ศรัทธาหลวงปานวัดบางนมโคและหลวงปู่ดู่โชว์ได้ไม่จำกัดพิมพ์คร๊าบบบ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย oad006, 25 มิถุนายน 2013.

  1. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. เท่าไร ฉันก็จำไม่ได้ แต่ฉันบวชแล้ว ปรากฏว่าหลวงพ่อโหน่งตาย พระที่วัดหลวงพ่อโหน่งก็มาบอกหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานติดธุระไปไม่ได้ วันที่จะเผาหลวงพ่อโหน่ง ท่านติดกำหนดยกช่อฟ้าวัดช่องลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะท่านไปสร้างศาลาไว้ที่นั่น ท่านสั่งพระไปบอกว่า ถ้าหากว่าศพหลวงพ่อโหน่งไม่เน่าละก็ อย่างเพิ่งเผานะ ให้รอท่านก่อน ถ้าหากว่าศพหลวงพ่อโหน่งแห้งหรือว่าเน่า ก็จงเผาเถิด เพระเก็บศพไว้ 13 เดือนแล้ว
    ปรากฏว่าเวลาเขานำศพออกมา มีสภาพเหมือนคนนอนหลับ เวลาท่านจะตาย ท่านนอนตะแคงขวา พนมมือเหมือนกันคนนอนหลับ สภาพการเน่าเหม็นอะไรก็ไม่มี สมัยนั้นไม่มีการฉีดยา แต่ทว่ากรรมการวัดส่วนใหญ่เขาพากันเผาเสีย
    ต่อมาหลวงพ่อปานรู้เข้า ไปที่วัดนั้น ฉันก็ไปด้วย ท่านเรียกกรรมการวัดบ้างพระบ้างมาเทศน์เสียเยอะ เรียกว่าเทศน์ให้ฟัง เพราะไม่รู้ค่าของความดีว่าหลวงพ่อโหน่งนี่เป็นพระอรหันต์
    พวกแกนี่อยู่กับพระอรหันต์นะ ไม่รู้ค่าของความดีของพระอรหันต์ นี่ท่านอธิษฐานตัวทิ้งเข้าไว้นะ วันนั้นฉันมาไม่ได้ ฉันก็สั่งแล้วว่าถ้าศพไม่เน่าไม่ควรจะเผา
    เขาก็ไม่เถียง ท่านพูดแล้วเขาไม่เถียง ท่านก็แพ้เขาน่ะซิ ทีนี้คุณสมบัติหลวงพ่อโหน่งมีพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง หลวงพ่อปานบอกว่า เวลาใครเขานิมนต์ท่านละก็ ท่านต้องถามพระเสียก่อน เพราะว่าท่านไม่เคยเรียนนี่ เวลานิมนต์ไปเทศน์ ท่านบอกว่า ต้องถามพระก่อน แล้วท่านก็จุดธูปถามพระขอท่าน ถ้าพระบอกว่าไม่ควรไป ท่านไม่ไปใครจะนิมนต์ก็ตามท่านไม่ไป
    แล้วปฏิปทาพิเศษของท่านมีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านเอาแม่ของท่านไปเลี้ยงไว้ โยมผู้หญิงนะ เรียกภาษาธรรมดาว่าแม่ มันชัดดีไม่แปลกไม่เปลิกหรอก เรียกแม่ก็ได้ เวลาท่านบิณฑบาตมาแล้วท่านก็เอาข้าวไปให้แม่ของท่านกิน แล้วท่านก็ฉัน แบบนี้ไม่ผิดนะเคยฟังมาแล้ว เมื่อเวลาแม่กินข้าวแล้วท่านก็เทศน์ให้แม่ของท่านฟังกัณฑ์หนึ่งทุกวัน ท่านทำอย่างนี้เป็นปกติจนกระทั่งแม่ของท่านตาย
     
  2. stocknavy

    stocknavy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +460
    บทความดีๆครับ ขอบคุณครับ
     
  3. addy2500

    addy2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +836
    รอติดตามอยู่ครับ
     
  4. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ผมก้อคัดลอกมาจากหนังสือและที่อื่นๆนะครับ รวบรวมไว้ แล้ว copy มาให้พี่ๆน้องๆในนี้อ่านครับ ขอบคุณครับที่คอยติดตามอ่าน
     
