เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

พี่ก้องลาพุทธภูมิแล้วหราครับ

 

เคยอธิฐานลาพุทธภูมิ ครับ ในตอนนั้นตั้งใจฝึกวิชา เพื่อละความปราถนาทั้งปวงเพื่อละความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง เพื่อต้องการฝึกอบรมจิตให้เข้าถึงสภาวะธรรมขั้นสูง
เมื่อทำตรงนั้นได้แล้ว ความเมตตาในจิตก็ยังปรากฏมีไม่เสื่อมสลายไปไหน แต่ความปราถนาเดิมที่เคยตั้งไว้คือปราถนาช่วยเหลือผู้อื่นก็มีมาก จิตของพี่เองก็รู้ตรงนี้ดี

ครั้งหนึ่งเจริญสมาธิ ท่านหลวงพ่อปานท่านมาโปรด กระผมก็เลยขอท่านเป็นลูกศิษย์ให้ท่านอบรมสั่งสอนในสมาธิ ท่านก็กล่าวเป็นปริศนาว่า ที่เคยลาพุทธภูมิไว้นั้นจะลาได้จริงหรือเปล่า
ท่านบอกว่าไม่ต้องตอบท่านหรอกแต่ให้ไปพิจารณาตนเองดู
กระผม ก็มาพิจารณาว่า ก็ได้อธิฐานไปแล้ว แต่จิตใจเราจะหนักแน่นแค่ไหน การปฏิบัติธรรมยิ่งๆขึ้นไปของเราจะช่วยให้เรา รู้ได้เอง ในที่สุดว่าเราตัดขาดให้จริงหรือไม่

ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนี้ สนใจแค่ปัจจุบันว่าควรปฏิบัติธรรมอย่างไร ดำรงชีวิตอย่างไร ให้ดีงามเกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นครับ

 

โมทนาบุญค่ะ

 

ท่ามกลางสถานะการณ์อันไม่สงบนี้ กระผมขอกล่าวแนะนำว่า

เราทั้งหลายล้วนเกิดมาและมีภาระหน้าที่ทั้งนั้นด้วยกันทั้งสิ้น
บางส่วนก็มีหน้าที่ต่อสู้กับความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นกับประเทศ บางส่วนก็เป็นผู้สนับสนุนอยู่ข้างหลัง บางส่วนก็วางตนเป็นกลาง บางส่วนก็ปล่อยวาง ไม่ข้องเกี่ยวใดๆ

ชาวไทยส่วนหนึ่ง เกิดมาเพื่อปกป้องประเทศ ชาวไทยส่วนหนึ่งเกิดมาก็เพื่อทำลายประเทศ ทำลายความเป็นไทย ชาวไทยส่วนหนึ่งเกิดมาเพื่อสร้างคุณความดีให้ประเทศชาติ

เราทุกคนล้วนมีหน้าที่ กระผมเชื่อว่าผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ย่อมระงับความไม่ดีภายในจิตของตนได้ ส่วนปัญญาภายนอก ปัญหาสังคม ประเทศชาติ กระผมก็เชื่อว่า แต่ละท่านย่อมรู้ในสภาวะและสถานะการณ์ต่างๆดีว่า ตนควรทำหน้าที่อย่างไร และจะไม่ไปก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกันอย่างไร เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว เพราะมีเหตุปัจจัยคือวิบากกรรมในอดีตฉุดรั้งไปและประกอบกับปัจจุบันกรรมของตนที่มี
ซึ่งควรต้องพิจารณาให้ดีแล้ว ว่า ตนควรทำหน้าที่ของตนอย่างไร เพื่ออะไร อย่างไร

สุดท้ายกระผมขออำนาจพระรัตนตรัยและสิ่งสํกดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดช่วยเหลือคุ้มครองรักษาคนดีทั้งหาลายให้แคล้วคลาดปลอดภัย
ส่วนผู้ที่ไม่ดีก็ขอให้ปลอดภัยและขอให้มีจิตใจ มีดวงตาเห็นธรรม เพื่อการกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและศาสนาพุทธของเราสืบไปครับ สาธุ

 

