ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ขอโทษครับ นิ้วไปโดนปุ่มไม่เห็นด้วย ไม่ได้ตั้งใจครับ

 

จะมีเผาเปล่าเนี่ยะ!!!

 

ด่วน!!!!อธิบดีDSIประกาศจับเเหลก ถ้าเป่านกหวีดให้เจ้าพนักงาน
ตกใจ
เน้นว่า จับไม่ไว้หน้า

 

จัดเป็นคดีพิเศษ ตามอำนาจหน้าที่วองDSI

 

ทางด้านกลุ่มผู้ค้านกหวีดชื่อถูกกลั่นเเกล้ง
เเต่มั่นใจยอดขายไม่ตก!!!

 

วันนี้ฉันฟังไม่เห็นมีใครยุให้คนในม๊อบไปตีใครมีแต่ให้สงบไม่ไปทำเรื่องให้อดทนต่อการยั่วยุไม่เห็นว่าให้ไปตีใครไม่เหมือนสมัยหนึ่งที่ผู้นำม๊อบประกาศให้เอาน้ำมันมาจะเผาบ้านเผาเมืองแล้วยังได้ดีเป็นรัฐมณตรีช่วย

 

รองเท้าผ้าใบ กับ ใจถึงๆ.....

ส่วนผม...

ใจถึงเกิน100...

ร้องเท้าผ้าใบ ไม่ต้อง

รองเท้าแตะก็พอ...

และอย่าว่าแต่รองเท้าแตะเลยพวก

ตีนเปล่าก็ยังได้....

ขอแค่มีใจ ก็เกินพอ...

 

"มวลชนปฏิวัติ"มีความสุกงอมและมีความคิดที่
ก้าวหน้าแบบสุดๆ ในวันนี้
(ที่ 2521122556)
หลังจากจ่อมจมอยู่กับพรรคการเมืองใหญ่
ที่เป็นตำนานของชาติไทยแต่ นโยบายสุดจะ
ล้าหลังมาร่วมศตวรรษ

ต่อมาเจอพรรคการเมืองที่เปลี่ยนชื่อหลายครั้ง
คนไทยจึงมีความหวังอย่างยิ่ง
ว่าเมืองไทยจะก้าวรุดหน้า เมื่อได้เจอ
พรรคการเมืองในฝัน ที่จะนำพาประเทศ
ให้พ้นวังวนน้ำเน่าของพรรคการเมืองใหญ่ไดโนเสาร์

ที่ไหนได้กลายเป็นพรรคการเมืองที่เกิดมาเพื่อล้างผลาญ
และต้มตุ๋นคนไทยสุดที่หาพรรคการเมืองใดๆ ทัดเทียมได้
ในโลก

การปฏิวัติประชาชน โดยประชาชน เพียงแต่ยืมมือ
นักการเมืองจากพรรคการเมืองใหญ่ไดโน-ล้าหลัง
ให้มาเรียกแขกและนำมวลชน
เพื่อให้งานยึดคืนอำนาจของประชาชน กลับสู่ประชาชน
จึงเกิดขึ้น....
เป็นสุดยอดแห่งขบวนการที่ชอบธรรมและแยบยลแล้ว

เพื่อเป็นการผ่อนแรงของประชาชน
และลดความสุ่มเสี่ยง จากการถูกกระทืบ
จากกองกำลังของฝ่ายรัฐบาล
ซึ่งประชาธิปัตย์มีเครดิตและเล่นบทบาท
การนำได้อย่างไม่ทำให้ประชาชน
และรัฐบาลต้องผิดหวัง

วันนี้ ประชาชนมองเห็นชัยชนะอยู่ไม่ไกลแล้ว
เพราะยุทธวิธีในการดำเนินการยึดอำนาจคืน
เป็นไปตามแผนและไม่มีการสูญสียใด ๆ
ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพราะสิ่งศักดิ์อำนวยความสะดวก
หลายประการ เช่น ดูจาก บรรยากาศเหมาะ กำลังฝ่ายรัฐกำลัง
เอ๋อ หรือประมาทพลังมวลชนไม่ทราบ เลยตั้งรับไม่ค่อยทันเหตุการณ์

เชื่อได้เลยว่า อาการตกตลึงของฝ่ายรัฐบาล
จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องจน
ฝ่ายประชาชนยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จ!!!

จึงจะหายตกตลึง!!!!

