คุณคิดว่า ภายใน 11 ปี น้ำแข็งจะละลายจนท่วมเมืองชายทะเลหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย serm, 14 ธันวาคม 2006.

  1. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ถ้าดูเทรนด์ 32 ปี พื้นที่น้ำแข็ง ( Sea Ice ) ลดลงจริงครับ นั่นหมายถึงน้ำแข็งขั้วโลกละลายกลายเป็นน้ำเพิ่มมากขึ้น มาดูข้อมูลแบบละเอียดกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขั้วโลกใต้ยังปกติ แต่ขั้วโลกเหนือ พื้นที่น้ำแข็งลดลง สาเหตุมาจากโลกร้อนขึ้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิที่ขั้วโลกเหนือสูงขึ้น 0.33 องศาเซลเซียส ในขณะที่ขั้วโลกใต้ อุณหภูมิไม่ได้สูงขึ้นเลย

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อเทียบเส้นกราฟ 2013 กับ ค่าเฉลี่ย 32 ปี (1979-2013) พื้นที่น้ำแข็งรวมอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า แต่ก็ดูจะดีกว่า ปี 2012

    [​IMG]

    กราฟนี้ เปรียบเทียบรายปี ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า ปี 2013 ยังไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ พื้นที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือแทบไม่ได้ลดลงเลย ( เส้นสีดำ )

    [​IMG]

    ภาพถ่ายข้างล่าง แสดงพื้นที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกัน ของปี 2007 กับ 2013 ( ห่างกัน 6 ปี )

    [​IMG]

    .
     
  2. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    โอบามาประกาศแผนสู้โลกร้อนแห่งชาติ

    วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556 เวลา 08:13 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐเปิดเผยแผนการใหม่ว่าด้วยการต่อสู้กับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยโอบามาเรียกร้องให้จำกัดโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอน พร้อมกับให้คำมั่นผลักดันแหล่งพลังงานสะอาดชนิดใหม่ และเป็นผู้นำในความพยายามลดโลกร้อน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโอบามาอ้างด้วยว่า ชาวอเมริกันทั่วประเทศไม่ค่อยใส่ใจต่อการแก้ปัญหาโลกร้อน พร้อมทั้งระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ทำให้เกิดภัยแล้งในทางตอนกลางของอเมริกา


    นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโอบามายังกล่าวต่อไปว่า เขาไม่อดทนต่อผู้ที่ไม่สนใจแก้ปัญหาโลกร้อน รวมทั้งสมาชิกในสภาคองเกรส ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนถึง 3,000 ล้านเมตริกตันในปี 2573 ด้าน กลุ่มสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศกล่าวยกย่องแถลงการณ์ของประธานาธิบดีโอบามา โดยลาร์รี ชไวเกอร์ ประธานและซีอีโอของมูลนิธิเนชั่นแนล ไวด์ไลฟ์ ระบุว่า คำกล่าวของผู้นำสหรัฐเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางสู่การยุติการปล่อยก๊าซคาร์บอนของภาคอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับบ็อบ วอร์ด ผอ.ฝ่ายนโยบายและการสื่อสารของสถาบันวิจัยแกรนธัมในอังกฤษกล่าวแสดงความยินดีต่อถ้อยแถลงของโอบามา แต่เตือนว่า การต่อสู้กับโลกร้อนของสหรัฐ ต้องได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส

    โอบามาประกาศแผนสู้โลกร้อนแห่งชาติ | เดลินิวส์
     
  3. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    ธนาคารโลกเตือน กรุงเทพฯ เสี่ยงจมบาดาลใน 17 ปี

    เวิลด์แบงก์เตรียมเงินหลายพันล้านดอลลาร์ สนับสนุนการจัดการน้ำในเอเชีย คาดกรุงเทพจมน้ำภายในปี 2573 ขณะโฮจิมินห์ซิตีต้องใช้ 2,000 ล้านดอลลาร์ยกเครื่องระบบป้องกันน้ำท่วมที่เพิ่งสร้าง