เมื่อไรเมืองไทยจะพ้นจากเหตุการณ์แบบนี้ พ้นบ่วงกรรม และก้าวไปสู่ฟ้าสีทองผ่องอำไรจริง ๆ ซักที ต้องรอกี่ปีค่ะ

 

อยากทราบเหมือนกันครับ

 

สวัสดีค่ะท่านtjsและพี่น้องทุกท่าน
1) จิต2 ฝ่ายของดิฉันสู้กันมาเกือบ2สัปดาห์ จิตหนึ่งบอกว่าจะงดไปบวชธุดงค์กับหลวงพ่อในปีนี้ เพราะงานทางโลกมารุมเร้า จนต้องคิดเล่นๆปลอบตัวเองให้ขำๆว่าเจ้ากรรมนายเวรเรื่องงานชอบมาพร้อมๆกัน แต่เช้านี้จิตอีกฝ่ายตัดสินใจเลือกทางสายกลางขอไปบวชธุดงค์ 3 วันแล้วกลับมาสู้กับงานต่อ มันเป็นวินาทีที่เห็นความต่างของจิตสุขและจิตทุกข์อย่างชัดเจน เห็นความไม่เที่ยงของทุกข์ ณ ขณะนั้น หลังจากนั้น จิตโปร่งเบาเมื่อตัดสินใจไปปฏิบัติธรรมพร้อมลูกสาวที่จะขาดเรียนเพื่อไปด้วยกัน
2) อันนี้เรียนถามขอความเมตตาค่ะ สัปดาห์ที่แล้ว คืนหนึ่ง ในช่วงราวตี 3-4 ไม่แน่ใจว่าฝันหรืออะไร แต่มีสติค่อนข้างชัด ในภาวะนั้น เหมื่อนมีใครมาบอกพระคาถา "มรณัง สุขัง อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ" หลังจากนั้น ดิฉันก็หลับต่อแต่จำได้แม่นยำเมื่อระลึกได้ประมาณช่วงกลางวันของวันรุ่งขึ้น ดูเหมือนต่างจากพระคาถาหลวงปู่โอภาโสตรงท่อนแรกใช่มั๊ยคะ สิ่งนี้หมายถึงการเตือนภัยหรืออะไรคะ แต่หลังจากนั้น ดิฉันก็ใช้พระคาถานี้เมื่อนึกขึ้นได้พร้อมกับนึกถึงสมเด็จพระองค์ปฐมปางนิพพาน
ขอบพระคุณค่ะ

 

สวัสดีค่ะท่านtjsและพี่น้องทุกท่าน
1) จิต2 ฝ่ายของดิฉันสู้กันมาเกือบ2สัปดาห์ จิตหนึ่งบอกว่าจะงดไปบวชธุดงค์กับหลวงพ่อในปีนี้ เพราะงานทางโลกมารุมเร้า จนต้องคิดเล่นๆปลอบตัวเองให้ขำๆว่าเจ้ากรรมนายเวรเรื่องงานชอบมาพร้อมๆกัน แต่เช้านี้จิตอีกฝ่ายตัดสินใจเลือกทางสายกลางขอไปบวชธุดงค์ 3 วันแล้วกลับมาสู้กับงานต่อ มันเป็นวินาทีที่เห็นความต่างของจิตสุขและจิตทุกข์อย่างชัดเจน เห็นความไม่เที่ยงของทุกข์ ณ ขณะนั้น หลังจากนั้น จิตโปร่งเบาเมื่อตัดสินใจไปปฏิบัติธรรมพร้อมลูกสาวที่จะขาดเรียนเพื่อไปด้วยกัน

วิธีคิดของคนเรา มองได้สองแบบ คือจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้าย หากเราคิดว่าเราอยากไปบวชพราหมอย่างแท้จริง คือเราก็จะกลับไปหาวิธีแก้ไขอุปสรรคทุกอย่างจนได้ไป หรือหากเราคิดว่าภาระการงานรุมเร้าเหลือเกิน เราก็จะเอางานไว้ การบวชก็จะเลื่อนไปก่อน ทั้งนี้ก็อยู่ที่เราตัดสินใจ แล้วแต่เหตุปัจจัยของแต่ละบุคคล หากเราตั้งใจและมีเป้าหมายชัดเจน ก็ต้องเลือกซ้ายหรือขวา เมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องดูว่าต้องทำอย่างไรต้องแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง หากทำได้แก้ไขได้ สิ่งที่เราตั้งไว้ก็สำเร็จครับ สุดท้ายจึงอยู่ที่กระบวนการหรือวิธีคิดของคุณที่คุณกำหนดมันขึ้นมาครับ

