วิมลเกียรตินิทเทสสูตร พระสูตรที่สำคัญที่สุดของมหายาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Kosit`, 14 พฤษภาคม 2013.

  1. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ผมได้เอาต้นฉบับเดิมที่อาจารย์เสถียร โพธินันทะแปลและเรียบเรียงไว้
    มาแก้ไขคำบางคำที่ล้าสมัยหรือผิด พระสูตรนี้นับเป็นพระสูตรสำคัญ
    อยากให้ท่านผู้ปรารถนาพุทธภูมิอ่านอย่างน้อยให้จบสักหนึ่งรอบ
    อ่านแล้วไม่พอใจ ขออย่าได้เลิกอ่านกลางคัน ลองเปิดใจกว้างๆอ่านดูนะครับ
    ไฟล์เป็น zip ให้ไปแตกเอา มีทั้ง pdf กับ word ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ตอนโหลดมันจะเป็นภาษาต่างด้าวหน่อยนะครับ
     
  3. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    สำหรับต้นฉบับหนังสือนี้ มีขายที่มูลนิธิมหามกุฎ หน้าวัดบวรนิเวศ บางลำภู

    เป็นคำภีร์ที่ปราชญ์ฝ่ายมหายานแต่งไว้น่าอ่านด้วยถ้อยคำที่สละสลวย และอ.เสถียรผู้แปลท่านแปลใจความได้ดีมาก เข้าใจว่าแปลจากภาษาจีน ทำให้เห็นมุมมองของฝ่ายมหายานที่ชัดเจนขึ้น แม้ว่าจะต่างนิกาย แต่ควรค่าแก่การศึกษา เพราะเป็นชาวพุทธด้วยกันและแท้ที่จริงก็มุ่งเน้นการหลุดพ้นด้วยกันทั้งสิ้น
     
  4. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    น่ายินดีอย่างยิ่งที่มีผู้ศึกษาพระสูตรนี้แล้วยอมรับ มีความเข้าอรรถเข้าใจ
    เพราะโดยมากแล้วผมเคยเอาไปให้ผู้อื่นได้อ่าน ได้ศึกษาจะอ่านได้เพียงสามสี่หน้าก็วางทิ้งเลย
     
  5. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ผมลองอ่านดูแล้วครับ แต่จริยาของวิมลเกียรติคฤหบดีทำตัวอาจเอื้อมสั่งสอนพระอัครสาวกท่านพระสารีบุตรมหาเถระและท่านพระมหาโมคคัลานะมหาเถระกับทั้งพระมหาสาวกอีกหลายองค์ ซึ่งท่านเป็นถึงพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณทรงพระไตรปิฎกครบถ้วน จึงเป็นการมิบังควรอย่างยิ่งยวด และดูเหมือนจะแต่งเรื่องราวให้วิมลเกียรติถือดีตีตัวเสมอสมเด็จพระพุทธเจ้าและพระอสีติมหาสาวกในเรื่องการแสดงธรรมและเรื่องฤทธิ์เดชนานา ซึ่งทางเถรวาท(อีกทั้งในความเป็นจริง) ถือว่าเป็นเรื่องที่นำลงสู่อบายภูมิแบบไม่ต้องสงสัย เชื่อขนมกินได้เลย ถ้าวิมลเกียรติคฤหบดีมีอยู่จริง ป่านนี้คงอยูในอเวจีมหานรกเป็นแม่นมั่นท่านจะว่าผมโง่ก็ได้ แต่จริยาจริงๆของพระโพธิสัตว์จะนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ แม้แต่ผ้ากาสาวพัสต์ท่านยังให้ความเคารพยิ่ง ดังปรากฏในสมัยหนึ่งที่สมเด็จองค์พระปัจจุบัน ครั้งนั้นยังเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระยาช้างฉัททันต์ นายพรานเอาผ้ากาสาวะมาห่มแล้วแอบเอาหอกแทงท่านหวังเอางาไปขาย พระยาช้างฉัททันต์ยกงวงขึ้นกำลังจะฟาด แต่พอท่านเห็นผ้ากาสาวพัสต์ก็หยุดแล้วยอมให้นายพรานตัดงาไปขายเลี้ยงชีพ เรื่องนี้เหมือนจะแต่งยกยอให้วิมลเกียรติคฤหบดีสูงส่งเทียมฟ้า ในพื้นพสุธาหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ คนอีสานโบราณสอนลูกหลานว่า หย่างโย่งๆ หัวแทบขี้ดิน หมอบๆเข้า หัวสิเท่าหง่ายาง ถ้าใครไม่มีความรู้แยกแยะเล่นยกเอามาใช้ทั้งดุ้น พระสูตรนี้จะพาคนลงนรกเยอะมากโดยเฉพาะคนที่คิดว่าเป็นพระโพธิสัตว์แล้วสูงส่งกว่าพระอรหันตขีณาสพเจ้าทั้งหลาย แต่เนื้อหาในเรื่องการละวางขันธ์ ๕ นั้น เขาแน่จริงๆ ถ้อยคำไพเราะยิ่งนัก เอามาพิจารณาใคร่ครวญในด้านวิปัสสนาดียิ่งนักครับ
     
