ข้อความจากต่างมิติ-ชุดพิเศษสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาด้านสัมพันธภาพรักอยู่

ขอบคุณค่ะ

 

11/11/1111 I send love and best wishes to all things in the Universe mercy.

 

ขออนุญาตนำข้อความของท่านมิคาเอลชุดหนึ่ง
มาโพสต์ใหม่อีกครั้งในกระทู้นี้นะครับ
เพราะว่าข้อความชุดนี้ ไม่รู้เป็นยังไงนะ
โดนใจผมมากเลย อ่านทีไร ก็ซาบซึ้งทุกทีเลยครับ

.......................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 1:


ท่านคุรุที่รักทั้งหลาย จิตวิญญาณที่มีความรู้สึกนึกคิดทุกๆดวง ล้วนจะต้องเป็นไปตามโชคชะตาของตัวเองด้วยกันหมดทั้งสิ้น
ซึ่งโชคชะตาเหล่านี้ ก็คือเส้นทางที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อนำพาไปสู่การส่องแสงสว่าง
และการกลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความศักดิ์สิทธิ์หรือพระเจ้าในตัวเอง (Divine Self)

บทเรียนต่างๆที่พวกคุณกำลังเรียนกันอยู่นี้ และที่กำลังทำให้มันสมบูรณ์แบบอยู่นี้ จะกลายไปเป็นส่วนย่อยส่วนหนึ่ง
ของบทเรียนของพวกคุณเองทั้งหมด ซึ่งประสบการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดเหล่านี้แหละ
คืออัญมณีล้ำค่าแห่งภูมิปัญญาที่พวกคุณจำเป็นจะต้องมี เพื่อนำไปเติมเต็มส่วนของตัวเอง
ซึ่งเป็นส่วนย่อยส่วนหนึ่งของโครงสร้างใหญ่ทั้งระบบ (the Grand Design) อีกทีหนึ่งหละ

เพราะฉะนั้น จงอย่าตัดสินตัวเอง หรือความก้าวหน้าของตัวเอง
โดยใช้คนอื่นๆเป็นตัวเปรียบเทียบ

และจงอย่ามองคนอื่นด้วยสายตาที่เกรงขาม หรือด้วยสายตาแห่งความอิจฉาริษยา
เพียงเพราะความสามารถพิเศษ และพรสวรรค์ที่พวกเขามีอยู่
หรือที่พวกเขาสามารถทำได้นั้น

เพราะว่าในตัวของพวกคุณเองก็มีขุมทรัพย์ล้ำค่ามากมายซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน
เพียงแต่ว่า พวกมันกำลังรอคอยให้พวกคุณค้นพบมันอยู่เท่านั้นเอง

.................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 2:



ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการเปิดเผยความจริงอยู่
ซึ่งความจริงที่ว่านี้ได้ถูกบ่ายเบี่ยงที่จะเปิดเผยต่อมนุษยชาติมานานหลายหมื่นปีแล้ว
มันเป็นความลับที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้มายาการของโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 / มิติที่ 4 นี้มานานแล้ว

“มันคือความลับเกี่ยวกับธรรมชาติของความรักที่แท้จริง (True Love)
และเกี่ยวกับว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร และอะไรที่ไม่ใช่ความรักที่แท้จริง” ด้วย

ความรักไม่ใช่เป็นแค่อารมณ์ความรู้สึกทางกายภาพอย่างหนึ่งเท่านั้น
และความรักก็ไม่ใช่ความปราถนาอันแรงกล้าที่จะได้ครอบครองผู้อื่น
เพื่อที่จะให้ตัวเองได้รู้สึกถึงความเติมเต็มเท่านั้นด้วย

ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่ความรู้สึกเสียวซ่านหรือตื่นเต้น ที่สามารถพิชิต หรือได้มาซึ่งสิ่งที่ดูเหมือนว่า
คือ “ของที่มีราคาแพง” ในเวลานั้นด้วย ซึ่งของสิ่งนั้นก็มักจะกลายมาเป็นภาระอันใหญ่หลวงแทนในท้ายที่สุด

ความรัก ในแบบที่ให้ความสำคัญแต่กับเรื่องภายนอก ที่อยู่นอกตัวพวกคุณ
ก็มักจะนำพาความรู้สึกเปราะบางมาให้เสมอ เพราะว่าความอยากของอัตตาแห่งร่างกายเนื้อของพวกคุณนี้
จะเที่ยวค้นหาแต่คำยืนยันจากคนอื่นหรือจากสิ่งอื่นอยู่ตลอดเวลา

ความรักไม่ใช่การยอมเสียสละตัวเอง และความรักก็ไม่ใช่การยอมตกเป็นเหยื่อด้วย
ในแบบที่พวกคุณจะต้องให้ในส่วนของตัวเองออกไปอย่างมากมายเหลือเกิน
จนกระทั่งพวกคุณไม่เหลืออะไรเป็นของตัวเองอีกเลย

ความรักไม่ใช่การยินยอมให้คนรอบข้างของพวกคุณสามารถดูถูกเหยียดหยามและข่มเหงพวกคุณได้
เพราะว่านั่นก็เท่ากับว่าพวกเขากำลังส่งเสริมภาพฉายแห่งความไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ของตัวพวกคุณเองอยู่

พวกคุณจะหวังให้คนอื่นๆมาปฏิบัติต่อพวกคุณด้วยความเคารพและด้วยความรักได้อย่างไร
ถ้าแม้แต่ตัวพวกคุณเองแล้ว ก็ยังไม่พยายามสร้างเขตแดนแห่งความเคารพและความรักตัวเองเอาไว้บ้างเลย
จากนั้นก็ส่งสัญญาณที่ชัดเจนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณแห่งความรัก,สัญญาณแห่งการยอมรับ
และสัญญาณแห่งการเห็นคุณค่าทั้งในตัวเองและในผู้อื่นด้วย

.................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 3:


พวกคุณจะต้องทำลายกำแพงทิพย์ หรือแผ่นกรอง ที่พวกคุณได้นำมาปิดล้อมหัวใจของตัวเองเอาไว้ทิ้งไปซะก่อน
ถ้าพวกคุณต้องการที่จะสามารถรับและแผ่คลื่นความถี่ที่สูงกว่าแห่งความรัก จากหัวใจ/จิตวิญญาณของตัวเองได้

พวกคุณจะต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเองเสีย
ซึ่งก็คือความกลัวว่าจะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของตัวเองไป

และจงปลดปล่อยความผิดหวังและการทรยศหักหลัง
เมื่อครั้งในอดีตทั้งหลาย ออกไปเสีย
ซึ่งพวกมันมักจะปรากฎออกมาในรูปแบบของ
ความกลัวที่จะใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นๆ
หรือปรากฎออกมาในรูปแบบของความกลัวที่จะไว้วางใจคนอื่นๆ

