เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ...ที่คุณ tamsak เอาเรื่องการเคลื่อนไหว เตรียมรับภัยพิบัติ ขออนุโมทนาต่อความรักความเมตตาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ที่ทีมงานทุกคนร่วมด้วยช่วยกันอยู่ค่ะ ถ้ามีโอกาสจะแวบ...ตามไป

    ...คุณkhajornwan ณ.ยังอ่านหน้าแรกๆ ไปได้ไม่กี่หน้า ตอนนี้ได้ 27 หน้าอิอิ...เลยไม่รู้จะขยายความยังไง แต่ยิ่งอ่านผ่านไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะอ่านแบบทำเวลาก็ตามก็ได้ความรู้มากมาย ทยอยๆเข้ามาสู้ความรับรู้

    ...อ๋อมีเรื่องเล่าให้ฟังอีกเรื่อง ณ.จะมีอาการปวดศรีษะข้างขวาแบบจี๊ดโดยไม่ทราบสาเหตุ จะว่าเป็นไมเกรนคงไม่ใช่ แต่ไม่บ่อยนักนานๆครั้ง (ประมาณ 10 วินาทีค่ะ) ในความรู้สึกเหมือน ณ.จะเห็นเป็นคลื่นฟันปลา บางทีก็เป็นสำแสงเส้นตรง เวลาหลับตาจะเห็นคลื่นเป็นสีขาวหรือสีเหลือง เคยสงสัยทุกครั้งว่าเป็นอะไร... แล้วไปอ่านพบเรื่องการใช้สมองด้านขวาคิด (ปกติหลายคนก็บอกว่าณ.มีEQมากกว่าIQ อยู่แล้ว..อิอิ ประมาณว่าคิดไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเค้าน่ะค่ะ) แล้วเมื่อเช้าก็เกิดอาการอีก ก็เลยลองเขียนหนังสือด้วยมือซ้าย แล้วได้สิ่งนี้ค่ะ ..."จิตวิญญาณในตัวตนต้องการให้เราเป็นธรรมชาติแห่งเรา ธรรมชาติแห่งเราคือความรัก ความเมตตา ที่เราได้ส่งมอบออกไปด้วยความยินดี เป็นความสุขที่กระจายออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด ความอบอุ่นแห่งความรักความเมตตา จะนำพาพลังอันยิ่งใหญ่ที่กระจายออกไปทุกอนูทุกส่วนของทุกจักรวาล"...กลับมานั่งอ่านสิ่งที่เขียน แล้วก็ยิ้มๆ รู้สึกมีความสุขค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2007
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ประสบการณ์ของน้อง Mamboo น่าสนุกจังนะคะ..
    เดี๋ยวลอยไปลอยมาสงกะสัยจะไปเจอคุณเม้าเข้าสักวัน.. อิอิ..
    งัยก็ฝากทักทายด้วยนะจ๊ะ..
    อ้อ.. เดี๋ยวมีใครเคยกล่าวไว้จำไม่ได้ประมาณว่าถ้าเห็นดวงจิตของเค้าเป็นสีดำ ๆ แสดงว่าเค้ายังไม่ได้พัฒนาจิต..
    ถ้าพัฒนาแล้วจะเป็นสีขาว ๆ จนถึงสีเหลืองนวลจ๊า...
    :boo: :cool:
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    คุณ ณ. เป็นบุคคลที่น่าสนใจทีเดียวค่ะที่มี EQ สูง แสดงว่าเป็นผู้มีความสามารถในการใช้อารมณ์สูงทีเดียวค่ะ ถ้าเป็นความคิดของจิตวิญญาณส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็หาเหตุผลที่เป็นหลักการไม่ค่อยได้อยู่แล้วเนอะมันก็แปลกดี บางทีอยู่อยู่ความคิดก็ผุดขึ้นมาเองก็มี อย่างขจรวรรณนี่เคยเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์กว่าเราจะเชื่ออะไรสักอย่างต้องหาเหตุหาผล ตั้งสมมุติฐาน คอยสังเกตุ กว่าจะสรุปผลออกมาได้นี่.. มึนไปเลย..

    และความคิดที่ผุดขึ้นมาของคุณ ณ. ก็สุดยอดเลยค่ะ เพราะมันออกมาจากจิตวิญญาณของเราโดยแท้.. ขอโมทนาด้วยค่ะ.. ส่วนอาการปวดศรีษะนี่น่าจะเป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะขจรวรรณเองก็เคยเป็นตอนที่ฝึกสติปัฎฐาน 4 ก็เคยถามอาจารย์ที่สอบอารมณ์เหมือนกันอาจารย์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากบอกแต่ว่าถึงเรากินยาก็ไม่หาย คงจะเป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่งน่ะค่ะ.. หายใจลึก ๆ ช้า ๆ ดูละกันค่ะ.. จะได้ผ่อนคลาย..
    (bb-flower
     
  4. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    คิดถึงทุกคนเลย งานยุ่ง ๆ ด้วย
    วันศุกร์ก็ลางานครึ่งวัน ขับรถไปหายายที่สมุทรสงคราม
    แวะไหว้หลวงพ่อบ้านแหลมด้วย แต่แหม ไปไหว้ท่านทีไรโบสถ์จะปิดทุกที
    เสียดายมือถือที่พ่อให้ กล้องตัวหลังมันเสีย เลยถ่ายรูปไม่ถนัด ถนัดแต่ถ่ายรูปตัวเอง อิอิ
    ช่วงนี้sit-upทุกคืนเลย เริ่มมีพี่ที่ทำงานทักว่าพุงยุบไปหน่อยแล้ว เย้ ใจชื้นขึ้นหน่อย
    สิ้นเดือนจะมารายงานผลว่าจาก 60 กิโลจะลดไปกี่กิโล หรือ กี่ขีดดี (555)
     
