เป็นข่าวอีกล่ะ วัดวรเชษฐ์

ขอทราบที่มาของข่าวด้วยครับ มาจากนสพ.ฉบับไหน จะได้ "แบน" ไม่อ่านมันตลอดไป ให้นักข่าวนั่งเทียนเขียน(อาจมีเบื้องหลังให้เขียนโจมตี)แบบนี้คงเรียกว่า "สื่อมวลชนที่ดี" ไม่ได้ครับ

 

http://tnews.teenee.com/etc/16360.html

 

เรื่องวัดวรเชษฐ์

ผมอ่านกระทู้แล้วเห็นการแสดงความคิดของแต่ละท่านก็มีเหตุผลต่างกันและทุกคนก็รักพระองค์ท่าน(สมเด็จพระนเรศวรมหาราช)และรักประเทศไทย,เรื่องมีการจัดงานสวดที่วัดทางคนที่จัดงาน(พระและฆราวาส)ท่านก็ทำเรื่องขออนุญาติทางหน่วยงานทางราชการแล้ว,และได้รับอนุญาติไม่ได้จัดตามใจตัวเอง,และวันงานทางผมก็ไปกับเพื่อนๆน้องๆที่ทำงาน,ไปกันเองโดยไม่มีบัตรเชิญ,ที่อยากบอกว่าพวกกระผมไปเพราะหนึ่งศักธา,ท่านๆทั้งหลายลองไปดูได้วัดวรเชษฐ์สภาพตอนแรกปล่อยให้ร้างมีหญ้ารกและสปกรก,แต่เมื่อมาดูตอนนี้สะอาดพอสมควร,คำว่าโบราณสถานที่ๆเป็นประวัติศาสตร์,ต้องสะอาดและบุรณะให้ดี,อย่างที่ผมไปต่างประเทศยกตัวอย่างประเทศอินเดีย,สถานที่ประวัติสตร์ของเขาไม่ว่าเป็นวัด,สุเหร่า,และของอินดูเขาดูแลดีไม่ปล่อยให้รกร้างครับ,ผมก็เข้าใจว่าทุกๆคนไม่อยากให้เข้าไปทำอะไรในสถานที่สำคัญ(ทางประวัติศาสตร์)แต่ผมมีข้อคิดอยากหนึ่ง,ท่านๆที่ไปอุธยาและสถานที่สำคัญทาง(ประวัติศาสตร์)เคยสังเกตไหมครับ,ที่ไหนที่เป็นทางธุรกิจก็จะดูแลดี,แต่ที่ไหนไม่มีธุรกจิก็จะปล่อยให้รกร้าง,คำว่าสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต้องมีการดูแลและบูรณะให้ดีไม่ใช่ปล่อยให้รกร้าง,การที่พระและฆราวาสเข้าไปช่วยดูแลวัดวรเชษฐ์ไม่มีให้รกร้าง,ก็มีการวิจารณ์จากชาวกรุงเก่าว่าเข้าไปทำไม่ดี,จริงๆก็ถูกของชาวบ้านเพราะทุกคนมีสิทธิคิดเพราะเขาก็รักอยุธยาของเขา,แต่ก็มีบางท่านเข้าใจในเจตนา,จริงทุกคนต้องหันหน้าเข้ามาคุยกันถึงจะเข้าใจกัน,ก็อยากให้ทุกคนเข้ามาสัมผัลและมาที่วัดวรเชษฐ์มาพบหลวงพ่อสิงห์ทนก็จะเข้าใจเจตนาของท่าน,ขอให้เปิดใจด้วยครับและให้ปล่อยว่างทางโลกที่เราสวมหัวอยู่,ให้ถอดออกไว้นอกวัด,เมื่อเข้าวัดทุกคนเป็นเพื่อนกันเพราะอะไรเพราะไม่อยากให้เรายึดติดครับ,ทางโลกเราเรียนเท่าไรก็เรียนไม่จบ,แต่ถ้าเรามาเข้าวัดมาศึกษาทางธรรมมาเรียนดูจิตใจตัวเราเอง,ที่ต้องการอยากนี้เพื่อให้ทุกคนเปิดใจ,เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่หลวงพ่อพูดให้ฟังจะทำให้เราได้รับรู้ว่าบ้างเรื่องเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่,เราไม่ได้รับรู้จากที่ไหนมาก่อนใน(ประวัติศาสตร์อยุธยา)ตัวผมและเพื่อนๆน้องๆถ้าทางโลกก็ศึกษาจบระดับป.โทและเป็นเจ้าของกิจการ,แต่ก็ไม่ได้เชื่อแบบงมงาย,จรึงอยากให้เพื่อนๆสมาชิกมาพิสูจน์ด้วยตัวเองได้เห็นกับตา,ได้ฟังจากหู,กายได้สัมผัล,ดีว่าเชื่อจากการเขียนของผมและของคนอื่นๆทุกอย่างต้องพิสูจน์ด้วยตัวเราเองอย่าให้ใครมาจูงความคิดของตัวเรา,ทุกๆคนก็จะเขียนบอกว่าตัวเองในแง่ดี,อย่างที่ผมเขียนก็ไม่ต้องเชื่อนะครับ,ขอให้ไปสัมผัลด้วยตัวเองและพิจารณาด้วยสติ,(สุดท้ายนี้ถ้าบางคำที่ผมเขี่ยนไปกระทบกับบ้างท่านก็ต้องขอโทษด้วยครับแต่เจตนาก็เหมือนเดิมคืออยากให้ทุกคนรักและสามัคคีกันเพราะว่าเราคนไทย)รักและเคราพในสิทธของทุกท่านครับสวัสดีครับ(bb-flower

