ข้อความจากต่างมิติ-ชุดพิเศษสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาด้านสัมพันธภาพรักอยู่

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ข้อความจากต่างมิติชุดนี้..ก็..ตามชื่อกระทู้เลยครับ
จัดให้สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาด้านสัมพันธภาพ "รัก" โดยเฉพาะ
เพราะว่าในระหว่างกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้
ปัญหาด้านสัมพันธภาพกับคนรอบข้าง จะเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกของเรา และเขา/เธอ
อาจจะไม่เท่ากันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น ความคิด ความอ่าน ความเข้าใจ
ความสนใจ และ ฯลฯ ของเรากับ เขา/เธอ ก็เลยจะค่อยๆห่างไกลกัน
มากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย..

ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาครับ ต่างมิติทั้งหลาย
พูดแบบนี้ตรงกันทั้งหมด 100% เลยครับ
ดังนั้น สิ่งที่ตามมาก็จะเป็น การเลิกรากัน การห่างเหินกัน
และความเจ็บ ปวด รวดร้าวใจ ฯลฯ สารพัด แล้วแต่กรณี ครับ

และในช่วงเวลาแบบนี้ ถ้าใครไม่เคยประสบจะไม่รู้หรอก
ว่ามันทรมานมากแค่ไหน..จนบางครั้ง สำหรับบางคน
อาจจะแทยไม่อยากทำอะไรเลยด้วยซ้ำไป

ดังนั้นวันๆก็เลยอาจจะเที่ยวเปิดหาแต่อะไร
ที่จะเป็นแรงบันดาลใจในด้านบวกให้กับตัวเองอ่านอยู่ก็ได้

ดังนั้น ผมก็เลยจะจัดกระทู้นี้ให้หนะนะครับ
แต่ว่าผมจะค่อยๆทะยอยโพสต์ไปหนะนะครับ
จะไม่เหมือนกระทู้อื่น ที่จะโพสต์ให้จบรวดเดียวเลย
เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา

แต่ในกรณีของกระทู้นี้ จะพิเศษกว่าเพื่อน
เพราะว่าผมจะค่อยๆโพสต์ไปเรื่อยๆ
เพราะว่าเรื่องแบบนี้ โพสต์รวดเดียวเลยไม่ได้ครับ
เพราะจะมันจะไม่ค่อยได้อะไร หรือมันจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
สู้ค่อยๆ "เยียวยา" ไปเรื่อยๆไม่ได้หนะครับ

ปล.โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเช่นเคยนะครับ
...............................................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่: 17 ตุลาคม 2013

ที่มา: Daily Message ~ Thursday October 17, 2013 | Trinity Esoterics


ที่รักทั้งหลาย มันเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกคุณ
ที่จะต้อง “รัก” เพราะว่าในฐานะที่พวกคุณ
เป็นส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว
ความรัก จึงเป็นต้นกำเนิดของพวกคุณด้วย
ความรักคือสภาวะที่แท้จริงของพวกคุณเอง

พวกคุณหลายคน เคยถูกคนอื่นทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมาแล้ว
และจึงได้ตัดสินใจที่จะป้องกันตัวเอง
ไม่ให้มีความรักอีกต่อไป ซึ่งการทำเช่นนั้น
ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอยู่

จงรักเถิด!

จงรัก..เพราะว่ามันคือสภาวะตามธรรมชาติของพวกคุณเอง
จงรัก..เพราะว่ามันรู้สึกดีที่จะทำเช่นนั้น


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

แต่ถ้าพวกคุณหลงลืมวิธีการที่จะรักไปแล้ว
หรือหลงลืมความรู้สึกอันยอดเยี่ยมของมันไปเรียบร้อยแล้ว
ก็จงใช้เวลาอยู่กับเด็กทารก หรืออยู่กับสัตว์
หรืออยู่กับผู้คนสักระยะหนึ่ง
แล้วให้ทำความรู้สึกถึงหัวใจของตนเองที่กำลังเปิดอยู่
และพองโตอยู่

ให้ลองสังเกตดูว่า
ในตอนที่พวกคุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักแบบนั้น
พวกคุณรู้สึก มีความสุขอย่างแท้จริงมากเพียงใด
พวกคุณรู้สึก มีชีวิตชีวาและอยู่ในปัจจุบันขณะมากเพียงใด
พวกคุณจะรู้สึกเต็มเปี่ยมสมบูรณ์และมีสุขภาวะที่ดีในทุกๆด้าน

พวกคุณหลายคนเข้าใจไปว่า
ความรักก็คือการได้มีประสบการณ์อันกระชุ่มกระชวย
แห่งการตกหลุมรักใครซักคนในช่วงเวลาสั้นๆ
แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นอันว่าความรักได้ประสบผลสำเร็จลงแล้ว

แต่นี่คือความคิดที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับความรักอย่างหนึ่งหล่ะ!

เพราะว่าความรัก คือสิ่งที่จะทำให้พวกคุณได้แสดงออก
ถึงความสวยงาม, แสงสว่าง, และแก่นแท้ของตัวเอง
และความรักก็คือสิ่งที่จะเปิดประตูให้พวกคุณ
สามารถมีประสบการณ์แห่ง “การได้รักกลับคืนมา”
ของจักรวาลทั้งจักรวาลได้

ดังนั้น จงกลับมามีความรักใหม่อีกครั้งหนึ่งเถิด ที่รักทั้งหลาย
เพราะว่ามันเป็นธาตุแท้อย่างหนึ่ง
ที่มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณมากๆ
มากพอๆกับอากาศที่พวกคุณใช้หายใจเลยทีเดียว

และจงปล่อยให้มัน
เป็นไปตามกระแสการเชื่อมโยงอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาล
ที่ๆพวกคุณจะมอบความรักออกไป และรับเอาความรักกลับมา
และรู้สึกถึงความรัก และเป็นความรัก ในเวลาเดียวกันทั้งหมด

~Archangel Gabriel
..........................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่: 18 ตุลาคม 2013

ที่มา: Daily Message ~ Friday October 18, 2013 | Trinity Esoterics


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

พวกคุณหลายคน ปฏิเสธความรัก เพียงเพราะว่า
พวกคุณเคยเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน
เพราะใครบางคนที่พวกคุณเคยรัก

แต่ที่รักทั้งหลาย พวกคุณไม่เห็นหรือว่า
มันไม่ใช่ความรักเลย ที่เป็นผู้ทำร้ายพวกคุณ
แต่มันคือความ “ไม่รัก” ต่างหากหละ
ที่เป็นผู้ทำร้ายพวกคุณ

แต่ว่าพวกคุณ กลับไปปฏิเสธความรัก
ราวกับว่า มันคือผู้ที่จะต้องรับผิดอย่างนั้นแหละ

ซึ่งการทำแบบนั่นหนะ ก็รั้งแต่จะทำให้พวกคุณ
ตกลงไปอยู่ในสิ่งที่ทำให้พวกคุณเจ็บช้ำน้ำใจ
มาตั้งแต่ต้นมากขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง

พวกคุณเห็นไหม?