  5. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์นี้ หลวงพ่อปาน ได้เรียนมาจากครูผึ้ง จ.นครศรีธรรมราช (ท่านทำทานให้ขอทานครั้งละ ๑ บาท สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวข้าวแกงจานละห้าสตางค์เอง)
    เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ หลวงพ่อปาน พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปทุกภาคของประเทศไทย ทิศเหนือได้ไปถึงเชียงตุงของพม่า ทิศตะวันออกไปสุดภาคอีสาน และได้ขออนุญาตข้ามเขต ไปในอินโดจีนของฝรั่งเศส ถึงประเทศญวน ทิศใต้ได้ไปถึงปีนังของอังกฤษ
    พบท่านครูผึ้ง

    เมื่อไปถึงนครศรีธรรมราช ในเย็นวันที่ได้ไปถึงนั่นเอง ขณะที่หลวงพ่อปานเข้าห้องจำวัดพักผ่อน โดยมีพระภิกษุอุปฐากกับทายก คอยเฝ้าอยู่หน้าห้องพักนั้น ประมาณเวลา ๑๗.๐๐ น. ได้มีท่านผู้มีอายุท่านหนึ่ง รูปร่างเพรียว ท่าทางสง่า ผิวขาว นุ่งห่มผ้าม่วงสีน้ำเงิน สวมเสื้อนอกราชปะแตน กระดุมห้าเม็ด ถุงเท้าขาว รองเท้าคัชชูสีเทา สวมหมวกสักหลาด ถือไม้เท้าเลี่ยมทอง ได้มาหาพระอุปัฏฐาก ถามว่า
    "หลวงพ่อตื่นแล้วหรือยัง?"
    ก็พอดีได้ยินเสียงหลวงพ่อพูดออกมาจากห้องว่า
    "ไม่หลับหรอก แหมนอนคอยอยู่ คิดว่าผิดนัดเสียแล้ว"
    แล้วหลวงพ่อก็เดินออกมาจากห้องพัก เมื่อนั่งลงแล้ว ผู้เฒ่าผู้มาหาพูดว่า
    "ผมไม่ผิดนัดหรอกครับ เห็นว่าท่านเพิ่งมาถึงใหม่ๆ กำลังเหนื่อย และมีคนมาคอยต้อนรับกันมาก ก็เลยรอเวลาไว้ก่อน ตอนเย็นนี้คิดว่าว่างจึงเลือกเวลามา"
    ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น สร้างความสงสัยให้แก่คณะที่ได้ไปด้วยกันเป็นอันมาก เพราะไม่เคยเห็นว่าคนทั้งสองพบกันที่ไหนเลย ทำไมจึงพูดกันถึงเรื่องนัดหมาย ขณะที่คณะเกิดสงสัยนั่นเอง หลวงพ่อได้พูดว่า
    "พวกเราสงสัยหรือ ? ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกต่อไป โยมผู้เฒ่านี้ได้ทางใน ฉันพบกับโยมตั้งแต่เดินทางมาถึง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้นัดหมายกันไว้ว่า จะมาพบกันที่นี่ ต่อไปนี้พวกเราจะพ้นความยากจนแล้ว เพราะโยมผู้นี้มีของดี"
    แล้วหลวงพ่อก็พูดกับผู้เฒ่านั้นว่า
    “โยมมีของดี ก็เอาของดีออกมาอวดพวกนี้หน่อยซิ หรือมีอะไรขัดข้อง?
    ท่านผู้เฒ่าได้บอกว่า ท่านชื่อผึ้ง อายุ ๙๙ ปี
     
  6. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ท่านครูผึ้งเล่าประวัติพระคาถา