    ธนาคารโลก ออกรายงานเมื่อวันพุธที่ 19 มิ.ย.ระบุว่า กรุงเทพ, จาการ์ตา และโฮจิมินห์ซิตี ถือเป็น "จุดเสี่ยง" ที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น พายุเขตร้อนที่รุนแรง และฝนตกหนัก เนื่องจากภาวะโลกร้อน

    เจ้าหน้าที่ของธนาคารบอกว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่ความเสี่ยงที่ไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ "ในช่วงแผนงาน 20 ปีของเรา"

    รายงานฉบับนี้ระบุว่า กรุงเทพจะจมอยู่ใต้น้ำเป็นอาณาบริเวณกว้างภายในปี ค.ศ. 2030 ขณะระบบควบคุมน้ำท่วมของนครโฮจิมินห์ ที่เพิ่งสร้างเมื่อทศวรรษก่อน ก็ไม่เพียงพอรับมือน้ำท่วมแล้ว จำเป็นต้องใช้งบประมาณราว 61,500 ล้านบาทยกเครื่องใหม่ทั้งหมด

    ราเชล ไคท์ รองประธานธนาคารโลก ฝ่ายสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน บอกว่า ระบบของเวียดนามดังกล่าวสร้างขึ้นบนฉากสถานการณ์จำลองที่ได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่สามารถป้องกันน้ำทะเลที่จะสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้ คาดว่าภายในปี 2573 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 นิ้ว และเพิ่มเป็น 1 ฟุตในทศวรรษถัดไป

    บรรดาผู้นำโลกได้ให้คำมั่นที่จะจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับที่จะเพิ่มอุณหภูมิของโลกประมาณ 2 องศาเซลเซียส แต่รายงานของธนาคารโลกเมื่อปีที่แล้วได้คาดการณ์ว่า โลกในศตวรรษหน้าจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศา ซึ่งจะทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำและอาหารในพื้นที่บางส่วนของโลก ทำให้ผู้คนหลายล้านต้องอพยพหนีภัยสภาพแวดล้อม

    แต่การทำนายล่วงหน้าเป็นช่วงเวลานับศตวรรษดูจะเนิ่นนานเกินไป ธนาคารโลกจึงได้จัดทำรายงานฉบับนี้เพื่อฉายภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าขณะที่อุณหภูมิโลกกำลังจะเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส

    รายงานคาดว่า ในเอเชีย เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้น ธารน้ำแข็งละลาย ระบบสาธารณูปโภคถูกคุกคามด้วยพายุรุนแรง หลายเมืองตามชายฝั่งจะได้รับผลกระทบ ในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม การทำประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จะเสียหายเพราะน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น และมีน้ำเค็มหนุนเข้าไปตามแม่น้ำ

    ไคท์ กล่าวว่า ธนาคารโลกกำลังหันมาเน้นการวางแผนในประเทศเหล่านี้ เพื่อสร้างสาธารณูปโภค และปรับปรุงเมืองต่างๆ เพื่อให้รับมือภัยสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น เช่น วางโครงข่ายกำแพงกั้นน้ำทะเล, เตรียมพื้นที่รองรับน้ำที่หลากลงจากภูเขาหลังฝนตกหนัก, เคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกจากชั้นใต้ดิน รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อป้องกันสถานที่สำคัญ

    เธอบอกว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาหลายแห่งทั่วโลก ได้เพิ่มเงินสนับสนุนแก่ประเทศยากจนในการสู้กับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ จาก 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2554 เป็น 25,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2555 และคาดว่าเงินก้อนนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    Source : Washington Post ; AFP (images)
    by sathitm
    19 มิถุนายน 2556 เวลา 16:46 น.

    ธนาคารโลกเตือน กรุงเทพฯ เสี่ยงจมบาดาลใน 17 ปี - Voice TV
     
  4. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    จากข่าว >> " .. คาดว่าภายในปี 2573 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 นิ้ว และเพิ่มเป็น 1 ฟุตในทศวรรษถัดไป .. "

    ย้ำชัดๆว่า ...

