งอยู่ในรถไฟตรงข้ามกับเรา หรือจากหนูน้อย Connie -นางฟ้าร้องเพลง เราก็อาจเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากเขา และแม้แต่จากกระรอก กระต่าย หรือนกน้อยที่มากินเมล็ดข้าวในสนามหญ้า ก็อาจจะให้ปรัชญาชีวิตอันล้ำลึกแก่เราได้อย่างน่าอัศจรรย์

    น้องลูกเกดบอกว่าเห็นหนู Connie แล้วอยากจะกอด ความรักที่เกิดขึ้นจนอยากจะกอดนี่แหละค่ะ คือปัจจัยที่ดึงดูดความรู้ความสามารถจากจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์มาสู่เราได้เสมอ หากน้องลูกเกดค้นหาให้พบใครสักคนที่เก่งภาษาอังกฤษในทิศทางที่น้องลูกเกดเห็นแล้ว รู้สึกได้อย่างที่อยากจะกอดหนู Connie ให้ศึกษาชีวิตของเขา และใช้ความสำเร็จของเขาเป็นแรงบันดาลใจ ที่จะทำให้เราใช้ความพยายามและความสามารถของเราอย่างดีที่สุด ความรักของหนูที่มีต่อเขา จะดึงดูดความรู้ความสามารถของเขามาสู่หนูลูกเกดได้อย่างน่าอัศจรรย์(rose)

     
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    แว่นใหม่

    หาเพื่อนมาให้โชคดีเล่นด้วย ส่วนแว่นใหม่เอามาฝากน้องนก(rose)
    [​IMG]
     
  3. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    A + A (อีกแล้ว)

    ต้องขอขอบคุณ คุณเฉลย:cool: คุณน้องขจรวรรณ:cool:และน้องนก:cool: ที่ช่วยตอบคำถามน้อง T_K_the_Naka

    ทำให้พี่นักเขียนตระหนักว่า หนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยที่บางคนว่าอ่านยาก หรือเข้าใจได้ยากนั้น-ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะพวกเราก็นำความรู้ที่แต่ละคนได้รับมาตอบคำถามได้อย่างชัดเจนในทิศทางของตนเองที่หลากหลายกันออกไป ทำให้เป้าหมายของการเรียนรู้จากกันและกันแตกแขนงออกไปอีก พี่นักเขียนคงจะรบกวนพวกเราต่อไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน เพราะวันนี้พวกเราต่างก็ได้ A กับ A กันอีกแล้ว

    A แรกคือ Ambition = ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสพแต่ความสุข ความสำเร็จในชีิวิต
    A ที่สองคือ Absolute = การมีพลังอำนาจอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำให้ชีวิตของเราเป็นไปตามปรารถนา

    เราได้ A จากห้องวิทย์ฯมากเท่าไร พวกเราก็คงจะตระหนักได้ว่า ชีวิตนี้ไม่ใช่ของยาก และพลังอำนาจทั้งหมดที่จะพลิกผันและควบคุมชีวิตของเราอยู่ที่อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามเชื่อในแง่บวกของตนเอง และหากมันเป็นความเชื่อที่เปลี่ยนเป็นความรู้ มันย่อมสร้างปาฏิหารย์ให้กับชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์(rose)
     
  4. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    รวมถามตอบ

    ใจเย็นๆค่ะ ค่อยๆอ่าน
    หากจะเอาแต่เนื้อๆที่ถามตอบกันในกระทู้นี้ พี่นักเขียนได้รวบรวมไว้ที่ :
    http://www.novaanalai.com/novaanala...860/64A62772-7160-11DC-937B-000D932ED860.html

    อย่าใช้สายตาหักโหมนะคะ

    [​IMG]
     
  5. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    จิตศาสตร์

    จิตศาสตร์และการฝึกฝนที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึงหมายถึงการฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัดและการฝึกฝนที่จะใช้ประสาทสัมผัสภายในหรือประสาทสัมผัสที่หกค่ะ ซึ่งครอบคลุมการฝึกฝัน ฝึกที่จะสัมผัสรู้อดีตและอนาคต ฝึกฝนที่จะสัมผัสรู้ถึงสภาวะอันเป็นไปตามธรรมชาติของจิตวิญญาณอยู่ ณ?? ศูนย์กลางของระบบเครือข่าย และการรู้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ

    บทฝึกฝนที่กล่าวมาทั้งหมด มีปรากฏในหนังสือแทบจะทุกเล่มในชุดนี้ค่ะ

    พี่นักเขียนมีความเห็นว่า การฝึกสมาธิและการฝึกกสิณ 40 เป็นวิธีการฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัดตามจริตของบุคคลก็จริง แต่เป็นวิธีการที่เป็นหลักการ เรียกได้ว่าไม่ใช่วิธีการตามธรรมชาติเช่นวิธีการที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้ให้ไว้ในหนังสือ เราจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าเราจะฝึกสมาธิหรือกสินวิธีการใด เรามักต้องใช้เวลานานแรมเดือนหรือแรมปีกว่าจะก้าวหน้า

    เราจะเห็นได้ง่ายๆว่า การฝึกฝันเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ เนื่องจากว่าเราฝันอยู่แล้วเป็นประจำทุกคืน การฝึกสังเกตอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดก็เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้เพราะเราต่างก็ใช้มันทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว ท่านอาจารย์อนาลัยเพียงแต่ให้เรารู้จักใช้สิ่งที่เราทำอยู่แล้วเป็นประจำในทิศทางที่เราไม่เคยใส่ใจ เพื่อรู้เห็นความเป็นไปต่างๆที่เราเคยคิดว่าไร้ความหมาย และท่านก็กล่าวว่าเราใช้ประสาทสัมผัสที่หกอยู่เสมอๆเช่นกัน เราเพียงแต่ไม่เคยรู้จักมัน และไม่เคยติดตามรู้เห็นการทำงานของมัน
    [​IMG]
    เราจะเห็นได้ว่าบทฝึกฝนที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึงและสอนให้เราทำ เป็นสิ่งที่ง่ายเสียจนเราคิดว่ามันจะไม่ได้ผล และหากเราคิดเช่นนั้น เราก็มักจะไม่ได้ใช้บทฝึกฝนเหล่านั้นฝึกฝนตนเองจริงจังเท่าไร แต่ถ้าหากเราฝึกฝันก็ดีึ ฝึกใช้ประสาทสัมผัสที่หกก็ดี และฝึกใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดให้คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกก็ดี เราจะพบว่าเราสามารถรู้เห็นสิ่งต่างๆที่เคยเป็นเสมือนสิ่งลี้ลับไกลตัว ทำให้เราตระหนักความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์กล่าวได้ว่า

    ปาฏิหารย์ที่แท้จริงคือธรรมชาติซึ่งปราศจากการขัดขวาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2007
  6. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    (b-wow) พึ่งรู้นะคะเนี่ยว่าวันก่อนมี Aliens อยู่ข้างหลังเราตั้ง 2 ท่านแน่ะ.. น่ากัวจัง..
    ขจรวรรณก็อยู่ซีกซ้ายแต่ข้างหน้าแถวที่ 2 ค่ะคุณ Mead ตรงกับจอใหญ่ที่มีสีเขียว ๆ แดง ๆ หรือต่อมไร้ท่อต่าง ๆ นั่นแหละค่ะ ใส่เสื้อสีเหลืองอ่อนอยู่ในกล้องคุณMead นิดนึง.. ไม่ทราบเจอรึปล่าวคะ.. ถึงไปสายแต่ก็ส่งหน่วยจองที่นั่งไปก่อนค่ะ.. อิอิ.. เป็นความเจ้าเล่ห์ส่วนตัวที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ..

    สำหรับกำหนดการณ์ครั้งหน้าวันที่ 4 พ.ย. ค่ะ ไม่ใช่ 4 พ.ค. อาจจะได้เจอกันอีกครั้งค่ะ.. เห็นอาจารย์แจ้งไว้ว่าจะบรรยายทุกเดือนก็คงได้เจอกันสักครั้งนึงล่ะค่ะ..
    (b-smile)
     
  7. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอถามพี่นักเขียนต่อเลยนะคะ ธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 9 ธรรมชาติของภพภูมิ
    หน้า 122
    มิติที่แท้จริงและมิติทั้งหมด คือปัจจุบัน
    ภพภูมิที่แท้จริงและภพภูมิทั้งหมด คือภาวะแห่งจิตวิญญาณ
    ภพภูมิเป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายเข้าใจได้ยากด้วยสภาวะความรู้สึกนึกคิดที่เธอเป็นอยู่

    พี่นักเขียนพอจะอธิบายคำจำกัดความที่ทำให้พวกเราเข้าใจภพภูมิได้ง่ายขึ้นกว่านี้มั้ยคะ? เพราะอ่านจากหน้า 122 แล้วก็ยังรู้สึกงง ๆ อยู่น่ะค่ะ..
    (b-green)
     
  8. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ขอบคุณพี่นักเขียนค่ะ สำหรับเพื่อนเล่นโชคดีแล้วก็แว่น แหม สีม่วงจ๊าบไปเลย
     
