อยากเป็นทนายความครับ แต่ไม่อยากบาปและอยากรวย

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 18 มิถุนายน 2013.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    เนื่องจากตอนเด็กๆผมเห็นคนไม่ได้รับความยุติธรรมและโดนกดขี่ อีกทั้งมีคนมาขอความช่วยเหลือพ่อผมแต่พ่อผมช่วยไม่ได้เพราะไม่มีความรู้ทางกฎหมายพอ ผมจึงอยากช่วยคนเหล่า นี้ไม่ว่าจะผิดจะถูก ผิดก็ให้รับผิดตามสมควรไม่ใช่เพิ่มข้อหานู่นๆนี่ๆมาทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำ ช่วยคนในทั้งคดีอาญาและแพ่งให้เขาได้รับเงิน ให้ได้สิทธิและได้ประกันตัวตามกฎหมาย ฯลฯ

    แต่มีคนบอกว่ายังไงอาชีพนี้ก็ต้องทำบาปถ้าจะรวย

    ผมใช้เวลาศึกษาอาชีพนี้เทียบเคียงกับหลักบาปบุญและสัมมาอาชีวะ เนื่องจากทนายความเป็นอาชีพที่โกหกและต้องรักษาความยุติธรรมไม่งั้นจะเป็นเปรต แต่ก็ไม่อยู่ในอาชีพเข้าข่ายมิจฉาอาชีวะ

    แต่ไม่รู้จะทำยังไง กลัวบาปอยู่เหมือนกัน สาธุกับทุกธรรมทานนะครับ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เข้าใจถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับครับ...ท่านไผ่ พึงทราบว่า อาชีพทั้งหลายในโลก หากผู้ประกอบ มีกายทุจริต ๓ วจีทุจริต ๔ และทุจริตทางใจ๓ ..แล้วย่อมเป็นมิจฉาอาชีวะได้ทั้งนั้น ..

    กายทุจริต ๓คือ
    ๑. ปาณาติบาต การฆ่าสัตว์
    ๒. อทินนาทาน การลักทรัพย์
    ๓. กาเมสุมิจฉาจาร การล่วงประเวณี

    วจีทุจริต ๔คือ..

    ๔. มุสาวาท พูดปด
    ๕. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด
    ๖. ผรุสวาท พูดคำหยาบ
    ๗. สัมผัปปลาป พูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระ

    ทุจริตทางใจ๓ คือ...

    ๘. อภิชฌา เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
    ๙. พยาบาท คิดปองร้ายเขา
    ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิด


    แม้ในคนปรกติทั่วไปส่วนมาก ที่จะไม่ล่วงทุจริตได้ทั้ง๓ทางนั้นก็นับว่ายากมาก..หากท่านไผ่ประสงค์จะเป็นทนายความ ท่านก็พึงขวนขวายป้องกันตนจากทุจริตทั้ง๓นี้ให้ดี ..การเกี่ยวข้องกับสัตว์สังขารไรๆนั้นที่จะไม่เป็นบุญและบาปนั้น"ไม่มีเลย"..เมื่อท่านไผ่เป็นผู้ทราบสาระแห่งธรรมอยู่ มีความเกรงกลัวภัยแห่งบาป ท่านย่อมรู้จักการรักษาตนไว้ในอาการสุจริตได้ ในขณะเดียวกัน ท่านพึงขวนขวายในกิจแห่งกุศลที่ควรอันจะรักษาหรือตามคุ้มครองท่านให้พ้นจากวิบากที่ไม่ดีอันจะมีมาจากกิจแห่งการว่าคดีความ ซึ่งย่อมไม่พ้นจากทาน ศีลและภาวนาไปได้..

    ท่านไผ่ อาจตั้งเป้าว่า เมื่อสามารถยังชีพอยู่ได้จนถึงอายุ....ก็จะหันเหหาลู่ทางอาชีพอื่นทำต่อไป . ..อนึ่ง เมื่อคิดอยากรวยก็พึงรวยด้วยความชอบธรรม ไม่ขูดรีดเอาด้วยความโลภแต่อย่างเดียว การมีความชอบธรรมตั้งไว้ในใจเป็นกิจของกุศลที่มีปัญญาประกอบเมื่อท่านจะรับงานว่าความ พึงตั้งเจตนาว่า "เราจะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนเท่านั้น"..และมีจิตกรุณาแก่ฝ่ายปรปักษ์โดยปรารภว่า "แม้เราเอง ก็ยังละกิเลสไม่ได้ อาจมัวเมาประมาทขาดสติทำสิ่งที่ผิดพลาดนี้ได้เช่นกัน ไม่มีอะไรแน่นอนเลย.." เช่นนี้ จะปรามการมีโทสาติ โมหาคติ ลงได้บ้าง...และปรารภว่า "ด้วยการว่าความนี้ เราย่อมรักษาคนดีมิให้ถูกข่มเหง ส่วนคนผิดพึงสำนึกและกลับตัวได้ต่อไป"..

