เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอชื่นชมคุณเฉลยจริง ๆ เลยค่ะ คุณเฉลยเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตในร่างกายเนื้อหนัง เนื่องจากเป็นบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ทางโลกได้อย่างดี ชีวิตครอบครัวและหน้าที่การงานก็ประสพความสำเร็จ และยังขยันและตั้งใจศึกษาหาความรู้ทางจิตวิญญาณควบคู่ไปได้อย่างเหมาะสม เมื่อสิ่งไหนที่ได้เรียนรู้แล้วก็ยังมีเมตตานำความรู้ที่ได้ศึกษาแล้ว มาแบ่งปันให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ด้วย น่ารักจัง

    และขอเชิญชวนคุณเฉลยไปร่วมฟังบรรยาย อ.ปริญญา วันอาทิตย์ ที่ 4 พ.ย. 50 นี้ ที่โรงแรมมิโด ห้องทิพย์พิมาน เวลา 13.00 น. - 18.00 น. ( จะชวนจนกว่าเราจะได้เจอกันค่ะ.. อิอิ )
    (bb-flower
     
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขออนุญาติตอบคำถามของตัวเองค่ะ พอดีวันก่อนอ่านหนังสือธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 12 บทละครของชาติภพแล้วปิ๊งเลยค่ะ..

    หน้า 184-185 เมื่อเธอนึกถึงชาติภพของเธอเข้าใจว่า มันเป็นพัฒนาการที่มีความต่อเนื่องกันไปเป็นเส้นตรง ธรรมชาติที่แท้จริงของชาติภพถือกำเนิดจากศูนย์กลางภายในของตัวตนทั้งหมดของเธอ ชาติภพไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังใด ๆ ที่อยู่ภายนอก ชาติภพเกิดจากการแปลงสภาวะของอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของจิตวิญญาณรวม - เป็นวัตถุธาติ - ประสบการณ์ชีวิตและร่างกายของเธอ ซึ่งเกิดจากการพัฒนาของจิตวิญญาณ จิตวิญญาณจะพัฒนาไปได้ก็ต่อเมื่อเธอเปิดสติสัมปชัญญะของเธอให้แสดงออกซึ่งความรู้ความสามารถให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การแสดงออกนี้ไม่ได้จำกัด อยู่เพียงแค่ชีวิตในโลกสามมิติเพียงหนึ่งชาติ และก็ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงแค่ในโลกสามมิติเพียงโลกเดียวเท่านั้น

    จิตวิญญาณของเธอสามารถแปลงสภาพอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดเป็นรูปกายได้หลากหลายรูปพรรณสัณฐานและรูปพรรณสัณฐานเหล่านี้ไม่จำเป็นจะต้องคล้ายคลึงกันเลย เช่นเดียวกันกับที่หนอนผีเสื้อมีรูปพรรณสัณฐานแตกต่างไปจากผีเสื้อโดยสิ้นเชิง จิตวิญญาณรวมมีอิสรภาพสูงสุดที่จะแสดงออกได้ในทุกรูปแบบโดยปราศจากขีดจำกัด

    จิตวิญญาณรวมสามารถเปลี่ยนรูปพรรณสัณฐานไป เพื่อให้เหมาะสมกับการแสดงออกในแต่ละชาติภพ จิตวิญญาณรวมสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการแสดงออกในแต่ละชาติภพ เสมือนนักแสดงซึ่งสร้างฉากละครหรือสร้างโลกของเขาขึ้นมาเอง เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทที่เขาต้องการและสอดคล้องกับเป้าหมายของเขา เพื่อทำให้เขาบรรลุเป้าหมายของการพัฒนา

    จิตวิญญาณรวมเป็นอำนาจอันมีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งสร้างรูปกาย - รูปพรรณสัณฐานที่เธอสวมใส่อยู่นี้ และเป็นแรงดลใจที่อยู่เบื้องหลังการอยู่รอดทางกายภาพของเธอ เธอได้รับถ่ายทอดพลังชีวิตและพลังในการอยู่รอดทั้งหมดมาจากจิตวิญญาณรวม จิตวิญญาณไม่เคยอยู่นิ่งแต่แสวงหาการสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา(rose)
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    กำลังจินตนาการอยู่ว่าถ้าน้องนกตะโกนออกมาดัง ๆ ในรถเมล์แล้วจะเกิดอะไรขึ้นน้า.. อิอิ..

    พี่ก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกันค่ะน้องนก คือที่ผ่านมาเราเคยเจอแต่คนดี ๆ แต่พอมาวันนึงชีวิตกับหักเหได้ไปใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอะเจอ แรก ๆ ก็เกือบจะทำใจไม่ได้ แต่โชคดีอยู่อย่างนึงว่าเราได้ศึกษาธรรมะมาบ้างและมีครูบาอาจารย์คอยให้คำชี้แนะวิธีการอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลาย และตระหนักไว้เสมอว่าชีวิตของเราไม่ได้โรยไว้ด้วยกุหลาบ มนุษย์ทุกคนต่างก็มีหน้าที่แสดงบทบาทที่ตัวเองได้ขีดเขียนมาเพื่อเป็นเงื่อนไขให้ผู้อื่นรู้ซึ้งถึงคำว่ารักโดยปราศจากเงื่อนไข ต่อให้บุคคลนั้นจะทำตัวงี่เง่าแค่ไหนเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องเรียนรู้ที่จะอดทน อดกลั้นและให้อภัยเท่านั้นไม่มีกฏเกณฑ์อื่น เพราะไม่งั้นแล้วเราจะต้องแสดงบทบาทไม่ดีเหล่านี้เองเพื่อเรียนรู้ความไม่ชั่วด้วยตัวเองไง ถือว่าโชคดีแล้วนะที่เราไม่ต้องสวมบทบาทเอง เพียงแค่เรียนรู้กับผู้อื่นก็พอแล้ว ( น่าจะขอบคุณเค้านะเนี่ยที่เราไม่ต้องแสดงเอง.. อิอิ.. )

    แต่เมื่อพี่นักเขียนและท่านอาจารย์อนาลัย ได้เมตตาให้ความรู้แก่พวกเราว่าเราจดจ่อกับสภาวะใด เราก็จะมีชีวิตอยู่ ดำเนินไป เป็นภาวะนั้น เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะฝึกเปลี่ยนความเชื่อของพวกเราใหม่เพื่อให้ชีวิตของเราได้เจอแต่สิ่งดี ๆ เจอคนดีมีน้ำใจอย่างพวกเราที่อยู่ในห้องวิทย์นี้ไงจ๊ะ..

