พระอาจารย์มิตซูโอะ ไม่ได้สึกที่วัดชนะ !

เจ้าคณะภาค 1 ยืนยัน 'พระมิตซูโอะ' ไม่ได้สึกที่วัดชนะฯ ด้าน 'สำนักพุทธฯ' รอเจ้าคณะตำบลไทรโยค พิจารณาเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนารามแทน 'พระมิตซูโอะ'


กรณีการตัดสินใจลาสิกขา (สึก) ไปอย่างกะทันหัน ของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก พระนักเทศน์ พระนักเขียน ชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่บวชอยู่ในประเทศไทยมานานถึง 38 ปี ทั้งยังเป็นเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่ชา สุภัทโท พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดัง แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก และยังทิ้งปมปริศนาถึงสาเหตุในการลาสิกขา และสถานที่ของการลาสิกขาไว้ด้วยนั้น



ล่าสุด 12 มิ.ย. 56 พระราชวิสุทธิเวที (สายชล ฐานวุฑฺโฒ ป.ธ.9) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และเจ้าคณะภาค 1 กล่าวภายหลังร่วมพิธีฉลองเปรียญธรรมและมอบทุนการศึกษาประจำปี 2556 สำนักเรียนวัดพรหมวงศาราม ว่า ตามที่สื่อต่างๆ ระบุว่า อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ มาลาสิกขาที่วัดชนะสงคราม และตนเป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และจากการสอบถามเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และพระภายในวัดก็ยืนยันเช่นกันว่า อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะไม่ได้มาลาสิกขาที่วัดชนะสงครามแน่นอน



ซึ่งเรื่องนี้ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลางก็สอบถามมาเช่นกัน และตนได้ยืนยันไปว่า เรื่องการลาสิกขาของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะที่วัดชนะสงครามนั้นไม่เป็นความจริง และโดยส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จักอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะด้วย อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นไปได้ว่าอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะไปลาสิกขาในวัดที่มีชื่อคล้ายกับวัดชนะสงคราม จึงทำให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดกันไปได้



ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องการลาสิกขา ของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะนั้น ทางทีมงานรายการธรรมประทีป ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดยานนาวา ได้มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าวทันที หลังจากที่ได้เชิญอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ มาออกรายการสดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยัง นางพรรณทิพา หลักเสลา ผู้ประสานงานรายการธรรมปทีป โดยนางพรรณทิพา กล่าวว่า ในวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะ ได้มาออกรายการสดที่วัดยานนาวาในเวลา 16.00 น. โดยที่ทางรายการไม่ทราบมาก่อนว่าหลังจากนั้นท่านจะไปลาสิกขา ดังนั้นการออกรายการเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. จึงถือว่าเป็นการเทศน์ครั้งสุดท้าย โดยในวันนั้นท่านเทศน์ในเรื่องเกี่ยวกับห่วงความสงบสุขในประเทศไทย



ช่วงเย็นวันเดียวกันได้มีกระแสข่าวถึงสาเหตุการลาสิกขาของอดีตพระอาจารย์มิตซูโอะว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะต้องลาสิกขาไปนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะไม่พอใจการบริหารงานของคณะกรรมการมูลนิธิที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เน้นไปในเชิงพุทธพาณิชย์มากจนเกินไป ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยังมูลนิธิมายาโคตมี ซึ่งเป็นหนึ่งในมูลนิธิที่อดีตพระอาจารย์มิตซูโอะตั้งขึ้น ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวในตอนนี้ แต่ทางมูลนิธิมายาโคตมีจะมีการชี้แจงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวให้ทราบอีกครั้งในเร็วๆ นี้





ข่าว : คมชัดลึก

alittlebuddha.com Homepage of Wat Thai Las Vegas U.S.A.

 

เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล เหตุดีก็ต้องได้รับผลดี เหตุชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว มันจะสูญหายไปไม่มี ใครทำสิ่งใดไว้ที่ทำให้ท่านพระอาจารย์ต้องลาสิกขาก็คงรับรู้ในผลที่ตนเองกระทำนั้น

 

ขออภัย และขออนุญาติครับ

ท่านไปท่านยังไม่ให้กระทบใครเลย

เรื่องของกรรมจัดสรรแน่นอนครับ.

