เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    คุณถามผมในกระทู้ผม ก็ขอให้ผมตอบตามสไตล์ของผมนะครับ

    ของพระอาจารย์สุพจน์ ที่นำมาทดสอบ เป็นรุ่นของวัดศรีทรงธรรมครับ

    ผมแบ่งของง่ายๆเป็นสองรุ่น คือรุ่นของศูนย์พระเครื่องฯ กับรุ่นของวัดฯ

    ของศูนย์ฯ ผมก็เคยลองมาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน และเป็นเหตุให้เลิกเช่าของศูนย์ฯไปเลย

    .................

    เรื่องนี้ผมตามข้อมูลอยู่หลายฝ่าย

    เมื่อปีก่อน ทางวัดป่าแดงเดินทางมากราบนิมนต์หลวงปู่ฯ วัดโพธิ์ทอง ก็ขอเกศาหลวงปู่ฯกับผงวิเศษไปด้วย โดยเรียนท่านฯว่าจะนำไปทำพระสมเด็จ9เกศา

    และเมื่อพระฯเสร็จแล้ว ก็นำมาขอบารมีหลวงปู่ฯอธิฐานจิตเดี่ยวอีกครั้งที่วัด ผลที่ออกมาก็เล่าไปแล้ว(ยิงไม่โดน)

    ทางคุณหนุ่มที่อุปฐากหลวงปู่ฯ ก็เรียนถามทางวัดป่าแดงว่า หลังจากอธิฐานจิตเสร็จแล้ว จะไปไหนต่อ ก็ทราบว่าจะไปขอบารมีหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม

    จึงให้เข้าใจได้ว่า พระฯสมเด็จ9เกศา กับหนุมานรุ่นสอง ของทางวัดป่าแดง ได้รับการอธิฐานจิตเดี่ยวจากพระเกจิอย่างน้อยสองรูปในวันเดียวกัน คือหลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง กับพระอาจารย์สุพจน์ วัดศรีทรงธรรม (และก็ได้ตะกรุดจากวัดศรีทรงธรรมไปในวันนั้นแหละ)

    .......................................

    พูดถึงหลวงปู่ฯ ก็เล่านิดนึง เวลาใครเห็นอะไรดีๆ ก็ให้เงียบไว้
    เรื่องคือ มีน้องรุ่นๆ อยากได้ตะกรุดรุ่นที่ลงโฆษณาในนะโม จะเช่าจากศูนย์ฯก็ไม่ไว้ใจ เลยเข้ามาเช่าเอาที่วัดโพธิ์ทอง

    ธรรมดาหลวงปู่ฯก็จะประสิทธิ์ให้เป็นปรกติ แต่วันนั้นไม่ค่อยไหว ขอนอนเสกให้ละกัน เสกๆอยู่ น้องมันก็เห็นตะกรุดที่อยู่ในพานกระดก!

    น้องมันก็ร้อง "ตะกรุดกระดกๆ..."
    หลวงปู่ฯลืมตาแล้วเอามือกดลงไป แล้วหลับตาเสกต่อ.... ทีนี้เลยอดดูกันเลย

    ถึงจะนอนแบบ แต่เรื่องพลังจิตก็ยังพอวางใจอยู่

    .......................

    เมื่อคืนก็แวะเข้าบ้านพี่นิ่ม กว่าจะได้ออกมาก็เกือบสามทุ่ม เลยได้เห็นได้ฟังอะไรดีๆเยอะเลย ไว้จะเข้ามาเล่าเอาสนุกให้ฟังทีหลัง
     
  2. sutthasiri

    sutthasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +6,478
    ได้โอนเงิน หุ่นพยนต์ 1 ควายธนู 1 เมื่อวันที่ 1 พค.56 เวลา 16.13.50 บาท จำนวน 601 บาท เรียบร้อยแล้วครับ ที่อยู่จะแจ้งทาง pm ครับ
    ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับ
     
  3. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผ้ายันต์สีขาว เป็นผ้ายันต์กันภัยของพี่ไพรัช
    ส่วนพระปรกโพธิ์หลังเรียบ เป็นของวัดโพธิ์ผักไห่ หลวงปู่ทองหยิบ อธิฐานจิตให้3เดือน ผมนำเข้าพิธีฯวัดป่าแดงอีกต่างหาก ให้ไว้เป็นที่ระฤก
     
  4. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เมื่อคืน พี่นิ่มหยิบของดีออกมาให้ดู เป็นลูกสะกด(ปรอท) 7 ลูก
    เป็นของมือปืนคนหนึ่ง ที่ดับตำนานเจ้าพ่อตะวันออก
    ลูกสะกดนี้ พี่นิ่มเคยเอาไปให้หลวงพ่อเปิ่นท่านดู ท่านก็ออกปากทักว่า เป็นของกายสิทธิ์
    "เป็นของที่คนยุคนี้ทำไม่ได้แล้ว"

    ผมถามพี่นิ่มว่าต้องมีให้ครบ7ลูกเลยหรือ
    "ครบ7ลูก 7 วัน.... ทุกคนที่เคยเป็นเจ้าของ เป็นเสือไปหมดยกเว้นพี่ฯ"
    ผมคัดลอกมาเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังทีหลัง

    ........................

    ตำนานเจ้าพ่อตะวันออก
    ถามว่า ปัจจุบันยังมีเจ้าพ่ออิทธิพล (มือปืน) อยู่อีกหรือไม่ หรือไปอยู่ตามศาลเจ้าพ่อกันหมดแล้ว (ไม่ใช่ศาลยุติธรรมนะครับ) เพราะสมัยก่อน มีเจ้าพ่อเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เอาเป็นว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไปไหนมาไหน มีมือปืนเดินห้อมล้อม ตัวเจ้าพ่อจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องพกปืนให้หนักเอว แต่ใช้สายตาบ้าง นิ้วบ้าง แค่นี้เป้าหมายก็ตายแล้ว ต่อมากิจการเจ้าพ่อถูกปราบปราม ไม่ใช่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มาจากคนในวงการเดียวกัน ที่ต้องการก้าวขึ้นมาแทนที่ เหมือนในหนังละครับ นาน ๆ เข้า พวกเจ้าพ่อ ก็เปลี่ยนสถานะเข้ามาเล่นการเมืองบ้าง ล้างมือให้บุตรหลานทำแทนบ้าง บ้านเมืองเจริญมากขึ้น พวกเจ้าพ่อก็เหมือนผี ก็ต้องหายเข้าป่าไป ไม่สามารถอยู่ในป่าคอนกรีตได้ สมัยผมยังเป็นเด็ก พบว่านอกจากแถว จว.เพชรบุรีแล้ว ที่มีมือปืนจำนวนมาก ทางภาคตะวันออกก็ไม่แพ้กัน มีการยิงถล่มกันด้วยระเบิด อาวุธสงคราม ตายไปก็มาก ปัจจุบันไม่อยู่ในคราบเจ้าพ่อ หรือนักเลงแล้ว ลองมาศึกษาบทความนี้ดู