    ขอเป็นกำลังใจให้น้องนก สาวน้อยผู้กล้าแสดงออกในทุก ๆ เรื่องค๊า..
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  4. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    จริงครับคุณ โอบนิธิ อย่างที่กระทู้เค้าว่า เรื่องจิตกังวล ทำให้เราเก็บไปฝันได้ เพราะในชีวิตประจำวันที่เราดำเนินอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องการงาน ชีวิตความเป็นอยู่ ที่ฝังใจเรา ซึ่งเราอาจจดจ่อโดยไม่รู้ตัว ย่อมเกิดขึ้นในความฝันเราได้เสมอ เรียกว่าเราจิตเราจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นๆก็ว่าได้
    อาจารย์นักเขียนท่านจึงสอนเราให้นั่งสมาธิก่อนนอน (แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนั่งสมาธิก่อนนอนด้วย ทำไมนอนแล้วค่อยจดจ่อก่อนไม่ได้หรือ?) การทำสมาธิก็เพื่อให้จิตเราสงบก่อน แล้วจึงค่อยกำหนด สิ่งที่ต้องการอยากรู้ หรือต้องการแก้ไขปัญหา หรือท่องเที่ยวตามที่เราต้องการ เรียกว่าการใช้ภาวะปัจจุบันจดจ่อให้เข้มกว่าจิตที่ฝังรากลึก
    ความจริงการฝันเรื่องการสอบตก ไม่ใช่ว่าเราเป็นนักเรียนแล้วสอบตกตามความฝันนะครับ เพราะอายุอย่างเราไม่ใช่นักเรียนทั่วๆไปแล้ว แต่น่าจะเป็นรหัสที่บอกให้เราทราบว่า เราคงมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตอะไรสักอย่างนะครับ
    แต่คุณโอบนิธิอย่าเชื่อผมนะ ขอให้ดูอารมณ์ตอนตื่นหรือตอนฝันด้วยครับ เรื่องการถอดรหัสนี่ ต้องของใครของมันครับ เพียงแต่เราต้องหาความหมายของเราให้เจอ และเป็นเฉพาะตนครับ คนอื่นถอดรหัสให้เราไม่ได้ ต้องฝึกจดบันทึกและเทียบกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพราะจินตนาการของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อย่างฝรั่งเค้าฝันเห็นนางฟ้าใส่ชุดราตรีสวยงาม แต่เราเวลาฝันเห็นนางฟ้าเค้าแต่งแบบสไบเฉียงโป๊นิดๆอะไรทำนองนี้ครับ
    คอมฯคุณโอบนิธิช่อมหรือยังครับ ผมซ่อมให้ได้ครับ ฟรีครับยกเว้นค่าอะหลั่ย บ้านผมอยู่แถวบางบัวทองครับถ้าอยู่ใกล้ๆจะไปซ่อมให้ครับ ไปวันอาทิตย์ แต่วันอาทิตย์นี้ มีนัดกับคุณ mead คุณขจรวรรณ ผลัดมาครั้งหนึ่งแล้ว (ยังไม่รู้เลยว่าโรงแรมมิโด้เนี่ยอยู่ตรงไหนฮะ)
     
  5. obniti

    obniti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +305
    ขอบคุณทุกทานครับ คอมพ์ยกไปซ่อมแล้วที่อยุธยา(ปลดเกษียณมาอยู่วังน้อยได้ 4 ปี แล้วครับ) หมดไป 380 บาท เปลี่ยนชุดพาวเวอร์ คุณฉลวยครับโรงแรมมิโดอยู่บนถนนปฏิพัท(ออกเสียงแล้วกันสะกดไม่ถูกแน่ ๆ ) จับความกังวลได้แล้วครับจากของจริงคืองานหายไป 1 งาน ผมมีประสบการทางจิตต์เยอะพิมพ์คล่องแล้วคงได้ร่วมแสดงความคิดในชั้นเรียนมากกว่านี้ ตอนนี้ขอนั่งฟังไปก่อน
     
  6. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ดีครับพี่ โอบนิธิ
    พี่เฉลยโดนเปลี่ยนชื่ออีกแล้วครับ อิอิ...
    คือพี่เขาชื่อ เฉลย ครับ ตอนแรกผมก็ทักพี่เขาว่า เจริญ ครับ
    ยินดีที่จะได้ฟังประสบการณ์ทางจิตของพี่นะครับ
    หวังว่าคงได้แบ่งปันความรู้กันครับ
    ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมาก ทำได้แค่พาไปเที่ยวบาดาล ครับ อิอิ
    มีอะไรก็ถาม พี่นักเขียนได้ หรือ พี่ๆในกระทู้ก็ได้ครับ
     
  7. Mila

    Mila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    (b-cry) เมื่อไหร่ คุณน้านักเขียนจะมาน้า

