ผมเข้าใจถูกไหม ตั้งแต่สวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ต้องเป็นพระอริยเจ้าหรือได้ฌาณ4

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 11 ตุลาคม 2013.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมเข้าใจถูกไหมครับ สวรรค์ชั้นดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตสวัสดี ผมหาอ่านในประวัติแต่ละท่านเช่น นางวิสาขา อนาถบิณฑิกะ นางสิริมา เป็นต้นครับ ทั้งหมดนี้บรรลุโสดาบันหมดเลยครับ

    ขอบคุณมากนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2013
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    เจ้าหนูจำไม ถามแต่ละเรื่อง เพลียเลย

    เรื่องของมหายาน มีพระเถระผู้หนึ่งจะเดินทางไปทำธุระอีกวัดหนึ่ง จึงให้สามเณรลูกศิษย์เก็บสัมภาระที่จำเป็นของพระ แบกติดสอยห้อยตามไปด้วย เมื่อเดิมถึงกลางทางสามเณรคนนั้น ก็เกิดนึกถึงพระโพธิสัตว์ ที่สร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า
    สามเณรเลยคิดยากจะเป็นบ้าง เพื่อจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ขณะที่เดินแบกสำภารอยู่ พระเถระจึงหยุดรอแล้วกล่าวกับสามเณรว่า เอาสัมภาระมาให้อาจารย์ๆ จะถือและแบกให้เอง แล้วให้สามเณรเดินนำหน้า ในขณะที่สามเณรเดินนำหน้าอย่างสบายอยู่ ก็เกิดนึกถึงว่า
    การสร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้านั้นต้องใช้เวลานานแสนนาน และต้องทุกข์ลำบากอีกมากมาย จึงคิดว่าอย่าไปหวังเป็นพระพุทธเจ้าเลยเพราะยากเกินไป พอสามเณรคิดอย่างนี้จบ ก็ได้ยินพระเถระเรียกให้หยุด เมื่อพระเถระเดินไปถึงสามเณร ก็บอกให้สามเณรแบกสัมภาระและให้เดินตามหลังท่านเหมือนเดิม สามเณรเกิดสงสัยจึงถามพระเถระว่า "ทำไม่เมื่อครู่ท่านอาจารย์หยุดรอกระผม แล้วขอเอาสัมภาระไปแบกเอง แล้วให้กระผมเดินนำหน้า แต่พอตอนนี้กลับเรียกให้กระผมหยุด
    เอาสัมภาระให้ผมแบก และยังสั่งให้เดินตามหลัง " พระเถระจึงบอกให้ทราบว่า "เมื่อตอนแรกเธอคิดปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า อาจารย์จึงขอแบกสัมภาระแทนเธอ และให้เธอเดินนำหน้า เพราะพระโพธิสัตว์นั้นต้องแบกภาระอันต้องสร้างบารมีอีกมากมาย
    อาจารย์ไม่ได้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าจึงต้องช่วยแบกภาระเล็กน้อยๆ ให้แก่ผู้ที่จะไปเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง และพระพุทธเจ้าต้องนำหน้าพระสาวก อาจารย์จึงให้เธอเดินนำหน้า แต่เมื่อเธอคิดล้มเลิกที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
    เธอก็ไม่ได้มีบารมีอะไรเหนือกว่าอาจารย์ ซ้ำยังเป็นสามเณรธรรมดาคนหนึ่ง จึงต้องแบกสัมภาระเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปและต้องเดินตามหลังพระผู้ใหญ่" เมื่อสามเณรได้ฟังดังนี้เกิดมีกำลังใจกล้า จึงพูดกับอาจารย์ว่า
    "อย่างนั้นกระผมปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าดีกว่า และกระผมขอแบกสัมภาระเอง แล้วขอเดินตามหลังอาจารย์ เพราะกระผมเป็นลูกศิษย์ จะตีตนเสมออาจารย์นั้นไม่ได้" แล้วพระเถระกับสามเณรก็เดินทางกันต่อ

    ชั้นดุสิตนี้เป็นชั้นของพระโพธิสัตว์ ถ้าคุณ Sir-Pai ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า แม้ไม่ได้พุทธพยากรณ์ แม้ไม่ได้ณาน 4 ก็ไปอยู่ได้
     