    เปิดตำนานเจ้าพ่อ-มือปืนฝั่งทะเลตะวันออก

    เป็นความจริงในทางธรรมชาติ ที่ใดมีแหล่งผลประโยชน์มากมายมหาศาล ย่อมเต็มไปด้วยการกอบโกย ช่วงชิงเพื่อที่จะได้ เป็นเจ้าของครอบครองกิจการ
    ในการช่วงชิง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนปรารถนา ที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป จะให้ประสบผลสำเร็จ ก็ประกอบด้วยอำนาจ บารมี การเงิน และพวกพ้อง สมุนที่ล้อมหน้าล้อมหลัง มีมือปืนคู่กายคู่ใจ เคียงข้างเป็นเงาตามตัว คอยระแวดระวังภัยให้
    การช่วงชิงกัน ในสนามของชีวิต จึงมีทั้งฝ่ายได้ และฝ่ายเสีย ซึ่งบางครั้ง หรือส่วนมาก ก็เดิมพันกันด้วย เลือด น้ำตาความ สูญเสีย และความตาย เต็มไปด้วยการล้างแค้นกัน ประเภทเลือดล้างเลือด
    เมื่อผ่านฉาก ของการต่อสู้ล้มล้างไปแล้ว ฝ่ายที่ประสบชัยชนะ ก็ผงาดขึ้นมา ได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อ” “มาเฟีย” หริออย่าง ที่ต่างประเทศมักจะเรียกว่า เป็นพวกก็อดฟาเธ่อร์ ที่แวดล้อมด้วยสมุนซ้ายขวา มาด้วยบารมี และอำนาจนอกระบบ
    การหักเหลี่ยมเฉือนคม ในยุทธจักรมาเฟีย เจ้าพ่อที่เคยอื้อฉาว ในอดีตเมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว คือวิถีทางของ “เจ้าพ่อตะวันออก” ผู้ทรงอิทธิพลเหนือพื้นที่หลายจังหวัดแบบสยายปีกครอบคลุมหลายพื้นที่ โดยมีสายโยงใย ตาข่ายแบบใยแมงมุม และมีศูนย์อำนาจ อยู่ที่จังหวัดชลบุรี
    เมื่อหัวขบวนของมาเฟีย ถูกล้างผลาญเด็ดหัวจากคู่แข่ง สมุนมือขวา หรือสมุนมือซ้าย ที่เคยเคียงข้างกายก็ผงาด ขึ้นมาแทนที่ มีการเปิดศึกล้างเลือด แก้แค้นกันไปมา ประเภทแค้นต้องชำระ ประเภท ๑๐ ปีล้างแค้นก็ไม่มีสาย
    การล้มล้างกันของขบวนการมาเฟีย เจ้าพ่อฝั่งทะเลตะวันออก ที่ผ่านมาและเป็นตำนานสืบทอดประวัติศาสตร์ของความรุนแรง นอกกฎหมาย ประเภทที่เรียกว่า “เอ๊าท์ลอว์”เกิดจากความขัดแย้ง ทางธุรกิจการค้า การมุ่งยึดครอง แหล่งผลประโยชน์ ในทางธรรมชาติ เช่น ที่ดินหิน แหล่งแร่ รวมทั้งธุรกิจ การประมูลก่อสร้าง มูลค่าร้อยล้านพันล้าน
    แหล่งผลประโยชน์ ที่ต้องช่วงชิงกันเหล่านี้ จึงเป็นที่มา ของผู้มีอิทธิพลก๊กต่างๆ หลายก๊กด้วยกันที่มีพฤติกรรม ห้าวโหด อำมหิต ประเภทใครดีใครอยู่ ประเภทที่ฆ่าฝ่ายอื่น เพื่อที่ฝ่ายตนจะได้มีชีวิตอยู่ และครอบครองความเป็นใหญ่ สยายปีกความเป็น มาเฟีย
    ความเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย นอกเหนือจากจะมีบริวารล้อมหน้าล้อมหลัง มีมือปืนคอยคุ้มกันหรือรับบัญชาเพื่อกำจัดฝ่ายตรงกันข้ามแล้ว ยังมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เป็นสมัครพรรคพวกด้วย
    ที่เหนือกว่านั้นคือ นักการเมืองระดับชาติ และพรรคการเมือง หนุนอิทธิพลอยู่ข้างหลัง เมื่อใช้กลุ่มเจ้าพ่อ มาเฟีย เป็นหัวคะแนนในการเลือกตั้ง ครั้นประสบความสำเร็จในทางการเมือง ก็เข้าลักษณะบุญคุณต้องทดแทน หนุนแก๊งมาเฟีย เจ้าพ่อ ช่วยเพิ่มบารมีให้สูงขึ้น

    แหล่งผลประโยชน์คือต้นเหตุ
    แหล่งผลประโยชน์ ทรัพยากรธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ เหมืองแร่ ที่ดิน ล้วนเป็นทรัพยากร ที่เป็นแหล่งกำเนิด ของกลุ่มอิทธิพล ที่หวังจะเข้าครอบครองแล้วเกิดการช่วงชิง ระหว่างกลุ่มอิทธิพล ที่เลี้ยงมือปืนไว้ เพื่อให้ความคุ้มครองอิทธิพลกลุ่มต่างๆ จึงเป็นที่มา ของการก่ออาชญากรรม ล้มล้างอำนาจ อิทธิพลซึ่งกันและกัน จึงเป็นที่มา ของตำนานเลือด มือปืน และการโค่นล้ม กำจัดกัน ของกลุ่มต่างๆ ด้านชายทะเลตะวันออก จังหวัดชลบุรี ที่เคยเขย่าขวัญ ของคนในสังคม มาเป็นเวลานานหลายสิบปี
    แต่แล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็เป็นไปตามหลักสัจธรรมของธรรมชาติที่ว่า ทุกอย่างทั้งในด้านดีและด้านร้าย มีการเกิดการดำรงอยู่ เติบโตรุ่งเรือง แล้วก็เสื่อมสลาย ไปตามกาลเวลา
    ความเสื่อมโทรม การล่มสลายของสรรพสิ่ง เป็นไปตามกาลเวลา และผลสนองตอบทางด้านพฤติกรรม ที่บุคคลก่อขึ้นใน ด้านของความเลวร้าย ก็ประสบความหายนะ และล่มสลายได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านทรัพย์สิน อิทธิพล ความยิ่งใหญ่ในด้าน นอกลู่นอกทาง หรืออำนาจ ก็มิได้ละเว้น แม้จะมีการเลี้ยงมือปืนไว้รอบกาย เพื่อเสริมบารมี อำนาจ อิทธิพล ก็หาช่วยอะไรได้ไม่
    เมื่อถึงคราวต้องวิบัติ
    เลือดและชีวิตเป็นเดิมพัน
    ตำนานวิถีทางดังกล่าว เคยเกิดขึ้นมานานแล้วเมื่อหลายปีก่อน แล้วในที่สุด ต่างฝ่ายต่างประสบความวิบัติ พบกับความหายนะ ประสบกับความเสื่อมสลาย โดยไม่อาจจะคาดได้ว่า จะมีการก่อตัวขึ้นมาใหม่ อีกหรือไม่
    หรือว่าตำนานเจ้าพ่อ มาเฟีย มือปืนฝั่งทะเลตะวันออก ที่ล้างเลือดกัน เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ประเภทเลือดล้างด้วยเลือ จะเหลืออยู่เพียงตำนานแห่งประวัติศาสตร์
    ตำนานเลือดล้างเลือด ของกลุ่มอิทธิพล มาเฟีย ก๊อดฟาเธ่อร์ แห่งฝั่งทะเลตะวันออก ที่ครองพื้นที่ สืบทอดอิทธิพลกันมานาน เปิดฉากความเดือดเกินพิกัด

    เมื่อตอนเช้าวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๔
    มันเป็นรุ่งอรุณ แห่งการหยิบยื่นความตาย ให้แก่เสี่ยผู้ยิ่งใหญ่ และมากด้วยบารมีอิทธิพล ที่คนทั่วไปครั่นคร้าม แม้แต่ได้ยินชื่อ
    รุ่งอรุณแห่งความอำมหิต
    นั่นคือ “เสี่ยจิว” หรือ นายจุมพล สุขภารังษี ผู้เรืองอำนาจ ในวงการเจ้าพ่อฝั่งทะเลตะวันออก
    ท่ามกลางความสดใส ของอากาศแห่งรุ่งอรุณของวันดังกล่าว กลับครอบคลุมด้วยรังสีอำมหิต เกินกว่าที่ผู้คนจะคาดหมาย โดยมัจจุราชได้หยิบยื่นความตายให้ แก่เขา
    ตอนเช้าของวันดังกล่าว เสี่ยคนดัง ที่ทรงอิทธิพล พร้อมกับสมุนคู่ใจ และคนขับรถรวม ๓ คน ได้ยกขบวนเดินทางไปดูที่ดิน ในตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี เพื่อขยายธุรกิจการค้า สร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ เพื่อตรวจสภาพพื้นที่ ตามแบบแปลนที่ได้ออกแบบ

