ถูกเพื่อนร่วมงานเข้าใจผิด ควรวางตัวอย่างไรดีครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ...คนสู้กรรม..., 26 เมษายน 2013.

  1. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    พักนี้เริ่มมีปัญหากับเพื่อร่วมงานครับ แต่ปัญหาไม่ใช่ผมเป็นคนก่อ และก็ไม่ได้เป็นความจริงด้วย ตอนนั้นผมได้มีโอกาสไปร่วมงานศพพ่อของรุ่นพี่ที่ทำงาน ทางแผนกผมก็จัดเช่ารถตู้ 1 คัน เพราะต้องเดินทางไกลมาก (จังหวัดตาก) บนรถก็มีผู้โดยสาร 8 คน รวมถึงผมด้วย บางคนก็เล่นโทรศัพท์ บางคนก็นั่งเหม่อดูวิวข้างทางไปเรื่อย ส่วนผมหลับเกือบจะตลอดทาง (ปกติถ้าไม่ได้ขับ ก็หลับอยู่แล้ว) แต่เรื่องมันเริ่มขึ้นตอนที่รถตู้แวะจอดปั๊มครับ

    คือทุกคนลงไปทำธุระส่วนตัวกันหมด เข้าห้องน้ำบ้าง ซื้อของกินบ้าง ส่วนผมนอนหลับอยู่บนรถคนเดียว (โชเฟอร์ก็ลงไปด้วย) ทีนี้ก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งในแผนกเดียวกัน เดินหน้าตั้งมาที่รถตู้ แล้วค้นหาของตามซอกต่างๆ ผมได้ยินเสียงอะไรกุกกักๆ เลยตื่นขึ้นมาถามว่า "หาไรอยู่หรอพี่" แกก็ตอบผมว่า "กระเป๋าตังค์อ่ะดิ ไม่รู้หายไปไหน" แล้วก็ถามผมว่าเห็นบ้างมั๊ย? ผมบอกไปว่าไม่เห็นเลย หลับตลอด

    แล้วเรื่องก็ค่อยๆบานปลายขึ้นครับ เมื่อคนอื่นๆเริ่มรู้เรื่องกัน แล้วมาช่วยกันค้นหา โดยที่พี่แกยืนกรานว่า นำติดตัวมาด้วย และน่าจะตกอยู่บนรถนี่แหละ เพราะตอนที่ลงจากรถไปก็ไม่เจอแล้ว แต่ขนาดว่าแทบจะพลิกพรมรถหาก็ยังไม่เจอ ในที่สุดก็เหลือข้อสันนิษฐานสุดท้าย "คนที่อยู่บนรถ ต้องเป็นคนเอาไป" !!!!

    บอกตรงๆ ผมมึนมากๆ... เพราะผมไม่ได้เป็นคนเอาไปจริงๆ หลับตลอดเวลาและหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย มารู้ตัวตื่นก็ตอนพี่แกขึ้นมาหาของนี่แหละ ทุกคนค้นตัวผมเป็นการใหญ่เลยครับ ทั้งกระเป๋าเป้ ค้นตัว นี่ดีนะที่ไม่พาไปแก้ผ้าค้นด้วย แต่ก็ไม่เจอครับ (ก็ผมไม่ได้เอาไปนี่) แต่ก็ยังไม่วายที่จะคิดว่า "ผมต้องเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนแน่ๆ" อยู่ดี... แล้วตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น นับๆดูแล้วก็ประมาณครึ่งเดือนแล้วครับ ทุกวันนี้แกก็ยังแขวะผมอยู่ ประมาณว่าผมเป็นคนเอาไปแน่ๆ จนตอนนี้ทุกคนในแผนกตัวเอง และแผนกอื่นๆเริ่มที่จะมองผมแปลกๆแล้ว

    รู้สึกอึกอัดอย่างบอกไม่ถูกครับ เพราะไม่มีใครเชื่อผมเลย ว่าผมไม่ได้เอาไปจริงๆ ตังค์ผมก็มี หนี้สินก็ไม่มี ภาระต้องผ่อนอะไรก็ไม่มี เงินเดือนก็น้อยกว่าแกไม่ถึงพัน ผมจะขโมยไปเพื่ออะไร ทุกวันนี้ทำงานเหมือนมีแรงกดดันครับ อีกอย่างเขาเป็นรุ่นพี่ คำพูดของแกเหมือนมีน้ำหนักกว่าผมเยอะ แม้ว่าผมจะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม แล้วทุกวันนี้ก็ยังหาไม่เจอด้วยครับ ทุกคนก็พากันตราหน้าผม นินทาผมลับหลังว่าผมเป็นคนเอาไป หมดสนุกเลยครับทีนี้ เฮ้อ...
     