เมื่อใดที่พวกคุณเรียนรู้ที่จะเชื่อมั่น และไว้วางใจตัวเองได้แล้ว
มันก็จะพัฒนาไปสู่ การก่อเกิดของความไว้วางใจในผู้อื่นต่อไปด้วย
และผู้อื่นก็จะมีศรัทธาและไว้วางใจในตัวพวกคุณด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะว่า ความไว้วางใจก่อให้เกิดความไว้วางใจ (trust begets trust)


แนวความคิดที่จำกัดคับแคบและพิกลพิการ เกี่ยวกับ การยอมเสียสละตัวเอง,
การฆ่าและการตายเพื่อศาสนา, และการทรมานร่างกาย
และการปฏิเสธความสวยงามและความสมบูรณ์แบบของยานพาหนะทางกายภาพ (ร่างกายเนื้อ – ผู้แปล) ของตัวเองนั้น
จะต้องสิ้นสุดลงเสีย มันถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องนำเรื่องเหล่านี้มาใคร่ครวญดูใหม่
แล้วปลดปล่อยพวกมันไปเสีย หรือ เปลี่ยนแปลงแนวความคิดที่เป็นโทษเป็นภัยทั้งหลายเหล่านี้ไปเสีย

มันเป็นแนวความคิดที่พวกคุณเคยยึดถือกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว ว่าพวกมันคือสัจธรรมของพวกคุณ
หรือไม่พวกคุณก็ยอมให้คนอื่นๆมาบีบบังคับพวกคุณให้ทำตามนั้นหลายภพหลายชาติแล้วเช่นเดียวกัน

ลองจงหยุดสักครู่ แล้วมาตอบคำถามเหล่านี้ด้วยความซื่อสัตย์..ว่า:

- คุณชี้บ่งตัวเองว่า คุณคือร่างกายเนื้อนี้ แต่เพียงอย่างเดียวใช่หรือไม่?
และเพราะฉะนั้น คุณจึงเอาแต่ตัดสินชี้ถูกผิดให้กับตัวเอง
และจดจ่ออยู่แต่กับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองเป็นหลักใช่หรือไม่?

- คุณมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นอยู่เสมอ จนเป็นนิสัย ใช่หรือไม่?
ดังนั้น คุณจึงกำลังทำสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดอยู่ภายในอยู่
ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว มันก็จะรับประกันแต่ความล้มเหลว และยืนยันถึงทัศนคติที่ผิดเพี้ยนของตัวคุณเองได้เท่านั้น


ชาวโลกส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับตัวเองด้วยความรัก/ความเกลียด
ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในความท้อแท้ผิดหวังตลอดเวลา
และจมปรักอยู่แต่ในความทุกข์ที่ตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้นมาเองอยู่ตลอดเวลา

.................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 4:


พวกคุณจะต้องตระหนักรู้ไว้ด้วยว่า “เส้นทางสู่การส่องแสงสว่างแห่งจิตวิญญาณ” นั้น
มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงที่ก่อให้เกิดปัญหามากมายเกิดขึ้นด้วย
ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงภายในและภายนอกของพวกคุณเอง

ดังนั้น ในขณะที่พวกคุณกำลังต่อสู้ฝ่าฟันอย่างขยันขันแข็ง เพื่อที่จะทำให้สัมพันธภาพทั้งหลาย
ที่ไม่สมดุลย์และที่มีปัญหา กลับคืนสู่ความสอดคล้องกลมกลืนใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ได้อยู่นี้
พวกคุณจะต้องมุมานะพยายาม เพื่อที่จะขึ้นไปอยู่เหนือบทละครแห่งความขัดแย้ง
ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกคุณเองให้ได้ ซึ่งมันจะต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทนด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่พวกคุณเรียนรู้ที่จะปฏิบัติการอยู่ภายใน “ศูนย์กลางหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์”
(Sacred Heart Center – หรือจักระที่ 4 ซึ่งอยู่กลางทรวงอก ระดับเดียวกับหัวใจ – ผู้แปล) ของตัวเองได้แล้ว
ในขณะที่ก็ปรับจูนให้เข้ากับ “จิตอันศักดิ์สิทธิ์” (Sacred Mind – คือต่อมไพเนียล
ซึ่งอยู่ภายในกระโหลกศรีษะตรงตำแหน่งจักระที่ 6 หรือตรงกลางระหว่างคิ้ว – ผู้แปล) ของตัวเองได้แล้ว
พวกคุณก็จะสามารถค่อยๆพัฒนาความเฉียบแหลม และความสงบเยือกเย็นอย่างแท้จริงขึ้นมาได้
พร้อมๆกับความคิดและการกระทำที่บริสุทธิ์ ก็จะค่อยๆถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน

พวกเราขอบอกพวกคุณว่า ตอนนี้ บนโลกใบนี้ มีจิตวิญญาณผู้กล้าหาญมากมาย
ที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นแล้ว (Self-Mastery)
พวกเขาคือนักปฏิบัติธรรมผู้ทรงเกียรติ ที่กำลังดำเนินอยู่บนวิถีทางนั้นแล้ว
และสักวันหนึ่งในภายภาคหน้า พวกเขาก็จะกลายเป็นคุรุผู้รู้แจ้ง (Ascended Master)
แห่งดาวเคราะห์โลกในมิติที่ 5

พวกเรารู้ว่าพวกคุณกำลังสงสัยอยู่ว่า ทำไมพวกคุณถึงกำลังเผชิญกับการทดสอบ
และสถานการณ์เลวร้ายต่างๆมากมายเหลือเกิน จิตวิญญาณผู้กล้าหาญทั้งหลายเอ๋ย
พวกเราขอบอกพวกคุณว่า นั่นก็เพราะว่าพวกคุณกำลังอยู่ท่ามกลางกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ
หรือกระบวนการเตรียมความพร้อมที่เข้มข้นอยู่หนะสิ ซึ่งกระบวนการนี้ พวกคุณจำเป็นจะต้องได้เจอ
ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปสู่การมีระดับจิตสำนึกที่สูงกว่าได้ และมันก็ไม่ใช่การลงโทษแต่อย่างใดเลย
แต่มันคือวิธีการอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบ หรือปลดปล่อยพลังงานที่อุดตันอยู่
หรือที่หยุดนิ่งติดขัดอยู่ให้ออกไป ซึ่งมันได้ทำให้พวกคุณต้องตกเป็นทาสของการมีข้อจำกัดอย่างมากมาย
และตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สับสนวุ่นวายมานานแล้ว ให้ออกไป

มีพวกคุณหลายคนที่ได้อยู่บนเส้นทางแห่งการเตรียมความพร้อมนี้มานานหลายภพชาติแล้ว
และดังนั้น ตอนนี้พวกคุณจึงพร้อมแล้วที่จะก้าวกระโดดครั้งใหญ่ไปสู่ระดับจิตสำนึกที่สูงกว่า