  3. อิ๊ด

    อิ๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +551
    ไม่เสมอไป พญามารยังอยู่สวรรค์ชั้น 6 ได้เลยครับ
     
  4. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ไม่จำเป็นหรอกครับ ถ้าบุญมากพอก็ไปสวรรค์ชั้นนั้นๆได้ ปกติถ้าได้ทำบุญใหญ่ๆไว้เช่นเป็นประธานทอดกฐิน บุญจะทำให้วนเวียนเกิดในสวรรค์ทุกชั้น เวียนเกิดเวียนตายอยู่ในสวรรค์ชั้นๆต่างๆ จากชั้นล่างไปถึงชั้นสูงสุด แล้ววนลงวนขึ้นแบบนี้หลายร้อยหลายพันรอบจนกว่าจะหมดกำลังบุญ แต่ว่าธรรมที่ทำให้เป็นพระัอริยเจ้าเป็นมหากุศลมีกำลังแรงมากกว่าการทำบุญโดยทั่วไปอยุ่แล้ว และพระอริยเจ้าจะมีสติตอนตายจึงเลือกไปเกิดในสววรค์ได้ทุกชั้นตามใจปรารถนา ส่วนใหญ่จะไปเลือกเกิดที่ดุสิตเพราะมีพระโพธิสัตว์อยุ่เยอะ
    แต่ถ้าได้ฌาณแล้วไม่เสื่อมขณะตายก็จะไปพรหมโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2013
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ตามอากู๋ pongio มาส่งเสริมการไปสวรรค์ของท่านเทพSir Pai...น้องไผ่ไม่ต้องเป็นพระโพธิสัตว์ก็ไปสถิตย์ที่ดุสิตบุรีได้ดังเนื้อความตามพระพุทธดำรัสต่อไปนี้...

    ..

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

    ทานสูตร


    ����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� ��

    ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่มุ่งการสั่งสมให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปแล้วจักได้เสวยผลทานนี้ แต่ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี เขาผู้นั้นให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ฯ

    ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่าทานเป็นการดี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา....

    ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดาปู่ย่าตายายเคยให้เคยทำมา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากิน สมณะและพราหมณ์เหล่านี้ ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหาไม่สมควร เขาให้ทาน คือ ข้าว
    ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิต...


    ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า
    เราหุงหากินได้ สมณะและพราหมณ์เหล่านี้หุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษีวามกฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามิตรฤาษี ยมทัคคิฤาษี อังคีรสฤาษี ภารทวาชฤาษีวาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชามหายัญ ฉะนั้น เขาให้ทาน คือข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี


    ดูกรสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้ ฯลฯ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน คือ อัฏฐกฤาษี ฯลฯและภคุฤาษี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส เขาให้ทาน คือ ข้าว ฯลฯ ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี



    ขอให้สมปรารถนาครับ
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    การให้ทาน ที่มีเจตนาที่ดีที่แตกต่างกัน ย่อมให้ผลไปเสวยทิพยวิมานที่แตกต่างกัน

    แต่สิ่งที่สอดคล้องกันและสำคัญมากที่สุดคือการทรงอารมณ์จิตให้มีความดีเกิดขึ้นเป็นปกติอย่างนั้นให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแท้จริงแล้วแม้อานิสงค์แห่งทานจะทำให้เราได้ไปเสวยทิพยวิมานตามที่ได้กระทำเหตุไว้แล้วนั้น แต่ทว่าหากภูมิจิตภูมิธรรมของเรายังด้อยอยู่ยังต่ำ การไปเสวยทิพยวิมานก็จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่สามารถเข้ากับผู้อื่นในชั้นเดียวกันได้ เพราะจิตของตนยังบกพร่องในความดี ยังไม่สามารถเข้าใจและทำหน้าที่ที่ดีของตนได้ แม้ทานที่ทำดีงามส่งเราไปทิพยวิมานแล้ว แต่จิตเรายังต่ำอยู่ก็จะกลายเป็นฝืนจิตใจตนเอง จะเกิดการไม่เข้าใจและต่อต้านความคิดอันดีงามของผู้อื่นนั่นเอง อุปมาดั่ง ยาจกโชคดีด้วยบุญเก่าให้ผลกลับกลายเป็นเจ้าเมือง แต่ยาจกไม่ได้ฝึกอบรมปัญญาทางจิตมา เมื่อไปปกครองเมืองก็อยู่อย่างไม่มีความสุข ปกครองผู้อื่นไม่ได้ เข้ากับผู้อื่นไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่สามารถทนอยู่ได้ ย่อมเป็นทุกข์ต่อไปครับ