  2. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ชาตินี้ก็อย่าไปกล่าวหาใคร จะได้ไม่มีคดีใหม่
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    คุณรู้มั้ยครับ
    ผมเลี้ยงหมาที่บ้านหลายตัว ให้ข้าวให้น้ำ มันป่วยพาไปรักษา
    แต่เวลามันเห่า ผมสั่งให้หยุด
    บางตัวก็หยุด บางตัวก็ไม่หยุด หรือบางทีหยุดแล้วก็เห่าอีก

    หมาที่บ้านผมเลี้ยงดูอย่างดี มันยังไม่เชื่อผมทุกตัวเลยครับ
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กลับไปบอกคนที่ทำกระเป๋าเงินหายนะครับ

    กระเป๋าเงินของคุณนะ โดนพวกเพื่อนที่ลงรถไปด้วยกัน ขโมยไปแล้ว โว้ย ถ้าแน้ใจว่าตอนนั่งรถกระเป๋าอยู่ แต่พอลงแล้วหาย

    แล้วก็คงโดนโยนทิ้งเอาไว้ในปั้มนั้นละ หรือไม่ก็คงไปทำกระเป๋าเงินตก ก่อนขึ้นรถ หรือ ตกหายละหว่างลงรถนั้นละ

    มันถึงหาไม่เจอ

    เข้าใจปะ

    ถ้าไม่เชื่อ ก็ช่วยไม่ได้นะ

    กรรมของ มุง ที่เคยไปขโมยของคนอื่นมา มาชาตินี้ เลยต้อง ชดใช้กรรมให้กับคนที่เอากระเป๋าเงินของ มุงไป

    กฏแห่งกรรม ทำกรรมอะไรไว้ ย่อมได้รับผลนั้น

    แนะนำว่าให้ ไปทำบุญ ปล่อยนกเยอะๆ นะ วันหลังของจะได้ไม่หายอีก


    แล้วแนะนำ จขกท นะ ถ้าไม่ชี้แจงคนอื่นๆในที่ทำงาน ให้เรียบร้อย

    สงสัยคงไม่พ้น โจรตัวจริงที่เอาเงินไป ช่วยใส่ไฟ ว่า จขกท นั้นละที่ขโมยกระเป๋าไป

    .

    [​IMG]

    เล่าให้ฟังนะ ตอนเด็ก ในห้องเรียน มีเพื่อนเอา เกมบอย มาเล่นที่ โรงเรียน แล้วก็เก็บไว้ในกระเป๋า กลับมาอีกที เกมบอยหายไปแล้ว

    แล้วก็มี มีเพื่อน ไปช่วยคนที่เอาเกมบอยมาแล้วหาย ออกตัวช่วย ช่วยเที่ยวตามหา ค้นหาต่างๆนาๆไม่เจอ

    สุดท้ายผลสรุป ความจริงเปิดเผย ก็ไอ้เพื่อนที่คอยเป็น ตัวตั้งตัวตี ตัวหลัก ช่วยตามหาเกมบอย นั้นละ ดันเป็นขโมย ขโมยเกมบอยไปเสียเอง

    แล้วพอเจ้าของหา ก็เข้าไป เรียกสมัยนี้ว่า เนียน ทำเป็นช่วย หากันใหญ่ ค้นคนนั้น คนนี้ ทั่วไปหมด หากันเข้าไป หายังไงก็หาไม่เจอ

    เล่าแค่นี่ละ ผลเป็นอย่างไร ก็ให้เดากันเอาเอง...


    .