2) อันนี้เรียนถามขอความเมตตาค่ะ สัปดาห์ที่แล้ว คืนหนึ่ง ในช่วงราวตี 3-4 ไม่แน่ใจว่าฝันหรืออะไร แต่มีสติค่อนข้างชัด ในภาวะนั้น เหมื่อนมีใครมาบอกพระคาถา "มรณัง สุขัง อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ" หลังจากนั้น ดิฉันก็หลับต่อแต่จำได้แม่นยำเมื่อระลึกได้ประมาณช่วงกลางวันของวันรุ่งขึ้น ดูเหมือนต่างจากพระคาถาหลวงปู่โอภาโสตรงท่อนแรกใช่มั๊ยคะ สิ่งนี้หมายถึงการเตือนภัยหรืออะไรคะ แต่หลังจากนั้น ดิฉันก็ใช้พระคาถานี้เมื่อนึกขึ้นได้พร้อมกับนึกถึงสมเด็จพระองค์ปฐมปางนิพพาน
ขอบพระคุณค่ะ
ส่วนนี้ต้องขออนุโมทนาครับ เพราะนิมิตนี้เป็นนิมิตฝ่ายดี กระผมไม่ขอกล่าวว่า จริงหรือไม่จริง คุณย่อมรู้จริงที่สุดมากกว่าผมครับ แต่ความดีของนิมิตนี้ก็ปรากฏให้เห็นว่า พระคาถา ที่ปรากฏนั้น เป็นพระคาถาที่มีความหมายที่ดีมาก
"มรณัง สุขัง อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ"แปลว่า เหล่าพระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์ ต่างเป็นผู้รู้แจ้งแล้วว่า ความตาย หรือความดับไปแห่งขันธ์5นั้น คือความสุขที่แท้จริง อันเป็นความเข้าถึงความเป็นอรหันต์คือย่อมเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ครับ

พระคาถานี้ ใช้ได้ครอบคลุมจักรวาลครับ สาธุ

 

กราบขออบพระคุณท่านtjsค่ะ ดิฉันอธิษฐานกับสมเด็จพระองค์ปฐมให้ได้ไปปฎิบัติธรรมและดีใจที่มีเหตุปัจจัยเอื่อให้ทำได้แม้เวลาสั้นๆก็ตาม เรื่องพระคาถา ความหมายที่ท่าน tjsอนุเคราะห์เป็นความหมายที่เป็นมงคลมากเหลือเกิน ดิฉันจะท่องให้เป็นสติให้มากขึ้นค่ะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง

 

===============

ครับ ขออนุโมทนาครับ ขออวยพรให้คุณจงก้าวหน้าและเจริญในทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ ของเก่ามีกำลังพอสมควรครับ ทำต่อไปก็จะรู้ได้เอง ครับ สาธุ

 

