จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    กราบสวัสดีท่านอาจารย์ค่ะ
    ปฏิบัติชอบไม่ชอบดีไม่ดีมาก็เนิ่นนาน บุญกุศลก็ผ่านมาผ่านไปหลากหลายประการ แต่ยังน้อยนิดอยู่แค่หัวสะพาน จะไปมรรคผลนิพพาน
    ก็ยังต้องเดินต่อไป

    น้อมรับธรรมและพระพุทธเจ้าในจิตตลอดไป เพื่อเป็นเครื่องนำใจให้ก้าวผ่านสะพานชีวิตค่ะ
     
  2. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=G9wp1-SrFvo]ดั่งดอกไม้บาน - YouTube[/ame]

    นำเพลงดั่งดอกไม้บานมาฝากทุก ๆ ท่านค่ะ..
     
  3. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    เพียรฝึกและปฏิบัติไปนะคะ น้องแตน..
    ครูเกษท่านส่องใจหนูอยู่ค่ะ..
     
  4. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    เป็นเรื่องยาก ที่ผู้ปฎิบัติจะทำให้ถึงแก่นธรรมจริงๆ นั่นก็คือ จิตส่วนธรรมนั้นจะมาในภายหลังจากที่ผู้ปฎิบัติถึงแก่นคือจิตในจิตตนเองหรือผู้ปฎิบัติสามารถหาจิตตนเองพบเจอแล้ว เผื่อพวกเราจะหากันพบกันเจอได้
    เราจะต้องมีความเพียรอย่างยิ่งยวด แต่ถ้ามีแค่ศรัทธาอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอเมื่อจิตเรานิ่งได้ก็สุขได้เมื่อนั้น นี่คืออนิสงส์แรกสุดคือการเข้าเขตบุญกุศลของเราเมื่อเราเจริญสติภาวนาไปเรื่อยๆสักระยะนึง พอมีปัญญาถึงจิตแล้ว ธรรมะก็จะผุดมาสอนเราเอง เพราะธรรมะใครธรรมะมัน เราจะเอาธรรมของเราที่ปฎิบัติได้แล้ว
    แล้วนำไปสอนคนอื่นเขานั้น ทำไม่ได้นะ ได้แค่บอกกล่าวหรือเล่าให้ฟัง จนกว่า
    ผู้ปฎิบัติธรรมท่านนั้นเขาจะพบธรรมะที่ผุดออกมาจากกลางใจของเขาเองก่อนเพราะธรรมะที่ผุดออกมาจากใจจะกลับมาสอนผู้ปฎิบัติท่านนั้นเอง

    ธรรมะจากจิต..อ.ใหญ่ภู..
     
  5. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    การสมาทานศีล ไม่ได้หมายถึงศีลบริสุทธิ์ นั่นเป็นคำขอ จะบริสุทธิ์ได้ต่อเมื่อจิตตั้งใจงดเว้นจริงๆ ตัวตั้งใจงดเว้นตัวนี้แหละเป็นตัวศีล

    ธรรมโอวาทหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    Cr:ศูนย์พุทธศรัทธา
     
  6. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/11955_510625805669522_945673788_n.jpg

    "พระพุทธศาสนาของเรานี้เป็นตลาดแห่งมรรคผลนิพพาน เป็นตลาดแห่งพระโสดา พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์สมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นห้างร้านอันใหญ่โตเต็มไปด้วยอริยมรรคอริยผล จึงขอให้พระลูกพระหลานทั้งหลายตลอดประชาชนญาติโยม เพราะเป็นผู้มีอริยสัจเหมือนกันจะปฏิบัติให้รู้ให้เห็นได้ด้วยกัน แล้วต่างคนต่างอุตส่าห์พยายามปฏิบัติตนให้เป็นไปตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ผู้หญิงก็พ้นทุกข์ได้ ผู้ชายพ้นทุกข์ได้ ฆราวาสพ้นทุกข์ได้ พระเณรพ้นทุกข์ได้เมื่อปฏิบัติให้ถูก ถ้าไม่ถูกก็เป็นทุกข์ได้ด้วยกันไม่ว่าพระว่าเณรฆราวาสญาติโยม เป็นทุกข์ได้ด้วยกันทั้งนั้นถ้าปฏิบัติผิดจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า"