  9. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ถูกใจเจ้าเหมียวตัวนี้อย่างแรง ทำงงจนตาเหล่แล้ว 555
     
  10. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    หน้า 128 เมื่อจานบินเหล่านี้ออกเดินทางจากจุดเริ่มต้นซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดหรือภพภูมิของพวกเขา อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตและวัตถุธาติต่างก็สอดคล้องกับสภาวะจำกัดของภพภูมินั้น ๆ แต่เมื่อมาเยือนภพภูมิแห่งโลกมนุษย์ อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตและวัตถุธาตุเหล่านั้นบิดเบือนไป รูปทรงและสัณฐานของมันก็ผิดเพี้ยนไปด้วย

    มีปัจจัยใดที่ทำให้รูปทรงและสัณฐานของมนุษย์ต่างดาวผิดเพี้ยนไป? แล้วทำไมพวกเค้าถึงมาเยือนโลกมนุษย์ด้วยรูปลักษณ์ทางภายภาพแล้วเข้ามาในระบบโลกของเราได้โดยวิธีใด? พวกเค้าไม่ได้มาด้วยวิธีการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปะชัญญะหรอกหรือคะ?
    ( คำถามนี้น่าจะถามคุณ Mead กับคุณ Falkman นะคะพี่นักเขียน.. อิอิ.. )
    (b-cap)
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เห็นหลังคุณขจรวรรณแล้วครับ มานั่งแถบหลังห้องใกล้กันนิดเดียว
    นั่งอยู่ข้างน้องชลทิสด้วย ตอนลุกกลับก่อนก็เอ๊ะใจอยู่ว่าใช่รึป่าว?
    ต้องเป็น 4 พ.ย.ถูกแล้วครับ พิมพ์สับกันอยู่บ่อยๆคับ

    ส่วนเรื่องรูปทรงและสัณฐานของมนุษย์ต่างดาวผิดเพี้ยนไปนี่
    อาจารย์อนาลัยบอกไว้ชัดเจนที่สุดเลยครับในบรรดาความรู้ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกขณะนี้

    คือเรื่อง"เครื่องพราง"นี่ล่ะครับ ที่ผมได้อ่านแล้วหมดสงสัยไปเลย
    เป็นความรู้ที่ดีมาก ไม่ว่าจะอยู่ภพภูมิไหนคำตอบนี้ถือว่าชัดเจนที่สุดแล้วครับ

    การปรากฎของจานบินและมนุษย์ต่างดาว เป็นปรากฎการณ์ที่นักวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ชัดเจน บางทีเมื่อมนุษย์โลกมองเห็นจานบินที่เราเข้าใจว่าเป็บยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจมีทั้งเดินทางจากดาวนพเคราะห์ดวงอื่น หรือการบิดเบือนที่เกิดขึ้นกับมิติคู่ขนานของเราเอง ที่มีการทับซ้อนมิติกันอยู่ การปรากฎของเขาเคยเกิดจากความบังเอิญ แต่เมื่อวิทยาการของเขาล้ำหน้าไป การปรากฎของเขาอาจเป็นไปด้วยการวางแผนและความตั้งใจ แต่การปรากฎของจานบินและสี่งมีชีวิตต่างภพภูมิเป็นไปอย่างไม่ชัดเจน หรือไม่สมบูรณ์ เพราะแต่ละภพภูมนั้นจะมีเครื่องพรางที่แตกต่างกันไป

    ภพภูมิของโลกมนุษย์เรามีระยะทาง ช่องว่าง และกาลเวลาเป็นเครื่องพราง อะตอมและโมเลกุลของสิ่งมีชิวิตและวัตถุธาตุอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน และคงสภาพบางส่วน ตามความจำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับภพภูมนั้นๆ การปรากฎในต่างภพภูมิอาจต้องใช้ความดันสูง สิ่งมีชีวิต และวัตถุธาตุนั้นๆ ไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นานพอ และต้องกลับไปสู่ภพภูมิต้นกำเนิดในที่สุด เราจึงมองเห็นมนุษย์ต่างมิติเหล่านั้นได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ..