 

ทำไมจะต้องไปรู้ด้วยล่ะว่าท่านไปลาสิกขาบทที่วัดไหน ตลอดที่ท่านอยู่ในเพศบรรพชิต ท่านก็สร้างแต่สิ่งดีงามเจริญตามคำสอนของพระพุทธองค์ และช่วยจรรโลงศาสนาพุทธ ตามแบบพุทธบริษัทที่ดี

 

นั่นน่ะสิ

 

ครับ พุทธพาณิชย์ ยังไงละครับ พระหลายท่านตายไปก็ตกนรกเพราะเรื่องนี้แหละครับ ผมขอกราบพระอาจารย์มิตซูโอะ ครับ ท่านอยู่ ท่านทำ และท่านปลง จนในที่สุด ท่านก็ยังแพ้ภัยพวกพุทธพาณิชย์ ท่านคงลำบากใจจนทนไม่ไหว ขอความดีจงรักษาคนดี ขอคนชั่วจงพบกับกรรมที่ตัวเองก่อไว้ครับ

 

พุทธพานิชแล้วไง ไม่พอใจระบบวัด ก็ออกมาเป็นพระป่า ไป อยู่สันโดดก็ได้นิ ไม่เห็นจะต้องสึกเลย คำว่าไม่พอใจไม่มีในพระอรหันต์ ถ้าคนเราบรรลุแล้วไม่สึกแน่นอนและยอมตายในผ้าเหลือง ไม่สึกเพราะถ้ารู้แล้ว ปฏิบัติจนเห็นกะตา นิพพานมีจริง ไม่ใช่ฟังคนเขาว่า หรือตามหนังสือ.......ก็ไม่น่ากล้วหรือห่วงอะไร น่าจะอยากตายไปนิพพานเร็วๆด้วยซ้ำรู้สึกผิดหวังมากๆกับการลาสิกขาของท่าน

ลองจินตนาการดูว่า คนที่ไม่เคยเชื่อว่ามีผี มีโลกหน้า คิดว่าคนเราตายแล้วตายเลย คิดว่าคนที่นั่งสมาธิแล้วอ้างว่าเห็นนุ้นนี้ เพราะคิดไปเอง หรือสมองมันสั่งการไม่ค่อยดีเวลามันนั่งหลับตา....... ดิฉันเคยเชื่ออย่างนั้นมาตลอดจนคนที่เรารักเสียชีวิต ก็มีคนแนะนำให้ลองอ่านธรรมะของท่านมิตซูโอะ เราก็รู้สึกดีขึ้นเลื่อมใส ว่า โอ้ขนาดคนระดับประเทศพัฒนาวิทยาศาสตร์อย่างญี่ปุ่นยังเชื่อเรื่องพวกนี้ มันคงจะจริงนะ แล้วทีนี้เป็นไง คนที่เราเคารพ เชื่อว่าขนาดคนระดับเค้า ระดับญี่ปุ่นบวชมาหลายพรรษายังมาสึกได้ แล้วอย่างนี้มันจะหมายความว่าไง เรายังจะเชื่ออยู่ว่าวิถีพุทธ คือทางออกที่แท้จริงให้แก่ผู้มีทุกข์ นิพพานมีจริง หรือ? ทำไมคนระดับท่านมิตซูโอะยังล้มเลิก? แล้วมันจะเหลืออะไรสำหรับคนอย่างเรา ว่าอะไรจริงไม่จริง จะเอาอะไรยึด?

 

อ้าว..แล้วใครว่าท่านเป็นพระอรหันต์ล่ะครับ.

 

หลวงพ่อพระมิตซูโอะ ท่านเป็นศิษย์เอก หลวงพ่อชา เลยนะคะ เคยเผลอนึกว่าเป็นอรหันต์ มันทำให้ครูบาอาจารย์ท่านเสียด้วย

 

ทึกทักกันไปเองจริงๆในเรื่องสภาวะธรรมของครูบาอาจารย์ เรื่องแบบนี้เราพยากรณ์กันไม่ได้หลอก ถ้ายังเข้าไม่ถึงสภาวะธรรมนั้นๆ ถ้ามาถึงจุดอิ่มตัวและอ.จมิตซูโอะจะสึกไม่ใช่เรื่องแปลกเลยจริงๆ แต่เชื่อว่าเค้าเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง เป็นคนเรียบร้อยเชื่อฟังครูบาอาจารย์ มีระเบียบวินัย เป็นชาวพุธที่ดีมากๆคนหนึ่งเลยทีเดียว เป็นผู้ศึกษามาดีในแบบที่ได้ฝึกฝนมา

 