  5. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ศึกษาและทดลองในความฝันสนุกมากๆเลยค่ะ ^^ เราจะไปโลกแห่งความเป็นจริงก็ได้ หรือจะสร้างฉากขึ้นมาก็ได้ ตอนนี้สนุกมากๆเลยค่ะ เราสามารถหาความรู้ในฝันได้มากกว่าโลกแห่งความเป็นจริง เพราะ ตา หู จมูก ปาก ของเรา ไม่โดนจำกัดค่ะ เราเหาะได้ ตอนนี้ที่ยังไม่ได้ทำอีก 3 อย่างก็คือ
    1. ไม่ได้เดินเข้าไปดูทีวีในบ้าน(อยากรู้ว่าช่อง ITV ในฝันจะออกข่าวอะไร)
    2. ยังไม่ได้เหาะออกไปดูนอกโลก อยากไปเห็นการก่อร่างสร้างตัวของ Galaxy ค่ะ เพราะรู้ว่าตอนนี้ จิตวิญญาณกำลังก่อสร้าง Galaxy ใหม่ๆเพิ่มขึ้นเต็มไปหมดเลยในเอกภพ
    3. พยายามจะไปหาคนที่เราอยากรู้จักค่ะ เช่น ดาราที่เราชอบ หรือว่ากลับบ้านเกิดของเราที่ขอนแก่น ตอนที่รู้ตัวว่าฝันอ่ะ พยายามนึกให้ไป แต่มันเหมือนพลังงานหมดอ่ะ มันไม่ไปให้

    ครั้งล่าสุดนี้ ที่ภูมิใจที่สุดก็คือ ตอนนึกไป กทม. ค่ะ เพราะมันไปจริงๆ ไปที่ตึกๆหนึ่ง สูงมากๆ แล้วพอเราลองผ่านตึกลงมาข้างล่าง เราก็พยายามหาทางกลับหอพักเรา แถวๆ ABAC แต่เราหลงทาง เพราะปกติก็ไม่รู้จักเส้นทางในกรุงเทพฯอยู่แล้วค่ะ เป็นคนต่างจังหวัด แล้วเวลาที่เราเหาะอ่ะ มันเหาะเร็วเกินไป สังเกตุอะไรไม่ทัน มันเร็วไป แต่ชอบตรงที่ไม่ต้องเดินมากๆเลยอ่ะ ไม่เหนื่อย เราก้มลงมองร่างตัวเอง เท้าเรามันลอยเหนือพื้นอ่ะ แล้วถ้าตั้งใจจริงๆ มันจะเหาะขึ้นไปสูงๆเลย แต่ทำอย่างนั้นแล้วเหนื่อย รู้สึกเหมือนพลังงานหมด บางทีก็หมดจนต้องเดินเอาเลยแหละ ลอยไม่ขึ้น สรุปแล้ว ลอยๆเล่นๆใช้พลังงานน้อยสุด ไม่ต้องเดินด้วย ไม่เหนื่อย สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือ ท้องฟ้า ค่ะ เพราะสงสัยมาตั้งแต่คราวที่แล้วว่า ท้องฟ้าในความฝันอ่ะ มันมีมั้ย หรือมันเป็นโลกอีกใบที่ไม่มีท้องฟ้า มีแต่ข้างหน้า ข้างหลัง พอนึกได้ เราก็รีบมองทันที โห...แม่เจ้า...สวยมากๆๆๆๆ
    บางคนอาจสงสัยนะคะว่า ทำไมดาวในเอกภพมีมากมายหลาย ล้าน ล้าน ล้าน ล้าน ...ดวง แล้วทำไมเราถึงเห็นแค่นี้ ไม่ถึง แสนดวง นั่นเป็นเพราะ 1. แสงเดินทางมายังไม่ถึง 2. มันโดน Dark matter บังไว้ค่ะ เหอๆๆๆ... แต่ "ตา" ของเราในฝัน ไม่ได้เป็นอย่างนี้ค่ะ เราสามารถมองเห็นดาวได้ ทุกดวงที่อยู่ตรงหน้าเรา ไม่มีปัญหาเรื่องแสงที่เดินทางมาไม่ถึง หรือ... dark matter เพราะความสามารถของตา ไม่มีขีดจำกัด นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ
    ตอนจะตื่น เราจะรู้สึกเหมือนคนกำลังจะตาบอด แล้วในที่สุดเราก็กลับเข้าร่าง รู้สึกถึงลูกกะตา มือ เท้า แขน ขา แล้วก็รู้สึกทั้งตัวถึงท่วงท่าที่เรานอนอยู่บนเตียง เสร็จแล้วเราลืมตาขึ้น เห็นผ้าห่มที่นอนคลุมโปงอยู่ เราไม่อยากตื่น อยากกลับเข้าไปใหม่ เราก็หลับตา หลับตาตอนแรกมันก็เป็นมืดๆดำๆเหมือนคนหลับตาปกติทั่วๆไป สักพักไม่เกิน 3 วินาที โหย...ยังกะหนัง fantasy หรือไม่ก็ยิ่งกว่าเสียอีก เรามองผ่านทะลุหนังตาตัวเอง เข้าไปสู่โลกอีกใบ กลับไปฉากเดิมเลยที่เพิ่งจากมา...
    ถ้าถามว่า location ของฉากต่างๆในฝันมันอยู่ตรงไหน ก็อย่างที่พวกเราเข้าใจกันนั่นแหละค่ะ ความฝัน ไม่มีช่องว่าง ระยะทาง และกาลเวลา ในฝัน..พวกเราจะไปที่ไหนก็ได้ ความฝันไม่กินเนื้อที่ แต่เราก็เดินได้ ความฝันเราจะเสกอะไรก็ได้ เราจะทำอะไรก็ได้ แล้วภาพมันชัดมากๆ คือว่าเรามีสติครบแบบ 100% สมบูรณ์ในฝันอ่ะ จนเราสามารถเดินเล่นในฝันได้อ่ะ เราก็มองนู่นมองนี่ไปเรื่อย ไปไหนก็ได้ สบายมากๆ อยากจะฝันแล้วรู้ตัวอีกจัง คราวนี้จะเข้าไปเปิดทีวี ช่อง Titv ดูในบ้าน แล้วก็จะไปหา ดาราที่เราชอบ 555+ แล้วก็ อันสุดท้ายเนี่ย...คือออกไปดูอวกาศเนี่ย คิดหนักหน่อย เพราะกลัวไม่กลับเข้าร่าง เดี๋ยวจะไหลตาย ไว้ไปทำตอนอยู่ขอนแก่นดีกว่า เพราะว่าตอนนี้อยู่หอพักคนเดียวค่ะ ถ้าเป็นไรมาเนี่ย ไม่มีคนมาปลุก ซวยเลย !!! จบแล้วค่ะ จริงๆแล้ว มีอะไรจะเล่าเยอะแยะมากมายเลยล่ะ อยากรู้ว่ามีใครในที่นี้รู้ตัวบ้างว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ในความฝัน ก็ฝากบอกทุกคนนะคะว่า ถ้ารู้ว่าตัวเองอยู่ในความฝัน อย่าลืม...ทำการทดลองและศึกษาความฝันนะคะ ความฝันเป็นสิ่งที่วิเศษมากๆ ยิ่งถ้าเรามีสติในฝันนะคะ เราไม่ต้องวิ่งหนีโจร ไม่ต้องหนีผี เพราะเราควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้หมดเลย..^^ ไปแล้วค่ะ...แวะมาเล่าอีก 555+ นอนหลับฝันดีทุกคนนะคะ ^^
     
