เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ พี่ๆหลายๆคนคงหยุดงานนอนพักผ่อนอยู่บ้านไม่ก็ไปเที่ยวกัน
    แต่นกไม่ได้หยุดอ่ะ แต่ชอบจัง รถเมล์โล่ง ถนนโล่ง ปลอดโปร่งดีจริงๆ

    ไม่กี่วันมานี้ก็พูดๆอยู่ว่าคนรอบๆตัวยังไม่มีใครสนใจหนังสือของอาจารย์อนาลัย คงยังไม่ถูกหนังสือเลือกล่ะมั้ง
    คืนก่อนเลยฝันว่าไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มที่สนิทกันมาก ไปงานเลี้ยงอะไรซักอย่างนี่แหล่ะ กีฬาสี+เลี้ยงรุ่น ที่รู้ๆมีโต๊ะจีนกลมๆตรงกลาง
    ผสมโต๊ะยาวรอบๆเหมือนในห้องวิทย์ที่ใช้นั่งตอนงานกีฬาสี
    นกก็บอกเพื่อนสนิทคนนี้ว่ามีหนังสือที่ดีมากเลยอยากแนะนำให้อ่าน เกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณ ชาติภพ
    ดูเค้าก็ทำท่าสนใจ นกก็เลยอธิบายตั้งแต่ที่มาว่าเป็นยังไง ว่าตั้งแต่พี่นักเขียนฝันเห็นหลวงพ่อโตพาไปหาอาจารย์อนาลัย พี่นักเขียนคือล่ามเลขาของอาจารย์
    ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะเก็บความรู้ยามตื่นไปเล่าให้เพื่อนฟังในยามฝันได้เป็นฉากๆเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนั้น เราจำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ;)

    ปีใหม่นี้คงได้เจอเพื่อนคนนี้แล้วแหล่ะ เลยตั้งใจว่าจะเอาหนังสือของอาจารย์ไปให้เค้าได้ลองอ่านดู
    นี่ก็ใกล้ถึงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่แล้ว นกชอบมากๆเลย ยิ่งคริสมาสต์เนี่ย รู้สึกรื่นเริง สนุกสนานมากๆ
    มีเพื่อนเป็นคริสต์อยู่คนนึง พอถึงวันงานเค้าจะชวนไปเที่ยวที่โบสถ์ มีงานเหมือนงานวัดของพุทธเลย
    นี่ก็โหลดเพลงคริสมาสต์มาฟัง เวลาฟังทำให้รู้สึกครื้นเครง ไปห้างก็มีของตกแต่งขายเต็มไปหมด ดูจนเพลิน แต่ไม่ได้ซื้อหรอก
    ช่างเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุขซะจริงๆ jinger bells ........(||)
     
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    scarab

     
  3. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ช่วงนี้อากาศหนาวจัดและมี Ice Storm ติดกันหลายวัน พยากรณ์อากาศบอกว่า จะมี freezing rain ตกตั้งแต่เย็นวันนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้ ทำให้น้ำแข็งจับถนนหนาถึง 3/4" ซึ่งอันตรายมาก ขับรถเหยียบ brake ไม่ได้เลยค่ะ ต้องขับช้าแบบเต่าคลานแล้วให้รถชะลอจนแทบจะหยุดเองค่อยแตะเบรค หากเหยียบเบรคตอนที่ยังวิ่งอยู่ รถจะหันข้างแล้วแล่นไปข้างๆเลยค่ะ บางทีก็หมุนเป็นวงกลมเลย ไม่มีใครมาขับใกล้ๆก็แคล้วคลาดไป ต้องพยายามขับห่างกันที่สุดที่จะทำได้ แต่หากไม่จำเป็นพี่นักเขียนก็อยู่บ้านผิงไฟดีกว่า ขอบคุณหัวหน้าที่ส่งความอบอุ่นมาให้อีกกอง

    ทางเข้าบ้านพี่นักเขียนเป็นเนินสูงและกว้างมากเพราะบ้านอยู่บนเขา หากโรงเรียนปิดเพราะน้ำแข็งหรือ snow ตกหนัก ทางเข้าบ้านจะกลายเป็นที่ๆเด็กๆในละแวกบ้านมาเล่นไหลลงเนินกัน ปีนี้สามีของพี่นักเขียนเลยซื้อ snowboard มาคอยเด็กๆไว้สองอัน คงจะได้เล่นกันสมใจ ขอเชิญหัวหน้าห้องฯมาปั้น Frosty Snowman กับเด็กๆหน่อยค่ะ

    เข้าเทศกาล Christmas ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งการให้ พี่นักเขียน unpack เสร็จแล้วเลยได้ฤกษ์แต่งบ้านแล้วจัด party ตามเคย ถ่ายภาพมาต้อนรับพวกเราค่ะ ตั้งแต่หน้าประตูบ้านมี wreath ประดับไฟ และมีต้น Christmas ใน living room

    เดือนธันวาคมเป็นเดือนของการ party แม้จะยังไม่ถึงวัน Christmas แต่บ้านพี่นักเขียนก็มักจะ party ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันปีใหม่เลยละค่ะ เพิ่งจะวันที่ 10? ธันวาคม จัดไปแล้ว 2 หน วันนี้ขอถือโอกาสจัด party ให้พวกเรามาชมนก cardinal กับ woody wood pecker กัน เมื่อเช้าวานนี้-วันอาทิตย์ Cardinal สีแดง 6 ตัวกับ Woody Woodpecker ตัวหนึ่งมากินเมล็ดทานตะวันที่ bird feeder ในสวนหลังบ้าน เลยเก็บภาพมาให้พวกเราดูเล่น แต่จับภาพได้ทีละตัวเพราะ Cardinal มักไม่มารวมกลุ่มกัน แม้ว่าเขาจะมาเป็นคู่เสมอ

    เชิญทุกคนเลยค่ะ ธรรมเนียมของครอบครัวพี่นักเขียน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น cosmopolitan family คือ serve อาหารทุกชนิดจากทั่วโลก เริ่มต้นด้วยการ serve mulled wine พี่นักเขียนเคยทาน mulled wine เป็นครั้งแรกเมื่อไปเที่ยว Insbrook, Austria หลายปีมาแล้ว ช่วง Christmas พอดี ครอบครัวของพี่นักเขียน 4 คนพ่อแม่ลูกพากันนั่ง sleigh ซึ่งเป็นรถเทียมม้า 2 ตัวนั่งได้ 5 คนรวมคนขับ ทุกคนต้องแต่งตัวหนาด้วยเสื้อผ้า wool พร้อมหมวกและถุงมือ พอขึ้นนั่งบนรถม้า เขาก็จะมีผ้าห่มขนสัตว์หนาๆมาห่มทับให้อีกทีหนึ่ง จากนั้นรถเทียมม้าก็จะพาเราแล่นไปบนหิมะเข้าไปในป่าละเมาะ ซึ่งเป็นเวลาเกืิอบเที่ยงคืน โดยพาล่องขึ้น-ลง ลัดเลาะเข้าไปในป่า สวยงามมากเพราะหิมะทำให้ทุกแห่งหนดูสว่างไสวระยิบระยับแม้จะเป็นเวลาเที่ยงคืน มีพระจันทร์เพียงครึ่งเส้ียวบนท้องฟ้า และดาวดาดดื่นท้องฟ้าไปหมด
    [​IMG]
    [​IMG]
    รถม้าวิ่งเร็วบ้างช้าบ้างตามภูมิประเทศและความลาดชัน แม้จะหนาวเหน็บ อุณหภมิติดลบ แต่ก็เป็นกิจกรรมที่สนุกมาก จากนั้นรถม้าก็พาพวกเราไปแวะพักที่โรงนากลางป่าที่ประดับประดาด้วยไฟและต้น Christmas สวยงาม ซึ่งเป็นทั้งที่ขาย cheese, wine และ souvenir อื่นๆมากมาย พี่นักเเขียนได้ดื่ม mulled wine เป็นครั้งแรกที่นี่ และติดใจจนต้องขอตำราเขามาด้วย เป็น wine ที่ serve ร้อนค่ะ ทานแล้วอุ่นท้องสบายมากในหน้าหนาว แต่พี่นักเขียนทำทานมาหลายปีจนเดี๋ยวนี้มีตำราของตนเอง
    ซึ่งมีส่วนผสมของ Burgundy 1, sweet Vermouth, น้ำผึ้ง, cloves, cinnamon stick, เปลือกส้มสด บางตำราใช้ Brandy กับ red wine ชนิดอื่น ใครไม่ดื่ม alcohol ใช้ apple cider หรือ sparkling red wine แทนได้ mulled cider ก็อร่อยไปอีกแบบหนึ่งค่ะ

