ปรารถนาพิสูจน์ตัวตนที่ดำรงอยู่ในขันธ์ มีรูปเป็นแบบใด (มาได้เลย ชยุต)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย phudit999, 22 กรกฎาคม 2013.

  1. มันตระเทวะ

    มันตระเทวะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +30
    ลูกศิษย์: อ.ครับระวัง งู

    เจ้าอาวาส: งูหรือเณร อยู่ไหนหรือ

    ลูกศิษย์: ข้างหลังท่านครับ

    เจ้าอาวาส:อ้อ...ฉันเห็นแล้ว....ว่าแต่เวลาเธอเห็นงู เธฮว่าเราจะตีงูยังไงถึงจะถูกวิธี

    ลูกศิษย์:ก็ตีที่หัวสิครับท่าน ถ้าไปตีที่หางนอกจากงูจะไม่ตาย ยังอาจจะแว้งกัดเราอีกก็เป็นได้

    เจ้าอาวาส:นั้นแหละ เณร การเรียนธรรมะ ก็เช่นกัน ธรรมะนั้นก็เหมือนกับงูตัวนี้ ถ้าเธอตีไม่ถูกวิธี งูก็จะแว้งกัดเธอ เมื่อก่อนพระพุทธองค์ก็สอนแบบนี้ ท่านว่ามีคนหลายจำพวกในธรรมวินัยนี้ บ้างคนเรียนธรรมะซึ่งจะได้จากการอ่าน การฟัง การปฏิบัติก็ดีแล้วเข้าใจเอาเองว่าตนได้เข้าถึงสิ่งนั้นหรือรู้แล้ว คนเหล่านี้จึ่งคิดว่าคนอื่นนั้นไม่รู้หรือว่าโง่เขลายิ่งนัก เขาเที่ยวทำสงครามวาทะเพื่อพิสูตรว่าเขารู้คนอื่นไม่รู้ เพื่อให้คนอื่นยอมรับนับถือในสิ่งที่เขาคิดว่าเขารู้
    คนเหล่านี้แหละที่เรียกว่า ถูกงูที่เรียกว่าธรรมะแว้งกัดขึ้นมาแล้ว

    ลูกศิษย์:ซะงั้น.....ผมชักกลัวพระสูตรที่สวดที่เรียนอยู่ทุกวันแล้วสิ

    เจ้าอาวาส:เณรไม่ต้องหาข้ออ้างที่จะไม่เล่าเรียนเลยนะ

    ลูกศิษย์:รู้ทันอีก อ.


    เจ้าอาวาส:เณรเอ๋ย รู้อะไรไหม? ความหยิ่งยโสเกิดจากการถือมั่นในตัวตนระหว่างตัวฉันและผู้อื่นมากเกินไป นี่คืออุปสรรคที่สำคัญยิ่งของการมีชีวิตที่รุ่มรวยและเปลี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน ยิ่งเธอคิดว่าเธอรู้เธอเข้าใจธรรมะได้มากกว่าคนอื่นเพราะได้เล่าเรียนได้อ่านได้ฝึกฝนมา มันก็ยิ่งทำให้เธอออกห่างจากธรรมะมากขึ้นเท่านั้น เพราะ แทนที่เธอจะถ่อมตัว อ่อนโยน เป็นมิตร แทนที่เธอจะกลายเป็นผู้มีความเคารพต่อผู้อื่น ใส่ใจในสิ่งที่เธอกระทำหรือแสดงออก เธอกลับยิ่งหยิ่งยโสโอหังอย่างสุดขั้ว ตรึงเครียดจนเกินไป อันเกิดจากสิ่งที่เธอได้ฝันหวานว่าเธอเป็นคนพิเศษที่มีอะไรอยู่ในตัว บรรลุสิ่งที่พิเศษสุด สิ่งที่คนอื่นไม่รู้หรือไม่มีวันรู้เพราะคนอื่นไม่ได้แน่เหมือนเธอ และตรงนี้เธอย่อมสร้างบรรยากาศแห่งความขัดแย้งขึ้นมาระหว่างเธอและผู้อื่น เธอกลายเป็นตัวมลภาวะทางจิตใจ ในสายตาผู้อื่น เขากำลังหัวเราะอย่างเบิกบาน ทันใดนั้นเมื่อเธอเข้ามาบรรยากาศห้องก็ตรึงเครียดขึ้นไม่อาจเล่นตลกหรือเล่นเกมส์ได้อีกต่อไป

