ผมได้รับหน้าที่มาจากเบื้องบนให้มาทรง ตอนอายุ 15 ปีตอนนี้ก็ใกล้แล้วอยากจะขอคำแนะนำจาก.

ได้เห็นรายการโทรทัศน์ เรื่องจริงผ่านจอ ออกอากาศ 1 พฤศจิกายน


เป็นกรณีคนทรง ที่อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เสียจริต ปีนขึ้นไปยังหลังคาเรือน และกระทำการอันน่าหวาดเสียวต่อผู้พบเห็นต่างๆ นาๆ

กระทั่งได้กระโดดลงมายังเบื้องล่าง และบาดเจ็บสาหัส


โดยก่อนหน้าคนทรงจะปรากฏอาการเช่นนั้น เขาได้มีความผิดแผกจากสามัญของเขาหลายประการ ตามคำให้การของผู้ใกล้ชิด


และลงเอยดังที่กล่าวมาข้างต้น

 

จากรายการเรื่องจริงผ่านจอ เมื่อคืนวันพฤหัสที่ 1 พ.ย. อีกเช่นกัน ตอนตั้นรายการ มีการพาไปชม ร่างทรง ทางใต้ ผมจำไม่ได้ว่า อำเภออะไร มีอาชีพเป็นหลักแหล่งมั่นคง แต่ก็ได้สละเวลาส่วนตัว มาช่วยงานศาลเจ้า ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ของชาวจีน ซึ่งสืบทอดกันมากว่า 100 ปี ครับ

คุณที่ร่างทรงที่ทางรายการนำเสนอ มีอาชีพ เป็นบุรุษไปรษณีย์ แต่ที่ต้องมาเป็น ร่างทรง เพราะ สวรรค์ลิขิต และคุณพี่ร่างทรงท่านนี้ก็ไม่ได้รับเงินทองแต่อย่างใด บางครั้งมีคนเดือดร้อน ให้ช่วยเข้าทรง รักษาโรค, ดูที่ทาง, ฤกษ์ยามตั้งเสาเอก และเจิมรถเก่ง ที่ซื้อมาใหม่ คุณพี่ท่านนี้ได้รับซอง อั่ง เปา แต่คุณพี่ท่านนี้ก็นำเงินในซองคืนให้แก่เจ้าของ และขอรับไว้เพียง อั่ง เปา (ซองแดง) พอแต่เป็นพิธีเท่านั้น... ผมขออนุโมทนา ....สาธุ

 

เจ้าของกระทู้นะ เลิกไปสนใจเรื่อง ทรงเจ้าเลย อย่าให้ความฝันของแม่เมื่อสิบปี หรือ ยี่สิบปีก่อน มากำหนดชีวิตเราวันนี้
อย่าให้คำของหมอดูมากำหนดชีวิตเราวันนี้
เราเป็นนายตัวเรา ถ้าจะช่วยเหลือคน ก็ต้องช่วยเหลือตนเองให้ดีให้พร้อม ก่อน
แล้วเราดีเราพร้อมแล้วจึงจะช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกว่า ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่นได้ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า

เราต้องดูว่า ทุกวันนี้ ปัญหาหลักของผู้คนในประเทศไทยคือ ความเชื่อแบบผิดๆ ส่งผลให้ ไม่เดินหน้าหาเหตุที่ถุกต้อง
อยากรวยกัน ก็ไปขอจตุคาม อยากหายป่วยก็ไปบนบาน
เราเลิกได้แล้วพฤติกรรมแบบนี้ เราต้องใช้ปัญญาค้นหาสาเหตุ แล้วดับที่เหตุนั้น จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆในชีวิตได้นะ