    (มองดูแล้วคนในคณะที่ไปกับหลวงพ่อ อายุ ๕๐ เศษ เหมือนจะแก่กว่าเท่าๆ กับท่าน) เมื่ออายุท่านได้ประมาณ ๕๐ ปี ได้มีพระธุดงค์เดินธุดงค์มารูปเดียว ท่านเห็นพระรูปนั้นแล้วรู้สึกเลื่อมใสมาก จึงได้นิมนต์ให้พักอยู่เพื่อบำเพ็ญกุศล ๔ วัน ได้ปฏิบัติท่านอย่างดีเท่าที่จะทำได้ ได้เรียนกรรมฐานจากท่าน ท่านได้สอนให้เป็นอย่างดี เมื่อจะกลับท่านพูดว่า
    "โยมฉันจะลากลับ ต่อไปจะไม่ได้มีโอกาสผ่านมาอีก หากโยมอยากพบอาตมา ก็ขอให้จุดธูปอาราธนาพระ แล้วอาตมาจะมาพบทางใน"
    แล้วท่านได้มอบพระคาถา พระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์บทนี้ให้ พร้อมทั้งอธิบายวิธีปฏิบัติ ท่านว่า
    “ทำเพียงเท่านี้พอเลี้ยงตัวรอด เงินทองของใช้ไม่ขาดมือ ถ้าปฏิบัติเป็นกรรมฐานทำให้ถึงฌานแล้ว จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี โยมเอาพระคาถาบทนี้ภาวนาเป็นกรรมฐานเถิดนะ ไม่เกิน ๒ ปี โยมจะร่ำรวยใหญ่ เงินทองจะหลั่งไหลมาเอง พระคาถาบทนี้ของปัจเจกะพุทธเจ้า ตระกูลอาตมาได้เรียนสืบต่อกันมาทุกคน ไม่มีใครจน อย่างจนก็พอเลี้ยงตัวรอด”
     
  7. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ให้หลวงพ่อปานเรียนพระคาถา

    เมื่อพูดจบ ได้มอบพระคาถาให้หลวงพ่อเรียน แล้วบอกว่า”ได้โปรดอย่าปิดบังพระคาถาบทนี้เลย ขอได้กรุณาแจกเป็นธรรมทานด้วย” แล้วหลวงพ่อก็หลับตาเข้าสมาธิ ท่านครูผึ้งก็หลับตาเข้าสมาธิ ต่างคนต่างหลับตา ประมาณ ๕ นาที ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน ต่างคนต่างยิ้ม เสียงท่านครูผึ้งพูดว่า "ผมดีใจด้วยที่ต่อไปเบื้องหน้า ท่านจะได้ศิษย์คู่ใจ" หลวงพ่อก็หัวเราะ
    ตอบคำถามหลวงพ่อ

    หลวงพ่อถามว่า ท่านอาจารย์ทำนานนักไหมจึงจะรู้ผล อาจารย์ตอบว่า ไม่นานครับ ประมาณเดือนแรกผ่านไปเริ่มรู้ผล ผลระยะแรกให้ผลในทางกินก่อน เช่นหุงข้าวตามธรรมดา คนกินในบ้านก็กินเท่าเดิม เพิ่มการใส่บาตร แต่ข้าวเหลือ ผมเคยได้ว่าคนหุง ทำไมหุงมากนัก เขาบอกว่าหุงเท่าเดิม ผมจึงสั่งให้ลด จนเหลือครึ่งจำนวนพอดี
    เงินเริ่มเพิ่ม

    เมื่ออาหารเริ่มลดความหมดเปลือง รายได้ก็เพิ่มขึ้นในระยะ ๑ปี ผ่านไปเรื่องการเงินเริ่มไหวตัว เงินในที่เก็บเริ่มเกินบัญชี เงินจากร้านค้ารับมานับว่าพอดี พอรุ่งขึ้นมาตรวจ เงินมากกว่าจำนวนทุกที ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เดี๋ยวนี้ผมทำอะไรไม่ไหว แต่ผมก็มีรายได้ทุกวัน ใครไปใครมา ขากลับคนนี้ให้บ้าง คนนั้นให้บ้าง คิดเฉลี่ยผมมีรายได้วันละประมาณเกือบร้อยบาท พระคาถาบทนี้ศักดิ์สิทธิ์มากครับ
     
  8. hemicuda

    hemicuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +2,246
    ผมเคยอ่านเหมือนกันครับ ของท่านสิทธา เชตวัน พิมพ์ลงหนังสือทานตะวันประมาณปี 252.. กว่า พอดีพ่อผมเก็บไว้ผมเลยได้อ่าน
     