เมื่อใดที่พวกคุณย่างก้าวแรกเข้ามาสู่เส้นทางแห่งการทดสอบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น
ความยึดมั่นในอัตตาตัวตน หรือ ego ของพวกคุณ ก็จะถูกกระทุ้งจากจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
แล้วจากนั้น การต่อสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ระหว่าง ego กับจิตวิญญาณ ก็จะเริ่มต้นขึ้น
แล้ว “ไฟแห่งจิตวิญญาณ” (Soul Fire) ซึ่งเป็นสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่า
และมีพลังและมีชีวิตชีวามากกว่า ก็จะเริ่มต้นเผาไหม้พลังงานด้านลบทั้งหลาย
ที่ลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิว เพื่อรับการชำระสะสาง ให้มอดไหม้ไป

จากนั้น “ไฟแห่งการชำระให้บริสุทธิ์” นี้ (Fire of purification)
ก็จะกลายไปเป็น “แสงแห่งการส่องสว่าง” (Light of Illumination) ในท้ายที่สุด
เพราะว่ากระบวนการนี้ จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าทุกแง่ทุกมุมของตัวตนที่สูงส่งกว่า (Higher Self)
จะเริ่มต้นผสานรวมเข้ากับจิตวิญญาณ (Soul) ได้แล้ว แล้วจากนั้นกระบวนการแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้
ก็จะเร่งอัตราเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว

...............

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 5:


จงจำไว้ว่า ทุกๆกระแสความคิด หรือ ทุกๆคำพูด ที่พวกคุณคิดและพูดออกไป
ล้วนมีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนเฉพาะตัวเป็นของตัวมันเองทั้งสิ้น
และถ้าพวกคุณคิดหรือพูดประโยคนั้นซ้ำๆจนมากเพียงพอหละก็
ประโยคนั้น มันก็จะถูกปลูกฝังลงไปอย่างเหนียวแน่น ภายในจิตใต้สำนึกของพวกคุณเอง
และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสัจธรรม (truth) สำหรับพวกคุณเองต่อไป

โดยที่..ไม่ว่าคลื่นความถี่ของความคิดหรือคำพูดนั้น มันจะมีระดับความสั่นสะเทือนสูงหรือต่ำ
หรือว่ามันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าๆแล้ว
จิตใต้สำนึกของพวกคุณ ก็จะผสานรวมพวกมันเข้ากับ
“ธนาคารแห่งความทรงจำ ของความเชื่อที่ถูกยอมรับว่าเป็นจริงแล้ว”
(Memory bank of established beliefs) ของพวกคุณเองอยู่ดี

การวิจารณ์ก็สามารถที่จะกลายเป็นสิ่งที่ดีได้ ตราบใดที่การวิจารณ์นั้นไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้อื่น
(วิจารณ์ด้วยความมุ่งร้าย หรือ เพราะต้องการทำร้ายผู้อื่น)
หลายครั้ง การวิจารณ์ก็คือการนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งเท่านั้น
เช่น เมื่อพูดถึงข้อจำกัดอะไรซักอย่างแบบกลางๆ เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม ก็โปรดระมัดระวังการประเมินคุณค่าของความคิดเห็นทั้งหลายด้วย
และจงอย่าลืมใช้ “ทางเลือกอิสระ” (Free Will) ของพวกคุณเองอย่างชาญฉลาดด้วย
เพราะว่าพวกคุณมีสิทธิ์ที่จะยอมรับ หรือ ปฏิเสธความคิดเห็นใดๆได้เสมอ

พลังงานแห่งความรักจากมุมมองที่สูงส่งกว่าของจิตวิญญาณที่รู้แจ้งแล้ว
จะมีความแตกต่างจากพลังงานของผู้ที่ยังคงเล่นเกมแห่งความเป็นทวิภาวะที่บิดเบือนนี้อยู่
หรือ ผู้ที่ยังคงแยกฉันแยกเธออยู่ อย่างสิ้นเชิง

อันดับแรก พวกคุณจะต้องเปิดใจออกไปสู่ความรักและภูมิปัญญาของจิตวิญญาณของพวกคุณเองซะก่อน
และเมื่อใดที่ความรักนั้นเจริญเติบโตขึ้นภายใน “ศูนย์กลางหัวใจโซล่าร์”
(Solar Heart Center – ก็คือตรงจักระหัวใจ หรือ ตรงกลางทรวงอก ระดับเดียวกับหัวใจนั่นเอง – ผู้แปล)
ของพวกคุณได้แล้ว เมื่อนั้นปาฏิหาริย์ก็จะบังเกิดขึ้น

คือ ทวารแห่งหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณจะค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ และความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่กักเก็บอยู่ในนั้น
ก็จะหลั่งไหลออกมาและไหลบ่าไปทั่วทั้งร่างกายเนื้อของพวกคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ไหลบ่าไปทั่วระบบจักระทั้งระบบ เมื่อนั้น พวกคุณก็จะตระหนักรู้ว่า
พวกคุณคือประกายอันศักดิ์สิทธิ์ประกายหนึ่งของพระเจ้า ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา
(a Divine Spark of our Father/Mother God) และพวกคุณจะตระหนักรู้ว่า
พวกคุณคู่ควรกับความรักและความเคารพนับถือ รวมถึงคู่ควรกับความสุข, ความสวยงาม
และความเอื้ออารีทั้งหมดทั้งปวงของทุกสรรพสิ่งอีกด้วย

................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 6:


เมื่อความรักถูกแผ่ออกมาจากศูนย์กลางแห่งหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณแล้ว
จะทำให้เกิดกระแสการหลั่งไหลของความเชื่อมั่นในตัวเอง และการยอมรับนับถือตัวเองขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บุคคลใดที่วางใจจดจ่ออยู่ในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอยู่เสมอ จะเป็นคนที่ฝักใฝ่แต่ความร่วมมือร่วมใจกันอยู่เสมอ
และจะแผ่ความรู้สึกปิติสุขแห่งความสมานฉันท์และความปรองดองกันออกมามากขึ้น
ซึ่งความรู้สึกนี้ เป็นความรู้สึกที่ล้ำค่ามาก และจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อแท้ที่อยู่ภายในของพวกคุณเองได้

เมื่อพวกคุณสามารถเข้าถึงสายธารแห่งชีวิต/สายธารแห่งความรัก/สายธารแห่งแสงสว่างได้มากพอสมควรแล้ว
แล้วเมื่อนั้นพวกคุณก็จะมีกระแสธารแห่งแสงสว่างของพระผู้สร้างหลั่งไหลอยู่ภายใน
และหลั่งไหลอยู่ในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