เพราะฉะนั้นแล้ว จงอย่าไปมอบพลังอำนาจ
ให้แก่ประสบการณ์เก่า อันเจ็บปวดอันนั้นอีกเลย
เพราะว่ามันจะทำให้พวกคุณ
หลงลืมแก่นแท้ของตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองไป
หรือทำให้พวกคุณ หยุดเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป

เพราะว่าแสงสว่างของพวกคุณ,
ความสวยสดงดงามของพวกคุณ,
แก่นแท้ของพวกคุณ, และความรักของพวกคุณ
เป็นสิ่งที่มีความสว่างไสวเจิดจ้า
และมีความสำคัญมากเกินกว่า
ที่ใครจะห้ามไม่ให้ มันเปล่งประกายออกไปสู่โลกภายนอกได้


Archangel Gabriel
...................................

 

ข้อความสื่อสารจากพระแม่เจ้า (The Divine Mother)
เรื่อง: การขาดความรักก็เป็นแค่มายาการอย่างหนึ่งเท่านั้น

ผู้รับสาส์น: Isabel Henn
วันที่: 21 ตุลาคม 2013

ที่มา: The silverplatinum flame | Divine channelings and healing


ลูกเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงกลัวที่จะรักแบบไม่มีเงื่อนไขนักหนา?
เจ้ากลัวว่าจะต้องเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ?

แต่ถ้าเจ้ารักตัวเอง และเลิกคิดว่า
เจ้าต้องพึ่งพาความรักจากคนอื่นเท่านั้นแล้วหละก็
เจ้าก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวอีก

แต่ว่ามันจะเป็นแบบนี้ได้ ก็ต่อเมื่อ
เจ้ากำลังพึ่งพาความรักจากใครสักคนอยู่
และเจ้าก็กลัวว่าคนๆนั้นจะไม่รักเจ้าอีกต่อไปแล้ว

จงรักตัวเองซะก่อน แล้วเจ้าจะไม่รู้สึกว่า
ชีวิตของเจ้าขาดแคลนความรักอีกเลย

แต่ว่าการขาดความรัก
ก็เป็นเพียงมายาการอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
เพราะว่าเจ้าคือพลังงานแห่งความรักอันบริสุทธิ์อยู่แล้ว
และเจ้าก็เป็นที่รักของแม่ผู้นี้ และผู้อื่นด้วย
อย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้วด้วย

Your Divine Mother



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

Copyright © Isabel Henn.
It is allowed to share this message
in its complete form without changes
and when the author’s name
and the link to the original site is given.

The silverplatinum flame | Divine channelings and healing isa

………………..

 

ท่านใดที่มีข้อความ หรือ มีรูปภาพอันเกี่ยวเนื่องกับความอบอุ่นดีงาม
ของความรัก โดยเฉพาะความรักแบบไม่มีเงื่อนไขแบบนี้
ก็ช่วยๆกันเอามาโพสต์ในกระทู้นี้หน่อยนะครับ

ให้กระทู้นี้มันอบอวลไปด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไขไปเลย

ฮิฮิ..


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

.....................................................

 

​

 

ขอบคุณครับ ทุกวันนี้วิ่งหนี นึกแต่ว่าอยากอยู่คนเดียวไม่อยากมีปัญหาแล้ว คุณชยุตนี้มาช่วยทันเวลาทุกทีเลย 55555

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่ 23 ตุลาคม 2013

ที่มา:
Daily Message ~ Wednesday October 23, 2013 | Trinity Esoterics


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


ที่รักทั้งหลาย ได้โปรดรับฟังพวกเรา
เมื่อพวกเราบอกกับพวกคุณว่า
พวกคุณจะต้อง “เลือก” แล้วหละว่า
พวกคุณจะทิ้งความเจ็บปวดทรมานไปอย่างเด็ดขาด
หรือว่าพวกคุณจะเลือกที่จะจดจ่ออยู่กับ
เรื่องราวแห่งความเจ็บปวดของตัวเองอยู่ต่อไป

พวกคุณจะต้องเลือกว่า
จะนำเอาพลังอำนาจที่แท้จริงของตัวเองออกมาใช้
หรือว่าพวกคุณจะยังคงอยู่ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
แห่งการตกเป็นเหยื่ออยู่ต่อไป

พวกคุณสามารถที่จะเลือก "รัก" ก็ได้
หรือว่าจะเลือกที่จะแยกตัวเองออกมาก็ได้

พวกคุณสามารถที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาก็ได้
หรือว่าจะหลบซ่อนอยู่ก็ได้

พวกคุณสามารถที่จะนำเอาธรรมชาติที่แท้จริง
อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกมาใช้ก็ได้
หรือว่าจะเลือกที่จะปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ที่เป็นรูปธรรมชีวิตที่สว่างไสวเจิดจ้าก็ได้

พวกคุณสามารถที่จะเลือกมีชีวิตอยู่แบบสบายๆก็ได้
หรือว่าจะเลือกที่จะมีชีวิตอยู่แบบปากกัดตีนถีบต่อไปก็ได้
แต่พวกเราขอบอกพวกคุณว่า
มันไม่มีคะแนนพิเศษ หรือรางวัลพิเศษอะไร
ที่จะมอบให้กับพวกคุณ
สำหรับการเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆให้มันยากขึ้นหรอกหนะ!

เพราะว่าความคิดที่ว่าการดิ้นรนต่อสู้ที่ยาวนานและยากลำบาก
จะทำให้ได้รางวัลนั้น มันเป็นความคิดที่มนุษย์คิดกันขึ้นมาเอง
มันไม่ใช่ความเป็นจริงระดับจิตวิญญาณแต่อย่างใดเลย

เพราะฉะนั้นแล้ว จงเป็น และจงอนุญาตให้ตัวเอง
เชื่อมต่อเข้ากับความสมบูรณ์แบบอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเองเสีย
และจงดำรงชีวิตอยู่จากที่ตรงนั้นเสีย

จงปลดปล่อยระบบความเชื่อ และ มายาการทั้งหลาย
ที่ทำให้พวกคุณเชื่อว่าพวกคุณคือสิ่งอื่นใด
ที่นอกเหนือไปจาก “ความสมบูรณ์แบบอันนั้น” ทิ้งไปเสีย

ประกายแสงอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า
สถิตย์อยู่ภายในตัวตนของพวกคุณทุกๆคนอยู่แล้ว
และมันก็จะส่องแสงสว่างเจิดจ้าออกมา อย่างรุ่งโรจน์
ถ้าพวกคุณ “เลือก” ที่จะจดจ่อความสนใจอยู่กับมัน
และยินยอมให้มันเป็นแสงสว่างนำทางให้แก่พวกคุณได้


Archangel Gabriel,

………………….