    เล่าให้ฟังอีกเรื่อง เรื่องนี้โดนมากับตัว สมัยอยู่ประถม ป2 ป3 55555+

    มีเพื่อนคนนึง พกดินสอปากกา แพงๆ มาใช้ที่ โรงเรียน นั่งข้างๆผม

    แล้วก็มันดัน เผลอไม่รู้ตอนไหน โดนเพื่อนคนอื่น ขโมยปากกาดินสอ ราคาแพงๆ ไป

    พอของหายมันก็ไม่รู้ว่า ใครขโมยไป


    แล้วก็มีเพื่อนอีกคน ที่นั่งแถวหลัง มาพูดบอกเพื่อนเพื่อนคนที่ทำปากกาดินสอ ราคาแพงหายว่า

    บอกว่า ผม เป็นคน ขโมยไป เวรเอ้ย...

    แล้วความ ซวย ก็เกิดขึ้น ไอ้คนที่ทำของหาย ก็ดันไปเชื่อว่า ผมขโมยไป เพราะผมดันนั่งข้างๆ มัน

    บอกมันไปอย่างไร มันก็ไม่เชื่อว่าผมไม่ได้ขโมย แต่ดันไปเชื่อเพื่อนอีกคนที่ใส่ความว่า ว่าผมเป็นขโมย แทน เหอๆ ...

    สุดท้าย บลาๆๆๆ ก็สรุปได้ว่า ไอ้เพื่อนคนที่ใส่ความว่าผมเป็นคนขโมย นะ จริงๆ มันคือ ขโมยตัวจริง นั้นเอง

    เหอๆ ไม่น่าเชื่อ ว่า เด็ก ๆ ขนาด ป2 ป3 จะคิดวางแผนเก่งกาจขนาดนี้ ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก เอ๋อๆ อยู่เลย 5555+ ตามไม่ทัน เสียท่าโจรตัวจริงไป...

    ถ้าเรื่องแบบนี้ มาเจอผมตอนสมัยนี้จะ จะสับให้มันไปเลย หึๆ

    .

    จขกท ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นคนดี แต่ไม่มีปัญญาแก้ข้อกล่าวหา

    แนะนำว่า ให้ทำใจไปครับ เพราะตัวเอง ไม่เก่งพอที่จะ ต่อกร ต่อกรในการแก้ข้อกล่าวหา ที่ตัวเองไม่ได้ทำได้ ให้กลับไป พิจารณาตัวเอง

    หรือไม่ก็ ไปเช่าหนัง แนวๆ นักสืบโคนัน หรือสืบสวน ช่อนปมหักเหลี่ยม มาดูเยอะๆ นะ

    หรือพวก นิยาย การ์ตูน ต่างๆนาๆ

    ต่อไป เวลาเจอเรื่องแบบนี้ จะได้แก้ข้อกล่าวหาให้ตัวเองได้ ไม่ตกเป็น เหยื่อ คนอื่น


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2013
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ท่านระบำมาร เมื่อไม่ได้ทำผิด ก็ไม่พึงเดือดร้อนใจ ส่วนเจ้าของกระเป๋าหรือคนอื่นๆ เมื่อเข้าใจผิด ท่านก็ชี้แจงไปแล้ว แต่เมื่อเขาไม่เชื่อยังประกอบกิจในการส่อเสียดหรือมิจฉาวาจาอื่นๆก็เป็นเรื่ิองที่เขาจะต้องรับผลกันต่อไป ท่านระบำฯบัดนี้ต้องอดทนต่อท่าทีเข้าใจผิดของใครๆเพราะผลของบาปเก่าที่เราทำมากำลังส่งผล...กรรมเมื่อส่งผลแล้วย่อมลดหรือหมดไป

    เเม้ในหลายสมัยที่พระพุทธเจ้าและพระสาวก ยังทรงถูกชาวบ้านโพนทะนาติเตียนด้วยหลายสาเหตุ ทั้งพระอานนท์ก็ถึงกับกราบทูลให้เสด็จไปเสียจากคามนิคมนั้น แต่พระพุทธองค์ก็ไม่เสด็จไปใหน ทรงทราบดีว่านั่นมาจากอดีตเหตุบาป..ไม่นาน คำโพนทะนาก็ยุติลง.