-เรื่องการปฎิบัติธรรม ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยก้าวหน้าเลยค่ะ จะสวดมนต์ช่วงเช้า
ประมาณตี 5.45 น. แล้วนั่งสมาธิ 30 ชม.(ขาดบ้างเกินบ้าง) ดิฉันอยากให้
คุณ TJSช่วยตรวจดูให้หน่อยได้ไหมค่ะว่าดิฉันติดอะไร ตรงไหน มีสัญญากรรมอะไรกับใครไว้
แล้วตัวดิฉันมีน้องกุมารเทพมาอยู่ด้วยเปล่าค่ะ เคยฝันว่าเห็นตู้เครื่องราง ของขลังที่พ่อ
ได้เก็บสะสมไว้ แล้วมีน้องกุมารรูปร่างผอม พุงโล นุ่งโจงกระเบนแดง ยืนซึมอยู่ ก็เลยชวนมาอยู่กับพี่นะแล้วก็อุ้มเข้าเอวเลย พี่ตั้งชื่อให้ว่าจุกแก้ว แล้วก็เล่นกับน้องกุมารค่ะ
-อยากรบกวนช่วยดูคุณพ่อให้หน่อยนะค่ะชื่อ นายสุวรรณ ผดุงวิทย์ ว่าการที่หนูนั่งสวดมนต์นั่งสมาธิ ทำบุญให้เขาได้รับไหมค่ะ แล้วพ่อตอนนี้อยากได้อะไรอีกไหมค่ะ คิดถึงและรักพ่อมากแค่พิมพ์น้ำตาก็จะไหลแล้ว ขอบคุณในความกรุณาของคุณtjs มากนะค่ะ ขอให้คุณพบแต่ความสุขความเจริญนะค่ะ

 

พี่ก้องครับผมมีเรื่องถามดังนี้ครับ

กิเลสหยาบกับกิเลสละเอียดมีอะไรบ้างครับ

ขอเป็นแบบบ้านๆนะครับพี่ภาษาปริยัติผมไม่ค่อยเข้าใจครับ

 

เรื่องการปฎิบัติธรรม ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยก้าวหน้าเลยค่ะ จะสวดมนต์ช่วงเช้า
ประมาณตี 5.45 น. แล้วนั่งสมาธิ 30 ชม.(ขาดบ้างเกินบ้าง) ดิฉันอยากให้
คุณ TJSช่วยตรวจดูให้หน่อยได้ไหมค่ะว่าดิฉันติดอะไร ตรงไหน มีสัญญากรรมอะไรกับใครไว้

เราจะกล่าวว่าไม่ก้าวหน้าก็ไม่ใช่ แต่อย่างน้อยเราได้พยายามฝึกอบรม คือกายสงบ แต่จิตในสมาธิอาจจะมีสงบบ้างไม่สงบบ้าง มันเป็นธรรมชาติของจิต การที่จะฝึกให้จิตสงบ สมาธิเกิดแบบต่อเนื่อง จึงต้องอาศัยกาลเวลา อาศัยความพยายาม ทำต่อเนื่อง ตรงนี้ หากทำมาระดับหนึ่งแล้ว ก็จะแนะนำต่อว่า อย่างน้อยด้วยความที่เราสามารถรู้สภาวะจิตในสมาธิที่เราฝึกฝน นี่แหละคือส่วนที่จะทำให้เรา เห็นต่อได้ว่า ควรสร้างความสงบต่อเนื่องหรือทำสมาธิให้ต่อเนื่องได้อย่างไร การที่กายสงบลงแล้ว ที่เหลือจึงเป็นเรื่องของการตามดูจิตของตน เมื่อเราทำสมาธิเราจะเห็นธรรมชาติของจิตใจเรา นี่แหละคือปัญญา อย่างหนึ่ง ขอให้เราอย่าไปกังวลหรือคิดมากอะไร การฝึกจิต ต้องเข้าใจจุดที่สำคัญคือการที่เราต้องรู้ทันจิตเรา เมื่อเรารู้ทันตามทัน เราย่อมสามารถควบคุมจิตของเราได้ เมื่อเราทำได้ สมาธิเราก็เกิดต่อเนื่อง เมื่อสมาธิเกิดต่อเนื่อง ความสงบก็จะนำเราไปสู่สมาธิขั้นสูงต่อไป ครับ ผมแนะนำว่า ต่อไปให้ทำสมาธิเหมือนเดิม แต่ให้เปลี่ยนมาตามรู้จิตของตน รู้ว่าเวลากายสงบลง จิตเรามันสงบลงหรือไม่ มันยังวิ่งไปที่ใดบ้าง เพราะอะไร เราเห็นเหตุปัจจัยหรือไม่ แล้วเราจะดับมันหรือให้มันหยุดวิ่งไปไหลไปอย่างไร หรือเราจะใช้การบังคับหรือเราจะให้มันหยุดของมันเองได้อย่างไร
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ผมไม่ขอเจาะจงในเวลานี้ หากเมื่อคุณได้ทดลองทำต่อไปสักระยะหนึ่ง คุณจะทราบได้ด้วยจิตของคุณเอง ถึงตอนนั้นผมยินดีแนะนำต่อยอดให้คุณได้ครับ