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2013

ที่มา: Daily Message ~ Thursday October 24, 2013 | Trinity Esoterics


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


“การเจริญเติบโต” คือการปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาล
“ความรัก” คือการปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาล
“การบำบัดรักษา” คือการปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาล
“การสร้างสรรค์” คือการปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาล

เพราะว่าการปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาล
คือระบบนำวิถีของ "หัวใจ"

ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ต้องการ ล้วนได้มาจากการฝึกฝน
การปล่อยให้มันไหลไปไปตามกระแสพลังงานของจักรวาลทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นแล้ว จงปล่อยวางเถิดที่รักทั้งหลาย
จงยืนหยัดที่จะคล้อยตามวิถีทางอันนั้น
โดยมีการต่อต้านให้น้อยที่สุด เพื่อให้วิถีทางมันราบรื่นและง่ายดาย

และเมื่อใดที่พวกคุณ สามารถพบกับของขวัญทั้งหลาย
ที่มาพร้อมกับมันได้จริงๆแล้ว พวกคุณก็จะประหลาดใจว่า
พวกคุณเคยไปพยายามทำให้สิ่งต่างๆมันสำเร็จลงได้
ด้วยวิธีการอื่นๆได้อย่างไร


Archangel Gabriel

………………….

 

ความรักคือสะพานเชื่อมระหว่างเรากับทุกสรรพสิ่ง ^-*
------------------------------------------------------------------------

​

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่: 26 ตุลาคม 2013

ที่มา:Daily Message ~ Saturday October 26, 2013 | Trinity Esoterics



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

พวกเราขอเชิญพวกคุณ ให้ลองสำรวจตรวจดู
สิ่งที่พวกคุณพิจารณาว่า
มันคือปัญหา-อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกคุณ

ลองวินิจฉัยดูซิว่า มันคืออะไร?

มันคือปัญหาอุปสรรคที่ยากเกินกว่าจะแก้ไขได้จริงหรือเปล่า?
หรือว่ามันเป็นแค่นิสัยและความเคยชินของพวกคุณ
ที่ชอบไปคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น?

พวกคุณได้ปลดปล่อยมันไป เพื่อเยียวยารักษามัน
โดยการยอมปล่อยให้มันกลับไปสู่พระผู้สร้างหรือยัง?

พวกคุณเคยรู้สึกขอบคุณมัน ที่มันได้ทำให้ชีวิตของพวกคุณ
ได้รับผลกระทบแบบนั้นๆหรือไม่?

และพวกคุณก็ยังคงใช้ชีวิต วนเวียนเกี่ยวข้องอยู่กับ
ปัญหาอุปสรรคนั้นๆตลอดเวลาใช่หรือไม่
โดยการเอาแต่ไปเพิ่มพลังงานให้กับผลกระทบของมันอยู่เรื่อยๆ ใช่หรือไม่?

และระบบความคิดและความเชื่อของพวกคุณ
ก็ยังคงสนับสนุนให้ปัญหาอุปสรรคนี้
มันดำเนินต่อไปเรื่อยๆอยู่ ใช่หรือไม่?

แต่ชีวิตของพวกคุณจะแตกต่างไปอย่างไรบ้าง
ถ้าไม่มีปัญหาอุปสรรคอันนี้?

มันมีของขวัญอะไรบ้าง หรือ มีประสบการณ์อะไรบ้าง
ที่ปัญหาอุปสรรคนี้นำมาสู่ชีวิตของพวกคุณ?
และมันยังมีประโยชน์ต่อชีวิตของพวกคุณอยู่หรือไม่?

และเมื่อพวกคุณได้ลองถามตัวเอง ด้วยคำถามทั้งหมดนี้แล้ว
พวกเราก็อยากจะขอให้พวกคุณ
ลองสร้างภาพที่ชัดเจนขึ้นมาในใจของพวกคุณดูสักภาพหนึ่ง

ซึ่งก็คือภาพชีวิตของพวกคุณเอง
เมื่อปราศจากปัญหาอุปสรรคอันนี้ อย่างสิ้นเชิงแล้ว
ว่ามันจะน่าจะเป็นอย่างไร

เช่น พวกคุณอาจจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มากกว่านี้
และสมบูรณ์แบบมากกว่านี้ และมีความสุขมากกว่านี้ เป็นต้น

เพียงแค่พวกคุณป่าวประกาศด้วยเสียงจากภายในของตัวเองออกไป
ให้จักรวาลได้รับรู้ถึงความต้องการใหม่อันนี้ของพวกคุณ
แล้วพวกคุณก็จะไหลคล้อยตามกระแสการสรรสร้างของจักรวาลในทันที

จงอยู่ในกระแสอันนั้น ด้วยความเชื่อมั่นและมีศรัทธาอย่างเต็มที่
ว่าปัญหาอุปสรรคนั้นๆ บัดนี้ ได้ถูกแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว
และจงจดจ่ออยู่กับแต่สิ่งที่พวกคุณต้องการสร้างขึ้นมาใหม่เท่านั้น

การปล่อยให้มันเป็นไป (surrender) และการไหลไป (flow)
และการรู้สึกขอบคุณ (gratitude)
บวกกับเจตจำนงค์อันแน่วแน่ของพวกคุณ
ในอันที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนี้
คือสูตรผสมที่มีพลังอำนาจมากๆอย่างหนึ่ง
ที่พวกคุณจะสามารถนำมาใช้เพื่อ update ชีวิตของตัวเองได้
ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็ตาม

~Archangel Gabriel

.....................................

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

"You think of yourselves as a Human
while in fact you are Spiritual Beings
attempting to cope with a human awakening.

Seeing yourselves from the perspective
of the Spirit within will help you to remember
why you came here and what you came here to do."

--The Group--

"คุณเข้าใจว่าตัวเองคือมนุษย์โลกคนหนึ่ง
ในขณะที่อันที่จริงแล้ว คุณคือ จิตวิญญาณ
ที่กำลังพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นมนุษย์ผู้ตื่นรู้ให้ได้อยู่

การมองดูตัวเองในแบบมุมมองของจิตวิญญาณที่อยู่ภายใน
จะช่วยให้คุณจดจำได้ว่า คุณมาที่นี่ทำไม และมาเพื่อทำอะไร"

.....เดอะกรุ๊ป.....

...............................................

 

บางส่วนของข้อความถึงนาง Blossom Goodchild

วันที่: 6 ตุลาคม 2013

ที่มา:
Blossom Goodchild - October 6, 2013



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

....


ต่างมิติ: ...

“พวกคุณคือผู้ที่เข้มแข็งที่สุด
ในบรรดาผู้ที่เข้มแข็งทั้งหลาย”

แม้ว่าบางครั้งพวกคุณอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นเลยก็ตาม
แต่ว่า..นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม
พวกคุณแต่ละคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ จึงได้ถูกเลือกมาหละ

(ถูกเลือกให้ลงมาเกิดบนโลก เพื่อช่วยเหลือ
ในกระบวนการยกระดับขึ้นของโลกและมนุษย์โลก - ผู้แปล)

ประโยคสุดท้ายนี้มีความหมายต่อพวกคุณบ้างไหม?

พวกเราขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า
“พวกคุณคือผู้ที่เข้มแข็งที่สุด
ในบรรดาผู้ที่เข้มแข็งทั้งหลาย”
นี่แหละคือเหตุผลที่พวกคุณได้มาอยู่ที่นี่หละ

ส่วนอุบายด้านลบที่ว่านั้น (พูดถึงคลื่นความถี่
ของพลังงานด้านลบที่นาง Blossom กล่าวถึง – ผู้แปล)
ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเกมๆนี้เท่านั้นเอง

จงเอาชนะมันด้วยสติปัญญา!

เพื่อนๆที่รักทั้งหลาย ไม่มีอะไรเลย ไม่มีสิ่งใดเลย
ที่จะมามีอำนาจเหนือพวกคุณได้
ไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว
ยกเว้นแต่ว่าพวกคุณจะ “เลือก” ที่จะเชื่อแบบนั้นเท่านั้นเอง

มันง่ายอย่างนั้นเลยหละ

ดังนั้น จงนำเอาพลังอำนาจของตัวเองกลับคืนมา
และจงเป็นมัน..จงใช้มันเสีย


Website: http://www.blossomgoodchild.com/
.........................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพ Gabriel
ประจำวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2013

ผู้รับสาส์น: Shelley Young
ที่มา: Daily Message ~ Monday October 14, 2013 | Trinity Esoterics


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


พวกคุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า ในตอนที่สัมพันธภาพรักของพวกคุณเริ่มต้นผลิบานขึ้นมาครั้งแรกนั้น
มันทำให้พวกคุณมีความสุขมากเพียงใด เพราะว่ามันจะไหลบ่าท่วมท้นขึ้นมา
มันจะมีแต่การยอมรับในตัวซึ่งกันและกัน และพวกคุณก็จะทึ่งและอัศจรรย์ใจในกันและกันอย่างมาก
และหัวใจของพวกคุณก็จะพองโตและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อกันและกันอย่างสุดซึ้ง

แต่แล้ว..สิ่งที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอๆก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป กลีบกุหลาบแห่งความรักของพวกคุณก็เริ่มร่วงโรย
แล้วพวกคุณก็จะเริ่มโต้เถียงกัน และเริ่มมองเห็นข้อบกพร่องของกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ

มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกคุณถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนั้นได้ จากตอนแรกที่มองเห็นแต่
ความสมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายหนึ่งล้วนๆ แล้วทำไมตอนหลัง ถึงได้กลับกลายเป็นว่า
พวกคุณแทบจะทนไม่ได้ ที่จะอยู่ใกล้ๆกันเสียด้วยซ้ำไป?

ที่รักทั้งหลาย คำตอบมันง่ายมากๆเลย ซึ่งก็คือ เพราะว่าพวกคุณหมดรักแล้ว
เพราะว่าพวกคุณหมดความรู้สึกซาบซึ้งใจที่มีต่อกันและกันแล้วนั่นเอง

แต่ถ้าพวกคุณตั้งใจหวนระลึกถึงสิ่งที่ดีงามทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวของคนที่พวกคุณรัก
และเลือกที่จะจดจ่ออยู่กับมัน และเลือกที่จะแสดงออกซึ่งความรู้สึกซาบซึ้งใจ
สำหรับคุณสมบัติที่ดีงามเหล่านั้น ที่ได้เคยทำให้พวกคุณตกหลุมรักซึ่งกันและกันในครั้งแรกได้หละก็
พวกคุณก็จะพบว่าตัวเองจะกลับไปตกหลุมรักซึ่งกันและกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แล้วพวกคุณก็จะใช้พลังงานอันนี้ เพื่อช่วยให้สัมพันธภาพรักของพวกคุณเบ่งบานต่อไป
และเจริญเติบโตต่อไปได้

พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า “แต่ว่า..เขา/เธอผู้นั้น ไม่เห็นคุณค่าของ ผม/ดิฉัน อีกต่อไปแล้ว!
ผม/ดิฉันจะรู้สึกขอบพระคุณมาก ถ้าเขา/เธอผู้นั้น เริ่มมองเห็นคุณค่าของผมขึ้นมาบ้างสักนิด”
ซึ่งถ้าพวกคุณคนใดกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่หละก็ นั่นก็แสดงว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์แล้วหละ

เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงามจริงๆที่จะรู้สึกซาบซึ้งใจในคนอื่น และพวกเราก็ขอสนับสนุน
ให้พวกคุณแบ่งปันมันให้กับคนอื่นๆต่อไปด้วย เพราะว่ามันจะทำให้ทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
รู้สึกดีๆตามไปด้วย

มันคือเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่พวกคุณจะสามารถใช้
เพื่อทำให้จักรวาลตอบสนองกลับมา
ในแบบที่พวกคุณต้องการได้

มันไม่ใช่เรื่องของของขวัญที่พวกคุณมอบให้แก่คนอื่นๆเลย
มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังอำนาจของพวกคุณเอง
ที่พลังงานอันนี้ของมัน จะไปช่วยป่าวประกาศให้จักรวาลได้ทราบ
ถึงสิ่งที่พวกคุณต้องการ และจะไปสร้างสรรค์
สิ่งที่พวกคุณต้องการขึ้นมาให้กับพวกคุณ มากขึ้นไปอีกได้

เพราะว่ามันคือการเลือกระดับพลังงานของพวกคุณ
ว่าพวกคุณปราถนาที่จะมีชีวิตอยู่กับระดับพลังงานนี้แหละ
และว่าพวกคุณอยากจะมีประสบการณ์กับพลังงานนี้แหละนั่นเอง

ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะเลือกแทนพวกคุณได้

ดังนั้น เมื่อพวกคุณมีชีวิตอยู่ในความรู้สึกชื่นชมยินดี (grateful) แล้ว
พวกคุณก็จะไปดึงดูดเอาความรู้สึกซาบซึ้งใจ (gratitude)
ที่พวกคุณโหยหา ให้เข้ามาหาพวกคุณได้

ซึ่งก็เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ
ที่การเปลี่ยนระดับของพลังงาน จะต้องมาจาก “ข้างใน” เท่านั้น
เพื่อที่จะทำให้มันสามารถส่งผลกระทบขั้นลึกซึ้งและขั้นสุดท้าย
ตามที่พวกคุณปราถนา แก่พวกคุณได้

ดังนั้น ที่รักทั้งหลาย จงเฉลิมฉลองให้กับพรอันประเสริฐทั้งหลาย
ที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณอยู่ในขณะนี้เถิด
เพราะว่ามันคือวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะนำพาสิ่งที่พวกคุณปราถนา
ให้ไหลย้อนกลับมาสู่ส่วนต่างๆของชีวิตของพวกคุณได้


Archangel Gabriel.

Channeled by Shelley Young

Daily Message ~ Monday October 14, 2013 | Trinity Esoterics

.........................................