    ทำตามวิธีที่คุณน้าและพี่ๆแนะนำเรื่องการฝึกภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการตั้งจิตก่อนนอนถึงจิตวิญญาณต่างร่างของเรา แล้วก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ใหญ่เลย
    ไม่น่าเชื่อว่าหลายคืนมานี้ ฝันเป็นภาษาอังกฤษโช้งเช้งแล้ว
    ปรกติเวลาฝันแล้วจำมาได้ จะมีเสียงราบเรียบเป็นเหมือนในสารคดีเหมือนมาสอนพร้อมมีภาพประกอบ หลายครั้งจะสรุปคำคมสั้นๆไว้ให้จำง่ายๆด้วยค่ะ
    เมื่อตื่นมาก็จดไว้ แต่พยายามจดตามที่จำได้แม้บางครั้งดูงง งง คือไม่จดตามความคิดที่สมเหตุสมผล เพราะฉะนั้นเวลามีใครมาอ่านก็งงเหมือนกันว่าจดอะไรจ๊ะเนี่ย(รู้แค่ตัวเอง ฮ่า)
    แต่เมื่อฝันเป็นภาษาอังกฤษ คำสั้นๆได้ใจความนั้นก็กลายเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย สังเกตหลายทีแล้วว่าคำคมสั้นๆนี้จะเกิดตอนใกล้ๆตื่น น่ารักใช่มั้ยหล่ะคะ เพราะอย่างน้อยก็เหมือนคำที่ให้เราสามารถ(พยายาม)จำได้ในตอนที่ลืมตา
    ถ้าเป็นอาจาร์ยในโลกเราก็ต้องนับว่าเป็นผู้สอนที่เข้าใจนักเรียนมาก (เพราะว่ารู้ว่ามันยังจำอะไรที่ฉันพูดท้างคืนไม่ได้เลยให้จำคำสั้นๆซะเล้ย)

    ที่น่ารักมากคือ เสียงที่พูดนั้นพยายามพูดซ้ำวนไปมาย้ำบางคำชัดเจน แถมยังมีตัวเขียนขึ้นให้ดูด้วย ซึ้งไปเลยทีเดียว ความรู้สึกเหมือนมีอาจาร์ยมาสอนเลยแถมเห็นได้ชัดว่า เขาตั้งใจอยากให้เราได้ความรู้จริงๆ
    เรื่องตลกก็คือหนูชอบดูรายการคุณ Opra สองคืนแล้วที่ฝันว่าคุณ Opra มาเป็นอาจาร์ยบอกให้เราไปเขียนเรียงความมาส่งด้วย อิ อิ Love Love Opra (ที่จริงก็ชอบเขามากค่ะ โดยเฉพาะที่ช่วยเหลือเด็กๆ )

    เอาหล่ะค่ะรายงานผลว่าตอนนี้ภาษาอังกฤษลื่นไหลไปอย่างเร็วจนตัวเองต้องแปลกใจเล้ย

    เรื่องการถ่ายทอดจิตวิญญาณต่างร่าง นึกขึ้นมาได้ว่าชื่นชอบ อาจาร์ย ศิลป พีระศรี มากเคยหาหนังสือประวัติท่านมาอ่านเท่าที่พอหาได้ ก่อนนอนตั้งจิตขอเป็นลูกศิษย์ท่าน และในคืนวันเสาร์ที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ได้ฝันเห็นชายผู้หนึ่งเห็นหน้าไม่ชัดหรอกค่ะ แต่เห็นมือข้างซ้ายที่จับดินสอชัดมาก ข้างหน้าเป็นกระดานวาดรูป ท่านวาดรูปลงไปบนกระดาษข้างหน้าด้วยความรู้สึกของท่านที่รับรู้ได้ว่า มันง่ายดายเพียงขยับมือ ปราศจากถ้อยคำ(เท่าที่จำได้)แต่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึก ตัวเราเป็นผู้ที่นั่งดูท่านวาดไปเรื่อยๆโดยอยู่ด้านขวา ตื่นขึ้นมาจดความรู้สึกไว้พยายามให้ละเอียดที่สุดตามที่คุณน้านักเขียนเคยสอน แล้วหาข้อมูลว่าท่านวาดภาพด้วยมือซ้ายหรือไม่ ครั้งแรกรู้แต่เพียงท่านน่าจะเขียนหนังสือด้วยมือซ้าย แต่ที่น่าตกใจคือสามวันผ่านไปหลังจากที่ฝัน ได้ไปพบพี่คนหนึ่งที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยศิลปากร สาขาจิตกรรม เขาพูดขึ้นมาว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ไปงานศิลป พีระศรี มา ทำให้รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดท่าน ก็ไม่ได้ตื่นเต้นเท่ากับ กลับมาอ่านบันทึก อ้าว.. เราฝันในคืนวันนั้นเลย!
    และพี่คนนั้นพาไปดูภาพเหมือนของท่านภาพหนึ่งแล้วสรุปให้เสร็จสรรพว่า ท่านวาดภาพด้วยมือซ้ายโดยที่ยังไม่ได้เล่าความฝันให้ฟัง ใครรู้ความจริงกว่านี้เกี่ยวกับมือที่ท่านใช้วาดบ้างคะ

    ตอนนี้ก็เลยเอาประวัติท่าน Leonardo da Vinci มาอ่านค่ะ เพราะเป็นคนที่คลั่งไคล้อยู่แล้วด้วย(อีกแย้ว) เผื่อจะได้เศษเสี้ยวความอัจฉริยมาบ้างซักนิ้ส ตื่นขึ้นมาก็หัดวาดภาพด้วยสมองซีกขวาตามหนังสือของ ดร.เบตตี เอ็ดเวิร์ดส์ ที่เป็นการทำให้เกิดสมาธิตามที่คุณน้านักเขียนบอกได้จริงๆ สำหรับคนที่ไม่เคยวาดภาพเลยหรือรู้สึกว่าชาตินี้ทั้งชาติไม่มีทางวาดได้ดีแน่ ขอรับรองว่าวิธีวาดด้วยสมองซีกขวาช่วยได้ เพราะว่าเกดล่อลวงให้คุณป้าแถวบ้านวาดแล้วตกใจในฝีมือตัวเองมาแล้ว (ชอบๆ สะใจ)