  6. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Happy Thanksgiving

    สวัสดีค่ะพวกเราชาวห้องวิทย์ Happy Thanksgiving ค่ะ
    เพิ่งจะผ่าน Thanksgiving Holiday ไปเลยเอา Turkey มาฝาก
    [​IMG]
    ปีนี้แฟนของพี่นักเขียนกับลูกชายทำหน้าที่พ่อครัวเช่นเคย ได้ Turkey หนัก 24 lbs. ตัวโตที่สุดที่หาได้ใน supermarket

    ครอบครัวของพี่นักเขียนเป็นคนไทยในต่างแดนที่ร่วมฉลองเทศกาลทุกเทศกาลที่เรารูจัก ทำให้รู้สึกว่าโลกนี้สดในร่าเริงเต็มไปด้วยงานเทศกาลตลอดปี เรียกได้ว่ารับเอาหมด ขอให้เป็นเทศกาลแล้วกัน ไม่พลาดแน่

    ตามปกติแล้ว พี่นักเขียนจะจัดงานที่บ้่านสำหรับ Thanksgiving โดยออกบัตรเชิญเพืิ่อนฝูงและนักเรียนสมาธิและผู้ที่สนใจ ให้มาร่วมสวดมนต์แบบพุทธ(ทำวัตรเย็น)ที่บ้านทุกปี โดยสามีของพี่นักเขียนซึ่งเป็นคนชอบสวดมนต์ จะเป็นผู้สวดนำคู่กับพี่นักเขียน และพี่นักเขียนจะทำหน้าที่แปลบทสวดมนต์ทุกบทให้ผู้เข้าร่วมพิธีฟัง จากนั้นก็จะนำนั่งสมาธิ ตลอดเวลาสวดมนต์และนั่งสมาธิ จะนำขันน้ำมนต์ซึ่งพี่นักเขียนได้รับเป็นของขวัญครบรอบแต่งงาน 17 ปี จากผู้ใหญ่ที่เมืองไทย ซึ่งได้มาจากสมเด็จพระสังฆราช โดยนำมาใส่น้ำตั้งไว้ด้วย พรัอมกับสายสิญจ์ที่เตรียมไว้เป็นท่อนสั้นๆ

    เมื่อเสร็จจากการสวดมนต์และนั่งสมาธิ ทุกคนจะผลัดกันจุ่มน้ำมนต์และแต้มหน้าผากตนเอง เป็นการรับศิริมงคลในวันนี้ร่วมกัน และจะผลัดกันผูกสายสิญจ์ให้กันและกันเป็นสัญญลักษณ์ของการมอบความปรารถนาดีให้แก่กัน ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวตนของเราทั้งหลาย ที่มอบสัมพันธภาพอันงดงามให้กับพวกเรา และมอบชีวิตที่เต็มไปด้วยการช่วยเหลือเกิื้อกูลซึ่งกันและกันให้แก่พวกเรา ซึ่งรักกันเสมือนญาติพี่น้อง แม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างสีผิว และต่างศาสนา ต่างลัทธิความเชื่อกันก็ตาม

    Thanksgiving ของพี่นักเขียนจึงค่อนข้างจะพิเศษ เพราะเป็นเทศกาลที่บ้านของพี่นักเขียนเปิดรับแขกหลากชาติภาษา หลากศาสนา ในวันก่อนหน้า Thanksgiving หนึ่งวัน และจบลงด้วยการทำอาหารมากมาย และรับประทานอาหารร่วมกันของสมาชิกครอบครัวของพี่นักเขียน ซึ่งมีกันเพียง 4 คนพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว

    วันรุ่งขึ้นเราจะนำ Turkey พร้อมด้วย stuffing และ side dishes คือนำไก่งวงอบพร้อมด้วยเครื่องที่ยัดไส้ไก่งวง กับอาหารเครื่องเคียงหลายอย่าง จัดเป็นชุดสวยๆไปแลกกับอาหารชุดคล้ายคลึงกันแต่ต่างตำรากับเพื่อนสทิท เพราะทุกบ้านจะทำไก่งวงอบตามตำราสุดยอดของครอบครัว และมักเป็นตำราที่ปู่ย่าตายายมักจะส่งต่อให้ลูกหลานไปหลายช่่วงอายุ

    สามีของพี่นักเขียนและลูกชายเป็นคนชอบทำอาหารทั้งคู่ เขาค้นคว้าตำราและลองทำมาหลายปีจนกระทั่งได้ตำราเด็ดของครอบครัวในที่สุด ปีนี้บังเอิญวันรุ่งขึ้นหลัง Thanksgiving มีกีฬา Basketball ทำให้นักศึกษากลับเข้าเมืองเร็วกว่ากำหนดเพื่อมาดูกีฬา ทั้งที่หอพักของมหาวิทยาลัยยังไม่เปิดกัน ( Lawrence เป็นเมืองมหาวิทยลัย มี University of Kansas เป็นหัวใจ ) พี่นักเขียนเลยโชคดีที่มีเพื่อนๆของลูกมาค้างที่บ้านหลายคน และมาช่วยกันทาน Turkey จนตู้เย็นสะอาดสะอ้าน-พร้อมที่จะเตรียมการรับสำหรับเทศกาล Christmas ต่อไป

    พี่นักเขียนบอกคุณเฉลยไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อากาศเพิ่งจะเริ่มหนาวและปีนี้หนาวช้า ปรากฏว่าสัปดาห์ต่อมา ก่อนหน้า Thanksgiving เพียง 2 วัน อากาศกลับไปอุ่นอีก อุณหภูมิเวลากลางวันสูงถึง 15c แต่แล้วคืนถัดมาก่อนหน้า Thanksgiving หนึ่งคืนกลับ snow ตกตกตลอดคืนและอุณหภูมิลดลงฮวบฮาบเหลือ -13c ตอนกลางวัน นับว่าเป็น Thanksgiving ที่หนาวที่สุดในรอบหลายสิบปี แต่ก็เป็นอีกปีที่อบอุ่น อาหารอร่อย และมิตรไมตรีคับคั่ง