 

ขออนุญาตฉายซ้ำข้อความเดิมที่เคยโพสต์ไว้แล้วนะครับ
เพราะว่า พอดีมีความคิดใหม่เข้ามาในหัว ที่เกี่ยวเนื่องกับ
ข้อความนี้่อยากจะโพสต์ต่อหนะนะครับ....

....................................................................

เมื่อหลายวันก่อน ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้มีความคิดว่า
น่าจะนำเอาข้อความประจำวันบางส่วน ของท่าน AA Gabriel
บวกกับของอีก 2-3 ท่าน ที่ไม่ยาวนัก มาแปลให้ "คนอกหัก"
หรือ "คนที่กำลังมีปัญหาด้านสัมพันธภาพรัก" อ่านหนะครับ

เพราะว่าเมื่อราวๆ 2 สัปดาห์มานี่ จนถึงบัดนี้ ตัวผมเอง ที่รอดมาได้
ก็เพราะว่าได้ข้อความพวกนี้แหละครับ ช่วยตอก และ ย้ำ ให้มีสติขึ้นมาได้

เพราะว่าก่อนหน้านี้ ก็มีอาการกลับไปซึมเศร้า และคิดวกวน ย้ำคิด ย้ำทำ
เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว

อย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้บ่อยๆว่า บางทีถ้าเราสังเกตดูให้ดีนะครับ
เราก็จะพบว่า มันมีปรากฎการณ์ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ หรือ synchronicity
เกิดขึ้นในชีวิตของเราอยู่บ่อยๆ จนบางทีสามารถสัมผัสได้ชัดมากๆว่า
ชะรอยจะมี "ใคร" หรือ "ท่านใด" คอยช่วยเหลือเราอยู่ในอีกมิติหนึ่งกระมัง

ผมก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆครับ เพราะว่าเวลากำลังมีปัญหาเรื่องดังว่านี้อยู่
ก็จะ "บังเอิญ" ไปเจอข้อความ หรือ ถ้อยคำ จะสั้นหรือยาวก็ตามแต่
ที่สามารถช่วยปลอบประโลม หรือช่วยสกิดให้มีสติขึ้นมาได้อยู่เสมอๆ
จนมีความรู้สึกว่า เราอยากจะแบ่งปันให้คนอื่นๆที่อาจจะกำลังมีปัญหาเดียวกันนี้อยู่
ได้รู้บ้าง หรือได้อ่านบ้าง เพื่อที่เขาจะได้สติ และกำลังใจกลับคืนมาเหมือนเราบ้าง

ผมใช้คำว่าสติ และ กำลังใจนะครับ เพราะดูเหมือนว่า ถ้าไม่มีกำลังใจแล้ว
สติมันก็ไม่มาหรอก มันจะเหี่ยวๆยังไงชอบกล ถึงมีสติรู้ แต่มันก็ไม่พ้นหรอก

ตลอดสองสัปดาห์มานี่ ผมเริ่มฝึกฝนตัวเอง ให้มีสติขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
แต่ไม่ใช่ในแนวไหนๆ ที่เขาฝึกกันอยู่ในสำนักใดสำนักหนึ่งหนะนะครับ
เพียงแต่มีสติ "จดจำให้ได้" ว่า...(ขอละไว้ก่อน เดี๋ยวจะมากล่าวถึงทีหลังครับ)
คือประมาณว่า เอาถ้อยคำในข้อความจากต่างมิติหลายๆข้อความ
ที่รู้สึกชัดมากๆว่า อันนี้ มันใช่เลย มาตอกย้ำตัวเอง ให้มีสติรู้ ให้เชื่อ ให้มั่นใจหนะครับ

เช่น ข้อความของพระเยซูที่ผมเพิ่งโพสต์ไปไม่นานนี้ ที่บอกว่า
พวกเราหนะมีความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์พร้อมมูลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า
เราไม่ยินยอมให้ตัวเองเชื่อเช่นนั้น เท่านั้นเอง ซึ่งหมายความว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ มันมีอยู่พร้อมหมดแล้วในตัวเรา
ขอแค่เรายินยอมให้มันถูกเนรมิตรออกมาสู่โลกทางกายภาพนี้เท่านั้นเอง
ซึ่งการยินยอมที่ว่านี้ ก็คือโดยการไหลไปตามกระแสพลังงาน
หรืออย่าไปขัดขวางการเนรมิตออกมาของมัน ด้วยความกลัว หรือด้วยความลังเลสงสัย
หรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นความคิดและอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ

และข้อความจากชาว Arcturian ที่ผมอ่านแล้วแต่ไม่ได้แปลก็บอกอีกว่า
พวกเราชอบติดอยู่กับกาลเวลา ดังนั้น พวกเราจึงมักคิดว่า สิ่งที่เราต้องการ
หรือเป้าหมายของเรา มันอยู่ห่างออกไป หรือมันต้องใช้เวลา ถึงจะได้มันมา
หรือเราต้องปรับปรุง หรือต้องทำอะไรที่ดีกว่านี้ หรือคู่ควรกว่านี้ซะก่อน ถึงจะได้มันมา

ทั้งๆที่อันที่จริงแล้ว ในสายตาของมิติที่สูงกว่า ที่ไร้กาลเวลาแล้ว พวกเขามองว่า
มันไม่จำเป็นต้องไปรอคอยอะไรเลย และเราก็คู่ควรที่จะได้มันมาอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เพียงแต่เราจะต้องยินยอมให้มันถูกเนรมิตออกมาสู่โลกทางกายภาพนี้เท่านั้นเอง
ซึ่งก็เป็นทำนองเดียวกันกับข้อความของพระเยซูนั่นเอง

และก็อีกหลายๆข้อความประจำวันสั้นๆ ของท่าน Gabriel
ก็พูดให้สะดุดอยู่หลายจุด เช่น เราจะเลือกที่จะย้ำคิดย้ำทำ
อยู่กับสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์อยู่นั่นก็ได้ ไม่มีใครห้ามเราได้
แต่เราก็สามารถที่จะเลือก ที่จะคิดถึงแต่สิ่งดีๆที่ทำให้เรามีความสุขก็ได้ด้วย
นั่นก็เป็นสิทธิ์ของเราอีกนั่นแหละ

โดยการอยู่กับปัจจุบันขณะ โดยการไม่ไปพะวงถึงอนาคต
และไม่ไปย้อนกลับไปเป็นทุกข์กับเรื่องราวในอดีตอีก เราก็จะมีอิสระมากขึ้น

และจุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง ก็คือ โดยการดึงสติให้กลับมาอยู่ที่จักระที่ 4
ตรงลิ้นปี่ของเราอยู่บ่อยๆ เราก็จะมีการเชื่อมต่ออยู่กับจิตวิญญาณของเรามากขึ้น
และเมื่อจิตวิญญาณของเรา เป็นผู้กำกับการแสดงให้เราแล้ว
มุมมองของเรา ที่มีต่อสิ่งต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป..เดี๋ยวผมจะเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ

มันจะมีความรู้สึกว่า "ไม่ห่วงกังวล" ว่าจะไม่ได้ ว่าจะไม่ดี หรืออะไรแบบนั้น
เพราะว่ามันเหมือนกับว่า มันอบอุ่น มันวางใจได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิต
มันวางใจได้ว่า เดี๋ยวพอถึงเวลามันก็จะมาเอง ไม่มีทางที่จะไม่มา
เพราะว่าเรายินยอมให้มันมา และเราอยากจะให้มันมา นั่นเอง

ในช่วงนี้ ทุกๆครั้งที่ผมจ่อสติลงไปที่จักระที่ 4 ผมจะสัมผัสถึงความอบอุ่น
ความไว้วางใจ ความวางใจ หรืออะไรแบบนั้น พูดไม่ถูกครับ
ที่มันทำให้ผมคลายกังวลไปเยอะเลยทีเดียว แล้วผมก็จะรู้สึกมีสติอยู่กับปัจจุบันได้มากขึ้น
แบบเป็นธรรมชาติ นี่แหละที่ผมเรียกว่า การฝึกของผมหละครับ

มันจะเป็นความรู้สึกวางใจ เพราะว่าเรารู้ว่า และเชื่อว่า และจดจำได้ว่า
ในตัวเราหนะ มีทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว เรามีความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์อยู่แล้ว
เราคือประกายหนึ่งแห่งแสงสว่าง ของพระผู้สร้างอยู่แล้ว
ดังนั้น ถ้าเรายินยอมให้จิตวิญญาณของเรา หรือตัวตนที่แท้จริงของเรา
เป็นผู้กำกับการแสดงให้เรา แทนเจ้า ego ของมิติที่ 3 นี้แล้ว
เราก็จะไม่ขาดแคลนอะไรเลย เราก็จะไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นห่วงกังวลเลย

และมันก็จะมีมุมมองหนึ่ง ที่เรารู้อยู่แล้ว ว่าควรจะมองแบบนี้ ผุดขึ้นมา
ซึ่งก่อนหน้านั้น มันได้แค่รู้ ในทางทฤษฎีเฉยๆ แต่ตอนนี้มันเริ่มทำได้จริงขึ้นมาแล้ว

กล่าวคือ ในสถานการณ์ใดๆก็ตาม เช่น เรื่องความรักของผมเองเป็นต้น
มันก็จะมีด้านบวกและด้านลบอยู่ด้วยเสมอ เพราะว่าโลกนี้เป็นโลกแห่งความมีขั้ว
ดังนั้น แค่เรามองหาดีๆ เราก็จะเจอทั้งสองด้านของมันแน่ๆ

สถานการณ์ของผมนั้น เปรียบเสมือนแก้วน้ำที่บรรจุน้ำเอาไว้แค่ครึ่งแก้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ ผม "เลือก" ที่จะจดจ่อและย้ำคิดย้ำทำ และเลือกที่จะเป็นทุกข์
อยู่กับส่วนบนของแก้วที่ว่างเปล่า ที่ไม่มีน้ำ อันนั้น ดังนั้น ผมก็เลยสมใจอยาก
เพราะว่าผมจะไม่ผิดหวังเลย ที่จะได้เป็นทุกข์สมใจ

เพราะว่าก็ตรงนั้นหนะ มันไม่มีน้ำอยู่จริงๆ!
จะร้องไห้คร่ำครวญให้ตายมันก็ไม่มีน้ำขึ้นมาได้

แล้วทำไมเราถึงจะต้องไป "เลือก" ที่จะกักขังตัวเองเอาไว้
ในความคิดที่ว่า เราตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้อยู่อีกหละ?
ทำไมเราไม่หันมาจดจ่ออยู่กับอีกส่วนหนึ่งของแก้วใบนี้ ที่มีน้ำอยู่เต็มแทนหละ
แล้วก็ดูดดื่ม หรือดื่มด่ำกับ น้ำทิพย์ชโลมใจส่วนนี้เสีย

มันมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ แล้วผมก็รู้ชัดว่า
ผมนั่นแหละ ที่เป็นคนเลือกเอง
ว่าจะจดจ่ออยู่กับส่วนไหนของแก้วน้ำใบนี้
ดังนั้น ผมถึงใช้คำว่า ผมกำลังฝึกสติให้จดจำให้ได้อยู่ไงหละครับ

คือเวลาเข้าสู่สถานการณ์นี้ทีไร ผมก็จะบอกกับตัวเองว่า
ผมเลือกที่จะมีความสุข ดังนั้น ผมก็เลยจดจ่ออยู่กับส่วนที่จะทำให้ผมมีความสุขเท่านั้น
เพราะว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว มิติที่ 3 ทั้งมิตินี้ ก็คือมายาการล้วนๆอยู่แล้ว
ดังนั้น ความสุข และ ความทุกข์ ทั้งปวง แบบทางโลก ของมิตินี้
มันจึงเป็นมายาการด้วยกันหมดทั้งสิ้น ดังนั้น ไม่ว่ามันจะเกิดจากการที่เราคิดขึ้นมาเอง
หรือเกิดจากสถานการณ์ที่ชาวโลกเรียกมันว่า "ความจริง" ก็ตาม
แล้วมันจะต่างอะไรกันเล่า?

ช่วงนี้ ผมจะฝึกมีสติ เพื่อที่จะไม่ลืมที่จะบอกกับตัวเองอยู่เสมอมา
ผมมีความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้วในตัว ในระดับจิตวิญญาณ
ผมไม่ขาดแคลนอะไรเลย ดังนั้น ไม่มีสิ่งใดที่ผมจะต้องเป็นห่วงกังวลเลย
และผมก็จะเลือก "จดจ่อ" อยู่กับสิ่งที่จะทำให้ผมมีความสุขเท่านั้น

คือ ณ.ทุกๆช่วงขณะของ "ปัจจุบันขณะนี้" ของผม
ผมเลือกที่จะมีความสุข ผมไม่เลือกที่จะมีความทุกข์

นี่คือสิ่งที่ผมเลือก และผมก็มีสิทธิ์โดยชอบธรรมมาตั้งแต่กำเนิด
ที่จะทำแบบนี้ได้ด้วย ไม่มีใครมาขัดขวางหรือห้ามผมได้

นอกเสียจากว่า ผมจะเปลี่ยนใจ เลือกเป็นอย่างอื่นแทน
............................................................
~♥~ The Creator Writings ~ Past…..Future…..Now! ~♥~

transcribed by Jennifer Farley,
October 29, 2013

You can spend your time dwelling in the past
and letting it continue to affect your life.
You can spend your time worrying about the future
and anticipate, with fear, anything that approaches.

เธอจะเลือกที่จะใช้เวลาของตัวเอง เพื่อจมอยู่กับอดีต
แล้วปล่อยให้มันส่งผลกระทบในแง่ลบกับชีวิตของตัวเองอยู่ต่อไปก็ได้
หรือเธอจะเลือกที่จะใช้เวลาของตัวเอง เพื่อวิตกกังวลถึงอนาคต
และคาดหวังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วยความกลัวก็ได้

But, these things do not leave much time for your NOW.
How do you want to live?