แล้วตัวดิฉันมีน้องกุมารเทพมาอยู่ด้วยเปล่าค่ะ เคยฝันว่าเห็นตู้เครื่องราง ของขลังที่พ่อ
ได้เก็บสะสมไว้ แล้วมีน้องกุมารรูปร่างผอม พุงโล นุ่งโจงกระเบนแดง ยืนซึมอยู่ ก็เลยชวนมาอยู่กับพี่นะแล้วก็อุ้มเข้าเอวเลย พี่ตั้งชื่อให้ว่าจุกแก้ว แล้วก็เล่นกับน้องกุมารค่ะ
ใช่ครับ เดิมกุมารจะอยู่กับคุณพ่อ และเมื่อคุณพ่อเสียชีวิต จึงไม่มีใครดูแล ด้วยความที่คุณใกล้ชิดกัน จึงมีสายใยผูกพันกัน กุมารตนนี้จึงขอพึ่งบารมีคุณช่วยเหลือดูแลเขาด้วยครับ ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวหรือยากเกินกว่าความดีที่เราทำๆอยู่แล้วครับ ด้วย ทาน ศีล ภาวนาที่คุณมี บุญกุศลก็มากพอครับสำหรับแผ่อุทิศให้กุมารครับ

-อยากรบกวนช่วยดูคุณพ่อให้หน่อยนะค่ะชื่อ นายสุวรรณ ผดุงวิทย์ ว่าการที่หนูนั่งสวดมนต์นั่งสมาธิ ทำบุญให้เขาได้รับไหมค่ะ แล้วพ่อตอนนี้อยากได้อะไรอีกไหมค่ะ คิดถึงและรักพ่อมากแค่พิมพ์น้ำตาก็จะไหลแล้ว ขอบคุณในความกรุณาของคุณtjs มากนะค่ะ ขอให้คุณพบแต่ความสุขความเจริญนะค่ะ

คุณพ่อคุณท่านมีปัญหาเรื่องของร่างกาย สุขภาพไม่ดีมีอุบัติเหตุจากกรรมเก่าและกรรมในปัจจุบันที่ท่านทำไว้ ท่านเป็นชายผิวสองสีออกเหลืองน้ำตาลหรือดำแดงประมาณนี้ รูปร่างเล็กไม่สูงไม่อ้วนแต่ดูซูปผอม ใบหน้าเป็นรูปเหลี่ยมลงมาคางแหลม ผมขาวแซมดำ ท่านมีบุญเก่าและกรรมเก่าครับ แต่ท่านไม่ได้ตกนรกนะครับ ท่านอยู่ในชั้นจาตุมครับ ส่วนบุญกุศลที่อุทิศให้ไปนั้นท่านได้รับเสมอครับ คุณพ่อคุณรักคุณมากครับ ขอให้ปฏิบัติดีนะครับ สาธุ

 

ขอบคุณมากๆคะ สำหรับคำแนะนำจะนำไปปฎิบัติ ถ้าก้าวหน้าหรือติดขัด คงจะต้องขอรบกวนคุณะtjs อีกครั้งค่ะ

 