  9. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ของผมจะเป็นเล่มที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำบันทึกไว้เป็นที่ระลึกงานศพหรืออะไรสักอย่างนี่แหระครับผมจำไม่ได้
     
  10. addy2500

    addy2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +836
    พระคำข้าวหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลัง หลวงปู่ทวด รุ่นกระโดดบาตร หลวงปู่ดู่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_11421.JPG
      IMG_11421.JPG
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_11391.JPG
      IMG_11391.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.5 KB
      เปิดดู:
      31
  11. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    เค้าเล่ากันว่าเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ หลวงปู่ดู่ปลุกเสกจนเหรียญกระโดดออกจากบาตรได้เลยครับ เป็นเหรียญสุดยอดประสบการณ์อีก 1 เหรียญของหลวงปู่เลยครับ
     
  12. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ทำเป็นกรรมฐาน

    หลวงพ่อได้ถามว่า ท่านอาจารย์ทำอย่างไร อาจารย์ตอบว่า ผมทำเป็นกรรมฐานเลยครับ ทำจนสว่าง หลับตาลง แล้วเกิดความสว่างขึ้น ได้เห็นพระพุทธรูปบ้าง พระสงฆ์บ้าง มีอยู่องค์หนึ่งครับจีวรสวยมาก ไม่เหมือนจีวรพระธรรมดา แล้วเริ่มเห็นเงิน คราวแรกๆ เป็นจำนวนน้อยๆ ต่อมาก็เห็นจำนวนมากตามลำดับ จนถึงกองใหญ่เหลือที่จะนับ ตอนนี้เองครับ เงินทองไหลมากันใหญ่ ทำอะไรนิดทำอะไรหน่อยก็ดีไปหมด คนอื่นเขาทำขาดทุน ผมลองไปบ้างก็มีกำไรดีเสียด้วย
    ของเพิ่ม

    มีเรื่องแปลกอีกครับ นอกจากเงินเพิ่มแล้ว ของก็เพิ่มอีกด้วย ข้าวของที่มีอยู่หรือหามาใหม่ มีบัญชีจดไว้ครบถ้วน ครั้นไปตรวจคราวใดของเกินบัญชีทุกที
    เคล็ดลับ

    หลวงพ่อถามว่า มีเคล็ดลับอะไรบ้างในการนำของเข้าออก และการเก็บเงินใช้เงิน
    อาจารย์ตอบว่า มีครับ แหม ผมเกือบลืมบอก ดีแล้วครับ ถามดีมาก เรื่องนำข้าวของไม่ว่าเป็นอะไร จะเป็นของกิน ของใช้ ของขายก็ดี ผมทำน้ำมนต์ด้วยพระคาถาบทนี้ไว้ เมื่อนำข้าวของเข้าบ้าน ผมเอาใบพลู ๓ ใบ จุ่มน้ำมนต์พรมของนั้น ๓หน พรม ๑ หน ว่าพระคาถาหนึ่งจบ
    การนำเงินเข้าเก็บและนำออกใช้

    เมื่อนำเงินเข้าเก็บ และนำออกมาใช้ ให้ว่าพระคาถานี้ เท่ากับจำนวนที่สวดบูชาพระ เช่น ปกติสวด ๗ จบ เมื่อนำเงินเข้าเก็บก็ว่าพระคาถานี้ ๗ จบ เมื่อนำออกใช้ก็ว่า ๗ จบ แต่อย่านับเงินก่อนให้จับเงิน แล้วว่าพระคาถาครบจำนวน จึงนำเงินออกมานับนอกที่เก็บ
     
  13. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    อานิสงส์พระคาถา

    พระคาถา นอกจากจะให้ผลในเรื่องความเป็นอยู่อย่างมีความสุขสบาย เงินทองเหลือใช้สอย ของที่ต้องการปริมาณก็เพิ่มขึ้น ของที่ต้องการน้ำหนักก็เพิ่มน้ำหนัก ของกินของใช้ก็ไม่สิ้นเปลือง เมื่อผมได้ภาวนาเรื่อยไป จนได้สมาธิสูง เลยเห็นเหตุการณ์ของโลกอื่น ผมหมดสงสัยเรื่องโลกอื่นแล้วครับ
    หลวงพ่อได้ศิษย์คนแรก