 

ทางการอิเหนายกระดับเตือนภัยภูเขาไฟ “ซินาบุง” สู่ระดับสูงสุด ปชช.เรือนหมื่นต้องอพยพหนีตาย​

​

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการอินโดนีเซียประกาศในวันอาทิตย์ (24) เพิ่มระดับการเตือนภัยการปะทุของภูเขาไฟ “ซินาบุง” บนเกาะสุมาตราขึ้นสู่ระดับสูงสุด หลังจากที่ภูเขาไฟในจังหวัดสุมาตราเหนือซึ่งมีความสูงกว่า 2,460 เมตร (8,071 ฟุต) ลูกนี้ เกิดการปะทุครั้งใหม่ที่มีการปล่อยเถ้าถ่านและเศษหินขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นความสูงหลายกิโลเมตร

รายงานข่าวซึ่งอ้าง ซูโรโน ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟวิทยาของรัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า ทางการมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มระดับการเตือนภัยการปะทุของภูเขาไฟซินาบุงขึ้นสู่ระดับสูงสุด เนื่องจากสถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟลูกดังกล่าวที่เกิดการปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา เริ่มเข้าสู่ระดับอันตรายที่สุดในรอบกว่า 3 ปี

ซูโรโนยังเผยว่า ทางการอินโดนีเซียจำเป็นต้องประกาศเตือนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่ห่างจากภูเขาไฟซินาบุงอย่างน้อย 3 ไมล์ (ราว 4.8 กิโลเมตร) จากปากปล่องภูเขาไฟ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ด้านซูโปโต ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียออกมาเปิดเผยว่า ทางการได้สั่งอพยพประชาชนราว 12,300 คนจากพื้นที่ 8 หมู่บ้านโดยรอบภูเขาไฟซินาบุงในวันอาทิตย์ (24) โดยก่อนหน้านี้ประชาชนมากกว่า 6,000 คนได้อพยพออกนอกพื้นที่ไปพักอาศัยยังค่ายพักพิงชั่วคราวกว่า 16 แห่ง

ขณะที่บัมบัง เออร์วาน โฆษกกระทรวงคมนาคมแถลงว่า บรรดาสายการบินต่างได้รับแจ้งให้หลีกเลี่ยงเส้นทางบินที่อยู่ใกล้เคียงกับภูเขาไฟซินาบุงในช่วง 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า

ภูเขาไฟซินาบุงเกิดการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2010 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 2 คน ส่วนอีกราว 30,000 คนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ โดยภูเขาไฟซินาบุงถือเป็นหนึ่งในภูเขาราว 129 ลูกที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ในอินโดนีเซีย

​

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2556 23:09 น.

ที่มา www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000146034

 

แผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก​

​

หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ 25 พ.ย.- ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้

รายงานของศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ห่างจากเมืองสแตนลีย์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 314 กม. และลึกลงไป 10 กม. เมื่อเวลาประมาณ 13.27 น. ตามเวลาในไทย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายและผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต.

สำนักข่าวไทย TNA News | 25 พ.ย. 2556 16:05 |

พายุฤดูหนาวคร่าชีวิตประชาชน 13 คนในสหรัฐ​

​

ชิคาโก 25 พ.ย. - สื่อสหรัฐรายงานว่า พายุฤดูหนาวซึ่งทำให้เกิดฝนและหิมะตกในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 คนใน 5 รัฐ

สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรัฐโอคลาโฮมาว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนจากอุบัติเหตุรถชนกันในรัฐโอคลาโฮมา ส่วนอีก 4 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุ 2 ระลอกในรัฐเทกซัส และเด็กวัย 4 ปีเสียชีวิตหลังจากรถยนต์ที่เธอโดยสารมาพลิกคว่ำในรัฐนิวเม็กซิโก

ส่วนในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งถูกพายุลูกดังกล่าวพัดกระหน่ำเป็นแห่งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 3 คน รายแรกเสียชีวิตจากสายไฟฟ้าที่ขาดและร่วงหล่นลงมา ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตจากเหตุต้นไม้หักโค่นลงมาทับรถที่จอดอยู่ และรายที่ 3 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และในรัฐแอริโซนามีชาย 1 คนถูกน้ำท่วม ซึ่งเกิดจากพายุพัดพาไปในแม่น้ำซานตาครูซ และเจ้าหน้าที่กู้ศพของเขาขึ้นมาได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า คาดว่าพายุฤดูหนาวลูกนี้จะยังคงเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกตลอดช่วงหลายวันข้างหน้า ขณะที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลายสิบล้านคนเดินทางบนท้องถนนหรือออกมาเล่นสกีก่อนวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

นักอุตุนิยมวิทยาระบุบนเว็บไซต์ Accuweather.com ว่า คาดว่าพายุฤดูหนาวลูกนี้จะทำให้มีหิมะตกหนักในแถบเทือกเขาแอปพาเลเชียนและรัฐนิวอิงแลนด์ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือภายในวันพุธที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในวันที่ประชาชนในสหรัฐนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดของปี นอกจากนี้อิทธิพลพายุที่ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ทางใต้ยังอาจเป็นอุปสรรคต่อการจราจรทางถนนและการจราจรทางอากาศ ทั้งนี้ สมาคมรถยนต์ของสหรัฐคาดว่าประชาชนกว่า 43 ล้านคนจะออกเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้.