    สัปดาห์นี้อากาศกำลังหนาวจัด พี่นักเขียนขอเชิญพวกเราชาวห้องวิทย์ฯมาดื่ม mulled wine ตำราพี่นักเขียนกันค่ะ
    [​IMG]
    ทานกับ cheese หลายๆอย่างค่ะ
    [​IMG]

    ตามปกติแล้วจะต้อง serve mulled wine ใน mug แต่เห็นแก้ว wine ใบนี้เหมาะกับ คุณ zipper เป็นพิเศษเลยนำมา serve คุณ zip โดยเฉพาะค่ะ(rose)
    [​IMG]

    จากนั้น menu อาหารจะเป็นอาหารประเทศอื่นๆ ตามคำขอของแขกผู้ร่วมงานค่ะ เริ่มตั้งแต่หูฉลาม จากนั้นก็ salad steak/ไก่อบ/ขาหมูอบ กับ ข้าวผัดผงกะหรี่ร้อนๆ หรือ pasta แล้วจบที่ cheesecake กับ espresso ค่ะ(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1602.jpg
      IMG_1602.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_1601.jpg
      IMG_1601.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_1597.jpg
      IMG_1597.jpg
      ขนาดไฟล์:
      160.1 KB
      เปิดดู:
      45
    • IMG_1599.jpg
      IMG_1599.jpg
      ขนาดไฟล์:
      156.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_1590.jpg
      IMG_1590.jpg
      ขนาดไฟล์:
      211.9 KB
      เปิดดู:
      41
    • IMG_1616_2.jpg
      IMG_1616_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_1619_2.jpg
      IMG_1619_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105 KB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_1633_2.jpg
      IMG_1633_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.5 KB
      เปิดดู:
      47
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  4. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    หากเราดึงกระดาษหนังสือพิมพ์มาจบที่ตาซ้าย แสดงว่าเราเป็นผู้ที่ถนัดซ้ายตามธรรมชาติ
    หากเราดึงกระดาษหนังสือพิมพ์มาจบที่ตาขวา แสดงว่าเราเป็นผู้ที่ถนัดขวาตามธรรมชาติ

    ถนัดขวา = ถนัดใช้สมองซึกซ้าย
    ถนัดซ้าย = ถนัดใช้สมองซึกขวา

    มา ณ วันนี้ ผลงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับการทำงานแยกส่วนของสมอง ทำให้เราทราบว่า สมองทั้งสองซึกทำงานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทำให้ราเข้าใจภาวะของเรา ในความฝัน ในภวังค์สมาธิ ได้ดีขึ้นและสามารถใช้งานสมองซึกขวา ซึ่งเป็นซึกที่เข้าถึงและควบคุมการใช้ประสาทสัมผัสภายในได้ดังปรารถนา

    ใครที่สนใจประสาทสัมผัสภายใน และการพัฒนาการใช้ประสาทสัมผัสภายใน ให้จดจ่อกับสาระนี้เป็นพิเศษ เพราะนอกจากเราจะเรียนวาดภาพและเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรมด้วยการใช้งานศิลปะเป็นสื่อแล้ว สาระหลักที่แท้จริงที่พี่นักเขียนจะถ่ายทอดให้พวกเราคือ การพัฒนาการใช้ประสาทสัมผัสภายใน

    จากหนังสือ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 1 หน้า 5 ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า
    คนตาบอดไม่สามารถแลเห็นโลกกว้างได้ในยามตื่นด้วยดวงตาของเขา แต่เขาสามารถมองเห็นและสัมผัสรู้โลกและจักรวาลได้ในยามฝันด้วยดวงตาภายใน เธอก็เช่นกัน-เมื่อเธอเป็นอิสระจากประสาทสัมผัสทั้งห้าในยามที่เธอฝันและใช้จินตนาการ จิตวิญญาณของเธอพ้นจากสภาพถูกจำกัดการรับรู้ จิตวิญญาณสามารถสัมผัสรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสภายในซึ่งถ่ายทอดโดยตรงจากจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณ การรับรู้ดังกล่าวปราศจากการบิดเบือน เธอจึงสัมผัสรู้โลกภายในอันเป็นต้นกำเนิดของโลกภายนอกได้ในความฝัน

    ความฝันและจินตนาการเป็นสิงที่พวกเธอจำนวนมากละเลยและไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เคยหยุดฝัน เพราะกลไกแห่งความฝันคือการสร้างพิมพ์เขียวซึ่งเป็นแบบแผนและต้นกำเนิดของการสร้างโลกภายนอกและประสบการณ์ทั้งหลายในชีวิตของเธอ ผู้ที่จดจำความฝันไม่ได้มักอ้างว่าไม่ฝัน แต่ที่จริงแล้วเธอฝันอยู่เป็นประจำทุกวันคืนหากแต่สติสัมปชัญญะของเธอไม่สามารถติดตามและจดจำได้ ผู้ที่ฝึกปฏิบัติสมาธิอาจกล่าวว่า เขาดำเนินจิตยามหลับโดยปราศจากความฝันได้ด้วยการกำหนดรู้หรือมีสติสัมปชัญญะอย่างต่อเนื่อง-จากยามตื่นสู่ยามหลับและกลับมาสู่ยามตื่นอีก ภาวะดังกล่าว-เป็นภาวะที่โลกแห่งความฝันกับโลกแห่งการตื่นกลายเป็นโลกเดียวกัน-อันได้แก่ โลกแห่งความเป็นจริง


    การสับเปลี่ยนไปใช้สมองซึกขวา คือการเข้าถึงประสาทสัมผัสที่หก ซึ่งท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า
    การรู้เห็นสิ่งต่างๆด้วยประสาทสัมผัสภายใน เป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้เธอรู้เห็นสิ่งต่างๆได้ตามธรรมชาติแห่งความเป็นจริง
    หากเราหัดวาดภาพด้วยสมองซึกขวา เราจะสามารถเข้าถึงประสาทสัมผัสที่หกได้ตามปรารถนา
    (ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ บทที่ 4 หน้า 38 ประสาทสัมผัสภายใน)