    ลูกศิษย์:......อืมส์......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2013
  2. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    อยากรู้ มานอบน้อมต่อผมสิ ไหนสอนให้ผมรู้จักนอบน้อม บอกให้ผมหัดรู้นอบน้อม บอกแต่คนอื่นให้นอบน้อม แล้วทำไม ไม่รู้จักมานอบน้อมกับผมบ้างล่ะ ในเมื่อสั่งสอนแต่คนอื่นให้ นอบน้อม แล้ว ตนเอง รู้จักนอบน้อมคนอื่นบ้างหรือเปล่าล่ะ ดีแต่พูด แต่ตนเองไม่เคยกระทำ ดีแต่ปาก แบบนี้ นี่หรือ คนดี อิอิ

    มามะ มานอบน้อมผมสิ ถ้าอยากรู้ ปัญญา

    คุณต้องนอบน้อมได้สิ เพราะ ชอบสอนคนอื่นให้นอบน้อมได้ คุณก็ต้องนอบน้อมได้ ว่ามั้ย หรือ ตนเอง นอบน้อมไม่เป็น เป็นแต่ สอนคนอื่น เท่านั้น
     
  3. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    เอาแต่จะเถียง
    เอาแต่จะปะทะ
    ไม่รู้จักดูให้ละเอียด
     
  4. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ผมพูดถึง อกุศลธรรม ต่างหาก
    งั้น ถามหน่อย ธรรมความจริง มันอยู่ใน ที่ใด กันล่ะ ถ้าคุณบอกว่า ทุกสมมุติคือธรรม ตอนนี้ เพิ่ม วิมุติคือธรรม อีก
     
  5. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964


    วิํธี "เพชรตัดเพชร" มันก็คือ "มรรค"
    เมื่อเราติดวิธีแบบเพชรตัดเพชร แม้เรา
    จะได้ธรรมวัชรยาน แต่มันยังไม่ได้ "ผล"


    เพราะยังติดมรรควัชรยาน ติดการปะทะ
    ติดวิธีแบบเพชรตัดเพชร มันก็ไม่ได้ผล
    ติดมรรค จึงไม่เห็นผล


    เพชรตัดเพชร ย่อมเกิดผลเมื่อสิ้นตัด!
     
  6. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172

    ผิดทั้งลูกศิษย์อาจารย์ ผิดทั้งคนที่ยกข้อความมา
    รับรองว่า พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้ ต้อง ตีงู แน่นอน

    ผมว่า แค่เดินห่างออกจากงู ก็ นำพาตนเองพ้นกรรมแล้ว ก็แค่นั้น อิอิ นั่งเถียงกันเรื่อง จะหาวิธีเบียดเบียนสัตว์อื่น เพื่อให้ ได้ อะไร
     
  7. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ท่านเทวทัตครับ การยอมรับทุกสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรมาและพิจารณาด้วยสติระลึกชอบนั่นคือสิ่งที่เรียกว่าปัญญาใช่หรือไม่ ปัญญาที่รู็้ว่าสิ่งเกิดสิ่งนี้ต้องดับ ปัญญาที่แท้จริงคุณจะเข้าใจเองเลยว่ามันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เหมือนธรรมชาติเหมือนสายลมที่เข้ามาในร่างกายเราแล้วก็ออกไป ไม่ติดค้างไม่อึดอัด ไม่ตัดสินถูกตัดสินผิดต่อสิ่งใดๆในธรรมชาติทั้งหมดเพราะธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกันไม่แยกจากกัน เมื่อเริ่มคิดตัดสินสิ่งใดๆด้วยตัวคุณเองนั่นคือคุณได้นำตัวกูมาใส่ในธรรมชาติที่คุณรักแล้วละครับ
    การคัดสรรที่เกิดขึ้นเพื่อให้โลกได้อยู่อย่าสงบสุขก็คือ การได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ เพราะธรรมชาติเป็นเรา เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ท่านเทวทะตะครับท่านไม่รักธรรมชาติแห่งนี้เหรอครับทำไมท่านถึงได้พยายามหนีออกจากสิ่งที่คุณรักด้วยตัวคุณเองละครับ
    ผมอยากจะบอกว่าถ้าผมรักท่าน ท่านจะรักผมได้หรือไม่
    คำถามนี้ท่านอาจจะเคยตอบผมมาแล้ว และผมก็รู้คำตอบแล้ว และผมก็หวังว่าท่านจะรู้คำตอบนี้ด้วยครับท่านม่อน
     