    ท่านระบำฯ ทราบข้อธรรมมาบ้างจึงพึงเข้าใจว่า ชนเหล่านั้นเขาก็มีทุกข์เฉพาะตนที่ต้องแก้ไขเช่นกัน ที่เขาจะใส่ใจจดจำย่ำยีท่านระบำฯไปตลอดกาลไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้...ท่านพึงมั่นคงในศีล เจริญขันติเจริญกรุณาแก่เขาผู้ไม่รู้กรรม ..เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของบาปว่า บาปทางวาจานั้นทำกันได้ง่ายดายเวลาผลมาส่งให้เสวย ย่อมเจ็บปวดได้ราวถูกคมอาวุธทีเดียว..

    ท่านพึงเจริญกุศล แล้วตั้งสัจจอธิษฐาน เอาความจริงเป็นพยาน ว่า ท่านไม่ได้ขโมยอะไรๆของใครในที่ใหนด้วยสัจจะนี้ขอให้ปัดเป่าเอาวิบากทุกข์ให้พ้นไป คนที่เข้าใจผิดพึงยุติบาปกรรมที่ทำอยู่ลงโดยเร็ว..ดังนี้

    การคบเข้ากลุ่มร่วมกิจกรรมใดๆ บางทีก็เป็นที่มาของวิบากแปลกๆได้ จึงแม้ระมัดระวังอยู่ก็ยังไม่พ้นเพราะ ไม่มีที่ใดที่ใครจะหลบซ่อนตัวจากกรรมทั้งหลายได้อย่างแท้จริง

    ขอให้ท่านระบำฯพ้นจากความเข้าใจผิดโดยไวครับ
     
  6. สายน้ำ99

    สายน้ำ99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +28
    ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ ปล่อยวาง "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"
    การอธิบายในขณะที่มีการเข้าใจผิด หรือว่ามีอคติเกิดขึ้นแล้ว ก็เหมือนเป็นการแก้ตัว
    เปรียบเหมือนเวลานี้ "น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง" ปล่อยให้พวกเค้าคิดกันต่อไป

    หรือไม่อย่างนั้น ก็ควรเสนอความเห็นว่าให้หาหลักฐานมายืนยันว่าเราเป็นคนกระทำ
    ถ้าไม่มีหลักฐานอย่ามากล่าวลอยๆ เพราะว่าทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการดิสเครดิตกัน
    ผิดทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ เราสามารถแจ้งความเอาผิดข้อหาหมิ่นประมาทได้ พูดขู่เฉยๆ นะคะ
     
  7. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ในสายตาของคนอื่นเขาอาจจะเห็นว่าลูกเลว แต่ขอลูกทั้งหลายจงคิดว่า นั่นเป็นเรื่องความรู้สึกนึกคิดของบุคคลแต่ละคน แต่พ่อเองมีความรู้สึกว่า "คนจะดีหรือคนจะเลว มันขึ้นอยู่กับกฏของกรรม ก่อนที่เราเกิดมานี่ เราทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ขณะใดถ้ากรรมที่เป็นอกุศลมันให้ผล ขณะนั้นลูกของพ่อก็อาจจะมีความคิดผิด พูดผิด กระทำผิดไปได้เป็นของธรรมดา แต่ขณะใดกรรมที่เป็นกุศลกรรมให้ผล บรรดาลูกรักของพ่อก็จะทำถูก คิดถูก พูดถูกอยู่เสมอ เรื่องนี้ถึงแม้ว่าตัวของพ่อเองก็ประสบมามาก จึงไม่มีความรู้สึกเมื่อลูกรักบางท่าน บางคน คิดพลาด พูดพลาด กระทำพลาดไป ถือว่านั่นเป็นกฏของกรรม เดิมที่เราทำมาแล้วไม่ดี ในชาตินี้เรามาแก้ตัวกันใหม่ พยายามทำความดีเสียทุกอย่าง เพื่อเป็นการหักล้างความชั่วเดิม เพื่อผลที่เราจะพึงได้ต่อไป นั่นก็คือพระนิพพาน"