    แผนพิฆาตที่ลึกซึ้ง
    เสร็จสิ้นจากภารกิจแล้ว เสี่ยคนดังพร้อมกับลูกน้อง ก็พากันเดินทางกลับ โดยผ่านเส้นทางบายพาส เลี่ยงเมืองชลบุรี โดยมิได้เฉลียวใจว่า มัจจุราชจะกระชากวิญญาณ ของเสี่ยอิทธิพล กับลูกน้องออกจากร่าง
    ขณะที่รถแล่นพุ่งไป ตามเส้นทางได้ไม่นาน เหตุระทึกขวัญ ประหนึ่งมัจจุราชกวักมือเรียก ก็พลันอุบัติขึ้น เมื่อมีรถกระบะ เล็ก ๒ คัน ที่บรรทุกชายฉกรรจ์ร่วม ๑๐ คน พุ่งตัวเข้ามาประชิดรถของเสี่ยจิว อย่างไม่คาดฝันมาก่อนว่า ได้วิ่งไล่ตามเส้นทางมา เรื่อย หรือรถของกลุ่มขบวนการล่าสังหาร จะมีการสื่อสาร ทางเครื่องมือสื่อสารทันสมัย แจ้งให้ทราบเส้นทาง ที่รถเสี่ยจิวผ่าน รถกระบะ ๒ คันนั้น จึงไปดักซุ่มตามเสนทาง เมื่อรถของเสี่ยอิทธิพลแล่นผ่าน จึงเร่งเครื่องไล่หลัง แล้วพุ่งเข้าประกบ ในรัศมี
    ที่ระยะการยิงหวังผล
    เมื่อได้จังหวะ คนในรถกระบะ จึงระดมกราดกระสุน จากอาวุธสงครามใส่รถเบ๊นส์ของเสี่ยจิว โดยยิงถล่มอย่างหูดับตับไหม้ ใส่รถเบ๊นส์ที่มีเสี่ยจิว นั่งอยู่ นับร้อยนัด แรกๆทำท่าว่าดวงของเสี่ยอิทธิพลกับลูกน้อง ยังไม่ถึงฆาต เพราะกระสุนปืนจาก อาวุธสงคราม ไม่สามารถพุ่งทะลุทะลวง กระจกกันกระสุนเข้าไปในรถได้
    ในวินาทีวิกฤติ ระหว่างความเป็นความตาย ที่ดำเนินไปด้วยความระทึกขวัญอย่างสุดขีดนั่นเอง คนขับรถของเสี่ยจิว จึงเปิดกระจกรถเบ๊นส์คันนั้นลง เพื่อยิงตอบโต้มือปืน
    นั่นอาจจะเป็นการตัดสินใจ ที่ผิดพลาดก็ได้ ในสถานการณ์ที่คับขัน เพราะเป็นการเปิดช่องทาง ให้คนร้ายที่เป็นมือปืนรถ กระบะ โยนระเบิดเข้าใส่รถ ตรงช่องกระจกที่เปิดออก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว อานุภาพของแรงระเบิด เป็นเหตุให้ตัวถังของรถ พังพินาศ
    โอกาสนั้นเอง ทีมมือปืนลึกลับ นักล่าสังหาร จึงยิงปืนกราดซ้ำเข้าไป อย่างหูดับตับไหม้ จนทำให้คนในรถ ตายทั้งคัน รวมทั้งเสี่ยจิวด้วย
    ร่ำลือกันแซดในยุคนั้นว่า การใช้มือปืนล่าสังหาร เจ้าพ่อตะวันออก “เสี่ยจิว” ผู้ทรงอิทธิพล และเป็นเจ้าของกิจการค้า ทั้งในกฎหมาย และนอกกฎหมาย เป็นการวางแผนเด็ดหัวเจ้าพ่อ ของกลุ่มคนมีสีในพื้นที่ ประเภท “สีเขียว” ซึ่งแม้เวลาจะผ่าน ไปนานแล้ว ก็ยังคงเป็นปมปริศนาที่มืดมนอยู่ จนกระทั่งปัจจุบัน
    เหตุจากขุมทรัพย์มรณะ
    แต่อย่างไรก็ตาม การตายของเสี่ยจิวกับสมุน ก็ต้องฟันธงลงไปว่า ต้องมีสาเหตุที่มา ด้วยหลักการที่ว่า ผลที่เกิดขึ้นย่อม มาจากเหตุ
    จึงได้มีการคาดการณ์ ในคดีโหดอำมหิตนี้ว่า เหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ ธุรกิจแร่พลวง มูลค่ามหาศาล ในพื้นที่ ตำบลบ่อทอง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ที่เสี่ยจิว เป็นพ่อค้ารายใหญ่ และรุกยึดสัมปทานไว้ในมือ มีเรือขนถ่ายส่วนตัว ขนส่งออกทางทะเลไปถึงสิงคโปร์
    การอยู่ในกองลาภอันมหาศาล บ่อแร่พลวง ของเสี่ยจิว ทำให้คนมีสีกลุ่มนั้น ต้องการที่จะมีเอี่ยวด้วย จึงมีการติดต่อ เรื่องผลประโยชน์ เหมือนจะเป็นการมุ่งลบลายเสือ เพื่อให้มีผลประโยชน์ร่วม
    กรณีการเหยียบถ้ำเสือ เพื่อลบลายเสือ โดยกลุ่มคนมีสี ต่อรองกับเสี่ยจิวในครั้งนั้น สร้างความไม่พอใจ สร้างความ เดือดแค้น ให้เสี่ยจิวเป็นอย่างมาก และประกาศความแข็งกร้าว ไม่สยบต่ออำนาจอิทธิพล ของคนมีสีในพื้นที่กลุ่มนั้น โดยไม่ยอมแบ่งผลประโยชน์ให้ ขณะที่คนมีสีกลุ่มนั้น ก็ไม่พอใจกับการแข็งข้อของเสี่ยจิว ถึงกับประกาศตนเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งเสี่ย จิวก็รู้อยู่แก่ใจว่า ตนอยู่ท่ามกลางภัยอันตราย จากกลุ่มมาเฟียคนมีสี และระมัดระวังตัวอย่างไม่ประมาท
    การจุดประกายความแค้น เพระไม่สมประโยชน์ของมาเฟียคนมีสี ใช้วิธีการลิดกิ่งไม้ที่แวดล้อมอยู่ ก่อนที่จะโค่นต้นไม้ใหญ่ให้พังครืนลงมา
    นั่นคือตามล่า เด็ดหัวสมุนเสี่ยจิว เป็นรายๆไป อันการตัดกำลังให้อ่อนลง แล้วนำไปสู่การโค่นล้ม ต้นไม้ใหญ่ คือการล้มเสี่ยจิว โดยการหยิบยื่นความตายให้ ทำให้สมุนที่มีอยู่ขาดร่มไม้ใบหนาปกป้อง แล้วขบวนการมาเฟีย ในสายของเสี่ยจิว ก็อ่อนแรงลง เมื่อขาดหัวขบวนคนสำคัญ ที่ตายเพราะฝีมือคนมีสี อย่างที่ร่ำลือกัน