  6. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ตอบกลับคุณ ธัมมะสามี
    อยากจะให้ลองทนอ่านจนจบสักรอบนึงก่อนครับ
     
  7. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ผมอ่านจบแล้ว และห่วงผู้ที่ได้อ่านเรื่องนี้ หากผู้ที่ได้อ่านทำใจไม่ถูกต้อง จะไปรับส่วนแห่งกรรมของการ ปรามาสพระอสีติมหาสาวกหลายพระองค์
    หากเข้าใจเรื่องศีล จะรู้ว่าการแกล้งป่วย ก็คือผิดศีลข้อมุสา แล้ว
    ธรรมะที่แท้เป็นของสูง เป็นอกาลิโก ไม่จำเป็นต้องแกล้งป่วยก่อน แล้วจึงจะสอนธรรมได้
    สมมุติว่า หากข้างหนึ่ง วิมลเกียรติคฤหบดี กำลังเทศ ด้วยถ้อยคำที่เลิศหรู ดูดี มีระดับ
    กับอีกข้างหนึ่ง มีพระบ้านป่า บ้านดอน กำลังเทศด้วยถ้อยคำบ้านๆ แต่สอนให้เข้าใจเรื่องอริยสัจ 4 สอนให้เข้าใจเรื่องมรรค เรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา
    ผมไม่ลังเล ที่จะเข้าไปกราบ ฟังเทศ กับข้าง พระบ้านป่า บ้านดอน ครับ
     
