พระศรีอาริยะเมตไตร...ตอนนี้พระองค์ท่านอยู่ที่ไหน...และเป็นใคร...???

เห็นอึ๊สุนัขหน้าบ้าน

คนในบ้านก็ออกมาเก็บ

คอยไล่เตะสุนัขที่มาอึ๊หน้าบ้าน

มาอึ๊หน้าบ้านได้ไง ชิ่วๆ เลอะหมด

เดี๋ยวคนมาอยู่ใหม่เดินเหยียบ จะเหม็นไปในบ้าน

 

มีอะไรเหรอครับพี่ AJ Purngkan
งง...ครับ

ถ้าผมตั้งกระทู้นี้แล้วใครไม่พอใจก็ขออภัยด้วย
แต่เพราะผมรักศาสนาพุทธก็เลยอยากเข้าใจให้มากขึ้นครับ...


<!-- / message --><!-- sig -->

 

คร๊าบ ผมไม่ได้พาดพิง นาคา นะครับ

เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ

หุหุ

เค้าเป็นปัญหากันมานาน

ส่วนพระศรีอาริยเมตรไตรยนั้น

ผมคิดว่าท่านลงมาแน่ และลงมาเป็นมนุษย์อย่างเราๆ นี่แหละ

แต่ท่านก็คงไม่ได้ขี้โม้ โอ้อวด และบอกว่าตัวเองเป็นพระศรีอาริย์

และตรัสรู้แล้ว เพราะยังไม่ถึงกาลของพระองค์

ท่านลงมาเพื่อบำเพ็ญบารมีในด้านต่างๆ

ส่วนพระศรีอาริย์ต่างๆ ในเว็บนี้ ผมก็ไม่ได้บอกว่าใครจริงหรือปลอม

แค่ไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแล้ว หลงเชื่อ โดยไม่สมเหตุสมผล

เพราะเด็กสมัยนี้ชอบทดลอง กลัวจะโดนหลอกของจริง

เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มีอะไรถามพี่ๆ ที่เค้าเข้ามาเล่นได้ครับ

ตอนนี้เว็บนี้มีแต่คนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย (ยกเว้นผมหง่ะ)

 

นี่คือกระทู้ที่ผมไปตอบเค้าครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=84242&page=1

แม้พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่ทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์
จะต้องลงมาบำเพ็ญบารมีจนถึงชาติสุดท้าย
แล้วดับขันธ์ขึ้นเป็นพระโพธิสัตว์ชั้นดุสิต
เพื่อรอเวลาประมาณหนึ่ง แล้วจากนั้นพระอินทร์จะทูลขอให้ลงจุติ
โปรดเวไนยสัตว์ เพื่อนำธรรมกลับมาบนโลกอีกครั้งหนึ่ง
ตามวัฒนธรรมประเพณีแห่งการอุบัติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

พระโพธิสัตว์ต่างๆ ที่ลงบำเพ็ญโปรดโลกก็มิเคยได้
ป่าวประกาศว่า ตนคือพระพุทธเจ้า ตนคือพระโพธิสัตว์
สั่งสอนบุคคลด้วยความดี ไม่เคยบังคับให้ใครเชื่อ
ไม่แสดงอวดอุตริมนุษยธรรม ให้ประจักแก่สายตาผู้อื่น
มีแต่บำเพ็ญบารมี ต่างๆ ขันติบารมีหนึ่งชาติ วิริยะบารมีหนึ่งชาติ
ปัญญาบารมีหนึ่งชาติ และอื่นๆ อีกมากมายกว่าจะได้สำเร็จ

เมื่อพูดถึงปัญญาบารมี ในครั้งพระองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นพระมโหสถกุมารนั้น
พระองค์ก็มิได้ป่าวประกาศว่า เราคือพระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้าในอนาคต
พระองค์ก็ทรงบำเพ็ญ ปัญญาบารมี แก้ไขปัญหาของบ้านเมือง จนเป็นที่ยอมรับ
โดย ดุษฏี โดย พระองค์เอง โดย ไม่เบียนเบียนใคร โดย ไม่มีฤทธิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

มีแต่สัจจะเพื่อขออ้างอำนาจแห่งสัจจะนั้นต่อเทวดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกธาตุ
เอาความจริงเข้าสู้กับหมู่มาร โดยใช้สติ สมาธิ ปัญญา เป็นตัวขบคิดแก้ปัญหาต่างๆ

ดูเอาเถิด ทุกท่านที่อ่านอยู่นี้
ประมวลจากสมองของท่านเอาเถิดว่า
จะต้องคิดอ่านทำประการใด