แต่ว่า ก่อนที่พวกคุณจะสามารถสร้างสัมพันธภาพแห่งความรัก และ ความน่าพึงพอใจกับคนอื่นได้นั้น
พวกคุณจะต้องกลับไปเรียนรู้ใหม่เสียก่อนว่า จะสามารถรักและเคารพตัวเองได้อย่างไร

พวกคุณจะต้องเริ่มต้นจดจ่อหรือใส่ใจกับสิ่งที่ “ใช่ และ ถูกต้อง” ของตัวเองก่อน
แทนที่จะไปจดจ่อและใส่ใจอยู่แต่กับสิ่งที่ “ไม่ใช่และไม่ถูกต้อง” ของตัวเอง

พวกคุณจะต้องเริ่มต้นที่จะยอมรับฟังเสียงกระซิบจากจิตวิญญาณของตัวเอง
หรือญาณหยั่งรู้ของตัวเองเสียก่อน (ซึ่งมันจะค่อยๆดังขึ้นหรือชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อพวกคุณให้การยอมรับในภูมิปัญญาของมัน) เพราะว่ามันจะไปช่วยกระตุ้น,
ช่วยทำให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และช่วยทำให้พวกคุณ
มีความตระหนักรู้ถึงศักยภาพอันมากมายก่ายกองของตัวพวกคุณเองได้

พวกเราไม่ได้กำลังพูดถึงความรักแบบยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนอยู่หรอกนะ
แต่พวกเรากำลังพูดถึงความรู้สึกที่มั่นคงอยู่ลึกๆข้างในว่า เห็นคุณค่าในตัวเอง
และ มีความมั่นใจในตัวเองต่างหากหละ ซึ่งมันจะเกิดขึ้น ในขณะที่พวกคุณ
เริ่มต้นกระบวนการ กลับไปเชื่อมต่อกับเหลี่ยมมุมอื่นๆของตัวตนที่สูงส่งกว่าผู้รอบรู้
และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ของพวกคุณเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง


“ความรักอันศักดิ์สิทธิ์” (Divine Love) คือตัวตนแก่นแท้ของพระเจ้า ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา
ซึ่งมันจะหลั่งไหลออกมาในรูปแบบของกระแสพลังงานอันยิ่งใหญ่ ของ “เปลวไฟแห่งแสงสว่างสีขาว” (White Fire Light)
และมันก็เต็มไปด้วยศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด ในอันที่จะทำให้สามารถ
สนองความปราถนาที่จะมีประสบการณ์กับตัวมันเองมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้

และ “อนุภาคอะดาแมนทีน” (Adamantine Particle) แห่งแสงสว่างของพระผู้สร้าง
ก็จะไหลรินออกมาจากศูนย์กลางหัวใจของ “พระผู้สร้างสูงสุด” (Supreme Creator) มาสู่พวกเราได้
โดยผ่านทางพระเจ้าของจักรวาลนี้นั่นเอง (แต่ละจักรวาลมีพระเจ้าเป็นของตัวเอง ของใครของมัน
เพราะว่าพระเจ้าทั้งหลาย ได้รับมอบหมายจากพระผู้สร้างให้เป็นผู้สร้างจักรวาลแต่ละจักรวาล – ผู้แปล)

พลังงานแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์นี้ มันคือของขวัญอันประเสริฐสำหรับพวกเราทุกๆตัวตน และทุกๆระดับชั้น
ทั่วทั้งอาณาจักรแห่งการสรรสร้างนี้ ตั้งแต่ระดับที่สูงที่สุด และมีพลังอำนาจมากที่สุด
จนไปถึงระดับที่ต่ำที่สุด และกระจ่อยร่อยมากที่สุดด้วย

ดังนั้น พวกคุณจึงมีสิทธิโดยชอบธรรมมาตั้งแต่ถือกำเนิด ที่จะแสดงตัวตนอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ของตัวเองออกมาได้
โดยการทำหน้าที่เป็น “ผู้สร้างร่วม” (co-creator) กับพระเจ้า/พระผู้สร้าง ด้วยพลังแห่งความรัก
และด้วยความสอดคล้องกลมกลืนกับพิมพ์เขียวอันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Blueprint)
ที่มีความสอดคล้องกับโครงสร้างรวม (the Grand design) ของพระผู้สร้าง อย่างสมบูรณ์แบบอยู่เสมอด้วย

.............

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 7:


เพื่อนผู้กล้าหาญทั้งหลาย พวกคุณมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเองมากแค่ไหน?
สิ่งต่างๆที่พวกคุณสร้างสรรค์ขึ้นมา เป็นไปด้วยความรักมากน้อยแค่ไหน?
วิหารที่พวกคุณสร้างขึ้นมาสำหรับจิตวิญญาณของพวกคุณเอง เป็นวิหารแบบไหนกัน?
(คำว่าวิหารในที่นี้ น่าจะหมายถึง ร่างกายเนื้อของพวกเราเองนะครับ – ผู้แปล)

ระดับจิตของพวกคุณจะเขยิบเข้ามาใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นอีกนิดหนึ่ง
ถ้าพวกคุณสามารถสะสางความบิดเบือนหลักๆทั้งหลายในโลกของพวกคุณ ออกไปได้มากพอแล้ว
เพราะว่าตอนนี้พวกคุณกำลังเรียนรู้อยู่ว่า ความเชื่อมต่อระหว่างพวกคุณกับพระเจ้า
ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา ก็คือความสัมพันธ์แบบส่วนตัวมากๆอย่างหนึ่งด้วยเหมือนกัน

จริงๆแล้ว พวกคุณกำลังจะค้นพบว่า พวกคุณมีเหลี่ยมมุมของแก่นแท้แห่งพระเจ้า
อยู่ภายในศูนย์กลางหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเองนั่นเอง

(ปล.รูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย มักจะใช้คำว่า “เหลี่ยมมุม” (facet) หรือ “คุณลักษณะ” (attribute)
หรือ “ด้าน” (aspect) ในความหมายแบบนี้บ่อยๆ เพื่อต้องการสื่อว่า แก่นแท้ของจิตวิญญาณของมนุษย์เอง
ก็คือส่วนหนึ่งของพระเจ้า อะไรแบบนั้น แต่ไม่ใช่ “ส่วนหนึ่ง” ในแบบที่ถูกตัดแบ่งออกมา
อย่างที่พวกเราเข้าใจกัน แต่คือ “สำเนาหนึ่ง” หรือ “เหลี่ยมมุมหนึ่ง” ของชิ้นเดียวกันนั้นเลย มากกว่า
อะไรทำนองนั้นหนะครับ แม้ว่าอันที่จริงแล้ว พลังงานจะไม่มีลักษณะเป็นชิ้นๆ ที่จะสามารถมีเหลี่ยมมุม หรือมีด้านได้ก็ตาม – ผู้แปล)