  8. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ท่านKosit จะให้ผมทนอ่านอีกทำไมครับ ไม่อ่านแล้วเสียเวลาทำมาหากิน อ่านเท่านี้ก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่ที่ ไม่ค่อยมีสาระ(มีที่เดียวเกี่ยวกับการเห็นทุกข์ในขันธ์ ๕ ) คล้ายเอาพระสูตรในพระไตรปิฎกเถรวาทมายำ ใส่อิทธิฤทธิ์เทพเจ้าของพราหมณ์เข้าไปนิด ใส่ความคิดความเข้าใจของอาจารย์ทางฝ่ายมหายานเข้าไปหน่อย ผลออกมาคือวิมลเกียรตินิทเทสสูตรที่คุณเอามาโพสต์ ผลงานสร้างอลังการงานสร้าง มันก็เหมือนๆ กับที่ยาขอบเขียนเรื่องผู้ชนะสิบทิศที่มีความจริงตรงตามพงศาวดารแค่ 8 บรรทัด ที่เหลือยกเมฆโมเมเอาเองเป็นหลายร้อยหน้า(แต่อ่านแล้วมันดี)ยังไงยังงั้นเลย คิดง่ายๆครับสมมุติว่า คุณเป็นพระผู้ใหญ่มีชื่อเสียงเป็นเปรียญ ๙ ประโยคเป็นที่นับถือของผู้คน แล้ววันหนึ่งคุณกำลังเทศน์ให้ญาติโยมที่นั่งเต็มศาลาฟังอยู่ ผมเดินมาจากใหนก็ไม่รู้ล่ะ มาถึงก็ว่า “คุณ คุณเทศน์อย่างนี้มันไม่ถูกนะ มันต้องเทศน์กับญาติโยมอย่างนี้ ลงมาจากธรรมาสน์เดี๋ยวผมจะเทศน์เอง” คุณจะคิดยังไงแล้วลูกศิษย์ลูกหาคุณจะคิดยังไง สงสัยลูกศิษย์คุณคง บริจาคสหบาทา หักงวงไอยรา หนุมานถวายแหวนจนน่วมอ่วมอรทัยแหงๆ คุณคิดตามความเป็นจริงสิ อย่าจมอยู่กับโลกความคิด อย่าจมอยู่ในโลกจินตนาการ หรือความศรัทธาแบบไร้การพิจารณา คนสมัยก่อนก็กินข้าว ไม่ได้กินหญ้า เรื่องพื้นๆ ไปปรามาสอาจารย์เขาต่อหน้าอย่างนั้นใครจ๊ะยอม มีเรื่องแน่ๆ ยุคไหนสมัยไหนเหมือนกันแหละ ท่านKosit ท่านอย่าเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่สิ พระโพธิสัตว์ก็ปุถุชนเดินดินกินข้าวมีขี้มีเยี่ยวนี่แหละ แต่เป็นปุถุชนที่เห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ทำอะไรก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้ยิ่งใหญ่ มีฤทธิ์เดชกว่าพระอรหันตขีณาสพเจ้าเลย พูดกันตามความจริงแล้ว พระโพธิสัตว์อะไรจะไปยิ่งใหญ่กว่าพระอริยะเจ้าได้ พระอริยะเจ้าคุณธรรมท่านเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงที่ไร้เมฆหมอกบัง พระโพธิสัตว์ก็เหมือนกับหิ่งห้อยน้อยแสงจะหาญแข่งกับพระอริยะเจ้าได้ยังไง พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ท่านไม่ได้สอนอะไรเยอะแยะมากมาย ท่านให้มองดูตัวเอง ดูร่างกายที่กว้างศอกยาววาหนาคืบประกอบด้วยธาตุ ๔ มีอวัยวะ ๓๒ นี่แหละ ให้เห็นความไม่เที่ยงแท้แน่นอน ความทุกข์จากการมีร่างกาย และความไม่ใช่ตัวตนของเราจริง
    วิมลเกียรตินี้อ่านแล้วไม่สมเหตุสมผล ถ้อยความไม่เข้ากันเลย เหมือนน้ำกับน้ำมันที่ไม่มีวันเข้ากันได้ คุณจะให้พระโพธิสัตว์ทั้งหลายอ่านหรือ อืมมม...เขาคงอ่านอยู่มั้ง?..เห็นชัดๆว่าวิมลเกียรติคฤหบดีผู้นี้ มีเจตนาจงใจปรามาสต่อพระรัตนตรัยอันมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และพระโพธิสัตว์ด้วย แถมเป็นคนอวดดี อวดเก่งเกินครู
    ไม่ใช่ผมว่าฝ่ายมหายานไม่ดีนะ พระที่ดีๆของมหายานมีตั้งหลายองค์ พระโพธิธรรม ท่านพระเว่ยหล่าง ท่านพระฮวงโป หลวงจีนฟาเหียนอีกองค์ องค์นี้ท่านมีความตั้งใจดี ท่านเห็นความเสื่อมของพระธรรมพระวินัยและข้อวัตรของพระจีนในสมัยนั้นถึงกับยอมลงทุนข้ามเขาข้ามป่าทนความทุกข์ยากลำบากมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ชมพูทวีปตั้ง ๒๐ กว่าปี คัดลอกเอาพระไตรปิฎกและอรรถกถาและตำราต่างๆทางพระพุทธศาสนากลับไปต้าถัง ทำให้พระพุทธศาสนาตั้งมั่นในแผ่นดินจีนอีกครั้ง มหายานสมัยก่อนผมก็เคยศึกษามา สูตรของเว่ยหล่าง ฮวงโป ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็นสิบกว่าเล่ม ประวัติหลวงจีนฟาเหียนและอื่นๆอีก เพราะผมชอบคำนึงของขงเบ้งอาจารย์ของเล่าปี่มหาเสนาบดีจ๊กก๊ก ท่านพูดเอาไว้ว่า " เกิดเป็นลูกผู้ชาย จำต้องเรียนไว้ทุกอย่าง จึงสมควร "
    สุดท้าย ขอร้องล่ะท่านทั้งหลายที่จะโพสต์อะไรลงมา ถ้าหมิ่นเหม่หรือเป็นการปรามาสต่อพระรัตนตรัย ก็อย่าเอามาโพสต์เลย มันเป็นบาปเป็นกรรมติดตัวไปอีกนานเป็นแสนชาติเชียวนา ตัวเป็นบาปไม่พอ จะพลอยพาคนอื่นตกต่ำไปด้วย ถ้าจะโพสต์เอาแต่ที่เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อความไพบูลย์ของบารมี ๓๐ ทัศ เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัดในกาม เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายในการเกิด เป็นไปเพื่อพระนิพพาน ค่อยโพสต์เถอะครับ ขอขอบพระคุณล่วงหน้า สาธุ สาธุ สาธุ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2013
  9. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอท่านทั้งหลายพึงทำใจให้มั่น เข้านิพพานชาตินี้เถิด
     
