เกิดเหตุการณ์แปลกๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jitpapatsorn, 20 พฤศจิกายน 2013.

  1. jitpapatsorn

    jitpapatsorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +26
    นั่งเบาะหลังในรถกับเพื่อนร่วมงานหลายคน นั่งๆยอยู่ดีดีจิตมันนิ่งสงบ เหมือนหลับไป จึงปิดตาลง แต่รู้สึกตัวว่าหลับแต่หูได้ยินสิ่งที่เค้าคุยกันชัดเจนจับใจความได้ ดังบ้างเบาบ้างสลับกันไป แต่อีกใจนึงก็รู้ว่าตัวเองหลับอยู่ มันคืออะไรใครเคยเป็นบ้างค่ะ เป็นบ่อยด้วย
     
  2. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    หลับไม่สนิทน่ะครับ
    ไม่มีอะไรมาก
    ผมก็เป็นบ่อย
    หลับรู้ว่าหลับ แต่มันไม่ได้ฝัน
    และได้ยินเสียงรอบๆตัว
    รู้ว่าคุยกัน เป็นเืรื่องเป็นราว
    แต่ลืมตาตื่นขึ้น ก็จำไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไร
    จิตอยู่ในสภาวะลดการปรุงแต่ง
    คือรับรู้เฉยๆ ไม่ได้คิดตามหรือจดจำ
    อารมณ์สบายๆ จะว่าเหมือนเข้าฌานก็ไม่ผิด
    คิดว่าอาการนี้ต้องเคยพบกันทุกคน ไม่มีใครไม่เคย
    เพียงแต่อาจจะไม่ได้ใส่ใจเฉยๆ
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    " หมั่นภาวนา รักษาจิต "

    ดีนะที่ มองเห็นลายเซ็น ไม่งั้นคงปล่อยผ่าน

    สิ่งที่เกิดขึ้น หากเป็น นักภาวนาที่ มุ่งศึกษา พฤติจิต เพียรพิจารณา
    ธรรมชาติ ที่เรียกว่า จิต โดยไม่มุ่งไปฉกฉวยผลประโยชน์ จาก " จิต "
    ก็พอจะกล่าวธรรมให้ได้รับฟังได้

    แต่ถ้า คุณ พิจารณา จิต โดยมุ่งเอา ผล ประโยชน์จาก จิต เช่น ภาวนาวันนี้
    จิตดีจัง จิตรวม จิตฝุ้งซ่าน แล้วก็ ไปเอาคุณลักษณะของจิต ตามอาการดังกล่าว
    แล้วมานั่ง กระวนกระวาย หรือ ดีใจ กับ การเปลี่ยนแปลงของจิต ก็จะ ลำบาก
    และ ภาวนายากส์

    ต้องเกริ่นตรงนี้ก่อน เพราะ ลายเซ็นนั่น ระบุไว้ว่า " หมั่นภาวนา เพื่อรักษาจิต "

    ถ้า การรักษาจิต โดย เห็นจิตเป็นตน จิตเป็นของตน การภาวนา การฟังธรรม จะล้มเหลว

    แต่ถ้า คุณ

    รักษาจิต เพียงเพราะเห็นว่า จิต เป็น ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้เกี่ยวกับตน แต่หาก
    จิตได้รับการรักษาโดย ธรรม ผู้อบรมก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปตาม ปัจจัยการบางประการ
    แบบนี้ก็ โอ


    *********************************


    สิ่งที่เกิดขึ้น เรียกว่า " จิตตามเห็นความแปรปรวนอยู่เป็นประจำ " จนเกิดการ
    สละ สลัด คลาย ความแปรปรวนที่เกิดขึ้นกับจิต ละวางสิ่งที่เรียกว่า จิต

    แต่ เนื่องจาก จิต มันเป็น ธาตุปรมัตถ์ มันจึงไม่มี สิ่งอื่นยิ่งกว่า แม้นจะ ถอย
    ออกจากจิต ไม่เอาจิต แต่มันก็ ยังอยู่ที่จิต

    พูดในแง่ภาษา สมาธิ คือ " จิตรวม " แต่ ไม่ใช่ จิตรวมลงที่อารมณ์ (อารัมณูปณิชฌาณ)

    เป็นการ รวมจิตที่ยังอยู่ที่จิต ( ลักขณูปณิชฌาณ )