    ผู้สืบทอดมรดกเจ้าพ่อ
    แม้จะหมดยุคของเสี่ยจิว แต่เนื่องด้วยขบวนการดังกล่าว มีการก่อตัว สยายปีกมานาน และมีสมุนแวดล้อมหลายระดับ เมื่อสิ้นเสี่ยจิว ก็ได้มีทายาทคนใหม่ สืบสานตำนานผู้มีอิทธิพล ผงาดขึ้นมาแทนที่ เป็นที่รู้จักกันในแวดวงยุทธจักรนักเลง เจ้าพ่อมาเฟียในเวลาต่อมา
    ในนาม กำนันเป๊าะ หรือ นายสมชาย คุณปลื้ม ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทน เพราะเป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของ เสี่ยจิว
    เขามีบุคลิกที่เป็นคนใจนักเลง ใจถึง กล้าได้กล้าเสีย พร้อมด้วยพระเดช พระคุณ การผงาดขึ้นมาในยุทธจักรเจ้าพ่อ ฝั่งทะเลตะวันออก จึงทอรัศมีเจิดจ้า มีสมุนและผู้คนทั่วไป ยำเกรง และสวามิภักดิ์ เป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมบารมีกำนันเป๊าะ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
    หลังการ “เก็บ” เสี่ยจิว กับลูกน้อง ๓ คน โดยกลุ่มมือปืนรถกระบะ เมื่อเช้าวันที่ ๒๕มิถุนายน ๒๕๒๔ แค่ ๘ ปีเท่านั้น
    เจ้าพ่อวงการนักเลง – มือปืนฝั่งทะเลตะวันออก ในนาม “กำนันเป๊าะ” นายสมชาย คุณปม ก็ผงาดขึ้นมา ในระดับแนวหน้า ท่ามกลางกลุ่มเสือสิงห์ กระทิงดุ ก๊กอื่น ที่ผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ในอาณาจักรเจ้าพ่อ
    วัฏจักรของการฆ่าคู่แข่ง
    ดาวดวงใหม่ กำนันเป๊าะ โดยสมชาย คุณปลื้ม ในฐานะของกำนัน ก็มีบารมีสูงส่ง เป็นที่เกรงขาม เป็นที่เคารพนบนอบ ของคนทั่วไปอยู่แล้ว เมื่อเขาสืบทอดบารมีจากเสี่ยจิว ยิ่งทำให้เพิ่มพูนบารมีและอิทธิพลกว้างขวางยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งอิทธิพล อำนาจบารมีของกำนันเป๊าะ เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา การพาตัวเข้าไปเกี่ยวข้อง ตัดสินในปัญหาต่าง ๆ จึงตกอยู่ในสภาพ ที่ เรียกว่า ต้นชี้ตายปลายชี้เป็น
    บนเส้นทางของเจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพล โดยมีแหล่งผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติ ให้บุคคลหลายหมู่เหล่าแสวงหา การผงาดขึ้นมาของกำนันเป๊าะ หรือนายสมชาย คุณปลื้มก็ย่อมจะมีคู่แข่งเป็นธรรมดา โดยอยู่คนละขั้ว ที่มีบทบาทท้าทายขั้วอำนาจเก่า คือกลุ่มของเสี่ยฮวด หรือ นายพิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร ที่พยายามประกาศตัวเป็นเอกเทศ ไม่สยบบารมีของกำนันเป๊าะ และยังเดินเกมส์ เหมือนคู่แข่ง ทางด้านธุรกิจ ทั้งในและนอกระบบ กลายเป็นไม้เบื่อ ไม้เมากับกำนันเป๊าะ ซึ่งต่อมามีสถานภาพเป็นนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
    ความปีนเกลียวกัน อันเนื่องมาจากเส้นทาง เจ้าพ่ออิทธิพล เขม็งเกลียวความขัดแย้งสูงขึ้น เป็นลำดับจนแบ่งเป็นค่าย ปรปักษ์ซึ่งกันและกัน
    ผลสุดท้าย ก็ลงเอยด้วยการแผ่รังสีอำมหิตเพื่อการทำลายล้าง ตัดเส้นทางที่เป็นขวากหนาม เป็นก้างขวางคอออกไป ทางออกในเรื่องดังกล่าว ก็ต้องตัดสินด้วยการฆ่า เผลอเมื่อไหร่ ก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างเมื่อนั้นแต่ละฝ่าย จึงต้องระวังตัวแล เพื่อไม่ให้เพลี่ยงพล้ำ เพราะหากเพลี่ยงพล้ำเมื่อไหร่ ก็หมายถึงการปิดฉากชีวิตลงด้วยความตาย
    ยุทธจักร เจ้าพ่อ นักเลงมือปืน ส่วนมากจึงมักจะลงเอยในลักษณะนั้น เช่นเดียวกับจุดจบ ของเสี่ยฮวด หรือนายพิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร ผู้วัดรอยเท้าของกลุ่มอิทธิพลอำนาจเก่า

    ถล่มกันด้วยอาวุธสงคราม
    ตอนสายของวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๓๒ ซึ่งเป็นวันไหว้รำลึกถึงบรรพบุรุษ ของชาวจีนเชื้อสายไทย ที่เรียกกันว่า “วันเช็งเม้ง” เสี่ยฮวดพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ได้เดินทางโดยรถยนต์ ไปบนเส้นทางถนนสายเศรษฐกิจ-บ้านบึง ถึงช่วง กม. ๔.๕ พื้นที่ตำบลบ้านสวนอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้หวาดระแวงหรือคาดคิดมาก่อนว่า จะเป็นการเดินทาง เข้าสู่เส้นทางที่มัจจุราช กวักมือเรียกรออยู่
    ทันใดนั้นเอง ก็ถูกกลุ่มมือปืน ยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนอาก้าและเอ็ม ๑๖ จนคนในรถตายหมู่ทั้งคันรถ
    ทางด้านพนักงานสอบสวน เพื่อคลายปมสังหารอย่างเหี้ยมโหดครั้งนี้ ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยาน ที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์
    สรุปผล ประเด็นการสังหารเบื้องต้น พบเหตุเสี่ยฮวดและลูกน้องถูกสังหาร เกิดจากปมประเด็น อันเป็นชนวนเหตุ หลายด้าน อาทิ ความขัดแย้งส่วนตัว การซื้อที่ดิน ในท้องที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อทำโครงการ “ศรีราชามหานคร” แหล่งศูนย์การค้าแหล่งใหญ่
    นอกจากนั้นยังมีปมประเด็น การขัดแย้งกับนายตำรวจ ในจังหวัดชลบุรี สมทบเข้าไปด้วย
    มหกรรมการฆ่า ตัดเส้นทางผู้มีอิทธิพลที่ผงาดขึ้นมาแทนที่อิทธิพลเก่าในครั้งนั้น เมื่อรวบรวมหลักฐานและพยาน บางส่วนได้แล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ๑๐ คน และมีการซัดทอดว่า นายปรีชา สถาวร หรือ เจ้าของสมญานาม“แดง สิงห์ป่าซุง” เป็นคนลงมือกราดกระสุนสังหาร
    แต่เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ หลังจาก “แดง สิงห์ป่าซุง” ถูกจับกุมและสอบปากคำแล้ว หลักฐานไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงกันไว้เป็นพยาน
    แผนการฆ่าตัดตอน
    แล้วในที่สุด เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นายปรีชา สถาวร หรือแดง สิงห์ป่าซุง ถูกยิงกราดด้วยอาวุธสงคราม ตาย เหมือนเป็นการฆ่าตัดตอนพยานเพื่อปิดคดี ส่วนผู้ต้องหานอกนั้น ศาลสั่งยกฟ้องเพราะพยานหลักฐาน มีไม่เพียงพอ ที่จะเอาผิดได้
    การตายปริศนา แบบลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนปมของเสี่ยฮวด และแดง สิงห์ป่าซุง แม้จะต่างกรรมต่างวาระ ก็มี ข้อสันนิษฐาน เช่นเดียวกับ เหตุการณ์ยิงถล่มเสี่ยจิว นั่นคือ เป็นฝีมือของ “คนมีสี” การขยายผลสู่การจับกุมผู้บงการ ใน แต่ละคดีจึงเจอทางตันอันเป็นการปิดคดีโดย ปริยาย
    คลื่นลมมหากาฬ มหกรรมการฆ่า ประเภทชีวิตแลกด้วยชีวิต เลือดล้างด้วยเลือด ณอาณาจักรชายทะเลฝั่งตะวันออก ทำท่าจะสงบลง แต่ก็ผิดคาด...
    ยุทธจักรของเจ้าพ่อ และมือปืน ต้องมีอันเดือดพล่าน เหนือขีดจำกัดต่อไปอีก หลังจากแต่ละฝ่าย หยุดการเคลื่อน ไหวชั่วคราว เป็นการพักยก เพราะต่างฝ่ายต่างสูญเสียไปมากแล้ว
    องศาเดือดฆ่ามือขวากำนันดัง
    องศาเดือดร้อนแรง อุบัติขึ้นอีกรอบ เมื่อมือขวาของกำนันเป๊าะ นายกำพล คุปตวานิชเจริญ หรือเสี่ยเก๊า ถูกมือปืน ยิงถล่มเสียชีวิต
    คดีล้างผลาญชีวิตกันครั้งนี้ ยังมีเบาะแส จากการสืบสวนสอบสวน เพื่อคลายปมฆ่าเสี่ยเก๊า สืบทราบมาว่า มีซัดทอด ถึงจอมบงการ ที่อยู่เบื้องหลัง
    ครั้นรู้ว่าภัยจะมาถึงตัว จึงได้ชิงมอบตัวต่อ พล.ต.ท.ธนู หอมหวน นายตำรวจมือปราบ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในสมัยนั้น และต่อมารูปคดีได้ขยายผลออกไปว่า นายประมวล นาสวนชัย เจ้าของสมญานาม “ไอ้ตาแดง” และ จสต.สมชาย อินสาหร่าย กับคนซึ่งชิงมอบตัว ร่วมกันลงมือสังหารเสี่ยเก๊า และระบุซัดทอดว่ามี จ.ส.ต.สมัย หรือเอก วงศ์ไชย เป็นผู้ติดต่อจ้างวาน
    นายสมบูรณ์ หรือเอี่ยม ม็อบ ที่ชิงมอบตัว เพื่อให้รอดพ้นจากการตามฆ่าปิดปาก ให้การอันเป็นประโยชน์ต่อรูป คดีว่า สาเหตุที่มีการจ้างวาน ให้เด็ดชีพเสี่ยเก๊า สมุนมือขวาของกำนันเป๊าะ เกิดจากความขัดแย้งในด้านผลประโยชน์ การซื้อที่ดินทำเลทอง ที่บริเวณหาดทรายทอง ตำบลนาจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ ๔ ไร่ ๑ งานซึ่งกำนันเป๊าะครอบครอง ต่อจาก นายสุรชัย สุขนิรันดร์ โดยมีนายตำรวจระดับ นายพล หมายตาจะจับจอง เพื่อเป็นเจ้าของเช่นกัน
    คือการลูบคมหักเหลี่ยมโหด
    การที่เสี่ยเก๊า มือขวาของกำนันเป๊าะ ถูกฆ่าทำให้เขาเสียใจมาก เพราะเหมือถูกตัดขาตัดแขน ผู้รักษาผลประโยชน์ ที่กำนันเป๊าะมอบหมายให้ดูแล เช่น กิจการเอเย่นต์สุราต่างประเทศ หัวคะแนนในพื้นที่ และกิจการด้านอื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน
    จากการล่าสังหารเสี่ยเก๊า เหมือนเป็นการหักเหลี่ยมลูบคมกำนันเป๊าะ เจ้าพ่อฝั่งทะเลตะวันออก จึงเกิดข่าวลือแพร่ สะพัดว่า เมื่อลิดกิ่งได้แล้ว ที่จะหักโค่นลำต้นต่อไปให้ล้มครืนลง เหยื่อรายต่อไป คือการเด็ดหัวกำนันเป๊าะ เพื่อเป็นการฆ่าล้างบาง ปิดฉากการเป็นจอมอิทธิพลของเขา
    แต่สิงห์เจ้าถ้ำ จอมลายครามอย่างกำนันเป๊าะ ผู้ยืนผงาดอย่างสิงห์ลำพอง มีหรือจะยอมสิ้นลาย ให้มันผู้ใดมาหักเหลี่ยม เฉือนคมได้โดยง่าย
    กระแสข่าวที่แพร่ออกมานั้น แว่วเข้าหูของเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะความกว้างขวาง ในวงการนักเลง ตลอดจน ข้าราชการ ที่เป็นหูเป็นตาราวกับตาสับปะรด

