เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    ที่นี้ ถ้าของนั่นเป็นของส่วนตัวของพระอยู่ในกุฏิของท่านหรืออยู่ในบริเวณสังฆาวาสน่ะครับ

    ๑) ถ้าอันนั้นเป็นของส่วนตัวของพระน่ะครับเช่น ข้าวของ นาฬิกา พัดลม ปากกา ต่างๆนา

    ถ้าก่อนท่านมรณะภาพ ท่านเอ่ยปากให้ใคร ได้ครับ ของนั้นเป็นของคนที่มอบให้

    แต่ถ้าไม่ได้เอ่ยปาก ของนี่จะเป็นของกลางเลยน่ะครับ ถ้าญาตฺมาแสดงตน แสดงความเป็นเจ้าของ พิสูจน์ได้ (พระท่านอาจจะมีญาติ พี่ น้อง ลูก เต้าก่อนมาบวชน่ะครับ ) ก็เอาไปได้

    แต่ถ้าไม่มี โดยอัตโนมัติ เป็นของวัดครับ พระท่านและกรรมการวัดเขาจะมาจัดการ แยกออกจากกันว่าอันไหนของวัด ของส่วนตัว จดบัญชีไว้ และรอให้หมดงาน ก็จะมาเคลียร์กัน บางวัดปิดกุฏิไว้ก่อน กันวุ่นวาย หลังจากหมดงานศพ ก็มานัดกันเปิดดูก็มีครับ วิธีนี้ก็ดีครับ

    ถ้าอันไหนส่วนตัวไ ม่มีเจ้าของ เป็นของวัดครับ รวมถึงวัตถุมงคลที่มีอยู่ ถ้าเจ้าของเขามาฝากไว้ ก็ไปแสดงตน รับกลับไป แต่ถ้าไม่ ก็ตกเป็นของวัดครับ

    ตอน วัดศาลาดิน เปิด หอสวดมนต์ และ เปิดห้องท่าน หลานหลวงพ่อโทรมาหาผม บอกให้ไป เอาของคืน เพราะทราบว่า ผมถวายและฝากหลวงพ่อให้ปลุกเสกหลายอย่าง

    ตัวอย่าง ผมยังมี ไม้เท้าหลวงพ่อดำ ไว้ให้ท่านเป็นตัวอย่าง ท่านจะเอาไม้พยุงมาแกะเปนไม้เท้า ผมยังเคยรับอาสา ท่านบอกว่าท่านจะทำเองมีช่างแล้ว คงจะเกรงใจผม และยังมีของที่ฝากไว้ และถวายให้ เป็นพระผงหลายสิบลัง ที่ทำมาจาก เครื่องมือและวัสดุของผม

    หลานท่านโทรมาให้รีบมาแสดงความเป็นเจ้าของแล้วรับคืนไป แต่ผมไม่ไปครับ ยุคหลวงตาเล็กก็เหมือนกันครับมีของที่สร้าง ถวายท่านให้หลายอย่าง ผมก็ไม่ไปวุ่นวาย ตอนที่มีงานครับ

    ของวัดให้อยู่ที่วัดครับ

    แต่ถ้ามีใครเอาไป โดยท่านไม่ได้อนุญาตไว้ก่อน หรือ ไม่ใช่ของที่ฝากท่านไว้ เป็นของวัดโดยอัตโนมัติครับ เป็นของสงฆ์ ทันทีครับ แล้วกรรมการวัด และ พระท่านจะมีมติทำอย่างไรต่อ ทางพิธีสงฆ์ ก็เป็นเรื่องของท่าน ค่อยไปบูชาต่อมา ได้

    อันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรจะทำ ถูกทั้งทางโลก และ ทางธรรม
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    ก้นเงิน ผมมาใส่ทีหลัง คำร้อยเสกเป็นสำนวนของผม ว่าเสกมาหลายครั้งมาก ผมชอบแบบนั้น แต่ถ้าจะทำให้คนกังวล ว่าเสกน้อยสู่ เสกมากไมไ่ด้ เดี๋ยวผมจะพาทาานตามกิเลสผมจนเพลินครับ

    ผมจะกราบเรียนบอกว่า ของที่เอามาแท้หมด ผ่านมือหลวงตามา และ อย่างขนาดหลวงตาท่านเสกทีเดียว เกินพอแล้วครับ เทพ เทวดา พระใหญ่มากันครบ ตามตาใน อาจารย์ โกศล ผมมั่นใจว่าดีกว่าที่อื่น เสกเป็นปี มีพิธี ร้อยพิธี ครับ หลวงตาเล็ก ท่านเป็นพระไม่ธรรมดา ไม่ติดในพวกวัตถุนี่แล้วครับ ไปขอท่านก็ทำให้ ไปตื้อท่านก็ซ้ำให้