ในระหว่างที่พวกคุณกำลังอยู่ในบทเรียนแห่งสัมพันธภาพที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่นี้
พวกคุณทั้งสองฝ่าย ก็จะแบ่งปันความรักแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้ให้แก่กันและกัน
ซึ่งได้แก่ ความรักแบบมีเงื่อนไข อันมีรากฐานมาจากร่างกายเนื้อที่มีความอยากและมี ego นี้
กับความรักอันศักดิ์สิทธิ์จากจิตวิญญาณของพวกคุณเอง ซึ่งจะเป็นแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า
ระดับ “การรู้แจ้ง” ของพวกคุณแต่ละฝ่ายมีมากน้อยแค่ไหนแล้วนั่นเอง

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็ตาม มันก็จะมีกระบวนการยึดเกาะเกิดขึ้นด้วยเสมอ
นั่นก็คือ หากในความสัมพันธ์ของพวกคุณ พวกคุณยอมให้สายใยแห่งพลังงานไปยึดเกาะกับ
“ศูนย์กลางพลังแห่งโซลาร์” (Solar Power Center – เป็นบริเวณส่วนกลางและบนของร่างกาย ที่ประกอบไปด้วย
จักระที่ 3, หัวใจ และ ต่อมไทมัสที่อยู่ตรงกลางทรวงอก ซึ่งก็คือจักระที่ 4 และตรงบริเวณจักระที่ 5 – ผู้แปล) ของพวกคุณเอง
แล้วก็ส่งสายใยพลังงานนี้ออกไปสู่คนอื่นๆด้วยหละก็ มันก็จะทำให้เกิดจังหวะของการผลักและดันกันเกิดขึ้น
ซึ่งเกิดจากการเสียสมดุลของคลื่นความถี่ได้

แต่ถ้าพวกคุณดำรงมั่นอยู่ในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอยู่เสมอ แล้วใช้ “ภูมิปัญญาของจิตอันศักดิ์สิทธิ์” ของตัวเอง
(Wisdom of your Sacred Mind) หละก็ พวกคุณก็จะสามารถแบ่งปัน “อนุภาคอะดาแมนทีนแห่งแสงสว่าง”
หรือ “อนุภาคพระเจ้า” ให้แก่ความสัมพันธ์นั้นได้ ซึ่งมันจะไปเปลี่ยนแปลงปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกันของพวกคุณไปอย่างสิ้นเชิง

.....................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 8:


รากฐานของความสัมพันธ์ใดๆก็ตามที่พวกคุณจะสร้างขึ้นในอนาคต
จะต้องมาจาก “ความเป็นจริง” (Truth) และ “ความซื่อสัตย์” (Integrity)

เพราะว่าจิตวิญญาณของพวกคุณเอง จะไม่ยอมรับสิ่งใดที่มีระดับความสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ต่ำกว่านั้นเลย
เพราะว่าความสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่เข้ากันได้นั้น คือตัวชี้วัดโดยธรรมชาติที่แท้จริงว่า
ความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดนั้นๆจะมีความเป็นไปได้หรือไม่นั่นเอง

อันดับแรก พวกคุณจะต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นซะก่อน
ยอมรับในสิ่งที่พวกคุณกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้นั่นแหละ
และพวกคุณก็จะต้องพยายามที่จะเป็นคนดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย
โดยการตรวจสอบทัศนคติ, ความเชื่อ, นิสัยใจคอ และจุดด้อยของตัวเอง


พวกคุณจะต้องเรียนรู้ว่า การที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวขึ้นกับผู้อื่นได้นั้น
อันดับแรกก็คือ จะต้องสร้างการยอมรับ และมีความรักอย่างลึกซึ้ง ให้กับตัวเองให้ได้ซะก่อน
จะต้องรักและยอมรับตัวเอง ในแบบที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้นี่แหละ ให้ได้ซะก่อน

จงจำคำพูดที่พวกเราเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า
“พวกคุณจะต้องรักตัวเองในแบบที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้
แต่ในขณะเดียวกัน พวกคุณก็จะต้องขวนขวายที่จะเป็นตัวเอง
ในแบบที่พวกคุณต้องการจะเป็นด้วย”

อันดับแรก พวกคุณจะต้องให้ความสนใจกับศักยภาพหรือความสามารถในการ “บรรจุความรัก” ของตัวเองซะก่อน
โดยการเพียรพยายามที่จะกลายเป็นสิ่งที่แผ่กระจายความรักออกไป และกลายเป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การได้รับความรัก
ให้มากขึ้นกว่านี้ไปอีก ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณก็จะตระหนักรู้ว่า “พวกคุณคือความรักที่อยู่ในร่างของมนุษย์”

และพวกคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องมีใครอื่นเลย ที่จะมาพิสูจน์ความจริงนี้ให้แก่พวกคุณ
และเมื่อพวกคุณสามารถเข้าถึงจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองได้แล้ว
และสามารถเข้าถึงบ่อน้ำพุแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายใน
“ประกายแห่งพระเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์” (Divine God Spark) ของตัวเองได้แล้ว
พวกคุณจะจดจำได้ว่า มันมีความรักและแสงสว่างให้แก่พวกคุณอยู่เสมอ อย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เพราะว่ามันคือมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณนั่นเอง

.....................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: The Hidden Secret of the Age

วันที่ : 29/5/12
ผู้รับสาส์น : นาง Ronna Herman

ที่มา:
The Hidden Secret Of The Ages > Ronna Herman

ตอนที่ 9:


และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถบรรลุถึง “การส่องสว่างทางจิตวิญญาณ” ได้แล้ว
เมื่อนั้นพวกคุณก็จะดำรงอยู่ภายนอกขอบเขตของคำว่า “ธรรมดาสามัญ”
ซึ่งเป็นขอบเขตที่เป็นสภาวะแห่งความเป็นจริงของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก
เมื่อนั้น หัวใจของพวกคุณ, จิตใจของพวกคุณ และอารมณ์ของพวกคุณ ก็จะมีแต่แสงสว่างล้วนๆ

และเพื่อที่จะทำให้สามารถรับและส่งพลังงานแห่งความรักได้ พวกคุณจะต้องนำเอาแผ่นกรอง
ที่พวกคุณได้กางกั้นเอาไว้รอบๆ Solar Power Center ของตัวเอง เมื่อนานมาแล้ว
เพื่อปกป้องตัวเองจากการทำร้ายของผู้อื่น ออกไปซะก่อน

พวกคุณจะต้องยินยอมให้ “เปลวเพลิง 3 ชั้นอันทรงมหิทธานุภาพ”
(the Mighty Three-fold Flame) เผาไหม้ และเปิดทวารแห่งหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองซะก่อน