    อีก 17 ปี ( พศ. 2573 ) ระดับน้ำทะเลปานกลางจะสูงขึ้น 15 ซ.ม.
    และอีก 10 ปีถัดไป ( พศ.2583 ) ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอีก 15 ซ.ม


    .
     
  5. A-KiT

    A-KiT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +610
    ปีนี้ฝกตกหนักมากทำให้น้ำท่วมฉับพลันหลายประเ่ทศแล้วเช่น อินเดีย จีน แคนนาดา
    ส่วนไทยต้องรอลุ้นช่วงน้ำเหนือไหลบ่าน้ำทะเลหนุนกันอีกที
     
  6. Revealed

    Revealed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +92
    ดูสารคดีของ BBC: Earth Under Water

    จำไม่ได้นะว่า สูงขึ้นปีละกี่นิ้ว แต่น่าจะประมาณ 2-3 ปี สูงขึ้น 1 ฟุต มั้งนะ...

    อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งที่ขั้วโลก ไม่ได้ละลายแบบอัตราคงที่ แต่ละลายแบบอัตราเร่ง

    หมายความว่า ทุกๆปี อัตราการละลายของน้ำแข็ง จะสูงขึ้นเสมอ

    ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ไม่ใช่เพราะน้ำแข็งละลายอย่างเดียว...

    แต่พวกเราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลก เลยเป็นตัวเร่งให้น้ำแข็งที่ขั้วโลก ละลายเร็วขึ้น

    พอน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายมากๆเข้า มันจะเริ่มมีกระแสน้ำเย็นไหลเข้ามหาสมุทรแปซิฟิก แล้วมันจะไปหักเหกระแสน้ำอุ่นที่มีอยู่เดิม ทำให้สัตว์ทะเลหลงทางและตายกันเป็นฝูง

    และจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ จะก่อให้เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง

    แรกๆมันจะค่อยเป็นค่อยไป แต่จะเห็นภาพชัดเจนในปี ค.ศ. 2200 มนุษย์ต้องอพยพ เพราะจะมีคนตายมากกว่าครึ่งโลก

    ประชากรโลกจะทะลุ 10,000 ล้านคน (ปัจจุบันนี้ 7,000 ล้านคน)

    ธรรมชาติจะขาดสมดุล เพราะทรัพยากรธรรมชาติจะไม่เพียงพอต่อการบริโภคของจำนวนประชากรมนุษย์ และเราอาจต้องมีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากขึ้น และนั่นก็จะเป็นการเร่งให้โลกร้อนขึ้น น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น

    พวกเราโชคดีนะ เราเกิดในยุคที่.. มีแต่ ใช้ ใช้ ใช้

    แต่คนที่จะรับกรรมคือ ลูก หลาน เหลน โหลน ของเรา ในอนาคต

    (แต่เราคงไม่แต่งงานอ่ะ --')
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2013
  7. hanky

    hanky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +176
    น้ำทะเลสูงขึ้น แผ่นดินกลับทรุดลง ทำให้จมเร็วขึ้นสองเด้ง
     
  8. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    ผลวิจัยชี้สายเกินไปที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดคลื่นความร้อนสูง

    By Digital Media | 15 ส.ค. 2556 11:24

    ปารีส 15 ส.ค.- ผลการวิจัยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะทำให้เกิดคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้นและบ่อยขึ้นในช่วง 30 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นตัวการทำให้โลกร้อนขึ้นในปริมาณเท่าใด แต่เป้าหมายจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนำมาใช้ในปัจจุบันจะเป็นตัวชี้วัดว่าหลังจากปี 2583 รูปแบบการเกิดคลื่นความร้อนเช่นนี้จะคงที่หรือยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก

    ผลการวิจัยในวารสาร Environmental Research Letters ระบุว่า อุณหภูมิสูงและคลื่นความร้อนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถูกระบุว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นราว 0.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ คาดว่าจะเกิดคลื่นความร้อนรุนแรงขึ้นและบ่อยขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิของโลกยังคงสูงขึ้นตลอดช่วงศตวรรษที่ 21