    พระแบบท่าน ถ้าลงมาทำให้ เกินพิธีธรรมดาไปมากครับ


    ร้อยเสก เป็นของที่เหลืออยู่ที่ผมครับ ตอนนั้นไม่ได้มีการคิดไกลไปว่าท่านจะล่ะสังขาร เรายังมีก่อสร้างต่อ พอสร้างพระเสร็จ เพื่อป้องกันตัว ผมขอสิทธิ์ขาดท่านในการจัดการ วัตุมงคลทั้งหมด ในวัตถุมงคลที่พวกผมสร้างเอาออกบูชา และ แจกแก่ผู้ที่มาช่วยก่อสร้างที่วัดใหม่น่ะครับ หลวงตาท่านรับรู้และ อนุญาต ผมถึงนำมา เรื่องนี้ไม่ใช่มีแต่ผมคนเดียว แต่ยังมีหลายคนที่ขอวัตถุมงคลของหลวงตามาเก็บไว้จำนวนมากๆ เพราะที่ท่านมี มีมากจริงๆครับ มีหลายลัง มีคนทำมาถวายหลายคณะ มีเป็นลังๆกองอยู่ นอกจากนั้น ยังมีของอีกหลายอย่่าง มาก คนที่ใกล้ชิดจะรู้ดี ทั้งข้าวของเเละเงินสดๆ ครับ ท่านกองทิ้งเหมือนข้างของทั้งหลาย เหน็บไว้บ้าง ซุกไว้บ้าง ท่านให้ความสำคัญอาหารพวกแมวยังมากกว่าวัตถุมงคลน่ะครับ

    ไม่ใช่แค่ที่เหลือใส่ตู้มาโชว์ครับ หลังจากท่านล่ะ สังขารผมไม่เคยกลับไปเหยียบ จนอีกหลายสิบปีต่อมา ไม่อย่างนั้น จะมีคนที่ผมเคยขัดผลประโยชน์ อ้างเอาแน่ๆว่าผมเอาของส่วนตัวท่านมา

    รวมทั้งยุคของหลวงพ่อทรง ก็แบบเดียวกัน ผมมีบทเรียน จากท่านล่ะสังขาร ผมยังไม่เคยกลับที่วัดอีกครับ ของวัดให้อยู่ที่วัดครับ ผมไม่สนใจอีกต่อไป ถ้าสนใจ ผมกลับไปเอาแล้วล่ะครับ ของที่ผมทำทั้งนั้นครับ

    บุญของผมและพวกบริสุทธิ์ ทำไปแล้ว สำเร็จไปแล้ว และ หลวงตา หลวงพ่อ ท่านมีกายทิพย์ ไปได้ทุกที่ และทั้งสองท่าน รวมทั้งหลวงพ่ออั้บ อยู่ในใจผมทุกเวลา ขณะจิตครับ อย่าไปเชื่อคำโฆษณา ขายของครับ

    ที่มีที่ผมเป็นของส่วนตัวที่ผม เอาใส่ลังเหล็กไว้ ลังเหล็กนี้เป็นลังที่ผมใส่วัตถุมงคลส่วนตัว คนที่ซื้อลังให้ผม เป็นวิศวกรใหญ่ อยู่บริษัทน้ำมันใหญ่ของรัฐแห่งหนึ่ง ยังติดต่อกันอยู่ เขาเห็นผมเอาของไปให้ท่านเสก จาก กล่องปลาสติก พัฒนามาเป็นลังเหล็ก เอา ไปให้ท่านเสกทุกอาทิตย์ จาก ๑ ลังงอกออกมาเป็นสองลัง และแค่นั้น เพราะแบกไหวแค่นี้ น่าจะร่วม ยี่สิบกิโล หลวงตายัง สัพยอกผม ตอนผมแบกสองลังที่มีพระกริ่งพระชัยฯ อยู่ด้วย เอาไปวางให้ท่านเสก ว่า สันติเขาแข็งแรงและ เหมือนวาจาสิทธิ์ของท่าน ผมยังแข็งแรงดีครับ ขณะที่เพื่อนรุ่นผม ไปแล้วหลายคน

    การเสกให้ของท่าน บางครั้งทำท่าจะยก ท่านบอกว่าไม่ต้อง ไปเอาอาสนะมา ปูท้ายรถ ท้านปืนไปนั้งเสกหลังรถ ก็มีมาแล้วครับ รถคนนั้นใช้ดีมาก ต่อมาผมยกให้พ่อตา คันนี้ยังซ่อมวิ่งใช้งานอยู่ครับ