    หรือ

    เรียกว่า เกิดธรรมเอก เกิด ปฐมฌาณ จิตมีวิตกวิจาร ( จึงยังได้ยินเสียง แต่เป็น
    เสียงหนัก เบา ( รูปปรมัตถ์ ) เป็น กิจหลัก ไม่ใช่ เรื่องราวที่เขาเมาท์กัน )
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ ต้อง พยายามทำความเข้าใจ ปฏิปทา หรือ ขณะแห่ง มรรค ที่ จิตมันรวม

    ต้อง ย้ำให้มั่นใจว่า ไม่ได้เกิดจาก การจงใจ หรือ เจตนา จะรวม

    เพียงแต่ เกิดจากการใส่ใจ เห็น สภาพความแปรปรวนของโลกธรรมบางอย่าง

    พอจิตมันเรียนรู้ ความแปรปรวนว่ามันเป็นสภาพทุกขัง อนิจจัง หรือ อนัตตา ทำให้
    เกิดการ ถอยจากจิต(ที่แปรปรวน)มารวมอยู่ที่จิต(ประภัสสร)แต่ ยังเศร้าหมองเพราะ
    " วิตกวิจาร " เสียงสูงต่ำ ยังแทรกได้อยู่

    เนื่องจาก จิตมันรวมของมันเอง ไม่ได้เกิดจากเจตนา แต่ เกิดจาก การใส่ใจใน
    การพิจารณา " ไตรลักษณ์ " ลักษณะ ลงเป็น ขณะ ปัจจุบันธรรม เนืองๆ จน
    จิตมันสรุปการเห็น มันก็ พรากออกจากจิตที่วิจิตร(ที่แปรปรวน)

    ก็คล้ายๆ กับ มีไฟไหม้ชุมชน มีคนวิ่งไปมา วุ่นวาย หาก เจ้าของกระทู้ ยืนอยู่
    แถวนั้น จะเกิด จิตตั้งมั่น พิจาณาเห็น เขาวุ่นวาย เขาร้อนใจ แต่ ตัวเรากลับสงบ
    นิ่งถอยออกมาเป็นผู้ดู

    หากจิตผลิกไปเมตตา หรือ กรุณา ก็จะกระโดด เข้าไปเป็น โคตรภูบุคคล สัตบุรุษ
    คอย วินิจฉัย สั่งการ หรือ คอยสอดส่อง ความบกพร่อง และ อำนวยการ ตามวาสนา
    บารมี หาก บารมีไม่มี ร้องไปคนเขาก็ไม่ได้ยิน ดีไม่ดี ไล่ตะเพิด เอาได้

    แต่ถ้า เจ้าของกระทู้ น้อมจิตเข้าสู่ความสงบ เห็น รสของความสงบ ชนะ รสทั้งปวง

    จะเกิด การวิจัย วิตกวิจาร เป็นความเศร้าหมองของ จิต ได้อยู่ จิตยังแปรปรวน
    อยู่ ยกเห็น วิตกวิจารที่จิตยังเศร้าหมองอยู่ เพื่อยก ไตรลักษณ์ญาณ ขึ้นอีกชั้นหนึ่ง

    ผู้ภาวนาจะเห็น สภาพธรรมที่เรียกว่า ปิติ สุข เอกัคตา ได้ไม่มากก็น้อย

    ทีนี้

    หากต้องการ รักษาจิต อย่า ซื่อบื้อ เห็น ความสงบ สงัด เป็น รสธรรมที่ชนะรส
    ทั้งปวงเพียง ตื้นเขิน เบาปัญญา แค่นั้น

    จะต้อง น้อมจิตไปสู่ ญาณทัศนะ ( เห็น ความแปรปรวนของ ธาตุ อื่น ที่มียิ่งกว่า
    ให้เจอ เรียกว่า การรื้อค้น ซึ่ง มันจะอยู่ แถวๆ สิ่งที่ทำให้เกิด อุเบกขาธรรม
    การ ไปรวมอยู่ที่ อารมณ์ มันเข้ามาแทรก ทำให้ตกจากการภาวนา โดยไม่รู้ตัว )

    เมื่อยก เห็นความแปรปรวนใน สิ่งใด สิ่งหนึ่งเกิดดับเป็นธรรมดา ได้ ไม่มี สิ่งอื่นยิ่งกว่า
    ที่หลอกให้นิ่ง ก็จะ เข้าใจ ปฏิปทาของ " การรักษาจิต " ที่ หมุนไปตามปัจจัยการ
    ไม่ใช่ เพราะใครเก่ง ใครภาวนา ใครทำ ใครมี ใครได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เหมือนกับเข้า ฌาน 2
     
  6. jitpapatsorn

    jitpapatsorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +26
    สาธุทุกคำตอบค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...