    จากการจำลองสภาพอากาศบนโลก ผลการวิจัยระบุว่า คาดว่าคลื่นความร้อนสูงเช่นที่เคยปกคลุมสหรัฐในปี 2555 และที่เคยปกคลุมออสเตรเลียในปี 2552 จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ราวร้อยละ10 ของพื้นที่ทั้งหมดบนโลก ภายในปี 2563 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขปัจจุบันถึง 2 เท่า และภายในปี 2583 พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า และในช่วงเดียวกันนี้จะเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น ซึ่งก็คือคลื่นความร้อนสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (ไฟฟ์ซิกมา) จะปกคลุมพื้นที่เล็ก ๆ แต่สำคัญราวร้อยละ 3 ของพื้นที่ทั้งหมดบนพื้นผิวโลกภายในปี 2583

    สถาบันฟิสิกส์ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์วารสารดังกล่าวระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 21 การคาดการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนไม่ว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลกในปริมาณเท่าใด แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังปี 2583 จะขึ้นอยู่กับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์ปล่อยในขณะนี้ หากมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณต่ำ จำนวนการเกิดคลื่นความร้อนสูงจะคงที่ภายในปี 2583 แต่หากมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง พื้นที่บนโลกที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนสูงไฟฟ์ซิกมาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ต่อไป ไปจนกว่าคลื่นความร้อนสูงทรีซิกมาจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ร้อยละ 85 บนโลกภายในปี 2643 และคลื่นความร้อนสูงไฟฟ์ซิกมาจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ราวร้อยละ 60 บนโลก

    ปัจจุบันประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติได้ตั้งเป้าจำกัดให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงสุดไม่เกิด 2 องศาเซลเซียส และกำลังเจรจาสนธิสัญญาฉบับใหม่เกี่ยวกับเป้าหมายจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศซึ่งจะมีการลงนามรับรองในปี 2558 และจะมีผลบังคับใช้ในปี 2563 แต่การเจรจาครั้งนี้เป็นไปอย่างล่าช้าและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีทำให้นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดว่าอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น 3 หรือ 4 องศาเซลเซียสภายในสิ้นคริสตศตวรรษที่ 21 -สำนักข่าวไทย

    http://www.mcot.net/site/content?id=520c581b150ba0691a000288#.Ug1r2CQ5PZY
     
  9. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    ผลการศึกษาเรื่องการเคลื่อนตัวทางดิ่งของแผ่นดินและการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยด้วยเทคโนโลยีอวกาศจากโครงการวิจัยร่วมไทย-ยุโรป GEO2TECDI[​IMG] นำมาเพิ่มเติมให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ทราบกันค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG] การนำงานวิจัยนี้มาให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ศึกษา เพื่อตระหนัก ไม่ใช่ตระหนก หาหนทางรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เราในฐานะประชาชน เมื่อรู้แล้วจะทำเช่นไร? ระยะเวลาไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ ดังนั้นเราเตรียมตัว เตรียมพร้อมได้ค่ะ และดิฉันเองก็เชื่อว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง คงมีการเตรียมการณ์การแก้ปัญหาไว้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งค่ะ

    [​IMG] เผื่อว่าในรูปที่วางไว้ข้างบนนั้น อาจไม่ชัด ก็เลยนำข้อความจากบทคัดย่องานวิจัยข้างบนนี้มาวางเพิ่มเติมไว้ให้ข้อความเหมือนกับในรูปข้างบนค่ะ และวาง pdf ไฟล์ เพิ่มเติมไว้ให้ข้างล่างค่ะ ศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมชนม์ สถิระพจน์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2556 ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย โดยมีผลงานเด่นประยุกต์ใช้จีพีเอส ศึกษาปัญหาแผ่นดินทรุด-น้ำทะเลหนุน กทม. (ข่าวที่ท่านได้รางวัลค่ะ วิศวะจุฬาฯคว้านักวิจัยดีเด่นแห่งชาติใช้จีพีเอสศึกษาการทรุดตัวของกทม. | เดลินิวส์) ต้องขอขอบคุณท่านและทีมงาน ที่มีงานวิจัยดีๆ มาให้พวกเราได้ทราบกันค่ะ

