ติดตามสถานการณ์ "ซีเรีย" สงครามจะขยายขอบเขตหรือไม่???

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย จริง?หรือ?, 28 สิงหาคม 2013.

  1. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    แนะนำให้ดูสารคดีBBC จะได้เข้าใจเรื่องราวความเป็นมาของสงครามในซีเรีย

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ecuTPOZSx4I]Documentary BBC - A History of Syria (2013) - YouTube[/ame]

    จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องการจองเวรเข่นฆ่ากันระหว่างมุสลิมซุนนีกับฝ่ายมุสลิมอะละไว โดยมีกลุ่มพวกคนเผือกเป็นตัวประกอบในแต่ละตอนของประวัติศาสตร์

    น่าเศร้าที่ชาวมุสลิมเข่นฆ่ากันเอง ก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อนบีมูฮัมหมัดเสียชีวิตลง การเข่นฆ่าระหว่างกลุ่มต่างๆก็ดำเนินเรื่อยมา พระเจ้าจะยืนเคียงข้างฝ่ายใดกัน? ซุนนี หรือ อะละไว อาเมน
     
  2. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ถูกต้องครับ แต่ระวัง เจอคนสอนไม่ดี ทำได้เหมือนกันนะ ถึงจะเสื่อมตอนท้ายก็เถอะ คนตายไปหลายเหมือนกัน
     
  3. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    ผมว่าถ้ามันจะรบกัน
    มันไม่ใช่อาวุธพลังจิต พลังเจิดอะไรหรอก

    ขีปนาวุธแบบร่อน โทมาฮอก นี่แหละตัวเปิดเกม. และตามด้วยอาวุธ hi-tech ของอเมิรกาอีกมากมาย

    น่าสนใจตรง รัสเซียจะช่วย ซีเรีย สู้กับสหรัฐไหม
    ถ้าช่วยนะ ได้เห็นเรือรบ ทั้ง 2 ฝ่ายจมกันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกันล่ะ

    ใจจริง ผมไม่อยากให้รบกันเลย กลัวเศรษฐกิจประเทศไทยจะทรุดลงกว่านี้
    แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว.
     
  4. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    เอามาฝากเพิ่มครับ
    เว็บไทยแปลข้อมูลภาษาไทยน่ะ

    พิจารณากันครับ แค่เอามาแชร์เท่านั้น ไม่ได้มีฝักฝ่ายด้วย และไม่ได้มีเจตนาร้าย
    เราเก็บข้อมูลเพื่อพิจารณา และเอาใว้เจริญเป็นปัญญาในธรรมได้ว่า"สัตว์โลกเป็นเช่นไร"
    ส่วนตัวผมเองคิดว่า"ทางออกมีเสมอ ถ้าเราใส่ใจจะมองมัน ด้วยสายตาที่ยุติธรรมสักนิด"
    ... โรงหนังยังมีทางออกตั้งหลายทางแหน่ะ สาอะไรกับเราๆท่านๆผู้ร่วมทุกข์
    เราๆท่านๆผู้อยู่ร่วมกันบนโลกนี้ จะพึงหาทางออกจากทุกข์ในทุกๆเรื่องไม่ได้เชียวหรือ? ...

    ปล่อยวางเมื่อไหร่ ใจก็เบาครับ
    ... ^_^ ...

    (ปล. ผ่อนคลายกันบ้างเนาะและก็รักกันเข้าใว้ครับ เราทั้งหมดเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น และก็ไทยก็ย่อมยังเป็นอิสระครับ เพราะเราชื่อว่าไทย ... ขอให้ทุกๆท่านมีใจที่เป็นอิสระจากความทุกข์ทุกๆอย่างครับ ...)

    .......... .......... ..........

    มะกันเดินสายกล่อมยุโรป ขอเสียงหนุนถล่มซีเรีย
    มะกันเดินสายกล่อมยุโรป ขอเสียงหนุนถล่มซีเรีย | เดลินิวส์

    [​IMG]
    ..............................................

    สื่อเผยสหรัฐกะถล่มหนักซีเรีย 3 วันรู้ผล
    สื่อเผยสหรัฐกะถล่มหนักซีเรีย 3 วันรู้ผล | เดลินิวส์

    [​IMG]

    ..............................................

    สหรัฐไร้ทางเลือก นับวันรอถล่มซีเรีย
    สหรัฐไร้ทางเลือก นับวันรอถล่มซีเรีย | เดลินิวส์

    [​IMG]

    ..............................................


    อ่านกันเล่นๆครับ อย่าไปเครียด "มีสติอยู่กับตัวครับ" จริงเท็จอย่างไรเรายังทราบได้ยากนัก
    เราๆท่านๆก็"ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา"กันไปครับ ... อันนี้ประเสริฐมากที่สุดครับ ...


    ด้วยความเคารพยิ่ง

    ^_^
    _/\_
    ประทีป
    .......... .......... ..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  5. Proud&Prime

    Proud&Prime Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +74
    สงครามแบบนี้มีแต่ผู้แพ้ครับ
    ขอได้โปรดหยุดเถิด
     
  6. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    อัสซาดสัมภาษณ์สื่อมะกันปฏิเสธใช้อาวุธเคมี
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 05:41 น.
    [​IMG]
    บาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐ ซึ่งจะออกอากาศในวันนี้ ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน ขณะจอห์น แคร์รี รัฐบาลต่างประเทศสหรัฐเดินสาย บุกยุโรปขอเสียงสนับสนุนการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ตอบโต้การใช้อาวุธเคมี


    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ว่า นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า เขาและรัฐมนตรีต่างประเทศสันนิบาตชาติอาหรับ เห็นพ้องต้องกันกันว่า การใช้อาวุธเคมีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด นั้น ถือเป็นการล้ำเส้นแดงที่โลกขีดไว้ โดยนายแคร์รี ซึ่งกล่าวในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เดินทางเยือนยุโรปเพื่อโน้มน้าวขอเสียงสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรียเพื่อลงโทษประธานาธิบดีอัสซาด “การใช้อาวุธเคมีที่เลวร้ายของนายอัสซาด ถือเป็นการข้ามเส้นแดงที่นานาชาติและโลกขีดไว้” นายแคร์รี กล่าว