    หลวงตาพระมหาบัว ญานสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้า
    ที่มา fb
     
  7. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ถาม - หลวงพ่อคะ แล้วฆราวาสอย่างพวกเรานี้นะคะ จะมีโอกาสได้มองเห็น

    ธรรมหรือเปล่าคะ...ในเมื่อการดำรงชีวิตอย่างธรรมดานี้มันยากมากเลยค่ะ...

    ตอบ - ธรรมทานบอกว่ายากมาก...หรืออะไรบอกว่ายากมาก ยากอย่างนั้น

    ยากอย่างนี้ก็คือกิเลสมันหลอกคน...ก็บอกแล้วนี่ ธรรมไม่ได้หลอก ธรรมไม่ได้บอกว่า

    ยาก กิเลสต่างหากยาก...ก็พูดแล้วตะกี้นี้ ยังจะเอาหน้ากิเลสมาหลอกเราอีกให้เราหลง

    ตาม เราไม่หลงตามแหละ...ส่วนมากมักเป็นอย่างนั้นแหละ พอจะทำงานทางด้านธรรมะนี้

    กิเลสจะมาทำแทนที่เสียทันที ๆ เราไม่ค่อยรู้เรื่องของธรรม...มีแต่เรื่องกิเลสที่พัวพันกับเรา

    ...เราก็เชื่อมันเลย...พอจะทำอะไรเอะอะก็อันนั้นแหละมาขวางเสีย ทำหน้าที่แทนธรรม

    ไปเสีย นั่นมันไม่ได้เรื่อง เพราะฉนั้นคนเราจึงไม่สนใจในธรรมเพราะกิเลสไม่ให้สนนี่

    มันคอยขัดขวางจึงต้องได้ฝึกกัน...

    ...อย่างเช่นท่านว่า วิริยะ ความเพียร ไม่ฝืนจะเรียกว่าธรรมได้ยังไง ต้องฝืน

    ขันติ ความอดทน...ไม่ฝืนจะอดทนได้ยังไง ต้องอดต้องทนต้องสู้ พระพุทธเจ้าองค์ศาสดา

    ของเรานั้นท่านประพฤติปฏิบัติธรรมต่อสู้กับกิเลสสลบ ๓ หน ในตำรานั้นเห็นไหม ท่านสู้

    หรือไม่สู้ ท่านทนหรือไม่ทน...แล้วพระสาวกมีจำนวนมากที่ได้รับความลำบากเพราะการ

    ต่อสู้กับกิเลส เพราะกิเลสมันไม่ใช่กล้วยหอมพอที่จะปอกแล้วกินเอากินเอา อะไรจะ

    เหนียวแน่นยิ่งกว่ากิเลส...ถ้ากิเลสเป็นกล้วยหอมหลวงตาบัวนี่ท้องป่องไปนานแล้วแหละ

    ...ฟัดกับกิเลสเรียบหมดเลยปอกกิน ๆ สบายเลย...ไม่ต้องมาสอนคำว่า วิริยะอย่างนั้นนะ

    อดทนอย่างนี้นะไม่ต้องมาสอนละ...เอ้าปอกเลยเรา จะบอกอย่างนี้เลย ปอกเลยฟาดกิเลส

    ให้หมดเรียบวุธเลยชาวพุทธต้องอดต้องทนจึงว่าต่อสู้กับกิเลส...การต่อสู้ต้องมีความอด

    ความทนไม่ทนเป็นเรื่องของกิเลสหมด...สุดท้ายตัวเราทุกคนเป็นอาหารของกิเลสทั้งนั้น

    ไม่ได้เป็นเครื่องบูชาธรรมเลย...ถ้าไม่ใช่ความอดทน ความพยายาม ความเพียร...

