อยากเล่า ผลของการสวดมนต์ก่อนนอนติดต่อกัน 1 ปีของเรา

สวดติดต่อกันเกือบ 7 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เจอแต่ปัญหาและอุปสรรค

 

จริงหรือไม่ที่มีคำพูดว่า ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม
ผมว่าประโยคนี้จริงแท้แน่นอนครับเมื่อประสพกับตัวเอง
ทุกวันนี้ผมทำบุญใส่บาตร สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ ทุกวัน
สิ่งที่ผมได้รับคือลูกๆ 3ขวบครึ่ง+1ขวบครึ่ง สวดมนต์ ไหว้พระ กับผมทุกวัน
ถึงจะสวดผิดบ้าง ชัดบ้าง ผมก็มีความสุขทางใจครับ

 

ขอร่วมอนุโทมนาด้วยค่ะ พอได้อ่านแล้วรู้สึกอิ่มเอิมใจ และสงบสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

 

บางทีก็ไม่ควรเอาแต่คาดหวังนะคะ เราเชื่อว่าถ้าอยากได้อะไรก็ต้องลงมือทำน่ะค่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่เรา

 

อนุโมทนาด้วยนะคะ

 

ดีใจกับน้องๆด้วยนะคะ ได้ใกล้ชิดกับพระธรรมตั้งแต่เล็กๆ อนุโมทนาค่ะ

 

จากหนัก กลายเป็นเบา จากเบา กลายเป็นหาย ผลของการสวด มีอยู่แน่นอน ขอให้ท่านสวดต่อไปด้วยใจที่เคารพและตั้งมั่น อย่าได้ย่อท้อ และคาดหวังอย่างเร่งรัด

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งแล้วค่ะ สาธุ

 

ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ฯลฯ สุดท้ายเป้าหมายจริง ๆ ก็คือ "จิต" ครับ กระบวนการต่าง ๆ ทั้งหลายล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้จิตใจสงบ สงบแบบสงบจริง ๆ ไม่ใช่กดข่มเอาไว้น่ะครับ คนที่ได้ผลดีจากการสวดมนต์นั้น ก็เพราะเค้าสวดจนถึงช่วงขณะหนึ่งที่จิตมีความสงบ ปราศจากซึ่งความคิดจริง ๆ เมื่อนั้นมนต์บทใดก็ล้วนได้ผลครับ

เพียงแต่การวางใจขณะสวดนั้นออกจะยากหน่อยสำหรับคนที่มีความทุกข์มาก ๆ หรือมีความคาดหวังสูง เพราะมันมีความโลภ ความกลัว โกรธ อยู่ในใจเต็มไปหมด ลองย้อนกลับไปคิดดูนะครับว่าตอนที่สวดนั้น หัวไปคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ ใจนั้นคาดหวังอะไรอยู่ครับ ขณะที่จิตมีขยะเหล่านั้นอยู่ ถึงจะสวดไปเท่าไหร่ก็ไม่มีผลครับ (แต่เอาจริง ๆ คนที่มีอารมณ์หลากหลายคิดฟุ้งซ่านในตอนสวดมนต์ จะสวดได้ไม่นานและต่อเนื่องหรอกครับ)

อีกอย่างคือ ศาสนาพุทธเป็นเรื่องของ "เหตุ" และ "ผล" ครับ มีผลนี้เกิดขึ้นก็เพราะมีเหตุที่ได้กระทำไว้เพื่อผลนั้น ๆ เหมือนปลูกต้นทุเรียนยังไงก็จะได้ผลทุเรียน ไม่มีทางได้ผลมะม่วง ลองคิดตามนะครับว่า สองคนนี้ใครมีโอกาสร่ำรวยได้มากกว่ากันครับ

- คนแรก ลงทุนซื้อของมาขาย วิเคราะห์ทำเลกับลูกค้าอย่างถี่ถ้วนแล้ว และเอาบทสวดมนต์มาเป็นกำลังใจ เป็นแรงเสริมให้ค้าขายได้ดียิ่งขึ้น

- คนที่สอง นอนกระดิกเท้าสวดมนต์อยู่กับบ้าน เช้าจรดเย็น เย็นจรดค่ำ วนไปทุกวัน แต่ไม่ทำงานทำการอะไรเลย

ศาสนาพุทธนั้น เป็นเหตุเป็นผลและเป็นวิทยาศาสตร์ในตัวเองอยู่แล้วครับ อยากได้ผลใด ก็ต้องทำเหตุเพื่อผลนั้นด้วยครับ