  8. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ยังจะเถียงอีก ดูซะพิมพ์อะไรไว้


    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เทวะทะตะ อ่านข้อความ
    สมมุติทั้งปวงมีแต่ธรรมที่ไหนอีกเล่า เพ้อเจ้อต่อไปได้
    สมมุติทั้งปวง ก็คือ สมมุติทั้งปวง จะมีแต่ธรรม ได้ยังไง ก็ในเมื่อ เรียกชื่อมันว่า สมมุติทั้งปวง ซึ่ง ก็ แล้วแต่ว่าจะสมมุติให้มันเป็นอะไร จะมีแต่ธรรมได้ไงเล่า
    ธรรมไม่ได้มีอยู่ในสมมุติทั้งปวงหรอกครับ ธรรมมันมีอยู่ในความจริงเท่านั้น ถ้าไม่ไช่ความจริง ไม่ถือว่าเป็นธรรม แต่เรียกอกุศลธรรม เพียงเท่านั้น
    ที่จริงแล้วมันไม่ไช่ธรรมเลย อิอิ อย่า งง ดิ



    แล้วมาบอกได้ยังไง ว่าพูดแต่อกุศลธรรม มึนแล้ว
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นอนน้อมในสิ่งที่ควรนอบน้อม

    กริงค หรือ เทวะทะตะ มีอะไรที่ประเสริฐที่ต้องไปนอบน้อม

    ไหนเล่าความประเสริฐของตนเองดูว่า ตนเองมีความดีงามอะไรบ้าง

    สิ่งประเสริฐในตนเอง มีผลต่อผู้อื่น มีผลต่อธรรมชาติ มีผลต่อทุกสิ่งอย่างไร

    ให้แสดงก่อน
     
  10. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    เอาละ ชัดๆ นะ


    "ติดมรรควัชรยาน"
    ติดเพชรตัดเพชร
    ก็เลยต้องปะทะปัญญา
    ปะลองอยู่เรื่อยไป


    "ผลจะเกิดเมื่อสิ้นตัด"
    เพชรตัดเพชร เกิดผล
    เมื่อสิ้นตัด ...



    แล้วยังคิดว่าเราดูท่านไม่ิออกหรือว่าจะมีปัญญาเมื่อไร?
     
  11. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172

    สวัสดี อย่างเป็นทางการ
    ผมรักธรรมชาติ ครับ แต่คุณต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า พระพุทธเจ้าท่านสอน ธรรมะ คือ มรรค แต่ยังไม่ได้สอน ผล
    ซึ่งมรรคแปด ก็คือสิ่งที่สมควรกระทำ แปดประการของมนุษย์ผู้ประเสริฐ
    และผล ที่แท้จริง ก็คือ การกระทำตามมรรคแปดนั้น เพื่อธรรมชาติ โดยธรรมชาติ นั่นเอง โดยผู้กระทำก็กระทำตามกฏธรรมชาติ โดยธรรมชาติ และเพื่อธรรมชาติ มันหาไช่ ตัวกู ของกู แต่อย่างใด นี่คือสิ่งที่คุณยังไม่เข้าใจ