บรรพชิต หมายถึง ผู้เว้นทั่ว : เว้นจากอกุศลโดยประการทั้งปวง

ฆราวาส หมายถึง : การอยู่ครองเรือน


ออกจากบรรพชิตมาเป็นฆารวาส ถ้าไม่เป็นเพราะบรรพชิตทำสิ่งที่ฆารวาสทำไม่ได้ ไม่งั้นจะออกมาทำไมจริงไหม? ก็รอกันดูต่อไป..... บวช 37 พรรษา อ้างสึกเพราะอยากไปรักษาตัว หรือ โปรดญาติที่ญี่ป่น เป็นบรรพชิตไปก็ได้นิ ฟังไม่ขึ้น และไปแบบไม่บอกไม่กล่าวเงียบๆ ถ้าไม่สึกมาเพราะจะได้ทำแบบฆารวาสได้ จะสึกออกมาทำไมจริงไหม

 

ท่านอาจารย์มิตซูโอะที่ได้ยินท่านเป็นศิษย์รุ่นแรก

ของหลวงปู่ชา ชื่อเสียงทางด้านลบผมไม่เคยได่ยิน

มีแต่ได้ยินทางด้านที่ดีจากทางดำเนินที่ท่านปฎิบัติ

ช่วยจรรโลงเผยแผ่ สืบทอดข้อวัตรปฎิบัติประเพณี รูปแบบ

ที่เห็นเน้น เรียบง่าย สะอาด สงบ ในส่วนตัวท่านลาสิกขา

ก็เป็นที่น่าเสียดาย แต่ท่านมีเหตุผลของท่าน ความคิด

ท่านอยู่ในสถานะไหนก็จะมีแต่จรรโลงพระศาสนาครับ.

 

อ้าว!..เจ๊..ไหงเหมือนเพ่งโทษงั้งล่ะ

ก็นั่นมันตัวของเขาน่ะ..จะไปอยากให้

เขาเป็นแบบที่เราคิดหรือเจ๊..ถ้าเขาจะ

ไปทำอะไรแบบฆารวาสก็เรื่องของเขา

เพราะขณะนี้เขาเป็นฆารวาส..แต่ถ้าเขา

มาทำในเพศบรรพชิตนี่สิ..จะตำหนิหรือติเตียน

จะไม่ขัดเลยครับ..ส่งเสริมอีกต่างหากครับเจ๊.

 

DuchessFidgette เพลาๆหน่อยเรื่องส่วนตัวเค้า เราต้องเคารพในการตัดสินใจ

แต่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไว้นั้น เราอนุโมทนา

 

เสียความรู้สึก คือ พูดตามตรงพระอรหันต์ที่ดิฉันเห็นส่วนมาก กลับเป็นผู้ไม่ค่อยเปิดเผยตัว อยู่อย่างสมถะ ไม่ทำพัฒนาทาโลกแบบใหญ่โต เป็นข่าวนู้นนี้ ท่านเหล่านี้ เราเคารพ ต่อไปนี้ เคารพพระต้องดูให้แน่ใจว่าเป็นพระวิปัสสนา มิใช่พระนักพัฒนาวัตถุ

 

คุณยึดติดกับท่านมากไปหรือเปล่าครับ การที่ท่านลาสิขาไปมันไม่ได้ทำให้อะไรเลวร้ายอย่างที่คุณว่ามาเลย นอกจากคุณจะยึดติดมากเกินไป

 

นี่จริงๆแล้วข่าวก็แจ้งมานะครับว่าท่านไม่ได้สึกที่วัดชนะฯ ทั้งๆที่ข่าวต่างๆตลอดจนหนังสือที่ออกมาจากวัดสุนันทวนาราม วัดของท่านก็บอกว่าท่านสึกที่วัดชนะฯ

ทำไมไม่ฉุกคิดกันบ้างเหรอว่า ท่านอาจไม่ได้สึกจริงก็ได้ ..... หลักฐานก็ไม่มี รูปภาพก็ไม่มี แม้แต่ท่านเจ้าคุณวัดชนะฯ ที่อ้างว่าท่านสึกให้พระอาจารย์ท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นข่าวลวง ท่านไม่ได้สึกให้ ยังจะมีการตรวจสอบกันอยู่.....

แต่ถึงแม้ว่าท่านจะสึกจริง จะสึกวัดใหนก็ตาม มันก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านสึกก็ไม่ได้หมายความว่าท่านตายจากมรรคผลนิพพานสักหน่อย ท่านอาจปฏิบัติต่อในเพศฆราวาสก็ได้ ท่านไม่ได้สร้างความเสียหายว่าไปแต่งงาน อะไรสักอย่าง....ก็แค่ท่านสึก เท่านั้นเอง.....