แต่ว่า..ด้วยการทำเช่นนี้ เธอจะไม่เหลือเวลา
เอาไว้ให้กับ "ปัจจุบันขณะนี้" มากนักหรอกนะ

แล้วเธอต้องการที่จะมีชีวิตอยู่แบบไหนหละ?


Creator,
พระผู้สร้าง

Past…..Future…..Now! | The Creator Writings isa
[/COLOR][/B]

 

หลังจากที่ผมได้ทำทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาแล้วนั้นแล้ว
ณ.บัดนี้ ผมก็ได้ "เริ่ม" ที่จะพบกับความแปลกประหลาด
ของใจตัวเองบ้างแล้วหละครับ..ซึ่งมันแปลกจริงๆ
แต่ก็เป็นการแปลกในแง่ดีหนะนะครับ

เพราะว่า จากเดิมที่ผมเคยเอาแต่จดจ่ออยู่กับ "ส่วนบนของแก้ว"
ที่ไม่มีน้ำดังว่านั้น ตอนนี้ พอผมเริ่มหันมาจดจ่อกับ "ส่วนล่างของแก้ว"
ที่มีน้ำอยู่แทน ผมก็รู้สึกว่า จักรวาล ก็ได้ "เริ่ม" ตอบรับ
"เจตจำนงค์ใหม่" ของผม ที่ผมประกาศออกไป
ด้วยเสียงจากภายในของตัวเองแล้วหละครับ..จนทำให้ผมเริ่มแปลกใจ

คือ..อย่างที่ข้อความของท่านแกเบรี่ยวที่บอกว่า
ให้เราป่าวประกาศให้จักรวาลได้รู้ถึงเจตจำนงค์ใหม่ของเรา
แล้วจักรวาล ก็จะสนองตอบออกมาตามนั้นหนะ
ผมรู้สึกว่า มันเริ่มไ็ด้ผลจริงๆด้วย ไม่รู้เป็นอุปทานหรือเปล่านะครับ

เพราะว่่าสถานการณ์ที่ผมคิดว่ามันเป็นปัญหา
มันกลับดีขึ้นมาเองของมันเอง อย่างงั้นแหละ
ไม่รู้เป็นเพราะว่าเราเปลี่ยน หรือว่าเป็นเพราะ "คนๆนั้น" เปลี่ยนกันแน่?

คือ..คนๆนั้นตอบสนองในแง่บวกกับเรามากขึ้น จนทำให้ผมงง
คือ..พอเราเปลี่ยนมาจดจ่ออยู่กับแต่สิ่งที่เราต้องการมากขึ้น
เปลี่ยนมาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เรามีอยู่ ณ.ปัจจุบันนี้มากขึ้น
สถานการณ์ มันก็เปลี่ยนไปด้วย

แต่ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดเลยว่า ผมจะสามารถผ่านบททดสอบ
แห่งการ "รักแบบไม่มีเงื่อนไข" ได้ เพราะว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก
ว่าจะสามารถทำได้อย่างไร โดยเฉพาะกับคนที่เรารัก
และโดยไม่หวังว่าคนๆนั้น จะต้องให้รักเรากลับมาเลย

มันดูเหมือนว่า จะจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เมื่อเรารักใครแล้ว
เราจะไม่หวังอะไรตอบแทนกลับมาเลย โดยเฉพาะความรัก

แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นจนได้ ..และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมด้วย?
เพราะว่า มันเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติของมัน
เมื่อเรานั่งสมาธิ และคิดถึงเรื่องพวกนี้ หรือ วิปัสสนาถึงเรื่องนี้
แล้วยินยอมให้ "จิต" ที่อยู่สูงกว่าของเรา เป็นผู้กำกับการแสดงแทน
มันก็กลับกลายเป็นว่า มุมมองต่างๆของเรา กลับตาละปัดไปโดยสิ้นเชิงเลย
โดยธรรมชาติ และ เป็นไปเอง โดยไม่ต้องฝืน และไม่ต้องฝึกด้วย

ผมอธิบายไม่ถูกนะครับ ทั้งๆที่อยากจะอธิบายถึงจุดเชื่อมต่อตรงนี้จะตายไป
แต่มันเกิดขึ้นแบบ..แบบงงๆ..เพราะว่า เหมือนกับว่า
มันเป็นไปเองของมันอย่างนั้นแหละ..

สิ่งที่ผมทำทุกๆวัน ก็แค่..นั่งสมาธิ..แล้วยินยอมให้กระแสพลังงาน
ไหลผ่านลงมาสู่ตัวผมได้ ตั้งแต่จักระที่ 7 จนถึงจักระที่ 1
และเชื่อมต่อกับโลกใบนี้ และเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่ง
แล้วก็พยายามมีสติอยู่ที่จักระหัวใจ ตรงกลางทรวงอกให้ได้มากที่สุด
ตลอดทั้งวัน เท่านั้นเอง แล้วมันก็เป็นไปเองหนะครับ..งงจริงๆเลย

ตอนนี้นะครับ..ไม่ว่าคนๆนั้น จะไปกับใคร จะรักเราหรือไม่
หรือจะทำอะไร จะคิดอะไร ก็แล้วแต่เขา เราก็ยังคง "ไม่กลัว"
และ "ไม่เสียดาย" และ "ไม่ลังเล" ที่จะมอบความรักให้คนๆนั้นอยู่ต่อไป
อย่างไม่มีเงื่อนไขได้เหมือนเดิม..ซึ่งแต่ก่อนนี้ มันยากมากเลย
และก็..แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย..แต่ตอนนี้ กลับทำได้สบายๆ
จนตัวเราเองก็ยังงงๆอยู่เลย..น่าแปลกประหลาดไหมหละครับ?

ผมคิดว่า มันน่าจะเป็นเพราะระดับพลังงานของเราเอง ที่เปลี่ยนไป
จึงทำให้ "จิตสำนึก/ความตระหนักรู้" ของเราเปลี่ยนไปด้วย
และจึงส่งผลต่อ ความคิด - ความอ่าน และทัศนคติของเรา ให้เปลี่ยนไปด้วย

ผมก็ไม่รู้ว่า อาการแบบนี้่ หรือสภาวะแบบนี้ มันจะอยู่ได้นานสักเท่าไหร่หนะนะครับ
แต่ผมรู้สึกดี ที่ไม่ค่อยเป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว
มันเบา มันโล่ง อย่างเหลือเชื่อ! จึงนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของตัวเองอยู่เหมือนกัน

และอันที่จริงแล้ว ตอนนี้ ความรู้สึกที่มีต่อคนๆนั้น ผมกลับมองเห็นว่า
เขาคือ "กุญแจ" ดอกหนึ่งของผม ที่มาช่วยให้ผมเปิดประตูออกไปสู่ห้องอื่น
ที่อยู่ถัดไปอีกห้องได้ เท่านั้นเอง