    เจตนา คือกรรม ท่านไผ่พึงพิจารณาตามควรครับ..
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ทนายไม่ใช่อาชีพที่โกหกนะครับ เข้าใจผิดแล้วละครับ
    ทนายเป็นอาชีพที่ให้คำแนะนำ และเป็นตัวแทนครับ

    บาปบุญ ให้ดูกรรมบถ๑๐ เป็นสำคัญครับ
     
  4. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ใช่ครับ ผมอยากช่วยคนที่ไม่ได้กระทำผิด ส่วนคนผิดก็ให้ได้รับโทษตามสมควรและสำนึกกลับตัวได้นี่
    แหละที่ผมปราถนาครับ

    อาชีพทนายความไม่ใช่อาชีพก็โกหกครับ ผมไม่ได้จะสื่ออย่างนั้นครับ ผมแค่หมายถึงบางครั้งต้องมีลูกไม้ใช้เพื่อให้ศาลเข้าใจผิดหรือเกิดความคลุมเคลือครับผม

    หรือวิชามารจากรุ่นพี่ผมคือ ก่อนที่จะขึ้นให้การรับฟังได้ต้องผ่านการสาบานตนก่อนไม่งั้นจะ....อะไรก็ว่าไปครับ แต่ทนายกับเขาคนนี้พากันไปบนที่วัดนู้นวัดนี้ว่าวันพรุ่งนี้ขอให้ข้าพเจ้าโกหกได้แล้วจะทำบุญด้วยอะไรก็ว่าไป ประมาณนี้ครับ.....ซึ่งการบนแบบนี้เป็นความเชื่อผิดๆชัดๆ ถึงแม้จะทำดีทำบุญให้ใครอะไรยังไงเราลืมกรรมไม่ดีได้ แต่กรรมไม่ดีนั้นมันไม่มีวันลืมเราหรอก !!!

    ประมาณนี้อ่ะครับผม ท่านๆทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  5. คนแก้กรรม

    คนแก้กรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +833
    ผมไม่ได้สบปรามาสคุณนะ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่เข้ามาว่าจ้างเราไปว่าความ แก้ต่างนั้น ไม่ได้กระทำผิดจริง เพราะเกือบร้อยทั้งร้อยผู้ต้องสงสัยจะบอกว่าไม่ได้ทำ(ถ้าไม่คาหนังคาเขาจริงๆ) เมื่อคดีความเข้าสู่กระบวนการแล้วการถอนตัวมันก็ยาก รู้ว่าเขาทำผิดจริง ก็กระอักกระอ่วนใจอีก เมื่อว่าความก็ต้องว่าให้ชนะคดีอีก แพ้หรือชนะ คุณก็ต้องรับเงินเขาอยู่แล้วมันยากตรงนี้แหละครับที่บอกว่าจะช่วยคนบริสุทธุิ์

    คุกตาราง เขาสร้าง ไว้แน่นหนา
    ใช่ขังหมู ขังหมา ก็หาไม่
    หรือว่าขัง คนชั่ว ทั่วๆไป
    คนดีดี ก็ขังได้ ถ้าใส่ความ

    แต่ยังไงผมก็เอาใจช่วย และโมทนาบุญกับจิตใจที่ดีงามของคุณ ที่คิดจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยครับ
     
  6. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เอ !! ยังไง ตกอักขระบางตัวรึเปล่า ท่านไผ่แก้ไขด้วยครับ

    สาธุๆ ท่านไผ่เข้าใจถูกดีแล้ว เพราะทนายคนนั้นตั้งตนไว้ในความวิบัติ นี่คงเพราะไม่มีบุญได้สดับพระธรรม เลยพาตนเข้ารกเข้าพงไปได้เห็นปานนี้ นี่ถ้าลูกความยินดีด้วย จะพากันเสียหายใหญ่โตทีเดียวเชียว น่าเห็นใจจริงๆ
     
  7. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    กด Like ให้สามที :cool::cool::cool:

    ขึ้นชื่อว่ากรรม แม้หวังดี ก็ยังต้องเสวยผลของกรรมนั้นได้ "ครั้งนั้น ตถาคตเกิดเป็นบุตรคนเลี้ยงโค ด้วยวันหนึ่งโคกระหายน้ำ แต่น้ำนั้นขุ่นเป็นโคลน ตถาคตจึง ดึงโคนั้นไม่ให้ดื่มกินน้ำนั้น จนพบแอ่งน้ำใสจึงให้โคนั้นได้ดื่มกินน้ำนั้น ด้วยกรรมเช่นนั้น แม้เล็กน้อย จึงส่งผลให้เราต้องทนกระหายน้ำ ให้เธอต้องไปตักเสียสองคราเช่นนี้"
     
