วันเอพริลฟูลกับทีวีไทย

วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันเอพริลฟูล (อังกฤษ: April Fool's Day) เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ซึ่งวันที่ 1 เมษายนนี้มิใช่วันหยุดราชการ แต่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และเฉลิมฉลองเป็นวันที่หลายคนจะเล่นมุขตลกและความเขลาทุกแบบ วันนี้เป็นวันแห่งการสำราญ หรือมิฉะนั้นก็มุขตลก การหลอกลวง และการแกล้งอื่นๆ ที่มีระดับการตบตาต่างๆ กัน กับเพื่อน สมาชิกครอบครัว ครูอาจารย์ เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น(ขอบคุณวิกิพีเดีย)เพิ่งผ่านไปเมื่อวันวาน

สื่อใหญ่บ้านเราเล่าข่าวตอนเช้าทั้งฟังทั้งดูแล้วคันใจเหลือเกิน เหมือนกับชื่นชมเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานตบท้ายตีขลุมไปว่าเป็นวันโกหกโลก นึกสงสัยจนต้องเก็บเอามาฝากถึงเพื่อนๆชาวเว๊บพลังจิต นี่เรื่องการโกหกเป็นปกติวิสัยและเป็นเรื่องยอมรับอย่างน่าชื่นตาบานกันไปแล้วหรือ และสำคัญจนต้องจัดให้เป็นวันสำคัญอย่างนั้นเชียว ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเป็นข้อบัญญัติในศีลห้าแห่งพุทธศาสนาข้อมุสาวาท และเป็นกรรมข้อใหญ่พาลงนรกได้เสียด้วยและไม่เห็นเป็นของสนุกของดีอย่างแต่อย่างใด

การเห็นเป็นของสนุกแบบตะวันตกนิยมวัตถุนั้นมักจะทำให้จิตใจผู้คนตกต่ำไม่ได้ทำให้สูงขึ้นแต่ประการใดก็คือหลงระเริงแต่ความสุขสบายจนลืมไปว่าเราเกิดมาเพื่ออะไรและในหลายความสนุกที่ฝรั่งต่างชาติคิดค้นขึ้นมาก็ทำให้ผู้ร่วมสนุกนั้นเจ็บตัวไม่ก็พากันตายเช่นเมื่อวันก่อนมีข่าว"การแข่งกินน้ำเย็น"มีผู้เข้าร่วมเล่น3ท่าน ขณะกำลังดูดน้ำเย็นอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้น ก็ปรากฏมีอยู่ท่านนึงที่ทนดูดน้ำเย็นๆต่อไปไม่ไหวเป็นลมหน้ามืดไปไม่ทราบเป็นตายร้ายดีอย่างไรข่าวไม่แจ้ง และอีกครั้งในอดีตเป็นการ"แข่งกินเหล้า"ปรากฏว่าคนชนะและรองแชมป์ถึงคราวดับจิตไปพบยมบาลหลังจากการแข่งขันจบลง และเป็นที่น่ายินดียิ่งที่การแข่งขันพิเรนๆแบบนี้ไม่มีใครคิดจะจัดขึ้นอีกต่อไปหลังเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว จะเห็นได้ดังนี้แล้วว่ามีความเจริญในทางวัตถุแล้วก็ไม่แน่ว่าจะมีความเจริญทางจิตเสมอไป

ฝรั่งหรือต่างชาติมีประเพณีวัฒนธรรมและศาสนาความเชื่อต่างไปจากเราหลายสิ่งไม่ควรมานำเสนอ หรือถ้าจะนำเสนอท่านที่เป็นสื่อหลักควรมีวิจารณญาณหรืออย่างน้อยก็ให้ข้อคิดที่ถูกต้องแนบท้าย อย่างในเรื่องนี้ก็เช่นกันการโกหกแม้จะเพื่อความสนุกหรือไวไลน์อย่างท่านผู้ทรงเกียรติในสภาบางท่านสุดท้ายแล้วไม่มีใครชื่นชม จะมีคนชื่นชมก็ต่อเมื่อท่านยืดอกยอมรับผิดยอมรับความจริงและแก้ไขในสิ่งผิด อันนี้ต่างหากจะเป็นสิ่งที่คงทนถาวรตลอดไป

 

การเดินทางแบบ โลกไม่ให้ช้ำ ธรรมไม่ให้ขุ่น มันช่างยากเหลือเกิน ...
จขกท เดินสวนทางกับโลกแล้ว เหมือนกับดิฉัน ที่บางครั้งก็หัวเราะไม่ออกด้วยซ้ำ ...
ใจเราค่ะ ใจเรา ร่มๆๆ เป็นพอ ...

ขออนุโมทนาด้วย

 

ผมก็เป็นเหมือน จขกท.นะ คนรอบข้าง พ่อแม่ มองผมแปลกๆ

 

ยุคเสื่อมก็แบบนี้แหละ ทำดีถูกเยาะเย้ย ทำชั่วคนชื่นชม ดงันั้นเราจะทำความดีเพียงลำพังไม่ได้ ต้องร่วมกันทำความดีจนเป็นบรรทัดฐานของสังคม

 

แล้วรายการสาระแนโชว์ละครับ โกหกตลอด โกหกหาเงิน หลอกคนไปทั่ว มันทำอย่างอื่นเป็นไหม

 

ถ้าเขาทำอย่างอื่นเป็น ก็คงทำ"อย่างอื่น"ไปแล้วละครับท่านmobilelizard!!..

 

เเยกทางโลกทางธรรมให้ออก ไม่ได้ตั้งใจโกหกกันจริงๆซะหน่อย ถ้าตั้งใจจริงๆก็อีก
เรื่อง เเทนที่จะว่าคนอื่นน่าจะเอาเวลามาดูตัวเอง เเล้วก็ปรับตัวให้เข้ากับสภาพเเวดล้อม
น่าจะดีกว่านะ ผมเชื่อว่าคนส่วนมากที่เห็นโพสน่าจะเเยกออก หรือก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เเต่บางคนอาจเชื่อจริงๆก็คงมี เเต่ส่วนตัว เที่ยงคืนปุ๊บ ในเฟสเล่นกันเเล้วโดนมุขโกหก
ตั้งเเต่เริ่ม 1เมษาเที่ยงคืน ก็ได้เเต่มองเเบบฮาๆ เฮ้ยโง่จังเรา เผลอเชื่อไปได้
พอเจอมุขต่อๆ มาก็รู้ละว่าพูดอะไรจะตรงข้าม ดูๆเเล้วก็ไม่มีอะไร เจตนาเเค่เล่นมุข
เพื่อให้ขำๆกันเท่านั้น
ถ้าเเค่นี้ไม่มีวิจารณญาณพอว่าอะไรจริงไม่จริง ก็อยู่ยากครับสมัยนี้

 

อย่าไปสนใจให้มากนักเลยครับ มันไม่เป็นเรื่อง

 

โดนเหมือนกันครับ เสียดายที่แม่ไม่ตาเห็นธรรมเหมือนเรา