    ขอเชิญพวกเราวาดภาพที่สองไปพลางๆ ระหว่างคอยพวกเราส่งการบ้านให้ครบกันก่อนนะคะ ขอบคุณ คุณเฉลยที่ช่วยรับ scan ภาพให้พวกเราค่ะ
    พี่นักเขียนขอให้ใช้มือวาดแทน computer เพราะการวาดภาพด้วยมือจะทำให้เราจดจ่อกับการลากเส้นอย่างได้ผลมากกว่า
    computer ทำให้เรา save และ undo ในทิศทางที่เราทำไม่ได้ด้วยมือ ซึ่งทำให้การจดจ่อไม่ดีเท่าการวาดด้วยมือ เพราะเรารู้ว่าเราแก้ไขได้ง่ายกว่าวาดด้วยมือค่ะ(rose)
     
  5. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พี่นักเขียนได้อ่านคำตอบของพวกเราสำหรับคำถาม 10 ข้อแรกที่สัมพันธ์กับภาพวาดภาพแรก ขอให้พวกเราลงวันที่ทั้งภาพวาดและคำตอบ และ เขียนกำกับไว้อีกสาระหนึ่งว่า เรามองเห็นว่า ภาพแรกนี้ เหมือนตัวจริงของเราหรือไม่ อย่างไร แล้วเก็บทั้งหมดนี้เข้าแฟ้มไว้ ห้ามนำกลับออกมาดูอีกจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายที่เราได้วาดภาพสุดท้ายเสร็จแล้ว เราจะนำมันออกมาเปรียบเทียบกับภาพสุดท้ายค่ะ

    สองภาพแรกนี้ พี่นักเขียนปล่อยให้เราทุกคนวาดตามความรู้และทักษะส่วนตัว ต่อไปพี่นักเขียนจะเริ่มแนะนำให้ทำแบบฝึกหัดที่จะเหนี่ยวนำให้เราใช้สมองซึกขวาวาดภาพ โดยจะเป็นขั้นตอนที่พี่นักเขียนจะนำมาสัมพันธ์กับการทำสมาธิ

    เราจะคุยกันถึงเรื่องนี้พร้อมกันกับที่เราเรียนวาดภาพด้วยสมองซึกขวา เพราะภาวะดังกล่าวนี้คือ ภาวะที่เราสามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้อย่างคมชัดและรุนแรงที่สุด เป็นภาวะที่ประสาทสัมผัสภายในของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสติสัมปชัญญะของเราก็คมชัด สามารถประสานโลกภายในและภายนอกได้ คือสติสัมปชัญญะยามตื่นของตัวตนภายนอก ประสานความรู้เข้ากับสติสัมปชัญญะยามฝันของตัวตนภายใน ทำให้โลกภายในและโลกภายนอกกลายเป็นหนึ่งเดียว

    น้องนกของพวกเราได้เข้าสู่ภาวะนี้เป็นตัวอย่างให้พวกเราเห็นพอดี โดยนำสติสัมปชัญญะยามตื่นที่มีความรู้เกี่ยวกับหนังสือและที่มาของหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย ไปแนะนำให้เพื่อนอ่านในความฝัน

    ภาวะที่น้องนกเผชิญ มีความเป็นจริงและมีพลังมาก เพราะมันไม่ใช่ภาวะของความฝันที่ไร้ความหมายหรือปราศจากความเป็นจริง ในทางตรงกันข้าม กล่าวได้ว่าน้องนกวางแผนล่วงหน้าที่จะทำให้มันเป็นจริง เสมือนการสร้างแบบพิมพ์เขียวเพื่อจะปลูกบ้านในความฝัน พอตื่นก็มีความพร้อมที่จะทำให้เป็นจริง หรือกล่าวได้ว่าน้องนกได้ลงมือทำแล้วในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่น หรือชาติภพอื่น

    คุณเม้า มาขยายความในคำถามสุดท้ายว่า
    ภาพที่ปรากฏ เกิดจากความพยายาม จินตนาการ อันปราศจากขอบเขตจำกัด สำเร็จได้ด้วยการลงมือกระทำ

    ซึ่งน้องนกก็ตื่นขึ้นมาด้วยเจตนาที่จะลงมือทำให้สำเร็จ

    ความฝันทุกความฝันของเราจะเป็นจริงไม่ได้หากปราศจากการลงมือทำ ไม่ว่าแบบพิมพ์เขียวของเราจะสดสวยและเป็นที่น่าพอใจอย่างไร หากปราศจากการลงมือทำ มันก็ยังคงเป็นเพียงจินตนาการที่เป็นกระดาษอยู่วันยังค่ำ

    แต่การวาดมันลงในกระดาษก็เป็นขึ้นแรกที่สำคัญยิ่ง เพราะหากปราศจากกระดาษหรือแบบพิมพ์เขียว จินตนาการของเราจะยังคงเป็นสิ่งที่ล่องลอย ขาดความคมชัด

    เมื่อพวกเราตอบคำถาม 10 ข้อนี้ พี่นักเขียนปลื้มใจที่เห็นพวกเราสามารถเข้าถึงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของตนเองได้อย่างน่าทึ่ง เรียกได้ว่า เราต่างก็มีความฝันที่เราเข้าถึงได้ ค้นพบความปรารถนาของตนเองได้ ไม่ว่าเราจะมีภาพที่คมชัดพอแล้วหรือยังในวันนี้ อย่างน้อยที่สุดเราต่างก็มีความฝัน มีทางเลือก และได้เลือกแล้ว

    การฝึกวาดภาพด้วยสมองซีกขวา จะเป็นกระบวนการที่ทำให้เราสามารถสร้างเส้นทางทีี่คมชัด ทำให้เรามองเห็นความปรารถนา ทางเลือกและวิธีการที่จะลงมือทำให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น(rose)
     
  6. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ขอบคุณพี่นักเขียน สำหรับ mulled wine และอาหารอร่อยๆครับ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 23_28_125.gif
      23_28_125.gif
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      761
    • 10504ru0.gif
      10504ru0.gif
      ขนาดไฟล์:
      38.2 KB
      เปิดดู:
      1,619
  7. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอบคุณมากเลยครับสำหรับอาหาร, ไวน์ และแก้ว wine ลาย zip แหม คนทำช่างครีเอตจริงๆ
    พี่นักเขียนเห็น pendant ลายนั้นในความฝัน ความฝันนั้นก็คืออดีตชาติของพี่นักเขียนหรือเปล่าเอ่ย ถ้าใช่ก็หมายความว่า แรงบันดาลใจสร้างสรรงานต่างๆ บางครั้งก็ได้รับมาจากอดีตเหมือนกันหน่ะสิ บางงานนึกว่าเราคิดเป็นคนแรก แต่ความจริงอาจจะสร้างเหมือนของในสมัยก่อนก็ได้

    ภาพนกที่พี่นักเขียนถ่ายมา นกสีแดงสีจัดจ้านดีจริง และก็เลยอยากจะแนะว่า ถ้าในภาพมีหิมะเป็น background ให้ลองตั้ง exposure กล้องเป็นซัก 1.5 - 2 (ถ้ากล้องที่ใช้ตั้งได้) ภาพที่ได้จะได้ดูสว่างสมจริง เพราะว่าหิมะขาวๆ มันจะหลอกกล้องว่าแสงมากไป กล้องก็เลยจะลดแสงลง อันนี้เป็นทุกกล้องไม่ว่าจะเป็นกล้อง compact หรือ กล้องที่มืออาชีพใช้กัน

    พี่นักเขียนพูดถึง mulled wine เห็นภาพแล้วก็แปลกดีที่มีใส่อะไรลงไปในไวน์ด้วย ปกติภาพที่เคยเห็นจะเป็นน้ำไวน์อย่างเดียว หน้าหนาวก็คงต้องดื่มไวน์อุ่นๆ บ้านเราถ้าดื่มไวน์อุ่นๆ คงดูแปลกดี