  10. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ธรรมของพระพุทธเจ้าท่านดีแล้ว อย่าไปตัดอย่าไปเติม เรามีหน้าที่ปฎิบัติ อย่างเดียวครับ
    (แต่ฝ่ายมหายาน ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ดีเหมือนกัน แต่ไปปรับเปลี่ยน) เอาง่ายๆ ธรรมไหนที่เป็นไปเพื่อ ละความชั่วทําความดีและทําจิตใจให้บริสุทธิ์ธรรมของพระพุทธเจ้า เช่น ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง การตายเป็นของเที่ยง ขอให้ท่านทั้งหลาย ทําความดีไว้ในขณะยังมีชีวิต
     
  11. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    โมทนา สาธุ ครับ
    แต่หากชาตินี้ ยังตัด เข้าสู่นิพพาน ไม่สำเร็จ และยังอยากรู้จัก พระโพธิสัตว์บ้าง ก็ลองตั้งจิตให้ไปบังเกิดที่ชั้นดุสิต สิครับ
    จะได้พบว่า พระโพธิสัตว์ ที่ยิ่งมีบารมีมาก ก็จะยิ่งมีความนอบน้อม
     
  12. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    อ่านคัมภีร์นี้แล้วชอบไม่ชอบ เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ แล้วแต่บุคคล
    ผมเองชื่นชมท่านอาจารย์เสถียร โพธินันทะ ผู้ตั้งใจแปลคัมภีร์นี้ด้วยเจตนาจะให้เห็นมุมมองของฝ่ายมหายานที่ไม่เหมือนเถรวาท
    โดยเฉพาะการอธิบายเรื่องสุญญตา
    บางส่วนบางตอนสนอให้เราละอหังการ มมังการของตนเอง
    แต่ใครที่ไม่ชอบอ่านความเห็นที่แตกต่างก็ไม่อาจห้ามได้

    แต่สำหรับผู้ที่ต้องการค้นคว้าให้รู้ที่มา หลักการ และแนวคิดของมหายาน แล้วไม่อาจละเลยได้ เพราะจะทำให้เราได้เห็นเรื่องราวแนวคิดเบื้องหลัง รวมถึงเข้าใจสถานการณ์พระพุทธศาสนาในเขตเอชียตะวันออก ได้ชัดขึ้น เมื่อจะคุยกับลามะในธิเบต หรือพระในจีน หรือญี่ปุ่นจะได้ปรับแนวคิดให้ตรงกันกับเขาได้ คือรู้เขา รู้เรา

    เพราะในทางกลับกันพระในประเทศเหล่านี้ก็มาศึกษาที่มมหาจุฬาฯ มหามกุฎฯกันมากขึ้น

    ซึ่งนอกจากนี้ยังมีคัมภีร์ฝ่ายมหายานอีกมากหลายฉบับ ที่เป็นคัมภีร์หลัก บางฉบับพบในถ้ำตุนหวงถูกเก็บไว้อย่างดีโดยธรรมชาติและนำมาเผยแพร่ภายหลังก็น่าสนใจมาก

    คัมภีร์อีกหลายฉบับมีการแปลเป็นภาษาไทย ทำให้เราได้มีมุมมองที่กว้างขวางขึ้นว่าโลกนี้หลังยุคพุทธกาล มีการพัฒนาการในแง่การสืบต่อพระพุทธศาสนาอย่างไร พระอรรถกถาจารย์ที่แต่งหนังสือภายหลังเราก็น้อมศึกษาของท่าน แม้จะไม่ใช่พุทธพจน์โดยตรงก็จริงอยู่แต่เป็นการอธิบายเพิ่มเติมให้ผู้คนเข้าใจคำสอนของพระพุทธองค์ได้ชัดและแจ่มแจ้งมากขึ้น เช่น วิสุทธิมรรคของท่านพุทธโฆษาจารย์ หรือ พุทธธรรม ของท่านเจ้าคุณพรหมคุณาภรณ์ ปอ.ปยุตโต เป็นต้น ซึ่งแม้แต่งขึ้นภายหลังก็ล้วนควรค่าแก่การศึกษามิใช่หรือ

    ในการทำงานเพื่อสืบพระศาสนาการแปลคัมภีร์จากหลากหลายที่เหล่านี้มีความจำเป็นยิ่ง ที่น่าชื่นชมคือการทำงานของท่านคันธสาราภิวงศ์ มหาสมลักษรณ์ แห่งวัดท่ามะโอที่แปลคัมภีร์จำนวนมากจากเพื่อนบ้านเช่นพม่ามาหลายฉบับแล้ว ทำให้เราได้ศึกษาตำราดีๆ ที่แต่งโดยพระอรรถกถาจารย์ของพม่ารวมถึงลังกาด้วยบางส่วน ใครคิดว่าเสียเวลาเปล่าก็แล้วแต่บุคคล มิอาจห้ามได้ เป็นปัจจัตตัง