    ...ให้พากันจำเอาไว้ธรรมข้อนี้...ถาม - ตอบ ปัญหาธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.

    น้อมรับพระธรรมคำสั่งสอนขององค์หลวงตาด้วเศียรเกล้าเจ้าค่ะกราบ กราบ กราบ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2013
  8. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    การปฏิบัติธรรม คือ การเข้ามาค้นหาตนเอง เพราะการกลับมามองตัวเองนั้นแหละ คือ การปฏิบัติธรรม เพราะปกติจิตคนเรามีแต่มองออกไปข้างนอก โดยมองไปก็คิดไปตามสิ่งที่มากระทบที่ท่านเรียกว่ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส แล้วไหลมารวมที่ใจ เพราะใจเป็นผู้รับความคิด ปรุงแต่งๆที่มากระทบ เราผู้ปฏิบัติธรรมจึงต้องกลับมาดูตัวเราเอง เริ่มต้นก็คือ การรู้ความคิดของตนเองว่าขณะนี้ เราคิดอะไร และการติดตามดูการเคลื่อนไหวของจิต คือ กระแสของความคิดไหลมารวมลงที่ใจ คิดดี-ชั่ว สักแต่เป็นความคิด เพราะมันไม่ได้อยู่ในอริยบทเดียวเพราะจะต้องเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าคิด หรือไม่ดี เราก็เป็นแค่ผู้ดูเท่านั้น เราก็จะเห็นชัดว่าความคิดก็สักแต่ แค่คิดก็ดูไปอย่างนี้ คือ ผู้ปฏิบัติผู้รู้เห็นในความคิดของตนเอง เพราะธรรมก็คือ ผู้ปฏิบัติได้รู้เห็นตนเองนั้นเอง ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อไปรู้เห็นผู้อื่น แต่พอเราเข้าใจตนเองแล้วนั้นแหละเราก็จะเข้าใจผู้อื่นด้วย จึงขอให้ทุกๆท่านปฏิบัติเพื่อได้รู้เห็นตนเอง เพราะการเห็นตนเองนั้นแหละเป็นยอดแห่งการเห็นทั้งปวง เพราะเราจะเข้าใจในกองสังขารก็เพราะเรารู้ว่า การทํางานของร่างกายของเราๆท่านๆนั้นก็คล้ายกันทุกๆคน เราจะต้องรอบรู้ในกองสังขารเราก่อนนั้นเอง... สาธุค่ะ
     
  9. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ความสุขที่เราเคยได้รับผ่านมาในรูป รส กลิ่น เสียง...

    ...โผฏฐัพพะ ธรรมอารมณ์ เรานึกว่าสิ่งนี้เป็นสุข...

    แท้ที่จริงแล้วเหมือนตุ่มหิดที่กำลังคัน...คันแล้วก็เกา เกาแล้วรู้สึกสบาย ฉันใด

    ...การที่เรารับกามคณ...กามารมณ์อะไรต่างๆ...

    ...นึกว่าเป็นความสุข...ที่แท้เป็นความเร่าร้อนไม่สบาย...

    ..แต่สุขที่ใจจากความสงบในการปฏิบัติธรรม...เป็นความสุขนิรันดร...

    เป็นความสุขที่พระอริยเจ้าให้มนุษย์ทั้งหลาย...ค้นพบ...

    "นัตถิ สันติปะรัง สุขัง...ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี"

    ...พระธรรมมังคลาจารย์ หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่...