  8. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ขอบคุณมากครับ ท่านddman ผมก็พยายามแนะนำเขานะว่าอย่าทำแบบนั้นเลยเขาบอกว่าไม่สนเขาสนเงินมากกว่า เรื่องศาสนาเขาไม่ถนัด ประมาณนี้ครับ เห็นใจเหมือนกันครับ
     
  9. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    เป็นทนายก็ทำความดีได้ครับ เป็นทนายอาสาช่วยคนที่ยากไร้ สิครับหรือเราวางอุเบกขาไงครับว่าเราทำคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ลูกความเล่าตรงอื่นเราไม่รับรู้ไม่แกล้งทำพยานหลักฐานเท็จ เวลาดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลเราก็ทำไปตามหน้าที่เรา ผมเห็นว่าอาชีพทนายความเป็นต้นธารความยุติธรรมซะด้วยซ้ำเพราะพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการจะต้องเป้นผู้รวบรวมสำนวนเพื่อเอาผิดแก่ผู้ต้องหา ส่วนทนายความมีหน้าที่ต้องค้นหาความจริงแก้ข้อผิดพลาดที่พนักงานสอบสวนอาจทำพลาดเพื่อประโยชน์ในความยุติธรรม ส่วนศาลแค่ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานจากสำนวนของพนักงานสอบสวนกับทนายเท่านั้นแล้วตัดสิน ผมเห็นว่าอาชีพนี้มีเกียรติ และไม่ตกนรกแน่นอน หากท่านทำไปโดยที่มีใจในการผดุงความเป็นธรรม ถ้าอาชีพนี้ตกนรก รัชกาลที่๕คงไม่ส่งพระองค์เจ้ารพีพระบิดากฎหมายไทยไปเรียนหรอกครับ อย่าเอาความเป็นแฟนตาซีมาบดบัง ที่สำคัญลองไปเรียนดูก่อนเรียนให้ได้ก่อนครับ แล้วจะรู้ว่ากฎหมายมีประโยชน์มาก ไม่ใช่ไปอ่านพวกนักธรรมะขี้เหม็นก็เหมาว่าอาชีพนี้บาปครับ ผมไม่รู้นะว่าคุณไผ่เรียนขั้นไหนแล้ว น่าจะลองเรียน สอบใบอนุญาตว่าความ สอบเนติ ให้ได้แล้วลงมาทำงานทนายดู อาชีพไหนก้ชั่วได้หมดครับ ปลัดอำเภอนี่ก็ชั่วได้ครับ บางทีชั่วกว่าทนายอีกเพราะนายสั่งโกงกินไม่โกงก็โดนบีบออกเพื่อนผมเป็นก็อึดอัด ที่สำคัญตั้งใจเรียน และเรียนให้รู้จริงก่อนนะครับแล้วค่อยพูด ไม่งั้นวิชาชีพเขาจะเสียหาย
    จำไว้นะครับดีชั่วอยู่ที่ตัวไม่ใช่วิชาชีพ
     
  10. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    เว่อร์ไปหรือเปล่าครับน้อง อาชีพไหนก็เลวได้เยี่ยงกัน น้องเคยรู้ไหม นักกฎหมายที่ดีคนนึงในเมืองไทยสามารถทำให้นักการเมืองเลวๆๆโดนประหารชีวิตได้เลยนะ รู้จักไหม ลองไปอ่านประวัติท่านดูจะรู้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกฏหมายอาชีพใด ก็มีความเป็นธรรมได้อย่ามาฝันเฟื่องไร้สาระกับเรื่องเทียบบุญบาปเลย พระชั่วๆ ที่อาศัยพระศาสนาเป็นเหลือบเกาะ มีฮ. มีบ้าน อายุน้อยตั้งตนเป็นหลวงปู่น่าโสมมกว่าทนายความไหมครับ อย่าโทษวิชาชีพ มันอยู่ที่ตัวคนครับ
    ท้ายที่สุดเอาคำคมของท่านอาจารย์จิตติ ติงสภัทิย์ สามัญชนปรมาจารย์กฎหมายให้อ่านนะครับ
    [​IMG]
     