    แต่การไม่ศึกษาเพิ่มเติม อาจทำให้เรา ไม่มีข้อมูลและไม่เข้าใจความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงบริบท พัฒนาการคำสอน รวมถึงพลังศรัทธาของผู้คนในมุมต่างๆ ของโลกได้
    ซึ่งเรื่องนี้ คนอังกฤษ คนเยอรมันเองเมื่อเห็นคัมภีร์เหล่านี้กลับวิ่งเข้ามาศึกษาอย่างล้นหลาม
    เอากลับไปบ้านตนเองค้นคว้าและรู้ดีกว่าชาวพุทธเองอีก (ลองดูการศึกษาคัมภีร์ที่ค้นพบในถ้ำDunhuang Project ของคนอังกฤษดูก็ไ้ด้ที่http://www.facebook.com/pages/International-Dunhuang-Project/269876243911)

    ชนชาติตะวันตกพวกนี้อาจไม่ใช่ชาวพุทธเสียด้วยซ้ำกลับใส่ใจในการศึกษามรดกที่ชาวพุทธยุคกลางทิ้งไว้ให้ชาวโลก
    ทำให้มีหลักฐานว่าพระถังซำจั๋งไม่ใช่นิทานแต่มาจากเรื่องจริง ทำให้เราเห็นภาพโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่เก็บในถ้ำทำไมแต่งกายคล้ายหญิงแต่กลับมีหนวด ทำให้เราเห็นกระบวนการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาจีน ฯลฯ

    ขอให้เปิดใจศึกษาดูก่อน จะทำเราจะเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น
    ไม่ชอบจริง ก็เลือกที่จะไม่อ่านก็ได้นี่ครับ คนที่เขาชอบศึกษาก็มีอยู่
    เจตนาของคุณKosit ก็บอกไว้ชัดแต่แรกแล้ว
     
  13. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ผมคิดว่า ถ้าตั้งใจศึกษาเพื่อปฏิบัติไปพระนิพพานแล้ว ศึกษากับครูบาอาจารย์ในไทยนี้แหละดีที่สุด พระพุทธศาสนาศึกษาๆเฉยก็เหมือนทัพพี ตักแกงอยู่ทุกวี่วัน แต่ไม่เคยรู้รสแกง คุณธัมมนัตา คุณเอารูปหลวงปู่มั่นมาเป็นรูปแทนตัว แต่ทำตัวไม่รู้คุณครูบาอาจารย์ เสียชื่อสายพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตหมด สายหลวงปู่มั่นท่านหนักในการปฏิบัติไม่ใช่เหรอครับ??? พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลังกาวงศ์ของไทยเรานี่แหละดีที่สุด มีครบทุกอย่าง ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท และผมขอยืนยันว่าตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจนปัจจุบันนี้ พระอรหันต์ไม่เคยขาดจากประเทศไทย พระพุทธเจ้าพระศรีศากยมุนีก็เป็นคนไทย ที่เขาเรียกว่า ไทยอาหม คุณไม่สงสารสมเด็จพระประทีปแก้วหรือ พระองค์ทรงขวนขวายสร้างบารมีมา ๔ อสงไขย กำไรแสนมหากัปป์ ทนทุกข์ยากลำบากสร้างบารมีมาเพื่อขนสัตว์เข้าสู่พระนิพพาน ในกาลนี้ มีประเทศไทยที่เดียวที่พระพุทธศาสนายังไม่มีลัทธิต่างๆเข้ามาแปดเปื้อน พระไตรปิฎกก็เป็นเล่มเดียวกับที่ท่านพระพุทธโฆษาจารย์มหาเถระ(พระพุทธโฆษาจารย์ท่านเป็นคนไทย หรือที่เรียกว่าไทยใหญ่)ลำบากข้ามน้ำข้ามทะเลไปแปลมาจากลังกา ท่านพระมหากัสสปะมหาเถระก็เคยบอกพระอรหันต์ที่มาสังคายนาว่า " พระธรรมพระวินัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ บัญญัติเอาไว้ ห้ามแก้ไข ห้ามตัดทิ้ง ให้ทรงไว้อย่างนี้ " คุณจะอยากศึกษาก็ต้องศึกษาของเราให้เข้าใจถ่องแท้แน่นอน จนหมดความสงสัยจริงๆ ถ้าคุณเข้าใจของเราแล้ว ต่อให้มาจากจีน ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น หรือที่ใหนๆในโลก คุณก็คุยกับเขารู้เรื่อง คุณธัมมนัตาคุณศึกษาพระพุทธศาสนาเพื่ออะไร เพื่อคุยว่าเรื่องพระพุทธศาสนารู้หมดทุกตำราทุกคัมภีร์ หรือเพื่อดับทุกข์ในใจตนกันแน่ครับ หาทางหนีนรกให้ได้ก่อนเถอะ ไม้ใกล้ฝั่งอย่างเราจะล้มวันไหนก็ไม่รู้ ยึดเอาพระนิพพานให้ได้เถอะ แล้วไอ้ที่อ้างอังกฤษ เยอรมันศึกษา พวกนี้ศึกษาเพื่อแบกทุกข์จะเอามาพูดทำไม แล้วที่แปลตำราจากพม่าและลังกาผมเห็นด้วยเพราะเป็นเถรวาทเหมือนกัน แต่มหายานน่ะทางพระวินัยของพระ ท่านเรียกนานาสังวาส ไม่เสมอกันด้วยข้อวัตรปฏิบัติและพระวินัย แต่อาจมีบางคนชอบนะ พระมหายานมีเมียมีลูกได้ด้วยหนิ (ในวัดคงเจี๊ยวจ๊าวพิลึก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2013
  14. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ผมก็ไม่อะไรมากหรอกครับ แค่เห็นว่าพระสูตรนี้มีนัยล้ำลึก
    ควรแก่การศึกษาไว้บ้าง ยิ่งสำหรับท่านที่ปราถนาโพธิสัตว์ภูมิแล้ว ก็ไม่ควรจะรีบปฏิเสธ เพราะการศึกษาไว้ย่อมทำให้ปัญญาเพิ่มพูนขึ้น
     