 

ขอทำความเข้าใจในธรรมชาติของจิตวิญญาณ

จิตนั้นมีการเกิด-ดับต่อเนื่องกันตลอดเวลา มิได้เป็นอัตตา เมื่อใดที่กาย

แตก จิตในขณะนั้นก็ดับไปด้วย เพราะอย่างที่แจ้งให้ทราบว่าจิตมีการ

เกิดและดับตลอด แต่จิตที่เกิดในขณะที่กายแตก จิตสุดท้ายนั้นสำคัญ

ยิ่ง เพราะการสืบต่อชาติภพจะเกิดในขณะนั้น ปัจจัยที่จะสร้างอุปาทาน

ในจิตเพื่อสืบต่อชาติภพต่อไปก็คือ กรรม

กรรมที่จะกำหนดชาติภพต่อไป เรียกว่า ชนกกรรม หรือกรรมนำเกิด

มี 4 อย่าง ให้ผลก่อนหลังตามลำดับ ดังนี้

1. ครุกรรม เป็นกรรมหนักให้ผลก่อนคือ สมาบัติ 8 และอนันตริยกรรม5

2.อาจิณณกรรม คือกรรมที่กระทำบ่อย ๆ จนชินชา

3.อาสันกรรม คือกรรมที่ทำแล้วจับใจอยู่หลังจากที่ทำ

4.กตัตตากรรม คือกรรมที่สักแต่ว่ากระทำ มีเจตนาอ่อนหรือไม่ได้มี

เจตนาโดยตรง

เมื่อตายเพราะกายแตกจิตจะเสวยกรรมดังกล่าว แล้วแต่กรรมใดจะเข้า

มาปรุงแต่งเป็นชนกกรรม เมื่อจิตสุดท้ายดับไปพร้อมรูปขันธ์ จะบังเกิด

จิตใหม่ในภพใหม่ทันทีแต่เป็นจิตที่สืบเนื่องมาจากจิตเดิม

 

เมื่อนำไปเทียบเคียงกับกรณีสมเด็จเด็จพระนเรศวรมหาราช จากการ

อุปมาณจากพระประวัติ พระจริยวัตร ความเสียสละ ของพระองค์ท่าน

ในส่วนที่เป็นอกุศลกรรมต้องยอมรับด้วยความเป็นธรรมว่ามี เพียงแต่

กรรมนั้นเป็นเพียงกตัตากรรม คือ กรรมที่สักแต่ว่ากระทำ มีเจตนาอ่อน

หรือไม่ได้มีเจตนาโดยตรง กล่าวคือ ท่านทำศึกสงครามนั้นมิได้มีเจตนา

ในการฆ่าฟัน ทำลายชีวิต หรือ เพื่อความยิ่งใหญ่ หรือ ความสุขสบาย

ส่วนพระองค์ ตลอดพระชนม์ชีพไม่เคยได้สบาย ต้องตรากตรำพระ

วรกาย เพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อความสุข ความเป็นไทของพสกนิกร

จึงอุปมาณว่า กรรมจากการทำศึกสงครามมิได้ส่งผลเป็นชนกกรรมต่อ

พระองค์ท่าน

 