    พระกริ่งพระชัยฯ พอสร้างเสร็จผมก็เอาใส่เพิ่มเข้าไปในลัง และของส่วนตัวของผมนี้ เป็นของที่ผมทำไว้เฉพาะตัวครับ มีของหลายอย่าง ผมขอท่านไว้ ท่านบอกเองว่าปลุกเสกหลายครั้งดีกว่าเสกครั้งเดียว ผมเลยได้โอกาศ เอาไปซ้ำทุกครั้งที่ไปหาท่านครับ บางอาทิตย์ โอกาศไม่เหมาะผมก็ขอน้ำมนต์ท่านแลัวเอาพระไปเสกด้วย เรียกว่า เสกทุกครั้ง บางวัน สองหรือสามครั้งเพราะมีหลายคณะมาขอให้ท่านเสกของ ผมก็วางไว้ที่ท่านนั่ง รับไปด้วยครับ ผมชอบของผมแบบนี้

    ชุดของผม ผมมั่นใจ ว่าเสกมามากกว่าสองร้อยครั้ง เกินสี่ปีขึ้นไปแน่นอน อัดเต็มๆจนปี ๔๔ ก่อนท่านล่ะสังขาร จนท่านชี้บอกว่า มันเยอะแล้ว ผมเลยไม่เอาไปอีกครับ มั่นใจยิ่งกว่าร้อย เปอร์เซนต์ครับ

    แต่มันมีของที่วนเข้าวนออก ผมจำไม่ได้น่ะครับ ว่าอันไหนบ้าง ยกเว้นพระกริ่งที่มาทีหลัง อยู่มาอีก ประมาณ สองปี เสกซ้ำมาเรื่อย จนท่านล่ะสังขาร

    แต่เสกมามากจริงๆ ซ้ำไปหลายครั้ง จนาดท่านล่ะสังขารไปแล้ว ผมเก็บเงียบมา พออาจาร์อนันต์มีงาน หนิมนต์หลวงปู่ พรหมมามา ขึ้นบ้านใหม่ อาจารย์อนันต์ ท่านบอกว่าเอาของมาปลุกเสกได้ ผมยกไปทั้งสองลัง ซ้ำอีกที และจากนั้นเก็บยาวจนถึงวันนี้แหละครับ

    การเสกหลานครั้งใจมันเต็มสำหรับผม ผมไม่ได้ทำขายครับ คนขายเขาเสกแล้ว จำหน่ายเลย เพราะเงินจม แต่ขผงผมทำไว้ใช้เอวครับ ยิ่งเสกมาก ยอ่งชอบ ได้เต็มๆ ได้บารมีเทพ เทวดามาเพิ่มด้วยครับสูตรผมไม่สงวนลิขสิทธิ์

    ผมจะไปตอบในกระทู้ด้วยน่ะครับ

    ถ้ายังไม่เคลียร์ โทรมาน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  3. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    quote=พี เสาวภา;8143808

    [​IMG] [​IMG]
    เปิดดูไฟล์ 2782182 เปิดดูไฟล์ 2782183

    สีผึ้งพระอินทร์ สุดยอดเครื่องราง หลวงตาเล็ก

    รายการนี้ก็ไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติม เป็นอยู่ในชุดลังเหล็กของผม เสกมาข้ามปี หลายร้อยครั้ง มีว่านสาวหลงใส่ สีผึ้งแห้งจนแข็ง ท่านที่ถามหาสีผึ้งหลวงตาเล็ก

    สิ่งนี้คือรายการแนะนำครับ




    สีผึ้งพระอินทร์ สุดยอดเครื่องราง หลวงตาเล็ก โดยคุณพี เสาวภา ขออนุญาตยกมาค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    ประวัติวัดใหม่ศรีสุธทาวาส

    วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เดิมชื่อ “ วัดใหม่กฐินราย “ ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๑ ตำบล น้ำทรง อำเภอ พยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยอยู่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก เป็นวัดที่ตั้งห่างไกลจากตัวอำเภอประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร อยู่คนละฟากแม่น้ำ มีบ้านเรือนอยู่รอบวัดประมาณ 100 หลังคาเรือน วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง ไม่ปรากฎหลักฐาน เพียงอนุมานว่า สร้างขึ้นในยุครัตนโกสินทร์ ราวปี พ.ศ.2469 มีเจ้าอาวาสปกครองวัดประมาณ 4 องค์ ก็ขาดพระภิกษุดูแล วัดชำรุดทรุดโทรมและกลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา

    หมายเหตุ : เดิมชาวบ้านเรียกวัดใหม่ เฉยๆ พอหลวงปู่มาอยู่ ผมถามท่านเอง ท่านบอกว่าฉันตั้งชื่อเอง เป็น วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ( ชื่อนี้ไม่เป็นชื่อแบบเป็นทางการ ) คำว่า ศรีมาจากชื่อท่าน ส่วนคำว่า สุทธาวาส พวกท่านคงทราบดี ว่าเป็นที่อยู่ของพรหมชั้นสูงสุด มาถึงตอนนี้ หลวงปู่ท่านก็ล่ะสังขารไปแล้ว ผมบอกตามความเชื่อของผมเลยว่า ที่ท่านมาแล้วตั้งว่าคำว่า สุทธาวาสต่อ ก็คือที่ที่ท่านอยู่ในตอนนั้นนั่นเอง ส่วนจะที่ไหน พวกท่านกรุณาคิดกันเอาเอง

    จนกระทั่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูบุญศรี อินฺทวณฺโณ อายุประมาณ ( อย่างน้อย ) ๙๖ ปี จากการประเมินตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ว่าท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ อันนี้มีผู้ได้ยินหลายคน มีพยานอยู่ และท่านว่าท่านเกิดวันอาทิตย์ปีมะเส็ง และท่านบอกเองว่าว่าใบสุทธิลงปีผิด แต่ท่านไม่สนใจ ปล่อยเลยตามเลย เมี่อคำนวนดูว่าสิ้นสมัยรัชกาลที่ ๕ เมี่อ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ปีจอ

    หมายเหตุ : ผมเคยพาหลวงปู่อาจารย์ ไปตรวจปากและทำฟัน ( ปลอม ) ที่นครสวรรค์ ฟันท่านร่วงหมดปากแล้ว ไม่มีแม้แต่ซี่เดียว แต่ร่างกายแข็งแรงมาก เดินเหินตัวปลิว ไม่ต้องมีไม้เท้า ไม่ต้องมีพยุง ( จะเข้าไปพยุงท่านจะปัดมือออก เป้นที่รู้กันในหมู่ศิษย์ใกล้ชิด หมอฟันเมื่อตรวจหลวงปู่บนเตียงทำฟันแล้ว ฉงนมาก ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ เพราะคนจะฟันร่วงหมดปากนี่ อายุ แบบว่า ใกล้ร้อยเข้าไปแน่ๆ พอหมอถามหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ ท่านยกมือซ้ายกางนิ้วมือมา ๕ นิ้ว แล้วยกให้ดูสองครั้ง หมายถึง เกิดรัชกาลที่ ๕ อยู่มา ๕ แผ่นดิน ( หายากแล้วล่ะครับ ) และที่ไม่น่าแปลกใจ หวยงวดนั้น ออก ๕๕ ครับ

    หลวงปู่ ท่านเคยบอกว่า ท่านชาตะ วันอาทิตย์ และเคยบอกอีก ต่างเวลาและเหตุการณ์กันว่าปีมะเส็ง ผมเอามาผูกกัน ถ้าท่านเกิดปีมะเส็งที่ทันรัชกาลที่ ๕ ก็ต้องเป็นปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ท่านจะมีอายุก่อนละสังขารไม่ต่ำกว่า ๙๖ ปี ( ๑๘ มกราคม วันเกิดหลวงปู่ ) แต่ถ้าเกิดก่อนอีกรอบจะมีอายุประมาณ ๑๐๘ ปี!!! ( พ.ศ. ๒๔๓๖ ถ้า เกิด พ.ศ. นี้ จะมีอายุใกล้เคียงกับ หลวงปู่บุดดา ถาวโร ครับ ) แต่จากใบสุทธิหลวงปู่จะมีอายุประมาณ ๘๔ ปี ตอนล่ะสังขารหลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๐๓ จนละสังขารเมี่อ วันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ


    หมายเหตุ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี. ชาตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐


    ( จะมีอายุอ่อนกว่า หลวงปู่ บุญศรี ๑๒ ปี คนล่ะรุ่นกันครับ )

    ตามประวัติ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก เป็นรุ่นเดียวกัน ไปเป็นทหารพร้อมกัน คนจะเกณฑ์ทหาร รุ่นเดียวกัน ยศเดียวกัน ถ้าผมจำไม่ผิดคือยศ เรือตรี จะมีอายุใกล้เคียงกัน จะอายุแก่ อ่อนกว่ากัน ๑๒ ปี เป็นไปไม่ได้ครับ เมื่อมาบวชก็มาพร้อมๆกัน และผมมีหลักฐานมาพิสูจน์อีกว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรี ไม่ได้เกิดปี ๒๔๖๐ ตามที่เข้าใจกัน


    หมายเหตุ หลวงปู่บุดดา ถาวโร กำเนิด วันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 5 มกราคมพ.ศ. 2437

    ( จะมีอายุ แก่กว่าหลวงปุ่บุญศรี ๑๑ ปี คนล่ะรุ่นกันอีกเหมือนกันครับ )