    ถ้าหากพวกเราอยู่ใกลักัน พี่นักเขียนคงจะส่งบัตรเชิญทุกคนแน่นอน
    วันนี้ส่งไก่งวงมาให้พวกเรา พร้อมกับเครื่องเคียงและของหวาน
    ขอเชิญพวกเรารับประทาน virtual dinner ของพี่นักเขียนนะคะ แล้วให้คิดเสมอๆว่า ทานอะไรและทานแค่ไหนก็สวยเสมอ ร่ำรวยเสมอ สุขภาพดีเสมอ หนุ่มสาวเสมอ ไร้สิวเสมอ และสุขเสมอ เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยเทศกาลให้เราฉลองอยู่เสมอค่ะ (rose)


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15376-63fl.jpg
      15376-63fl.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.5 KB
      เปิดดู:
      25
    • 1315016.jpg
      1315016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      25
    • aa004861.jpg
      aa004861.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      25
    • aa006882.jpg
      aa006882.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.8 KB
      เปิดดู:
      30
    • cb13097952.jpg
      cb13097952.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103 KB
      เปิดดู:
      28
    • xmd040-1.jpg
      xmd040-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62 KB
      เปิดดู:
      31
  7. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    ถามคุณพี่นักเขียนหน่อยนะะครับ
    ถ้าอย่างงั้นมีความเป็นไปได้มั้ยที่เวลาเรามองขึ้นไปบนฟ้าเห็นดาวมากมายยามค่ำคืน อาจจะมีตัวเราอีกคนนึงหรืออีกหลายๆคนอาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น
     
  8. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    สวัสดีครับพี่นักเขียน วันนี้เอาไก่งวงมาให้กินกัน เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่าแต่ละบ้านก็จะมีไก่งวงสูตรพิเศษเฉพาะแต่ละบ้าน

    คุณ membo ไม่ทราบว่าอยู่ที่เอแบคบางนาหรือเปล่า ถ้าใช่เวลาจะกลับหอ ลองเหาะตามเครื่องบินไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจากสนามบินนั้น มองไปทิศตะวันออก น่าจะเห็นตึกเรียนของเอแบคสูงๆ และก็ไปตามนั้นเลย
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีค่ะคุณนักเขียน ไม่เห็นคุณออนไลน์หลายวันเลยคิดถึงมาก มีประสบการณ์มาเล่าให้คุณฟังค่ะ ดิฉันเคยจำได้ว่าเคยเล่าให้ฟังในห้องนี้ครั้งหนึ่ง ถึงเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน หรือเสียงที่ตะโกนปลุกตอนกลางคืน ตอนนี้ดิฉันพอจะได้เงื่อนงำแล้ว เพราะเมื่อสองคืนก่อนนี้ดิฉันฝันเห็นตัวเองนอนหลับอยู่ในห้องนอน และมีอะไรไม่รู้เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกห้องตรงหน้าต่าง เหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เขากำลังเรียกตัวดิฉันที่กำลังนอนอยู่บนเตียง แล้วดิฉันก็เห็นตัวเองที่บางใสค่อย ๆ ยืนขึ้นและเดินออกไปหาเขา ตัวดิฉัน (คนปัจจุบันที่กำลังฝัน) ที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้าไปจับขาของตัวเองที่กำลังก้าวออกนอกหน้าต่างไป (แต่จับไม่ติดเพราะร่างเหมือนโปร่งแสง) พร้อมตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง แล้วดิฉันก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับจำความฝันได้อย่างแม่นยำเหมือนนำกล้องติดไปเลยทีเดียว เมื่อดิฉันตั้งสติดู คุณรู้ไหมดิฉันพบว่า เหตุการณ์ในอดีตที่ดิฉันเคยตกใจตื่นเพราะมีเสียงมาตะโกนเรียกข้างหู และพอตื่นขึ้นมาก็พบกับเสียงเปรตเสียงหมาหอนและเสียงที่ไม่น่าจะอยู่มิติเดียวกับเรานั้น แท้จริงแล้วเสียงที่ตะโกนข้างหูดิฉันจนตกใจตื่นนั้นคือเสียงของตัวดิฉันเองน่ะแหละที่ตัวตนในอนาคต (ณ ตอนนั้น หรือ ดิฉัน ณ ตอนนี้) ได้ไปรู้เห็นต่างมิติผ่านทางความฝันและพยายามที่จะเตือนตัวเอง ไม่น่าดิฉันคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าเสียงที่ตะโกนข้างหูนั้นมันเหมือนเสียงของตัวเองเลย แต่ที่ไม่เชื่อเพราะไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ที่จะได้ยินเสียงตัวเองได้อย่างไร อย่างที่คุณนักเขียนได้กล่าวไว้ใน โนวาอนาลัย ขยายความ ธรรมชาติชาติภพ ดิฉันได้พบเงื่อนงำบางอย่างแล้วจริง ๆ เป็นประสบการณ์แลกเปลี่ยนเล่าสู่กันฟังค่ะเพื่อพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณร่วมกัน
     
  10. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ...ขอบคุณคำแนะนำของคุณ khajornwan นะคะ ณ.พิมพ์ตกไปหน่อย คือนานๆ เป็นทีค่ะ เป็นครั้งหนึ่งประมาณ 10 วินาที (แอบแก้ไปเรียบร้อยแล้ว อิอิ)อาจจะเห็นว่าแค่ 10 วินาทีมันแป๊บเดียว แต่สำหรับ ณ. มันไม่ใช่เลย คือไม่ว่าจะทำอะไรต้องหยุดทำทันที แล้วจะหลับตา อย่างที่คุณkhajornwanแนะนำนั่นแหละค่ะ สูดลมหายใจยาวๆ ตั้งสติ จนกว่าคลื่นนั้นมันจะผ่านไป...แล้วก็ไม่ได้เป็นมานานแล้ว...เลยมีความรู้สึกว่าปวดกว่าทุกที แต่ณ. คิดว่ามันคงดีขึ้น เพราะพยายามมองในแง่ดีกว่า มันคงมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ และเมื่อรู้แล้ว ความปวดคงหายไปแน่ๆค่ะ(b-smile)