    เมื่อได้เดินทางจากนครศรีธรรมราชไปแล้ว เป็นเวลา ๑ เดือน คณะชุดนั้นก็ได้เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ หลวงพ่อได้พักที่คณะ ๙ วัดสระเกศ พอรุ่งขึ้นมีศิษย์พากันเอาอาหารไปถวาย ขณะฉันอาหาร หลวงพ่อได้พูดกับท่านเจ้าคณะ ๙ ชื่อจีน ว่า
    ผมไปปักษ์ใต้มา ได้พระคาถาดีมาบทหนึ่ง
    ว่าแล้วท่านก็พูดถึงพระคาถา ตามที่ท่านครูผึ้งได้บอก เป็นที่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คนที่ไปนั่งอยู่ที่นั่นด้วยกัน เกือบร้อยคนไม่มีใครสนใจ ต่างคนต่างฟังกันเฉย มีแต่นายประยงค์ ตั้งตรงจิตร เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ควักสมุดพกขึ้นมาจดพระคาถาทันที เมื่อเสร็จภัตรกิจแล้ว ต่างคนต่างกลับ นอกจากนายประยงค์ รอพบว่างคนก็เข้าไป กราบหลวงพ่อขอเรียนพระคาถา หลวงพ่อหัวเราะชอบใจแล้วว่า
    เอออ้ายลูกหัวปี เอาเถอะพ่อให้อีก ๒ ปีลูกเอ๋ย เอ็งจะรวยใหญ่ ไปทำเป็นกรรมฐานเลยนะลูกนะ
    แล้วต่อมาประมาณ ๒ ปีเศษ นายประยงค์เล่าให้หลวงพ่อเล็ก เจ้าอาวาสวัดบางนมโคฟัง มีอาการเหมือนท่านครูผึ้งทุกประการ ท่านเล่าว่า
    เมื่อก่อนทำพระคาถานี้ ผมยากจน ขายของก็ยาก เดือนไหนมีกำไรถึง ๒๐๐ บาท เดี๋ยวนี้สบายแล้วครับ หลวงพ่อจะเอาเท่าไร ผมถวายทั้งนั้นขอให้บอกมาเถอะ หลวงพ่อออกปากผมไม่หนักใจเลย หลวงพ่อเรียกเอาเงิน ดูเหมือนผมยิ่งได้มากขึ้นแปลกครับ
    นี่เป็นถ้อยคำของนายประยงค์ ศิษย์คนแรกในการเรียนพระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์ โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปาน ซึ่งเรียนมาจากท่านพระครูผึ้งดังกล่าว
     
  14. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    อภินิหารพระคาถาและเงินงอก