อย่าไปยุ่งกับเรื่องเจ้า เอาเรื่องของคน พัฒนากันให้ดี ให้มีสติ ให้มีความรู้ ก่อน บ้านเมืองมันถึงจะเจริญ นี่ถ้ามาเพ้อเจ้อ แต่เรื่องทรงเจ้า ไม่ทำมาหากิน ไม่คิดพัฒนาคนรอบข้าง อีกหน่อยประเทศไทยก็คงจะกลายเป็น ประเทศด้อยพัฒนา ถึงขั้นนั้นกันเลย เพราะพลเมืองมันไม่หาสาเหตุอะไรกัน อึกอักมีทุกข์ ก็บอก ผีทำ เจ้าทำ
แล้วอย่างอื่นมันจะไปคิดแก้ปัญหากันเป็นไหม เอาวันเวลาเอาพลังจิตพลังใจมาหมกมุ่นกันแต่เรื่องเจ้า เรื่องผี

ควบคุมกันหน่อย ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็น วงจรอุบาต

 

พินิจร่างทรงโดยเบื้องต้น ถึงสิ่งที่มาทรง จากเครื่องเซ่นและวัตรปฏิบัติ


ที่นิยมเสพสำรับของเมา อาหารกายาคาวๆ หรือประกอบด้วยโลหิต

พร้อมเรียกรับปัจจัยเป็นนิจ กิริยาไม่สงบเยือกเย็น


ไม่ชอบมาพากลนัก

 

ผมออกตัวก่อนว่า ผมยังไม่ได้เป็นร่างทรง และไม่ได้รับขันธ์ เป็นแต่เพียงได้สัมผัสญาณ และเคยมีประสบการณ์ถูกทรง ของผมท่านจะให้ถือศีลและกินเจทุกวันพระจีน ให้มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ให้ช่วยเหลือคนทุกข์ยากด้วยจิตที่เมตตา และเท่าที่ผมช่วยเหลือมาก็ไม่เคยได้รับเงินทองแม้แต่สลึงเดียวก็ไม่เคย แถมองค์ท่านยังคอยสอนและชี้แนะแนวทางปฏิบัติธรรม และบำเพ็ญภาวนาสมาธิ เพื่อความหลุดพ้น ด้วยครับ

 

...ดาบสองคม...คุณอย่าคิดว่ามีด้านดี ด้านเดียว เพราะหลายท่านที่เข้ามาตอบก็มีประสพการณ์มาแล้ว ทั้งนั้น ไม่ได้มีเพียงคุณ OPERHELP คนเดียวหรอกนะ ยังมีอีกมากมายเพียง แต่ว่าเขาจะสนใจมากน้อยเพียงใด ผมขอตั้งคำถามคุณ OPERHELP ว่าถ้าคุณจะเป็นร่างทรง คุณจะเอาเงินจากที่ไหนมาใช้จ่ายรายวันครองชีพคุณและครอบครัวคุณ เพราะคุณเรียนหนังสืออยู่เลย หรือว่าคุณจะทรงเพื่อแลกรับค่าเงินจากผู้ที่มาหาคุณหรือที่ให้คุณช่วยเหลือเขาครับ ถ้าเป็นอย่างหลังก็แสดงว่า คุณไม่ได้ช่วยคนจริงๆ แต่ช่วยเพื่อแลกกับเงินที่เขาจะให้คุณต่างหากครับ ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะช่วยคนจริงๆก็ตั้งใจเรียนให้เก่งๆ ทำงานให้ได้เงินมากๆ แล้วค่อยทรงก็ไม่สายหรอกนะ

ตามความคิดผม คำแนะนำของ คุณ108 ฤษี และคุณพิชญ์ และหลายท่าน เป็นคำแนะนำที่ดี ใช้พิจารณาญาณดู เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณว่าคุณสัมผัสได้เป็นแบบนี้ แต่อีกคนสัมผัสอย่างเดียวกัน แต่คิดออกมาไม่เหมือนกันก็มี แล้วใครจะเป็นคนตัดสินใจว่า คนนี้ถูก คนนั้นถูก เหมือนดังที่พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้ว่า...อย่าอวดอุตริมนุษยธรรม...รู้ได้เฉพาะตน...(อย่าคิดว่าจะรู้เหมือนกันหมดทุกอย่าง)....

สาธุ...ขออนุโมทนากับความคิดดีๆทั้งหลายท่านที่ได้แนะนำเพื่อนมนุษย์โลกใบนี้....