    ...ขอบคุณค่ะพี่นักเขียนสำหรับของฝาก อิ่มอร่อยและมีความสุขจริงๆค่ะ แต่ ณ. ไม่เคยกินไก่งวง ไม่รู้รสชาติจะเหมือนไก่ย่างวิเชียรบุรีหรือเปล่าค่ะพี่นักเขียน...อย่างนี้ต้องขอส้มตำ กะลาบหมูด้วยนะคะ...ส่วนข้าวขอเป็นข้าวสวยร้อนๆค่ะ ข้าวเหนียวกินได้แต่มะค่อยถนัด..อิอิ...คุณmemboต้องเหาะตามคุณzipperบอกแล้วมั้งค่ะ จะได้กลับที่พักถูก(b-flower)

    ...ขออนุญาตคุณเด็กโชว์พาวนะคะ ถ้าจำไม่ผิดพี่นักเขียนเคยบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคิดค่ะ...สั้นไปหน่อยมั๊ยเนี่ย...:d

    ...อ้าวตกของน้องนกค่ะ วิธีการง่ายๆ อีกทางสำหรับการควบคุมน้ำหนัก แค่พยายามทำทุกครั้งที่นึกได้ คือหายใจเข้าพุงป่อง หายใจออกพุ่งยุบทำติดต่อกันอย่างน้อยสัก 1-3 นาที และทุกครั้งที่นึกได้ค่ะ เป็นการทำสมาธิไปด้วย ลองทำดูนะคะ ถ้าจำไม่ผิดนี่คือวิธีการหายใจเวลาเราหลับค่ะ และเด็กๆ ก็จะหายใจแบบนี้เหมือนกัน... ร่างกายจะเผาผลาญอาหารได้ดีค่ะ

    ...เมื่อคืนมีประสบการณ์สุดยอดมาเล่าให้ฟังค่ะ แต่ก่อนเล่าเดี๋ยวเล่าเรื่องอดีตให้ฟังก่อนนะ ณ.มีหลายครั้งในฝันที่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจ เช่นเราอยากจะเปิดประตูก็เปิดไม่ได้ หรือบางทีก็ฝันว่าบินได้ แต่เป็นการบินสูงได้ในตอนแรกแล้วลดระดับลงอย่างรวดเร็ว บินเรี่ยพื้น พับ พับ ลองนึกถึง ซุปเปอร์แมนในการ์ตูนอาระเร่นะคะ ยังไงก็ยังงั้น อิอิ แต่บางครั้งอยู่ในน้ำ เราเชื่อว่าเราหายใจได้ เราก็ทำได้ นั่นเป็นเพราะความเชื่อว่าเราจะทำได้หรือไม่ได้นั่นเอง ซึ่งถ้าสรุปตามพี่นักเขียนเคยบอกก็คือในความฝันไม่มีกาลเวลา ฉะนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตามที่เราต้องการ เอาล่ะค่ะเข้าเรื่องดีกว่า เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ณ.พักอยู่อพาร์ตเม้นต์แถวสวนหลวง มีอยู่คืนนึ่งรู้สึกตัวกลางดึก ก็แบบเดิมค่ะ ตามองทะลุเปลือกตา เห็นทุกอย่าง แต่ตอนนั้นไม่คิดแบบนี้ คิดว่าเราตื่นแล้วค่ะ แล้วก็ยกแขนข้างซ้ายขึ้นมาเพื่อจะดึงผ้าห่มหรือทำอะไรสักอย่างจำไม่ได้ แต่ในเวลานั้นคือ ณ. เห็นแขนข้างซ้ายมี 2 ข้าง มองดูหลายรอบก็เห็นแบบนั้น ลองยกวางหลายครั้ง ข้างนึ่งวางนิ่งอยู่ข้างลำตัว อีกข้างก็ยกๆ วางๆ ในความรู้สึกคือ แขนข้างที่ยกๆ วางๆ ได้คือแขน ณ. แต่อีกข้างมันก็ใช่ แล้วเกิดความรู้สึกอึดอัด พยายามจะลุกออกไปจากเตียง แต่จนแล้วจนรอดก็ลุกไม่ได้ แล้วก็ตื่นค่ะ... เอาล่ะค่ะ เกรินมานานเข้ามาสู่เรื่องเมื่อคืนดีกว่า... จากการอ่านกระทู้นี้ไปได้เกินว่า20หน้าแล้ว เลยทดลองทำสมาธิก่อนนอนตามที่พี่นักเขียนแนะนำ แล้วตั้งใจว่าอยากได้รับคำแนะนำจากพี่นักเขียน และอ.โนวา อนาลัย...แล้วก็หลับไป...สิ่งที่จำได้คือรู้สึกตัวว่าจะตื่น แล้วจำคำแนะนำของพี่นักเขียนที่ว่า ยังไม่ต้องลืมตา ให้ใช้จิต ณ.ก็เลย บอกตัวเองว่าให้ลุก ทั้งที่รู้ว่าตัวเองยังนอนอยู่ แล้วก็ลุกขึ้นมาจริงๆค่ะ แล้วคำแนะนำก็แวบมาอีกว่าให้หันกลับไปมอง ณ.ก็หันกลับไปมองที่เตียง ณ.ก็ยังนอนอยู่ตรงนั้นจริงๆ เป็นครั้งแรกที่หลุดออกมาทั้งตัว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกตกใจหรือกลัวนะคะ รู้สึกตื่นเต้นสนุกค่ะ ณ.จำได้ว่าเดินไปที่ร่างที่นอนอยู่บนเตียงแล้วไปเขย่าด้วยค่ะ ...อิอิ อยากรู้มั้งว่าจะตื่นมั๊ย แต่ไม่ตื่นค่ะ แล้วคำแนะนำก็แวบมาอีกว่า ยังไม่ต้องออกนอกห้องในตอนแรก ให้เดินอยู่ในห้องก่อน แล้วก็ลืมตาเลยค่ะ ณ.ตื่นจริง แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นดาวกระพริบวาบๆ กำลังวิ่งตรงมา ณ.วิ่งไปที่หน้าต่าง มองดูแล้วคงเป็นเครื่องบินค่ะ แล้วรู้สาเหตุที่ตื่นแล้ว เพราะบ้านตรงข้ามเปิดประตูรั้วเสียงดังนั้นเอง...เสียดายจัง...แล้วคืนนี้ณ.จะออกมาสำรวจนอกร่างได้อีกมั๊ยเนี่ย...ไม่น่ายากแล้วเนอะ...อิอิ(ping)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2007
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ณ.อดีต ณ.ปัจจุบัน ณ.อนาคต คือ ณ.