    อ่านตำนานเจ้าพ่อตะวันออก(ต่อ)



    ที่มา พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist
     
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    คัดลอกมาให้อ่าน
    มาเฟีย อิทธิพล มือปืน นักเลง, เปิดเส้นทาง"หนี" เจ้าพ่อ-นักการเมือง
    .................................

    ย้อนอดีตเมื่อครั้ง "เสี่ยจิว" นายจุมพล สุขภารังสี ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออกยังเรืองอำนาจ สร้างบารมีขึ้นมาจนชาวชลบุรียกให้เป็น "เจ้าพ่อหมายเลข 1" จากเด็กถือกระเป๋าให้นายธรรมนุญ เทียนเงิน อดีตนักเลงเก้ายอด สส.กรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ

    "เสี่ยจิว" ผงาดยิ่งใหญ่ เมื่อนายเกียง จึงประเสริฐ หรือ "หลงจู๊เกียง" เจ้าพ่อเมืองชลบุรีผุ้มีความสนิทสนมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร ในสมัยนั้นเสียชีวิตลง และสร้างฐานะด้วยการทำธุรกิจทั้งถูกและผิดกฏหมายจนร่ำรวย เดินทางไปไหนมาไหนมีสมุนบริวารติดตามคุ้มกันนับ 10 คน

    ที่ใดมีผลประโยชน์ เสี่ยจิว" มักจะเสนอตัวเข้ามามีเอี่ยวหรือกุมผลประโยชน์ด้วยเสมอ แต่ถ้าหากเกิดความขัดแย้งขึ้น เหตุการณ์นองเลือดก็จะตามมาเสมอ

    "เหมืองแร่พลวง" ที่บ่อทองสมัยนั้นยังขึ้นอยู่กับ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 2503-2504 ขณะที่นายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ สส.ชลบุรียุคนั้น เข้าไปทำไม้บริเวณดังกล่าว และพบแหล่งแร่พลวงมูลค่ามหาศาล

    เมื่อข่าวแพร่ออกไป ประชาชนแห่มาขุดแร่กันเป็นจำนวนมาก จนมีบริษัทเอกชน เข้ามาขอรับทำสัมปทานจากกรมทรัพยากรธรณีถึง 28 บริษัท แต่ชาวบ้านไม่ยอมและรวมตัวกันก่อตั้ง บริษัทสหบ่อทองพัฒนาขึ้น เพื่อรับซื้อแร่จากชาวบ้านและนำออกจำหน่าย โดยมีคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ถูกตั้งขึ้นมาควบคุมดูแลกิจการ

    ต่อมาคณะกรรมการบริษัท เกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกนำโดย นายสุชาติ สุขพันธ์ถาวร หรือ "ผู้ใหญ่ย้ง" อีกกลุ่มหนึ่ง นำโดย นายเฉลิมชัย เจริญสุข หรือ "ผู้ใหญ่เอี๊ยก"

    เมื่อความขัดแย้งรุนแรงเข้มข้น "เสี่ยจิว" ที่จ้องรอโอกาส สอดตัวเข้ามาหาผลประโยชน์จากแหล่งแร่ทันที โดยร่วมมือตักตวงจากแร่พลวงมหาศาล ซึ่งร่วมมือกับผู้ใหญ่ย้ง

    ความแตกหักก็มาถึง เมื่อนายเชาว์ บุญรอด กรรมการบริษัทสหบ่อทองพัฒนา น้องเมียผู้ใหญ่เอี๊ยก ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบริษัท ตามมาด้วยการสังหารโหด นายประสิทธิ์ กาญจนบัตร กรรมการบริษัทคนสนิทผู้ใหญ่เอี๊ยกอีกราย

    "ผู้ใหญ่ย้ง" ถูกมือปืนบุกยิงได้รับบาดเจ็บในอีกไม่กี่วันต่อมา และเชื่อว่าเป็นปมขัดแย้งในการแย่งรับซื้อแร่ ประจวบกับช่วงนัน "ผู้ใหญ่เอี๊ยก" กับ "ผู้ใหญ่ย้ง" ปีนเกลียวทับเงาซึ่งกันและกัน ในเรื่องจะลงสมัครรับเลือกตั้งกำนันตำบลบ่อทอง

    จากนั้น "ผู้ใหญ่เอี๊ยก" ถูกกราดยิงด้วยเอ็ม-16 จนกลายเป็นอัมพาต หนึ่งในมือปืนที่ลอบสังหารคือนายวินัย สุขแสวง มือปืนประจำตัวนายปาน สุขภารังสี ลูกชายคนเล็กของ "เสี่ยจิว"

    ชื่อของ ไส่ยจิว" จึงเข้ามาเกี่ยวพันกับความขัดแย้ง ในฐานะ "คนบงการ"

    ธุรกิจการขนถ่ายแร่พลวงไปต่างประเทศของ "เสี่ยจิว" รุ่งโรจน์ ทำกำไรอย่างงาม เพราะมีเรื่องส่วนตัวนำไปขายยังประเทศสิงคโปร์ "คนมีสี" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเสี่ยจิว และผู้ใหญ่ย้งเห็นผลประโยชน์มหาศาลจึงเกิดความไม่พอใจ จึงขอเข้ามามีเอี่ยว แต่เสี่ยจิวปฏิเสธ กลิ่นอายมหากาฬจึงเริ่มคุกรุ่นรุนแรงขึ้น

    "เสี่ยจิว" เริ่มรู้ถึงชะตากรรมของตนเองว่าจะถูกเก็บในไม่ช้า เริ่มสะสมมือปืนแ ละระวังตัวมากขึ้น !
    แต่เมื่อ "เสี่ยจิว" ถูกลบไปจากบัญชีเจ้าพ่อ ชื่อของ "นายสมชาย คุณปลื้ม" หรือ "กำนันเป๊าะ" ก็ฉายประกายโดดเด่น จนถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อภาคตะวันออกคนใหม่ พร้อมผลักดัน นายสุชาติ สุขพันธ์ถาวร ก้าวชึ้นสู่ตำแหน่ง "กำนันตำบลบ่อทอง" อย่างเต็มตัว เพื่อควบคุมพื้นที่บ่อทอง ทำธุรกิจเหมืองแร่พลวง จนเรื่องราวเงียบสงบลงชั่วคราว

    เหตุการณ์นองเลือดยังไม่หยุด เมื่อนาย "พิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร" หรือ "เสี่ยฮวด" คนดังบ้านบึง พยายามก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในดินแดนตะวันออก ถูกคนร้ายถล่มด้วยอาก้าและเอ็ม-16 ร่างพรุนตายบนถนนสายเศรษฐกิจ บ้านบึง-ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2532

    สืบสาวราวเรื่องปรากกว่า "นายปรีชา สถาวร" หรือ "แดง สิงห์ป่าซุง" เป็นผู้ลงมือสังหารโหด แต่ด้วยพยานหลักฐานอ่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ประกันตัวออกไป

    ทำให้ "แดง สิงห์ป่าซุง" ต้องกลายเป็นศพ เมื่อ 1 พฤษภาคม 2533 !!!