    ดังนั้นสิ่งสำคัญคือนอกจากทำทานดีงามแล้ว ต้องฝึกอบรมจิตตนให้สูงด้วย เมื่อจิตสูงแล้ว จะไปอยู่ ณทิพยวิมานใด เหล่าทวยเทพก็สาธุการ อนุโมทนาครับ สาธุ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ================

    สิ่งที่กระผมกล่าวมานี้ คือคำสอนของท่านท้าวมหาพรหมปรเมศวรหรือท่านท้าวมหาพรหมเปิดโลก บรมครูฝ่ายเทพพรหมครับ ท่านกล่าวสอนแก่กระผมไว้อย่างนี้ครับ สาธุ
     
  8. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    พยามารที่ท่านพูดถึงน่ะครับ คือนิยตโพธิสัตว์

    ในอดีตชาติเคยได้รับพุทธพยากรณ์จากพระกัสสปพุทธเจ้าว่า จะได้ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ท้าววสวัตตีได้ครองทิพยสมบัติอยู่ที่สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัดดี โดยสวรรค์ชั้นนี้จะมีเทพ และมารอาศัยอยู่ร่วมกัน แต่ทั้งคู่จะไม่มายุ่งกันเลย

    หลังจากสมเด็จพระโคตมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน กำลังทรงค้นพบอริยสัจ 4 และทรงกำลังจะก้าวล่วงจากอุปจารสมาธิไปถึงอัปปนาสมาธิ (ฌาน 1) มารมีความเห็นว่าพระพุทธเจ้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา จะทำให้คนสำเร็จมรรคผลเข้าสู่พระนิพพานกันหมด ไม่เหลือวิญญาณไปขึ้นสวรรค์ จึงต้องยกทัพมากำหราบ[3] แต่ถูกน้ำจากมวยผมของพระแม่ธรณีพัดไป จนในที่สุดมารก็ยอมแพ้ ในภายหลังพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงพยากรณ์เอาไว้ว่ามารตนนี้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้า

    http://th.wikipedia.org/wiki/ท้าววสวัตตี



    เพื่อนรักผิดใจกัน

    เรื่องที่ ๓๕
    ท่านพระยามาราธิราชเวลานี้ท่านไปเกิดเป็นหัวหน้าเทวดาบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน


    "..พระยามารที่เรียกกันว่า พระยามาราธิราช ท่านเป็นหัวหน้าเทวดาสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ชาวสวรรค์เรียกท่านว่า ท้าวมาลัย ความจริงเวลานี้ท่านไม่ได้เป็นมารแล้ว อาตมาเคยพบกับท่าน ท่านคุยสนุกสนาน หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ความเป็นมารของท่านที่จะเป็นศัตรูกับพระพุทธเจ้า ก็เพราะในสมัยตอนที่พระพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมีใหม่ๆ เพื่อปรารถนาพุทธภูมิ ท่านพระยามาราธิราชกับพระพุทธเจ้าเป็นเพื่อนกัน ต่างคนต่างเลี้ยงม้าเหมือนกัน วันหนึ่งก็ไปเกี่ยวหญ้าให้ม้าด้วยกัน ท่านพระยามาราธิราชก็เกี่ยวแยกออกไป ต่างคนต่างเกี่ยวแยกคนละทาง วันนั้นบังเอิญมีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งผ่านมาต้องการหญ้า ก็มายืนที่พระพุทธเจ้าเกี่ยวหญ้า พระพุทธเจ้าถวายหญ้าท่านฟ่อนหนึ่ง แล้วท่านก็เหาะไป ครั้นจะเอาของเพื่อนให้ไปด้วยก็เกรงว่าเพื่อนจะไม่มีความเลื่อมใสจะว่าเอาเลยไม่ให้ไป ตอนเย็นเก็บหญ้ามารวม พระพุทธเจ้าก็บอกกับท่านพระยามาราธิราชว่า วันนี้พระมาบิณฑบาตหญ้าเรา เราเอาของเราให้ไปแต่ว่าของเพื่อนเราไม่ได้ให้ไปเพราะเกรงว่าเพื่อนจะไม่เลื่อมใส เท่านั้นแหละท่านพระยามาราธิราชสมัยเป็นเพื่อนก็เจ็บใจหาว่าพระพุทธเจ้าเอาดีคนเดียว เลยจองล้างไว้ว่าถ้าหากแกจะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อไรก็ตาม หรือก่อนเป็นพระพุทธเจ้าก็ตาม ข้าจะคอยขัดขวางการบำเพ็ญบารมีของแกตลอดไป ทั้งนี้เพราะว่าท่านเองก็ปรารถนาพุทธภูมิเหมือนกัน