    วันนึง Searh หาเจอคุณน้านักเขียนลงหนังสือพิมพ์ในอเมริกา ในฐานะศิลปินวาดภาพด้วยกาแฟ เท่ห์เจงๆ ค่ะ มีความสามารถรอบด้านที่ทำจนเป็นที่ยอมรับ ตบมือ ตบมือ
    (||)
    คุณเฉลย คุณพี่มี้ดคะ หนังสือ The secret อ่านแล้วค่ะ
    ก็รอดูมาหลายเดือนแล้วว่าจะมีแปลเป็นไทยมั้ยน้า
    กฏของแรงดึงดูดนำพาให้เกดมารู้จัก โดยเริ่มจากครั้งแรกที่อ่านอิสระของความปราถนา นี่คือจุดเริ่มต้นของเกดจำความรู้สึกได้ว่าตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ตื่นเต้น เหมือนกำลังล่วงรู้ความลับ(ความรู้)ที่น่าสนุก ใจเต้นตึกตักเลย
    ตอนนั้นไม่ว่าจะต้องเดินทางไปที่ไหนก็ตามต้องพก หนังสืออิสระของความปราถนานี้ไปด้วย เรียกได้ว่าชอบจนแทบวางไม่ลง ถึงกับจดคำโดนๆ เอาไว้เตือนใจเมื่อไหร่ก็ตามที่ใจเริ่มไปในทางลบใส่สมุดเล่มเล็กๆติดตัวตลอดเมื่ออ่านจบ เวลาที่คิดในแง่ลบเมื่อไหร่ก็จะเอามาอ่าน(เวลาคนเยอะๆก็แอบเหล่อ่านนิดนึง แล้วก็ใจเย็นลูก ใจเย็นๆ)ทำไปบ่อยๆก็ชินไปเอง ตอนแรกเหมือนต้องฝึกม้าพยศยังไงยังงั้นเลย พยศมากซะด้วย

    เหมือนที่ไม่กี่วันมานี้ได้อ่านหนังสือของคุณ บัณฑิต อึ้งรังสี คอนดัคเตอร์ชาวไทยที่โด่งดังระดับโลก(เก่งมาก) ว่าเขาจะเอายางสวมข้อมือไว้ เมื่อไหร่ที่ใจคิดแง่ลบขึ้นมาก็จะใช้ดีดข้อมือให้เจ็บ เป็นการฝึกให้ตัวเองคิดทุกสิ่งในแง่บวก

    ในระหว่างที่อ่านหนังสือ"อิสระแห่งความปราถนา"ก็เหมือนมีแรงดึงดูดให้เจอหนังสืออีกหลายเล่มที่ไปในแนวๆเดียวกันนี้(เสียดายที่ยังอ่านภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ) ตอนนี้ที่นับดูซื้อไว้ก็ประมาณแปดเก้าเล่มแล้วมั้งคะเท่าที่คิดว่าดูน่าเชื่อถือใช้ได้ คือจะวิเคราห์หลักสำคัญๆที่เหมือนกันมันคืออะไรบ้าง ระหว่างที่ค้นหาความรู้สึกคือเหมือนกำลังค้นหาขุมทรัพย์บางอย่าง จนเมื่อพบแล้ว ก็เอาหล่ะปฏิบัติ จนถึงตอนนี้ ช่วยย่นเวลาสิ่งที่ต้องการหลายๆอย่างให้มาถึงได้เร็วขึ้นเลย (จริงๆเลยค่ะคุณพี่มี้ด)

    ขอเดาว่าวันข้างหน้าเรื่องราวพวกนี้จะเป็นเรื่องปรกติที่หลายคนใช้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะอย่างน้อยผลที่ได้ก็เป็นผลดีที่ตกถึงเราทั้งนั้น

    อยากคุยกับพี่มีดค่ะ คือเมื่อก่อนอ่าน The Da Vinci Code นานแล้ว(ต้องรื้อฟื้นหน่อย)
    เขา(สันนิฐาน)ว่า ดาวินชี่เคยเป็นองค์ประธานคนหนึ่งของสมาคม The Priory of Sion ที่ช่วยกุมความลับบางอย่างของเชื้อสายพระเยซู
    แต่ไปๆมาๆ เขาบอกว่าไม่เป็นความจริง(เอาเถอะค่ะ)
    แต่ความสงสัยของเกดก็คือ
    ทีนี้เมื่อดูจากรายชื่อผู้เคยเป็นองค์ประธานนี่ซิ ไม่ว่าจะเป็น Issac Newton,วิกเตอร์ ฮิวโก,คล็อด เดบิวซี ฯ
    หู! ล้วนต่างเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่น เรียกว่าอัจฉริยะเลย ถูกกล่าวไว้ใน The Secret ว่าเป็นผู้รู้ความลับเรื่องกฏแห่งการดึงดูดทั้งนั้น และท่านอื่นๆอีกหล่ะ ที่ทุกวันนี้โลกยังทึ่งในความสามารถอยู่เลย เกดคิดเล่นๆนะคะ ว่ากลุ่มคนที่กุมความลับของพระเยซู ที้แท้อาจเป็นความลับของกฏนี้ด้วยก็ได้ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความสามารถได้เพียงนี้

    คำถามที่สงสัยในใจคือทำไมความรู้ของกฏนี้จึงต้องทำราวกับเป็นความลับมานมนานด้วยทั้งที่จะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นอีกมาก ดังที่หนังสือบางเล่ม(จำไม่ได้แล้วค่ะ)บอกว่ากฏบางอย่างถูกถ่ายทอดให้ผู้ที่ถูกเลือกและเห็นว่าสมควรเท่านั้น
    แต่ก็รู้อยู่อย่างว่าการจะเปลี่ยนความคิดบางอย่างของหลายคนไม่ใช่เรื่องง่ายดายซะทีเดียว นอกจากเขาจะรู้กฏธรรมชาตินี้ เชื่อว่ายังมีสิ่งประกอบหลายอย่างที่ผลักดันอีกด้วย

    แต่ไม่ว่าอีกหลายท่านที่แม้จะไม่ทราบในกฏเหล่านี้ แล้วมีความสามารถเกดก็รู้ว่าเขาดำเนินชีวิตไปภายใต้สิ่งเหล่านี้อย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
    ซึ่งเมื่อเรารู้เรื่องกฏนี้ที่คล้องจองกับหนังสือ "อิสระแห่งความปราถนา"ของอาจร์ย อนาลัย
    แล้วถ้ารู้ครอบครุมไปถึงสิบเล่มของท่านนั้น(อย่างเข้าใจไม่บิดเบือน) แล้วทำให้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ชักตื่นเต้นแล้วสิคะ ว่าจะมหัศจรรย์ขนาดไหน ตอนนี้เกดอยากเข้าใจเร็วๆ(แบบแน่นๆ) ความฝันต่อไปคืออยากฝึกติดต่อกับตัวตนภายในให้เก่งๆเหมือนจับวาง เพราะจะเอาความคิดที่ลุ่มลึกมาจากโลกทางกายภาพแต่เพีงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แม้จะรับเป็นปรกติจากความฝัน หรืออะไรอีกก็ตาม(เผื่อไว้หน่อยค่ะ) เหมือนที่ไปโรงเรียนแล้วคอยแต่จะเรียนรู้แต่เพียงในห้อง นักเรียนคนนั้นก็รู้ได้เพียงเท่านั้นจริงมั้ยคะ