    อ๋อ...เพิ่งเข้าใจที่มาชื่อคุณ ณ.วันนี้เอง
    ชื่อสั้นก็จริงแต่ครบถ้วนและเกิดขึ้นพร้อมกันหมดอีก
    เห็นมีประสบการณ์ความฝันน่าสนใจไม่น้อย น่าสนุกเพลิดเพลินจริงๆคับ
    เห็นช่วงนี้คุณ ณ.มาอ่านกระทู้บ่อยๆ ทำให้ห้องวิทย์เราอบอุ่นขึ้นเยอะ

    นี่ผมก็เพิ่งซ่อมคอมเสร็จ..เสียเวลาทางโลกไปตั้ง 2 วัน
    วันแรกลองทำดูเอง..ท่าจะไม่ Work เลยส่งให้ช่างทำดีกว่า
    ถ้าส่งคุณซิปเปอร์ (ในฝัน) คงซ่อมเสร็จล่วงหน้าไปแล้ว อิอิ

    กลับเข้ามามีไก่ตัวเบิ้มๆใส่จานรออยู่ ขอบคุณมากครับ
    เพิ่งทานไปเมื่อวานเอง..แต่ตัวเล็กกว่าหลายเท่า..
    ขอส่งความสุขและคำขอบคุณไปให้คุณไก่งวงด้วยครับ

    ทักทายทุกๆคนด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2007
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ช่วงนี้มีฝันเหมือนกันแต่จำไม่ได้ว่าฝันอะไร พอนาฬิกาปลุกก็ลุกขึ้นไปปิด ก็เลยไม่มีเวลาจะมาทบทวนเรื่องในฝันก่อน ก็เลยลืม

    คุณ mead ส่งมาก็ได้ครับ แต่ถ้าจะหาอะไหล่เปลี่ยน ในฝันคงหายาก

    เรื่องของคุณจินตวดี ที่ว่าเห็นตัวเองในอดีต และตัวเองในอดีตก็รู้สึกถึงตัวเองในอนาคตนั้น ก็เลยอ่านเรื่องราวทำนองนี้เหมือนกันครับ แต่ลำดับเหตุการณ์ที่เค้าเล่าไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ เคยมีคนโพสว่า เคยทำสมาธิระลึกชาติไปยังชาติที่เคยเป็นโยคี(หรือโยคะนี่แหล่ะ ที่อินเดีย) แล้วก็ตัวตนในชาตินั้นก็รู้สึกว่ามีคนมาแอบมอง แล้วก็หันไปทางนั้น หลังจากนั้นเค้าก็เคยทำสมาธิไปมองเห็นชาติที่เป็นโยคี(ชาตินั้นแหล่ะ) สักพักโยคีรูปนั้นก็รู้สึกตัวว่ามีคนแอบมอง ก็หันไปทางเค้า

    อันนี้จำไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่ว่า ไปมองอดีตชาติ กับเหตุการณ์ที่ว่าย้อนกลับไปเป็นชาตินั้น อันไหนจะเกิดก่อนกัน แต่สาระก็เหมือนกับที่คุณจินตวดีเจอ ก็คือ ตัวตนในอดีตรับรู้ถึงการมาของตัวตนในอนาคต และในอนาคตตัวตนในอนาคตก็ย้อนกลับไปหาตัวตนในอดีตในช่วงนั้น
     
  13. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ไก่งวง หอมน่าทานมากๆเลยครับพี่นักเขียน กลิ่นลอยออกมาจากหน้าจอเลยย
    เมื่อคืนฝันแบบดู รายการสาระคดี อีกแล้ว ช่วงนี้เป็นบ่อยๆ เมื่อคืนฝันว่า เหมือนดูรายการ แล้วมีเสียงคนพูดให้ฟังว่าเกี่ยวกับ อะไรสักอย่างแต่ประมาณ ว่า การคิดค้นใหม่ สิ่งประดิษใหม่ มี 3แนวทางคือ
    1 คิดค้น ทำต่อจากของเดิม ต่อยอดไปอีก
    2 คิดสิ่งใหม่ทั้งหมด
    3 ยอมรับข้อ 1 และ 2 เอามาร่วมกัน

    พอได้ของใหม่แล้ว ก้ ให้มาใช้ขั้นตอนเหล่านี้อีก
     
  14. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เห็นคุณ mamboo มาเล่าประสบการในฝัน ให้พวกเราฟัง ยินดีด้วยน่ะครับ
    axon เคยผ่านการฝันมามากหลายรุปแบบ มีข้อแนะนำมาฝากครับ
    เวลา เดินเหาะ เหาะทำกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ดั่งใจในฝัน มีข้อสำคัญคือ อย่าวิตก กังวล อย่าเคียดกับเรื่องในฝัน อยู่กับความเบิกบาน แจ่มใส เราจะทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพยายามสูง ไม่รู้สึกเหนื่อยใดๆ พอตื่นมาก้แจ่มใส เหมือนนอนหลับ 1 วันเต็ม

    ส่วนตัวเองช่วงนี้ ก้ไม่ค่อยได้ฝึกฝันแบบที่อาจารย์อนาลัยแนะนำไว้ ยังต้องฝึกหัดกันต่อไปอีกเรื่อยๆ ครับ ช่วงนี้คิดถึงเพื่อนๆ ฝันถึงเพื่อนตอนมัธยม ทุกคืนเลย บางฝัน มีคนมาเยี่ยมเราเต็มไปหมด หน้าตาไม่เคยเห็น แต่รู้สึกเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว ไม่รู้จากมิติไหนกันบ้างน่ะ
     