  15. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบอกแปป ปรัญญา กับความจริง นี่แตกต่างกันมาก บางคนเห็นศาสนาพุทธเป็นปรัชญา
    ถ้าเห็นเป็นแบบนี้หมดกัน เพราะ ศาสนาพุทธ ท่านเอาความจริงมาสอน อริยสัจ4 และ พระพุทธเจ้าท่านค้นพบ ธรรม ก็คือ ความธรรมดา ธรรมชาติ นี่แหละ รู้ว่าธรรมเหล่านี้เกิดด้วยเหตุอะไร แล้วการดับไปของธรรมเหล่านั้นอาศัยอะไร) แบบพระอัสสชิ สอนพระสารีบุตร ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุและความดับแห่งธรรมเหล่านั้นพระสารีบุตรตอนนั้นยังเป็นปุถุชนอยู่ฟังทีเป็นพระโสดาบันเลย

    แต่อย่างว่า มหายาน ท่านคิดว่า ฝ่ายเถรวาท มุ่งไปนิพพานคนเดียว ไม่สามารถพาคนอื่นไปด้วยได้มาก ( อันนี้ความคิดผมนะครับ ผมคิดว่าไม่จริง เพราะดูอย่าง พระอรหันต์ อย่างพระสารีบุตร พระโมคคัลานะ หรือพระอานนท์ ท่านเทศน์ให้คนเป็นพระอริยเจ้ามาเยอะแล้ว หรือถ้ามาสมัยนี้ ก็หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่มั่น ท่านก็สอนให้คนเป็นพระอริยเจ้าได้เหมือนกัน แต่ ถ้าพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ก็เป็นพระพุทธเจ้า ก็สามารถขนย้ายสัตว์ออกจาก วัฎฎะสงสารได้อยู่ดี เพราะพระพุทธเจ้าท่านเข้าใจจริตคนว่าจะเทศน์แบบไหนตรงจริต)

    แต่ผมกลัวอย่าง ถ้าสอนผิด เช่น พระพุทธเจ้าสอนว่าตายแล้วไม่สูญ แล้วมีคนไปสอน ตายแล้วก็ตายบาปกรรมไม่มีจริงนี่มีแล้วทําให้คนเป็นมิจฉาทิฐิ แบบนี่ลงนรก แน่ๆ เพราะสอน
     
  16. มหาวัด

    มหาวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,892
    จริงๆๆสูตรนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะโจมตี พระอรหันต์สาวกแต่อย่างใด? ถ้าอ่านด้วยความเข้าใจจริงๆๆ ก็จะไม่มีปัญหาเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะยกย่องฆาราวาส นั้นเองวิมลเกียรติคฤหบดีจึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของฆาราวาสเพื่อชี้ว่า ฆาราวาสที่ตั้งใจปฏิบัติก็อาจจะก้าวหน้าเหนือพระภิกษุได้