    ที่อัญเชิญชาตะ หลวงปู่บุดดามาก็เพราะว่ายุคหนึ่ง คนก็เชื่อกันว่า ท่านคือ ฤาษีลิงขาว ดูจากวัยแล้ว หลวงปู่บุดดาอาวุโสกว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ไม่มีทางเป็นรุ่นเดียวกันได้


    ประวัติหลวงปู่พระครู บุญศรี อินฺทวณฺโณ

    จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เอง และจากคุณน้าสมพงษ์ บูรณานันท์ ( หลานหลวงปู่อายุ ๖๕ ปี เกิด พ.ศ. ๒๔๗๖)

    ครูเพชร แพ่งเกษร ครูเจริญ วัดใหม่ฯ และจากใบสุทธิ ของท่าน

    จากใบสุทธิ

    ชื่อ บุญศรี นามสกุล สังขะพานิช

    วิทยฐานะ ชั้นมัธยม ๓ ( จัดว่าสูงมากในยุคนั้น ) อาชีพ พานิชกรรม

    บิดา นาย ทองหยู่ ( ซีปู้ แซ่เตีย แต้จิ๋ว ) มารดา นาง ทิน ( ทับทิม ลูกครึ่งไทย จีน )

    เกิด วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับ วัน พุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปี มะเส็ง ( หลังรัชกาลที่ ๕ สวรรคต )

    แต่ในใบสุทธิเขียน เกิดวัน ๑ ฯ ๒ ค่ำ ปี มะเส็ง ๒๔๖๐ ซึ่งหลวงปู่บอกว่าผิด

    ตำบล ตลุก อำเภอ สรรพยา

    จังหวัด ชัยนาท

    สีเนื้อ ขาวเหลือง สัณฐาน สูง

    ตำหนิ แผลเป็นใต้ศอกขวา

    บรรพชา

    ชื่อ สามเณร บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

    พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

    บรรพชาเมื่ออายุ ๒๑ ปี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

    อุปสมบท

    ชื่อ พระ บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

    พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

    พระอาจารย์ ทรง กรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์ ปิ่น อนุสาวนาจารย์

    อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    ( น่าจะบรรพชาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ การบันทึกผิดไปรอบหนึ่ง หลวงปู่ท่านบอกว่า ใบสุทธิมาทำใหม่ทีหลัง และผิด แต่ถ้าเรารู้นิสัยท่าน ท่านจะเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ และเลยตามเลย )

    ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

    ชื่อ พระบุญศรี

    ฉายา อินฺทวณฺโณ

    วัด สะพานหิน

    ตำบล หาดทะนงค์

    อำเภอ เมืองอุทัยธานี จังหวัด อุทัยธานี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    เจ้าอาวาส พระครูอุทิศธรรมวินัย เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี

    สำนักที่จำพรรษา (จากคำบอกเล่าของหลวงปู่ )

    ๑) วัดสพานหิน ( หลวงปู่เล่าว่า ได้ฝากตัวเรียนวิชา พระคาถาอาคมกับพระอาจารย์ บุญธรรม วัดทุ่งหลวง โดยมีข้อแม้ว่าต้องบวช ในรุ่นท่านมีอยู่ ๕ คนที่บวชเข้ามาเรียนวิชา เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า พระอาจารย์ บุญธรรมเก่งไหม ท่านตอบว่า เก่ง แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างพระเครื่องรางของขลังไว้ )

    ๒) วัดโบสถ์ ๑ พรรษา

    ๓) วัดไชโย ๑ พรรษา เคยเดินไปเที่ยววัดพิกุลทอง สิงห์บุรี พระครูพุทธพิมพ์ภิบาล เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอ มีเรือยนตร์ ๒ ลำ

    ๔) วัดที่จังหวัดอุตรดิตย์ ตรงข้ามวัดท่าเสา ๑ พรรษา

    ๕) วัดทุ่งหลวง หนองฉาง อุทัยธานี ๓ พรรษา เป็นเจ้าอาวาส ครูเจริญครูโรงเรียนวัดใหม่เคยคุยกับคนส่งที่เคยจัดส่งปิ่นโตให้หลวงปู่

    ๖) วัดสพานหิน ? วัดบ้านกล้วย?