  15. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    แปลกดีนะคะ ชอบที่คุณ เล่าอ่ะ อยากทำมั่งอ่ะ คือว่าตอนที่ตื่นเนี่ย อย่าเพิ่งลืมตาใช่ไหมคะ.. แล้วก็สั่งตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วหันไปมองข้างหลัง...ว้าว..^^ ไว้จะทำมั่งค่ะ.. ส่วนเรื่องมองทะลุหนังตาเนี่ย เป็นบ่อยค่ะ สนุกมากๆ เหมือนหนัง fantasy แค่หลับตาลงไม่ถึง 3 วินาที จากภาพที่มืดๆเราก็รู้สึกเหมือนมองทะลุหนังตาผ่านเข้าไปยังโลกอีกใบทันที มันสุดยอดมากๆเลยค่ะ ^^ อ้อ!! แล้วก็ขอบคุณ คุณ axon นะคะที่แนะนำวิธีการเหาะให้ ไว้จะลองดูนะคะ แล้วก็ขอบคุณ ไก่ Turkey ของพี่นักเขียนด้วยนะจ้ะ ^^ แล้วก็.. อยากจะได้คำแนะนำจากหลายๆท่านอีกค่ะ คืออยากรู้ว่า
    ความสามารถในฝันของเรามีอะไรอีกคะ คือว่าเวลาที่เรารู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝันเนี่ย...มันเป็นแบบว่า มันไม่รู้จะทำอะไรอ่ะค่ะ ลองเดินสำรวจนู่นสำรวจนี่ดูก็แล้ว.. ภาพในฝันชัดมากๆ เหมือนของจริง เราอยากให้ฝันเราเป็นยังไงก็ได้ เราจะเสกอะไรก็ได้ จะเปลี่ยนฉากก็ได้ ที่ยังไม่ได้ทำก็คือ "เหาะออกไปดูนอกโลก" เพราะกลัวกลับเข้ามาไม่ได้ค่ะ T_T อยู่หอพักคนเดียวด้วย กลัวไหลตาย... แล้วก็... คือว่า..เรามะค่อยได้อ่าน อ.โนวา อนาลัย อ่ะนะคะ แต่ว่าอยากแจมที่บอร์ดนี้ด้วย เพราะว่าเป็นเรื่องความฝันเหมือนกัน คือว่า...

    มีใครพอจะบอกได้ไหมคะว่า... เราจะลบฉากของความฝันได้อย่างไร??? คือว่า โดยส่วนตัวแล้วเนี่ย เข้าใจว่า ตอนที่เราหลับและฝัน มักก็คือกันกะตอนที่เรานั่งสมาธิถอดจิต ต่างกันแต่เพียงว่า การนั่งสมาธิเนี่ย..สติมันมาครบ แต่การฝัน สติมาไม่ครบ เราอยากจะลบฉากในฝันออกให้หมดแล้วมองเห็นภาพความเป็นจริง.. หรือว่าฝันอยู่อีกมิติหนึ่ง..จึงทำเช่นนั้นไม่ได้ สับสนค่ะ อยากจะหาคำตอบพวกนี้ด้วยตนเอง แต่ว่าไม่มีเวลาเลยค่ะ เรียนอยู่ค่ะ ก็เลยขอถามผู้รู้ไว้ก่อนดีกว่า เพื่อคลายความสงสัยจ้ะ ^^...
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ mamboo ครับ ความฝันเนี่ย จากที่อาจารย์อนาลัยสอนมา ก็สามารถฝันทั้งที่มีสติก็ได้ และความฝันก็เป็นโลกความจริงเช่นกัน และเป็นความจริงที่จริงกว่าที่เรามองหรือสัมผัสเห็นได้จากตอนตื่น เพราะตอนที่ตื่น สิ่งต่างๆ ที่เราสัมผัส มักจะมีการบิดเบือน อันนี้ตามความเข้าใจของตัวเองก็คือว่า ทั้งจากบิดเบือนจากความคิดเราที่มีต่อสิ่งนั้นๆ และบิดเบือนด้วยสิ่งนั้นเอง เพราะสิ่งนั้นเป็นเครื่องพราง โลกแห่งจิตจะมาสู่โลกแห่งกายภาพได้ ก็ต้องมาเป็นเครื่องพราง สิ่งอาจจะมีความจริงของมันถูกบิดเบือนไปบ้าง ใครบางคนเคยนิยามว่าเหมือนผ้าคลุมหน้าที่จะเห็นใบหน้าของคนนั้นรางๆ ถ้าอยากเห็นว่าหน้าตาเค้าเป็นยังไง ก็ให้เลิกผ้าคลุมหน้าขึ้นมา

    ส่วนอันนี้จะเป็นคำถามที่จะถามพี่นักเขียน เป็นคำถามหลังจากอ่านหนังสือตอน ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ หน้าไหนก็จำไม่ได้แล้ว เพราะตอนนั้นเปิดไปเจอพอดี

    อาจารย์อนาลัยบอกว่าเราสามารถที่จะนัดเจอกันในความฝันก็ได้ เพื่อเป็นการทดลอง เลยอยากรู้ว่าถ้าคนที่เราจะนัดพบกัน อยู่ต่างประเทศ คนละเวลากัน เราจะยังนัดเจอกันในฝันได้หรือเปล่า ตามที่อาจารย์อนาลัยสอนมาว่า ในมิติของจิตวิญญาณ อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด เราอาจจะนอนคืนนี้ แต่อีกคนยังไม่ถึงเวลานอน แล้วก็ไปเจอกับคนนั้นในฝัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาในอนาคตที่เค้าจะฝัน ได้หรือเปล่า?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2007
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คุณ MAMBOO ลองทำแบบนี้ดูนะพี่นักเขียนเคยแนะนำไว้
    ขณะอยู่ในฝัน ถ้าหากเราสามารถก้มมองสำรวจตัวเองได้
    สามารถบังคับให้ตัวเองย้ายไปในสถานที่ต่างๆได้ใจตามปราถนา
    นั้นแสดงว่าตอนนั้นเรามีสติจดจ่ออยู่ในโลกของจิตวิญญาณ
    ไม่ต่างกับการเห็นนิมิตรในขณะทำสมาธิเลยครับ
    ให้ลองสำรวจตัวเองดูด้วย (ถ้าพบกระจกเงายิ่งดี)
    เข้าไปดูว่าใบหน้าที่เราเห็นนั้นเป็นตัวเราหรือไม่? เป็นหญิงหรือชาย..?
    เพราะหลายๆครั้ง เราสามารถมองผ่านสายตาของคนอื่นๆได้ด้วย
    ไม่ว่าจะเป็นตัวเราในอดีตชาติ-อนาคตชาติ-บุคคลที่เป็นญาติพี่น้อง-หรือบุคคลที่เป็นเพื่อนร่วมวัตุประสงค์ในปัจจุบันชาติของเรา นั่นก็คือบุคคลและเรื่องราวที่สัมผัสได้ทั้งอดีตที่ผ่านมาแล้วและ (อาจ)กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ในอีกมิตินอกเหนือจากกาลเวลาของโลก บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลาย
    เป็นเรื่องราวของจิตวิญญาณที่เข้าไปอยู่ในกระแสแม่น้ำใหญ่และเข้าสู่มหาสมุทรขนาดใหญ่ เพื่อเรียนรู้กันแบบเป็นระบบเครือข่ายที่เปิดกว้างครับ