ความรักคือสภาวะตามธรรมชาติ ที่มีพลังอำนาจสภาวะหนึ่ง และความรักอันบริสุทธิ์ และศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ (Spirit)
คืออารมณ์ชนิดหนึ่ง ที่ไม่สามารถถูกบิดเบือนโดยเงื่อนไขหรือการกระทำใดๆได้

ความรักมีมากมายหลายรูปแบบ และมีมากมายหลายความรู้สึกด้วย
เช่น ความรักแบบประณีตงดงาม และโรแมนติกระหว่างคู่รัก,
ความรักแบบอ่อนโยน และต้องการปกป้องของพ่อแม่,
และความรักแบบไว้วางใจของลูก เป็นต้น

ความรัก คือภาษาของวิญญาณ (Spirit) และมันก็คือวิธีการเดียว
ที่จะสามารถใช้สื่อสารกับพระเจ้า ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเราได้

ความรักของพระผู้สร้าง และของพระเจ้าผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรานั้น
คือความรักที่ครอบคลุมทุกๆรูปแบบของความรัก และคือความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดด้วย

ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน คือผลจากการปฏิเสธความรักที่พวกคุณเป็น
แต่เมื่อใดที่พวกคุณสามารถดำรงมั่นอยู่ภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองได้แล้ว
พวกคุณก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านความไม่สอดคล้องกันตัวหลักๆทั้งหมดนี้ได้

เมื่อใดที่พวกคุณดำรงอยู่ในความเป็นจริง (truth) ของตัวเองแล้ว
พวกคุณก็จะมีความมั่นใจในตนเอง และพวกคุณก็จะฝักใฝ่
ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นแต่ในทางที่ดี และด้วยความซื่อสัตย์เท่านั้น

และดังนั้น ที่รักทั้งหลาย พวกเราจึงอยากขอวิงวอนพวกคุณว่า
จงเปิดประตูหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณออกมา
เพื่อให้ตัวเองถูกเติมเต็มไปด้วย “น้ำทิพย์แห่งชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์”
(Divine Elixir of Life) ที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย
ของขวัญแห่งการมีชีวิตนิรันดร์นี้ กำลังรอคอยพวกคุณอยู่

จงรับรู้ไว้ว่า พวกเราอยู่ใกล้ๆพวกคุณ เพื่อนำทางพวกคุณ, ดลบันดาลใจให้พวกคุณ
และปกป้องพวกคุณอยู่ตลอดเวลา

I AM Archangel Michael


Transmitted through Ronna Herman * Copy freely and share.
However, I claim the universal copyright for this article in the name of Archangel Michael.

This message was originally posted here

...........................................

 

ARCHANGEL GABRIEL 2014
Daily Message –Sun, Feb 13, 2014
วันที่โพสท์ _Thu ,20/2/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

“ The quality of Love known as Loyalty “

เรามาทำความรู้จักกับ “ความรัก”ที่รู้จักกันในด้านของ”ความซื่อสัตย์”...
...คุณลักษณะในด้านนี้จะสามารถส่องผ่านไปยังแต่ละจิตวิญญาณ
ที่มีปฏิสัมพันธ์ร่วมอยู่กับผู้อื่นในชีวิตประจำวันของพวกเขา…
คุณลักษณะที่เห็นได้เด่นชัดจากปฏิสัมพันธ์นี้
ก็สืบเนื่องมาจาก"ความเต็มอกเต็มใจ"ในการแสดงออกของเหล่าปัจเจก
ด้วยการนำเสนอที่จะช่วยคนรอบข้างของพวกเขา
และกับภาระกิจที่พวกเขาต้องเกี่ยวข้อง
ซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะแสดงออกซึ่งความเป็นมิตรให้แก่ผู้อื่น...

คุณลักษณะนี้เป็นสิ่งที่เหล่าปัจเจกผู้ที่ใช้แง่มุมของ”ความรัก”
มาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารออกไปของพวกเขา
ซึ่งก็เป็นความเชื่อของเหล่าปัจเจก
ที่รู้แจ้งในคุณลักษณะของคำพูดและการกระทำของพวกเขา
เพื่อที่จะทะนุถนอมและรักษา“มิตรภาพ”ให้คงอยู่ตลอดไป
เพราะเหล่าปัจเจกล้วนรู้ดีว่า ”มิตรภาพ”นี้
จะเป็นสิ่งที่สามารถพึ่งพาได้เสมอตราบเท่าที่มัน ”ยังอยู่”...

คุณประโยชน์นี้จะพบเห็นมากที่สุดในความสัมพันธ์ของครอบครัว
ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกเขา
ซึ่งสมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างล้วนให้ความไว้วางใจ
และพร้อมจะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเสมอ
เพราะสมาชิกในครอบครัวต่างก็รู้ดีว่า
นี่คือหนึ่งในผู้ที่จะสลายอุปสรรคต่างๆ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายเพียงใด...
และคุณลักษณะของความรักนี้จะส่องผ่านเข้าไปในทุกๆกิจกรรม
ของปฏิสัมพันธ์ในสมาชิกครอบครัวและในหน้าที่ความรับผิดชอบ

และเมื่อแต่ละปัจเจกรู้ว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ทั้งหมดของครอบครัวพวกเขา
จะให้การสนับสนุน และเป็นกำลังใจ
ในยามที่พวกเขาต้องเคลื่อนไปสู่ความรับผิดชอบต่อโลกภายนอก
ก็จะทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงคุณค่าของ"การเชื่อมั่นในตนเอง"
ทั้งยังมีความสุขที่ได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นภารกิจของพันธสัญญาใดๆก็ตาม
“พวกเขามิได้โดดเดี่ยว”อีกต่อไป...

และในระหว่างที่เหล่าปัจเจกกำลังจัดการกับคุณลักษณะที่อยู่ภายในนี้
กลุ่มชนและผู้คนในกลุ่มต่างก็รู้ดีว่า...
สามารถให้ความไว้วางใจในหน้าที่และกิจกรรม
ที่ต้องใช้ความขยันหมั่นเพียรเพื่อความสำเร็จของงาน
ที่จะยังประโยชน์ที่ดีกว่าทั้งของสมาชิกและกลุ่มชนของเหล่าปัจเจกนี้...
ซึ่งผลสำเร็จอันยอดเยี่ยมมากมายของเหล่าปัจเจกหลายคน
ก็เพราะการรู้แจ้งในวิธีการนี้
และยังนำมาซึ่งประโยชน์แก่เหล่าปัจเจกทั้งหลายที่อยู่ในกลุ่มชนนั้น ๆ ด้วย
อีกทั้งยังได้ร่วมกันสร้างสัมพันธภาพในด้านดีให้เกิดขึ้น
และรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาได้รู้อยู่ภายใน
กับการที่สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มได้ลงมือทำอย่างเต็มที่
ด้วยการมีส่วนร่วมในเส้นทางแห่ง”ความรัก”
ซึ่งรวมไว้ในความตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา
จากพลังความร่วมมือร่วมใจของคนในกลุ่มที่เป็นไปในด้านดี
และเต็มไปด้วยความหมายของประสบการณ์นั้น ๆ
ที่มีต่อผู้คนทุกผู้ทุกนามในกลุ่ม...