    เอาหล่ะ เดี๋ยวคุณน้านักเขียนก็คงจะมาแล้วเนอะ ต้อนรับกลับบ้านนะคะ
    และอยากถามว่า
    ในการดึงเอาความสารถของจิตวิญญาณต่างร่างมาใช้ ควรจดจ่อทีละคน หรือสามารถจดจ่อได้หลายคนคะ
    แล้ววิธีไหนดีกว่าคะ
    แค่นี้ก่อนค่ะ
    (b-love2u)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 ตุลาคม 2007
  8. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    รู้สึกอบอุ่นใจค่ะ ที่มีจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์มาอยู่ใกล้ ๆ ตั้ง 2 ท่านแน่ะ ก็มีคุณเฉลยอยู่บางบัวทอง คุณโอบนิธิอยู่วังน้อย ดีจัยจัง ยินดีต้อนรับค่ะคุณโอบนิธิ มีประสบการณ์ทางจิตที่น่าตื่นเต้นยังงัยนำมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ขอเรียนรู้ด้วยคนค่ะ

    ต้องขอโทษคุณเฉลยจริง ๆ ค่ะ ลืมแจ้งสถานที่ไป โรงแรมอยู่ ถ.ประดิพัทธ์ ค่ะหากมาจากสะพานควายจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ หากมาจากบางซื่อจะอยู่ขวามือค่ะคุณเฉลย ในวันบรรยายหากไม่เจอกันยังไงลองส่งสายตาไปแถว ๆ อาจารย์ตอนบรรยายจบดูนะคะเผื่อจะอยู่แถวนั้นค่ะ..
    (b-2love)
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดู "หนูลูกเกด" ท่าทางสนุกกับกับการถ่ายทอดความรู้ผ่านประสบการณ์ในฝันซะแล้ว
    เห็นหลายอย่างถูก"ดึงดูด"เข้ามาพร้อมกันมากมายเลยนะครับ

    อาจารย์ศิลป์ พีระศรี หรือชื่อเดิมท่านคือ "คอร์ราโด เฟโรจี" ท่านเป็นคนไทยมากกว่าคนไทยซะอีกนะครับ ท่านบอกว่าอย่าลอกเลียนแบบฝรั่งในทำตามความคิดในหัวของเราเอง ท่านได้ริเรื่มสิ่งดีๆไว้มากมายเลยครับ ส่วนเรื่องท่านถนัดซ้ายหรือขวานี่ไม่ทราบจริงๆครับ รู้ว่าท่านมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูสูงมาก มีลูกศิษย์ลูกหามากมายที่มีขื่อเสียงในยุคนี้หลายท่าน โชคดีนะครับที่มีท่านเป็นครู แล้วมาสอนลูกเกดในฝันคืนวันเกิดอีก..โห..อันนี้ไม่บังเอิญครับ..(ขนลุกดีจัง..อิอิ) ยินดีด้วยคร๊าบบบ..หนูลูกเกดได้เป็นลูกศิษย์ท่านไปแล้วครับ

    วาดรูปประกอบมาให้ดูบ้างสิครับ ท่าทางชอบขีดๆเขียนๆเอามากๆ
    มีใครสนใจหนังเรื่อง The Sound Of Music บ้าง มาเข้าแถวลงชื่อไว้
    จะส่งไปไห้นะครับ ไว้เสริมการฝึกภาษาอังกฤษดีทีเดียวคับ

    (bb-flower
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2007
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คราวนี้คงไมพลาดอีกนะครับคุณขจรวรรณ
    คราวนี้ตรงวันอาทิตย์พอดีครับพี่เฉลย
    ถ้าไปถึงไวหน่อยคงได้ทักทายกันสักหน่อย
    เพราะหลังจากนั้น อาจารย์คงบรรยายยาววววววววววววอีกตามเคย
    เสร็จงานก็กลับมืดๆกันไม่ค่อยเป็น..ต้องรีบกลับบ้าน เป็นเด็กดีทุกคน อิอิ

    ใกล้แล้วนี่ครับ 4 พ.ย. วันอาทิตย์นี้ใครว่างไปพบกันครับ
     
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    กะว่าจะไล่อ่านให้ทันแล้วค่อยโพสคุย เพราะเดี๋ยวไม่รู้ว่าคุยกันถึงไหนแล้ว แต่ดูท่าจะนานเลยโพสเลยดีกว่า

    ขอเอารูปจากเวียดนามมาดูเล่นล่ะกัน ที่ไปมารู้สึกว่าถ่ายข้างทางมากกว่าที่ที่ไปเที่ยวอีก 555 นั่งรถเป็นชั่วโมงเลยเห็นข้างทางอะไรแปลกๆ เลยถ่ายมาแหลกเลย

    อันนี้ที่โฮจิมินท์นะ ตึกเค้าสวยดีนะ รูปไม่ได้ย่อนะ ใหญ่หน่อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • RIMG0033.JPG
      RIMG0033.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      32
    • RIMG0035.JPG
      RIMG0035.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      39
    • RIMG0036.JPG
      RIMG0036.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      36
    • RIMG0043.JPG
      RIMG0043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      38
    • RIMG0048.JPG
      RIMG0048.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      39
    • RIMG0067.JPG
      RIMG0067.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      45
    • RIMG0203.JPG
      RIMG0203.JPG
      ขนาดไฟล์:
      692.5 KB
      เปิดดู:
      39
  12. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ตามที่พี่นักเขียนได้แนะนำวิธีการนอนสมาธิแล้วสนใจมาก มีคำถามไว้รอเวลาที่พี่นักเขียนกลับมา แต่ก่อนอื่นก็อยากจะนำความรู้เดิมที่เคยศึกษามาให้พี่นักเขียนลองพิจารณาดูก่อนนะคะ.. เนื่องจากฝึกแล้วรู้สึกสอดคล้องกับเรื่องราวของจักระในศาสตร์ของวิชาพลังจักรวาลน่ะค่ะ ( อาจจะแตกต่างจากของ อ.ปริญญา นิดนึงนะคะคุณ Mead )

    ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายจักระต่าง ๆ ที่เป็นศูนย์รวมพลังจักรวาลเข้ามาสู่ร่างกาย..