    ๗) วัดสำโรง พยุหคีรี

    ๘) วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เป็นเจ้าอาวาส ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๓ ถึง ๒๕๔๔ จนล่ะสังขาร


    ประวัติส่วนตัว

    เกิดที่อำเภอวัดสิงห์ คุณยายอยู่สรรพยา คุณยายเป็นผู้บวชให้ ( จากคำบอกของหลวงปู่ บวชเมื่ออายุ ๒๓ ปี )

    มีพี่น้อง ๕ คน เป็นอันดับต่อไปนี้

    ๑) คุณยาย กิมยู้ เสียชีวิต ตอนเสียชีวิตอายุ ๘๐ กว่า เสียมา ๑๐ กว่าปี ( จากคำบอกเล่า นับตอน พ.ศ. ๒๕๔๐ ) คุณยาย กิมยู้ น่าจะเกิด ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๐ กว่า

    ๒) หลวงปู่ ( ตี้ ) ซึ่งเกิดตามมา ผมเชื่อว่าท่านเกิด พ.ศ. ๒๕๔๘ ครับ และน่าจะบวชเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ครับ

    ๓) คุณปู่เท้า คนที่มางานศพ หลวงตา แต่ท่านแก่มากคุยไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ผมตามไปเจอมาก่อนหน้าแล้วครับ

    ๔) คุณยาย กิมเอง เสียชีวิตแล้ว ( ๒๕๔๐ )

    ๕) คุณยาย ละมูล แซ่ ลี เกิดปีวอก ( ๒๔๖๑ ) อายุ ๘๐ ปี ตอนปี ๒๕๔๐

    ไม่เคยเป็นทหารมาก่อน จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เองว่า เกือบโดนเกณท์เป็นทหารม้าที่สระบุรีเพราะขี่ม้าเป็น ท่านแสดงรอยสักที่ท้องแขน ว่าข้างขวาเป็นรอยสักทับรอยสักเดิมสมัยเป็นเด็กสักเล่นๆ ส่วนบนท้องแขนข้างซ้ายเป็นรอยสักฉายา อินฺทวณฺโณ


    หลวงปู่ละสังขารเมี่อวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ

    ข้างบนเป็นบันทึกมาจากใบสุทธิ และจากคำบอกเล่า กว่าผมจะรู้แค่นี้ใช้เวลาเป็นปีๆ สาเหตุเพราะท่านเป็นคนไม่พูดมาก ถามคำตอบคำ และ ไม่ชอบเล่าประวัติ พอคุยๆไป วกมาถาม ท่านก็บอกที พอรู้ว่าเราจะถามประวัติ ท่านก็หยุด คราวนั้นเป็นอันว่าอด ต้องรอไปอีกสักหลายเดือน เป็นสองสามเดือน รอท่านไม่ระวังตัว คุยๆไปคุยมา วกมาถามต่ออีกที ก็ได้อีกหน่อย เหตุการณ์ก็เป็นแบบเก่า ต้องเผลอๆ แอบถามไปเรื่อยๆ แล้วเอามาปะติดปะต่อกัน

    ผมจดไว้ กันลืม ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ แต่พอมาถึงยุคที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ท่านเมตตารับไว้ พอผมสนิทๆกับท่าน รู้แกวว่าจะถามอะไรลึกๆ ต้องอยู่กันแค่สองคน

    ครั้งสำคัญคือผมถามที่สงสัยว่า หลวงปู่คือหลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หรือปล่าวครับ ท่านยกมือปฏิเสธทันที และบอกว่า ไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด และผมทราบนิสัยว่า เมื่อท่านบอกไม่ใช่แล้ว พวกก็ยังมาตื้อให้ใช่อีก ( ด้วยเหตุผล ต่างๆ ตามความเชื่อส่วนตัว ) ท่านก็จะเฉยซ่ะ ปล่อยเลยตามเลย

    ดูตัวแดงชัดๆน่ะครับ หลวงตาท่าน ชาตะ ใน สมัยรัชกาลที่ ๕

    หลวงพ่อ วัดท่าซุง ชาตะ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ ไม่ทันรัชกาลที่ ๕ ครับ

    เกิดคนล่ะ พ.ศ. กันและ พระอุปัชฌาย์ คนล่ะคน บวชคนล่ะยุค คนล่ะ สถานที่

    แต่พวกขายของก็ดันกันตั้งแต่สมัยหลวงตายังมีสังขาร เพราะตลาดหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ตลาดใหญ่มาก ลูกศิษย์ท่านเยอะมาก เป็นล้านๆคน

    สาธุ ๆ ๆ แต่ความจริงก็ยังเป็นความจริง ความจริงไม่เคยหลอกลวงใครครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  5. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]
     
  6. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    คุณพี เสาวภา เขียนไว้ขออนุญาตยกมาค่ะ
     
  7. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]
     
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]

    มากราบหลวงตาเล็ก วัดใหม่ ขอโชค ขอลาภ กลับจากทำงาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  9. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410


    คุณพี เสาวภา ได้ตอบคำถาม คุณไปคนเดี่ยว เรื่องประวัติการสร้างพระชุดแพโบสถ์น้ำ ขออนุญาตยกมาจากหน้า ๑๓๗๔ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  10. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]