    นายประยงค์เล่าว่า เรื่องอาหารรับประทาน ไม่เปลืองเหมือนเมื่อท่านครูผึ้งเล่า ยังเล่าต่อไปอีกว่า
    เรื่องยาไทยที่ห้างก็แปลก เมื่อทำยาเสร็จแล้วก็ได้ลงบัญชีไว้ครบ ครั้นเมื่อขายไปครบตามจำนวนเงิน ก็ได้ตามจำนวนบัญชี แต่ยานั้นยังเหลืออีก ในตอนแรกผมคิดว่าเจ้าหน้าที่นับไม่ถ้วน ต่อมาผมตรวจเอง ก็เป็นอย่างนั้นเสมอ
    นายห้างเล่าต่อว่า
    ปกติขายยาได้เงินมาแล้ว นำเข้าธนาคารทุกวัน เมื่อเบิกเงินเพื่อใช้จ่าย ผมยังไม่ยอมนับเงินนั้น และไม่ใช้ในวันนั้น ผมเอาเข้าที่เก็บก่อนหนึ่งคืนตามวิธี พอรุ่งขึ้นออกตามวิธี ตามที่ได้สังเกตและจำได้ เงินหนึ่งหมื่น เมื่อเก็บแล้วคืนหนึ่ง เมื่อเอาออกมานับในวันรุ่งขึ้น จะได้เกินกว่าหนึ่งพันเสมอ นี่ก็เป็นอภินิหารอีกอย่างหนึ่ง ยังเป็นเมตตามหานิยมในตัวอีกด้วย ผมสบายใจแล้วครับ เงินก็มีใช้ บุญก็ได้ทำอย่างชนิดไม่ต้องอั้นเลย
    นายประยงค์บอกว่า
    ผมสู้คุณย่าผมไม่ได้ ท่านเป็นผู้ภาวนาพระคาถานี้วันยังค่ำ เว้นไว้แต่เมื่อมีผู้ไปคุยกับท่านเท่านั้น ท่านภาวนา ไม่ว่าท่านจะยืน เดิน นั่ง นอน ท่านไม่ยอมให้ว่างเลยครับ ผลที่ได้หรือครับ เซฟที่อยู่หน้าที่บูชา ๓ เซฟ เป็นเซฟเปล่าทั้งสิ้น วันหนึ่งท่านเรียกพวกเราไปหา ท่านให้ไขเซฟดู ปรากฏว่าเต็มไปด้วยธนบัตรใบละร้อย เมื่อถามท่าน ท่านเล่าให้ฟังว่า
    เงินมาเอง มาด้วยอำนาจพระคาถานี้
    เราถามท่านว่ารู้ได้อย่างไร ท่านบอกว่า
    เมื่อคืนนี้ย่ากำลังภาวนาพระคาถานี้อยู่ เกิดอาการสบายเคลิ้มไปอย่างไม่รู้ตัวสักครู่ พอรู้สึกตัวเห็นแสงสว่าง พุ่งเป็นลำเข้าไปในเซฟ มีเสียงบอกว่า "เงินมา เงินเข้าเซฟ ทำใจให้สบายไว้" ย่าเลยทำใจให้สบาย คุมสมาธิไว้ครู่หนึ่ง ต่อไปแสงนั้นก็หายไป ย่าก็เลยหลับไปเท่านี้แหละลูก พระคาถานี้ท่านดีจริงๆ อย่าทิ้งนะลูก พวกเอ็งเอาเงินไป จะทำอะไรก็ทำเถิด แต่อย่าลืมทำบุญด้วยนะ ทำมากเท่าไรยิ่งดี
     
  15. addy2500

    addy2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +836
    พระขุนแผนหลวงพ่อโหน่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_13351.JPG
      IMG_13351.JPG
      ขนาดไฟล์:
      181 KB
      เปิดดู:
      18
    • IMG_13361.JPG
      IMG_13361.JPG
      ขนาดไฟล์:
      177.8 KB
      เปิดดู:
      22
  16. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    อุปนิสัยและปฏิปทาของหลวงพ่อปาน

    จากปากคำของผู้ทราบเคยอยู่ใกล้ชิดกับท่าน และเรื่องเล่าสืบต่อกันมาพอจะอนุมานได้ดังนี้
    จากบันทึกของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บันทึกไว้ว่า