สำนักข่าวไทย TNA News | 25 พ.ย. 2556 16:26 |

ซาอุดีอาระเบียมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเมอร์สเพิ่มเป็น 55 ราย​

​

ริยาด 24 พ.ย. - กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ประกาศมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากไวรัสเมอร์ส ทำให้ยอดรวมมีจำนวน 55 รายแล้ว

เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า ชายชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 37 ปี เสียชีวิตที่กรุงริยาด องค์การอนามัยโลก ระบุรายงานยืนยันจากห้องปฏิบัติการทดลอง มีผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส 155 รายทั่วโลก เสียชีวิตแล้ว 64 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุต้นตอที่แน่ชัดได้และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ไวรัสเมอร์สจัดว่าอันตรายถึงชีวิตมากกว่า แต่มีโอกาสแพร่เชื้อได้น้อยกว่าไวรัสซาร์ส ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกันที่ระบาดในเอเชีย เมื่อปี 2546 และมีผู้ติดเชื้อ 8,273 ราย.

สำนักข่าวไทย TNA News | 24 พ.ย. 2556 19:26 |

พาเหรดซอมบี้บุกเม็กซิโกร่วมฉลองเทศกาลแห่งคนตาย​

​

เม็กซิโกซิตี 24 พ.ย.- บรรดาชาวเม็กซิโกมากกว่า 7,000 คนต่างแต่งกายในชุดผีดิบ หรือ ซอมบี้ เพื่อเข้าร่วมขบวนพาเหรดบนท้องถนนในกรุงเม็กซิโกซิตี้ พาเหรดครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกซึ่งมีชื่อว่า “ซอมบี้ วอล์ก” อีกทั้งยังเพื่อร่วมรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตไป

ผู้เข้าร่วมงานต่างพยายามสรรสร้างความหลอนและความน่ากลัวอย่างสุดความสามารถ โดยมีทั้งหน้ากาก เลือดปลอม และการแต่งหน้าเอฟเฟกต์ ทั้งนี้ วันแห่งคนตายของประเทศเม็กซิโกในเดือนพฤศจิกายนถือเป็นหนึ่งในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดงานหนึ่ง ตามประเพณีดั้งเดิมนั้นชาวเม็กซิโกจะแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับด้วยการจัดงานเลี้ยงบริเวณด้านข้างหลุมฝังศพของผู้ตาย ขณะที่การแต่งกายเป็นโครงกระดูกหรือผีดิบซอมบี้เพิ่งจะมีเข้ามาในระยะหลัง.

สำนักข่าวไทย TNA News | 24 พ.ย. 2556 10:42 |

ที่มา MCOT.net - Site | MCOT.net

 

ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติจัดสรร !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=qr-u-dx5X90]106 - ANSWERS OF AN ALIEN FROM ANDROMEDA Nibiru and Events - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=amH3o3zhmHw&feature=em-uploademail&noredirect=1]107 - ANSWERS OF AN ALIEN FROM ANDROMEDA Nibiru and Events - YouTube[/ame]
PShinex สมาชิก

captain Bills 106 การปรับความถี่ของโลกครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ level 1
ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติจัดสรร

Nirvana สมาชิก

รายการนี้....ตัวใคร ตัวมัน ล่ะ....โยม
เหตุการณ์มาถึงฉากสุดท้ายแล้ว ครับ

นี่เป็นครั้งแรกที่ CB ออกคลิปห่างกันแค่สัปดาห์เดียว
ตั้งแต่ที่โพสต์มาทั้งหมดกว่า 2 ปี

มิตรรักแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามมาตลอด
ก็คงพอจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เพราะสัญญานงวดนี้ค่อนข้างแรง....สุดสุด

May force be with you

bluejet สมาชิก

ผมคิดว่า อาจจะเป็นแค่การเริ่มต้นของปรากฎการณ์ ซึ่งจะมีต่อไปอีกหลายเดือน

กำลังจะมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงปลายเดือนนี้ ก็มีแนวโน้มว่าจะมีการระเบิดของจุดดับและส่ง CME ออกมาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้มากกว่าปกติ ประจวบกับ การที่ดาวหาง ISON จะเฉียดดวงอาทิตย์ใกล้สุดในวันที่ ๒๙ (คงใกล้ตีสอง ตามเวลาประเทศไทย) ก็เป็นไปได้ว่า อาจจมี CME แรงๆ ออกมา