    เช้าตรุ่วันที่ 25 มิถุนายน 2524 "เสี่ยจิว" เจ้าพ่อตะวันออก ก็เหลือเพียงชื่อและตำนาน ! ​
    ..............................

    เรื่องที่คัดลอกมานี้ผมยังไม่ทราบว่าท่านใดเรียบเรียง แต่ขอให้จำรายนามเหล่านี้ไว้
    ผมสัมภาษณ์พี่นิ่มไว้แล้ว จะทยอยเรียบเรียง แล้วจะเอ่ยอ้างนามเป็นรายบุคคล
    เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับเครื่องลางของขลังและไสย์ศาสตร์ ที่พี่นิ่มพบเห็นและเคยสนทนากับบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้คัดลอกได้ แต่ขอเครดิตให้พี่นิ่มป่าแดงแกหน่อย
     
  6. 5000

    5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,491
    ค่าพลัง:
    +7,121
    กริช 37
    [​IMG]

    ปู่แดงย่าขาว
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมเพิ่งจะมารู้ตัวว่า อยู่กลางดง มือปืนและอดีตเครือญาติเจ้าพ่อตะวันออก ก็เมื่อคืนนี้เอง ถ้าไม่ติดว่ามากับเมีย คงได้อยู่กันเพลินไม่กลับบ้าน... เกรงใจเมีย!

    ผมไปถึงบ้านพี่นิ่มก็เย็นมากแล้ว ทิดนำพอรู้ว่าผมมาถึง ก็รีบขับรถมาหาผมถึงบ้านพี่นิ่ม

    พอพี่นิ่มหยิบของดีมาให้ดู เลยเล่าประวัติความเป็นมา ผมถึงรู้ว่า ทิดนำก็มีคุณพ่อเป็นเสือเหมือนกัน นามว่า "เสือบุญ"

    "เสือบุญ" เคยบุกไปยิงเจ้าของตะกรุด(ลูกปรอทสะกด)ถึงบ้าน แต่ยิงกี่นัดๆก็ยิงไม่ออก เจ้าของตะกรุดก็นั่งให้ยิงบนบ้าน สุดท้ายต้องกราบเท้าขอขมากัน

    "เสือบุญ มีดีที่หนัง กับพระอุปคุต แต่สุดท้ายร้อนเงิน เอาอุปคุตมาให้พี่ฯ แล้วไปโดนยิงเจาะขมับภายหลังไม่นาน ตอนนั้นนั่งคุยกันอยู่กับเสือรอด" พี่นิ่มเล่าด้วยว่าใครยิง ใครตายแล้วใครรอด

    ตอนนี้ดูรูปไปก่อน เป็นรูปที่ผมถ่ายในงานยกช่อฟ้า ตอนนั้นผมอ้วนตอนนี้ดูดีขึ้นแล้ว (เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะกินมากจนตอนนี้หุ่นเริ่มพอจะดูได้ขึนมาบ้าง)

    คนซ้ายเสือนำลูกเสือบุญ คนขวาเสือทิพย์ผัวช่างตัดผม(คนนี้ไม่ต้องสนใจ)

    ......................

    จะทยอยเล่าไล่ไปทีละรายนาม เกริ่นเรียกน้ำย่อยไปก่อน แล้วคืนนี้จะกลับมาเล่าภายหลัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2013
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    (วิวัฒน์ชัย จึงประเสริฐ) ผู้ใหญ่บ้านป่าแดง หมู่ที่ 6
    [​IMG]

    ผู้ใหญ่อั๋น สมัยก่อนเช่าพระฯทีเป็นแสนเป็นล้าน พอมาเจอพี่นิ่มแกก็เปลี่ยนไป
    เริ่มจากพอรู้ว่าพี่นิ่มทำหนุมาน แกก็เช่าบำรุงวัดพอเป็นพิธีรักษาน้ำใจไว้4-5ตัว

    หลังจากนั้นก็มีข่าวยิงหนุมานแว่วเข้าหูเป็นระยะๆ จนสุดท้ายคนใกล้ตัวมาเล่าให้ฟังว่ายิงกับมือถึงเชื่อ

    ผู้ใหญ่ิอั๋นไปบ้านพี่นิ่ม ถามว่าพระเครื่องยุคนี้สามารถเสกให้ดีได้เหมือนสมัยรุ่นพ่อจะได้จริงหรือ?

    พี่นิ่มบอกเดี๋ยวทำให้ดู "เอาปืนมาหรือเปล่า"
    ผู้ใหญ่ฯหยิบ.38 แทนคำตอบ

    พี่นิ่มเดินเข้าบ้านเอามวลสารที่ยังไม่ได้ทำเป็นพระฯออกมาปั้นต่อหน้าผู้ใหญ่อั๋น แล้วถามว่าจะเอาแบบไหน
    "ยิงไม่ออก" คำตอบ

    พี่นิ่มเอาลูกอมที่ปั้นจากมวลสารมาภาวนา แล้วยื่นให้ผู้ใหญ่อั๋นทดสอบ
    ยิงไปนัดแรกไม่ลั่นแกก็งง แต่งงนานไม่ได้ เสียผู้ใหญ่บ้านหมด รีบยิงนัดที่สอง-สาม ไม่ลั่น แกร้องฮื้อออ
    หันปืนไปทางอื่นแล้วยิง ยิงดังดีปรกติ

    พี่นิ่มหัวเราะ แล้วถาม "จะเอาแบบยิงไม่ถูกไหม"
    พี่นิ่มหยิบมาปั้นภาวนาแล้วยื่นให้ใหม่

    ครั้งนี้ผู้ใหญ่อั๋นขอชัวร์ จ่อยิงระยะมาโคร ถึงไม่ถูกผิวขนก็ไหม้
    ยิงนัดแรกดัง ปืนปัด ไม่ถูก ออกข้างซ้าย
    ยิงนัดสองดัง ปืนปัด ไม่ถูก ออกข้างขวา
    ยิงนัดสาม-สี่ ปืนปัดสบัดตลอด ออกซ้ายทีขวาที เขวี้ยงปืนทิ้ง! โมโห

    พี่นิ่มหัวเราะร่วน...
    แกแค้น ไปหยิบขวดลิโพเปล่ามา4ขวด วางระยะ 6 เมตร แล้วยิง
    4 นัด 4 ขวดไม่พลาด

    จากวันนั้นถึงวันนี้ แกเลิกเช่าพระฯไปแล้ว
     
  9. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    พี่นิ่มมีโอกาสเข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเงิน-พระเครื่องที่จัดสร้างโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย แด่องค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    "เอ...หนุ่มทิพย์ รูปถ่ายตอนทูลเกล้าถวายฯ เค้าไม่ได้ถ่ายให้เห็นหน้าพี่ฯจะเป็นไรไหม"

    "น้องๆในเวปฯ เห็นหูพี่ข้างเดียวก็จำได้แล้ว ไม่ต้องกังวล"

    ....................................

    ผมเดินเข้าบ้านพี่นิ่ม เห็นปลอกกระสุนปืนที่กระถางต้นไม้ ก็พอจะนึกออก
    ถามพี่นิ่มว่า ลองอีกแล้วหรือ?
    [​IMG]

    พี่นิ่มหยิบถุงปลอกกระสุนปืนให้ผมดู ว่าที่ผ่านมา ก่อนจะเอาของที่ทำถวายวัดฯ ได้ทดสอบมาก่อนแล้ว ประมาณเนี้ยะ
    [​IMG]

    เห็นแล้วก็อย่าเอาอย่าง....