    จักระ 1 ตั้งอยู่ระหว่างทวารหนักและอวัยวะสืบพันธ์ เป็นที่ตั้งของไฟศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคุผ่านกระดูกสันหลังขึ้นไปคล้ายท่อกลวง ทำให้ผู้ปฏิบัติสมาธิเสี่ยงต่อการถูกวิญญาณเข้าสิงสู่ แต่ถ้าผู้ปฏิบัติตระหนักถึงภัยอันตรายก็อาจเตรียมป้องกันได้ด้วยการปฏิบัติสมาธิมุ่งชำระจิตและกายให้สะอาด เพื่อเปิดช่องทางเดินของพลัง ต่อจากนั้นผู้ปฏิบัติยังต้องเผชิญสิ่งท้าทายอื่นที่จะตามมาทำลายความตั้งใจจึงต้องทำตัวให้สมถะ ควบคุมสติและมีความอดทน จึงจะสมปรารถนาในที่สุด

    จักระ 2 ตั้งอยู่ปลายกระดูกก้นกบ ทำหน้าที่ควบคุมพลังกายและพลังจิตของมนุษย์ หากเราโน้มจิตเข้าหากามตัณหาก็จะใช้พลังให้สิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยไม่อาจหาทดแทนได้ ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แต่ถ้าเรารู้จักวิธีเก็บรักษาพลังนั้นไว้ จักระนี้จะพัฒนาอย่างรวดเร็วและส่งพลังไปเลี้ยงสมองทุกวัน ทำให้เราก้าวเข้าสู่แสงสว่างแห่งปัญญา รู้แจ้งในสัจธรรมของสรรพสิ่ง

    จักระ 3 ตั้งอยู่บนกระดูกสันหลังบริเวณเอวตรงกับสะดือ ทำหน้าที่กำหนดระบบการย่อยทั้งหมดและควบคุมระบบการผลิตเม็ดโลหิต จักระนี้ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ตับ ไต ตับอ่อน ลำไส้ เมื่อใดที่การทำงานของจักระนี้หย่อนยานลงจะทำให้เกิดโรคได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคเอดส์

    จักระ 4 ตั้งอยู่บนกระดูกสันหลังระหว่างสะบักตรงระดับหัวใจ ทำหน้าที่กำหนดจิตทำให้เกิดความรัก ความเมตตาอารี ความบริสุทธิ์ ความสงบ เกิดมโนธรรมของจิตวิญญาณ ความกรุณา การให้อภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักอันยิ่งใหญ่ไพศาลที่มีอยู่ท่วมท้นในจักรวาล จักระนี้มีลักษณะของความรัก ความเมตตา เมื่อเปิดจะหมุนด้วยความเร็วสูง ทำให้เซลล์ในร่างกายสั่นสะเทือน ทำให้เกิดพลังความรัก ความเมตตาออกมา ตราบใดที่จักระนี้ยังปิดอยู่ ต่อให้เราพูดถึงความรักความเมตตา ก็ไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ หากเราสามารถประสานความรักความเมตตาเข้ากับพลังสั่นสะเทือนได้ ก็จะสามารถลดกรรมของมนุษยชาติจากกรรมใหญ่ได้ คนส่วนมากโอ้อวดถึงความเมตตา ความดี ความรักที่มีต่อผู้อื่นหรือต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ตราบใดที่จักระนี้ยังไม่เปิดคนเหล่านั้นก็ยังจมอยู่ในความโง่เขลา สิ่งที่เขาพูดหรือกระทำจะไม่เกิดผลต่อจิตวิญญาณ แต่จะอยู่ในความมืดมนตลอดกาล

    จักระ 5 ตั้งอยู่บริเวณกระดูกต้นคอด้านหลัง จักระนี้กำหนดระบบหายใจซึ่งรวมถึงจมูก หลอดลม ปอด ผิวหนัง เมื่อจักระนี้เปิดจะช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคไอและหอบหืด ส่วนใหญ่โรคหอบหืดเกิดจากสิ่งไม่บริสุทธิ์ต่าง ๆ ถ้าสามารถขับออกมาได้อาการก็จะดีขึ้น ผู้ป่วยโรคนี้อาจเป็นผลมาจากกรรมในชาติก่อนที่จะต้องชดใช้ วิธีการหายป่วยจากโรคนี้คือ การแสวงหาทางพัฒนาจิตวิญญาณและยอมรับผลกรรมและสำนึกผิดที่ตามมาจากอดีตชาติ

    จักระ 6 ตั้งอยู่กลางหน้าผากห่างจากโคนจมูก 2 CM จัดว่าเป็นตาทิพย์หรือตาที่ 3 การจะใช้ประโยชน์จากตาที่ 3 นี้ ผู้ใช้จะต้องมีพลังจิตอันสูงส่งจึงต้องได้รับการเปิดจักระทั้งหมดและขจัดสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ออกให้หมด จะช่วยให้เห็นภาพของเราทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนความลับของดวงดาวและสถานที่ต่าง ๆ สามารถใช้พลังอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพลังอันแรงกล้าช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเหตุร้ายทั้งมวล สามารถเห็นความแตกต่างตามชะตากรรมและกรรมลิขิตของแต่ละคน ตาที่ 3 ถือเป็นอัญมณีล้ำค่าของผู้ปฏิบัติจิตวิญญาณทางวิชาพลังจักรวาล

    จักระ 7 ตั้งอยู่กลางกระหม่อม เมื่อบุคคลใดพัฒนาจิตสูงมาแล้วจักระนี้จะแผ่แสงสีเหลืองเป็นประกายสวยงามเหมือนมีดอกบัวพันกลีบครอบอยู่บนศรีษะ ปกติเราจะเห็นแต่แสงสีขาวนวล สีเทา สีน้ำตาล หรือสีดำบนศรีษะของคนทั่วไป ซึ่งมีสิ่งไม่บริสุทธิ์อยู่ในสมองหรือในความคิด ดังนั้นเราจะต้องควบคุมจิตวิญญาณให้มุ่งมั่นอยู่กับความดี ความสงบสุขและการกระทำที่บริสุทธิ์ ไม่ปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ หลีกเลี่ยงการมีปากมีเสียงขัดแย้งและเกลียดชังผู้อื่น ไม่โอ้อวดความสามารถ จะทำให้เกิดตาทิพย์ หูทิพย์ และสามารถรับรังสีในจักรวาลที่มีความร้อนสูงได้โดยไม่มีการเผาไหม้ แม้เราจะศึกษาข้อมูลเหล่านี้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถพัฒนาจิตให้สูงพอที่จะเข้าถึงระดับนี้ได้

    จักระ 7 ได้รับการเอื้อหนุนจากเซลล์พิเศษในสมองเรียกว่า " ไมโครเซลล์ " จะควบคุมจิต สติ จิตใต้สำนึก อารมณ์ ปัญญา ความรักความเมตตา สามัญสำนึก จิตตานุภาพ เจตนารมณ์และความมีเหตุผล ตั้งแต่จิตมนุษย์จมดิ่งลงในเหวลึกของอุบาย ความหยิ่งทะนง ความหลอกลวง ความฟุ้งเฟ้อ มนุษย์ก็ยิ่งพาตัวห่างไกลจากความสงบสุขของจิตวิญญาณ สติ ความรักความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน รวมทั้งลืมใช้ประโยชน์จากไมโครเซลล์ เนื่องจากจักระ 7 กับไมโครเซลล์มีแสงสีเหลืองที่มีความถี่สูงมากจนสามารถเปลี่ยนเซลล์ในร่างกาย ทำให้เซลล์นั้นสั่นสะเทือนแรงขึ้นทุกวันจนบรรลุถึงนิพพานหรือสวรรค์ได้ ไมโครเซลล์เหล่านั้นสามารถติดตามไปกับวิญญาณของผู้ตาย จนกระทั่งเมื่อวิญญาณเหล่านี้ไปจุติในร่างใหม่ไมโครเซลล์ก็จะเข้าไปสู่จิตวิญญาณของร่างนั้น

    อาจกล่าวได้ว่าไมโครเซลล์นี้เป็นเสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังสูงที่ทำงานได้สารพัดชนิดโดยไม่จำกัดอายุการใช้งาน หากเราเรียนรู้การใช้ไมโครเซลล์นี้ได้เราก็จะสามารถเป็นมนุษย์มหัศจรรย์ได้

    หมายเหตุ ท่านใดที่อ่านข้อความนี้โปรดพิจารณาค่ะ..(rose)
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เมื่อคืนฝันสนุกดี เอามาเล่าให้ฟังครับ+
    เหมือนว่าไปเห็นสถานที่นึง มีสถาปนิกออกแบบไว้เป็นปิรามิดขนาดใหญ่ในหุบเขาสูง ในนั้นมีร้านอาหารที่เปิดโล่ง มีน้ำไหลผ่านเห็นต้นไม้ทรงแปลกตา ก็เดินเข้าไปดู สักพักก็มีชัตเตอร์ปิดช่องแสงทำให้บรรยากาศรอบๆมืดลง
    และมีการแสดงแสงสีเสียงระบบ 3 มิติ จากเครื่องฉายภาพ 3 ตัวมา Focus ภาพตรงกลางเป็นเรื่องราวของธรรมชาติ-ป่าเขา และเราก็อยู่ในห้องนั้นด้วย เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ภาพเริ่มเปลี่ยนไปเป็นมีตัวละครมีสัตว์รูปร่างแปลกๆหลายตัวออกมาวิ่งเล่น มีคนขี่แมลงบินยักษ์ออกมาไล่จับสัตว์พวกนั้น
    พวกคนดูก็ต้องคอยหลบไปมา เพราะเหมือนเค้าจะชนเอา...แสดงเป็นเรื่อง ดูสนุกมาก..พอฉายเสร็จทุกคนก็ตบมือ และต้อนรับคนที่คิดทำสิ่งนี้ออกมา ซึ่งเค้าก็มานั่งอยู่ในห้องนี้ด้วย เราก็เข้าไปถามว่าเค้าทำได้อย่างไร?..เค้าก็อธิบายว่าใช้กล้อง 3 ตัวฉายแสงไปที่ลูกบอลกระจกกลมๆที่เป็นกระจกสามเหลื่ยมสะท้อนออกไป อาศัยมุมสะท้อนและฉากรับแสงรอบทิศทางรับแสงตกกระทบเหมือนเหลี่ยมเพชรให้ให้ภาพดูต่อเนื่องกันไป เหมือนมายากลแบบนั้นล่ะ..เราก็อ๋อทันทีว่าเทคนิคเป็นแบบนี้นี่เอง

    ตื่นมาก็ความรู้สึกว่า Idea พวกนี้อาจมีนักประดิษฐ์สักคนคิดไว้ก่อนแล้ว..แต่เราอาจไปดึงดูดความรู้จากเค้ามาก่อนก็ได้..อันนี้ถ้าเอาคิดต่อหรือทำออกมาได้ก่อน ไปจดลิขสิทธิ์ก่อนเค้าคงสนุกน่าดูนะครับ..ความรู้หลายๆอย่างเกิดจากความฝันได้บ่อยๆ ถ้าเก็บรายละเอียดได้มากเท่าไหร่คงจะดี

    แถมก่อนหน้านี้ ตื่นขึ้นมาตอนเช้าในขณะที่ยังหลับตาอยู่ เห็นภาพเหมือนลืมตามองทุกอย่างเลย ภาพชัดใสสว่างมาก..(ปกติเคยเพ่งให้เห็นภาพแต่รายละเอียดไม่ชัดขนาดนี้จะเห็นเหมือนแสงลอดเข้ามาเป็นสีแดงๆ) ภาพที่เห็นเป็นสีครบทุกสีและชัดตรงจุดที่เราเพ่งมอง พยายามเช็คดูเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ไม่อยากลืมตาขึ้นกลัวว่าภาพนั้นจะหายไป

    ตอนนั้นมีสติดีอยู่..รู้ตัวว่าตื่นแน่นอนแต่จิตเหมือนยังฝันอยู่เลย?..บังคับให้มองไปที่อื่นและเคลื่อนไปใกล้ๆได้ด้วย..ถ้าเป็นในฝันเหมือนจะควบคุมตัวเราไม่ได้ขนาดนี้ มีใครเคยเป็นบ้างมั๊ยครับ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2007
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดีครับ ได้ไปเที่ยวหน้าฝนกับคุณซิปเปอร์แล้วงานนี้ เอามาลงอีกนะครับ เค้าว่าที่ "ฮอยอัน" เมืองเค้าสวยและเป็นชนบทมาก จะไปอีกเมื่อไหร่จะตามไปด้วยคับ
     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ Mead ถามหาถึงฮอยอันเลยเอามาให้ดูล่ะกัน สะพานที่เห็นนั่นคือสะพานญี่ปุ่น
    ที่ตรงนี้มัวแต่เดินดูของ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายมาก และก็ไม่ได้เดินดูซอกโน้นซอกนี้เท่าไหร่เพราะไปกับทัวร์เดี๋ยวหลงกัน เลยถ่ายเก็บบรรยากาศมาได้ประมาณนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • RIMG0847.JPG
      RIMG0847.JPG
      ขนาดไฟล์:
      680.2 KB
      เปิดดู:
      41
    • RIMG0848.JPG
      RIMG0848.JPG
      ขนาดไฟล์:
      721.9 KB
      เปิดดู:
      53
    • RIMG0869.JPG
      RIMG0869.JPG
      ขนาดไฟล์:
      721.4 KB
      เปิดดู:
      37
    • RIMG0870.JPG
      RIMG0870.JPG
      ขนาดไฟล์:
      608.6 KB
      เปิดดู:
      30
    • RIMG0887.JPG
      RIMG0887.JPG
      ขนาดไฟล์:
      702.6 KB
      เปิดดู:
      51
    • RIMG0889.JPG
      RIMG0889.JPG
      ขนาดไฟล์:
      761.1 KB
      เปิดดู:
      37
    • RIMG0891.JPG
      RIMG0891.JPG
      ขนาดไฟล์:
      663.2 KB
      เปิดดู:
      36
    • RIMG0894.JPG
      RIMG0894.JPG
      ขนาดไฟล์:
      759.4 KB
      เปิดดู:
      31
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2007
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อ้าว คุณซิปไปฮอยอันมาด้วยเหรอนี่..
    เห็นสะพานญี่ปุ่นแบบนี้ รู้สึกว่าเค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใครเลยนะครับ ผสมจีนหน่อยๆ
    มีกลิ่นไอ เก่าๆโบราณออกมาจากรูปเต็มไปหมดเลย
    จากสิ่งแวดล้อมแบบนี้ มีวัดเก่าๆ ที่ดูสงบๆอยู่กับธรรมชาติที่พอดีกัน
    คงหล่อหลอมผู้คนแถวนั้นให้มีอัทยาศัยดีไปด้วย
    แค่ภาพเดียวก็อธิบายความหมายออกมาได้เป็นร้อยเป็นพันสวยมากจริงๆครับคุณซิปฯ
    (เซฟรูปเก็บแล้วคับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2007
  17. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ไปมาหลายที่เลยครับ โฮจิมินต์ เว้ ฮอยอัน ฮานอย อ่าวฮาลอง นี่รูปแค่บางส่วนเท่านั้นเอง
     
  18. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    คุณobnitiคะ วังน้อยนี่อยู่ในอยุธยาใช่ไหม คุ้น ๆ แต่ไม่แน่ใจ
    นกอยากไปอยุธยาหลายครั้งแล้ว ไม่ได้ไปซักที รู้สึกชอบวัดในอยุธยามาก ๆ
    มาเล่าประสบการณ์ให้พวกเราห้องวิทย์ฟังบ่อย ๆ นะคะ ห้องนี้จะได้แน่นแฟ้นด้วยมิตรภาพมากขึ้นไปอีก (bb-flower
     
  19. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ฝันของเกดแจ๋วไปเลย (verygood) ได้เรียนรู้ตามวิธีของอาจารย์อนาลัยและได้ผลที่ดีมาก ช่วงนี้ไปไวเลยนะจ๊ะ เรียนลัดหลายเรื่องเลย 555

    ตอนนี้ไม่ค่อยได้คิดเรื่องเรียนรู้อะไรเท่าไหร่ ไปคิดเรื่องสังคม คน
    ช่วงนี้เลยฝันว่าโช้งเช้งกับคน กลุ่มคน เป็นแนวต่อสู้ซะส่วนใหญ่ เฮ้อ เป็นงั้นไป
     
  20. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ได้ความรู้เรื่องจักระเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะพี่ขจรวรรณ
    เมื่อ14ตุลาที่ผ่านมาในงานมินิมหกรรมพลังจิต นกก็ได้เปิดจักระแล้ว
    ลองหมุนจักระได้วันสองวัน จักระที่7 ตุ๊บๆตลอดเลย เหมือนอะไรจะพุ่งจากกลางกระหม่อม มือไม้ร้อน ๆ ตลอด
    ลองอ่านจากกระทู้อื่น ๆ นกเลยคิดว่าการใช้พลังจักรวาลนั้นเป็นการรับพลังมาช่วยรักษาคนอื่นรวมทั้งตัวเองด้วย
    เหมือนรับพลังที่ดีและถ่ายพลังที่ดีประมาณนี้อ่ะค่ะ
    นกเองอาจจะยังไม่เหมาะกับการฝึกก็ได้ เพราะใจร้อน ขี้โมโห ไว้สงบกว่านี้จะลองฝึกใหม่ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...