 

สวดมนต์หรือการสาธยายบทสวดมนต์ด้วยความเข้าใจและด้วยความเคารพนั้นมีอานิสงค์จริง

แท้แน่นอน และยังสามารถปกป้องคุ้มครองเราได้จริงที่สุดแม้ยามเกิดเหตุเพศภัยก็ไม่อาจ

ทำอะไรได้จริง

เป็นคนหนึ่งที่รักการสวดมนต์มากจริงๆ และไม่ว่าเจอหน้าพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูง หัวหน้า

กองเราจะชอบสวดมนต์กันมาก และอยากจะเล่าไว้ 1 ประสพการณ์ที่เจอมากับตัวและ

คณะเพื่อนและหัวหน้ากองเมื่อต้นปีนี้ 2556 ได้นำเพื่อน ๆ และหัวหน้ารวมทั้งสิ้น 13 คน

ไปสวดมนต์ที่ถ้ำเขากะจี อุทัยธานี เป็นการสวดมนต์ปรกติของดิฉันและคณะทุกต้นปีกระ

ทำกันมา15-16 ปีแล้ว ทั้งสวดมนต์และทำบุญทำทานถวายปัจจัยซื้อสีทองทาสมเด็จ

องค์ปฐม 3 หมื่นกว่าบาทพร้อม เครื่องอุปโภค บริโภค (ค่อนข้างเยอะคะ) ก็ขออนุญาติ

ท่านอาจารย์ณัฐวุฒิ อติชาคโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ เรียบร้อย พวกเราก็เข้าไปในถ้ำภังค

ณีธรรมมานุสรณ์ ตอนเข้าไปราว 11:30 โมง สวดมนต์เสร็จกลับออกมาจากถ้ำ ราว

15:10 น. ท่านเชื่อหรือไม่? ขณะสวดมนต์กันทั้ง 13 คนนั้น โดยมีดิฉันและพี่จ๊อดเป็น

คนนำสวด นั้น ดิฉันและพี่จ๊อดไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปรกติอันใดเลย เพียงแต่รู้สึกว่า

รำคาญนิดหน่อยที่ เอ๊ะ? ทำไมไม่ตั้งใจสวดกันนะเขาเป็นอะไรกันน่ะดิฉันเข้าใจว่าเขาไม่

ตั้งใจสวดอะไรกันเชิญเทวดามารับฟังด้วยนะ จึงไม่ได้สนใจตั้ังหน้าตั้งตาสวดจนจบแผ่

เมตตาใหญ่ จนกลับขึ้นรถเพื่อน ๆ และหัวหน้าถึงได้เล่าให้ฟัง ว่า ที่พวกเขายุกยิกไม่

เป็นสุขกันเพราะควันสีดำมาจากไหนไม่รู้จากภายในถ้ำนะ มากมายจนบางคนทนไม่ไหว

ต้องออกไปนอกถ้ำ และมีไฟติดธูปกลุ่มใหญ่ในปล่องถ้ำขอย้ำปล่องข้างล่างซึ่งไม่น่าจะมี

ใครไปจุดไฟได้ เพื่อนๆ เขาเหม็นควันไฟมากมายเหมือนจะรมให้หายใจไม่ออกจนเพื่อน

ผู้ชายที่ไปด้วยกัน 1 คนได้ไปหยิบน้ำมาราดดับไฟ ที่สำคัญพระอาจารย์ท่านอยู่นอกถ้ำ

ท่านก็เข้าใจว่าพวกดิฉัน 13 คน คงจุดธูป ควัีนมันถึงได้ออกไปนอกถ้ำมากมายเช่นนั้น

ดิฉันกลับกรุงเทพมาแล้วได้โทร ไปหาหลวงพี่แล้วถามว่าหลวงพี่ก่อนหน้าโยมจะมาสวด

มนต์ได้มีใครจุดธูปแล้วโยนไม้ขีดไปในปล่องถ้ำข้างล่างหรือไม่ หลวงพี่บอกไม่มีใครมา

ทั้งสิ้น พวกโยมมาพวกเดียวเท่านั้น ท่านก็ว่้าโยมจุดธูปกันหรือควันถึงได้ออกมาเป็นสาย

นะ ดิฉันได้แจ้งหลวงพี่ว่า กลุ่มดิฉันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวได้จุดธูปแม้สักดอกเดียวก็