ช่วงปีนี้ดวงอาทิตย์ และระบบสุริยะ กำลังโคจรผ่านระนาบแกนของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกพอดี จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง (ซึ่งทางช้างเผือกก็มีขั้วของมันเอง อาจจะเป็นเพราะสนามพลังจากหลุมดำ ที่จุดกลางทางช้างเผือก ซึ่งห่างออกไปราว ๒๖๐๐๐ ปีแสง) ตอนนี้ระบบสุริยะเสมือนหนึ่งมดตัวหนึ่งกำลังไต่อยู่แนวขอบจานขนาดยักษ์พอดี การเปลี่ยนขั้วสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ซึ่งปกติก็มีทุกๆ ๑๑ ปีนั้น แต่ในคราวนี้ เมื่อมาประจวบกับการโคจรข้ามขั้วของทางช้างเผือก จึงเป็นปรากฎการณ์ที่สำคัญที่ต้องเฝ้าจับตา

อนึ่ง ดาวหาง ISON นี้ "มิทธี่" ใช้คำเรียกว่า วัตถุ (object) บ้าง หรือ ระบบนิเวศน์ (ecosystem) บ้าง ในวีดิโอของกัปตันบิลก่อนหน้านี้ หากเป็นจริง มันก็เป็นยานอวกาศขนาดใหญ่ที่มาในรูปของดาวหาง หากเป็นดังนั้น ก็คือมนุษย์ต่างดาวกำลังมา"ช่วย" ปรับสภาพดวงอาทิตย์และจัดระบบดาวเคราะห์ในระบบเสียใหม่ให้เหมาะสม กับการโคจรเปลี่ยนมาอีกข้างของทางช้างเผือก

จากการที่ตามดูวีดิโอเขามา ๒ ปีแล้ว ผมก็รู้สึกว่าสนุกดี ความเชื่อก็ประมาณ 70% เพราะตามความเข้าใจผมยังจับโกหกเรื่องที่เขาเล่าไม่ได้ คำทำนายก่อนๆ เรื่องกำหนดการ คลาดเคลื่อนไปบ้าง เขาก็อธิบายได้เป็นคุ้งเป็นแคว ผมไม่รู้จริงหรือเปล่า ก็ยกประโยชน์ให้เขาไป

Nirvana สมาชิก

โห.....จารย์ ไปบอกข้อสอบแบบนั้น
เดี๋ยวก็โดนปาหิน....ซะร๊อค

ยิ่งตอนนี้พวกนั้นมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ด้วย
แต่นึกไปก็สงสาร เพราะเดี๋ยวก็คงไม่ได้ปาหินอีกแระ....

รวมถึงเราอาจจะต้องร่ำลาจากกันจากมิตรรักแฟนเพลงในเวป
ในเวลาอีกไม่นานนี้ ถ้าเป็นจริงอย่างน้ามิทธี่บอกไว้

งานเลี้ยงต้องเลิกลาฉันใด ฉันกับเธอก็ต้องมีอันจากกันฉันนั้น

Falkman สมาชิก

อธิบายได้เคลียร์มากๆ ขอบคุณจ้า............!!!

ที่มา http://palungjit.org/threads/ดาวหาง-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-86

 

พอร์ทัลจักรวาลใหม่ ได้เปิดขึ้นแล้ว !!!​

​

mead สมาชิก

พอร์ทัลจักรวาลใหม่ ได้เปิดขึ้นแล้ว และคลื่นลูกใหม่ของการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลมาที่ได้ถึงพวกเรา....
17 พฤศจิกายน 2013 โดย judithkusel

มีการเปิดใช้งานพอร์ทัลขนาดใหญ่ของจักรวาลขึ้นอยู่ระหว่างดาวพฤหัสบดีและโลก ที่เคยถูกปิดใช้งานมาหลายพันปี มันมีลักษณะคล้ายรูหนอน (wormhole) และจะนำไปสู่ครั้งแรกในรอบหลายล้านปี ของการกลับมาสู่ความตระหนักรู้ของจักรวาลครั้งใหญ่ ซึ่งได้ฝังตัวอยู่ในสตาร์เกต (star gates)ที่มั่นคง ในระบบสุริยจักรวาลแห่งนี้แล้ว

กลไกของสนามพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้นี้ ก็คือจุดเริ่มต้นของยุคโบราณเมื่อกาแลคซีแรกได้ก่อตัวขึ้น ซึ่งมีอยู่ 12 กาแลคซีหลัก และหลังจากนั้น เมื่อสงครามแห่งชั้นฟ้าเกิดขึ้นพอร์ทัลใหญ่แห่งนี้ก็ปิดตัวลง และย้ายไปสู่กาแลคซี ใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในด้านนอกของจักรวาล สิ่งที่จะมีผลกระทบต่อปิรามิด และกริดภายในของปิรามิด บนพื้นผิวโลกและผู้ที่อยู่ภายใต้ทะเล และ จะนำมาเกี่ยวกับการเร่งความเร็วของการเพิ่มขึ้นของความตระหนักรู้ บนดาวเคราะห์ดวงนี้