    หลวงพ่อสอนลูกทุกๆ คน
    พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
     
  8. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    หลวงปู่ดู่ท่านสอนลูกศิษย์อยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบ มันก็จะไม่มีเรื่องกัน แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่ ท่านสอนศิษย์เสมอว่า อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่ ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่ กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่น
    รวมไปถึงการพูดไม่ดีต่าง ๆ กับคนอื่นนั้น กรรมจะมาเร็วมาก เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจแก่คนทั้งหลาย กรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่องและเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ ทั้งทางกายและทางใจ บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า "คนดีเขาไม่ตีใคร" ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร ไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็ง ๆ ไปตีเขา แต่ท่านไม่ให้พูดจาไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายและ "ทุกข์ใจ"

    ท่านเจ้าของกระทู้อโหสิกรรมให้เขาไปเถิด กรรมจะตกแก่ผู้ใส่ร้ายและจิตใจที่มีแต่บาปคอยว่ากล่าวใส่ร้ายผู้อื่น บุญกุศลจะบังเกิดกับตัวเราเอง ถ้าเราคิดดี ทำดี และมีจิตอันเมตตา
     
  9. นิตยา11

    นิตยา11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +355
    โลกธรรม 8 ค่ะ มีสรรเสริญย่อมมีนินทา ถ้าเข้าใจมันก็ไม่ทุกข์

    ความหมายของโลกธรรม 8

    โลกธรรม 8 หมายถึง เรื่องของโลกมีอยู่ประจำกับชีวิต สังคมและโลกของมนุษย์เป็นความจริงที่ทุกคนต้องประสบด้วยกันทั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ข้อแตกต่างคือ ใครประสบมาก ประสบน้อย ช้าหรือเร็ว

    โลกธรรมแบ่งออกเป็น 8 ชนิด จำแนกออกเป็น 2 ฝ่ายควบคู่กันและมีความหมายตรงข้ามกัน คือ

    1. โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ ฝ่ายที่มนุษย์พอใจมี 4 เรื่อง คือ
    - ได้ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์ ได้ทรัพย์สินเงินทอง ได้บ้านเรือนหรือที่สวน ไร่นา
    - ได้ยศ หมายความว่า ได้รับแต่งตั้งให้มีฐานันดรสูงขึ้น ได้ตำแหน่ง ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
    - ได้รับสรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกยอ
    - ได้สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ ได้ความเบิกบาน ร่าเริง ได้ความบันเทิงใจ

    2. โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ฝ่ายที่มนุษย์ไม่พอใจมี 4 เรื่อง คือ
    - เสียลาภ หมายความว่า ลาภที่ได้มาแล้วเสียไป
    - เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดความเป็นใหญ่ ถูกถอดออกจากตำแหน่ง ถูกถอดอำนาจ
    - ถูกนินทา หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี มีใครพูดถึง ความไม่ดีของเราในที่ลับหลังเรียกว่าถูกนินทา
    - ตกทุกข์ คือ ได้รับความทุกข์ทรมานกายทรมานใจ

    ที่มา : http://www.learntripitaka.com/scruple/rokatham8.html
     
  10. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    เมื่อมั่นใจในดีที่ทำก็ขอจงอย่าหวั่นไหวไปเลย ในโลกนี้ไม่เคยมีใครเลยที่ไม่เคยถูกกล่าวหา ไม่เคยมีใครเลยที่ไม่ถูกนินทา คิดมุมกลับสิขอบคุณเขา ที่เขามาทำให้เราฝึกความอดทน ทำให้เรารู้จักความอึดอัดความกดดันมากๆอย่างนี้ เราจะหาโอกาสอย่างนี้ที่ไหนได้อีก
     