    ตอนพี่นิ่มเล่าเรื่องเสือบุญ พ่อทิดนำให้ผมฟัง แกยังอยากให้ผมอยู่รอดูพระอุปคุตของเสือบุญ แต่ผมต้องรีบกลับ เดี๋ยวเมียดุ
    แกเลยบอกว่า ของดีจริง ถ้าไม่แขวนคอไก่ก็ให้เอาใส่ปากปลา ถึงจะเห็น
    แต่ผมว่า ถ้าไม่ได้กินไก่ก็ได้กินปลา ไม่สนับสนุน

    ของบางอย่าง เอามายิงแล้วยิงออกไม่แปลก แต่ของชิ้นเดียวกัน ถ้าเอาไปแขวนสิ่งมีชีวิตแล้วจะได้ผลอีกอย่าง เป็นคุ้มครองสิ่งมีชีวิตเท่านั้น จึงไม่แนะนำผู้ที่จะทดสอบด้วยวิธีเอาไปยิงให้เสียของ
    และไม่สนับสนุนให้เอาไปแขวนคอใครแล้วยิงให้เป็นบาป สู้เราดูคนอื่นเค้าทดสอบนะ! ดีแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ทุนทรัพย์ของเพื่อนสมาชิก นอกเหนือจากถวายเป็นพระราชกุศลแล้ว พี่นิ่มยังเป็นตัวแทนถวายให้เป็นกุศลกับทางวัดป่าแดง
    ขอโมทนาโดยทั่วกัน

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    ได้ยินจากทิดนำ ว่าพระสมเด็จฯทางวัดป่าแดงปรับราคาเป็น 1,200 บาท
    ผมยังไม่ได้รับข้อมูลเป็นทางการ จึงยังคงราคาเดิม(1,000บาท)ไม่ให้ถือเป็นการตัดราคาวัดฯ จนกว่าจะได้ข้อมูลอย่างเป็นทางการครับ
     
  13. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่องเล่า : คาถาอย่าสงสัย

    ตอน : เรื่องของหลวงตาหมง

    ผมขี่ม้าเรียบค่ายเอาไว้หลายตอน จะทิ้งไว้นานก็กลัวม้าจะกระโดดข้ามกำแพงออกไปเหมือนกับม้าของ"ดอกเดื่อ"ตอนขี่ม้าเรียบเมืองกับสมเด็จพระ

    นารายณ์ ตามที่เคยดูลิเกมา ผมเคยเกริ่นไว้ในข้อเขียนตอนแรกๆเช่น คาถาอย่าสงสัย ซึ่งผมได้มาจากข้อเขียนของฆราวาสท่านหนึ่งเป็นชาวไต้ ผู้มี

    ความรู้ทางด้านนี้ ท่านเขียนไว้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการตามรอยนกเขาชวาของท่าน ที่ท่านเคยได้ยินมันขัน และท่านกำลังตามดูขี้ของมันเวลาที่มันนอน

    ในตอนกลางคืนฯลฯ ในตอนหนึ่งท่านเขียนไว้ในทำนองว่า"คนที่เก่งทางด้านคาถาอาคมที่ท่านเคยเห็นมา ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เชื่อคนง่าย เชื่ออะไรก็

    ง่ายๆ ไม่มีข้อสงสัย อาจารย์หรือใครบอกอะไรมาก็ใช้ตามที่ได้มา อย่างไม่มีความข้องใจในคาถานั้นๆ" หรือตอน"หลวงพ่อกร่ายตอบคำถามตาผูก"

    หรือความเข้มขลังในการใช้คาถา สะเดาะกุญแจ หรือคาถาเป่าควายที่เป็นปราบ ลุงแหร่มอ่านหนังสือไม่ออก ท่อง อิติปิโส เป็นอิติปิโฉ เป่ากี่ทีๆ

    กุญแจก็ลั่นดังเชะ เป่าควายเป็นปราบ เป่าเมื่อไหร่"ก็ขี้พุ่งไกลไปเป็นวาทุกที" ส่วนปู่เก่งขนาด เรียนหนังสือขอมลงตัวตั้งแต่เป็นเณร เรียนบาลีมาจาก

    หลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นพระมหาเปรียญจากวัดสุทัศน์ เป็นพระพี่ชายของ"พระราชประสิทธิคุณ(ทิม ยสทินโน) หรือพระโบราณวัตถาจารย์" ปู่เป่ายังไง

    ก็ไม่ได้ผล ปู่มักจะเล่าให้คนฟังว่า เป่าจนแก้มโป่งเจ็บกระพุ้งแก้มไปหมดก็ไม่ได้ผล หรืออดีตเจ้าคณะอำเภอวิเศษฯ พระครูวิเศษสมณกิจ ลักจำ

    คาถาของตาผูก คือคาถา"อมระรวยมหาระรวย......."ไปเสกน้ำพรมของขาย ก็ทำให้คนขาย ขายของดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ท่านก็ไม่ชอบคาถาทลึ่ง

    แต่ท่านไม่สงสัยท่านจึงใช้ หรือเอาเรื่องแบบที่คนโบราณ ชอบยกตัวอย่างเพื่อสอนลูกหลานให้เคารพคุณพระคุณเจ้า ให้เชื่อคุณพระคุณเจ้า คือเรื่อง

    ที่เล่ากันว่ามีโจรเข้าปล้นบ้าน เจ้าของบ้านโดดลงจากบ้านเพื่อหาที่หลบกำบังจะต่อสู้กับโจร ทำให้พระที่พกอยู่ตกลงพื้น เจ้าตัวตะครุบเอาลูกกบหรือ

    ลูกเขียดหรือลูกคางคก(ตามแต่คนเล่า)แล้วใส่เข้าไปอมไว้ในปาก พอตั้งหลักได้ก็ยิงสู้กับโจร รู้สึกว่าที่คิดว่าเป็นพระอยู่ในปากเกิดดิ้นได้ ก็ยิ่งได้ใจ

    นึกว่าพระที่อมไว้สำแดงฤทธิ์ สู้จนโจรเผ่นหนีกระเจิง...ฯ นี่ก็เป็นตัวอย่างของการไม่สงสัยประกอบกับความเชื่อมั่น...ก็ทำให้ขลังได้ฯ...............

    มาทำความรู้จักหลวงตาหมงกันดีกว่า ผมรู้จักหลวงตาหมงมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ รู้จักแบบเด็กๆ คือรู้ว่าหลวงตาหมงเป็นพระจีน เป็นคนจีนมา

    จากประเทศจีน คนจีนบวชแล้วจะไม่สึก หลวงตาหมงพูดไม่ชัดคือพูดเหมือนคนจีนพูดไทยทั่วๆไป หลวงตาหมงจำพรรษาอยู่วัดไทรยืดฯ หรือชื่อเต็ม

    ว่าวัดไทรยืดนิโครธาราม จะพบหลวงตาหมงได้บ่อยๆที่ตลาดคลองขนาก ในเวลาบ่ายๆ เพราะท่านจะมาเหมาปลาทูนึ่งเอาไปคลุกข้าวเลี้ยงแมวที่วัด

    เป็นประจำ ท่านมีญาติใกล้ชิดที่ผมสนิทสนมอยู่คนหนึ่งอยู่ตลาดคลองขนาก ผมเรียกญาติแกเหมือนคนอื่นๆ คือยาย หรือยายเทียบ เป็นเจ้าของร้าน

    ขายยาสมุนไพรทั้งไทยและจีน ยายเทียบจะบ่นกับหลวงตาหมงเสมอๆ เวลาหลวงตาหมงมาซื้อปลาทู แต่พูดกันเป็นภาษาจีน พอหลวงตาหมงไปแล้ว

    ยายเทียบก็จะหันมาบอกว่า บอกก็ไม่ฟังหาได้เท่าไร คนเขาถวายมาเท่าไร ก็เอาไปเลี้ยงแมวเลี้ยงหมาหมด หลวงตาหมงฟังเฉยๆ แล้วก็จากไป

    และที่เห็นเป็นประจำอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านเดินลัดทุ่งแบบไปองค์เดียว ก็รู้กันว่าไปรักษาคนป่วยฯ

    มาทำความรู้จักวัดไทรยืดกันสักนิด วัดไทรยืดตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน้อย เหนือตลาดคลองขนากขึ้นไป และอยู่ไต้วัดน้ำพุลงมา วัดไทรยืดอยู่