    มากราบหลวงปู่เสียน ปภากโร วัดมะนาวหวาน จ.อ่างทอง
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    เล่าด้วยภาพ

    IMG_0002.jpg IMG_0003.jpg IMG_0004.jpg

    รูปต้นแบบศาลาวัดทรงธรรม ที่เอามาเป็นต้นแบบ สร้างแพโบสถ์น้ำ ควบคุมแบบไม่ให้หลุดทรงไทยโดยอาจารย์ อนันต์ ดำเนินการ ตั้งแต่ น็อตตัวแรก โดย ร.ท. สันติ

    ส่วนสำคัญ การเงินมาจากหลายสาย ตามตารางที่ โชว์ไปล่วงหน้า ไม่มีบริษัทเชลล์แห่งประเทสไทย ไม่มีพวกท่าน สายตำรวจ สายองค์การเภสัช ฯลฯ ไม่มีเงิน

    และ บารมีหลวงตาล้วนๆ เงินหามาได้ หลักสิบล้าน ขึ้นไป มาเรื่อยๆ เหลือเงินไปสร้างต่ออีกหลายรายการ

    IMG_0005.jpg IMG_0006.jpg IMG_0007.jpg

    หลังจากสร้างแพเสร็จ ปลูกทรงไทย ไม้สักล้วนๆ โดยช่างจากบางปะหัน ผมวิ่งรอบทิศ เพื่อนๆ ช่วยกันเต็มที่
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    คิดเลขแบบเด็ก อนุบาลน่ะครับ

    ถ้าหลวงตาเล็กอายุอ่อนที่สุด ชาตะในปีสุดท้ายของ รัชกาลที่ ๕ คือ ๒๔๕๓

    ( ซึ่งจริงๆไม่ใช่ ท่านชาตะปีมะเส็ง ที่ทันรัชกาลที่ ๕ คือ ปี ๒๔๔๘ )

    หลวงพ่อวัดท่าซุง ชาตะ ๒๔๖๐ ครับ

    ถ้าสรุปแค่นี้ อายุ ทั้งสองท่าน ต่างกันอย่างน้อย ๗ ปี หลวงตาเล็กมีอายุมากกว่า หลวงพ่อวัดท่าซุงเยอะ คนล่ะรุ่นกันครับ

    บวชก็ต่างพระอุปัชฌาย์กัน ถ้า ใบสุทธิผิด ก็ผิดเรื่องเวลา แต่ไม่มีทางผิดเรื่องพระอุปัชฌาย์ เพราะไม่มีพระอุปัชฌาย์ องค์ไหน เซ็นต์ ใบสุทธิให้พระที่ท่านไม่ได้บวชให้ได้ครับ ถ้าเซ็นต์ให้ เป็นการโกหก แบบมีลายลักอักษรซ่ะด้วย พระยุคโบราณหรือ ยุคนี้ก็ไม่ทำกันครับ ( ย้อนไปดูใบสุทธิน่ะครับ ว่าใครเซ็นต์ ไว้บ้าง)

    แต่คนที่ฟังแล้วพยายามไม่เชื่อ ก็ยังดันให้คนที่อายุต่างกัน อย่างน้อย ๗ ปีขึ้นไป ไปรับราชการเป็นทหารเรือ เป็นเกลอกัน พร้อมๆกัน ติดยศ เรือตรี เหมือนกัน บวชพร้อมๆกัน เพื่อจะได้.....

    เป็น ท่านปู่ ฤาษี ชุดเดียวกัน เหตุผลไม่ได้มาจากความจริง แต่มาจากเหตุผล ด้านความอยากจะเชื่อล้วนๆและ อิงการตลาดครับ เพราะ หลวงปู่ฤาษีลิงเล็กมา แพร่หลายหลังจากที่หลวงพ่อวัดท่าซุงล่ะสังขารไปแล้ว คนหาที่พึ่ง จึงไปเน้นที่ หลวงปู่ฤาษีต่างๆกัน

    ตอนหลวงพ่อวัดท่าซุงมีชีวิต ทำไมถึงไม่มีใครพบ วัดอยู่ห่างจากกันแค่ขับรถไม่เกิน ครึ่ง ชม.