เรื่องพยากรณ์ว่าท่านเป็นพระอรหันต์นี่ท่านก็ไม่ได้พูดว่าท่านเป็น แม้หลวงปู่ชาเองท่านก็ไม่ได้พูดว่าท่านเป็น ไอ่เราพากันคิดว่าท่านเป็น ท่านจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็มีพระอรหันต์ด้วยกัน ตัวท่าน กับพระพุทธเจ้า เท่านั้นหละที่รู้ชัด.....เรื่องการพยากรณ์การเป็นพระอรหันต์นี่เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าท่านเท่านั้น เราอย่าไปทำหน้าที่แทนพระพุทธเจ้าท่านครับ....

 

ไม่เห็นยากเลยเรื่องนี้ อีกหน่อยสถานปฏิบัติธรรมที่ญี่ปุนเปิดมีการอบรมกรรมฐาน ก็จะได้เห็นคุณมิตซูโอะ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยจริงๆ บางทีก็คิดมากกันไปเอง บางทีอาจจะปลุงแต่งกันเกินไป

 

ท่านจะเป็นพระอรหันต์หรือไม่ ตอนนี้ไม่ขอตอบ แต่ที่ทราบท่านเลยพระสกิทาคามีไปแล้ว ส่วนปั้นปลายท่านจะปลงทุกอย่าง และท่านจะเจริญรอยตามครูอาจารย์ของท่าน

ผมทำงานกับคนญีปุ่นมาหลายที่ เขาใจวัตนธรรมอย่างหนึ่งที่เขาเป็นคือ ความรับผิดชอบ ที่เคร่งครัด ภาระใดๆกิจการใดๆงานหน้าที่ใดๆ เมื่อเขาเป็นประธานหรือผู้ดูแลแล้ว หากผิดพลาดเสียหายอย่างไร เขาจะแสดงสปีริท มีความรับผิดชอบอย่างดีเยี่ยม ที่แบบคนประเทศไหนก็ทำไม่ได้เท่าคนญี่ปุ่น

ผมไม่ขอกล่าวอะไรที่ลึกลงไปมากกว่านี้ แต่ก็เคารพและอนุโมทนาในการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของท่านพระอาจารย์ เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลง เพื่อจะได้หยุดวงจรแห่งบาบกรรม ให้ดับลงไปครับเพราะนับแต่นี้ไป จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพระอาจารย์อีกแล้วครับ

และด้วยผลบุญและความดีงาม ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระอาจารย์ ผลที่ดีที่หนุนนำให้พระอาจารย์เจริญก้าวหน้างอกงามไพบูลย์ยิ่งๆขึ้นไปจนที่สุด ย่อมเป็นผู้ห่างไกลกิเลสได้โดยบริบูรณ์ เจริญรอยตามครูอาจารย์ของท่านได้สำเร็จในท้ายที่สุดครับ สาธุ

 

ฆราวาสที่ยังไม่บรรลุธรรม นี่ยุ่งวุ่นวายกันจริงๆ

ต้องกำหนดกะเกณฑ์ว่า พระอรหันต์ ต้องทำแบบนั้น พระอรหันต์ ต้องทำแบบนี้

ถามจริงๆ เถอะว่า หากจิตพ้นจากกิเลสเครื่องผูกมัดทั้งหลายแล้ว จำเป็นจะต้องทำตามที่ฆราวาสมีกิเลสเต็มอก เขาสั่งไหม?

"ท่าน ท่านต้องเดินสำรวมนะ"
"ท่าน ท่านต้องห่มผ้าสีเหลืองนะ"
"ท่าน ท่านพูดหยาบคาบไม่ได้นะ"
"ท่าน ท่านต้องรีบๆ ตายนะ"

ถามท่านสักคำหรือยัง ว่าท่านอยากทำหรือเปล่า?

จิตหลุดพ้นจากกิเลสแล้ว ถ้าพิจารณาแล้ว ไม่มีบุญกรรมสัมพันธ์กับผู้คนในยุคนี้ ไม่มีใครที่ต้องไปโปรด นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ ไม่ได้หรือไง?
ถ้าพิจารณาแล้ว กลุ่มดวงจิตที่มีกรรมผูกพันกัน ไม่ได้เกิดมาในยุคนี้ ยังต้องโดฆราวาสที่มีกิเลสเต็มอก บังคับ สั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้อยู่อีกหรือ?

มันคล้ายๆ กับประโยคคำพูดนึงนะ

"มนุษย์ขี้เหม็น เคี่ยวเข็ญเทวดา" เพียงแต่ในกรณีนี้ มันเป็นเรื่องของผู้ที่อยู่สูงกว่าระดับเทวดา