    อย่างไรก็ตาม นายอัสซาด ก็ปฏิเสธบ่อยครั้งว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีประชาชนด้วยอาวุธเคมี โดยในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของสหรัฐ พีบีเอส ซึ่งจะออกอากาศในวันนี้ นายอัสซาดระบุว่า จะมีการตอบโต้หากถูกโจมตี พร้อมปฏิเสธว่าเขาอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีต่อประชาชนซีเรีย

    รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญยิ่งในการลงมติในวุฒิสภาวันพุธนี้ว่าจะไฟเขียวให้อำนาจรัฐบาลถล่มซีเรียหรือไม่ ขณะที่ประเทศอาหรับ ยังมีความคิดเห็นแตกแยกเกี่ยวกับปัญหาการใช้กำลังทหารในซีเรีย

    อย่างไรก็ตาม นายแคร์รีไม่ปฏิเสธคำแนะนำของฝรั่งเศสว่า จะให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติลงมติมอบอำนาจความเป็นไปได้ในการโจมตีซีเรีย เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธยูเอ็น เสร็จสิ้นการรายงานผลการตรวจสอบการโจมตีใกล้กรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย เมื่อวัน 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 ศพ กระนั้นก็ตาม รัสเซียและจีน ซึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงวีโต้ในคณะมนตรีความมั่นคง ขัดขวางความพยายามก่อนหน้านี้ ในกรลงโทษรัฐบาลซีเรีย แต่สหรัฐและฝรั่งเศส ระบุว่า นายอัสซาดอยู่เบื้องหลังการโจมตี และควรจะหยุดยั้งไม่ให้มีการใช้อาวุธเคมีอีก


    อัสซาดสัมภาษณ์สื่อมะกันปฏิเสธใช้อาวุธเคมี | เดลินิวส์
     
  7. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ทำเนียบขาวชี้ "สามัญสำนึก" บอก "อัสซาด" ต้องรับผิดชอบ
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 07:19 น.
    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการสหรัฐเดินสายออกโทรทัศน์ เพื่อหาเสียงสนับสนุนเรื่องการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย แต่ยอมรับว่า จริงๆแล้วก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย ว่ารัฐบาลอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายเดนิส แมคโดโนห์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ "ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์" ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ ว่ายังเป็นการเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า สภาคองเกรสจะลงมติอนุมัติร่างหลักการใช้กำลังทางทหารต่อรัฐบาลซีเรีย เพื่อ "ลงโทษ" ที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง เนื่องจากตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามหาทางชี้แจงสภาคองเกรสโดยละเอียดว่า เพราะเหตุใดสมาชิกจึงควรให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบารัค โอบามา

    ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นสมาชิกสภาคองเกรสจากแทบทุกสำนักข่าว ต่างปรากฏผลไปในทางเดียวกันว่า จำนวนผู้ที่จะออกเสียงคัดค้านยังคงมากกว่าผู้ที่เห็นด้วยอยู่มาก แม้จำนวนผู้ยังไม่ตัดสินใจจะคงอยู่ที่หลักกว่าร้อยคนก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ "สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน" ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ซึ่งออกอากาศในวันเดียวกัน แมคโดโนห์ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า รัฐบาลเองก็ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าผู้นำซีเรียอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่ สะท้อนให้เห็นเป็นครั้งแรกถึง "ความน่าเชื่อถือ" ของหน่วยข่าวกรองวอชิงตัน แต่แมคโดโนห์กล่าวว่า "สัญชาติญาณ" ของเจ้าหน้าที่บอกว่า อัสซาดต้อง "รับผิดชอบ" ในฐานะเป็นผู้นำประเทศ

    คำกล่าวของแมคโดโนห์ค่อนข้างขัดแย้งกับรายงานจากหนังสือพิมพ์ "เดอะ บอสตัน โกลบ" ที่รายงานว่า นายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ปรากฏตัวในรายการของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่วในสหรัฐ กล่าวปกป้องการทำงานของหน่วยสืบราชการลับของประเทศทุกแห่ง ว่ามีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือโดยสมบูรณ์


    ทำเนียบขาวชี้ "สามัญสำนึก" บอก "อัสซาด" ต้องรับผิดชอบ | เดลินิวส์
     
  8. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ซาอุดิอาระเบียหนุนสหรัฐถล่มซีเรีย
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 08:11 น.
    [​IMG]
    ทางการซาอุดิอาระเบียประกาศสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรียของสหรัฐ


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ว่านายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ หลังเสร็จสิ้นการหารือร่วมกับที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มสันนิบาตอาหรับ ที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ว่าเจ้าชายซาอุด อัล-ไฟซาล รมว.กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ทรงมีรับสั่งจะมอบความช่วยเหลือทางทหารให้แก่วอชิงตัน หากปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรียเกิดขึ้นจริง เนื่องจากทางการริยาดเห็นว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และรัฐบาลดามัสกัส ควรได้รับบทเรียนจากการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการใช้อาวุธเคมีต่อประชาชนของตัวเอง

    นักวิเคราะห์มองว่า การได้เสียงสนับสนุนจากซาอุดิอาระเบียถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจต่อโลกอาหรับ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลริยาดไม่น่าส่งกองกำลังเข้าร่วมด้วยโดยตรง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการคานอำนาจในภูมิภาค และอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย คาดว่าน่าจะเป็นเพียงการให้ใช้ฐานทัพมากกว่า

    ขณะที่สถานีโทรทัศน์พีบีเอสและซีบีเอสของสหรัฐ เตรียมออกอากาศเทปบันทึกการสัมภาษณ์อัสซาดในคืนวันจันทร์นี้ ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันของผู้นำซีเรียที่เกิดขึ้นแทบนับครั้้งได้ ทั้งนี้ สื่อของสหรัฐที่สัมภษณ์อัสซาดได้เป็นรายแรก คือสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อกลางปีที่แล้ว


