สังข์ปู่ไวผู้ดำรงชีพสุดประหยัดยากที่ใครจะเลียนแบบ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย พญายา, 15 กันยายน 2013.

  1. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    สังข์ คือคำเรียกนำหน้าชื่อของคนที่ตายไปแล้ว ในภาคอิสานบางพื้นที่ยังมีคนใช้เรียกอยู่
    [​IMG][​IMG]คลองน้ำใกล้ที่นาของปู่ไวในสภาพปัจจุบัน
    เรื่องของสังข์ปู่ไวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง โดยคนแก่มักจะพูดเปรียบเปรยให้ลูกหลานได้ยินเสมอแฝงด้วยความขบขัน แต่ในปัจจุบันนี้ผู้คนสะดวกสบายขึ้นมาก รู้จักทำการค้าขาย มีหลากหลายอาชีพ จึงไม่มีใครพูดถึงเท่าไหร่นัก ลองมาศึกษากันดูว่าเรื่องของปู่ไวนี้จะให้ข้อคิดกับคนรุ่นใหม่ได้หรือไม่
    คำสอนของปู่ไว ”ไปอย่าไปเปล่า กลับเข้าอย่าดาย”
    -ปู่ไวนั้นเมื่อจะไปถ่ายทุกข์ในตอนเช้าที่ทุ่งนา แกจะต้องถือก้อนดินไปด้วยเมื่อเจอหลุมที่ควายนอนเล่นก็จะเอาดินโยนลงไปเมื่อดินเต็มก็จะสามารถปลูกข้าวได้ เมื่อกลับเข้าบ้านทุกครั้งต้องเอาไม้ฟืนกลับมาด้วย มีชาวบ้านผ่านไปเจอใต้เล้าข้าวของปู่ไวจะไม่พร่องท่อนฟืนเลยและถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนชาวบ้านคนอื่นๆนั้นเมื่อฟืนหมดจึงจะออกไปหาตัดมาใช้เป็นครั้งคราวไป
    -เคยมีคนไปเจอปู่ไวใช้กาบต้นหมากลากเอาดินไปใส่หนองที่ควายนอนเล่นหลุมกว้างพอสมควร นั้นทุกวันจนเต็ม สามารถปลูกข้าวได้
    ประหยัดที่สุดคือเรื่องอาหาร การกิน
    -ปู่ไวกินมะเขือพวงลูกละคำ
    โดยบอกลูกหลานว่า “มันจะหมดไปหน้า”(อนาคตอาจสูญพันธ์) จึงกินลูกละหนึ่งคำข้าวคำ ส่วนคนอื่นๆนั้นจะเด็ดใส่ปากหลายๆลูก ยิ่งเวลาได้น้ำพริกอร่อยๆ
    [​IMG]-ข้อมูลเพิ่มเติมจากallknowledges.tripod.com/devilfig.htm
    มะเขือพวงเป็นพืชที่มีเส้นใยมากที่สุด เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด จนได้รับสมญานามเป็น "ราชาแห่งผักพื้นบ้าน ในเรื่องของสารเส้นใย" โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3 เท่า และมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า เส้นใยในมะเขือพวง มีชื่อเรียกว่า "เพกติน" ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้
    สารนี้ จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้