  11. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แนะนำนะครับ ตอนนี้สับสนมากไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มทำยังไงดี ชี้แจงกับทุกๆคนไปเรียบร้อยแล้วครับ บางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับเขาเหมือนกัน เจ้าของกระเป๋าตอนนี้ก็ไม่พูดอะไรกับผมเลย ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ทำงานห้องเดียวกันแท้ ๆ แต่ก็ต้องปล่อยไปแหละครับ ในเมื่อผมไม่ได้ทำจริง ๆ อธิบายซ้ำ ๆ เดี๋ยวก็หาว่าผมแก้ตัวไปอีก หัวหน้างานของผมก็เข้าใจครับว่าผมไม่ได้เป็นคนเอาไป เพราะผมทำงานมากับเขาก็นานพอสมควร จึงรู้อุปนิสัยใจคอของผมดี แต่ขนาดเขาไปช่วยพูดกับเจ้าของกระเป๋าให้ ก็เหมือนไม่เป็นผลอะไรเลย เขาก็ยังคงคิดว่าผมเอาไป และแขวะผมอยู่ทุกวันเหมือนเดิม "วันนี้กินดีเนาะ ก็ได้เงินไปเยอะนี่" บางวันก็เดินผ่านโต๊ะผม แล้วก็พูดลอยๆว่า "อทินนาทานา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ..." เพลียใจเหมือนกันครับ ยอมรับว่าจิตตกแบบสุด ๆ พยายามไม่ใส่ใจแล้ว แต่ทางฝ่ายนั้นก็ยังมาสุมตลอด ตลอดทั้งวันของการทำงานไม่มีความสุขเลย ไม่โล่ง อึดอัดมาก ต่อไปนี้เลยจะคิดเสียว่า "ช่างมัน" เพราะคนที่เข้าใจเราก็มี และเราก็ไม่ได้เอาไปจริง ๆ
     
  12. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    "เสียงที่เข้าหู..อย่าให้มันเข้าถึงใจ" ให้กระทบที่หูแล้วให้มันหล่นอยู่ตรงนั้นอย่าดึงมันมาที่ใจให้ตัวเราเป็นทุกข์ค่ะ
     
  13. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ไม่ต้องสนใจ ยังมีคนที่ทำงานที่ยังเข้าใจคุณอยู่ ผลกรรมทางวจีกรรมจะตกไปที่ผู้กล่าวหาใส่ความ โดยที่คุณเป็นผู้บริสุทธิ์ เราอยากจะบอกคุณว่า เราก็เจอแรงซะด้วย เสือ สิงห์ กระทิง แรด ขี้ข้า ขี้ครอกเต็มไปหมด ใช้บุญใช้ความดีใช้ความถูกต้องจัดการ
     
  14. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ท่านระบำฯ หากสงสารเจ้าของกระเป๋าสตางค์บ้าง ก็น่าจะปรามเตือนเธอว่า ..

    ..."พี่ครับ..คนขโมยของคนอื่นก็ชั่วเลว คนที่กล่าวหาคนไม่ได้ทำผิดว่าทำผิดก็ชั่ว เพราะผิดศีล พี่น่าจะทราบว่าการกล่าวเท็จ การส่อเสียดหรือยุแยงให้ใครๆเข้าใจผิด ล้วนเป็นมิจฉาวาจาที่มีโทษมาก...เมื่อพี่ทำบาปกรรมด้วยเต็มเจตนา บ่อยๆเนืองๆ ย่อมเป็นบาปที่มีกำลัง เวลานี้ผมผจญกรรมที่เคยทำไว้คล้ายๆกับที่พี่กำลังทำอยู่กับผมในเวลานี้ วิบากของผมกำลังจะหมดไป แต่พี่กำลังทำบาปใหม่อย่างร่าเริง ผมสงสารว่าพี่จะได้รับวิบากเลวเหมือนผมเวลานี้ หากพี่ยังไม่ยุติบาปกรรมนี้เสียโดยเร็ว พี่เท่านั้นต้องเป็นผู้รับกรรม ผมให้อโหสิให้อภัยพี่ ไม่โกรธเคืองหรอกครับ เพราะทราบดีว่านี่คือเศษกรรมของผม.."....

    หรือจะprint ส่งให้เธอ พร้อมcc ถึงเพื่อนร่วมงานอื่นๆด้วย เผื่อจะช่วยให้เขายุติบาปกรรมได้บ้างนะครับ...เป็นกำลังใจให้ครับ..
     