คุณลักษณะของ”ความรัก”ที่รู้จักกันในด้านของ"ความซื่อสัตย์"นี้
ยังคงอยู่ในระบบความเชื่อของเหล่าปัจเจกทั้งหลาย
ตามที่พวกเขาได้กำหนดกับความเชื่อของพวกเขา
ว่าให้ตั้งอยู่บนฐานของ”ความซื่อสัตย์”
ซึ่งพวกเขาต้องการรู้แจ้งภายในด้วยตัวเขาเอง
และเหล่าปัจเจกก็จะใช้คุณลักษณะนี้ในการแสดงออก
และเปิดเผยสิ่งที่รู้แจ้งในชีวิตประจำวันของพวกเขา...
พวกเขาจะให้ความเคารพต่อความเชื่อมั่นของตัวเอง
ตราบเท่าที่ยังคงเป็นจริงกับพวกเขาในการเปิดแนวทางใหม่
ที่จะสามารถเคลื่อนไปสู่เส้นทางที่ดีกว่า
และเพื่อสิ่งที่ต้องการจะเป็นของพวกเขาบนโลกใบนี้...

ซึ่งในขั้นตอนนี้จะทำให้เหล่าปัจเจกจำนวนมาก
มีความเจริญก้าวหน้าในภูมิปัญญาและความรอบรู้
และ "บรรลุซึ่งภาวะที่สมบูรณ์"
ซึ่งเป็นทักษะที่สมบูรณ์ในขีดความสามารถและพรสวรรค์
ที่จะนำพาไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของ”กลุ่มปัจเจก” ต่อไป
ดังนั้น....พวกเขาก็จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการสร้างโลกที่ดีกว่า
ให้แก่เหล่าปัจเจกที่อยู่รอบๆตัวพวกเขาด้วย...

ถึงแม้ความรุ่มร้อนดั่งไฟต่องานและกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในกิจกรรมของพวกเขาเกิดขึ้นบ่อยครั้งในแต่ละวัน
แต่ความเชื่อในคุณลักษณะที่สูงกว่าซึ่งอยู่ภายในของพวกเขา
ซึ่งบัดนี้ได้ถูกส่งไปยังผู้คนรอบๆตัวพวกเขา
และยกระดับจิตวิญญาณของทุกคนที่ได้เข้ามาติดต่อสื่อสาร
จะช่วยทะนุถนอมให้คุณลักษณะของ”ความรัก”นี้
กับทุกสิ่งที่พวกเขาพูดและกระทำที่จะส่งผลต่อโลกใบนี้
...นั่นคือ "ความเมตตากรุณา"...
ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาได้เดินตามเส้นทางของคุณลักษณะนี้
ภายในความเป็นปัจเจกของพวกเขาเอง
เพื่อการอยู่ร่วมกันกับเหล่าสรรพสิ่ง...

และนี่ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดที่ถูกสร้างขึ้น
เพื่อการมีส่วนร่วมกับสภาพแวดล้อมของพวกเขาบนโลกใบนี้.......

"I remain ever your loyal companion."

I AM Archangel Gabriel

©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit,
copyright and websites are included.

 

มาอ่านทันเวลาพอดีเลย

 

ARCHANGEL GABRIEL 2014
April 10, 2014
วันที่โพสท์ _Mon ,14/4/2014
ผู้แปล: อจิตตะ
“ The quality of Love known as Inspiration “

เรามาทำความรู้จักกับ “ความรัก”ในด้านของ “แรงบันดาลใจ”
ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่จะยกระดับจิตใจ
แก่เหล่าปัจเจกทั้งหลายให้ขึ้นสู่ระนาบของความกระตือรือร้น
ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาได้สร้างสรรค์ข้อมูลใหม่ ๆ
ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบของศิลปะ ,ในด้านความรู้หรือวิธีการ
ที่จะสามารถทำให้โลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นี้
เป็นสถานที่ที่ดีกว่าที่เคยได้สัมผัสมาเก่าก่อน...

คุณลักษณะนี้ยังสามารถยกระดับจิตวิญญาณของผู้คนรอบตัวพวกเขา
ให้ขึ้นสู่ระนาบที่สูงกว่าที่พวกเขาสามารถเห็นได้
และสัมผัสสาระสำคัญของพระเจ้าได้ด้วยตัวของพวกเขาเองได้ด้วย...
โดยเริ่มจากความเข้าใจ ว่าตัวตนที่แท้จริงนี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด
และศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดในด้านการแสดงออก,
รวมทั้งการกระทำและคำพูดในชีวิตประจำวันของพวกเขา...
ทั้งที่พวกเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ที่มีต่อโลกโดยการใช้ชีวิตอยู่ในอีกสถานะหนึ่ง
ซึ่งนั่นก็เพื่อเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของการเปลี่ยนแปลงในด้านบวก
ได้เปิดใช้งานภายใน “หัวใจ” ของผู้คนทั่วไป...

หลายครั้งหลายครา ที่คุณลักษณะนี้ได้ถูกเปิดใช้งาน"เพื่อหัวใจของคนอื่น"
โดยการสร้างกระบวนการในการเติมเชื้อให้อย่างต่อเนื่อง
เพื่อทะนุบำรุงและค้ำจุนในสิ่งที่รู้ว่า มัน “จริง”
ด้วยรูปลักษณ์ภายในของตนเองที่มีการเชื่อมต่อกับพระเจ้า...
ซึ่งสิ่งที่รู้นี้จะสร้างสรรค์ความปรารถนาอย่างไม่สิ้นสุด
เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของการเชื่อมต่อที่มีต่อทุกสิ่ง
ว่าเป็นไปด้วยดี และเป็นจริงในชีวิตของแต่ละคน...
และเมื่อใดที่การเชื่อมต่อนี้มีความมั่นคงในจิตสำนึกของผู้หนึ่งผู้ใดแล้ว
เขาคนนั้นก็จะเป็นเสมือนท่อสำหรับการเคลื่อนตัวของภูมิปัญญาที่สูงกว่า
และให้”ความรู้แจ้ง” ได้ไหลผ่านพวกเขา...