ขอถามหน่อยว่าถ้ำที่คุณไปที่ไหนครับ อยู่ บ้านอะไร ตำบลอะไร อำเภออะไร จังหวัดอะไร จะบอกได้ไหม...

 

อนุโมทนาในทุกท่าน ที่ตั้งใจปฏิบัติทางธรรมแท้ และเผยแผ่แก่ผู้อื่น

 

พลังงานที่จะมาทรง มาแฝง มาแทรกสังขารนั้น มีได้หลายระดับ


ในชั้นที่น่าหวั่นใจคือ ชั้นที่ไม่ค่อยดี มักแอบอ้างว่าตัวมาจากที่สูง


เราจึงว่า ให้พิจารณาดีๆ ถึงข้อเรียกร้องหรือวัตรปฏิบัติ รวมถึงกิริยาท่าทีของสิ่งนั้นเป็นอย่างไร


บางจำพวกเก่งกาจพอดู บังได้ทั้งตาเนื้อและตาทิพย์ สร้างมายาภาพ
มายาจิตหลอนเจ้าของร่างได้ฉกาจ


กระทั่งหลงผิดคิดว่าสิ่งที่มาแฝงตนนั้น เป็นดังที่อ้าง


มีไม่ใช่น้อยที่กู่ไม่กลับ น่าเสียดาย

 

น้อง operhelp ครับ พี่ถามจริงๆ นะจากใจเลยว่า อยากเป็นหรือร่างทรง

ไม่ใช่ว่าพี่ไม่เชื่อนะ พี่ก็รู้ก็เห็นมาเหมือนกัน แฟนพี่ก็เป็นเค้าไม่อยากเป็น อยากที่พี่ ๆ คนอื่นเค้าบอกแหละ เป็นร่างทรงไม่ใช่เรื่องสนุกนะครับ พี่ได้รับคำสอนจากร่างทรง พระพิฆเนศท่านหนึ่งว่า

"ป้าไม่สนับสนุกให้คนมาเป็นร่างทรงหรอก มันทรมาน ป้าอยากให้เป็นคนเหนือคนมากกว่า"

ถ้าชะตาน้องต้องเป็นร่างทรงจริง ๆ หละก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ถึงเวลาเทพเค้าก็จะจ้ดการทำให้น้องรู้เอง

ยังไงก็อย่าพึ่งไปคิดอะไรมากครับ นั่งสมาธิกรรมฐาน เยอะ ๆ ขอให้โชคดีครับ

 

กระทู้เก่าของปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ จขกท. ไม่อยู่นานแล้วละ

 

ไปตามนีเลย บอร์ดร่างทรง ม้าขี่ล้วน ๆ สนใจอะไรไปดูได้
ทุกคนกพร้อมตอบนะ เพราะส่วนมากคนในเวปนี้ที่เป็นม้าขี่
เป็นร่างทรง รวมถึงพี่ด้วยก็รับขัน 108 มากันหมดแล้ว เลย
พอจะให้คำปรึกษาได้นะ

http://www.yimwhan.com/board/board.php?user=auto

 

ก็ดีนะ ได้ทำบุญกัน ได้ช่วยเหลือกัน เมื่อ เห็นว่าได้ทำบุญกัน ได้ช่วยเหลือกัน ไม่ว่าวิธีนั้นจะเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามกัน เรียกว่า ติดดี


ติดดี จริงๆ มันก็ไม่เสียหายอะไร คนมีทุกข์มีร้อนมา หาที่พึ่งไม่ได้ หาที่แก้ปัญหาได้ตรงใจไม่ได้ จะให้นิ่งๆวางเฉยอย่างพุทธะ มันก็เหลือกำลังจะเข้าใจยอมรับ การจะเสียเงินเสียทองไปบ้าง เพื่อแรกกับความเข้าอกเข้าใจ ความสะบายใจ ความได้คลายทุกข์ ทั้งที่ปรกกฏได้จริง และยังไม่ปรากฏ แต่ขอให้มีความหวัง ก็ทำให้มีกำลังใจ ที่จะก้าวกันต่อไป ก็น่าสรรเสริญอยู่