ไม่มี หลวงพี่ยังได้เดินดูนอกภูเขารอบ ๆ ว่าใครมาจุดอะไรหรือเผาอะไร ท่านก็ว่าไม่มี

เลยเช่นกันน่าแปลก แล้วควันมาจากไหนละ? ดิฉันก็ว่าเขาเผาหญ้าหรือเปล่าท่านก็ว่า

พวกโยมกลับแล้วเขาถึงเผากันราว ๆ 4 โมงเย็น มาทราบว่าเพื่อนเขาฉายไฟส่องลงไปดู

ในปล่องถ้ำข้างล่างเพราะเห็นมีไฟติดภายในถ้ำข้างล่างเหมือนมีคนจุดเกือบหมดเฉพาะหัว

ธูปและธูปมันไปวางไว้มากมายข้างล่างซึ่งหลวงพี่ท่านก็ไม่สามารถลงไปได้เพราะมันเป็น

ปล่องนิดเดียว ที่สำคัญพระท่านก็ไม่ได้จุดไฟแล้วโยนลงไปแน่นอนท่านอยู่กัน 2 องค์ที่

สำนักสงฆ์แห่งนี้ และกลุ่มดิฉันก็มาชุดแรกชุดเดียวเท่านั้นสิ่งที่น่าแปลกคือดิฉันและพี่จ๊อด

ไม่ได้รู้สึกถึงควันอะไรอย่างที่ว่าเลยสบายมากสวดมนต์ด้วยความตั้งใจมีสมาธิจนไม่รู้เรื่อง

ควันที่เกือบจะรมกันตายหากเพื่อนอีกคนไม่ไปดับ ดิฉันและพี่จ๊อดจรดจด่จ่อในบทสวดที่

ดิฉันได้เตรียมไปค่อนข้างเยอะ และมีความสุขที่ได้สวดมนต์ต้องใช้ตะเกียงที่ใช้ถ่านไฟลูก

ใหญ่ ๆ 4 ก้อนส่อง เรานำตะเกียงไฟฟ้าไปกันทุกคนขณะสวดกันเพราะในถำ้ไฟพระท่าน

ปั่นใช้กันเอง และเราต้องสวดมนต์ก็หลายชั่วโมงไฟในถ้ำไม่พอให้มองเห็นตัวหนังสือที่

จะสวด มาทราบภายหลัง โดยหลวงพี่ว่าจะต้องมีใคร 1 ใน 13 คนนี้แหละที่คิดอะไร

ไม่ดีลบหลู่จึงมีเหตุการณืเช่นนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาไม่พอใจจึงทำให้เห็นนะแหละ ดิฉันก็นำ

เรื่องที่พระท่านบอกมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง และ ก็มีจริง ๆ คะ 1 ท่าน ที่คิดอะไรแบบนั้่น

จริง ๆ แต่ เพือนเขาสารภาพ และเธอก็ได้ขอขมาไปแล้วด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สำหรับ

ดิฉันและพี่จ๊อดเรา 2 ไม่ได้รู้สึกเหม็นควันหรือจัะเป็นจะตายเหมือนคนอื่น ๆ เลยจริง ๆ

สบายมากยังแปลกใจสุด ๆ ตอนที่เพื่อน ๆ ขึ้นรถตู้กันแล้วต่างเล่ากันเซ็งแซ่ เพราะก็นั่ง

อยู่ภายในถ้ำด้วยกันเป็น ร่วม 3 ชั่วโมง แถมดิฉันกับพี่จ๊อดไม่ได้หยุดสวดเลย

อยากบอกว่า อานุภาพของพลังสวดมนต์มีจริงคุ้มครองเราท่านเสมอหากท่านมีใจมั่นคง

ศรัทธาจริงใจ จะไม่มีอันตรายใด ๆ มาแผ้วพานท่านได้เลยจริง ๆ

ส่วนไฟติดเองได้นะ ไม่ทราบจริง ๆ เพราะพวกเราก็ไม่มีใครจุดไม้ขีดแม้แต่ก้านเดียว ที่

สำคัญหากไฟติดมาก่อนแล้วสวดตอนแรก ๆ ต้องเห็นแต่นี่เห็นว่าประมาณ 1 ชั่วโมงก็เกิด

เหตุกาณ์นี้ ถำ้นี้เข้าได้ทางเดียวและพวกเราก็นั่งกลุ่มเดียวหากมีคนมาจุดไฟเราเข้าไปก็