    สำหรับการบ้านที่ให้เขียนบรรยายภาพเดี๋ยวทำส่งแน่

    สำหรับภาพที่พี่นักเขียนให้ลองทำเป็น 3D ก็ลองทำดูแล้วได้ออกมาประมาณภาพที่แนบมา ไม่ทราบว่าจะทำมาตรงใจพี่นักเขียนหรือเปล่า ได้ไอเดียจากภาพนี้ [​IMG]
    ที่ว่ามีผ่าบางส่วนให้เห็นข้างในด้วย เพราะว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้ว ส่วนที่อยู่ข้างในก็คงถูกบังหมดแน่
    ส่วนรูปคน ก็ขอใช้เป็นรูปแบบเดียวนะ แต่ก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า เป็นทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง ไม่รู้ว่าใส่คนลงไปน้อยไปหรือเปล่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  8. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190


    พี่นักเขียนครับ ทำไมเราถึงจำความฝันและจินตนาการยามหลับได้เลือนลาง หรือบางครั้งก็จำไม่ได้เลย แต่ความรู้สึกในยามที่ตื่นกลับบอกเราว่า เราได้ทำอย่างนี้ อย่างนั้นมา สติสัมปชัญญะมีผลต่อการจดจำด้วยเหรอครับ เพราะเวลานอนก็เหมือนว่าเราไม่รู้สึกตัวอยู่แล้ว ผมสงสัยตรงที่จิตวิญญาณของเราเขาจดจำอะไรเองไม่ได้เหรอครับ เราต้องคอยกำหนดสติเพื่อใช้สมองของเราจดจำเองเหรอครับ เรียนถามพี่เท่านี้ก่อนครับ ขอบคุณครับ


     
  9. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    [​IMG]
    1. เรามีความรู้สึกนึกคิดเจาะจงถึงส่วนใดของร่างกายตัวตนของเราเป็นพิเศษ?
    จิต ทั้งสามดวง ทั้งที่ หน้าผาก อก และก็ท้อง และปีกทั้งสอง
    2. เรารู้สึกอย่างไรเมื่อมองดูภาพวาดของตนเอง
    รู้สึกสงบ ราบเรียบ ธรรมชาติ แต่มีบางอย่างที่ต้องการคำตอบ
    3. เราคิดว่า ภาพวาดนี้ เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงออกซึ่งความรู้สึกใดของเรา

    ความรู้สึกรักสงบ และความเป็นกลางทางธรรมชาติ
    4. เส้นสายในภาพบ่งบอกให้เรารู้ถึงอารมณ์ของเราอย่างไรบ้าง?
    เส้นสายที่แรเงาดูยุ่งเหยิง ซ่อนเร้น เส้นสายที่ไม่แรเงาเป็นสีขาวดูสงบ ดูปราศจาก
    5. เขียนคำบรรยายสัก 1-2 ประโยค ว่ารูปทรงที่ปรากฏในภาพบอกให้เรารู้เกี่ยวกับอารมณ์ของเราว่าอย่างไร?
    จิตของเรามีสองซีก เส้นตรงกลางคือความสมดุลเป็นที่อยู่ของจิตใจของเรา ทางซ้ายคือซีกที่ดีมีความสวยงามที่ดูปลอดภัย ปีกของเทพคือสัญลักษณ์ของความรู้สึกที่ดี ความเมตตา การเอื้อเฟื้อ และความปรารถนาดี
    ทางขวาคือซีกที่เลวมีความสวยงามที่อันตราย ปีกของปิศาจจะเกาะกินใจของเราให้จิตใจคับแคบ โหดร้าย ขาดสามัญสำนึก
    6. หากภาพวาดนี้พูดได้ มันบอกให้เรารู้ถึงอารมณ์และความรู้สึก และสถานการณ์ใดที่กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกนั้นๆ
    เราต้องมีจิตใจที่มั่นคง จิตใจของเราเท่านั้นที่กำหนดทุกๆสิ่ง
    7. เรารู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้แสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดเป็นภาพ
    รู้สึกว่าเราผิดปกติหรือเปล่า จิตฟุ้งซ่านที่วาดรูปแปลกๆออกมา
    8. หลังจากได้วาดภาพนี้ไปแล้ว ตอนที่เรากำลังดูภาพนี้อีกครั้ง เรารู้สึกอย่างไรบ้าง?
    เราเป็นอะไรไป รูปที่วาดนี้เราก็วาดด้วยตัวเอง ทำไมเราไม่คุ้นเคยเลย กลับกลัวด้วยซ้ำ
    9. เราเรียนรู้เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองอย่างไรบ้างจากภาพวาดนี้?

    เราอยากกำหนดจิตของตัวเองได้อย่างใจนึก
    10. เราเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการแสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกของเราเป็นรูปธรรม เป็นภาพวาดบนกระดาษ หรือจอภาพ?
    รู้สึกว่าจิตใจของเราเหมือนมีความผิดปกติ และบกพร่อง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจิตที่สมบูรณ์เป็นอย่างไร จิตใจลึกๆเหมือนวิ่งเต้นเวลาดูรูปของตนเอง
    ผมอยากเป็น "Devil Angel"

    ผมต้องขอโทษถ้าคำตอบมันงงๆ แต่ผมตอบตามความรู้สึกจากใจและความรู้สึกจริงๆนะครับ ผมอยากเป็นเหมือนในรูปที่วาดขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    diagram คุณซิปฯ ทำให้ดูมีมิติมีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นมาเยอะเลยครับ
    ถ้าทำเป็น Animation ต่ออีกหน่อยน่าจะเข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลยครับ (ทำต่อนะ อิอิ..)

    จริงๆเรื่องนี้น่าสนใจมากครับพี่นักเขียน
    ตัวตนรวมของเราขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยที่บุคลิกภาพทั้งหลายก็เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางไปพร้อมๆกัน แค่ตัวตนของเรายังมีระบบเครือข่ายมากมายขนาดนี้ โนโลกของความเป็นจริงหลากมิตินี่คงยิ่งกว่าที่เราคิดอีกมากมายเลยครับ..การเรียนรู้จึงไม่มีที่สิ้นสุดแม้แต่ในโลกของจิตวิญญาณก็ตาม สามารถขยายวงออกไปเรื่อยๆ จากขอบนอกเข้าหาศูนย์กลางของวงใหม่ไปเรื่อยๆ..อยู่นอกขอบเขตของระยะทาง-ช่องว่าง และกาลเวลาจริงๆเรื่องนี้
    ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ

    ข้อมูลตรงนี้ตรงกับเรื่องของจิตจักรวาลด้วยครับ (อ.ปริญญา) อาจารย์บอกไว้เหมือนกันว่าจิตจักรวาลดวงใหญ่แบ่งคลื่นความถี่ออกมาเป็นจิตจักรวาลดวงเล็กๆมากมายนับไม่ถ้วนและจิตจักรวาลดวงเล็กๆ (แต่มีคุณสมบัติครบถ้วน) ก็แบ่งภาคออกมาอีก 70 % มาเป็นจิตวิญญาณอีกจำนวนหนึ่งลงมาทำหน้าที่บนโลกมนุษย์ใส่ชุดทำงานที่เรียกว่า "เครื่องยนต์แห่งกรรม"และเค้าก็รอคอยการกลับไปรวมตัวกันอีกครั้งตามพันธะสัญญา (ในรอบ 60,000 ปีมนุษย์) ที่เคยรับปากกันเอาไว้ โดยมีการช่วยเหลือกันในกลุ่มของตัวตนรวมอีกทีครับ
    ส่วนของพี่นักเขียนที่เล่ามาละเอียดลึกเข้าไปอีก