ไม่จำเป็นจะต้องเอากระทู้ที่เราโพสนี้ไปอ้างอิงอีกแล้ว
เพราะเราเข้ามาก็แค่อยากจะยืนยัน ในสิ่งที่
คุณ อ่อน ได้พิมพ์มา
และเสริมหลักฐานเพิ่มเติม

ยังไงแวะไปอ่านเรื่องพระมโหสถ บำเพ็ญปัญญาบารมีได้ที่

http://www.larnbuddhism.com/buddha/mahosot.html

พอดีไปเจอมาพอดีเลยครับ

 

ตั้งกระทู้ไว้ แต่ปลาไม่มากินเบ็ดอ่ะ

เอิ๊ก ๆๆๆๆ

 

น้องAJเขาพูดถึงประสบการณ์ที่ได้สนทนาธรรมกับท่านสีอานทั้งหลาย ใช่ไม๊น้องครับAJ

 

เคลียร์เรียบร้อยพี่

น้อง นาคา เข้าใจถ่องแท้แล้ว

เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ

 

ขำคุณชัยบุญครับ
ช่างเหน็บแนมจังครับ
เขารู้ทันมั้งครับ
แถวนี้ฉกาจฉกรรจ์ทั้งนั้น
เข้ามาเลือดออกแน่นอน
คิดถึงคุณ iofeast ครับ
แกด่ามันส์มาก ตามลุยทุกกระทู้

 

เอ้า หนูtelwada พะสีอาน
มีคนเขาถามถึงหนูแน่ะ
เข้ามาตอบเร้วววว


จ๊าก.....ข้านี้หรือ คือพะสีอาน..........อะจ๊ากกกกก

 

ท่านบำเพ็ญบารมีอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต

สวรรค์ชั้นดุสิต หรือดุสิตบุรี ดีอย่างไร ?
ทำไม พระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนักสร้างบารมีทั้งหลายถึงเลือกที่จะอยู่ชั้นนี้

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มี ท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพ ที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา 42,000โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆมีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์

ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่ได้กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่างนุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่มเนียนตาของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่ดาวดึงส์ก็จะเห็นว่า มีขนาดเล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า

โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิต เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้...

เขตที่1.เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

เขตที่2.เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

เขตที่3.เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

เขตที่4.เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3เขตแรก

สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต

แล้วทำไม พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งๆที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3ประการ คือ

1.พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ(Meditation) อธิษฐานจิต สามารถดับวูบลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ

2.เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

3.ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ 4,000ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา

 

คนที่เขาเป็นจริงๆเขาจะไม่ประกาศตัวอย่างเด็ดขาด
เพราะเขา ละแล้วซึ่งความสรรเสริญต่างๆ เขาคงจะมีชีวิตทบทวนสิ่งต่างๆอย่างสงบ ใช้ชีวิตปะปนกับสิ่งแวดล้อมทั่วไปอย่างรู้ทัน มีชีวิตที่เรียบง่ายแต่ก็ทันในเทคโนโลยีทุกอย่าง มีเพื่อนฝูงที่ดี มีงานทำที่ทำให้เขาสามารถอยู่ได้ มีความฝันความหวังที่จะเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นในจักรวาลอันไพศาล
ในทุกวันนี้ เขาอาจกำลังนับถอยหลังถึงวันที่จะเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสำนึกของมนุษย์ เขาอาจจะเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในปัจจุบัน แต่ก็มีคนจับตามองและรอคอยเขาด้วยความหวัง

 

ในคราวขบขันต้องการคนกล้า
ในคราวปรึกษาต้องการคนไม่พูดพล่าม
ในคราวมีข้าวน้ำต้องการคนรัก
ในคราวเกิดคดีความต้องการบัณฑิต



น.450 พระไตรปิฎก เล่มที่ 24 พระสูตรและอรรถคาถา แปล สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลามที่ 1 ภาคที่ 1

 

กษัตริย์ไม่ควรถูกดูหมิ่นว่าทรงพระเยาว์
งู ไม่ควรถูกดูหมิ่นว่าตัวเล็ก
ไฟ ไม่ควรถูกดูหมิ่นว่าเล็กน้อย
ภิกษุ ไม่ควรดูหมิ่นแม้ยังหนุ่ม

น.450 พระไตรปิฎก เล่มที่ 24 พระสูตรและอรรถคาถา แปล สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เลามที่ 1 ภาคที่ 1<!-- google_ad_section_end -->

 