มันจะก่อให้เกิดการฟิ้นฟู ธนาคารหน่วยความจำอันยิ่งใหญ่ใน ดีเอ็นเอ ซึ่งมีอยู่แต่กำเนิดของเรา รวมถึงธนาคารหน่วยความจำในระดับโมเลกุล และนำมาซึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในวิธีการที่เราจะรับรู้โลกทางกายภาพของเรา ซึ่งกำลังเริ่มการย่อยสลายเป็นจำนวนมาก และจัดรูปแบบใหม่ขึ้น ในขณะที่รูปแบบอื่นๆของชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกับเรา ใน มิติ ที่แตกต่างกัน และยังอยู่ภายในแผ่นดินโลกของเรา และเป็นครั้งแรกที่จะสามารถมองเห็นได้ สำหรับผู้ที่ได้รับการปรับแต่งจากแรงกระตุ้นของจักรวาลที่ปล่อยออกมาโดยพอร์ทัลใหญ่นี้

พอร์ทัลนี้จะเชื่อมโยงโดยตรงกับ "กลุ่มดาวหมีใหญ่" ซึ่งมันเป็นหนึ่งใน กาแลคซีแรกอย่างแท้จริง ที่จะพัฒนาซุปเปอร์ จิตสำนึก ในการนำมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ตามมาในจักรวาลทั้งหมดนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นมันได้มีอิทธิพลต่อชีวิต บนดาวซิริอุส ,แอนโดรเมด้า ,พลีเอเดียนส์, อาร์คทอเรี่ยน, โอไรออน ,และทางช้างเผือก ไปจนถึง พีกาซุส , ทอร์รัส และ ลีโอ

มันจะเริ่มมีผลกระทบต่อเรา และทำให้กริดพลังงานของโลกเปิดใช้มัน พลังงานที่เป็นคลื่นความถี่สูงมากนี้ ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้โดยการวัดค่าจากเครื่องมือใดๆของมนุษย์ เป็นแรงสั่นสะเทือนที่มีช่วงความถี่ซึ่งไม่เคยมีอยู่ในวงโคจรของเรา มันจะกระตุ้นการทำงานของ ส่วนสำคัญภายในสมองของเรา สมองของเรา ในส่วนที่เราไม่ได้ใช้มานับเป็นพันๆปี

มันจะนำมาซึ่งการเปิดอย่างฉับพลันจากพรสวรรค์ ปัญญา และความสามารถ ที่จะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยรวมของความตระหนักรู้ทั้งหมด ในช่วงระยะสั้นๆของกาลเวลา ขณะที่ดาวเคราะห์โลกเองก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่ระดับจิตสำนึก และพลักดันเราไปสู่คลื่นความถี่ที่สูงมากขึ้น

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มชำรุด และการสื่อสารผ่านดาวเทียมจะได้รับผลกระทบ เพราะมันถูกทำให้ใช้งานได้ในคลื่นความถี่ที่ต่ำๆ ซึ่งจะช้าลงและเริ่มเสียหาย ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป มันจะนำมาเกี่ยวกับ "การเคลื่อนไหวของมวลชน" ด้วยพลังของหัวใจ ซึ่งจะเกิดการล่มสลายของรูปแบบเก่า นอกจากนี้ยังมีรูปแบบที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ เข่นรูปแบบความคิดเก่าๆ ที่ใช้การไม่ได้บนโลกนี้ สนามพลังงานนี้ ในขณะนี้กำลังเจาะพลังงานที่มีอยู่ในเมทริกซ์เดิม และมันกำลังขยับไปทั้งสนาม

ในขณะที่เราก้าวไปสู่คลื่นความถี่ที่สูงขึ้น และจิตสำนึกของเราก้าวไปสู่ในบทบาทของการร่วมสร้างสรรค์มาากขึ้น แต่นี่จะสามารถทำได้ ก็ต่อเมื่อเราเริ่มต้นการยึดมั่นในกฎของจักรวาล และดำรงอยู่ในความสามัคคี เรียนรู้ที่จะไหลลื่นไปกับคลื่นความถี่ใหม่ของจักรวาล และเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งเหล่านี้.....

Judith Kusel
Mead : Translator

The New Cosmic Portal opening up and immense new wave of cosmic changes is upon us…. | judithkusel

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-402

 

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มชำรุด !!!​

​

คำทำนายอนาคตของโลก โดยอาจารย์เลือง มินห์ ด๋าง

เมื่อสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง สลับสับสนกันอย่างยุ่งเหยิง ไฟฟ้าบนโลกจะขัดข้อง การติดต่อสื่อสารรับรู้กันทั่วโลกโดยอิเลคทรอนิค จะใช้การไม่ได้ภัยพิบัติหลายๆ อย่างจะเกิดขึ้น คนที่เคยสนุกสุขสบายจะทนต่อสภาวะนั้นไม่ได้ เดือดร้อนเรื่องที่พัก อาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ผู้คนจะเกิดความเครียด คลุ้มคลั่ง ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก

ในวันนั้นน้ำ 1 ลิตรจะมีค่ามากกว่าทองคำ 1 กิโลกรัม และอาจจะไม่สามารถแลกซื้อได้ อาหารขาดแคลนมาก นับเป็นภัยอันตรายยิ่งกว่าสงครามใดๆ ภัยนี้จะคุกคามไปทั่วโลก ผู้คนที่ทนต่อสภาวะการณ์ดังกล่าวไม่ได้จะต้องตายไป และประมาณว่าอาจตายกว่า 70 เปอร์เซนต์ทั้งโลก

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พยายามค้นคว้าว่า จะมีวิธีใดที่จะถนอมอาหารเอาไว้ใช้ได้นานๆ และจะหาที่เก็บที่เหมาะสม เพื่อเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้น สำหรับประเทศไทย จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไม่มากนัก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเจริญทางด้านจิตวิญญาณสูง ต่อไปมนุษย์ที่เหลืออยู่เกือบทั้งโลกจะต้องมาพึ่งประเทศไทย ซึ่งจะยังคงมีพืชพันธุ์ธัญญาหารและสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์อยู่ และพลเมืองมีเมตตาธรรม

หนทางแก้ไขล่วงหน้านั้น นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และรัฐบาลต่างๆ ต้องรับรู้ถึงภัยพิบัติครั้งนี้ และหาทางป้องกันแก้ไข ต้องพยายามให้คนที่มีฐานะดีช่วยเหลือคนยากคนจน เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณให้ดีขึ้น จิตวิญญาณที่ดีจะช่วยคุ้มครองตัวเราไว้

สำหรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นหลังจากศตวรรษที่ 20 นี้ขอให้ผู้มีวิชาพลังจักรวาลได้ช่วยกันนั่งสมาธิ อธิษฐาน ขอให้เบื้องบนรับรู้การแก้ปัญหาของเรา และให้ความช่วยเหลือ ซึ่งคงจะได้ผลเหมือนกับหลายๆ ครั้งที่เราได้เคยช่วยกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่หรือไฟไหม้ครั้งมโหฬาร การรวมพลังกันอย่างตั้งใจและแน่วแน่ เช่นนี้คงจะช่วยผ่อนคลายวิกฤตการณ์ร้ายครั้งนี้ ให้เบาบางลงไปได้บ้าง

( แหล่งที่มา หนังสือพลังจักรวาลรักษาโรค โดยนพนนท์ สำนักพิมพ์เรือนบุญ 10/1 หมู่ 7 ซอยบางกระสอบ 2 ต.บางกระสอบ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ )

 

เผื่อว่าวันไหนหม้อข้าวเสีย..จะได้ไม่ต้องอดข้าว !!!​

How to ... หุงข้าวแบบเช็ดน้ำ

วันนี้พิมจะมาสาธิตวิธีหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ ซึ่งเป็นแบบที่คนสมัยก่อนเค้าหุงกันค่ะ แม้ปัจจุบันนี้วิธีนี้จะไม่นิยม เพราะว่าทำให้สูญเสียวิตามินที่อยู่ในน้ำข้าว แต่ก็ไม่เสียหายนะคะที่เราจะเรียนรู้เอาไว้ เผื่อว่าวันไหนหม้อข้าวเสีย จะได้ไม่ต้องอดข้าวอ่ะค่ะ

อันดับแรก ....... ตวงข้าวใส่หม้อที่จะหุงนะคะ ซึ่งหม้อที่พิมใช้ (ตามในภาพ) เป็นหม้อเบอร์ 26 / ปริมาณข้าวก็ประมาณ 2 ถ้วยตวงค่ะ



ตวงเสร็จ ก็มาเลือกๆ ดูในเมล็ดข้าวว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรบ้างไหม อย่างเช่น กรวด ทราย เมล็ดพืชชนิดอื่น .... ถ้ามี ก็เลือกทิ้งไป



แล้วนำข้าวสารไปซาวกับน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง (แต่ถ้าข้าวสะอาดมาก ซาวครั้งเดียวก็พอ)



เทน้ำซาวข้าวทิ้งไปให้เหลือน้อยที่สุด (น้ำซาวข้าว ถ้าเป็นข้าวเหนียว .. โบราณเค้าบอกว่าเอาไปสระผม จะทำให้ผมดกดำนะคะ)



แล้วก็เติมน้ำสะอาด (น้ำที่จะใช้หุงข้าว) ...... ลงไปให้เกือบเต็มหม้อ



แล้วก็ปิดฝา ..... นำไปตั้งไฟ (ใช้ไฟกลางค่อนมาทางแรงหน่อย)



ทิ้งระยะสักแป๊บ .... พอเริ่มมีไอออกจากหม้อ ก็เปิดฝาหม้อ ลดไฟลงเหลือแค่ไฟกลางๆ ... จะเห็นได้ว่าน้ำในหม้อเริ่มเดือด ก็เอาทัพพีลงไปคน ๆ ข้าว โดยเฉพาะตรงบริเวณก้นหม้อ (เพื่อไม่ให้ข้าวไหม้ติดก้นหม้อ)