    [​IMG]



    [​IMG]

    http://palungjit.org/showthread.php?t=86527&page=156
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    โอ๊ะ โอ ลองเอาภาพมาเปรียบเทียบกันอีกที เหมือนว่าตัวเองทำพลาดไปซะแล้ว
    ลองมาสังเกตดีๆ จะมีคนที่ไม่ได้ยกมือขึ้นด้วยนี่นา แล้วส่วนเหนือของคนนั้นก็จะแหว่งหายไป
    และลองดูดีๆ แล้ว มือที่ยกขึ้น ก็เพื่อไปยกเท้าของคนที่อยู่เหนือขึ้นไปนี่นะ
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คุณนักเขียนคะ ภาพที่ ๒ นี้ ให้ใช้รูปภาพเป็นแบบ หรือวาดจากจินตภาพเหมือนเดิมคะ
    พูดถึงอียิปต์ เมื่อไม่นานจินตวดีฝันว่าเป็นคนที่นั่น ยังกับดูหนัง (หนังเศร้านะคะ) ดิฉันว่าจะฝันใหม่ค่ะ เอาให้ แฮปปี้เอ็นดิ้งกว่านี้ หุ หุ
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    <TABLE class=tborder id=post857493 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>JINTAWADEE<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_857493", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:12 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 46 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 269 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 484 ครั้ง ใน 45 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_857493 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เจอคุณเม้าเท่นด้วย นั่งข้างหน้าเลย เสียดายจินตวดีรีบกลับ เพราะต้องไปธุระที่ศรีราชาต่อ วันที่ 22 ดิฉันมีตารางงาน ไม่สามารถไปร่วมด้วย จะเป็นการรบกวนหรือเปล่าถ้าจะมีใครช่วยอัดเทปให้ด้วย หรือถ้าผู้บรรยายมีหนังสือด้วยจะดีมากค่ะ ถ้ามีสั่งซื้อได้ที่ไหนคะ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    วันก่อนผมไม่ได้ไปงานวิทย์ศาสตร์ทางจิต
    โชคดีที่พี่เม้าเอามาให้อ่านบ้างแล้วครับ

    อาจารย์กิติชัย ฝากลูกศิษย์ (คุณ Bassate) แจ้งข่าวมาอีกครับ
    ว่าจะมีการบรรยายอีกครั้งสำหรับผู้ที่สนใจเรื่อง พลังยูเรอัส
    เพราะยังมีรายละเอียดเรื่องราวลึกๆอีกมากที่อาจารย์ยังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนมาก่อน
    อาจารย์บอกว่าเสียดายที่มีเวลาน้อยไปสำหรับงานวิทยาศาสตร์ทางจิตวันนั้น

    หัวข้อบรรยายเกี่ยวกับมิติเวลา-พลังจักรวาล-พลังยูเรอัส-มิติที่เชื่อมโยงกันของมหาปิรามิดที่อียิปต์และทวีปแอตแลนตีส และการพิสูจน์พลังของปิรามิดด้วยหลักฐานให้เห็นกันได้อย่างชัดเจน
    เชิญท่านที่สนใจจริงๆไปร่วมฟังแบบกันเองครับที่ Office ของอาจารย์
    ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น รับได้ 40 ที่นั่ง

    สนใจลงชื่อกันไว้ที่กระทู้นี้ครับ
    เชิญเข้าร่วมฟังบรรยายพิเศษ เรื่องพลังยูเรอัส

    ที่ 92/3 ตึกธนาคารกรุงไทย สาขาธนบุรี-ปากท่อ ชั้น3 ถนนพระราม 2 (อยู่ปากซอย 37)
    วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2550 เวลา 14.00 น.-17.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ของ อาจารย์กิติชัย สุรทิณฑ์ โทร.086-0805164
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เห็นแล้วคุณซิปฯ สงสัยที่คนแขนหายไปจะเป็นบุคลิกไม่ครบ 32 ฮิฮิ

    คุณจินตวดีครับ พี่ฯเค้าให้วาดรูปเหมือนเลยครับคราวนี้ ดูจากรูปถ่ายเป็นแบบก็ได้
     
  15. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ***โห...ไม่ได้มาอ่านไม่กี่วัน กระทู้พุ่งเอาพุ่งเอา อ่านตามแทบไม่ทันแนะ ของเก่าก็ยังอ่านไม่หมด...(good)

    ***คุณวิ... หลวมตัวเป็นเพื่อนกะ ณ. แล้ว อย่าลืมวาดรูปมาแสดงจิตวิญญาณกันนะ ...รออยู่...(kiss)

    ***น้องนก พี่ณ.ไม่แย่งไมค์น้องนกเด็ดขาดรับรองได้เพราะพี่ณ.มีไมค์ส่วนตัวอะ เสียงของตัวเองนี่แหละ ไม่ขึ้นอยู่กับความดังจ๊ะ ขึ้นอยู่ที่ความสุนทรีย์ในอารมรณ์ ถ้าร็อคเมื่อไหร่ ไมค์ก็ไมค์เถอะ...อิอิ... อืม..ไว้มีโอกาส เราไปคาราโอเกะกันดีปละ...อ๊ะ...ชวนน้องนกคนเดียวไม่ได้สิเนอะ ต้องยกกันไปทั้งห้องวิทย์ฯนี่แหละ สนุกดี(ping)

    ***การบ้านของพี่นักเขียนข้อ2นี่ ณ.ต้องขอเวลาหน่อยนะค่ะ ไม่ใช่ตอบไม่ได้ อยากตอบมาก แต่ตอนนี้ระบบคอมที่บริษัทเสีย เลยทำอะไรไม่ได้แต่คงเสร็จอีกไม่กี่วันนี่ล่ะ^-^ ส่วนข้อ 3 ขอไปหาอุปกรณ์ให้ครบก่อนนะคะ...อิอิ

    ***เห็นรูป diagram ที่พี่ๆทำกันแล้ว ณ.กลับนึกถึง ระลอกน้ำ เวลาเราโยนก้อนหินลงไป มันจะกระเพื่อม คลื่นน้ำจะกระจายตัวทุกทิศทาง แล้วเมื่อหินจมนอนนิ่งไปแล้ว ก็จะกลับเป็นผืนน้ำนิ่งๆ เช่นเดิม ณ.รู้สึกว่า เราทุกคนเหมือนหยดน้ำ ไม่ว่าจะกระจายตัวยังไง ไม่ว่าจะแปรสภาพเป็นคลื่นเล็ก คลื่นใหญ่แค่ไหน ที่สุดแล้วเราก็คือน้ำนั่นเอง มันให้ความรู้สึกถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียว การประสาน การกลับคืนสู่สิ่งเดียวกัน... น้ำทุกหยดทำหน้าที่ของมัน ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือระเหยกลายเป็นไอ ในที่สุดมันก็คือน้ำ...อ้าวณ.มาพร่ำอะไรเนี่ย แต่ณ.รู้สึกอย่างนี้จริงๆ...^-^