พี่ๆช่วยไปในกระทู้นี้หน่อยคะ กำลังเจอหมาบ้ามาอาละวาด เถียงแบบหมาขี้เรื้อนถูข้างตัวเวลาคันจนสีข้างเลือดออกไม่ยอมเลิก ไม่มีกำลังจะกัดเองกลัวบ้าตาม

http://palungjit.org/threads/ความคื...่นเรศวร-หน้าสุดท้าย.277294/page-7#post4467023

PL.ใครมาลบข้อความเราขอให้ไข่เน่า สาธุๆๆๆ

 

(ขอเพื่มนิด) กัปนี้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ถึง ๑๐ พระองค์หลังจากสิ้นพระศาสนาไปแล้ว กึ่งหนึ่งสมมุติว่า อีก ๑ ล้านปีในเมืองมนุษย์ พระศรีอริยเมตตรัยจะมาตรัสรู้ ในกึ่งหนึ่งนั้น ๕แสนปีมนุษย์ กึ่งกลาง ก่อนที่พระศรีจะมาตรัสรู้ (ก็จะมีพระปจัเจกระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ) เป็นหมื่นพระองค์ เขาเรียกพระพุทธเจ้าชนิดหนึ่ง ที่ตรัสรู้เองไม่สอนให้ผู้อื่นตรัสรู้ตาม ใครมีศัทธาอย่างดีก็สอนให้อยู่ในศิลธรรมเท่านั้นไม่เหมือนพระพุทธเจ้า จึงได้ขนานนามว่าพระปัจเจกพุทธเจ้า ถ้าพูดเรื่องนี้แล้วคุยกัน เป็นวันเป็นไม่จบหรอกครับ พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมากแล้ว อย่างพระศรีอารยท่านจะมาเกิดเมื่อไหร่ที่ไหนก็ย่อมได้ เพื่อโปรดบริวารของท่าน เกิดพร้อมกันหลายๆที่ก็ย่อมได้ อย่างพระอรหัตปฏิสัมภิทาญาณ จะเนรมิต ให้เป็นตัวท่านเองให้เป็นหมื่นเป็นแสนยังได้ เหมือน พระเรวัตตะ น้องพระสารีบุตร พระอรหัต ๗ ขวบ ท่านเนรมิต ป่าสะแกให้เป็นเมือง เนรมิต พระเป็นเรือนหมื่น องค์ (ถ้าจะถามเรื่องนี้แล้วมันยาว ) พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ใครคิดว่าโลกนี้เกิดมาอย่างไรใครคิดแล้วบ้า คิดเรื่องของพระพุทธเจ้าบ้า ใครคิดเรื่องฌาณสามาบัติ บ้า ใครคิดเรื่องของพระอรหัตพระอริยหลักใหญ่ๆ ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันผิดหมด ฉนั้นมันต้องลงมือปฏิบัติเอง ทำเองโดยไม่ปฏิเสธ และเชื่องมงายเกินไปจนกว่าจะพิสูทรให้รู้เห็นแจ้งประจักแล้ว นั่นแหละจึงค่อยเชื่อใช้เหตุและผล ไม่ใช่ตัดสินโดยความเชื่อส่วนตัว แค่ผีอย่างเดียว ถ้ายังพิสูตรไม่ได้ก็อย่าไปเรื่องที่ใหญ่กว่านี้เลย มันไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นโทษเปล่าๆจริงๆแล้วอยากพูดมากกว่าแต่เวลาไม่พอมีโอกาศจะเข้ามาเยี่ยมครับผิดพาดขออภัยด้วยครับ

 

*** บุรุษผู้หนึ่ง ****

รู้ความหมายสัจจะธรรม
ค้นคว้าคำสอน พบสัจจะคือคำสั่งสอน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ปูพื้นฐานก่อน ถ้าหลวงปู่ทวดเป็นพระศรีจริง ต่อมาเกิดเป็นหลวงปู่ดู่ ซึ่งมรณะภาพ ในปี 2533 เหตุนี้ถ้าพระศรีมาเกิดแล้วจริง ต้องเกิด 2534 เป็นต้นไป คืออายุต้องไม่เกิน 20 ปี

 

คุยอะไรกันอยู่หรอ เจ้าค่ะ ถ้าจะสนุก

 

--++ กาทู้ล่อเป้า ++--

ป่านนี้คงจะยกมือกดแป้นพิมพ์ไม่ไหวแล้วล่ะครับ
---------คิดถึงจัง------------

 

สงสัยจังครับแวะไปอ่านหลายกระทู้ที่กล่าวถึงพระศรีอาริยเมตไตร

มักจะเกี่ยวข้องกับพวกต่างดาว พวกคนมีองค์ ทรงเจ้าอะไรพวกนี้ครับ

พระศรีฯ ท่านมาเกี่ยวข้องยังไงหรือครับ???