    นี่คือจุดมุ่งหมายของผู้แต่งสูตร ซึ่งเป็นพระในยุคนั้น สาเหตุที่ต้องยกเอาพระสารีบุตรหรืออรหันต์สาวกบางรูปขึ้นมาก็เพราะ เป็นตัวแทนความคิดของคนว่าเป็นภิกษุผู้ยิ่งใหญ่เป็นเลิศนั้นเอง ก็เลยแต่งให้วิมลเกียรติคฤหบดีตอบปัญหาชนะเพื่อชี้ว่า ฆาราวาสถ้าตั้งใจปฏิบัติก็ก้าวหน้ากว่าพระได้อย่าว่าแต่พระธรรมดาๆๆเลย แม้แต่พระอรหันต์สาวกที่เป็นเลิศในพุทธกาลก็อาจจะเหนือกว่าได้ เป็นการให้กำลังใจฆาราวาสนั้นเอง ยกตัวอย่างในพุทธกาลฆาราวาสบรรลุธรรมก็มีไม่ใช่น้อย เช่น พระพุทธบิดา และ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะลบหลู่พระอรหันต์สาวก หรือนิกายเถรวาทที่มีอุดมคติที่การมุ่งสาวกยาน เพราะพระโพธิสัตว์มหายานเองก็ถูกเอามาล้อ เช่นกัน เช่น พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ทั้งนี้ก็เพราะจุดมุ่งหมายเดียวกันนั้นเอง คือให้วิมลเกียรติคฤหบดีตอบคำถามชนะพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ เพื่อให้กำลังใจฆาราวาสว่าถ้าตั้งใจปฏิบัติก็เหนือกว่าพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ได้ซึ่งมหายานถือว่าเป็น พระโพธิสัตว์ที่ทรงปัญญาที่สุดในหมุ๋พระโพธิสัตว์ ที่นี้ถ้าดูสูตรนี้นอกจากเนื้อหาทางปรัชญาแล้วจะเห็นว่าเน้นวิพากษ์ความคิดที่ผิดในยุคนั้น เช่นฆาราวาสปฏิบัติธรรมสู้พระไม่ได้มีแต่พระเท่านั้นที่จะบรรลุนิพพานได้ซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ ในยุคนั้นเพราะความคิดเช่นนี้ทำให้พุทธบริษัทที่ไม่ใช่ภิกษุเลิกปฏิบัติธรรมและทำเพียงแค่ถวายทานเพื่อหวังไปสวรรค์เท่านั้น ไม่สนใจเรื่องความหลุดพ้น นิพพานอีก จะเห็นว่านิกายเซนเองก็มุ่งวิพากษ์แนวคิดนี้ เช่น มีคนยกท่านฮุยเหนิง(เว่ยหล่าง)ขึ้นมาจะเห็นว่าท่านเป็นฆาราวาสที่ไม่รู้หนังสือแต่ก็สามารถปฏิบัติธรรมเหนือท่านชินเชาที่เป็นพระและเป็นนักวิชาการทางพุทธศาสนาได้ นอกจากนี้ยังมุ่งให้ความเคารพสตรีซึ่งถูกสังคมอินเดียกดขี่มา โดยตลอดโดยในสูตรมีการให้นางฟ้าซึ่งเป็นสหายธรรมกับวิมลเกียรติคฤหบดี สามารถแสดงภูมิธรรมให้พระสารีบุตรเถระเห็นแล้ว แสดงความนับถือเพื่อชี้ว่าสตรีก็สามารถเดินไปบนหนทางธรรมได้ปฏิบัติได้ไม่แพ้บรุษหรืออาจจะเหนือกว่าได้ นอกจากนี้ยังมีการล้อโดยเสกพระสารีบุตรที่เป็นชายให้เป็นหญิงให้รู้จิตใจความรู้สึกสตรีบ้าง อันนี้เป็นความทะเล้นของกวี จุดมุ่งหมายคือให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ผู้ชายควรเอาใจผู้หญิงมาใส่จตัวเองบ้างก่อนที่จะตัดสินว่าสตรีเป็นเพศที่โง่ที่อ่อนแอกว่าตามคติอินเดียยุคนั้น เราจะเห็นประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งในสูตรมหายานหลายสูตรเช่นสูตรที่มีชื่อว่าศรีมาลาเทวีสิงหนาท ซึ่งให้พระราชธิดาของพระเจ้าปเสนทิโกศลแสดงธรรมได้อย่างลึกซึ่งไม่ต่างจากพระอรหันต์(สูตรนี้จะเห็นว่าแนวคิดยังเป็นแบบเถรวาทค่อนข้างมาก) หริอสูตรที่มีชื่อว่าสัทธรรมปุณฑริกสูตรที่ธิดาพญานาคสามารถปฏิบัติธรรมจนได้รับพุทธพยากรณ์ว่าในอนาคตจะตรัสรู้เป็นพระพุททธเจ้าอีกพระองค์ได้ คือจะชี้ว่าไม่ใช่แค่สตรีแต่ยังเป็นเดรัจฉานด้วยแต่ก็สามารถปกิบัติธรรมจนสำเร็จได้ถ้ามีความตั้งใจนับประสาอะไรกับมนุษย์ที่เป็นสตรี