    ***งั้นตบท้ายด้วยฝัน... ฝันว่าไปงานรับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษาอะไรสักอย่าง มีคนมากมายรอรับ ณ.รู้ว่า ณ.ก็ได้ด้วย รออยู่นานแต่ไม่ถึงคราวณ. สักที แต่ณ.ก็รู้สึกเฉยๆ แต่คนข้างๆ ดูกระวนกระวาย อันดับของเขาห่างจาก ณ. มาก เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้รับ ณ.ให้กำลังใจเขาไปให้เขาไม่ต้องห่วง แล้วก็เลยชวนคนนั้นออกไปรอข้างนอก ไปนั่งคุยกันจนมีคนออกไปตาม ณ.ถามคนตามว่าถึงคราวเพื่อนคนนี้หรือยัง เขาบอกว่าถึงแล้ว ณ.รู้สึกดีใจมาก แล้วณ.ก็ใช้นิ้วเขียนอวยพรบนท้องฟ้าให้กับเพื่อนคนนี้ และเพื่อนทุกคนที่ได้รับประกาศนียบัตร เขียนหลายข้อความมาก ส่วนตัวเองเดินทางกลับบ้านไปพร้อมกับรอยยิ้ม...อิอิ พอตื่นขึ้นมา ทำไมเราเป็นคนดีได้ขนาดนี้เลยเหรอ...(deejai)
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เอาการบ้านมาส่งครับ จากภาพวาดภาพแรก

    [​IMG]

    พี่นักเขียนขอให้พวกเราทุกคนพิจารณาภาพวาดของตนเอง แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
    (ไม่ใช่วินิจฉัยฝีมือวาดภาพ แต่ให้พิจารณาความรู้สึกที่เรามีต่อตนเอง และสิ่งที่เราอ่านพบจากภาพวาดของเรา):
    1. เรามีความรู้สึกนึกคิดเจาะจงถึงส่วนใดของร่างกายตัวตนของเราเป็นพิเศษ?
    ท่าทางการนึกคิดของตัวเอง

    2. เรารู้สึกอย่างไรเมื่อมองดูภาพวาดของตนเอง
    เป็นภาพวาดที่สะท้อนเรื่องราวในชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ดีทีเดียว

    3. เราคิดว่า ภาพวาดนี้ เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงออกซึ่งความรู้สึกใดของเรา เช่น ความร่าเริง ความเครียด ความว้าเหว่ หรืออารมณ์อื่นๆ?
    คิดหนัก ว้าวุ่นใจนิดหน่อยเพราะว่ามีเรื่องให้คิดให้ทำหลายเรื่อง

    4. เส้นสายในภาพบ่งบอกให้เรารู้ถึงอารมณ์ของเราอย่างไรบ้าง?
    เป็นอารมณ์ที่ไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่ ไม่กดดัน

    5. เขียนคำบรรยายสัก 1-2 ประโยค ว่ารูปทรงที่ปรากฏในภาพบอกให้เรารู้เกี่ยวกับอารมณ์ของเราว่าอย่างไร?
    รูปทรงในภาพ ใช้ลายเส้นไม่กี่เส้น เพื่อที่จะแค่สื่อให้ดูรู้ว่าเป็นสิ่งอะไร ดูเหมือนเรียบๆ แต่ก็ไม่มีสาระ/รายละเอียดอะไรมากนั้น

    6. หากภาพวาดนี้พูดได้ มันบอกให้เรารู้ถึงอารมณ์และความรู้สึก และสถานการณ์ใดที่กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกนั้นๆ
    อารมณ์ที่ว้าวุ่นใจ ที่มีหลายเรื่องหลายสิ่งมาให้ทำ แต่จัดลำดับงานไม่ถูก

    7. เรารู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้แสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดเป็นภาพ
    ได้เห็นภาพสะท้อนอารมณ์ความนึกคิดของตัวเองออกมาชัดขึ้น

    8. หลังจากได้วาดภาพนี้ไปแล้ว ตอนที่เรากำลังดูภาพนี้อีกครั้ง เรารู้สึกอย่างไรบ้าง?
    ถึงลายเส้นจะดูลวกๆ ไปหน่อย แต่อารมณ์ในภาพก็ใช่เลย เป็นอารมณ์,ความรู้สึกที่เจอทุกวัน

    9. เราเรียนรู้เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองอย่างไรบ้างจากภาพวาดนี้?
    ได้เห็นอารมณ์ความนึกคิดของตัวเองชัดขึ้น ซึ่งก็น่าจะมีการบริหารใหม่ให้ดี

    10. เราเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการแสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกของเราเป็นรูปธรรม เป็นภาพวาดบนกระดาษ หรือจอภาพ?
    ได้เห็นภาพความนึกคิดของตัวเองได้ชัดเจน
    <hr>
    คุณ Mead ครับ ที่คุณ Mead เห็นว่าเป็นคนที่แขนหายไป คือคนในรูปที่ผมทำมาหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ นั่นก็เป็นมุมที่มองจากด้านข้างเลยไม่เห็นแขน

    ส่วน อันที่บอกว่าพลาดไป คือ คนที่ไม่ได้ยกแขนขึ้น ดังที่พี่นักเขียนอธิบายในไดอะแกรมไว้ว่า

    "ณ จุดที่แลเห็นบุคลิกภาพที่ไม่ได้ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะเพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือเกื้อกูลและถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ที่อ่อนแอกว่าทั้งทางกายทางจิตวิญญาณหรือปัญญา ท่านอาจารย์อนาลัยได้ระบุว่า เป็นจุดแห่งความเสื่อม ซึ่งหมายถึงปราศจากการถ่ายทอดความรู้ ปราศจากการให้ ปราศจากความรักและสนับสนุน ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น"

    ที่ทำมาก็มีแต่คนยกมือขึ้น แต่ไม่ได้มีคนไม่ได้ชูแขนขึ้น
    <hr>
    ขอย้อนไปเรื่องที่ว่าพี่นักเขียนบอกว่า zip เข้าใจถูกแล้ว ตอนที่ถามเรื่องดอกไม้บนหน้าผา คือที่ว่าเข้าใจถูกคือ เรื่องที่ว่า ดอกไม้บนหน้าผา เหมือนกับว่าเส้นทางในชีวิตที่ดำเนินไปมีได้หลากหลายเส้นทางอาจจะดูเหมือนว่าเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กันหลายๆ เส้นทางแต่ละเส้นทางก็จะมีรายละเอียดอะไรต่างกันไป หรือว่าเรื่องราว/เส้นทางในชีวิต มันสามารถจะวนกลับมาเกิดใหม่ได้เหมือนละครที่นำมาสร้างใหม่

    ทีนี้ก็เป็นข้อสงสัยในเรื่งอ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณบ้าง คืออ่านไปถึงตอนที่เขียนถึง ประสาทสัมผัสภายใน ที่เขียนถึง การร่วมรู้สึก, ความรู้และเข้าใจในความคิดรวบยอด และ ความรู้และเข้าใจในแก่นแท้ของความเป็นจริง

    การร่วมรู้สึกนี้ เหมือนกับว่าเราจะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรบ้างใช่ไหมครับ ส่วนที่งงจริงๆ ก็คือ ความรู้และเข้าใจในความคิดรวบยอดกับความรู้และเข้าใจในแก่นแท้ของความเป็นจริง ทั้งสองเรื่องนี้ สิ่งที่เหมือนกันคือ ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งๆ นั้น แล้วเราก็จะเข้าใจในสิ่งนั้น แต่สิ่งที่ต่างกันคืออะไร

    ความรู้และเข้าใจในความคิดรวบยอด คือ การที่เราเข้าใจถึงที่มาที่ไปของสิ่งๆ หนึ่งหรือเรื่องๆ หนึ่ง แต่
    ความรู้และเข้าใจในแก่นแท้ของความเป็นจริง จะทำเราสามารถแปลงไปเป็นสิ่งนั้นได้ แต่ไม่ใช่ในแบบว่าแปลงร่างหรือเปลี่ยนร่างไปเลยนะ
     