    มีหรือ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงนิมนต์พระมาจากทั่วทิศ แต่วัดห่างกันนิดเดียว เป็นเกลอกัน ท่านจะไม่นิมนต์มา ขนาด หลวงปู่บุดดา แก่กว่า หลวงพ่อวัดท่าซุงเยอะ ยังนิมนต์มา และ มาเองก็มี

    ทำไม ท่านฤาษีลิงเล็ก หรือ หลวงตาเล็ก ( ที่คนพยายามว่าใช่ ) ที่ยังมีสังขารอยู่ ไม่ได้อยู่ในป่า จึงไม่มาร่วมงานบ้าง แต่ไปหลังจากที่ หลวงพ่อวัดท่าซุงล่ะสังขารไปแล้ว

    เอาแค่นี้แหละครับ ดันกันไปเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมก็ค้านเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะท่านนี้เป็นครูบาอาจารย์ผมครับ เรื่องท่านต้องจริง จะเล่าต้องมีหลักฐาน....อย่าพยายามมั่วครับ
     
  13. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG][​IMG]

    โมทนา สาธุการ ในบุญกุศลร่วมกัน เลขที่ 208,802
     
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    กราบ หลวงพ่อเสียนครับ ผู้ปลุกเสก แสนหก ครับ น่าจะเป็นชุดแรกที่เป็นทางการครับ เพราะตอนนั้นผมยังเอาชันโรงไปถวายท่าน
     
  15. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    ของชิ้นนี้ ประวัติ แร่โคตรเศรษฐี รู้กันไปทั่วแล้วน่ะครับ มาเล่าก็ซ้ำๆ

    แต่พระนี้ ทันท่านแม่ชี ทันหลวงตาครับ

    ส่วนเนื้อขาวไม่ทันท่านแม่ชี แต่นำไปเข้าพิธี วัดท่าซุง และ แวะวัดหลวงตาเ็ล็กครับ

    การขึ้นเป็นรูปพระ เป็นการเข้าพิธี สมโภชองค์พระ อย่าไปเรียกว่าเสกแร่ซ้ำ แร่นี้ดีอยู่แล้วครับ

    ไปบูชาที่สำนักครับ เงินไปบำรุงสำนัก สร้างวิหารทาน เต็มๆครับ

    ได้บุญเต็มๆ ได้ของดีเต็มๆ เหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  17. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]

    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร ค่ะ
     
  18. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก หลวงพ่อทรง ค่ะ
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    วันนี้ ว่าจะเขียนเรื่อง หลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก แต่เปลี่ยนใจ ไม่อยากกระพือ ให้ของแพง ตามกระแสเมื่อประมาณ ๑๕ ปีก่อน เอาแค่เบาะๆว่าตระกูลผม นับถือสายหลวงปู่ปาน หลวงพ่อจง ตั้งแต่รุ่นยายตัวจริงหรือไม่

    แต่แน่ะนำให้ กด search พระครูปัญญาโสภิต ( สำรวย ) กับเรื่องแมวตาเพชร

    พระครูปัญญาโสภิต.jpg

    ท่านผู้นี้เป็นศิษย์ หลวงปู่ปาน ของแท้ เป็นหลานหลวงปู่ปานด้วย และ เป็น ญาติ ( น้า )แท้ๆ ของ หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ในยุคที่คนกำลังตามหา หลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก ท่านผู้นี้เคยบอกกับศิษย์ว่า อาตมาก็เป็น ฤาษีลิงเล็กเหมือนกัน ( ลิงคนล่ะทีม หลวงปู่ปานมีศิษย์ ( เก่งๆ ) หลายรุ่น ท่านเป็นนักสร้างพระกรรมฐาน )

    บ้านผมอยู่ห่างวัด ขับรถ ๑๐ นาที ผมไปหาท่านประจำ ท่านล่ะสังขารแล้ว กระดูก หรือ อัฐิ เป็นพระธาตุ สมัยยังมีสังขารและไหว มีงานวัดท่าซุง หลวงพ่อวัดท่าซุงจะนิมนต์ท่านไปประจำ ท่านเป่ายันต์เกราะเพชรได้ ขลังซ่ะด้วย ผมไปซ้ำมาแล้ว และมีแมวตาเพชรคู่บารมี

    เอียง แมวตาเพชร.jpg

    องค์นี้ของจริง ทำไมไม่ดันให้เป็น หลวงปู่ฤาษีลิงเล็ก ตั้งแต่ยุคนั้น

    ทำไมมาดัน หลวงตาเล็ก อาจารย์ของผม ทั้งที่ เป็นคนๆล่ะยุคกันแท้ๆ ลองตรองดูน่ะครับ หาอ่านประวัติเอาเองน่ะครับ อยากให้ลูกศิษย์ใกล้ชิด ของท่านอ่านเจอมาเล่าสักหน่อยครับ

    หลวงปุ่ปํญญาโสภิต.jpg

    พระธาตุของท่าน ไปพิสูจน์ความจริงได้ ของจริงนิ่งคล้ายใบ้ ของดิ้นได้นั้นไม่จริง

    กราบ ๆ ๆ หลวงปู่ปัญญาโสภิต ด้วยความระลึกถึง และ นับถือ ตลอดกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  20. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...