    ทั้งนี้เพราะมหายานเชื่อในธรรมชาติแห่งพุทธะ มันไม่ได้ขึ้นกับเพศ การถือศีลห่มเหลือแล้วจะเข้าถึงธรรมะ เข้าสัจจะมากกว่ากัน เพราะทุกคนเท่าเทียมกันในสายตาพระพุทธเจ้าทุกคนต่างมีพุทธภาวะอันเป็นศักยภาพที่จะตรัสรู้ได้เท่ากัน นี่คือสาระของสูตรนี้

    นอกจากนี้ในมิลินทปัญหา พญามิลินท์ได้ถามปัญหานี้กับพระนาคเสนว่าฆาราวาสสามารถปฏิบัติธรรมได้เหนือกว่าพระได้หรือไม่ สามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ พระนาคเสนตอบว่า ข้อนี้ไม่มีข้อที่ต้องสงสัยพระพุทธเจ้ายืนยันสิ่งนี้ ตรงนี้จะเห็นว่าทางเถรวาทเห็นตรงกันกับมหายาน อย่างไรก็ตามพระนาคเสนได้ตอบต่อว่า แต่โดยปกติจะเป็นการยากกว่าพระ ทั้งนี้เพราะฆาราวาสเหมือนคนที่นั้งเรือที่เต็มไปด้วยสัมภาระจึ่งมีวามเป็นไปได้ที่จะพายได้ถึงฝั่งช้ากว่าพระมากกว่า ต้องอาศัยปัญญา ความขยันมากกว่าในการไปให้ถึงฝั่ง (ขอตัดประเด็นฆาราวาสถ้าบรรลุธรรมให้บวชทันทีไม่งั้นจะตาย ซึ่งพบในมิลินทปัญหาที่เดียวและถูกนักวิชาการหรือผู้รู้นิกายเถรวาทเราวิพากษ์อย่างนักว่าเป็นการแต่งเติมเข้าไปเพราะมิลินทปัญหาไม่ได้แต่งโดยคนเพียงคนเดียวจากเค้าโครงเรื่องจริง สังเกตจากสำนวนที่ต่างกันราวฟ้ากับดินในตัวคัมภีร์ที่ชี้ว่ามีคนหลายคนแต่งตามยุคสมัยจนเป็นฉบับปัจจุบัน)

    นั้นเอง ซึ่งดูเหมือนพระเจ้ายุคนี้จะไม่ต่างจากฆาราวาสเท่าไหร่

    ส่วนประเด็นอื่นที่เป็นความเชื่อความเห็นของแต่ล่ะบุคคลไม่ขอพูดนะครับขอพูดถึงแต่จุดประสงค์ของสูตร นี้เพราะถ้าอ่านด้วยความเข้าใจจริงๆๆก็จะรู้ว่าจุดมุ่งหมายเขาคืออะไรไม่ควรจะใช้ความเข้าใจแบบผิวๆๆคิดเอาเองด้วยทิฏฐิในการวิพากษ์โดยปราศจากความเข้าใจที่แท้จริงนะครับ

    ผม รศ.ดร.สำเนียง เลื่อมใส ศูนย์สันสกฤตศึกษา ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ติดต่อโทร.081-250-8135
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  17. ksudaporn

    ksudaporn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +3
    เรียน สมาชิกเวปพลังจิตทุกท่าน

    ดิฉันเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์สำเนียง อยากจะเเจ้งให้สมาชิกทุกท่านทราบว่า ผู้ที่ใช้นามแฝงว่า "มหาวัด" นี้ มิใช่ รศ.ดร.สำเนียง เลื่อมใส เขาคือบุคคลที่แอบอ้าง ดิฉันอยากขอให้ คุณ "มหาวัด" หยุดการกระทำที่สร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้อื่นเสีย

    จึงเรียนมาให้สมาชิกทุกท่านทราบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...