  17. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พี่นักเขียนแปลกใจมากที่ ว่าที่คุณหมอตั้งคำถามว่า สติสัมปชัญญะมีผลต่อการจดจำด้วยหรือ ? เพราะคุณสมบัติของสติสัมปชัญญะไม่ใช่คุณสมบัติที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณที่จับต้องไม่ได้เท่านั้น แต่เป็นคุณสมบัติที่เกี่ยวกับชีววิทยา จิตวิทยา ประสาทวิทยา และวิทยาศาสตร์ทุกแขนงที่เกี่ยวกับมนุษย์ หากปราศจากสติสัมปชัญญะ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเราจะใช้การไม่ได้ กล่าวได้ว่าหากปราศจากสติสัมปชัญญะ เราจะรู้ไม่ได้และจดจำไม่ได้ว่าเรา มองเห็น ลิ้มรส สัมผัส ได้กลิ่น หรือ ได้ยิน

    คุณน้องนาคาบอกว่าเพิ่งจะสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ไปหยกๆ diagram นี้คงจะช่วยกระตุ้นความจำ ผ่านประสาทตาของคุณน้องนาคาได้บ้างไม่มากก็น้อย
    [​IMG]
    [​IMG]

    คนเรารับรู้และจดจำได้ว่าเราเจ็บตรงไหนหรือป่วยอย่างไร ก็เพราะเรามีสติสัมปชัญญะที่ตระหนักรู้ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย และจดจำภาวะนั้นๆได้ จึงทำให้เราสามารถถ่ายทอดและสื่อสารกับแพทย์ได้ว่าเจ็บตรงไหน รู้สึกอย่างไร ความสามารถในการมองเห็น ลิ้มรส ได้กลิ่น เคลื่อนไหว หรือได้ยินเป็นเช่นไร คุณหมอจะวินิจฉัยโรคคนไข้และติดตามผลของการเยียวยารักษาโรคได้ ก็เพราะคุณหมอมีสติสัมปชัญญะที่สามารถจดจำและรู้เห็น ได้ยิน และสัมผัสความเป็นไปของคนไข้ได้อย่างชัดเจน ทำให้ตระหนักได้ว่าการรักษาของเขาได้ผลหรือไม่

    สติสัมปชัญญะ คือ การจดจ่ออย่างคมชัดของจิตวิญญาณ ไม่ว่าเราจะกล่าวถึงสติสัมปชัญญะในแง่มุมหรือในนัยใด เช่น ในแง่มุม-ในนัยของวิทยาศาสตร์ หรือในแง่มุม-ในนัยของจิตวิญญาณที่คนจำนวนมากถือว่าไม่เป็นวิทยาศาสตร์เพราะจับต้องไม่ได้ แต่สติสัมปชัญญะก็ไม่ได้มีคุณสมบัติต่างกันเลยในทั้งสองแง่มุม หรือสองนัยนั้น เพราะสติสัมปชัญญะก็คือคุณสมบัติที่ทำให้เรารู้เห็นได้ รับข้อมูลความรู้ได้ จดจำได้ ถ่ายทอดข้อมูลความรู้ได้ คิดได้ รู้สึกได้ สร้างสรรค์ได้ และทำลายได้

    คำถามของน้องนาคามีคำตอบอยู่ในคำถามแล้วอย่างชัดเจน เพราะเมื่อน้องนาคาถามว่า ทำไมเราถึงจำความฝันและจินตนาการยามหลับได้เลือนราง สติสัมปชัญญะมีผลต่อการจดจำด้วยหรือ
    คุณน้องนาคาก็ตอบเองว่า เพราะเวลานอนก็เหมือนว่าเราไม่รู้สึกตัวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการตอบคำถามตนเองว่าการนอนที่ปราศจากการรู้สึกตัว หรือการนอนหลับโดยปราศจากสติสัมชปัญญะที่คมชัดที่จะติดตามรู้เห็น ทำให้จดจำความฝันไม่ได้

    ต่อคำถามที่ว่า จิตวิญญาณของเราจดจำอะไรเองไม่ได้เหรอครับ เราต้องคอยกำหนดสติเพื่อใช้สมองของเราจดจำเองเหรอครับ
    พี่นักเขียนขอย้อนกลับไปที่คำจำกัดความและความหมายของสติสัมปชัญญะอีกครั้งว่า สติสัมปชัญญะ คือ การจดจ่ออย่างคมชัดของจิตวิญญาณ และขยายความด้วยคุณสมบัต้ของสติสัมปชัญญะที่ว่า เป็นปัจจัยที่ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    จิตวิญญาณจดจำได้ก็ต่อเมื่อจิตวิญญาณจดจ่ออย่างคมชัด ไม่ใช่ว่าจิตวิญญาณเป็นสิ่งหนึ่ง สติสัมปชัญญะเป็นอีกสิ่งหนึ่ง และสมองเป็นอีกสิ่งหนึ่ง หากแต่ว่าสติสัมปชัญญะคือภาวะที่จดจ่ออย่างคมชัดของจิตวิญญาณ และสติสัมปชัญญะก็เป็นกระบวนการทางกายภาพที่ทำให้สมองสามารถจดจำได้และแสดงออกซึ่งคุณลักษณะทางกายภาพหรือทางชีวภาพ

    การจดจำของจิตวิญญาณที่กว้างไกลและลึกล้ำ ได้แก่การจดจำประสบการณ์ข้ามชาติภพ เป็นส่วนของความจำที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ใน โนวา อนาลัยขยายความธรรมชาติของชาติภพว่า เป็นความจำที่ปรากฏใน Genes และ Chromosome และถ่ายทอดมาสู่ชาติภพนี้เป็นภาวะทางกายภาพของร่างกายเนื้อหนังส่วนหนึ่ง และเป็นอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดอีกส่วนหนึ่ง

    หากว่าที่คุณหมอสนใจเกี่ยวกับจิตวิญญาณ พี่นักเขียนขอสนับสนุนให้อ่านหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย เพื่อหาความรู้อีกด้านหนึ่ง เพราะจะเป็นประโยชน์กับการรักษาบุคคลตัวตนอย่างสมบูรณ์ที่สุด คือไม่ใช่รักษาเฉพาะจิตวิญญาณส่วนที่เป็นร่างกายเนื้อหนังเท่านั้น แต่พิจารณาและรักษาครอบคลุมไปถึงจิตวิญญาณส่วนที่เป็นจินตภาพ อันได้แก่ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดด้วย

    หากคุณน้องนาคาสนใจเกี่ยวกับจิตวิญญาณในแง่ที่เป็นวิทยาศาสตร์จากมุมมองของผู้ที่เป็น M.D.โดยตรง พี่นักเขียนขอแนะนำให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ/สติสัมปชัญญะ และ สุขภาพกาย/สุขภาพจิต ที่เขียนโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์มากมายกับคนไข้ของเขาโดยตรง เช่น Elizabeth Krubler Ross, Raymond Moody, Brian D. Weiss, Herbert Benson, Deepak Chopra เป็นต้น

    หวังว่าน้องนาคาคงจะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณในแง่ที่เป็นวิทยาศาสตร์ต่อไป เพราะเรียนแพทย์อย่างไรก็ต้องขยันอ่าน Textbook ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว อ่านหนังสือพวกนี้เพิ่มเติมอีกจึงน่าจะเป็นประโยชน์คือช่วยฝึกภาษาทางหนึ่ง และขยายความรู้ไปด้วยในตัวอีกทางหนึ่ง (rose)
     