    จากหนังสือ "ธรรมชาติของชาติภพ" -โนวา อนาลัย


    ส่วนที่ว่าจะมากันทำไมที่โลก?
    เค้าคงเป็นพี่ๆน้องๆทางจิตวิญญาณเหมือนกันกับเรา
    แรกๆก็เหมือนมาด้วยความบังเอิญ หลังๆก็ตั้งใจมา
    เท่าที่รวบรวมมาได้ ก็มีสาเหตุจากเรื่องเหล่านี้ครับ

    ความอยากรู้อยากเห็น+การเรียนรู้เพื่อขยายขอบเขตการทดลอง
    อาจมีความเกี่ยวพันกับเผ่าพันธ์มนุษย์..พวกรูปธรรมระดับสูง
    มีหน้าที่ช่วยเหลือติดตั้งกลไกบางอย่างในระดับ dnaไว้ให้ (มีหน้าที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับมนุษย์)
    ตั้งแต่ก่อนจะมีมนุษย์ชุดแรก เรี่อยมาจนถึงอดีตกาลให้กับบรรพบุรุษของเรา
    จนถึงอารยธรรมและภูมิปัญญาของมนุษย์
    บางกลุ่มก็มาทักทายเพื่อนเก่าทางจิตวิญญาณ แจ้งข่าวสารเรื่องภัยธรรมชาติ (ที่ผิดธรรมชาติ)
    บางกลุ่มได้รับผลกระทบจากคลื่นความถี่บางอย่างจากโลกและยานอวกาศของนักวิทย์ฯ
    ที่ยิงออกไปในห้วงจักรวาล ที่ส่งผลกระทบถึงในเอกภพ
    มาเตือนมาบอกให้หยุดเรื่องการทดลองนิวเคลียร์
    รวมถึงบางกลุ่มที่ไม่หว้งดีก็มีอีก มาขโมยของบนโลกไปเก็บพิพิธภัณฑ์ หรือจับคนไปทดลองก็มี
    บางกลุ่มมาเดินแฝงกายปะปนกับพวกเราก็มี (แบบคุณ Falkman ไงครับ)
    แค่เฉพาะในระบบสุริยะก็มีแทบทุกดวงดาวเลยล่ะครับ แล้วแต่วิวัฒนาการ
    จะออกมาในรูปแบบใด ตามอำนาจสนามแม่เหล็กที่กำหนดรหัสชีวิตของภพภูมินั้นๆครับ
    อันนี้คุณขจรวรรณก็คงพอรู้นะครับ ไปฟังบรรยายด้วยกันบ่อยๆ

    [​IMG]

    ภาพนี้ที่ผมเคยบันทึกไว้ได้ด้วยกล้อง Vdoครับ ที่โรงเรียนสิงห์บุรี ปีใหม่ 2531โดยการสื่อโทรจิตของ"กลุ่มเขากะลา" คนมาดูกันหลักหมื่นเต็มสนามฟุตบอล วันนั้นท้องฟ้าโปร่งไม่มีเมฆเลยครับ
    เห็นเลยครับว่า เค้าปรากฎให้เห็นแค่เสี้ยววินาทีและเคลื่อนที่หายไปรวดเร็วมาก และดูเหมือนเงาลางๆสีขาวโปร่งๆ บางทีก็คมชัดสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นสีเงินๆ คงอยู่ในสภาวะปรับเปลี่ยนรูปทรงสันฐานระหว่างภพภูมิพอดี แบบที่อาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ทุกประการจริงๆครับ อันนี้ถ้าดูเทปต้นฉบับมองเห็นเสาอากาศ และปุ่มกลมๆใต้ท้องยานด้วย..แรกเห็นก็ขนลุกครับ..ปรากฎมีกล้องผมตัวเดียวที่ถ่ายติดในวันนั้น นักข่าวไม่สามารถบันทึกภาพได้เลยสักคน คงไม่บังเอิญครับที่ให้พวกเดียวกันถ่ายกันเองติด..แหะๆ (จริงๆเค้าเข้าวิ่งมาเข้ากล้องผมเอง ไม่ได้ใช้ความสามารถเท่าไหร่เลยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2007
  12. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    บทที่ 10 การเป็นอิสระจากขีดจำกัดของโลกมนุษย์
    หน้าที่ 133 บรรทัดที่ 3 จากล่าง
    เธอลองจดรายการความรู้ ความสามารถทางกายภาพและทางจิตวิญญาณของเธอ ไม่ว่ามันจะปรากฏเป็นจริงในชีวิตนี้หรือเป็นเพียงความเป็นไปได้ ความใฝ่ฝันหรือความรู้สึกในส่วนลึกขอเธอก็ตามสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวแทนคุณสมบัติแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายของเธอ ซึ่งเธอเป็นผู้เลือก หรือกระตุ้นความรู้ความสนใจหลักในจิตวิญญาณของเธอ เธออาจจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้เท่านั้นที่เป็นความจริง นอกเหนือจากนั้นเป็นเพียงความใฝ่ฝัน หากเธอติดตามความใฝ่ฝันเหล่านี้เธอจะพบว่ามันเป็นเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายมั่งคั่งของเธอซึ่งเกิดขึ้นในชาติภพอื่นหรือมิติอื่น และเป็นความจริงไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชาติภพนี้-มิตินี้
    ความใฝ่ฝันของผม ผมอยากร้องเพลงที่คนอื่นฟังแล้วไพเราะ (เอาไว้ร้องคาราโอเกะแข่งกันน้องนก เพราะทุกวันนี้ร้องแล้วตัวเองฟังได้คนเดียว) และเราจะตรวจสอบทางความฝันโดยใช้ Key word ว่าในชาติภพอื่นมิติอื่นเราร้องเพลงได้ไพเราะอย่างไรดีครับ หรือมีวิธีตรวจสอบวิธีอื่นหรือไม่ครับ
     