  15. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ช่างเขาเถิดนะ... สิ่งที่เขาคิด เขาย่อมรู้เอง สิ่งที่เขาพูด มันก็เข้าหูเขานั่นเองเช่นกันค่ะ.. มันก็เป็นเช่นนี้แล..สำหรับผู้ที่ไม่รู้ธรรม.. วางซะหนักหนอ.. หนักหนอ..(tm-love)
     
  16. สู่ความดี

    สู่ความดี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    ปล่อยวางเถอะครับ..อย่างไรเสีย ความจริงก็คือความจริง จักเป็นเช่นอื่นมิได้
    ใครจะไม่รู้ก็ช่่างเขา คุณรู้แก่ใจดี เทพ เทวดา พรหม สิ่งศักสิทธิ์ รวมไปถึงสัตว์น้อยใหญ่ ก็รู้


    สักวันความจริงต้องเปิดเผยครับ ^^" วันนั้นทุกคนจะเข้าใจคุณเอง

    "คิดเสียว่าเป็นกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน เราอาจเคยไปใส่ร้ายใครไว้จนเป็นกรรมติดตัวเรามา
    ก็เลยต้องชดใช้กันชาตินี้ ขอให้คุณอดทนนะครับ คนดีพระท่านย่อมคุ้มครองครับ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2013
  17. Nagar

    Nagar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +155
    "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"

    เราว่า ประโยคนี้ยังใช้ได้ดีทุกกาลสมัย ถ้าเราเป็นท่าน เราก็จะเฉยๆ ใครว่าอย่างไรก็ช่างก็เราไม่ได้เอา สักวันหนึ่งความจริงคงเปิดเผย อาจจะนานหน่อยก็ต้องรอ
    เราก็เคยเจอสถานการณ์คล้ายๆ แบบนี้เหมือนกันน่ะ
    ใจเย็นๆ นะ
     
  18. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ล่าสุด! ตอนนี้รู้ตัวคนที่เอาไปแล้วครับ!

    - เรื่องมันมีอยู่ว่า เด็กฝึกงานมาบอกกับผมว่า "กระดาษ A4 ที่ใช้ถ่ายเอกสารของแผนกหมด" (ผมมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับพัสดุของแผนก) ผมเลยกำลังจะทำเรื่องขอเบิกให้ แต่พี่อีกคนบอกว่า "โต๊ะของ ช. มีอยู่รีมนึง เอาไปใช้ก่อน" แต่ตอนนั้น ช. ออกไปทำธุระข้างนอก ผมเลยถือวิสาสะ ให้เด็กฝึกงานเลยเดินไปที่โต๊ะของ ช. เพื่อไปเอากระดาษ แต่มันเป็นลิ้นชักเปิด (คล้าย ๆ ประตูอ่ะครับ) เด็กฝึกงานเลยเปิดไม่ได้ เพราะมันถูกล็อคไว้ แต่งานนี้ด่วนมาก ต้องทำส่งผู้จัดการให้เสร็จก่อนเที่ยง เลยให้พี่อีกคนเปิดตู้ให้ (งัดตู้) ตู้นี้ก็ค่อนข้างเก่า เป็นไม้ เลยไม่ใช่เรื่องลำบากที่จะงัด เพราะกว่าจะทำเรื่องเบิก กว่าจะไปเอากระดาษมาใหม่ กว่าจะถ่ายอีก ดูแล้วคงไม่ทันแน่ ๆ แต่พองัดออกมา เด็กฝึกงานก็บอกว่า "อุ๊ย เจอกระเป๋าตังค์ด้วย สวยดี พอพี่เค้ากลับมาหนูขอเค้าดีกว่า เก็บไว้ในนี้พี่เค้าคงไม่ใช้แล้ว" พอทุกคนได้ยินคำว่า "กระเป๋าตังค์" ก็สนใจเป็นตาเดียว (รวมทั้งพี่เจ้าของกระเป๋าด้วย) เลยให้เด็กฝึกงานหยิบออกมาดู และก็เป็นอย่างที่คิดครับ... เป็นกระเป๋าตังค์เจ้ากรรมที่หายไปแหละ! พี่เจ้าของกระเป๋าปรี๊ดมาก เหมือนแกโกรธมากแต่พูดอะไรไม่ออก ในกระเป๋านั้นบัตรทุกอย่างอยู่ครบ แต่เงินหายไปหมดแล้ว ผมบอกตามตรง ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่จะแสดงอาการดีใจก็ใช่ที่ เพราะตอนนี้เข้าสู่ภาวะเครียดกันแล้ว