    “ปกติท่านเป็นคนขยัน เวลาพวกเราทำงาน ท่านไม่หยุดเหมือนกัน เป็นคนขยันจริง ๆ ขยันงานภายนอก ขยันงานภายในทุกอย่าง จุกจิก หมายความจุกจิกรอบ ๆ ดูของรอบ ๆ ตรวจตราของรอบ ๆ แล้วคำว่าไม่มีไม่ได้ ของท่านมีสั่งให้ไปหาอะไร ถ้าไม่มีให้เลย ไปเลย ห้ามกลับ ถ้าวันหลังไปพบเขา ถามว่า ทำไมไม่เอามาให้ บอกว่าไม่มีนี่ครับ ถ้าไม่มีจัดซื้อทันที ของท่านต้องมีทุกอย่าง”
    "หลวงพ่อปานท่านมีลักษณะของชายชาตรีที่มีผิวพรรณขาวละเอียด ลักษณะสมส่วนเสียงดังกังวานไพเราะมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสชวนให้ศรัทธาปสาทะเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาบ่งบอกถึงความเมตตาปรานีในสัตว์โลกทั้งหลาย ต้อนรับผู้คนที่มาหาไม่เลือกเศรษฐี ผู้ดี ไพร่ ใครไปก็ไต่ถาม ว่ากันว่าถ้าหลวงพ่อพูดจากับผู้ใดแล้วนั้น มักจะจับจิตจับใจ ที่ใจชั่วมั่วเมามาก็กลับตัว แม้แต่ผู้นับถือคริสต์ศาสนาก็ยังหันมานับถือพระพุทธศาสนา"
    ตลอดเวลาท่านจะไม่แสดงทีท่าว่าเหน็ดเหนื่อยหรือทำให้ผู้ที่มาหาเสื่อมศรัทธาเลย วันหนึ่งๆ จะมีคนมาหาท่าน เพื่อขอความช่วยเหลือนับเป็นจำนวนร้อยๆ คน ไหนจะให้รดน้ำมนต์ไหนจะต้องพ่น ไหนจะขอยา ไหนจะมาปรึกษาถึงเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ บางคนก็เรียกว่า หลวงพ่อบางคนเรียกว่าหลวงปู่บ้าง เป็นเราๆ ท่านๆน่ากลัวจะนั่งไม่ทน เพราะตั้งแต่เพลจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 4 หรือ 5 ทุ่ม นั่นแหละท่านถึงจะพักผ่อน และเป็นอย่างนี้อยู่ประจำทุกวัน จนกระทั่งท่านมรณภาพ
    "ท่านไม่ยินดียินร้ายในทางโลกธรรมแต่ประการใด คงปฏิบัติธรรมเหมือนพระแก่ๆ รูปหนึ่งที่ไม่ต้องการยศบรรดาศักดิ์หรือชื่อเสียงดีเด่นแต่อย่างใด ท่านคงหวังแต่ทำหน้าที่ให้ความสุขสบายแก่พระสงฆ์และชาวบ้านทั่วไปตามกำลังความสามารถเท่านั้น
    ปฏิปทาในการประชุมและการอบรมพระเณรในวัดบางนมโค
     
  17. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    หลวงพ่อฤๅษีฯ ได้เล่าถึงปฏิปทาในการสั่งสอนอบรมพระเณรลูกศิษย์ของท่านไว้ในหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน ไว้พอสรุปได้ ดังนี้

    หลวงพ่อปานท่านมีกำหนดการประชุมพระเณรในวัดบางนมโคไว้เป็นการแน่นอน คือ ในทุกวันโกน เป็นวันประชุมใหญ่ พระทุกองค์ในวัดจะต้องมาประชุม ขาดไม่ได้ ถ้าขาด ถ้าป่วยจะต้องแจ้งมา ไม่ว่าพระเล็ก พระใหญ่ จะกี่พรรษาก็ตาม ถ้าป่วยจะต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมา ว่า ผมขอลาการประชุม
    เวลาท่านประชุม ก็เริ่มกัน 2 ทุ่ม ไปเลิกกัน 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม บางทีมีเรื่องคุยกันมากก็ 6 ทุ่ม แต่ว่าถ้าหากว่าท่านพูดเรื่องสำคัญหมด ท่านก็อนุญาตว่า ต่อแต่นี้ไปใครจะคุยกับท่านก็คุย ใครไม่อยากคุย อยากจะนอนหรือมีธุระที่ไหนก็ไป ถ้าอยากจะคุยกับท่าน ก็อยู่คุยกัน นี่เป็นกรณีพิเศษ
    พอท่านสั่งงาน เสร็จประชุมแล้ว ท่านก็แนะนำสั่งสอน พร่ำสอนเสร็จ แต่คำสอนของท่านก็ไม่ผิดไปจาก เรื่องศีลธรรมและวินัย การปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา และในสำนักของท่าน พระที่ไม่เอาถ่านก็เยอะ อย่าเข้าใจว่าดีทุกองค์นะ พระที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนานี่ แม้แต่ในสมัยของพระพุทธเจ้าก็เหมือนกัน วินัยปรากฏว่ามีตั้งหลายร้อยข้อก็เพราะความชั่วที่พระทำขึ้น ถ้ายังไม่มีใครทำความชั่วเพียงใด พระพุทธเจ้าก็ยังไม่ประกาศพระวินัย ไม่ประกาศเป็นกฎบังคับ แต่กฎบังคับแต่ละข้อ ๆ ที่มันปรากฏตั้ง 200 กว่าข้อ นี่แสดงว่าหลวงพี่สมัยนั้นแกก็ทำความเลวตั้ง 200 กว่าข้อเหมือนกัน นี่แม้แต่สมัยพระพุทธเจ้ายังเป็นอย่างนั้น แล้วสมัยของหลวงพ่อปานอย่าไปคิดนะว่าพระจะดีทุกองค์ พระประเภทที่ต่ำกว่าดีก็มาก
    แต่ว่าท่านแบ่งประเภทของพระไว้ ท่านแบ่งไว้ว่าพระองค์ไหนขี้เกียจเจริญพระกรรมฐาน พระพวกนี้อยู่กองโยธาธิการทำงานก่อสร้าง องค์ไหนขยันเรียนหนังสือ ขยันเจริญกรรมฐาน พระประเภทนี้ไม่เรียกทำงาน ใครจะสมัครไปทำก็ได้ ถ้ามีงานเกี่ยวกับหนังสือท่านก็เรียกใช้ นี่เป็นปฏิปทาของท่าน ถ้าพระอะไรก็ตาม เป็นพระประเภทไม่เอาถ่าน อยู่ไม่ได้นาน ขี้เกียจ นอนกินอืด แล้วก็เป็นนักเบ่งแต่งตัวสวย ๆ อย่างนี้ไม่มีหวัง อยู่สำนักนั้นไม่ได้นาน ถูกขับ ไม่ใช่ว่าท่านจะมายิ้มกับคนดีคนชั่วทุกอย่างนั้น
     