รบกวนคุณก้องค่ะ

1. แต่ก่อนเคยนับถือคริสต์ค่ะ แต่พอได้อ่านหนังสือธรรมะแล้วชอบมาก เคยลองฝึกทำสมาธิด้วยพุทโธแล้ว เหมือนวูบไปแล้วถูกกระชากกลับ จนตกเตียงเลยค่ะ ตอนนี้เข้าวัดขอฝากตัวเป็นพุทธ แล้วตั้งใจปฏิบัติโดยฝึกจากวัดอัมพวัน แล้วก็เลิกไป ตอนนี้มาศึกษาและสนใจแนวทางปฏิบัติของหลวงพ่อฤาษี แต่เหมือนไม่ก้าวหน้า สับสนมาก ทำยังไงดีค๊ะ
2. เคยโดนผีอำ วิ่งเข้ามาจับแขนแล้วนั่งทับ ตกใจมากนึกบทสวดไม่ออก สวดแต่บทสวดทางศาสนาคริสต์ แต่เค้าไม่ปล่อยจนนึกได้ตั้งนโมแล้วไป ไม่ทราบว่ามาจากไหน เพราะไม่เคยเจอเลยตอนที่เป็นคริสต์ แล้วหมายความว่ายังไง ต้องทำยังไง ตอนนี้พยายามใส่บาตร ทำบุญ กรวดน้ำค่ะ
3. เคยดูหมอแล้วมีคนทักว่ามีองค์ค่ะ อยากทราบว่าองค์ไหน แล้วต้องทำยังไงบ้างค๊ะ
4. ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนจับขาข้างซ้ายค่ะ กับกดไหล่ขวาค่ะ มีอะไรรึเปล่าค๊ะ หรืออุปปาทาน
5. ไม่กี่วันนี้ฟังการสอนทำมโนยิทธิ แล้วลองทำตาม พอออกสมาธิสักพัก มีเสียงเคาะกระจกเรียก ไม่ทราบว่าเค้าต้องการอะไร นึกเห็นเป็นตาแปะแก่นุ่งขาวค่ะ ต้องทำไงค๊ะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าและขออภัยถ้ารบกวนมากไป เพราะไม่มีใครสอนค่ะ ตั้งแต่เล็กก็เรียนแต่ทางคริสต์มาตลอด ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ทำตามหนังสือหรือศึกษาตามเว็ปค่ะ มีแต่ตัวสงสัยเต็มไปหมดเลยค่ะ รบกวนค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณด้วยค่ะ ที่ช่วยเหลือในครั้งนี้

 

สวัสดีค่ะ

เพิ่งเข้ามาเยี่ยมหน้านี้ค่ะ
ขอมีส่วนร่วมในแวดวงของคุณด้วยคนนะคะ

 

===========

ผมขออธิบายแบบง่ายๆอย่างนี้ว่า กิเลส ก็คือ โลภ โกรธ หลง นี่แหละ แต่ที่บอกว่า หยาบ ปานกลาง ละเอียด เราแบ่งตามการเข้าไปสัมผัสรู้ด้วยจิต
คำว่ากิเลสอย่างหยาบจึงหมายถึง กิเลสโลภ โกรธ หลง ที่สามารถสัมผัสรู้ หรือเกิดปรากฏให้เห็นได้ง่าย คือมันอาศัยกระทบอยู่กับกายเป็นหลัก เช่น ตาเห็นรูปสวยก็พอใจชอบทันที ลิ้นชิมอาหารอร่อยก็ชอบใจทันที คือมันกระทบกายแล้วมันปรุงแต่งเกิดปรากฏทันที สามารถรับรู้ได้ง่าย

กิเลสอย่างปานกลาง ส่วนนี้ก็อาศัยอยู่กับกายเป็นสื่อ ได้แก่เวทนาทั้งหลาย คือต้องอาศัยการสัมผัสกระทบกายที่มากพอจึงเกิดการรับรู้ปรุงแต่งขึ้นมา เช่นเรานั่งแบบเดิม นานๆ ก็เกิดเวทนา คือกายมันทนในสภาพเช่นนั้นไม่ได้ คือกายมีสภาพปวดเมื่อยล้า เมื่อเวทนาเกิดแล้ว กิเลสก็ปรุงแต่งจิตบอกว่า ไม่อยากนั่งอยู่แบบนี้ ไม่พอใจไม่มีความสบายกายสบายใจ เป็นต้นครับ

กิเลสอย่างละเอียด คือกิเลสที่อาศัยอยู่กับนามธรรม อันได้แก่กิเลสที่อาศัย อยู่กับสัญญาอันได้แก่ สัญญาฝ่ายดีฝ่ายไม่ดีเป็นต้น รวมทั้ง สังขาร และจิตวิญญาณของเรา ส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องด้วยการสัมผัสกระทบกาย กิเลสส่วนนี้ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่ แต่กิเลสอย่างละเอียดตัวนี้จะปรากฏก็ต่อเมื่อมีอะไรไปกระทบจิตอย่างรุนแรงจึงปรากฏ หรืออาศัยการเจริญสมถะและวิปัสสนา ทำให้เกิดสมาธิจนกายสงบนิ่ง จึงเห็นการเคลื่อนไหวเห็นการทำงานของจิต จึงสามารถเห็นกิเลสอย่างละเอียดได้ครับ