    [​IMG] การเปลี่ยนแปลงของโลกเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกทางดิ่งอันเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวสุมาตรา-อันดามัน การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำาทะเลในอ่าวไทย และการทรุดตัวของชั้นดิน/ทรายบริเวณกรุงเทพมหานคร ตามลําดับ ผลที่ได้จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า อัตราการเคลื่อนตัวทางดิ่งทั้ง 3 ส่วนที่กล่าวมาในข้างต้นมีความสอดคล้องกันและส่งผลทางลบต่อประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่ บริเวณกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลแถบอ่าวไทย

    [​IMG] เทคโนโลยี GPS ชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 5 ปีหลังเหตุแผ่นดินไหวสุมาตรา-อันดามัน พื้นที่บริเวณประเทศไทยมีการลดระดับของแผ่นเปลือกโลกในอัตรา 10 ม.ม.ต่อปี ในขณะที่เทคโนโลยีดาวเทียมวัดระดับน้ำทะเลบ่งชี้ว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยอยู่ที่ 5 ม.ม.ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของโลกประมาณ 2 เท่า

    [​IMG] และเทคโนโลยีดาวเทียมเรดาร์แสดงค่า การทรุดตัวของผิวดินในบริเวณกรุงเทพมหานครที่พบว่า ในหลายบริเวณมีอัตราที่สูงกว่า 15 ม.ม.ต่อปี ถ้าสมมุติฐานที่ว่าอัตราทั้งสามยังเป็นแบบเชิงเส้นนั้นเป็นจริง เมื่อรวมอัตราทั้งสามเข้าด้วยกัน ก็จะพบว่า ระดับของผิวดิน และระดับน้ำทะเลเฉลี่ยนั้น ขยับเข้าใกล้กัน ปีละประมาณ 30 ม.ม. และหากพิจารณาค่าระดับของพื้นผิวดินในบริเวณกรุงเทพมหานครในปัจจุบันซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ําทะเลเฉลี่ยประมาณ 80-100 เซนติเมตร

    [​IMG] ก็จะเห็นได้ว่า ในระยะเวลาภายใน 25 ปี พื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่จะอยู่ระดับเดียวกันกับระดับน้ำทะเล หรือสามารถกล่าวสั้นๆ ได้ว่ากรุงเทพกําลังจมลง ซึ่งปรากฎการณ์ ดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างมากมายมหาศาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2013
  10. ไทร

    ไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +771
    ผมหาไฟล์ pdf ไม่เจอ เลยลองค้นใน google ดูและนำมาแนบไว้ด้านล่างนี้นะครับ ขอบคุณที่นำมาให้่อ่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    [​IMG] ขอบคุณมากค่ะ คุณไทร เมื่อวานตอนวางข้อมูล เสร็จแล้ว ยังกลับมา check ดูความเรียบร้อยของการ post นั้น ตัว pdf ไฟล์ ก็ยังอยู่ค่ะ วันนี้ เข้ามาไหงหายไปได้ เกิดอาการงงเล็กน้อย.... สงสัยว่าตัวเองคงจะตาลายค่ะ.... [​IMG] อย่างไรแล้ว ต้องขอบคุณ คุณไทร มากๆ อีกครั้งค่ะ
     
  12. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    แต่ละท่านข้อมูลปึ๊กมาก ผมละอายตัวเองจริงๆที่นำเรื่องขำขันมาเล่าเอามันส์ อิอิ catt15
     
  13. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    นอกจาก กรุงเทพฯ แล้ว ยังมีเมืองใดในโลก ที่กำลังจะจมในอนาคต

    ขอขอบคุณ นิตยสาร ต่วย'ตูน ที่นำเรื่องดีดี น่าสนใจ ให้ความรู้ มาให้พวกเราได้ศึกษากันค่ะ [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ไปดูบทความนี้ ต้นฉบับได้ที่ ���µٹ�� [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2013
  14. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    คลื่นความร้อนถล่มตต.ญี่ปุ่นอุณหภูมิพุ่งทำลายสถิติ

    วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2556 เวลา 13:11 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ก.ย. อ้างอิงข้อมูลจากรายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นที่ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในฝั่งตะวันตกของประเทศระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.ปีนี้ สูงกว่ามาตรฐาน 1.2 องศาเซลเซียส โดยสามารถวัดอุณหภูมิสูงสุดได้ที่เมืองโคชิ เมืองเอกของจังหวัดโกจิ บนเกาะชิโกกุ ทางตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งสูงถึง 41 องศาเซลเซียส เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 6 ปี

    อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดยามากูชิ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู กลับต้องเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก สามารถวัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อชั่วโมงในช่วงเดือน ก.ค. ได้สูงถึง 14.3 เซนติเมตร

    ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศร้อนจัดทั่วประเทศอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 87 ศพ และมีผู้ต้องเข้าไปรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วกว่า 54,000 คน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค.เป็นต้นมา

    คลื่นความร้อนถล่มตต.ญี่ปุ่นอุณหภูมิพุ่งทำลายสถิติ | เดลินิวส์
     
  15. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    ฤดูหนาวนิวซีแลนด์ปีนี้มีอากาศอุ่นที่สุดในรอบ 100 ปี

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    3 กันยายน 2556 18:19 น.

    รายงานข่าวจากกรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ แจ้งวันนี้ว่า ฤดูหนาวในนิวซีแลนด์มีอากาศอุ่นมากที่สุดในรอบกว่า 100 ปี จากเดิมที่ความหนาวเย็นในช่วงดังกล่าว อุณหภูมิจะคล้ายคลึงกับทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกเหนือ

    สถาบันวิจัยสภาพอากาศและน้ำของนิวซีแลนด์ รายงานว่า อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั่วประเทศในฤดูหนาวนี้เท่ากับ 9.5 องศาเซลเซียส มากกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวทั่วไปอยู่ 1.2 องศาเซลเซียส และมากกว่าอุณหภูมิสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกมาในปี 2527 อยู่ที่ 0.3 องศาเซลเซียส

    Manager Online - Ĵ
     
  16. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ข้อมูล ณ วันที่ 4 กย. 2013 ปกติน้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะลดลงต่ำสุดช่วงกลางเดือน กย. ของทุกปี แต่ดูแนวโน้มแล้ว ปี 2013 ก็ยังดีกว่า หลายๆปี ที่ผ่านมา น่าจะยังมีพื้นที่น้ำแข็งเหลือ 5 ล้าน ตร.กม. นะ

    [​IMG]


    เทรนด์ระยะยาว ตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา จนถึง กค. 2013
    ค่าเฉลี่ย ลดลงจากประมาณ 25 ล้าน ตร.กม. เหลือประมาณ 23 ล้าน ตร.กม.


    [​IMG]

    .
     
  17. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,856
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ขออนุญาติด้วยนะ เพราะถือว่าท่านนี้กล้าคิดนะ
     
  18. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    [​IMG]

    ความคิดของท่าน ironman จะเป็นจริงได้ ตัวแปรคืออุณหภูมิของโลกทั้งใบโลก จะมีลักษณะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกันครับ

    ทะเลน้ำแข็งอยู่ขั้วโลกเหนือและใต้ แต่คนที่โดนคลื่นรังสีความร้อนตรงๆคือ แถบเส้นศูนย์สูตร หรือ ช่วงหน้าร้อนของแต่ละพื้นที่ จะรอให้น้ำแข็งละลายหมด ต้องถามว่า ตอนนั้น อุณหภูมิอากาศโลกอาจจะขึ้นไปที่ 70-80 องศาC แล้วคนเราจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไงครับ ???

    แต่ความจริงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นครับ ดูจาดกราฟแนวโน้ม 35 ปี ก็บอกได้ว่า มันค่อยเป็นค่อยไป ครับ

    .

    .
     
  19. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    รายงาน “UN” ชี้ภาวะโลกร้อน “หยุดพัก” อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเชื่องช้ากว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาด

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000120626
     
  20. neoReloaded

    neoReloaded เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +675

แชร์หน้านี้

Loading...