สติรับรู้ และ การวางอุเบกขา ไม่ใช่ที่สุดของการหลุดพ้นได้จริง ดอก ชยุต

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย phudit999, 8 สิงหาคม 2013.

  1. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ข้อคิดพิจารณา

    แม้รับสัมผัสกับธรรมชาติ.. ก็ยังมีตัวรับรู้
    ฤว่า.. สภาวะนั้น แท้จริงเป็นทั้งอัตตาและอนัตตา
     
  2. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241


    ท่านใช้คำว่าแสดงธรรม... ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่เหมาะแก่ฐานะของท่าน
    เพราะท่านไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นการมิบังควร เป็นอย่างยิ่ง

    ต่อให้สิ่งที่ท่านกล่าวมาจะจริงแค่ไหน...มันก็เป็นแค่ธรรมที่ท่านรู้ตามพระพุทธองค์ ท่านจึงไม่ควรกล่าวว่า "แสดงธรรม" อีกทั้งท่านก็มิใช่บรรพชิต ที่มีหน้าที่เผยแผ่พระธรรม...

    เราทั้งหลายที่เข้ามาสนทนาธรรมกันในที่นี้ก็เพื่อแลกเปลี่ยน มุมมอง แนวคิด วิธีการปฏิบัติ ฯลฯ เพื่อเติมเต็มประโยชน์ซึ่งกันและกัน...
    เรามิได้มีหน้าที่ในการแสดงธรรม....

    ว่าด้วยเรื่องบัวสี่เหล่า..
    บัวเหล่าที่ ๔ ที่ พระพุทธองค์ ไม่โปรดสอน....ในขณะนั้น
    มิใช่พระองค์กีดกัน ด้วยความคิดตำหนิ หรืออคติใดๆ..
    เพียงแต่พระองค์ทรงเห็นด้วยพระปัญญาอันไม่มีประมาณ ว่าบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ถึงกาลที่จะเข้าใจ "ธรรม" อันลึกซึ้ง... ที่จะถ่ายทอดให้เข้าใจด้วยภาษา...หากบุคคลเหล่านั้น ยังไม่มีการเจริญของสติปัญญา (ทางธรรม) ที่พร้อมจะรับ...หรือไม่ก็ยังไม่พร้อมที่จะละ ทิฏฐิมานะ ที่ยังแรงกล้า ให้ลดลงเพื่อน้อมรับ คำสอนได้...
    ธรรมะ มิใช่สิ่งที่จะไปยัดเยียดให้ใครได้... เจ้าตัวจะต้องน้อมเข้าไปใส่ตน


    และเมื่อกาลผ่านไป เมื่อบุคคลเหล่านั้น ได้เวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสาร...
    เห็นภัยแห่งการเกิด ด้วยจิตตนเองแล้วไซร้...
    ก็ไม่เกินวิสัย ที่เวไนยสัตว์ เหล่านั้น จะพัฒนาตนขึ้นมาได้....
    เปรียบเสมือน บัวในตม ที่อย่างไรเสีย ก็ต้องชูช่อ ขึ้นมารับแสง เพื่อรอการเบ่งบาน ตามกาลอันเหมาะสม ต่อไป...
    บัวเหล่าที่ ๒,๓ หากแม้ตั้งอยู่บนความประมาท มัวเมา หลงตน ก็ไม่อาจเบ่งบาน ตามกาลอันเหมาะสมได้....อาจเนิ่นช้า ด้วยความหลงผิด อันไม่ควรจะเกิด...

    ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอนิจจัง

    แต่หากท่านเป็นผู้มีจิตปรารถนา พุทธภูมิ ข้าพเจ้าก็ขออนุโมทนา...
    แต่มีเงื่อนไขอยู่เพียงนิดว่า ท่านต้องสำเร็จประโยชน์ตนก่อน จึงจะล่วงรู้วิธี ที่จะไปบอกกล่าวผู้อื่น เพื่อยังประโยชน์แก่ผู้อื่นเหล่านั้น อย่างถูกต้อง ตรงทาง...ไม่เนิ่นช้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...