    ตรงคุ้งน้ำพอดี จึงทำให้โบสถ์ซึ่งหันหน้าไปทางตะวันออกดูไปก็คล้ายๆกับเกือบจะหันด้านข้างขวาของโบสถ์ให้กับแม่น้ำ ลักษณะแผนผังวัดก็คือ กุฏิ,

    ศาลาหอฉันท์,โรงเรียนปริยัติธรรม อยู่ด้านไต้ เหนือขึ้นไปเป็นศาลาใหญ่ที่ใช้ในงานบุญ เหนือศาลาใหญ่ขึ้นไปเป็นโบสถ์ ด้านข้างของโบสถ์ด้านซ้าย

    เป็นวิหารเก่า ถัดจากวิหารเก่าออกไปมีต้นมะขามใหญ่ขนาดประมาณ ๒ คนโอบหรือกว่านั้นอยู่ ๒ ต้น ถัดจากต้นมะขามจะเป็นเชิงตะกอนสำหรับเผา

    ศพ(ปัจจุบันเป็นเมรุแบบสมัยใหม่แล้ว)ใกล้ๆ กับเชิงตะกอน ก็เป็นป่าช้า ป่าช้ายุคนั้นปลูกแบบเป็นเรือนยกพื้นสูง เวลาเอาศพที่ยังไม่เผาเข้าไปเก็บ

    ก็จะเอาโรงศพวางเรียงกัน หรือถ้ามีมากก็อาจจะวางซ้อนกัน ประตูต้องทำแข็งแรง ถ้าไม่อย่างนั้นพวกตัวเงินตัวทองจะเข้าไปแล้วงัดโรงศพเอาศพ

    ออกมากินได้ ตัวป่าช้าอยู่ในที่ลุ่มเกือบสุดเขตวัดน่าจะเป็นสระเก่า เพราะเวลาน่าน้ำตอนกลางวันผมและเพื่อนๆ นักเรียน ชอบไปดูปลาไหลมันลอยหัว

    ดูดน้ำเหลืองที่หยดจากป่าช้าลงไป ?! ป่าช้านี้ได้เปลี่ยนเป็นป่าช้าที่ทันสมัย เพราะเตี่ยของเพื่อนผมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสร้าง ทั้งที่ท่านนับถือ

    ศาสนาคริสต์ และเพื่อนผมคนนี้แหละที่ทำให้ผมพยายามรู้จักหลวงตาหมงมากขึ้น เจ้าอาวาสวัดในยุคนั้นคือ ท่านเจ้าคุณมหาทวีฯ ปธ.๙ นับว่าหา

    ยากสำหรับวัดบ้านนอกและท่านได้ ปธ.๙ ตั้งแต่อายุประมาณ ๓๐ ปี หรือ ๒๘ ปีนี่แหละ ผมจำได้ไม่แน่นอน เป็นพระที่ระเบียบจัด พระถ้าไม่ครอง

    ผ้าฯให้เรียบร้อยจะไม่มีเดินให้ชาวบ้านได้เห็นเด็ดขาด แม้จะเป็นอาณาบริเวณวัดก็ตาม ยกเว้นตอนทำงาน ทุกที่ ที่มีพื้นเป็นไม้จะต้องเป็นเงางาม จะ

    ไม่พบรอยเท้าทั้งของพระและฆราวาสตามพื้นศาลาหรือหน้ากุฏิพระ จะมีก็แต่หลวงตาหมงองค์เดียวที่นุ่งสบงกับอังสะ เดินไปมาในวัดได้ เพราะท่าน

    ชอบทำงานทั้งวัน และวัดมีต้นไม้สวยงามได้ก็เพราะหลวงตาหมงเป็นหลักในการปลูกและดูแล จึงมีคนทั่วๆไปพูดว่า วัดนี้มีหลวงตาหมงองค์เดียวที่รุม

    ร่ามแล้วหลวงพ่อไม่ว่า...หลวงตาหมงขลังได้อย่างไร ทั้งๆที่พูดไทยไม่ชัด...คงต้องเอาไว้ตอนหน้า ขอขอบคุณ...สวัสดีครับ

    ผมขอแถมคาถาเสกพลูที่ใช้กินกับหมาก ผมได้มาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ในสมัยก่อนยุคที่เรือกลไฟ ยังใช้ฟืนใช้ไฟต้มน้ำทำไอน้ำ เขาเรียกตำแหน่ง

    หัวหน้านี้ว่า "อินทะเนีย"ก็เอามาจาก ENGINEER นั่นแหละ ในวงการคาถาอาคมรู้กันดีว่า "พวกอินทะเนีย" เก่งเรื่องคาถานักเลง พลูปกติมีรสเผ็ด

    ถ้าคุณนิ่ง คุณมั่นใจ สมาธิดี ใช้คาถานี้เสกแล้วเป่า ๓ คาบ พลูจะมีรสหวาน ถ้าคุณทำได้เสกแล้วเอาใส่กระเป๋าเสื้อได้เลย คาถาสั้นๆ ว่าดังนี้

    ครับ"เถาะล้อ ๆ ๆ" แค่นี้ครับ ผมทำได้เป็นบางครั้ง คาถาอย่าสงสัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2013
  14. คนวิเศษ

    คนวิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2010
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +1,861
    อ่านแล้วนึกภาพตาม บางอย่างก็นึกไม่ออกคงเพราะผมมาทีหลัง
    ขอยืนยันพระอาจาร์ยมหาทวีดุจริง ๆ ตอนเป็นเณรผมอยู่วัดไทรยืด 2 ปี
    ต้องตื่นตี 4 ครึ่ง มากวาดถูศาลาวัด สวดมนต์ และฟังท่านอบรมทุกวัน
    แต่ท่านจะมีของที่ญาติโยมถวายมาแจกเณรอยู่เสมอ
     
  15. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    มายืนยันต์คาถาเสกใบพลูของคุณพ่อประดู่ เพราะผมก็ได้คาถานี้ไว้เหมือนกัน แต่ได้จากช่างสร้างโบสถ์วัดข้างบ้าน แต่เพิ่มตรงที่ระหว่างว่าคาถาให้เขียนยันต์ลงบนใบพลูด้วย

    สมัยนั้นยังรุ่นกระทง เวลาจะไปเที่ยวจีบสาวบ้านอื่น หรือนั่งคุยสาวหน้าจอหนังกลางแปลง เพื่อนมันจะเอาใบพลูมาคนละใบให้ผมเป่าด้วยคาถานี้แล้วพกใส่กระเป๋าไว้ สาเหตุเพราะมันเคยเห็นผมเสกใบพลูกินแล้วลองเชือดแขนเล่น

    ตอนนั้นใช้คาถาอะไรก็ขลัง ทุกวันนี้ไม่แน่ใจ เพราะขี้สงสัยอย่างว่า.....
     
  16. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมยังค้างรายนามไว้อีก 5 รูป ขอแปะไว้ก่อนนะครับ จะเติมให้ครบโดยเร็วที่สุด
     
  17. lively

    lively เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +755
    แจ้งโอนค่าหุ่นพยนต์-ควายธนู 3 คู่ครับ 2/5/2556. 21.46น. 1800บาท

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2013
  18. gim

    gim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,398
    สวัสดีครับหนุ่มทิพย์
    ผมขอจองกริช 1 เล่มครับ
    (ถ้ามีควายธนู กับหุ่นพยนต์เหลือขอจองด้วยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2013
  19. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    โอนค่าหุ่นฯกับควายฯแล้ว ส่งที่อยู่ทางพีเอ็มนะครับ

    .............................................

    ผมทวงลูกอมตัว"นะ" กับพี่นิ่ม
    แกขอว่า "อีกหน่อย"
    ผมถามจะตั้งราคาเท่าไหร่ แกบอกราคาแล้วผมไม่ชอบใจ แต่ไม่ทักท้วง
    ตกดึกห้าทุ่มกว่า แกโทรฯมาใหม่ บอกพี่จู๋ตั้งราคาไว้ 299 บาท ผมว่าเหมาะแล้ว

    พี่นิ่มบอกคนที่มีลูกอมตัว"นะ" ว่ามีข้อห้ามอยู่
    ห้ามปัสสาวะรดดิน (รดแม่พระธรณี)

    ภาวนาคาถา "นะ หิ โร โห นิ" ปัสสาวะรดต่อ ต่อก็ยิงไม่ออก

    ไว้ปลายเดือน จะทวงให้อีกทีสำหรับคนชอบอม
     
  20. 5000

    5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,491
    ค่าพลัง:
    +7,121
    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...