    ส่วนคุณจะรักผม หรือไม่นั้น หรือผมจะรักคุณหรือไม่นั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าแค่พูด เพราะการกระทำ ต่างหาก ถึงมีผลให้ ตัดสิน และรับรู้ได้ว่า รักถูก หรือรักผิด รักแบบสร้างกรรม หรือรักแบบมรรคแปด
     
  12. มันตระเทวะ

    มันตระเทวะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +30
    ลูกศิษย์: ผมสะดุจใจคำว่ามลพิษทางจิตใจจังครับอ. ผมว่าผมกลัวมลพิษทางกลิ่นมากกว่านะ ถ้าห้องอากาศ สดชื่น อยู่ๆๆมีคนตดออกมา วงก็คงแตกเหมือนกัน

    เจ้าอาวาส: คนหยิ่งยโส ก็ไม่ต่างจากกลิ่นตดนั้นแหละเณร จะเปรียบเทียบแบบนี้ก็ได้ เขาย่อมเป็นมลพิษอย่างร้ายแรงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

    ลูกศิษย์: อ.ก็ช่างเปรียบเปรยได้ เหม็นทีเดียว

    เจ้าอาวาส: เอาน่า....เณรคำเปรียบเปรยก็สักแต่ว่าเป็นแค่คำเปรียบเปรย สาระที่คำเปรียบเปรยสือถึงต่างหาก คือสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ว่า คำเปรียบเปรยนั้นเป็นความจริงหรือไม่ มันเคยเกิดขึ้นจริงหรือเปล่าหรือเป็นนิทานหลอกเด็ก ไหนๆๆก็พูดถึงการเปรียบเปรยแล้ว คราวที่แล้วเราเปรียบเปรยว่า การเล่าเรียนธรรมะก็เหมือนกับการตีงู ถ้าตีถูกวิธีงูก็จะไม่กัด ถ้าตีผิดก็จะถูกงูกัดจนตาย และเราก็พูดถึงเรื่องคนที่เล่าเรียนธรรมะแบบผิดวิธี และกลายเป็นธรรมะกลายมาเป็นชุดเกราะที่หนาแน่ที่สุด ที่เขาไม่ยอมถอดออก

    ลูกศิษย์: เขาคงคิดว่าตัวเองดูหล่อดีมั้งอ.



    เจ้าอาวาส:อื่มส์ ใช่สิ มันคงทำให้เขาดูเหมือนนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งที่จริงแล้วก็เป็นแค่คนวิกลจริต ทำให้นึกถึงตัวละครดอนกิโฮเต้ ในวรรณกรรมสเปนทีเดียว เพราะคนวิกลจริตก็คือ คนที่หมกหมุ่นอยู่กับตัวเองมากเกินไป เขาเลยไม่เห็นความเรืองรองของจักรวาล ไม่อาจจะพัฒนาสัมผัสรับรู้ที่แท้จริงถึงจักรวาลขึ้นมาได้ ทั้งนี้เพราะคนหยิ่งยโสมัวแต่วุ่นวายอยู่กับตัวเอง มันแต่แข่งขันแย่งขิงอยู่กับคนอื่นจนลืมที่จะมองดูสิ่งนี้ไป ดั้งนั้น เมื่อไม่อาจจะสัมผัสรับรู้ เขาก็ไม่อาจที่จะหยั่งเห็นความเป็นไปได้แห่งสติปัญญาที่ดำรงอยู่ ตลอดจนคุณค่าของสิ่งต่างๆๆ จนสามารถชื่นชมได้ในทุกสิ่งด้วยสายตาที่ปราศจากการแบ่งแยก

    ลูกศิษย์: โห ถ้าจะเป็นแบบนี้ตายซะดีกว่า

    เจ้าอาวาส:คนแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้วอยู่แล้วเณรเอ๋ย .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2013
  13. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ถ้าคุณเข้าใจได้ ผมก็จะดีใจมากเลย
    แต่นี่ คุณไม่เข้าใจ ต่อให้ผมพูดถูกคุณก็ไม่เข้าใจหรอกครับ ว่ามั้ย
    ดังนั้น ถึงผมจะพูดอะไร ยังไง คุณก็ไม่เข้าใจ ว่ามั้ย ทีนี้ คุณเข้าใจหรือยังครับ อิอิ
     