    พอ ช. กลับมาก็ถึงเวลาของการสอบสวนครับ ได้ความว่า ช. เป็นคนเอาไป เพราะวันที่ไปงานศพกัน เขานั่งข้าง ๆ พี่เจ้าของกระเป๋า แล้วพอดีมันตกข้าง ๆ เขาตอนที่พี่เจ้าของกระเป๋าหลับอยู่ เขาเลยหยิบเอามา เรื่องราวชักจะบานปลายใหญ่โต เมื่อพี่เจ้าของกระเป๋าไปแจ้งกับผู้จัดการแผนก ให้ดำเนินการไล่ออก (พี่แกเป็นคนอารมณ์ร้ายมาก ๆ) ทุบตี ช. อย่างเอาเป็นเอาตาย โวยวายลั่นออฟฟิศ พวกผมเข้าไปห้ามแกก็ยังด่าไม่เลิก แต่ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรกับพี่เค้าเลย ไม่ได้เสนอความคิดเห็นอะไรทั้งสิ้น อยู่เฉย ๆ ดีกว่า...

    ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกคำแนะนำดี ๆ นะครับ ขอบคุณจริง ๆ หวังว่าคงไม่เจอเรื่องแบบนี้ซ้ำอีกแล้วนะครับ หนักใจ -*-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2013
  19. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ยินดีอย่างยิ่งกับคุณระบำมารที่ความจริงปรากฏแล้ว และขออนุโมทนา ในการมีสติระลึกรู้ และใช้ความอดทนอดกลั้นจัดการกับมรสุมชีวิต :cool:

    เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์อีกข้อนึงสำหรับดิฉัน กับความจริงที่ว่า ทำไมมนุษย์เราจึงต้องพึ่งพาธรรมะยามมีความทุกข์ใจ ทำไมจึงต้องศึกษาให้แจ้งและเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อให้เกิดปัญญาและพิจารณาทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง บางที "การไม่ทำอะไรเลย" ก็ยากกว่า "การลงมือทำ" เมตตา คือ ความสงสาร กรุณา คือ การให้ความช่วยเหลือ มุทิตา คือ ความยินดี อุเบกขา คือ การวางเฉย คุณธรรมสี่ข้อนี้กล่าวได้ว่า ข้อสุดท้ายทำได้ยากที่สุด

    ผู้คนมากมายไม่สามารถวางเฉยได้ ทั้งที่ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากทำใจยอมรับ แต่น่าแปลกที่มันกลับยากกว่าการลงมือทำซะอีก เราอาจเห็นหลายคนเป็นคนขี้สงสาร หลายคนชอบช่วยเหลือคนอื่น หรือเห็นคนมากมาย ที่มีจิตใจร่วมยินดี เมื่อได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ของใคร แต่หาได้ยากนัก ที่เราจะเห็นคนที่รุ้จักวางเฉย รู้จักปล่อยวาง ด้วยเป็นสิ่งที่สร้างความอึดอัดให้ หากไม่มีความเข้าใจ


    พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า "สัตว์โลกทุกผู้ มีกรรมเป็นของตน" นั่นแปลว่า ใครทำเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะทำดี หรือทำเลว กรรมรอชำระสะสางหนี้อยู่แล้ว ส่วนเราทำหน้าที่ได้เพียงบางส่วน อยากจะให้ใครได้รับสิ่งดี ๆ ตัวเขาก็ต้องทำเองด้วย หรือถ้าโกรธแค้นใครที่เคยมาทำร้ายเราไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ ส่วนหนึ่งก็ต้องคิดว่า ถึงเราไม่ได้ตอบ อย่างไรเสีย ระบบกรรมก็ย่อมเล่นงานเขาอยู่แล้ว หากคิดและเข้าใจเช่นนี้ได้ ใจก็จะสามารถรับคุณธรรมในข้อ "อุเบกขา" เอาไว้ได้ง่ายขึ้น

    สาธุธรรมวันพระค่ะ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...