  18. khunaoh

    khunaoh สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +10
    ค้นเจอมา องค์หนึ่ง ฝากแนะนำด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010668.JPG
      P1010668.JPG
      ขนาดไฟล์:
      241.9 KB
      เปิดดู:
      22
    • P1010669.JPG
      P1010669.JPG
      ขนาดไฟล์:
      240.2 KB
      เปิดดู:
      28
  19. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    เนื้อหายังดูใหม่ พิมก้อดูเหมือนจะถอดมา ตื้นและเบลอครับ น่าจะเป็นยุคหลังล้อพิมพ์ขึ้นมาครับพี่
     
  20. oad006

    oad006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,082
    เป็นอันว่าทราบกันแล้วนะ ว่าพระของท่านไม่ใช่ว่าดีเสมอไป ที่เลวก็มี ที่ท่านด่าพระของท่าน ทีนี้พระของหลวงพ่อปานเป็นพระประเภทนั้น ท่านด่าของท่านด่าดี เวลาท่านจะรู้พระดีพระชั่ว ท่านย่องไปฟังตามหลังกุฏิ ใต้ถุนกุฏิ บางทีท่านก็นั่งที่หลังกุฏิของท่านก็มีเทวดาบ้าง มีพระบ้างบอกท่าน
    คำว่าพระ ไม่ใช่พระคน พระผี ใครทำอะไรไม่ดีตรงไหน ถูกฟ้อง มีนางตะเคียนอยู่ 2 ต้น คอยฟ้องท่านเสมอ อันนี้ ฉันก็เคยถูกนางตะเคียนฟ้องเหมือนกัน ถ้าทำไม่ดี ไม่ได้ คนนี้แกเคร่งมาก ถ้าใครไม่ดีไม่ช้าถูกขับ วิธีด่าพระ ท่านใช้ความเป็นคนแก่ของท่านเป็นเครื่องมือด่าพระ หมายความว่าท่านไปที่วัดนู้น วัดทางเหนือก็ตาม วัดทางใต้ก็ตาม ท่านไปเห็นพระร้องเพลง พระทำไม่ดี แต่ว่าตาของท่านไม่ดี ท่านอ่านไม่ออกว่าวัดอะไร นี่เรียกว่าท่านเอาความแก่ของท่านมาสู้ เอาความแก่เข้ามาชนเอา แล้วท่านก็ใช้วิธีด่า จะเล่าให้ฟังวิธีด่าพระ
     

แชร์หน้านี้

Loading...