ดังนั้นกิเลสอย่างละเอียด จึงเป็นส่วนที่อยู่ภายในจึงมองเห็นหรือเข้าไปรู้ได้ยาก กิเลสตัวนี้จึงเป็นสิ่งที่อันตรายมากเพราะก่อให้เกิดความหลงผิดหรือเกิดมิจฉาทิฏฐิ หลงผิดได้เพราะยังขาดปัญญาชั้นสูงที่ยังไปไม่ถึงนั่นเองครับ

ดังนั้น การขัดเกลากิเลสจึงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปโดยการเจริญสมาธินั้นจึงเป็นวิธีการที่สำคัญที่สุดที่ต้องปฏิบัติให้ได้ปฏิบัติให้เป็นเพื่อการชำระกิเลสได้หมดสิ้นนั่นเองครับ สาธุ

 

ขอบคุณครับพี่ตอนนี้ฝึกจิตเกาะพระเห็นภาพพระเป็นแก้วใสแล้วครับประมาณฌาน3แล้วมั้งครับพี่(ฌานลืมตา)จิตผมดีขึ้นมากครับทรงฌานลืมตาอ่านธรรมมะอะไรก็เข้าใจไปหมดครับ

ตอนนี้เจอแค่หยาบกับปานกลางครับ

กายมีสภาพปวดเมื่อยล้า เมื่อเวทนาเกิดแล้ว กิเลสก็ปรุงแต่งจิตบอกว่า ไม่อยากนั่งอยู่แบบนี้ ไม่พอใจไม่มีความสบายกายสบายใจ เป็นต้นครับแล้วเราจะพิจรณายังไงครับพี่แค่ใช้สติตามรู้หราครับประมาณว่าเมื่่อย ทุกข์ ใช่ไหมครับพี่แนะนำด้วย

ครับเพิ่มเติมอีกนิดครับพี่อารมณ์ฌานโลกีย์กับฌานโลกุตระแตกต่างกันอย่างไรครับพี่

ขอบคุณครับพี่

 

คุณtjsคะ
รบกวนช่วยดูหมาของดิฉันด้วยนะคะเขาตายเมื่อ28ธค53รูปของเขา
ในหน้าต่างของดิฉันนี่แหละค่ะเขาเป็นไงบ้าง
หากเป็นการมิบังควรที่สอบถามเรื่องนี้ก้อ ขอ อภัยด้วยค่ะ

 

_____________
กราบนำบุญแด่ท่าน tjsและพี่น้องในกระทู้ทุกท่านค่ะ

ดิฉันและลูกสาวกลับจากบวชพราหมณ์ที่วัดหลวงพ่อแล้ว ขอให้ทุกท่านพบปลายทางการปฏิบัติทั่วกันค่ะ ขอบพระคุณท่าน tjsสำหรับคำอวยพรที่เป็นมงคลยิ่งต่อการปฏิบัติของดิฉัน ตอนอยูที่วัดได้ฟังเทปธรรมะเสียงตามสายก่อนเข้านอนของหลวงพ่อได้สอนเกี่ยวกับการพัฒนาจากฌานสู่ฌาน ดิฉันตรวจสอบตามและรับรู้ได้ว่าการปฏิบัติก้าวหน้าขึ้นค่ะ ปิติตัวโยกเริ่มสงบลง แต่มีปิติตังใหม่ในบางครั้ง คือรู้สึกชาที่ใบหน้า หน้าใหญ่ ปากใหญ่ แต่ใจกายโปร่งเบา แต่จิตที่ปราถนานิพพานคือจิตเหนืออื่นใด ขอนำบุญให้ทุกท่านนะคะ

กราบขอบพระคุณท่านtjsมากค่ะ