ต้องได้กลิ่นตะแรกและเห็น แต่ไม่มีนะคะ ช่างเถอะคะจะอะไรก็ ขอให้นอกจากเคารพ

รักพระรัตนตรัยแล้ว ไปสถานที่ใดเราควรสำรวม กาย วาจา ใจ ให้ดี ๆ ด้วยเพราะสถาน

ที่ศักสิทธิ์บางแห่งและหลาย ๆ แห่ง ย่อมมีเทพ หรือเทพารักษ์เขาดูแล คุ้มครองอยู่ หาก

แต่ใครอยู่ใน ศีล ใน สัจจะ พระและเทพท่านย่อมคุ้มครองคะ

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจมาก ๆ คะ

 

วัดคือบ้านหลังที่2

 

อนุโมทนาบุญกับบุญกุศลของทุกๆท่านค่ะ...สาธุ

 

คอนเฟริมค่ะ..
สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน+นั่งสมาธิด้วย จิตใจสงบนอนหลับสบายค่ะ

ขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ

 

ผมสวด ทุกคืนก่อนนอน ครับ ^^

 

วันปีใหม่ไทยว่าจะเริ่มต้นสวดมนต์ให้ไ้ด้ทุกวันค่ะ จะเอาชนะกิเลสให้ได้
วันนี้ได้ทำความสะอาดห้องพระในรอบ5-6ปี แค่เข้ามาถวายดอกไม้แป๊บๆแล้วออกไป
วันนี้กวาดถูเช็ดทำความสะอาดองค์พระทั้งหมดในห้อง จัดห้องพระใหม่นิดหน่อย ฝุ่นเยอะมาก ได้พระมาหลายสิบองค์โดยบังเอิญ คนร้อนเงินเขาขอสองหมื่นบอกไปยกเอาเลยใน
บ้านเขา..ก็ทำบุญช่วยเขาไป สงสัยจะเป็นของดิฉันมาก่อน แอบดีใจ
แต่มารู้ทีหลัง ป้าให้เซียนพระในห้างมาคัดพระไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่เขาไม่รับไป
ดิฉันไม่ได้เล่นพระหรือสะสมพระ ได้อะไรก็พอใจค่ะ แค่พระแก้วมรกรองค์ใหญ่ทำจาก
แก้วกับพระประจำ ร.9ทองเหลืองทั้งองค์หนักหลายโลดิฉันก็พอใจค่ะ ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่แหวนหลวงพ่อสด หลวงปู่สุข หลวงพ่อคูณ พระประจำวันเกิด7วัน พระนาคปรก ฯลฯ
ก็เยอะค่ะ เป็นรูปหล่อของแท้จากวัดทั้งหมด เป็นของเก่า วันนี้พึ่งนำมาทำความสะอาด
เลยพึ่งรู้ว่าตนเองมีพระบูชาค่ะ เลยจะสวดมนต์บูชาท่านเพราะท่านมาอยู่กับเรา เราควร
จะมีศีลธรรม เพื่อนำพาชีวิตให้ดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ

 

สวดมนต์แล้วรู้สึกจิตใจสบาย จากที่มีทุกข์ก็บรรเทา แล้วก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

 

รู้สึกดี เย็น ที่ได้รู้จักเว็บนี้
ได้มีโอกาสเข้ามาในกระทู้แชร์ความจรรโลงในพระพุทธศาสนา
อนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ

 

ปีหนึ่ง ผมเข้าวัดนับครั้งได้
เพราะ.... ผมชอบทำให้จิตใจสงบ สงบ มากกว่าเข้าวัด

 

ลองคิดแบบผมสิ
ปัญหาที่เข้ามา มันน้อยกว่าที่ควรจะมี เพราะคุณสวดมนต์ไง
ถ้าไม่สวด จะมาเยอะกว่านี้
ปล. คุณเคยอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และ เทวดารักษาตัวคุณ หรือเปล่า
ทำบ่อยหรือเปล่า.

 

ขอโมทนาบุญด้วยครับ

 

เป็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ ทุกครั้งที่ได้ทำบุญ มีความสุขอย่างอิ่มเอิบ สุดบรรยายค่ะ นี่อาจจะเป็นสวรรค์น้อยๆ ของคนชอบทำบุญ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญภาวนาค่ะ