    กราบน้อมรับพระธรรมคำสั่งสอนของหลวงปู่เจ้าค่ะ กราบหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะสาธุ.
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,936
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    วันเสาร์อีกแล้ว ดีใจจัง แม้จะไม่ได้ทํางานก็ตาม(อย่าอิจฉานะ)
    ผู้ใหญ่ลี ศักดิ์ศรี ศรีอักษร

    https://www.youtube.com/watch?v=fw4i1oHF1_Y
    *********************
    Peoples needed Peoples
    Pizza man kneaded bread
    Massage therapist kneaded peoples.-cool day-
    *****************
    **คุณน้องWatjojo หายไปไหน นานเลย คิดถึง"ดีแตก"นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2013
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,936
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    Devil Ninja

    ***************************
    มาช่วยพี่ด้วยนะ;43 ตอนนี้กระทู้"พระอภิญญา" จขกท ท่านtoplus99 และน้องๆกําลังวางแผนจะจับตัวพี่นะ(มีค่าตัวแล้ว)แถมจะมีรางวัลให้อีกถ้าใครจับได้ ไปก่อนค่ะ แชวปๆๆๆ
    black_pig
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,936
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    นิทานสอนใจ : ปรับตัว
    กาลครั้งหนึ่ง มีบุรุษผู้ทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม
    เขากลับเครียดกับการทำงานมาก
    เขามักมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ ไม่ว่าอะไรก็ดูไม่ได้ดั่งใจเขาเอาเสียเลย
    จากเพื่อนร่วมงานนับสิบคน ตอนนี้สิ่งที่เป็นเพื่อนของเขามีเพียงคอมพิวเตอร์บนโต๊ะของเขา
    เพียงเท่านั้น

    เช้าวัดหยุด เขาไปทำบุญที่วัดอย่างที่เคยทำ
    "โยมทำบุญมามากมาย"พระเจ้าอาวาสกล่าวขึ้น "แต่โยมดูทุกข์ใจเสียมากกว่า"
    "ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก ท่านเจ้าอาวาส" ชายผู้นั้นตอบ "แค่เรื่องคนที่บริษัท"
    "ในเมื่อโยมก็คอยทำนุบำรุงศาสนาพุทธมาโดยตลอด เห็นทีอาตมาอาจจะช่วยโยมได้เพียงเทศนาให้ฟัง"
    ท่านเทศน์ให้กระผมฟังอยู่ทุกครั้งอยู่แล้ว ท่านเจ้าอาวาส"
    "ไม่ใช่คำบาลี ไม่ใช่สวดมนต์ แต่เป็นคำสอน"
    เจ้าอาวาสท่านนั้นประนมมือขึ้นพลางที่ชายคนนั้นยกมือประนมตาม

    ธรรมดาเรานั้น
    ดูแต่คนอื่น 90 %
    ดูตัวเองแค่ 10 %
    คอยดูแต่ความผิดของคนอื่น
    เพ่งโทษคนอื่น
    คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น

    กลับเสียใหม่นะ

    ดูคนอื่นเหลือไว้ 10 %
    ดูเพื่อศึกษา
    ว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น
    คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร
    เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
    แล้วดูตัวเอง
    พิจารณาตัวเอง 90 %
    จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่


    ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
    คำโบราณกล่าวไว้ว่า
    เรามักจะเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา
    ความผิดของตนเองเท่าเส้นผม
    มันเป็นความจริง
    เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ


    เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
    เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
    จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม

    เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ
    และตำหนิติเตียนตัวเองมากๆ
    แต่ถึงอย่างไร
    เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

    พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
    ดูตัวเอง
    สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ

    ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก
    รีบแก้ไขระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
    เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร
    ก็ให้ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน

    ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่
    ไม่แน่
    อาจจะถูกก็ได้
    อาจจะผิดก็ได้
    เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
    ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

    ดูใจเราก่อน
    สอนใจเราก่อน
    หัดปล่อยวางก่อน


    เมื่อจิตสงบแล้ว
    เมื่อจิตปกติแล้ว
    จึงค่อยพูด
    จึงค่อยออกความเห็น
    พูดด้วยเหตุ ด้วยผล
    ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
    ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด
    จะทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น
    ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
    ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร
    มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