เห็นด้วยกับคุณ ธัมนัตตา คะ

 

จากพระประวัติจะเห็นพระบรมเดชานุภาพของสมเด็จฯท่านอยู่หลาย

ครั้งหลายครา ฟ้าดินแสดงปาฏิหารย์ให้ประจักษ์ รวมถึงพระบุญญา

บารมีในส่วนของพระองค์ท่านก็แสดงให้ประจักษ์อยู่หลายตอน ทั้งแต่

ยังทรงพระเยาว์ตราบจนเจริญพระชันษาเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่

รวมทั้งความเสียสละในส่วนพระองค์ ตรงนี้ผมจะแสดงให้เห็นว่า ดวง

พระวิญญาณของสมเด็จฯท่าน ไม่มีทางที่จะไปสู่อบายอย่างจริงแท้ที่

สุด ในปัจจุบันท่านอาจจะเป็นเทพบุตรเสวยสวรรค์สมบัติที่เกษมพระราช

หฤทัย บางครั้งบางคราวพระองค์ท่านยังแสดงอิทธิปาฏิหารย์แก่ผู้มี

ความผูกพันเกี่ยวกันมา เป็นที่ยืนยัน

แล้วไฉนอ้ายอีตนใด ถึงได้บังอาจจาบจ้วงดวงพระวิญญาณของ

สมเด็จฯท่าน ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

มนุษย์กิเลสหนาหน้าไหนจะทำคุณไสย์ใส่องค์มหาเทพฯ องค์บรม

โพธิสัตว์ได้

หยุด ... ได้แล้ว ความเชื่อที่งมงายเรื่องไสยศาตร์ ไร้เหตุผล !!!!

 

มนุษย์กิเลสหนาที่มีอำนาจพลังไสยศาตร์ กระทำได้เพียงแต่ มนุษย์ด้วย

กันหรือสัตว์ในภพภูมิที่ต่ำกว่า เช่น เปรตหรืออสุรกายเท่านั้น

การกล่าวว่ามีการกระทำคุณไสย์ต่อดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระ

นเรศวรมหาราช จึงถือว่า หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

 

ท่านใดมีความเห็นแย้งกับที่ผมกล่าว เชิญออกมาโต้กันด้วยเหตุผล

ไม่ต้องกลัว ผมไม่กัด ตอนนี้แอ๊บแบ๊วแล้ว

 

ที่ปลงพระศพพระนเรศกับวัดวรเชษฐ์ที่ถูกลืม!!

ที่ปลงพระศพพระนเรศกับวัดวรเชษฐ์ที่ถูกลืม!!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2550


<O
พระปรางค์ซึ่งอาจจะเป็นที่เก็บพระบรมโกศและพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

<Oสภาพการจราจรในเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังดินแดนกรุงเก่าอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันธรรมดาช่วงกลางวันนั้นไม่สู้จะติดขัดมากนัก ทำให้ใช้ระยะเวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเศษ ถนนจากตัวจังหวัดที่ทอดสู่อำเภอเสนาปรากฏแก่สายตา และเมื่อผ่านสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาลงไปเพียงประมาณไม่กี่ร้อยเมตร ก็ได้เห็นหมู่เจดีย์ที่เก่าแก่ทรุดโทรมตามกาลเวลา ทว่าแฝงความขลังด้วยประวัติศาสตร์ที่เหล่าเจดีย์ทั้งหลายดังกล่าวนั้นได้ผ่านผันมาหลายยุคหลายสมัย...จนนำพามาให้ยืนยงอยู่ ณ วันนี้<O</O
<O</O

ป้ายเล็กๆ กลางเก่ากลางใหม่บอกนามวัดไว้อย่างเลือนรางจนแทบมองไม่เห็นว่า

 

ดิฉันมองเรื่องวัดนี้ กับเรื่องคุณตาที่สามเป็นคนละส่วน ไม่เกี่ยวกัน



เรื่องวัดนี้ ต้องพิสูจน์กันต่อ
น่าสนใจมาก

(bb-flower

 

คนที่ไปงานกับคนที่เขียนข่าว คิดเล่นๆว่าเวลาที่ชาติต้องการความเสียสละและสามัคคีแบบจริงจังแล้ว เราจะเห็นหน้าใคร

 

เห็นตามนั้นครับ

 