    ถ้าหากเราไม่มีสติจดจ่อกับเรื่องราวในความฝัน เราก็จะสะเปสะปะและไม่ได้สาระและไม่เกิดประโยชน์ใดๆเท่าที่ควร..มีบทเรียนไว้ฝึกฝันนะครับในสารบัญหน้าแรกสุด ก่อนนอนต้องทำสมาธิแล้วใส่ Keyword ลงไปตรงตาที่สาม..จากนั้นก็ไปเที่ยวตามใจปราถนาได้ง่ายขึ้น..กลับไปในอดีตไปดูอารยธรรมโบราณผ่านสายตาคนยุคนั้นได้ด้วย หรือไปเที่ยวในอวกาศจักรวาลก็ได้ครับ แต่แนะนำว่าเชิญครูบาอาจารย์ที่เรานับถือไปด้วยจะได้ไม่ตกกะใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2007
  18. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    น้า Mead ภาพดังกล่าวค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2281.jpg
      IMG_2281.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      35
    • IMG_2282.jpg
      IMG_2282.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_2283.jpg
      IMG_2283.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      32
    • IMG_2284.jpg
      IMG_2284.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      39
    • IMG_2285.jpg
      IMG_2285.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      28
    • IMG_2286.jpg
      IMG_2286.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      25
    • IMG_2314.jpg
      IMG_2314.jpg
      ขนาดไฟล์:
      949.5 KB
      เปิดดู:
      29
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ดูแลเป็นอย่างดีครับ (เครื่องคอมทำงานหนัก ให้กินแบรด์ซุบไก่ทุกวัน อิอิอิ)
    มายกให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ก็ขอตอบแบบวิทยาศาสตร์เลยนะครับ
    ที่เห็นเป็นฝ้ากลมๆส่วนใหญ่เป็นฝุ่นละอองในอากาศทั้งนั้นครับ
    ฝุ่นเล็กๆ(หน้ากล้อง)สะท้องกับแสงแฟรตจากกล้องถ่ายรูปจะเบลอใหญ่ขึ้น (โดยเฉพาะรุ่นที่เลนส์เสมอกับหน้ากล้อง)
    แต่กล้องถ่ายรูปสมัยนี้ ก็สามารถบันทึกภาพจากมิติคู่ขนานมาให้เห็นได้มากขึ้น
    ดังนั้นอย่าเพิ่งปฎิเสธทั้งหมดครับ

    เจดีย์ที่นี่ออกแบบได้สวยมาก
    ที่เห็นเป็นจุดแสงสว่างๆสีขาว เคลื่อนที่บริเวณใกล้ยอดเจดีย์
    น่าจะเป็นดวงจันทร์ถ่ายต่างเวลากัน ดวงสีแดงนั่นคือโคมลอย
    เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ ย่อมเข้าใจได้ดีกว่าคนที่เห็นรูปแน่นอน
    ถ้าไม่ใช่ทั้งสองอย่างก็สุดจะเดาครับ
    นักวิทย์ก็อธิบายปรากฎการณ์แบบนี้ได้อย่างคลุมเครือเท่านั้น..?

    จะว่าไปฝุ่นละอองเหล่านี้ก็มีพลังงานเป็นแก่นแท้กันด้วยกันทั้งนั้น
    ถ้าจะกล่าวว่าถ่ายติดพลังงานของจิตวิญญาณก็ไม่ผิดครับ..
    ถ้าเคยเห็นรูปที่ถ่ายได้ตอนกลางวันแล้วมีแสงสว่างเปล่งออกมา
    กลางวงสนทนาผู้คนสิ่งของ โดยไม่ได้เปิดแฟรต และกล้องนิ่งจริงๆ
    และไม่ได้แต่งภาพ อันนั้นสิครับถือว่าชัดเจนที่สุด..มีรูปถ่ายของ ดร.เทพนม
    ถ่ายติดรูปแบบพลังงานจากพระเจ้าสูงสุด เป็นแสงสว่างเป็นดวงกลม 6 จุด
    รอบยอดพระเจดีย์ตอนกลางวันแสกๆครับ..รูปนี้แปลกและน่าทึ่งมาก
    เค้าสื่อมาบอก ดร.เทพนมว่าทุกศาสนาล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

    อาจเป็นรูปแบบพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาร่วมอนุโมทนาก็เป็นได้
    หรือไม่ก็เป็น UFO ที่ปรากฎในมิติคู่ขนาน แล้วแต่ความเชื่อและจินตนาการของผู้พบเห็น
    เหมือนดูผลงานศิลปะที่มีผู้ถ่ายทอด สื่อออกมาให้เราเข้าใจแบบนั้นล่ะครับ
    ที่สุดยอดก็คือความรู้ของจิตวิญญาณครับ
    ผมว่าแวปแรกที่เราสัมผัส+พิจารณาแล้วเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
    เนื่องจากจิตวิญญาณส่งคำตอบมาให้แบบไม่ปรุงแต่งครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2007
  20. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ตอนนี้เชื่อว่าเพื่อนร่วมห้องนี้เริ่มมีประสบการณ์ความฝันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแสดงว่า เมื่อจิตเราจดจ่อต้องการที่จะเรียนรู้ความมหัศจรรย์ในธรรมชาติของจิตวิญญาณ และเรียนรู้ที่จะฝึกฝนตามแบบฝึกฝนที่ท่านอาจารย์ได้ทิ้งไว้ให้ ตอนนี้เหมือนความรู้และความสามารถบางอย่างที่เราสามารถมีได้ทำได้ และเป็นได้ กำลังค่อย ๆปรากฏออกมาเป็นประสบการณ์ทั้งทางด้านความเป็นจริงในโลกความฝัน และความเป็นจริงของโลกภายนอก เพื่อเป็นการพิสูจน์และให้เงื่อนงำบางอย่าง เพียงแต่ถ้าเราใช้สติในการพิจารณา เราจะพบเค้าลางอะไรบางอย่างอยู่ในประสบการณ์เหล่านั้น ตอนนี้ดิฉันเข้าใจคำกล่าวของไอน์สไตน์แล้วว่า เวลาไม่มีอยู่จริง อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกิดขึ้นพร้อมกัน คิดถึงคุณนกนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะคะ และ ประสบการณ์ความฝันของคุณ ณ. และ คุณ Mamboo
     

แชร์หน้านี้

Loading...