สำหรับคนทรง ท่านย่อมเชื่อในเรื่อง วิญญาณ ดวงจิตเทพ อยู่อย่างหนักแน่น ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่า ท่านต้องเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด หรือ อย่างน้อยก็ชีวิตหลังการตาย และชีวิตหลังการตายแล้วกลับมาเกิด สรุปคือ เชื่อเรื่องสังสารวัตรประมาณหนึ่ง

เราก็เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาประมาณหนึ่ง และเชื่ออีกว่า ในชาติใหม่ วิถีแห่งกรรม ความคิด กริยา นิสัย ทุกอย่างจะคงเดิม มีรูปแบบคล้ายเดิม เปลี่ยนไปบ้างตามวิบากกรรมที่เคยทำมา แต่ส่วนที่เป็นตะกอนนั้น เหมือนเดิมทุกประการ และ หนึ่งในตะกอนนั้น คือ ทิฏฐิ

ทิฏฐิ หรือ แนวคิดนี้ จะเป็นตัวจักร กงกรรม กงเกวียน ทำให้ชาติใหม่ ต้องตกอยู่ในขอบเขต ทิฏฐิ อย่างเดิม ไม่อาจปฏิเสธ ทิฏฐิ เดิมได้เลย เพราะมันจะมาอาศัย มาเตือนให้กระทำ มาย้ำให้คิด แล้วปรุงให้ถือมั่น ยึดมั่นอย่างเดิมในที่สุด

ก่อนจะกล่าวต่อไป อยากลองให้ท่าน ตั้งคำถาม ดูสักหน่อย ว่า กี่ครั้ง ที่ท่านได้ช่วยเหลือ ผู้ตกทุกข์เหล่านั้น ได้ตรงตามความเป็นจริง ได้เห็นบุพกรรมที่เป็นจริง มีกี่ครั้ง ที่ทำได้เพียงแค่ปลอบใจ มีกี่ครั้งที่ตัวท่านทรงเจ้าทุกครั้งที่กระทำกิจ มีกี่ครั้งที่ไม่อาจทรงเจ้าได้ เหตุเพราะเหนือย ไม่มีเวลา สถานที่ไม่อำนวย แต่คนที่มีทุกข์นั้น ก็มาหา ไม่ได้ขาดสาย ไม่ได้เลือกเวลา และมีกี่ครั้ง ที่จำต้องปัด ผลัดไปก่อน ท่านจักเห้นว่า ความแท้เที่ยง มันไม่มี เรากล่าวว่า ความแท้เที่ยงมันไม่มี ไม่ได้กล่าวว่า มันไม่เกิด ความวิเศษเกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา


ดังนั้น เมื่อมีผู้มีทุกข์ เข้ามาหา ท่านย่อมใช้ ทิฏฐิ นั้น ถ่ายทอดออกไป ให้กับผู้ตกทุกข์ได้ยากเหล่านั้น ทำให้พวกเขา เข้ามาในข่ายทิฏฐิของท่าน และแน่นอน เมื่อผ่านพ้นภพชาตินี้ไปแล้ว ชาติใหม่ ก็ย่อมกลับมาสู่ข่าย ทิฏฐิเดิม กลับมาแก้ปัญหาอย่างเดิม มาได้รับการแก้บ้าง ได้รับเพียงการปัดเป่าบ้าง มาได้รับเพียงการปรับทุกข์บ้าง ไม่ได้แก้ปัญหาลงไปให้มันขาด ให้มันสิ้น อย่างน้อยก็ตัวท่าน ที่เกิดชาติใหม่ ท่านย่อมกลับมา เป็นร่างทรงเหมือนเดิม หรือท่านจักกล่าวประกาศ ตอนนี้ว่า จะไม่เป็นร่างทรงอีกต่อไป ท่านกล้าประกาศสีหนารถบันลือ ได้หรือไม่ ย่อมไม่ได้ ย่อมยากเย็น ย่อมเข็นใจ นั้นแหละ ทิฏฐิ