แล้วก็หุง (ต้ม) ข้าวไปเรื่อย ๆ ค่ะ .......... ประมาณ 20-30 นาที (ขึ้นอยู่กับปริมาณ-ไฟ-ชนิดข้าว) ก็เอาทัพพีตักข้าวขึ้นมาดูว่าใช้ได้ไหม สุกดีไหม ซึ่งข้าวสารแทบทุกชนิด ... เวลาหุงสุก ปลายเมล็ดข้าวจะแตกนิดๆ และเวลาตักขึ้นมาชิมจะไม่กรุบๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นข้าวใหม่ หรือข้าวที่ชื้นมากๆ บางทีหากรอให้ข้าวสุกจนปลายเมล็ดข้าวแตก ข้าวจะเละ+แฉะเกินไป ...... ก็ต้องค่อย ๆ เรียนรู้และสังเกตุดูกันไปนะคะ



และเมื่อข้าวสุกได้ที่ ...... ก็ปิดไฟเตา แล้วยกหม้อข้าวไปเทน้ำต้มข้าวทิ้งไป...... ให้เหลือน้อยที่สุดค่ะ



แล้วก็ปิดฝาหม้อ ...... ขัดฝาหม้อด้วยไม้ขัดหม้อ ... ให้สนิท (แต่ไม่ต้องสนิทแน่น ขนาดขยับฝาหม้อไม่ได้เลยสักนิด)



นำหม้อไปวางเอียงบนภาชนะอีกใบ ในลักษณะแบบนี้ เพื่อให้น้ำข้าวในหม้อไหลออกมาให้หมด

ป.ล. น้ำข้าวร้อนๆ เนี่ย เอาไปผสมน้ำตาลนิดนึง พอให้มีรสหวานปะแหล่ม ๆ แล้วเอามากินตอนร้อน ๆ ..... อร่อย มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ เลยค่ะ



พอน้ำในหม้อไหลออกหมด (เหลือแค่หยดติ๋งๆ) ... ก็นำหม้อขึ้นไปตั้งบนเตาเหมือนเดิม แล้วเปิดไฟเตาอ่อนๆ พร้อมกับเอียงหม้อไปมา โดยในการเอียงแต่ละครั้ง ให้ทิ้งระยะไว้สักแป๊บ ....... ซึ่งการทำแบบนี้เรียกว่า "ดงหม้อข้าว"



ซึ่งเราจะต้องดงหม้อข้าวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่้งไอน้ำในหม้อข้าวแห้งค่ะ ..... ก็เป็นอันว่าเราทำการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ข้าวสวยออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ



สุดท้ายก็อย่าลืมเอาทัพพีปาดรอบ ๆ หม้อข้าว ให้เมล็ดข้าวที่เกาะอยู่ขอบหม้อลงมาอยู่ในหม้อข้าว .... ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ ^___^

สร้างเมื่อ วันศุกร์, 18 ธันวาคม 2552 01:55 | เขียนโดย พิม @ ครัวบ้านพิม

ที่มา ครัวบ้านพิม - How to ... หุงข้าวแบบเช็ดน้ำ

 

การปฏิวัติประชาชน
(เเย่งอำนาจรัฐคืนให้ประชาชน โดยประชาชน)
มีเเห่งเดียวในโลกที่
ไม่มีการใช้กระสุนปืนเเม้เเต่นัดเดียว
ที่นี่ที่เดียว"ประเทศใทย"

 

น้ำต้มข้าวอย่าทิ้งครับ เพราะมีประโยชน์มหาศาล มันช่วยขับสารพิษทุกชนิดที่มีในกระแสเลือดของตัวเรา ให้นำมากินแทนน้ำดื่ม ถ้าเราต้องเจอโรคระบาดจากไวรัสทุกชนิด กินน้ำข้าวแทนน้ำจะช่วยให้เรารอดชีวิตได้ครับ เพราะน้ำข้าวจะไปขับพิษของเชื้อไวรัสทำให้เราทนพิษของไวรัสได้เพราะปริมาณพิษในเลือดน้อยลง ที่ตายๆกันเป็นเพราะร่างกายทนพิษของไวรัสไม่ไหวครับ แล้วพอเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ร่างกายเราจะสร้างภูมิต้านทานได้เองจากนั้นไวรัสก็จะถูกกำจัดหมดด้วยภูมิต้านทานครับ ควรทานยาเขียวควบคู่กับยาแก้ไข้หวัด (ทิฟฟี่ ดีโคลเจล หรือ ยี่ห้ออื่นๆ) หลังอาหาร 3 มื้อและก่อนนอน นอนพักผ่อนให้มากๆครับ (สูตรที่ผมใช้แต่ละครั้งที่ทานคือ ยาเขียวตราใบโพธิ์ 5 - 7 เม็ดกับทิฟฟี่ 1 เม็ดครับ) ดื่มน้ำข้าวแทนน้ำช่วยยืดอายุให้กับคนที่เป็นโรคมะเร็งครับ