...พวกเขาต่างก็ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาในชีวิตประจำวัน
เพื่อที่ทำให้พวกเขาได้ตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางของการสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีงาม
ที่ได้หลั่งไหลมาสู่ประสบการณ์ของพวกเขา
ซึ่งอานุภาพของคุณลักษณะนี้ของแต่ละปัจเจกนั้น
จะทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงหมู่ดวงดาว
และสามารถเลือกสถานที่ได้ถูกต้องทั้งบนโลกและจักรวาล
โดยที่พวกเขาจะปรับ(tune)จิตสำนึกให้ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
ทันทีที่เหล่ากิจกรรมทั้งหมดของพวกเขาได้ซึมผ่านเข้าไป...

เมื่อบุคคลใดมีการเชื่อมต่อไปยังระดับที่สูงกว่าของจิตสำนึก
พวกเขาก็จะสามารถทำงานร่วมกับพลังด้านบวก
ในรูปแบบของการสร้างสรรค์และพัฒนาด้านความคิด
ซึ่งเขาก็จะนำประโยชน์มหาศาลนั้นมาสู่ตนและผู้เป็นที่รักของเขา
รวมถึงกลุ่มหรือชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย

และคุณลักษณะของความกระตือรือร้นที่เรียกว่า “แรงบันดาลใจ”นี้
จะทำให้พวกเขาทำการจุดไฟคุณลักษณะนี้ให้เกิดขึ้นภายในจิตใจผู้คน
ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ก็จะเป็นการนำพาให้ผู้คน
ได้เดินไปตามทิศทางของคุณลักษณะที่สูงกว่าของพวกเขาเอง
ทั้งในด้านทักษะ ไหวพริบปฏิภาณ และความสามารถด้วย
ซึ่งเมื่อใดที่เหล่า”ปัจเจก”ต้องเลื่อนระดับด้วยการใช้คุณลักษณะนี้
ก็จะกระทำด้วยการกระตุ้นคุณลักษณะนี้
ที่มีอยู่ภายในของแต่ละบุคคลไปสู่แวดวงของพวกเขา
และก็ด้วยวิธีการนี้ ...การเคลื่อนตัวของพลังดีก็จะเกิดขึ้นในโลกได้
ก็มี “ปัจเจก”หลายท่านที่ได้รับผลจากการกระจายคุณลักษณะนี้ออกไป
ด้วยความกระตือรือร้นต่อเรื่องนี้อย่างเต็มกำลัง
ซึ่งนั่นก็ได้กลายเป็นพรอันประเสริฐสำหรับคนทั้งโลกด้วย...

โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องอยู่นี้
ทำให้การแสดงออกสู่ภายนอกเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นแก่เหล่า”ปัจเจก”
มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มคุณลักษณะนี้ให้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย...
เพราะนั่นคือส่วนหนึ่งของการบำรุงรักษา
และเสริมสร้างศักยภาพของ”ความรัก”
เพื่อช่วยค้ำจุนผลของการรวมตัวของเหล่าแสงสว่าง
ให้ได้ดูดซึมและหลอมรวมเข้าด้วยกันกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
ซึ่งแสงสว่างที่เพิ่มจำนวนขึ้นที่แต่ละ”ปัจเจก”ได้ถือครองไว้นั้น
ล้วนเป็นสิ่งที่ได้อำนวยพรให้แก่โลก
ให้แก่มวลมนุษยชาติที่มีการเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
โดยผ่าน”ความเป็นหนึ่งเดียวกัน”ของพวกเขา with All That is…
เพราะผลสะท้อนที่เกิดขึ้นในหนึ่ง”ปัจเจก”
ย่อมส่งผลสะท้อนต่ออาณาจักรที่ยิ่งใหญ่
ในจิตสำนึกของทุกผู้ทุกนามด้วยอย่างแน่นอน...

และนั่นก็คือความรับผิดชอบโดยธรรมชาติ
ที่แต่ละ “ปัจเจก”ได้แบกรับไว้เพื่อให้พวกเขาแน่ใจ
ว่าสิ่งที่ได้ใส่ลงไปในอาณาจักรของจิตสำนึกที่ยิ่งใหญ่นั้น
ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับทุกคน
ดังนั้น... โลกจะมีความสุขอย่างแท้จริงได้นั้น
ก็ด้วยการประพฤติปฏิบัติของแต่ละ”ปัจเจก” นั่นเอง...

เหล่า”ปัจเจก”ที่ได้ครองคุณลักษณะเหล่านี้ไว้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา
และยอมรับที่จะรับผิดชอบต่อการแสดงออกอย่างต่อเนื่อง
ก็จะกลายเป็นศูนย์รวมของความสมบูรณ์สูงสุดของพวกเขาในทุกสิ่งทุกอย่าง
พวกเขาจะเป็นผู้รู้ความจริงของธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
และเป็นผู้ “รู้แจ้ง”ที่สังคมในหมู่มวลมนุษย์ยอมรับ
ทั้งยังได้รับเกียรติอันสำคัญกับการมีส่วนร่วมในผลงาน
ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน
ซึ่งมีเขาเพียงผู้เดียวที่สามารถนำมาให้แก่โลกใบนี้ได้...
และการแสดงออกอย่างแท้จริงของพวกเขา
ที่ทุกคนต่างก็เป็นส่วนสำคัญของการมีส่วนร่วม
ที่ทำให้”ปัจเจก”เหล่านี้ต้องมาอยู่ที่นี่...บนโลกใบนี้และในเวลานี้...

ก็จะมีแต่พวกเขานี่แหละนะ...
ที่จะสามารถใช้คุณลักษณะของความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนนี้
มาก่อให้เกิดประโยชน์และอำนวยพรให้เกิดความสมบูรณ์ในชีวิต
กับ”เส้นทาง”ที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะทำได้...
และก็ไม่มี”ปัจเจก”คนไหนที่อาศัยอยู่บนโลกใน ณ.ขณะนี้
ที่ไม่สามารถขยายความช่วยเหลือในการปรับปรุงความสมบูรณ์ของชีวิตให้เกิดขึ้น...
...ดังนั้น การมุ่งเน้นไปที่ความสมบูรณ์จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ
เพื่อนำพาพลังงานที่ไม่ไหลหยุดนิ่งต่อการเลื่อนระดับของโลก
ไปสู่จิตสำนึกและการแสดงออกด้วยความหนักแน่น...

เอาละนะ...ฉันขอบอกให้คุณได้รับรู้ว่า ฉันได้จุดไฟคุณลักษณะนี้ให้แก่คุณแล้ว...
...และก็ขอให้คุณลักษณะนี้จงแทรกซึมเข้าสู่ทุกแง่มุมของชีวิต
ซึ่งเต็มไปด้วย”ความรัก”และ”แสงสว่างอันอบอุ่น”ของคุณนะ...

Archangel Gabriel

***ความรักที่มีเงื่อนไข > ไม่มีสุข***
***ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข > ไม่มีทุกข์ ***


http://www.therainbowscribe.com/archangelgabriel2014.htm
©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
and nothing has been changed, or altered in any way
and Scribe's credit, copyright and websites are included.