การได้ช่วยเหลือคน นั้นเป็นเรื่องดี การติดดี นั้นเป็นเรื่องน่าสรรเสริญ แต่ถ้าท่านประสงค์ จะติดดี อยู่เพียงแค่นั้น ท่านไม่เห็น ความทนทุกข์ ที่ท่านมี ที่ท่านเผยแผ่ให้คนอื่นมี ท่านยินดี หรืออย่างไร ท่านไม่เห็นภัย ในสังสารวัตร บ้างเลยหรือ ท่านไม่เห็นหรือ ว่ามันไม่จบ

 

ขอเตือนอย่างหนึ่ง....สำคัญมาก


ถ้ารับทรงมากๆจนถึงจุดหนึ่งไปหลงกิเลสที่มาจากมันเช่นเงินทอง ชื่อเสียง... บริวาร อาจจะนารีด้วย

พอจิตใจเกิดด้านมืดเพราะหลงกับสิ่งเหล่านั้น เทวดา พระก็เริ่มไม่ลงทรง เพราะใจก็ไม่บริสุทธิ์ กายก็ไม่บริสุทธิ์.... เรียกทรงก็ไม่มา

พอไม่มา ก็กลัวหน้าแตก... ก็ไปทำมั่วว่ามีองค์ทรง พูดจากโอ้อ้วด โป้ปดมดเท็จ เข้าสู่ด้านมืดเข้าไปอีก (ผิดศีลหนักกว่าเดิม) หลงหนักๆเข้า


กลัวจะไม่มีฤทธิ์เหมือนเดิมก็เริ่มไปเรียน คุณไสย์ ด้านดำ...

หลงทางมืดหนักเข้าไปอีก

ตายไปแทนที่จะได้รับบุญญาวาสนา.... กลับต้องไปลงนรกขุมล่างๆแทน


สิ่งที่คุณจะได้บุญบารมี นั้นเกิดจากการที่คุณช่วยด้วยเจตนาที่ต้องการช่วย

ถ้าช่วยเพราะจำนวนเงินที่ให้... ช่วยกี่คนมันก็ไม่ได้บุญ เพราะมันเป็นการซื้อขาย... บริการกันเท่านั้นเอง


ร่างทรงหลายๆคน พอเริ่มมีชื่อเสียง หมอดูหลายๆคนเริ่มมีเงินมีทอง หลุดจากวงโคจร กลายเป็นสิบแปดมงกุฎมากมาย..... หลุดไปวงอโคจรมากว่า


ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ มากับอำนาจอันยิ่งใหญ่ แต่ถ้าใช่มันผิดวิธี


นรกอันยิ่งใหญ่ก็จะรอคุณอยู่..

 

ผมก็เคยเห็นกับตา คืนก่อนวันที่พระธาตุบังพวนจะล้ม ลูกไฟสีส้ม 4-6 ดวงลอยช้าๆเหมือนกระสือยักษ์ ข้ามจากแม่น้ำโขงมาทางหนองคายไปทางพระธาตุบังพวนรุ่งขึ้นพระธาตุก็ล้ม(คืนนั้นฝนคกหนัก) พ่อ พี่ ผมก็เห็น แต่ท่านสี้นไปแล้ว Putao

 

-ร่างกายไม่ใช่ของเรา จะหวงและยึดติดร่างไปทำไม ถ้าเค้าอยากจะขอใช้ร่างเราเพื่อสร้างบารมี ก็ให้เค้าไปเถอะครับ มันเป็นกุศลด้วยครับ-
-แต่เราก็ต้องบังคับจิตเราให้ได้นะครับเพื่อที่จะไม่หลงติดกับ อบาย การคิดว่าเราเป็นผู้วิเศษ ก็เป็นกิเลสที่บั่นทอนจิตใจเราครับ เพราะฉนั้นบังคับจิตให้เราให้ได้อย่าไปหลงผิดเหมือน ร่างทรง ที่หลงงมงายว่าตนมีอำนาจบารมี มันจะทำให้ไม่สามารถพบนิพพานครับ-
-มันเป็นดาบสองคมครับควรใช้ในทางที่ถูกต้องนะครับถึงจะดี