    [​IMG][​IMG]รูปหมกปูที่ใส่ข้าวเบือ/เบีย
    -กินหมกปลาเฉพาะข้าวเบือก็อิ่ม
    ปู่ไวเอาข้าวเหนียวปั้นเป็นคำกวาดกินเฉพาะข้าวเบือ ส่วนเนื้อปลานั้นเอาไว้ให้ลูกเมียกิน
    ข้าวเบือ/ข้าวเบียก็คือข้าวสารเหนียวแช่น้ำเพื่อนำมาทำส่วนผสมในการทำหมก/นึ่งปู หมก/นึ่งปลา
    -แกงปู แกงปลา ใส่หม้อละตัวก็อิ่ม
    เป็นนิสัยส่วนตัวที่ประหยัด ของปู่ไว เวลาทำแกงกินจะใส่ผักเยอะ กินแล้วก็อิ่ม ส่วนพวกปูหรือปลานั้นใส่ลงไปตัวเดียวก็ได้ ถ้าคนอื่นไปกินด้วยอาจจะหาเนื้อปูหรือเนื้อปลาไม่เจอ
    -หม่ำเนื้อท่อนเดียวกินเป็นเดือนก็ไม่หมด
    ปู่ไวได้หม่ำเนื้อมากจากญาติ มาท่อนหนึ่งยาวขนาดหนึ่งคืบ ผ่านไปเป็นเดือน ญาติได้มาเยี่ยมปู่ไวได้ชวนร่วมวงกินข้าว ญาติก็ตกใจที่หม่ำท่อนนั้นยังห้อยอยู่ มีร่องรอยกินไปครึ่งเดียว ญาติถามว่ากินยังไง? เพราะที่บ้านนั้นหมดตั้งนานแล้ว ปู่ไวจึงเดินไปเอาเล็บมือหยิกหม่ำเนื้อออกมานิดหนึ่งแล้วเอามาละลายในน้ำแกงกินแค่นี้แกก็อิ่ม บางครั้งก็เอามาละลายในน้ำปลาร้าต้มสุกกินกับข้าวเหนียว ปู่ไวพูดกับญาติ...."กินแบบนี้หละพ่อลุง"..... แม้แต่เครื่องปรุงรส ปู่ไวจะเอาใส่แต่พอดี ไม่มีน้ำปลา ก็เอาน้ำปลาร้า หรือเอาน้ำเกลือ พริกก็เอาพันธ์ที่ให้รสเผ็ดจะได้ไม่ต้องใส่ลงไปมาก เพราะว่าโดยมากทำกินแต่ในครัวเรือนของตนไม่ได้ทำเพื่อการค้า มุ่งหากำไร
    หม่ำคือการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง โดยเอาเนื้อสัตว์ชนิดนั้นๆมาสับผสมกระเทียม ยัดใส่ในไส้ผูกหัวท้ายแล้วแขวนไว้ให้แห้ง
    ประหยัดในการนุ่งห่ม
    -เสื้อผ้าของปู่ไวต้องย้อมมะเกลือ เพื่อดุไม่เปื้อนง่านและทนทาน ใช้ได้นานปี เวลาไปวัด ถ้าปู่ไวจะนั่งเล่นอยู่ด้านนอกศาลา แกจะเอาก้นนั่งลงที่ไม้แผ่นเพราะกลัวผ้าโสร่งจะขาดง่าย เด็กสมัยนั้นจะชวน
    กันว่าอยากดูลูกอัณฑะ(หำ)ปู่ไวไหม ไปส่องดูด้านล่างที่แกนั่งอยู่สิ 55 รับรองว่าเจอห้อยต่องแต่ง 55
    -ปู่ไวกำลังปิดคันนาอยู่จึงไม่สวมเสื้อผ้าเพราะเสื้อผ้าจะเก่าเมื่อโดนโคลนตมและเหงื่อไคร พอดีหลวงพ่อกำลังเดินผ่าน มาทางนั้น ปู่ไวรีบแอบกับคันนาตรงหน้า แล้วพนมมือบอกหลวงพ่อ “นิมนต์ทางอื่นก่อนเถิดขอรับ”(กระผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้า)
    มัดข้าวต้องลากแผ่นหนังไปด้วย
    เวลามัดข้าวที่เกี่ยวไว้เมล็ดข้าวจะร่วง ปู่ไวจึงต้องเอาแผ่นหนังวัวไปรองด้านล่างเมื่อเมล็ดข้าวร่วงลงที่แผ่นหนังก็เทเมล็ดข้าวออกจากแผ่นหนังนั้น รวบรวมไว้ไม่ให้เมล็ดข้าวตกหล่นทิ้งไปเหมือนที่นาของคนอื่นๆ
    ทั้งหมดที่ถ่ายทอดมานี้ท่านผู้อ่านคงจะได้รับความบันเทิงทางธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2013
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    เป็นบทความที่ครับ ขอตอบแทนในความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ของคุณพญายา ด้วย 1 like
     
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อะไรคือข้าวเบือหรือคะ
     
  4. charoenrat

    charoenrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +108
    ข้าวเบือคือ ข้าวสารที่เป็นข้าวเหนียวเอาไปแช่น้ำแล้วเอามาโขลกหยาบแล้วนำไปประกอบอาหาร(จริงๆก็คือแป้งข้าวเหนียวที่ผสมลงในอาหารนั้นๆ)ให้มีความเหนียวข้นของอาหาร
     
  5. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    เป็นบทความที่ครับ ขอตอบแทนในความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ของคุณพญายา ด้วย 1 like
    อะไรคือข้าวเบือหรือคะ
    ขอบพระคุณ ที่สมาชิกสอบถามมาและที่ได้ช่วยอธิบาย หยวกกล้วยและก้านอ่อนของใบกล้วยก็เป็นวัตถุดิบที่ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัส สมัยก่อนคนเลี้ยงควายเอายางสติ๊กยิงได้นกเหลืองตัวเดียว(ไม่แน่ใจว่านกขมิ้นรึเปล่า)ก็เอามาทำแกงอ่อมหรือหมกกินเป็นอาหารเย็นทั้งครอบครัวได้
    [​IMG]
     
  6. ยุบล

    ยุบล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +167
    เง้ออ เห็นหมกปูแล้วน้ำลายไหลย้อยเลย คิดฮอดตอนเด็กน้อยแย่งจ้ำมันปูกับน้องๆ แหะๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...