    ซาอุดิอาระเบียหนุนสหรัฐถล่มซีเรีย | เดลินิวส์
     
  9. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ซีเรียปล่อยตัวประกันชาวอิตาลี-เบลเยียมแล้ว
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 08:37 น.
    [​IMG]
    รัฐบาลอิตาลีแถลงว่า ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลีและนักประวัติศาสตร์ ครูชาวเบลเยียมที่ถูกลักพาตัวไปในซีเรีย เมื่อเดือนเม.ย. ถูกปล่อยตัวแล้วและเดินทางกลับมายังอิตาลีอย่างปลอดภัย
    [​IMG]
    นายปิแอร์ ปิกซินิน นักประวัติศาสตร์และครูชาวเบลเยียม


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า นายโดมินิโก ควิริโก ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลี ของหนังสือพิมพ์ “ลา สแตมปา” และนายปิแอร์ ปิกซินิน นักประวัติศาสตร์และครูชาวเบลเยียม ซึ่งถูกลักพาตัวไปในซีเรียตั้งแต่เดือนเม.ย. ได้รับการปล่อยตัวแล้ว และเดินทางกลับมาถึงยังสนามบินชิอัมปิโนแล้วอย่างปลอดภัย

    นายควิริโก วัย 62 ปี ผู้สื่อข่าวสงครามชื่อดังของอิตาลี ลอบเดินทางข้ามพรมแดนเลบานอน เข้าไปทำข่าวในซีเรียเป็นครั้งที่ 4 เมื่อช่วงเดือนเม.ย. และถูกลักพาตัว บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงดามัสกัสกับเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดของซีเรียในขณะนั้น จากนั้นเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เขาสามารถติดต่อกลับมายังภรรยา ที่อิตาลีได้โดยความช่วยเหลือของฝ่ายกบฏซีเรีย ในเมืองคูเซย์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองฮอมส์ ใกล้กับชายแดนของเลบานอน

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิตาลียังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวของนายปิกซินิน นักประวัติศาสตร์และครูชาวเบลเยียม ซึ่งสามารถพูดภาษาอาราบิกได้ พร้อมกับขอร้องสื่อต่างๆ ว่าอย่าเพิ่งเผยแพร่เรื่องราวที่ยังไม่มีการยืนยันความถูกต้องใดๆออกไป ส่วนสาเหตุและผู้ลักพาตัว ทางการอิตาลียังคงไม่เปิดเผยรายละเอียด


    ซีเรียปล่อยตัวประกันชาวอิตาลี-เบลเยียมแล้ว | เดลินิวส์
     
  10. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    อิหร่านโต้ข่าววางแผน "ล้างแค้น" หากสหรัฐบุกซีเรีย
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 09:46 น.
    [​IMG]
    ทางการอิหร่านปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ว่า กำลังเตรียมวางแผน "แก้แค้น" สหรัฐ หากอีกฝ่ายเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรียจริง


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายโมฮัมหมัด จาวาด-ซารีฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ยืนยันว่ารัฐบาลเตหะรานไม่มีทางเข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ "บ้านพี่เมืองน้อง" อย่างอิรัก หลังหนังสือพิมพ์ "เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล" ของสหรัฐ รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงรายงานที่ระบุว่ามาจาก "วงใน" หน่วยข่าวกรองของวอชิงตัน ว่าทางการอิหร่านกำลังซุ่มวางแผนโจมตีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด และทรัพย์สินอื่นที่มีชาวอเมริกันเป็นเจ้าของ หากซีเรียถูกโจมตีด้วยปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐจริง


    ซารีฟกล่าวด้วยว่า รัฐบาลอิหร่านเห็นพ้องกับสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ว่าการแก้ไขวิกฤตการณ์ในซีเรียต้องอาศัยกระบวนการทางการทูต หรือกระบวนการอื่นที่เป็นไปอย่างสันติวิธี ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงรายงานของเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่ามีข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด

    อิหร่านโต้ข่าววางแผน "ล้างแค้น" หากสหรัฐบุกซีเรีย | เดลินิวส์
     
  11. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    อิสราเอลติดระบบต่อต้านขีปนาวุธกันซีเรียบุก
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 11:47 น.
    [​IMG]
    อิสราเอลดำเนินการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศทุกกาลอากาศเคลื่อนที่ (ไอเอิร์นโดม) ใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม เตรียมป้องกันตนเองหากสหรัฐและพันธมิตรใช้อาวุธโจมตีซีเรียจริง


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานว่า ทางการอิสราเอลได้ติดตั้งแบตเตอร์รี่ของไอเอิร์นโดม บริเวณทางตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็ม ทั้งนี้ โฆษกหญิงของกองทัพไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดใดๆ เพียงแต่กล่าวว่า อิสราเอลติดตั้งระบบดังกล่าวเนื่องจากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นของกองทัพ โดยเมื่อเดือนที่แล้วอิสราเอลได้มีการติดตั้งแบตเตอร์รี่ของระบบดังกล่าวในบริเวณกรุงเทลอาวีฟ เช่นเดียวกัน โดยจนถึงขณะนี้มีแบตเตอร์รี่ที่ยังคงเปิดใช้การอยู่6-7ตัว

    ความเคลื่อนไหวของทางการอิสราเอลมีขึ้น ขณะเดียวกับที่สหรัฐกำลังพยายามเรียกร้องให้นานาชาติเห็นด้วยกับปฏิบัติการโจมตีทางทหารเพื่อลงโทษรัฐบาลซีเรีย กรณีใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ออกมากล่าวว่า อิสราเอลจะไม่เข้าร่วมในการโจมตีซีเรียกับสหรัฐ แต่จะทำการป้องกันตัวเองและตอบโต้ทันทีเมื่อถูกโจมตี ขณะที่นายโมเช่ ยาลอน รมว.กลาโหมเปิดเผยว่า ไม่ว่าประเทศใดโดยเฉพาะรัฐบาลซีเรีย กระทำการใดก็ตามที่เป็นการท้าทายอิสราเอล ประเทศนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับแสนยานุภาพของกองทัพอิสราเอลอย่างแน่นอน

    ทางการอิสราเอลได้ประเมินสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางไว้ว่า หากรัฐบาลสหรัฐและชาติพันธมิตร โจมตีซีเรียด้วยอาวุธจริง จะทำให้กองกำลังรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย หรือกองกำลังนักรบติดอาวุธฮิซบอลเละห์ในเลบานอน ลุกฮือขึ้นแก้แค้นวอชิงตันด้วยการโจมตีอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นหนึ่งเดียวในภูมิภาคนี้ เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว อิหร่านซึ่งเป็นชาติพันธมิตรหลักของซีเรีย ได้ออกมาประกาศว่า หากมีการโจมตีซีเรีย อิสราเอลก็จะถูกโจมตีไปด้วย


    อิสราเอลติดระบบต่อต้านขีปนาวุธกันซีเรียบุก | เดลินิวส์
     
  12. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 8 ก.ย. 21.50 น.)
    สหรัฐฯ กับรัสเซียเสริมกองทัพเข้าไปที่ตะวันออกกลางและแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียลอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับรัสเซียแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลอัสซาด ส่งเรือรบหลายลำสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียลเช่นกัน สัปดาห์นี้รัฐสภาอเมริกันจะเปิดประชุมพิจารณาญัตติโจมตีซีเรีย

    คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 8 ก.ย. 21.50 น.)
    สหภาพยุโรปมีข้อสรุปว่าการโจมตีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม น่าจะเป็นฝีมือของรัฐบาลอัสซาด พร้อมกับเสนอให้สหรัฐฯ รอผลพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติก่อนโจมตี นายจอห์น เคอร์รี่เห็นว่าคำประกาศจากอียู “สนับสนุนว่ารัฐบาลอัสซาดต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำ”
    สำนักข่าว AP รายงานว่าคำประกาศของอียูดังกล่าวเป็นความริเริ่มจากนายฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่เห็นว่าควรรอรายงานจากสหประชาชาติก่อนตัดสินใจเข้าแทรกแซงทางทหาร

    นาย Guido Westerwelle รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันหวังว่าสหรัฐฯ จะเลียนแบบฝรั่งเศส พวกเราต่างยินดีกับเรื่องที่ “ฝรั่งเศสตัดสินใจรอการนำเสนอรายงานของสหประชาชาติ” พวกเรา “คาดดว่าอเมริกาหุ้นส่วนของเราจะดำเนินตามแบบฝรั่งเศส” ก่อนตัดสินใจดำเนินมาตรการใดๆ “ผมประทับใจที่ฝ่ายอเมริกาเข้าใจสิ่งที่เราคาดหวังและพวกเขาจะนำเรื่องนี้เข้าไปในกระบวนการตัดสินใจของเขา”
    นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงว่าควรนำเรื่องส่งศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) เพื่อพิจารณาไต่สวนความผิด แถลงการณ์ของ G-20 มีเนื้อหาค่อนไปทางประณามรัฐบาลซีเรียเรื่องอาวุธเคมี แต่ไม่กล่าวว่าจะต้องลงโทษด้วยการโจมตีซีเรีย

    วิเคราะห์: (อัพเดท 8 ก.ย. 21.50 น.)
    (เกาะติดประเด็นร้อนฉบับนี้จะมุ่งติดตามคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุด และกับรายงานผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน)
    วิเคราะห์ประเด็นทางการเมือง:
    1. อียูประณามรัฐบาลอัสซาด แต่เรียกร้องรอรายงานจากสหประชาติ
    ท่าทีของอียูชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ฝ่ายใดต้องเสียหน้า อียูตระหนักว่าการใช้อาวุธเคมีผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่การตัดสินใจชี้ขาดควรเป็นหน้าที่ของสหประชาชาติ และน่าจะให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นผู้ชี้ว่าควรได้รับโทษอย่างไร
    ข้อสังเกตคือฝรั่งเศสซึ่งสนับสนุนการโจมตีมาตั้งแต่ต้น มีกองเรือลอยลำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียลพร้อมโจมตี ยังต้องโอนอ่อนกับท่าทีของอียู ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอียูไม่ต้องการให้สหรัฐฯ ลงมือโจมตีตามอำเภอใจ ควรดำเนินตามขั้นตอน ตามระบบระหว่างประเทศมากกว่า

    2.ทางเลือกของคองเกรส
    เมื่อเป็นเช่นนี้ การตัดสินใจที่สำคัญของสัปดาห์นี้คือ การประชุมของรัฐสภาอเมริกัน ทางเลือกมีเพียงสองทางใหญ่ๆ คือ โจมตีกับยังไม่โจมตี แต่สามารถแยกแยะออกเป็นหลายทางเพื่อให้เห็นความแตกต่าง
    1) มีมติไม่สนับสนุนรัฐบาลโอบามาโจมตีซีเรียอย่างสิ้นเชิง แต่เสนอลงโทษรัฐบาลซีเรียด้วยแนวทางอื่นๆ ช่วยเหลือฝ่ายต่อต้าน
    เช่น คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจให้เข้มงวดมากขึ้น ให้ความช่วยเหลือฝ่ายต่อต้านเพิ่มมากขึ้น แนวทางนี้เป็นทางออกแก่ประเทศที่ไม่ต้องพูดเรื่องโจมตีซีเรียเพราะเหตุวันที่ 21 สิงหาคมอีกต่อไป เนื่องจากได้ลงโทษรัฐบาลซีเรียด้วยวิธีการอื่นๆ แล้ว อีกทั้งรัฐบาลโอบามายืนยันมาโดยตลอดว่าปัญหาซีเรียต้องแก้ไขด้วยวิถีทางการเมือง
    2) มีมติรอรายงานของสหประชาชาติ
    การอ้างรอรายงานสหประชาชาติ เป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อไม่ต้องลงมติโจมตีซีเรีย เพราะสหประชาชาติยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่ารายงานจะออกเมื่อใด ที่สำคัญคือดังที่เคยวิเคราะห์ครั้งก่อนๆ แล้วว่าภารกิจของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติคือหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่ามีการใช้อาวุธเคมีหรือไม่ ไม่มีหน้าที่สรุปว่าใครหรือฝ่ายใดเป็นผู้ใช้ ที่สุดแล้วรายงานของสหประชาชาติคือมีการใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีการกล่าวหาหลายครั้ง
    ดังนั้น หากคองเกรสลงมติให้รอรายงานสหประชาชาติจะมีน้ำหนักค่อนไปทางไม่โจมตีซีเรีย
    3) รัฐสภาอเมริกาขอเวลาพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม
    แนวทางนี้เป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อเลื่อนการโจมตี ด้วยข้ออ้างที่ไม่ประเทศไม่ต้องเสียหน้า ไม่ต้องอ้างสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นวิธีการที่ไม่ปิดกั้นทางของตนเอง ในอนาคตรัฐสภาอาจนำเรื่องการโจมตีซีเรียขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกรอบ
    4) มีมติโจมตีซีเรีย
    อ้างหลักฐานการใช้อาวุธเคมีของอเมริกา อ้างการล้ำเส้นต้องห้าม ฯลฯ

    สรุป ไม่ว่าคองเกรสจะมีมติเช่นไร การตัดสินใจของคองเกรสจะมีผลต่อนโยบายการโจมตีซีเรียของนโยบายโอบามาอย่างยิ่ง หากมติมีผลเลื่อนการโจมตีน่าจะวิเคราะห์ว่าโอกาสโจมตีจะเหลือน้อยมาก หากอนาคตจะมีการโจมตีจะต้องรอสัญญาณใหม่อีกรอบ
    อียูเป็นตัวอย่างกลุ่มประเทศล่าสุดที่แสดงอาการไม่เห็นด้วย อุปสรรคของประธานาธิบดีโอบามาในขณะนี้ไม่ใช่อยู่ที่สมาชิกรัฐสภาโดยตรง แต่อยู่ที่การแสดงออกของชาวอเมริกันว่าจะต่อต้านมากเพียงไร จะสังเกตเห็นได้ว่าประธานาธิบดีพยายามลดกระแสดังกล่าวด้วยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยมั่นคงของประเทศ เป็นการโจมตีอย่างจำกัด จะไม่ส่งทหารเข้ารบในพื้นราบอย่างกรณีอิรัก อัฟกานิสถานโดยเด็ดขาด

    ผลกระทบต่อตลาดทุน:
    (ข้อมูลส่วนนี้จะปรับตามเวลา เพื่อแสดงสถานะล่าสุด)
    ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (7 ก.ย.) ปรับสูงทะลุ 109 ราคาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 108-111 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังประธานาธิบดีปูตินประกาศว่าจะช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียถ้าถูกโจมตี
    ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ อ่อนตัวแรงในช่วงแรกแล้วขยับกลับมาที่ราคาใกล้เคียงราคาเปิด

    วิเคราะห์: รัสเซียมีความสัมพันธ์เป็นมิตรกับรัฐบาลอัสซาดมาหลายทศวรรษ ย้อนตั้งแต่สมัยบิดาของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ตลอดสองปีครึ่งตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในซีเรีย รัฐบาลปูตินให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอดทั้งแบบเปิดเผยกับปกปิด
    สถานการณ์การเสริมกำลังรบในตะวันออกกลาง ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียล มีกำลังรบของรัสเซียอยู่ด้วย แต่การประกาศว่าจะช่วยเหลือถ้าโจมตีไม่น่าจะเป็นการปะทะโดยตรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ น่าจะเป็นการช่วยเหลือเรื่องระบบข้อมูลมากกว่า เพื่อให้กองทัพอัสซาดป้องกันการโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบเรดาห์ซีเรียแม้ถูกทำลายก็ยังมีระบบของรัสเซียที่คอยให้ข้อมูล
    ปัจจัยดันราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยจิตวิทยา
    อนึ่ง การวิเคราะห์นี้มุ่งอธิบายสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุน

    สัปดาห์นี้หรือระหว่างนี้จึงต้องติดตามกระแสการเมืองภายในประเทศอเมริกัน การเมืองระหว่างประเทศ ผลการตรวจสอบของสหประชาชาติ เพื่อประเมินว่ารัฐสภาน่าจะมีมติในทางใด
    ณ วันนี้สัญญาณการโจมตีเปลี่ยจาก “ชัดเจน” มาเป็นจุดเดิมคืออาจโจมตีหรือไม่โจมตีก็เป็นได้ ถ้าผลสรุปคือโจมตี การโจมตีน่าจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ หากมติมีผลเลื่อนการโจมตีน่าจะวิเคราะห์ว่าโอกาสโจมตีจะเหลือน้อยมาก หากอนาคตจะมีการโจมตีจะต้องรอสัญญาณใหม่อีกรอบ


    วิเคราะห์และสรุปสถานการณ์ โดย
    ชาญชัย คุ้มปัญญา
    8 กันยายน 2013
     
  13. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สหรัฐหวังโจมตีซีเรีย นโยบายคิดเองทำเองของโอบามา

    หนึ่งปีก่อนประธานาธิบดีบารัก โอบามาประกาศจุดยืนว่าอเมริกาจะไม่ทนอยู่นิ่งเฉยหากพิสูจน์ได้ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดใช้อาวุธเคมี จะจัดการโดยเด็ดขาดเพราะล่วงล้ำเส้นต้องห้าม (red line) ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามีข่าวการใช้อาวุธเคมีหลายครั้ง ทั้งจากฝีมือของรัฐบาลอัสซาดกับฝ่ายต่อต้าน ตลอดระยะเวลาดังกล่าวรัฐบาลโอบามาแสดงอาการลังเลใจไม่ยอมตัดสินว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธ จนในที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ชานกรุงดามัสกัส รัฐบาลโอบามาแสดงอาการกระตือรือร้น ประกาศว่ารัฐบาลอัสซาดต้องได้รับการลงโทษ

    ข้อกล่าวหารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมี:
    รัฐบาลโอบามาได้แสดงหลักฐานที่สหรัฐเป็นผู้เก็บและสรุปเองว่ากองทัพอัสซาดคือผู้ใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม
    ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 1,429 คน ทหารซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีอยู่ในพื้นที่เป็นเวลา 3 วันก่อนการโจมตี หลักฐานจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าจรวดปล่อยจากพื้นที่ฝั่งของรัฐบาลเป็นเวลา 90 นาทีก่อนเริ่มมีรายงานการโจมตีด้วยอาวุธเคมี ภาพจากวีดีโอกว่า 100 รายการแสดงให้เห็นว่าผู้เคราะห์ร้ายได้รับอาวุธเคมีชนิดส่งผลต่อระบบประสาท สหรัฐสามารถดักฟังการสนทนาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงซีเรียที่พูดว่า “ยืนยันว่าได้ปล่อยอาวุธเคมีแล้ว”
    ข้อมูลข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่ทำเนียบขาวเผยแพร่ แต่รายงานความยาว 4 หน้ากระดาษดังกล่าวเป็นเพียงรายงานสรุป ไม่ใช่หลักฐาน และที่สำคัญคือเป็นข้อสรุปฝ่ายเดียว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียจึงท้าทายให้สหรัฐนำหลักฐานดังกล่าวมาพิสูจน์ในสหประชาชาติ พร้อมกับกล่าวอย่างท้าทายว่า “ถ้ามีหลักฐานก็ควรแสดงออกมา ถ้าไม่แสดงเท่ากับว่าไม่มีหลักฐานจริง”

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอังกฤษเป็นตัวอย่างชี้ให้เห็นว่ารายงานที่รัฐบาลอังกฤษนำเสนอไม่น่าเชื่อถือ หลายคนไม่เห็นด้วย หลายคนยังสงสัย รัฐสภาอังกฤษจึงไม่เห็นชอบที่รัฐบาลจะโจมตีซีเรีย นายเอ็ด มิลิแบนด์ (Ed Miliband) หัวหน้าพรรคแรงงานกล่าวว่า “จากบทเรียนในอดีต รวมทั้งกรณีอิรัก” หลักฐานเรื่องอาวุธอำนาจทำลายร้ายแรงที่นำมาอ้างสุดท้ายกลายเป็นหลักฐานเท็จ

    อีกประเด็นที่ไม่ควรละเลยคือรายงานการใช้อาวุธเคมีที่สหประชาชาติได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ 13 ครั้ง รายงานดังกล่าวคือรายงานที่หลายประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซียได้เสนอต่อสหประชาชาติ มีทั้งที่กล่าวหาว่ารัฐบาลอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี กับที่กล่าวหาว่าฝ่ายต่อต้านเป็นผู้ใช้ ต้องไม่ลืมว่าเหตุผลเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรียก็ด้วยต้องการพิสูจน์รายงานดังกล่าว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็เกิดเหตุการณ์วันที่ 21 สิงหาคม สุดท้ายกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บหลักฐานของวันนั้นเพียงเหตุการณ์เดียว ละเลยแผนที่กำหนดแต่แรกว่าต้องการหาหลักฐานของรายงานดั้งเดิม
    การถกเถียงว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีหรือไม่ในขณะนี้เป็นการถกเถียงที่ตั้งอยู่บนเหตุการณ์วันที่ 21 สิงหาคมเพียงเหตุการณ์เดียว แต่เหตุการณ์ใช้อาวุธเคมี 13 รายงานก่อนนี้ถูกละเลย รัฐบาลโอบามาไม่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์เหล่านั้น จึงกลายเป็นปริศนา และไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้พิสูจน์ความจริง

    อีกประเด็นที่ต้องเตือนความจำคือก่อนหน้านี้สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศสได้นำเรื่องการใช้อาวุธเคมีเข้าสหประชาชาติเพื่อพิสูจน์ค้นหาความจริง (เป็นที่มาของเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าซีเรียเพื่อตรวจสอบ) จึงมีคำถามว่าทำไมสหรัฐไม่ดำเนินตามขั้นตอนดังกล่าวต่อไป รอให้สหประชาชาติได้ผลสรุปการใช้อาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมก่อน แต่ขณะนี้กลับพยายามรวบรัดสรุปและเตรียมกองทัพโจมตีซีเรียด้วยตนเอง
    เป็นอีกคำถามว่าในเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงกำลังพิจารณาเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรียอยู่แล้ว ทำรัฐบาลโอบามาจึงละทิ้งขั้นตอนดังกล่าว หากรัฐบาลโอบามาใจเย็นกว่านี้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติทำงานต่อไป ประชาคมโลกน่าจะมีโอกาสได้ข้อสรุปอันที่เป็นยอมรับมากกว่านี้

    การใช้อาวุธเคมีผิดกฎหมายระหว่างประเทศ จำต้องได้รับการลงโทษ:
    ประธานาธิบดีโอบามาชี้ว่าการใช้อาวุธเคมีผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำเตือนว่าถ้าประชาคมโลกไม่สามารถรักษามาตรฐาน บรรทัดฐาน กฎหมายต่างๆ ที่ควบคุมพฤติกรรมของประเทศและแนวทางปฏิบัติต่อประชาชน ความปลอดภัยของโลกจะลดน้อยลง “อันตรายจะเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงประชาชนผู้เป็นเหยื่ออาชญากรรมอันโหดร้ายนี้เท่านั้น แต่มีผลต่อมนุษย์ทุกผู้ตัวคน” การปล่อยให้อาวุธเคมีแพร่กระจายหรือมีผู้ใช้อาวุธดังกล่าวจึงเป็นการก้าวล่วงเส้นต้องห้าม (red line) ที่ไม่อาจทนอยู่นิ่งเฉยต่อไป เหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม “ทำให้ผมเปลี่ยนใจ” และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้กำหนดเส้นต้องห้าม โลกต่างหากที่กำหนดเส้นต้องห้าม”
    ด้วยเหตุผลดังกล่าวสหรัฐจึงต้องโจมตีกองทัพอัสซาดเพื่อการลงโทษ แม้อเมริกาจะต้องลงมือตามลำพังโดยไม่ผ่านคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ

    ไม่ว่ารัฐบาลอเมริกาจะอ้างเหตุผลใด นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวเตือนว่า “การใช้กำลังจะถูกต้องตามกฎหมายก็ต่อเมื่อใช้เพื่อป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และ/หรือ คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องให้การรับรองใช้กำลังดังกล่าว”
    ด้านประธานาธิบดีปูตินกล่าวอย่างชัดเจนว่า ถ้าสหรัฐโจมตีซีเรียโดยไม่ได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติเท่ากับเป็นการ “รุกราน” ประเทศซีเรีย
    รัฐบาลโอบามาชี้ว่ารัฐบาลอัสซาดทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศและจำต้องได้รับโทษ แต่เลขาธิการสหประชาชาติกับประธานาธิบดีปูตินเตือนว่าการใช้กำลังต้องผ่านการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคง มิฉะนั้นคือการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศเช่นกัน
    ทุกคนเข้าใจว่าการใช้อาวุธเคมีผิดกฎหมายระหว่างประเทศและสมควรได้รับโทษ คำถามคือทำไมสหรัฐไม่ปล่อยให้เรื่องดังกล่าวอยู่ในมือของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ทั้งๆ ที่คณะมนตรีความมั่นคงเป็นผู้มีบทบาทโดยตรง นี่เป็นกฎเกณฑ์ เป็นบรรทัดฐานที่โลกวางไว้นานหลายทศวรรษแล้ว อีกทั้งสหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศที่กำหนดกฎเกณฑ์สร้างระบบดังกล่าว
    โลกจะปลอดภัยขึ้นหรือ ถ้ากฎเกณฑ์ ระบบความมั่นของโลกถูกละเมิด

    การวิเคราะห์วิพากษ์ข้างต้นเป็นเพียงแนวทางหนึ่ง แท้จริงแล้วแนวทางการวิเคราะห์ ตีความประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีหลายแนว หากยึดแนวทางแบบมีศีลมีธรรมอาจสงสัยรัฐบาลโอบามากำลังกระทำสิ่งที่มีความชอบธรรมหรือไม่ แต่ในอีกแนวหนึ่งเห็นว่าการดำเนินนโยบายต่างประเทศไม่สามารถยึดถือเรื่องความดีความถูกต้องเพียงด้านเดียว ต้องให้ความสำคัญกับความอยู่รอด ผลประโยชน์ที่จะได้ เพราะโลกนี้เต็มด้วยอันตรายและต่างฝ่ายต่างมุ่งกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง โดยหลักการแล้วที่ผ่านมารัฐบาลอเมริกายึดถือทั้งสองแนวทาง และพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดเองทำเองหรือไม่ ผลประโยชน์อเมริกาย่อมต้องมาก่อน

    (ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 17 ฉบับที่ 6152 วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ.2556)
    โดย ชาญชัย คุ้มปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กันยายน 2013
  14. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    โอบามา-อัสซาดเปิด "สงครามสื่อ" บนหน้าจอทีวีสหรัฐ
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 13:59 น.
    [​IMG]
    ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ปฏิบัติการโจมตีทางทหารของสหรัฐต่อซีเรียจะเกิดขึ้นหรือไม่ และถ้าจริงจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เนื่องจากสภาคองเกรสยังไม่ได้ลงมติ แต่ที่ชัดเจนกว่าคือ "สงครามสื่อ" ระหว่างทั้ง 2 ประเทศเริ่มต้นขึ้นแล้วผ่านหน้าจอทีวีของชาวอเมริกัน


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่าแม้สภาคองเกรสของสหรัฐมีกำหนดเปิดการอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างหลักการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อซีเรียในวันนี้เป็นวันแรก แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ก็เปิด "สงครามสื่อ" ใส่กันแล้ว ด้วยการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐ ที่ออกอากาศในเวลาแทบจะไล่เลี่ยกันทั้งหมด

    อัสซาดให้สัมภาษณ์กับชาร์ลีย์ โรส พิธีกรรายการข่าวชื่อดังของสหรัฐ ยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งตามรายงานของหน่วยข่าวกรองระบุจำนวนผู้เสียชีวิตเอาไว้มากถึง 1,429 ศพ เนื่องจากไม่มีหลักฐานชี้ชัด และเตือนว่าวอชิงตันจะต้อง "ชดใช้" หากเป็นฝ่ายโจมตีประเทศของเขาก่อน อย่างไรก็ตาม อัสซาดไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธว่า รัฐบาลดามัสกัสครอบครองอาวุธเคมีจริงหรือไม่

    ทั้งนี้ รายการ "เดอะ ชาร์ลีย์ โรส โชว์" แบบเต็มจะแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์พีบีเอสในคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สถานีโทรทัศน์ชั้นนำของสหรัฐ 6 แห่ง จะออกอากาศเทปบันทึกการสัมภาษณ์โอบามา ตามกำหนดการออกอากาศของแต่ละสถานี ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ ทำเนียบขาวเผยแพร่คลิปของผู้นำสหรัฐความยาวเกือบ 3 นาที เป็นการชี้แจงถึง "ความจำเป็น" ที่จะต้องโจมตีทางทหารต่อซีเรีย

    นอกจากนี้ ในวันต่อมา คือวันอังคารที่ 10 ก.ย. ผู้นำสหรัฐมีกำหนดแถลงต่อชาวอเมริกันทั้งประเทศเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย และการตัดสินใจใช้อำนาจทางทหารของสหรัฐ เพื่อ "ลงโทษ" รัฐบาลอัสซาด ซึ่งทำเนียบขาวหวังว่า วิธีนี้จะช่วยเกลี้ยกล่อม และโน้มน้าวประชาชนให้กันมาให้การสนับสนุนรัฐบาลในเรื่องนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย

    แต่กระนั้น ผลสำรวจความคิดเห็นสมาชิกสภาคองเกรส 433 คน โดยหนังสือพิมพ์ "เดอะ วอชิงตัน โพสต์" เมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่า สมาชิก 224 คน จะออกเสียงคัดค้าน หรืออาจจะออกเสียงคัดค้าน โดยมีผู้เห็นด้วยเพียง 25 คนเท่านั้น แต่ยังมีผู้ไม่ตัดสินใจมากถึง 184 คน


    โอบามา-อัสซาดเปิด "สงครามสื่อ" บนหน้าจอทีวีสหรัฐ | เดลินิวส์
     
  15. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    รมว.ต่างประเทศซีเรียเยือนรัสเซียหวังขอความช่วยเหลือ
    วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2556 เวลา 14:29 น.
    [​IMG]
    นายวาลิด อัล-มูอัลเล็ม รมว.ต่างประเทศซีเรีย เดินทางเยือนรัสเซีย มหาอำนาจพันธมิตรที่สำคัญของรัฐบาลซีเรีย เพื่อหารือกรณีสหรัฐและชาติพันธมิตรจะร่วมกันใช้อาวุธโจมตีซีเรียเร็วๆนี้


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่า รัสเซียยังคงยืนยันและประกาศต่อต้านอย่างรุนแรงกับการที่สหรัฐและชาติพันธมิตรจะร่วมกันใช้อาวุธโจมตีถล่มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เนื่องจากการกระทำดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งระบบได้ ทั้งนี้ มอสโกไม่เชื่อว่า รัฐบาลซีเรียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีเข้าใส่ประชาชน เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา

    กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า การหารือระหว่างนายอัล-มูอัลเล็ม กับทางการรัสเซีย จะมุ่งประเด็นไปที่สถานการณ์ทั้งหมดที่รัฐบาลซีเรียกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ โดยนายอัล-มูอัลเล็ม จะเข้าพบนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ที่กรุงมอสโก ในวันนี้

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศซีเรียเคยออกแถลงการณ์ประกาศขอบคุณรัสเซียที่ไม่ทอดทิ้งซีเรีย โดยก่อนหน้านี้ ในการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี20 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เคยปฏิเสธการพูดถึงจุดยืนของรัสเซียที่มีต่อซีเรีย อย่างไรก็ตาม นายปูติน ได้ประกาศว่าเขาและประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐมีความเห็นต่อเรื่องนี้แตกต่างกัน อีกทั้งขณะนี้รัสเซียและซีเรียยังคงมีความร่วมมือทางการทหารต่อกันอีกด้วย

    รมว.ต่างประเทศซีเรียเยือนรัสเซียหวังขอความช่วยเหลือ | เดลินิวส์
     
  16. ด้วงน้อย

    ด้วงน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +70
    ไม่แน่นะ สงครามโลก บางทีเค้าอาจฉุน สหรัฐ ล้มช้างกะดัย เฮ้ย โลกาวินาศ
    :'(
     
  17. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เรื่องอาวุธพลังจิตของรัสเซียพูดกันมานานมากแล้ว

    ถ้าเทียบกับอเมริกา รัสเซียก้าวหน้ามากกว่า
    แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วิชาเหล่านี้เป็นฌานโลกีย์
    มีได้ก็เสื่อมได้ ตราบเท่าที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนศีล

    คนพวกนี้ไม่รู้จักกฏแห่งกรรม
    ทำไปรังแต่จะฉิบหายกับตัวเอง
    อภิญญาแบบนี้มีมานานก่อนพุทธกาล
    เดี๋ยวนี้ในอินเดียก็ยังมีอยู่ แต่ไปไม่ถึงไหน
    คนฝึกไปนรกก็มากมาย เก่งไม่พ้นกรรม

    เท่าที่เคยฟังมาพวกนี้เคยมาลองของกับเกจิอาจารย์ในประเทศไทย
    ปรากฏว่าถูกคาถามหาสะท้อน เดี้ยงไปหลายหน่วย
    จนต้องกลับมาขอขมาเกจิบ้านเรา ไม่งั้นถึงตาย

    อาวุธอยู่ในมือคนจิตใจชั่ว
    ย่อมทำความพินาศให้กับตนเองและผู้ที่อยู่ใกล้
     
  18. เดินดง

    เดินดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +1,614
    สวัสดีค่ะ คุณ Nirvana เมื่อไหร่จะใจดี แปลข้อความ ของน้า ไมตี้ ให้อ่านอีก รออ่าน ด้วยความเคารพค่ะ เดินดง
     
  19. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ขอขอบคุณล่วงหน้า อยากอ่านข้อความที่แปล ของน้า ไมตี้ ด้วยคน เคยจำได้น้าไมตี้ว่าก็อตซิล่า ขี่ยอดคลื่นเข้าถล่มญี่ปุ่น ไม่นานญี่ปุ่นก็ถูกซึนามิถล่ม ตอนนั้นอ่านยังหัวเราะว่าไม่เชื่อ แต่ตอนนี้อยากอ่าน ขอขอบคุณมากๆ คุณNirvana
     
  20. ps000000

    ps000000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +229
    บางกระแสข่าวบอกว่า จรวดเคมี เป็นฝ่ายกบฏยิง

    ผมละ งง มากๆ ข่าวปล่อยกันมั่วไปหมด ไม่รู้ใครใช้อาวุธเคมี
     

แชร์หน้านี้

Loading...