    ท่านเล่าให้อาตมาฟังว่าในสมัยที่พระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้า ที่ท่านเคยขัดขวางไม่ใช่อะไรเป็นความโง่ของท่านเอง ท่านคิดเกรงว่าพระพุทธเจ้าจะเทศน์สอนคนไปพระนิพพานเสียหมด แล้วเวลาท่านเป็นพระพุทธเจ้าจะไม่มีคนรับฟังการเทศน์ ท่านบอกว่าความจริงผมไม่น่าจะโง่แบบนั้น ที่โง่ก็เป็นเพราะกรรมที่จองล้างจองผลาญกันไว้ รู้สึกเสียใจเหมือนกันว่าไม่น่าจะทำ ต่อมาเมื่อ พระอุปคุต ทรมานเสียจนหมดฤทธิ์เพราะเป็นคู่ปรับกัน จึงมาคิดได้ว่าเราโง่เกินไป

    เป็นอันว่า ท่านพระยามาราธิราช บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เวลานี้ไม่ต้องกลัวท่าน ควรจะดีใจถ้าท่านมาหาเมื่อไรมีความสุขเมื่อนั้น และก็เลิกเรียกชื่อพระยามาราธิราชได้แล้ว เรียกว่า ท่านท้าวมาลัย ก็แล้วกัน ท่านเป็นพระโพธิสัตว์.."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2013
  9. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    ชั้น ยามา นี่พวกชอบสวดมนต์บูชาพระ อานิสงค์ ตายแล้วจะได้มาเกิดชั้นนี้

    ชั้น ดุสิต ชั้นนี้เป็นเขตพิเศษ สงวนให้เฉพาะพระโพธิสัตว์ปรมัตถบารมีและบริวารท่าน พุทธบิดา พุทธมารดา และผู้ที่ได้พระอริยเจ้าเท่านั้นถึงอยู่ชั้นนี้ได้คับ นอกนั้นไม่มีสิทธิ

    ชั้นนิมานรดี พวกนี้สมัยเป็นมนุษยต้องได้อภิญญา 5 มาก่อนแต่ตอนตายไม่ได้เข้าฌานตาย จะได้มาเกิดชึั้นนี้คับ ซึ่งเทวดาชั้นนี้จะมีฤทธิ์มาก สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆตามปรารถนา

    ประนิมมิตวสวัตตี ชั้นนี้ มีสองเขตคือเขต เทวดามารและเขตเทวดาปกติ อาศัยตอนเป็นมนมนุษย์ได้สร้างกุศลใหญ่เจริญกรรมฐานได้ ฌานและอภิญญา แต่ตอนตายไม่ได้เข้าสมาธิตายเลยต้องมาเกิดชั้นนี้ ส่วนพวกที่มาเป็นมารเพราะอาศัยจิตเจือด้วยมิจฉาทิฐิ จึงต้องมาเกิดเป็นเทวบุตรมารอยู่ชั้นนี้ ไม่แปลกใจเลยใช่มั้ยคับว่ามารทำไมมีฤทธิ์มาก ดพราะบุญท่านมากแต่จิตเจือด้วยมิจฉาทิฐินี้เอง