  14. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ก็นั่นไงล่ะ แล้วตอนที่พวกคุณ มาบังคับให้ผมรู้จัก นอบน้อม ผมเองก็มีปัญญารู้ว่า นอบน้อมในสิ่งที่ควรนอบน้อม เหมือนกัน เวลาที่ผม ไม่นอบน้อม แล้วผมผิดตรงไหนกันเล่า ส่วนเวลานี้คุณไม่นอบน้อมผม ก็ไม่เป็นไร เมื่อไม่นอบน้อม แล้วจะมาถามหาปัญญาเพื่อความเข้าใจอะไรจากผมกันเล่า
     
  15. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172

    สรุปว่า พระกับเณร พูดถึงคนที่ตายไปแล้ว แต่ พูดกันสนุกสนาน ถึงสิ่งที่ตนเองก็ไม่เข้าใจได้หรอก ว่ามั้ยล่ะ

    สนุกแต่ ขี้โม้ เอาคนอื่นมานินทา แต่หาได้เข้าใจ ในสิ่งที่ตนเองเอามานินทานั้นไม่ แต่ก็ยังคง สนุกสนานอวดกันเองอย่างสนุกสนานว่า ตนเองเก่ง รู้ดี มีปัญญา
    แต่แท้จริง ก็แค่ศิษย์โง่ กับอาจารย์โง่ คุยกัน เพื่อ สะสมเพิ่ม ความโง่ให้กับตนเอง ก็เท่านั้น หามีสาระใดไม่
     
  16. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964

    ก็ยังมาตัดสินผมอีก ว่าผมไม่เข้าใจ
    เห็นชัดไหมว่า "ติดตัด"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กรกฎาคม 2013
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ไม่ใช่แค่ตายด้วยคำกล่าว

    แต่ตายไปแล้วจริงๆ

    หาเรื่องๆ พูด ตามสัญญาเดิม ความรู้เดิม

    ภายในไม่ใช่ของจริงที่มีมาตั้งแต่กำเนิด

    มีผู้มาเอาร่างกายเนื้อ จริง .... แต่จะนำไปใช้อะไรนั่น

    ยังไม่ทราบ
     
  18. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172
    ผมไม่เห็นจะอยากรู้เรื่องอนาคตเลยว่าอะไรจะเกิด จะเกิดอะไรตอนไหน
    เนื่องเพราะ ผลไม้ มันจะสุกเอง ตามธรรมชาติ ไม่เห็นต้องมานั่งเฝ้า วั่นวาย
    เกิดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น สุกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น คุณ มา นั่งรอผล เพื่ออะไรล่ะ
    ไร้สาระตามเคย
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ความเดิม

    ไหนเล่าความประเสริฐของตนเองดูว่า ตนเองมีความดีงามอะไรบ้าง

    สิ่งประเสริฐในตนเอง มีผลต่อผู้อื่น มีผลต่อธรรมชาติ มีผลต่อทุกสิ่งอย่างไร

    ให้แสดงก่อน

    --------------------------------------

    แสดงความดีของตนเองก่อน สิ ว่ามีอะไรมั่ง

    อ่านให้ครบแล้วค่อย พ่นออกมา
     
  20. เทวะทะตะ

    เทวะทะตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +172

    วิจารณ์ ว่าตนเองรู้เรื่อง ของคนอื่น ดีกันจัง คนพวกนี้
    แต่กับเรื่องของตนเอง ไม่เห็น ไปสนใจเลย
    อิอิ
    มายุ่งอะไรกับผมมากมายนักล่ะ ครับ ตกลงจะให้ผมเป็นแบบนั้นแบบนี้ ตามน้ำลายที่พวกคุณ จะ พ่นออกมาหรือครับ อิอิ

    เชื่อได้หรือพวกคุณน่ะ งมงายมากเลย ยึดติดกับสมมุติ อยู่เพียงนี้
    อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...