    เพราะฉะนั้น
    อยู่ที่ไหน
    อยู่ที่วัด
    อยู่ที่บ้าน
    ก็สงบ ๆ
    ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆ
    ดูแต่ตัวเรา
    ระวังความรู้สึก
    ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆ
    พยายามแก้ไข
    พัฒนาตัวเรา
    นั่นแหละ


    เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ
    ปล่อยไว้ก่อน
    เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
    ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ
    หาเรื่องอยู่อย่างนั้น
    เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
    มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
    อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง

    ระวังนะ
    พยายามตามดูจิตของเรา
    รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
    ใครจะเป็นอะไร
    ใครจะทำอะไร
    ดีหรือไม่ดี
    เรื่องของเขา
    แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา
    ก็เรื่องของเขา
    อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา

    ดูใจเรานั่นแหละ
    พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
    ทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆ
    หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง ไม่มีอะไรหรอก

    ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา
    คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข

    เมื่อคำสอนจบลง ชายผู้นั้นจึงกราบเท้าของเจ้าอาวาสแล้วก็จากไป
    ดัดแปลงคำสอน จาก หลวงปู่ชา สุภัทโท พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)

    ขอบคุณที่มา :: <>นิทานสอนใจ : ปรับตัว<>
    *************************************
    ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ
     
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    จงมั่นใจไว้เสมอทุกวันว่า

    ...เราจะเป็นผู้ชนะ...

    ...ชนะอะไร?

    ...ชนะใจตนเอง...

    ชนะความเร่าร้อนดิ้นรน

    ...ชนะความทุกข์...ที่ผุดขึ้นมาในใจ...

    ...ชนะแบบนี้...คือ...พระธรรม...

    ...เป็นการชนะตลอดกาล...

    ...การให้ธรรมเป็นทาน...ชนะการให้ทั้งปวง...
     
  14. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972
    สวัสดีพี่ๆน้องๆจิตบุญทุกท่าน

    วันนี้ เอาบุญมาฝาก พวกเราได้ตั้งโรงทาน และตั้งผ้าป่าจิตบุญ ทำบุญที่

    วัดพุทธบารมี สาขาฮอลแลนด์ ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972
    ภาพ บรรยากาศ งานบุญที่พวกราทุกคน ร่วมแรงร่วมใจค่ะ

    ขอเป็นตัวแทน บุญของจิตบุญทุกท่านนะคะ ภาพชุดนี้ เอามาจาก น้องหน่อยค่ะ

    อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972
    ผ้าป่าคณะจิตบุญค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972
    รูป บรรยากาศงาน ภาพชุดนี้เป็นของน้องริน กับ คริส ค่ะ

    หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคะ เพราะว่าปลื้มใจมว๊ากกกก....นานๆเราจะมารวมตัวกันได้สักทีนึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.JPG
      001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      35
    • 012.JPG
      012.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      37
    • 015.JPG
      015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      41
    • 016.JPG
      016.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      33
    • 007.JPG
      007.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      39
    • 021.JPG
      021.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      37
    • 005.JPG
      005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      37
  18. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ความอยากมีอยู่ ๒ ประเภท ที่มีอยู่ในโลกนี้​