หรือคือ "อาจารย์" ของผม ที่มาช่วยให้ผมได้มีโอกาสเรียนและสอบเลื่อนชั้น
จากชั้นนี้ ไปยังชั้นถัดไปได้ เท่านั้นเอง

ดังนั้น จะไม่ให้ผม "รัก" ได้ยังไงหละครับ
แต่มันก็เป็นรูปแบบของความรักที่ต่างออกไป ที่แทบจะไม่หวังอะไรอีกแล้ว
ที่ใช้คำว่า "แทบจะ" ก็เพื่อที่จะเผื่อเอาไว้หนะนะครับ เพราะว่าในมิติที่ 3 นี้
มันหาความรักแบบไม่มีเงื่อนไขที่บริสุทธิ์แท้ๆไม่ได้หรอก

และก็ อย่างที่ต่างมิติพูดไว้เสมอว่า มนุษย์เราจะได้ประสบการณ์
และได้พัฒนาจิตมากที่สุด ก็ผ่านทางสัมพันธภาพที่มีต่อคนอื่นนี่แหละ
และเพราะฉะนั้น ก่อนที่จะลงมาเกิด ในระดับจิตวิญญาณแล้ว
พวกเราถึงได้มีพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณร่วมกัน
ในอันที่จะมาแสดงบทบาทในสัมพันธภาพร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือกัน
ในวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณของกันและกัน

เล่าสู่กันฟังครับ..

ดังนั้น ใครที่กำลังมีปัญหาทำนองนี้อยู่ ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ใจนะครับ
เพราะว่า ถ้าถึงระดับหนึ่งแล้ว มันจะเป็นไปเอง มันจะตัดได้เอง

แล้วเมื่อนั้น คุณก็จะ "เริ่ม" จดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณต้องการแทน
คุณก็จะเริ่มจดจ่ออยู่กับ สิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุขแทน
แทนที่จะไปจดจ่ออยู่กับ สิ่งที่ทำให้คุณมีความทุกข์

ซึ่งสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ มันก็สอดคล้องกับข้อความจากต่างมิติหลายข้อความ
ที่บอกว่า "โลกภายนอกของเรา ล้วนได้รับอิทธิพล
มาจากโลกภายในของเราเองทั้งสิ้น

ซึ่งหมายความว่า ถ้าภายในเราสงบ และมั่นคงอยู่ในจุดหมายแล้วหละก็
โลกภายนอก ก็จะถูกเนรมิตรออกมา ตามแบบนั้นด้วย โดยปริยาย


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

"You are Multidimentional Beings.
The energy of the Planet is calling for us all
to raise our vibration.

It's time to step up to the next level
of our spiritual evolution.

I'm awakening to my Mission."

"พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ
พลังงานของดาวเคราะห์โลกดวงนี้
กำลังเรียกร้องให้พวกเราทุกๆคน
ยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นอยู่

มันถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะก้าวขึ้นไปสู่
ระดับวิวัฒนาการด้านจิตวิญญาณขั้นต่อไปของตัวเอง

ฉันกำลังจะตื่นขึ้น เพื่อมาทำภาระกิจของฉันเองแล้ว"

................................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพแกเบรี่ยล (Archangel Gabriel)
ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2013

ที่มา: Daily Message ~ Friday November 1, 2013 | Trinity Esoterics


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


ที่รักทั้งหลาย ถ้าพูดแบบให้เข้าใจง่ายๆหละก็
“ความรัก” ก็คือการขยายตัว
และ ก็คือการเป็นเหมือนกับ “ต้นกำเนิด” (the Source)
ซึ่งกำลังขยายตัวอยู่ตลอดเวลา
ด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข

“ความรัก” คือกระแสพลังงานของต้นกำเนิด
ที่มีไว้ให้พวกคุณ ก้าวต่อไป และ เข้ามา และนำไปใช้งาน
ได้ทุกเมื่อที่พวกคุณต้องการ


พวกคุณบางคนปฏิเสธความรัก อันเนื่องมาจากความกลัว
ซึ่งนั่นหนะ ก็รั้งแต่จะทำให้เกิดการหดตัว และการต่อต้าน
เพิ่มมากขึ้นไปอีก และก็จะทำให้
เกิดความกระอักกระอ่วนใจมากขึ้นไปอีก
เพราะการที่ต้องตกไปอยู่ในสิ่งที่
เป็นสาเหตุให้พวกคุณ คิดว่าความรักคือสิ่งที่ไม่ปลอดภัยนั่นเอง

เพราะถ้าเปรียบเทียบง่ายๆแล้ว
การเลือกที่จะตอบสนองออกมาด้วยความกลัว,
ด้วยการปฏิเสธ และด้วยการต่อต้านความรักนั้น
ก็เหมือนกับการไปกักขังตัวเองเอาไว้ในกรงนั่นแหละ

ความรัก คือสิ่งที่เอื้ออำนวยให้เกิดการเจริญเติบโต และอิสระภาพ
เพราะว่าความรัก คือเครื่องมือสำหรับการขยายตัว

ดังนั้น ที่ใดก็ตาม ที่พวกคุณยินยอมให้
ความรักของตัวเองหลั่งไหลเข้าไปสู่
ที่นั่น..ก็จะถูกทำให้ขยายตัวขึ้น
และจะถูกหล่อเลี้ยงบำรุงให้เจริญเติบโตขึ้นมา

ซึ่งจากมุมมองอันนี้เอง พวกคุณจึงสามารถที่จะมองว่า
ความรักก็คือเครื่องมือสำหรับเนรมิตก็ได้ด้วย

แล้วมีอะไรบ้างหละ ในชีวิตของพวกคุณ
ที่พวกคุณอยากจะให้มันขยายตัวขึ้น และเจริญเติบโตมากขึ้น?

งั้น..ก็ลองส่งความรักไปให้มันดูสิ

เช่น ส่งความรักไปให้กับร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง
ซึ่งเป็นตัวตนภาคที่เป็นมนุษย์โลกของพวกคุณเอง

หรือส่งความรักไปให้กับสถานการณ์ด้านการเงินของพวกคุณเอง
หรือส่งไปให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของพวกคุณเอง
หรือส่งไปให้กับสัมพันธภาพของพวกคุณเองกับคนอื่นๆ

ซึ่งการส่งพลังงานความรักออกไปให้แบบนี้
มันเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจอย่างมาก
มากเกินกว่าที่พวกคุณจะคาดคิดซะอีก
เพราะว่ามันจะสามารถไปเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดๆก็ได้


Archangel Gabriel

…………………

 

ขอบคุณสำหรับบทแปลที่อ่านแล้วทำให้ได้คิด และต้องทำความรู้จักกับความรักของตัวเองแล้วค่ะ เป็นการจุดประกายจริงๆ

 

ขอบคุณกระแสพลังงานดีๆจากกระทู้นี้

 

"ความรัก"คือกระแสพลังงานของต้นกำเนิด อืมมม..รู้ช้าไปแหล่ะ