    ส่วนพวกที่เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเกิดเป้นพรหมทั้งหมด แบ่งตามกำลังฌาน 1,2,3,4,5,6,7,8 ส่วนท่านที่ได้เป็นพระอนาคามี จะอยู่เขตพรหม 12-16 คับ

    โมทนา
     
  10. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ท่าน pongio ช่างคมคายยิ่งนัก

    Sir-Pai นับถือๆ
     
  11. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
  12. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    อนุโมทนา ท่านไผ่เชิญเดินนำหน้า ข้าน้อยขอเดินตามหลังท่าน
     
  13. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    คนเก่งมักถ่อมตนอยู่เรื่อยไป แต่ภายในจิตใจล้ำฟ้านัก

    ------------------------------------------------------------------------
    กระผมคงทำบุญถึงอภิญญา 5 มิได้หรอก ขอแค่ไม่ตกนรก และหวังสุดก็อยู่บนชั้นยามาก็เพียงพอแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมก็ชอบสวดมนต์นะแต่ไม่บ่อย แถมมีคนเคยบอกว่าสวรรค์ ชั้นยามา เทวดา-นางฟ้าชอบสวดมนต์กัน ผมยิ่งเล็งชั้นนี้ไว้อยู่ อิอิ

    เวลามันก็มากดี ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำไปของเทวดา และมากไปในภูมินั้น

    อยากทราบว่าเทวดา-นางฟ้าเขาชอบสวดมนต์กันจริงหรอครับที่ชั้นยามาภูมินี้
    ชั้นนี้ผมประทับใจพิลึกๆ ชอบมากอ่ะครับ อยากจะเกิดที่นี่ซัก 5 รอบ อิอิ
     
  15. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ดูคุณ sir-pai อยากไปเกิดบนสวรรค์มากเลยนะครับ แต่ผมเองไม่อยากไปเกิดเลยครับจะชั้นไหนก็ตามเพราะว่า หลังจากสวรรค์แล้วไงต่อครับ เผลอๆ ไปนรก เดี๋ยวไปๆ มาๆ ก็ต้องลงมาเป็นคนอีก เกิดเป็นคนก็มีแต่ความทุกข์ เผลอๆ ตอนมาเกิดเป็นคนดันไม่มีพุทธศาสนา ชาตินั้นดันพลาดไม่รู้เรื่องดีชั่วไปทำบาปทำกรรม ไปตกนรกนานแสนนาน มันจะคุ้มไหมครับนั่น
     
  16. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    น่าจะตั้งเป้าว่าปิดนรกมากกว่านะครับ คืออย่างน้อยได้เป็นพระโสดาบัน ถึงยังไม่นิพพานก็ตาม
     
  17. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมก็หวังจะปิดนรกแหละครับ แต่ผมทำไม่ได้ อยากทำมากด้วยครับท่าน นี่พูดจริงนะเนี่ย แต่ผมทำไม่ได้ผม ทำบุญๆๆๆๆ ถือศีลๆๆๆ และภาวนาบ้างเป็นบางคราครับ

    พูดไปผมก็พยายามตัดสังโยชน์แล้ว เหลือแค่สังโยชน์ที่ถือศีลแหละครับ ผมชอบเผลอโกหกแบบว่าล้อเพื่อนเล่นครับ และสักกายทิฎฐิ ผมยังมีความห่วงหล่อ ห่วงเครื่องเทคโนโลยีอยู่ครับ พยายามวิปัสสนาแล้วว่ายังไงมันก็แก่ เปื่อยไป แต่มันก็ไม่ขาด หรือขาดแล้วแต่แค่แว๊บเดียวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2013
  18. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เพลาๆ การสงสัยลง แล้วฝึกเจริญสติให้อยู่กับกายมากๆ
    อาการที่เคยเป็น จะหายสนิทได้

    แต่หากไปให้อาหารความคิดฟุ้งซ่านมากๆ มันจะกลับมากำเริบได้นะ
     
  19. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ท่านถิ่นธรรม

    นางมัลลิกา ไม่ได้บรรลุโสดาบันถึงได้อยู่ชั้นดุสิต ที่แท้นางเป็นคนมีบุญ ไม่เกี่ยวกับพระอริยเจ้าเสมอไปนั่นเอง ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...