    ๑.อยากทางธรรม ก็ คือ มีจิตใจใฝ่ทางการทําบุญให้ทาน และรักษาศีล และภาวนา เป็นการอยากที่ดี เพราะต้องการหลุดพ้น และมีการสร้างทานอย่างพี่ๆน้อง ของพวกเราทํากันอยู่ตามภาพข้างบนนี้ ผู้เขียนขออนุโมทนาสาธุ กับ พี่ๆน้องทุกๆท่าน ที่ได้ทําบุญสร้างโรงทาน คนทําบุญสร้างโรงทานไม่ว่าจะเดินทางไปทางไหนๆ ก็จะไม่อดยาก เพราะอนุสงฆ์ผลบุญที่ได้ทําไว้ดีแล้วนั้นเอง...ก็จะทําให้ผู้ให้ทานนั้นมีสุขเพิ่มขึ้น เพราะการได้ทําสิ่งดีๆไว้ ท่านเรียกว่า อยากถูกกาลนั้นเอง...
    ๒.เป็นความอยากทางโลก หรือ อยากแบบมีกิเลส เข้าแฝงตัวทําให้เรามีแต่ความต้องการ เช่น อยากได้โน้น อยากได้นี่ อยากแบบต้องวิ่งหามารับใช้กิเลส เพราะกิเลสทําให้คนตกเป็นทาสของมันได้ไม่พอ เพราะพอได้อย่างนี้ ก็จะเอาอย่างนั้นไปเรื่อยๆจึงทําให้เราเป็นทุกข์ นั้นก็คือ ความอยากทางโลกที่ต้องเป็นของคู่กันกับทางธรรมมาตลอดกาล...แล้วแต่เราๆท่านๆจะปรารถนาความอยากนั้นด้วยตัวเราเอง...สาธุค่ะ
     
  19. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุกับบุญกุศลที่เหล่าจิตบุญสายฮอลแลนด์ทุกๆท่านด้วยนะครับ
    แหม๊! อย่าไปคิดอย่างนั้น จะมีใครเขาไปว่าเล่า แค่คนคิดก็ผิดถนัดแล้วจ้า!!!
    แหม๊! สาวฮอลแลนด์นี่ นอกจากจะใจบุญแล้ว ยังน่ารักทุกท่านเลยนะครับ..คริคริ
    ทำไม ไม่ชวนคุณพี่สุภาทรไปด้วยคน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2013
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ธรรมะเล่าสู่กันฟัง
    พระพุทธศาสนา สอนให้ผู้ปฎิบัติเท่าเทียมกันในทุกด้าน ไม่มีชั้นวรรณะ ไม่ว่าฐานะใด
    คนดีหรือผู้เจริญเขาวัดกันที่จิตใจ มิใช่วัตถุหรือสิ่งภายนอก
    เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีจิตใจสูง ศีลธรรมย่อมสูงตามไปด้วย
    คนดีในที่นี้หมายถึง คนที่รักษาศีลตนครบถ้วน ผู้เจริญในที่นี้หมายถึง ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ
    หรือกำลังปฎิบัติธรรม กำลังว่ายทวนกระแสกิเลสตน กำลังผลิตตัวปัญญาให้กับจิต(เจริญสติภาวนา)

    เพราะฉะนั้น ผู้ปฎิบัติที่มีฐานะยากจน อย่าเพิ่งน้อยใจ รีบสร้างอริยทรัพย์หรือทรัพย์ภายในให้มากเข้าไว้
    เพราะทรัพย์ภายในของตนนั้น ไม่มีผู้ใดมาลักขโมยได้ มูลค่าก็ไม่ตกเหมือนทองคำหรือเงินตรา
    ถึงชาตินี้เรายากจน แต่ก็ขอให้ร่ำรวยอริทรัพย์ หรือทรัพย์ภายในเข้าไว้ เท่กว่ากันเยอะ คือสบายใจ