  18. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ภาพที่สอง ให้วาดจากภาพถ่ายค่ะ เป้าหมายคือ วาดภาพเหมือน หรือ portrait ของตนเองค่ะ ขอให้ใช้ภาพถ่ายที่คิดว่าเหมือนตัวตนของเราในปัจจุบันที่สุด

    ภาพนี้ให้ใช้เวลาให้เต็มที่ ไม่เร่งรัด และอยากให้เก็บรายละเอียดจากแววตาและทุกส่วนบนใบหน้าให้ได้มากที่สุด เพราะมันจะแสดงให้เรามองเห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกในส่วนลึกของเราออกมาได้อย่างชัดเจน

    ขอให้วาดเพียงครึ่งตัวพอนะคะ ตามตัวอย่างภาพวาดข้างล่างนี้ โดยมีขนาดไม่เกิน 3" x 4"
    [​IMG]

    พี่นักเขียนจะปล่อยให้พวกเราวาด freestyle อีกครั้ง จากนั้นเราจะเริ่มเข้าสู่การฝึกวาดภาพ ด้วยสมองซีกขวาอย่างแท้จริง แล้วเราจะมาดูกันต่อไปว่า พวกเราสามารถสัมผัสกับภาวะที่เรียกว่า ใช้สมองซึกขวาวาดภาพได้หรือไม่ มันเป็นอย่างไร และนอกจากเราจะใช้ภาวะนี้วาดภาพแล้ว เราทำอะไรได้อีกด้วยภาวะดังกล่าวนี้(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2007
  19. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ตอนนี้เป็นหวัด เสียงเป็นเป็ดเลย แต่ยังร้องเพลงได้อยู่น่ะ แค่เสียงแปร่งๆเท่านั้นเอง 555
    กลับมาบ้านเลยนอนเลย นอนเร็วก็ตื่นเร็ว แวะเข้ามาห้องวิทย์ก่อนดีกว่า
    หลับฝันไปตื่นมาจำได้หมดเลย ก็ฝันว่าเดินขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน เจอแมวน้ำตาล 2 ตัว
    นกก็เปิดหน้าต่าง และคิดอยู่ว่าตอนนี้ตัวเองฝันอยู่นะ จะทำตามที่พี่นักเขียนบอก
    คือถ้าจะตื่นอย่าเพิ่งรีบลุกขึ้นมา พิจารณาตนเองก่อนช้าๆ เหมือนว่าเราคิดแล้วและเราตื่นจากความฝันแล้ว
    เปิดหน้าต่าง ปีนไปบนหลังคา ความรู้สึกว่าได้รับแสงแดดยามเช้าอ่อนๆ
    ปีนกลับเข้ามาเหมือนเดิม เดินลงบันไดมาข้างล่าง เห็นแม่นั่งล้างจานอยู่
    เราก็เอามือไปจับหูแม่ดู แต่แม่ไม่รู้สึกอะไรเลย นั่งล้างจานต่อ คิดในใจแม่ไม่เห็นเราแน่เลย
    ก็เดินต่อไปหน้าบ้าน ประตูเปิดกว้างอยู่แล้ว เห็นศาลไม้พอดี นกก็ไปนั่งข้างหน้า
    มีเด็กผู้หญิง 3 คนยืนอยู่ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักมากๆ มองไปที่ศาลเห็นรูปปั้นกุมาร 3 อัน สีชุดเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่เลย
    ปกติศาลหน้าบ้านจะมีรูปปั้นกุมารผู้ชายอยู่อันเดียว นกก็เลยถามว่ากุมารเหรอเนี่ย
    ว่าแล้วก็เข้าไปกอดทีละคนถามว่าชื่ออะไร คนแรกแก้มยุ้ยน่ารักตัวเล็กที่สุด บอกว่าชื่อคุณผู้หญิงเจิ่ม กลัวฟังผิดย้ำชื่อตั้งหลายรอบ
    คนที่2 ดูคล่อง ๆ น่ารักอีกเหมือนกัน บอกว่าชื่อเจือ
    คนที่3 คนนี้ดูเหมือนเด็กผู้ชายเลย ตัวโตที่สุด บอกว่าชื่อจิ้ม แล้วยังพูดกับนกเลยว่าเค้าไม่อยากเป็นผู้หญิง ดูเป็นทอมบอยมาก
    นกก็พยายามจะให้น้องกุมารผู้ชายปรากฎตัวขึ้นมา แต่ก็ไม่เห็น
    หันมามองศาลในบ้าน ด้วยความอยากเห็นเจ้าที่ ใจก็นึกขอให้เห็นแต่ก็ไม่เห็น
    แต่ตัวเองก็พูดขอบคุณเจ้าที่ที่ช่วยคุ้มครองดูแลบ้านมาตลอด ถ้ามีภยันตรายอะไรก็ช่วยมาเตือนด้วย
    ทีนี้ก็บอกกับน้องกุมารผู้หญิงว่าพาพี่ไปเดินเที่ยวข้างนอกหน่อยสิ ช่วยดูพี่ให้ด้วยกลัวว่าจะกลับมาบ้านไม่ได้
    เพราะที่พี่นักเขียนบอกว่าถ้าเราไปเรียนรู้อะไรในยามฝันก็ให้เชิญอาจารย์ไปคุ้มครอง
    คิดว่าเรื่องเล็กน้อยไปใกล้ๆคงไม่ต้องเชิญอาจารย์ท่านใดมา เพราะเกรงใจ แต่น้องกุมารน่าจะช่วยดูแลได้อย่างดี
    มองไปตามทางเดินก็เห็นคนเดินกันเป็นปกติ เหมือนเวลาเราตื่นเลย
    เดินไปแค่ไม่ถึง 10 ก้าวหรอก ยังไม่พ้นหน้าบ้านเลย ก็เจอน้าคนที่เสียกำลังเดินมา กอดกันเพราะความคิดถึงใหญ่เลย
    ถามสารทุกข์สุขดิบกัน น้าก็มีความสุขดีมากๆ ยังทักว่านกอ้วนขึ้นนะ เห็นน้ามีความสุขก็ดีใจมากๆล่ะ
    ฝันก่อนหน้าก็ไปกับพ่อ แถมไปบู๊กับตำรวจอีก แต่ไม่เล่าล่ะกัน เพราะเรื่อยเปื่อยเกิน แถมความไม่ชอบตำรวจก็มาจากสำนึกภายในอีก
    แต่คืนก่อนนู้น ฝันว่าตัวเองต้องสู้กับผู้ชาย 3 คน หุ่นยังกะนักมวยปล้ำชื่อ The Rockเลย
    รู้ว่าเหนื่อยแน่ แต่ก็สู้ไม่ถอย มีกระโดดลอยเตะหน้าด้วยแน่ะ 555 บู๊ตามเคย

    การบ้านภาพเหมือนของพี่นักเขียน จะหาเวลาทำมาส่งนะคะ ขอหายป่วยก่อน นกแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่กี่วันก็หายดี
    นับวันความรู้ของอาจารย์อนาลัยยิ่งซึมซับเข้าถึงจิตวิญญาณมากขึ้นทุกวันทุกวัน อ้าว เรียนรู้ต่อสิ (เตือนสติตัวเองให้อ่านหนังสือบ้าง มัวขี้เกียจอยู่ได้ อิอิ)
     
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    คุณเม้า มาเต้นอยู่ใกล้ๆพี่นักเขียนช่วงเทศกาลรับประทาน Turkey
    มีหวังโดนอุ้มเข้าเตาอบนะเจ้าคะ :( จะให้ปลอดภัยต้องไปเต้นใกล้ๆคุณเฉลยเจ้าค่ะ(rose)
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...