  13. fidgi

    fidgi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +184
    ขอบคุณพี่นักเขียนมากๆ เลยนะคะ ช่วงนี้สายตามีปัญหาจริงๆ ค่ะ อ่านอะไรบนเน็ตนานๆ นี่ไม่ได้เลย แต่แปลกค่ะ เวลาทำงานก็ต้องนั่งอ่านงานจากบนคอมฯ เหมือนกัน แต่กลับไม่เจอปัญหาแบบมาอ่านบนเน็ตเลย แถมนั่งทำได้ทั้งคืนอีกต่างหาก ..เข้าใจว่าสีสันบนเน็ตมันจะเยอะไปหน่อยน่ะค่ะ....แต่ link ที่พี่นักเขียนให้มา อ่านสบายตากว่ากันเยอะเลย เพราะพื้นดำสนิทอ่านง่ายดีค่ะ...ขออ่านของเพื่อนคนอื่นๆ ไปก่อนนะคะ เผื่อจะเจอคำตอบที่โดนใจ พี่นักเขียนจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาตอบอีกรอบหนึ่งค่ะ....ขอบคุณค่ะ....
     
  14. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    คุณ mead เนี่ยเจ๋งมากๆ อย่างนี้เราสามารถติดต่อกํบเค้าทางสมาธิหรือความฝันได้มั๊ยครับ ผมว่าน่าลองนะ
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ชักอยากฟังพี่เหลยร้องเพลงคู่กะน้องนกซะแล้วคับ..
    อาจจะเป็นการประสานเสียงกันเป็นคู่ duo ชื่อก้องโลกของโลกจิตวิญญาณไปเลยก็ได้คับ (อิอิ)
    เอามาให้ฟังกับบ้างนะครับ เปลื่ยนบรรยากาศให้มีเสียงตระการหูบ้างก็ดี
    Note*** ระวังของมีคมกับหมัดด้วยนะครับพี่เหลย
    ตอนนี้พี่นักเขียนก็ใส่รูปประกอบสดสวยน่าสนใจทุกช๊อต ตามเก็บทุกรูปเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2007
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เดี๋ยวจะว่าเป็นคุณลุง เอิ๊กๆๆ
    ครือว่า เมื่อก่อนมีเพื่อนชอบสะสมเพลงเก่าๆน่ะคับ
    พอฟังแล้วรู้สึกว่ามีมนต์ขลัง มีกลิ่นไอของยุคสมัยนั้น
    เลยตามเก็บ สั่งซื้อกันมาจนหมด หนังก็ดูไปด้วย เมื่อก่อนดูเรื่องนี้แล้วไม่ประทับใจเท่าไหร่
    พอมาดู Version แท้ๆที่เป็น dvd กลับรู้สึกถึงความสดใส ไพเราะของเพลงมากกว่าเก่าหลายเท่าเลยครับ ดูกี่รอบก็ไม่รู้จักเบื่อ เดี๋ยวCopyให้สักแผ่นก็ได้ครับ ควรเก็บไว้จริงๆครับเรื่องนี้ ไว้ไปฝึกภาษาด้วยไงครับ
     
  17. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจะไปยืมเสื้อเกราะคุณ Zipper แต่หมัดเนี่ยไม่รู้จะกันยังไงถึงแม้หนังเหนียวก็คงช้ำในตายแน่ๆ
    พูดถึงคุณ zipper ยังไม่กลับจากต่างประเทศเหรอ
    วันนี้เป็นแผลร้อนในในปาก ไม่เคยเป็นนานแล้ว พอเป็น หน้าตาคงไม่รับแขกน้องที่ทำงานมาถามว่าไม่สบายเหรอ ฟังแล้วสะอึกเลย เสียชื่อนักเรียนจิตวิญญาณหมด แนะนำคนอื่นได้พอตัวเองกลับไม่นำมาใช้ ต้องขอบคุณน้องที่มาถาม
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    สวัสดีครับ กลับมาแล้วครับ ดูท่ากระทู้จะวิ่งไปไกลเลย ตามอ่านไม่ทันแล้ว
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ฝันได้-ทำได้