    สำหรับผู้ปฎิบัติที่มีฐานะร่ำรวย ก็ต้องรีบสร้างอริยทรัพย์ภายในให้มาก เพราะทรัพย์ภายนอกนั้น
    เวลาตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทุกท่านก็ทราบกันดี เพราะฉะนั้น ผู้ปฎิบัติที่มีฐานะร่ำรวยทรัพย์ภายนอก
    พยายามปฎิบัติธรรมก็เพื่อละทรัพย์ภายนอก เพื่อละสิ่งสมมุติทั้งปวง ก็คือปล่อยวางเสีย สละเสีย
    ยิ่งปฎิบัติได้สำเร็จ เดี๋ยวก็รู้เองว่าทรัพย์ภายนอกมันแสนจะไร้ค่าเพียงใด แถมผู้อื่นมาลักขโมยได้ด้วย
    ทรัพย์ที่หามาทั้งชีวิต มันช่างไรค่าจริงๆ เผื่อผู้ปฎิบัติจะรู้ความจริงหรือเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดา
    มิใช่เรื่องง่าย เพราะคนทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลายก็ล้วนต่างมีกิเลสกันทั้งกายและใจ กิเลสคือร่างกาย
    ร่างกายคือกิเลสหรือกองทุกข์ทั้งปวง อย่าลืม! เห็นมีแต่คำว่าบุญกับบาปเท่านั้น ที่จะเป็นสมบัติ
    ที่จะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติ นอกนั้นไม่มี ไม่ว่าลาภ ยศ สรรเสริญ

    เพราะฉะนั้น คนดีหรือบุคคลที่เจริญแล้วย่อมมีจิตใจสูง ไม่ให้ความสำคัญวัตถุหรือโลกมากกว่าจิตใจ
    เป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูง เป็นผู้ที่กำลังพากันรักษาศีลทำภาวนา เป็นผู้ที่กำลังว่ายทวนกระแสกิเลสตนเอง
    แต่ถ้าผู้ใดมองเห็นหรือให้ความสำคัญวัตถุหรือโลกมากกว่าจิตใจ อีกไม่นานนักก็จะเห็นตนเองไร้ค่า
    คนเราเกิดมานับว่ายากเย็นแสนเข็ญ อาจมีค่าแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวหรือเงินไม่กี่ร้อยกี่พันบาท
    ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ที่เราคนเดียวเป็นผู้กำหนดเอง เพราะฉะนั้นก็อย่าไปโทษใคร ต้องโทษตนเอง

    เวลาดูคนต้องดูที่ภายใน อย่าดูแค่เปลือกหรือภายนอก ดูภายในต้องดูให้นานๆลึกๆจนกว่าจะลงโลง
    แต่ก็อย่าไปหลงดูความดีหรือความเลวของคนอื่นอยู่เลย เพราะมันเสียเวลามรรคผลของตนเอง
    สนใจจิตตนดีกว่า ว่า..จิตเราดี จิตเราใสบริสุทธิ์หรือยัง ปฎิบัติออกจากทุกข์ตนเองได้หรือยัง เป็นต้น
    ขอให้ปฎิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น ละ ลด เลิก หรือปล่อยวางกิเลสตัณหาอุปาทานของตนให้ได้ก่อน
    กิเลสใครกิเลสมัน จิตใครจิตมัน อย่าไปสนใจกิเลสหรือจิตผู้อื่นเป็นดี เพื่อหลีกเลี่ยงล่วงเกินจิตผู้อื่นด้วย
    อดีตหรือสัญญากรรมเก่า ขอให้นำมาเป็นบทเรียนใหม่ ไม่มีใครผิด-ถูก มีแต่ผู้ที่หลงมาเวียนว่ายตายเกิด
    หากผิดพลาดประการใดทั้งปวง พวกเราจงให้อภัย ขอขมากรรม อโหสิกรรมและสำนึกผิดเป็นดีที่สุด
    เพื่อจิตจะได้ปลดปล่อย เพื่อความสุข เพื่อสบายใจ ฯลฯ

    สุดท้ายขอให้ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบทุกท่าน ขอจงมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หรือที่พึ่งสูงสุดทางจิตใจ
    ขอให้นึกถึงหรือระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยเจ้าทุกองค์
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าอยู่ในดวงจิต มีสติปัญญาสว่างไสวตลอดไปด้วยเทอญ
    สาธุๆๆ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...