  11. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    กด Like ให้ค่ะ


     
  12. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ้เป็นทนายที่ดีก็ได้ไปสวรรค์ แล้วทนายที่ดีเป็นอย่างไร ก็ต้องรักษาศีล ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก มีใจเที่ยงธรรม ก็คือไม่เห็นแก่พวกพ้อง ยึดความถูกต้องเป็นหลัก แต่บังเอิญสมัยนี้คนที่จะทุ่มเงินจ้างทนายก็มักกระทำความผิดแล้วหวังจะัอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายมาช่วยให้พ้นผิด ทนายจึงไปตกนรกกันเยอะ เพราะเห้นแก่เงินไม่เห้นแก่ความถูกต้อง ดังนั้นถ้าคุณอยากเป็นทนายก็จงเป็นทนายที่ดี ช่วยเหลือคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่คนกลุ่มนี้มักไม่ค่อยมีเงินซะด้วย
    ส่วนเรื่องความรวยก็ไม่เกี่ยวกับอาชีพ จะรวยก็ต้องหมั่นสั่งสมทานบารมี เป็นทนายก็รวยได้ ขายก๋วยเตี๋ยวก็รวยได้ เป็นขอทานยังรวยได้เลย ถ้้าบุญส่งผลเดี๋ยวก็รวยเอง ถึงเป็นทนายเพื่อคนยากก็รวยได้ เพราะเป็นเรื่องของบุญเก่า แต่จะให้บุญเก่าส่งผลก็ต้องสั่งสมบุญใหม่ทั้งทานศีลภาวนาให้สม่ำเสมอ
     
  13. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ไม่จบปีนี้ก็ปีหน้าครับ เรียนอยู่นิติศาสตร์ รามคำแหง เหยียบ 100 หน่วยกิต จะขอจบเทอมหน้าแล้วครับ ผมมีความรู้พอสมควร แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคนรู้กฎหมายจริงๆ

    ผมก็แค่ศึกษาทุกๆอย่างก่อน ก่อนที่จะไปประกอบอาชีพครับ

    ผมแค่ยึดหลักความไม่ประมาท ผมทราบดีครับว่าทนายความเป็นอาชีพที่ดี ตามหลักจริยธรรมที่สภาทนายความว่าไว้คือ การที่ทนายได้เงินที่เป็นผลพลอยได้จากความรู้ที่เราให้ครับ ผมศึกษาวิชาชีพนักกฎหมายมาแล้ว แต่เผอิญไปดูการพิจารณาคดี+กับอ่านกระทู้บางกระทู้+พ่อแม่อยากให้เป้นราชการ แต่เขาก็แล้วแต่ผม มันก็เลยให้ผมมาลองตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมะดูบ้างครับ เพื่อเป็นการชั่งน้ำหนัก แต่ละคนอย่าคิดมากครับ

    ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าทนายความเป็นอาชีพไม่ดีและบาป ผมเคยตั้งกระทู้ว่าทนายความไม่บาปด้วยซ้ำนะครับ ลองหาๆดูข้างล่างนี่แหละครับ
     
  14. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ที่ผมอยากรวยเพราะอยากรวมเงินกับเพื่อนๆไปสร้างวัด โบสถ์ และไปอินเดียและศรีลังกาเพื่อไปสังเวชณียสถาน สถานที่ๆสำคัญในศาสนาครับ

    ผมอยากรวยเพราะเอาเงินไปทำบุญทั้งนั้นครับ มีบางอย่างที่อยากรวยเพราะติดทางโลกอยู่
     
  15. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ได้ความรู้เยอะจริงๆ

    ท่าน ดร.สนอง วรอุไร ผมไม่รู้ว่าท่านพูดเกินไปไหม แต่ท่านบอกว่า อาชีพ ตำรวจ ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา เสี่ยงต่อการตกนรกมากที่สุด

    ซึ่งผมว่าไม่ถูกต้องซะทีเดียวหรอกครับ คนดีๆในอาชีพเหล่านี้มีเยอะแยะไปครับ

    อย่างที่ท่านๆว่า คนจะดีไม่ดีไม่ได้อยู่ที่วิชาชีพ อยู่ที่ตัวเอง ....
     
  16. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    พูดไม่ผิดหรอกครับ เพราะว่า "เสี่ยง" ต่อการตกนรก

    แปลว่า ถ้าคนที่กำลังใจในด้านศีลธรรมไม่ดี มีโอกาสโดนดึงให้เอนเอียงทำบาปลงนรกได้ง่ายกว่าอาชีพอื่น ที่หาช่องทางได้ยากกว่า ครับ

    หรืออีกนัยนึงคือ ถ้ากำลังใจทำความดีไม่กล้าแข็งจริงๆ มีโอกาสพลาดต่อกิเลสเยอะกว่าอาชีพอื่นนั่นเอง
     
  17. Chakkrapong

    Chakkrapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +213
    ในความเห็นผมนะครับ

    ผู้พิพากษา ทนาย อัยการ เป็นงานที่หลีกเลี่ยงการทำบาปได้ยากมากๆนะครับ ต่อให้ตัดสินไปอย่างเที่ยงธรรมแล้ว แต่เป็นการลงโทษเขา แบบนี้ก็ได้ทั้งบุญทั้งบาปนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...