    การ tune กับบุคคลตัวตนผู้มีความรู้ความสามารถที่เราใฝ่ฝันเพื่อถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้กลายเป็นความเป็นจริงนั้นทำได้หลายทาง เพราะเราถ่ายทอดข้อมูลความรู้ได้จาก:
    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติในอดีต
    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน
    จิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างต่างมิติในอดีต ปัจจุบันและอนาคต

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า
    จินตนาการคือจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด

    ตามนัยนี้ เมื่อคุณเฉลยมีจินตนาการอยากร้องเพลงเพราะๆให้ผู้อื่นฟัง คุณเฉลยได้สร้างตัวตนที่ร้องเพลงเพราะขึ้นมาแล้ว บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มากมายหลายเส้นด้วยกันตามความผกผันของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของคุณเฉลย ดังนั้นคุณเฉลยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะหากคิดจะตรวจสอบว่ามีิต้ัวตนนั้นๆจริงหรือไม่ ก็แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีความเชื่อมั่นว่า การที่คุณเฉลยจะร้องเพลงเพราะนั้น-เป็นสิ่งที่เป็นไปได้

    ที่พี่นักเขียนกล่าวว่าไม่ต้้องตรวจสอบนั้นไม่ได้หมายความว่า สนับสนุนให้งมงายกับความเชื่อโดยไม่ตรวจสอบความเป็นจริง แต่หมายความว่า การตรวจสอบว่าเราจะทำได้ไหม เป็นปัจจัยที่ขวางกั้นความเชื่อมั่นในตนเองว่าเราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังฝัน ด้วยความมุ่งมั่น-ปรารถนาอย่างแรงกล้าและมีเจตนาที่แน่วแน่

    เมื่อวันก่อนที่น้องลูกเกดบอกว่าอยากเก่งภาษาอังกฤษ หากน้องลูกเกดมีจินตนาการว่าตนเองเก่งภาษาอังกฤษ น้องลูกเกดก็ได้สร้างตัวตนที่เก่งภาษาอังกฤษเก่งขึ้นมาแล้วเช่นกัน บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มากมายหลายเส้นด้วยกันตามความผกผันของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของน้องลูกเกด

    การที่เราจะทำให้ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้นั้นๆมาสู่ความเป็นจริงได้ เราจะต้องจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้องจองกับสิ่งที่เราปรารถนา เมื่อกล่าวถึงฐานข้อมูลทั้งสามนี้ เราสามารถถ่ายทอดข้อมูลความรู้และความสามารถมาจากจิตวิญญาณเหล่านั้นได้เพื่อช่วยให้เราเรียนรู้ได้รวดเร็วหรือเรียนลัด

    เราจะทำได้จากความฝันด้วยการตั้งจิตก่อนนอน ขอฝันเพื่อเผชิญกับบุคคลตัวตนที่ถือกำเนิดบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่กำลังมีความสามารถที่เราใฝ่ฝันนั้นอยู่ เพราะบุคคลตัวตนนั้นได้ถ่ายทอดข้อมูลความรู้จากจิตวิญญาณสามแหล่งนั้นไปสู่ตัวตนของเขา ในทิศทางที่เรายังไม่ได้ทำ คือถ่ายทอดข้อมูลความรู้และความสามารถส่วนที่ทำให้เขาร้องเพลงเพราะ หรือเก่งภาษาอังกฤษ การตั้งจิตในที่นี้ต้องเป็นไปด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า มุ่งมั่น และมีเจตนาที่แน่วแน่ ถ้าไม่เช่นนั้นมันจะปราศจากพลังที่จะทำให้จิตวิญญาณเปลีี่ยนวิถีการจดจ่อไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงโลกนั้น ของบุคคลตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนั้น

    หากเราฝันพบตัวตนของเราที่ร้องเพลงเพราะ หรือเก่งภาษาอังกฤษได้ ฯลฯ ได้จริง มันหมายความว่าเราได้มองเห็นความปรารถนาอย่างแรงกล้า ความมุ่งมั่น และเจตนาอันแน่วแน่ของเราแปลงสภาวะเป็นความเป็นจริงแล้วบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ หรือเป็นจริงแล้วในโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่น มิติอื่น

    แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเราจะแปลงสภาพไปอย่างฉับพลัน แต่เราจะเกิดแรงบันดาลใจยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าทวีคูณ และหากเราใช้ความเพียรพยายามที่จะเรียนรู้และฝึกฝนตนเอง ความรู้ความสามารถที่เราปรารถนาจะหลั่งไหลมาสู่เรา ทำให้เรียนรู้ได้เร็วและพัฒนาทักษะและความสามารถได้อย่างรวดเร็ว

    เมื่อพี่นักเขียนกล่าวถึงการใช้ keyword เพื่อค้นหาธรรมชาติความเป็นจริงนั้น เป็นเพียงอุปมาอุปมัยกับการค้นหาข้อมูลทาง Internet เพื่อให้พวกเราตระหนักได้ว่า เราจะต้องจดจ่อจำเพาะเรื่อง มิฉะนั้นข้้อมูลความรู้ที่เราถ่ายทอดหรือ download มาจะสะเปะสะปะ

    keyword นั้นตรงไปตรงมาที่สุด เมื่อตั้งจิตอยากจะเป็นเช่นไรก็จดจ่อที่อารมณ์ปรารถนาเช่นนั้น keyword หรือคำพูดแทบจะปราศจากความหมาย เพราะความอยากร้องเพลงเพราะหรือเก่งภาษาอังกฤษ หรืออยากมี อยากเป็น อยากทำ และความปรารถนาทั้งหลาย ล้วนเป็นภาพรวมที่ค่อนข้างกว้าง ไม่อาจทดแทนได้ด้วยคำพูดเพียง 2-3 คำเช่นการป้อน keyword ที่เป็นตัวอักษรจริงๆ

    แม้คิดว่าอยาก"รวย" ที่ดูเสมือนจะเป็นเพียง keyword คำเดียว แต่ความรวยในจินตภาพของเราแต่ละคนก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งคำว่า"รวย"เพียงคำเดียวไม่อาจเป็นตัวแทนจินตภาพแม้แต่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ทั้งหมด

    สำหรับการเป็นบุคคลตัวตนที่จะร้องเพลงเพราะหรือเก่งภาษาอังกฤษ เราจะต้องจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดที่เราจดจ่ออยากจะเป็น อยากจะได้ อยากจะทำในที่ทิศทางที่เราปรารถนา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดในสาระนี้คือ keyword ที่ปราศจากคำพูด แต่เป็นภาพพจน์รวมของการได้เป็น-ได้มี-ได้ทำสมความปรารถนา

    ปัญหาของเรามักจะอยู่ตรงที่ว่า เรามักไม่เชื่อความฝัน บ่อยครั้งที่เราฝันตรงและรู้เห็นสิ่งที่เราตั้งจิตปรารถนา แต่เมื่อมันปรากฏเป็นสัญญลักษณ์ เรากลับคิดว่าเราฝันเหลวไหลนอกเรื่องไม่ตรงกับที่เราตั้งจิตไว้ เราจะต้องเรียนรู้ที่จะจดจำและจดบันทึกความฝัน และตีความหมายด้วยการทดแทนสัญญลักษณ์เหล่านั้น

    แต่บางครั้งความฝันก็แสดงให้เราเห็นบุคคลตัวตนผู้มีความรู้ความสามารถที่เราปรารถนาอย่างตรงไปตรงมา แต่อาจทดแทนเป็นสัญญลักษณ์ด้วยบุคคลตัวตนอื่นๆที่เรารู้จักดียามตื่น ผู้มีความรู้ความสามารถที่เราใฝ่ฝันประสมประสานกับบุคลิกภาพที่ซ้อนกันกับบุคคลอื่นๆ เพราะเราจะกลายเป็นผู้ที่ร้องเพลงเพราะหรือเก่งภาษาอังกฤษ เหมือนกันกับใครสักคนอย่างไม่ผิดเพี้ยนนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ ความฝันของเราจึงอาจจะแสดงให้เห็นสัญญลักษณ์อื่นๆที่เป็นตัวแทนความรู้ความสามารถส่วนอื่นที่เราปรารถนาอีกด้วย แต่ไม่ว่าเราจะฝันเห็นเป็นใคร เป็นบุคคลใดๆ แม้แต่ฝันเห็นบุคคลที่เรารู้จัก ทั้งหมดนั้นก็เป็นสัญญลักษณ์ที่ทดแทนภาวะจิตของเรา