คงต้องกราบเรียนว่า
วัดวรเชษฐแห่งนี้ ผมและทีมงานที่ร่วมกันทำข้อมูล
ได้เดินทางเข้าไปตั้งแต่หลวงพ่อสิงห์ทน ยังไม่ได้เข้ามาจำวัดที่นี่ครับ
เพราะเรื่องที่ว่าวัดนี้เป็นที่ถวายพระเพลิงนั้นเราเองก็ทราบกันมานานแล้ว
และกำลังสืบค้นหลักฐานจากทางต่างประเทศอยู่ในขณะนี้
เพื่อหาสิ่งที่เป็นจริงมากที่สุด และดำเนินการบูรณะอย่างถูกวิธีการต่อไป
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องดำเนินการไปบนวิธีการที่ถูกต้องครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำงานกันอย่างรอบคอบ
เรื่องราชการนั้นก็อย่างที่รู้กันว่าไม่ค่อยสนใจ
แต่การที่เราจะสนใจด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
ต้องทำไปอย่างถูกต้องตามวิธีการครับ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจ เราคิดจะทำ ก็ทำไปอย่างไม่รู้
ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบครับ
ผมขอที่จะไม่กล่าวถึงพระ แต่ผมก็ยังตั้งข้อสังเกตว่า
ทำไมจึงสรุปว่าเนินดินที่ว่านั้นคือที่ถวายพระเพลิง
เพราะโดยที่นักประวัติศาสตร์ที่วิเคราะห็ด้วยเหตุผลแล้ว
ไม่น่าจะเป็นไปได้
ใครจะมีเจตนาอย่างไร ผมไม่ทราบ
แต่ผมอยากให้ทุกท่านพิจารณาว่า
การทำอะไรบนความตั้งใจดี ก็ต้องดูวิธีการที่ถูกต้องด้วย
เพราะมีตัวอย่างมาแล้วมากมายที่เกิดความเสียหายขึ้น
จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ผมเกรงว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้นั่นแหละคือความประมาทมากกว่า

 

เห็นด้วยในหลักการ กับคุณZester999

ควรศึกษาดูข้อมูลหลาย ๆ ด้าน ใครมีข้อมูลอะไรอีกที่เป็นประโยชน์แบ่งปันกันก็จะดีมาก
หรือหากท่านมีข้อเสนอแนะที่ดีนำมาคุยกัน
หากเห็นไปในทางเดียวกัน การรวมตัวกันเพื่อช่วยชาติ การฟื้นฟูก็น่าจะเร็วขึ้น มีทิศทางและเป็นรูปธรรมขึ้น

ผมมีความรู้และข้อมูลมีน้อย ส่วนใหญ่มาจากคำบอกเล่า หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่มากพอที่จะด่วนสรุปได้
ข้อมูลข้างต้นที่เขียนเมลเกรงว่าบางท่านจะปรามาสพระสงฆ์ซึ่งยากจะแก้ไขจึงเตือนไว้ เท่านั้น ตัวผมเองยังประมาทอยู่ครับ มีอะไรก็ชี้แนะได้ ว่าได้ และยินดีไปพบ ยินดีช่วยเหลือ ทั้งกำลังกาย เงินทุน การประสานงานกับราชการ ในทุกวิถีทาง เพียงแต่ให้ร่วมกันเป็นคณะเป็นกลุ่มจะได้มีพลังเกิดขึ้น

การมาวัดนี้ไม่ได้รู้จักกับพระหรือใครในวัดมาก่อน แต่มาด้วยศรัทธาล้วน ๆ

รวมกลุ่มไปทำบุญร่วมกันสักครั้งดีไหม

 

ขอแสดงความคิดเห็นเล็กน้อยนะครับ ทุกคนต้องแยกออกให้ได้ในแต่ละประเด็นแต่ละมิติที่เกิดขึ้นนะจุดตรงนี้นะครับ ความเป็นมาและการเกี่ยวข้องในแต่บุคคลที่ผ่านมาก่อนจะถึงนะจุดนี้ มันสับสนและวุ่นวายจากการที่...หลายท่านเป็นผู้รู้..........ที่สัมผัสได้...........จนเกิดการนำพาความเคารพศรัทธาที่หลั่งไหลมาอย่างเชี่ยวกราก

จนเกิดการกระทบกระทั่ง ผลประโยชน์เสียประโยชน์จากกลุ่มคนต่างๆๆที่แฝงมาทุกด้าน จนขาดความรอบครอบความหยั่งคิด......จนลืมนึกถึง...ปัจจุบัน....ว่าเป็นอะไร....ใครดูแล....ควรจะดำเนินการอย่างไร.....ที่ผสานได้ทั้งทางโลกและทางจิตวิญญาณ..........