 

ปฏิบัติการของมวลชนชาวไทยที่ไม่มีสังกัด ไม่มีสี
ที่ประกอบไปด้วยความสามัคคี
และสติปัญญารอบด้าน รวมถึงความมานะบากบั่น อดทน อดกลั้น
เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือ การปฏิรูปประเทศ

 

ข้อความที่เป็นตัวหนามันเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของมวลชน
จำนวนล้านที่กำลังปฏิบัติการยึดอำนาจรัฐ อยู่ที่ถนนราชดำเนินไหมเนี่ย!!!

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งในเเง่คุณค่าของน้ำต้มข้าว
เเต่ต้องเป็นข้าวที่ไม่ได้รมยาฆ่ามอดจาก
โครงการรับจำนำข้าว ของรัดถะบาน !?!!

 

การสอนธรรมะแบบเซ็น !!!​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=4aviCuIPQ9A&list=PLd4mTyUVLnAqs1cd9__CEmnlnnU56eCDb"]Tagmor1 - YouTube[/ame]
วิธีแก้กลุ้มแบบเซ็น

ถ้าสังเกตให้ดี นิทานเซ็นที่มีผู้รวบรวมและแปลออกเป็นภาษาต่าง ๆ หลายเล่ม ก็คือบันทึกเทคนิควิธีการสอนธรรมอันหลากหลายของอาจารย์เซ็นนั้นเอง สอนสิบคนก็สิบวิธี ไม่เคยปรากฏว่าอาจารย์เซ็นท่านใช้เทคนิควิธีเดียวกับคนทั่วไป เพราะถ้าทำเช่นนั้นจะประสบความล้มเหลวในการสอนคน

อาจารย์เซ็นท่านไม่ทำตนเหมือนชาวนาที่โง่ ที่ไถนาไปแล้ว เห็นกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งมาชนตอไม้ตายโดยบังเอิญ แล้วก็คิดว่าการจะได้กระต่ายกินนั้นไม่ยาก เพียงแต่นั่งรออยู่แถว ๆ นี้ เดี๋ยวก็มีกระต่ายวิ่งมาชนตอไม้ตายอีก เขารอตั้งหลายวันก็ไม่มีกระต่ายตัวที่สองวิ่งมาชนตอไม้ตายเลย ต่อให้รอจนตายก็จะไม่มี

อาจารย์เซ็นท่านจะไม่รอใช้เทคนิคเดิม ขึ้นอยู่กับศิษย์แต่ละคนว่ามีข้อด้อยข้อเด่นในด้านไหน ท่านจะเลือกใช้วิธีสอนให้เหมาะ เป็นคน ๆ ไป บางคนชอบท่องพระสูตร ท่านก็บอกให้ท่องพระสูตรให้ฟัง แล้วก็พูดแรง ๆ สองสามคำ เพื่อให้คน ๆ นั้นสลดใจหรือได้คิด ในที่สุดศิษย์ก็ได้บรรลุธรรม

บางคนมาลาอาจารย์เพื่อไปศึกษาต่อสำนักอื่น (คิดว่าตนอยู่สำนักอาจารย์ได้รู้อะไรมากแล้วอยากรู้มากกว่านี้) พอไปกราบลา อาจารย์ก็เอาเท้ายันยอดอกศิษย์จนหงายหลังตึง แล้วศิษย์ก็บรรลุธรรม!

ท่านพุทธทาสก็มีความเป็นเซ็นไม่น้อย ดังครั้งหนึ่งก็มีโยมคนหนึ่งพกความกลุ้มเต็มอกเข้าไปกราบท่าน บอกว่ากลุ้มเหลือเกินจนสมองจะระเบิดแล้ว ท่านบอกว่าถ้าอย่างนั้นจงถอยไปยืนกลางแจ้ง ยืดกายตรงแล้วตะโกนให้สุดเสียงว่า “กูกลุ้มจริงโว้ย” สามครั้ง

นายคนนั้นถอยออกไปทำตามที่ท่านสั่ง แล้วกลับเข้ามา ท่านถามว่า “เป็นไงบ้าง” “ค่อยยังชั่วแล้วครับท่าน” เขาตอบ หลวงพ่อพุทธทาสตอบยิ้ม ๆ ว่า “ใช่สิ ก็เอาไอ้ตัวกลุ้มออกแล้วนี่”

++++++++++++++++
ที่มา.... หนังสือ " สองอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ หลวงพ่อพุทธทาส และ หลวงพ่อชา" ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
www.tamdee.net/sarakhun/data/read9405.html?No=363