    เมื่อฝันแล้ว-เห็นแล้ว ต้องตระหนักว่า มันไม่ใช่เพียงการไปฝันเห็นตามความอยากเท่านั้น แต่หมายความว่าความรู้ความสามารถนั้นๆได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของภาวะของจิตวิญญาณของเราแล้วอย่างแท้จริง เพราะโลกของความฝันคือโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติอันได้แก่ภาวะจิตของเราเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า เราฝันเห็นนักร้องที่เราชื่นชอบ หรือเราฝันเห็นนักจัดรายการที่เก่งภาษาอังกฤษ เราได้ถ่ายทอดเอาความรู้ความสามารถของบุคคลตัวตนดังกล่าวนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณหรือภาวะจิตของเราแล้ว ผู้ที่เราพบเห็นอาจเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติในอดีต
    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน หรือจิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างต่างมิติในอดีต-ปัจจุบันและอนาคต ของเรา


    เมื่อเราตื่นขึ้นมา หากเราไม่ได้ใช้ความพยายามและจดจ่อที่จะนำความฝันที่เราพบเห็นตอนหลับ มาสานกับความฝันที่เราฝันหวานยามตื่น ความรู้ความสามารถทั้งหมดก็จะถูกซุกซ่อนอยู่ในภาวะจิตของเราต่อไป ไม่อาจงอกงามขึ้นมาได้ สรุปได้ว่าเราจดจ่อให้ฝันเห็นได้ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า และด้วยเจตนาที่แน่วแน่

    พี่นักเขียนได้ใช้วิธีการดังกล่าวนี้แต่งเพลงชุด ?มนตรา อนาลัย โดยเริ่มจากความฝัน และนำความฝันนั้นมาหัดและแต่งเพลงไปจริงๆพร้อมกันกับที่ใช้ MIDI keyboard บรรเลง โดยหัดใช้ GarageBand Software Program ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อน เสร็จสมบูรณ์ทั้ง album (11 เพลง) ในเวลา 6 สัปดาห์

    เวลาที่เราใช้เรียนรู้และลงมือทำสิ่งเราปรารถนาอย่างแรงกล้า ให้เป็นความจริงด้วยวิธีการเหล่านี้จะสั้นมาก แต่ทั้งนี้หมายความว่าเราจะต้องนำความฝันนั้นๆมาทำให้กลายเป็นจริง-ด้วยการลงมือทำด้วยความเพียรและจดจ่ออย่างหมดใจ เราจะพบว่าเราทำได้-อย่างง่ายดายเกินคาด และรู้สึกเสมือนว่าเรากำลังเรียนรู้สิ่งที่เราเคยทำ เคยรู้ แต่ลืมเลือนไปเท่านั้น ไม่ใช้เริ่มเรียนใหม่หมดจากศูนย์ แต่ถ้าหากปราศจากการลงมือทำด้วยความเพียรและมุ่งมั่น เราจะไปถึงจุดที่รู้สึกเสมือนว่ากำลังรื้อฟื้นความจำ-ไม่ใช่เรียนใหม่หมดนั้นไม่ได้ มันก็จะเป็นเพียงความฝันและแรงบันดาลใจในสิ่งที่ไม่เคยทำ และยังทำไม่ได้ต่อไป

    พี่นักเขียนเอาใจช่วยให้คุณเฉลยร้องเพลงเพราะ และ ให้น้องลูกเกดเก่งภาษาอังกฤษได้เร็วเหมือนฝันค่ะ
    [​IMG]
    [​IMG](rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2007
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ขอตัวไป Texas

    Welcome Home ค่ะคุณ zip กลับมาสวนทางกันพอดี
    พี่นักเขียนต้องขอตัวเดินทางอีกแล้ว คราวนี้ไป Texas
    ช่วงที่อยู่ที่นั่นต้องเดินทางตลอด-ไปหลายเมือง
    คงไม่มีโอกาสได้เข้ามาคุยกับพวกเราจนกว่าจะกลับมาสัปดาห์หน้าค่ะ
    [​IMG]
    ฝากพวกเราชาวห้องวิทย์ฯช่วยกันตอบคำถามไปพลางๆด้วยค่ะ
    ไปเที่ยวนี้จะเอา Long Horn มาฝาก
    พวกเราช่วยกันระวังอย่าให้หัวหน้าห้องฯซนเล่น gas ไวไฟนะคะ

    ใครตามกระทู้นี้ไม่ทัน เชิญไปอ่านที่พี่นักเขียนรวบรวมไว้เฉพาะเนื้อหา-ถาม-ตอบได้ที่
    http://www.novaanalai.com/novaanala...860/64A62772-7160-11DC-937B-000D932ED860.html
    (rose)จะคิดถึงทุกๆคนค่ะ(rose)

    ขอตัวไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...