องค์สมเด็จพ่อทรงให้ระลึกถึง" ความมีสติในปัจจุบัน" ที่ก่อเกิดการกระทำที่ควรกระทำ ที่ควรพึงมี ในการกระทำดำรงอยู่ แล้วค่อยๆๆหาข้อมูล...หาหลักฐาน.....หาฐานกำลัง.......จนพร้อมมูลที่กระทำได้แล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุด....คือการที่ไม่ควร...กระทำต่อโบราณสถานดังเช่นในภาพที่โพสต์ขึ้นมา.........ดูดีๆๆๆๆ อาจจะก่อเกิดปัญหาในควรที่ระมัดระวังต่อการพัง ชำรุด เสียหาย เพราะมีอายุมานับร้อยๆปี......นี้นะรือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ศรัทธาเกิดขึ้นมาก้อดี.......แต่ต้องประกอบด้วยปัญญา มองปัญหากันไม่ออกจึงไม่ถูกจุด.........ที่กล่าวมานี้.........มิใช่กล่าวขึ้นมาจากความคิดลอยๆ.............แต่ผ่านประสบการณ์นะจุดนั้นมาแล้วครับเมื่อปีที่แล้ว

ไม่ได้ปรามาสใครหรือครูบาอาจารย์องค์ไหนครับ แต่เป็นความเป็นจริงที่ควรพึงสังวร.........ผู้มีกฏหมายในมือในการดูแล.......ผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์..........ผู้ที่จะต้องโดนขุดคุ้ย.............ผู้ที่ต้องเสียหน้าจากความเป็นผู้รู้.......ผู้ที่อยากได้ประโยชน์ในการพื้นฟู..........สารพัดสารพันนับไม่ถ้วนครับ

ต้องกราบขออภัยทุกท่านที่มีความคิดเห็นไม่ตรงต่อกับผมนะครับ............

 

คุณ jarawoot กล่าวได้ตรงประเด็นครับ
ขอบคุณคุณธัมนัตตาด้วยที่มีเจตนาที่ดีและเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามบอกกล่าว
ความสำคัญอยู่ที่ว่า
เราต้องแยกแยะประเด็นให้ออกครับ

ผมเสนอเหตุผลในการวิเคราะห์ จากข้อมูลหลักฐาน
ไม่เกี่ยวกับการปรามาสใดๆ คนละเรื่องกันครับ
เรามาพูดถึงหลักการทำงานบนแนวทางความเป็นจริงของส่วนรวมดีกว่าครับ

ผมเสนอแนวทางการทำงานที่ถูกต้อง
ทำไมละครับ ถ้าในเมื่อมีการรวมปัจจัยในการบูรณะได้
แล้วทำไมไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง โดยให้กรมศิลปากรเข้ามาดูแลในส่วนงานต่างๆ
แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นมาอย่างที่เป็นข่าว ใช่ไหมครับ
จะบอกว่าเขาไม่มาสนใจตั้งแต่แรก
ก็อาจจะจริงนะครับ ราชการเราก็เป็นแบบนี้
แต่เขาก็แจ้งนะครับว่าไม่มีงบประมาณ
อย่างวัดวรเชษฐาราม พอมีคนถวายปัจจัย เขาก็ดำเนินการให้จนเรียบร้อยนี่ครับ

 

อืม ๆ อันนี้ถูกต้อง ทำอะไรต้องให้ถูกต้องตามขั้นตอน เพราะเป็น

โบราณสถาน ควรให้กรมศิลป์เข้ามาดูแล ทำกันเองแบบงู ๆ ปลา ๆ

เกิดความเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ ให้ผู้รู้เฉพาะด้านเขาทำดีกว่านะ

 

ท่านผู้มีหน้าที่ดูแลโบราณสถานของชาติหลงมัวเมาในอำนาจวาสนาและเพลิดเพลินกับการสะสมวัตถุนิยม(ข้าราชการกับนักการเมืองไทยเป็นแบบนี้กันเยอะ)
มองหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ละเลยภารกิจหน้าที่ ที่ควรจะกระทำเพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชน จนไม่มีเวลาดูแลโบราณสถานที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย