เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

'เกาหลีเหนือ' ขู่โจมตี 'เกาหลีใต้' ฉุนเผารูปอดีตผู้นำ

รัฐบาลเกาหลีเหนือขู่โจมตีเกาหลีใต้แบบฉับพลัน อ้างเพื่อตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงในเกาหลีใต้เผาหุ่นอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง-อิล ในวันครบรอบ 2 ปีการเสียชีวิต...
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันพฤหัสที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือขู่ว่าจะโจมตีเกาหลีใต้โดยไม่บอกล่วงหน้า เพื่อโต้ตอบกลุ่มผู้ประท้วงในเกาหลีใต้ ที่เผาหุ่นอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง-อิล ในวันครบรอบ 2 ปีการเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศประหารชีวิต อาเขย ผู้นำหมายเลข 2 นายจาง ซอง-แต๊ก ในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ในข้อหาเป็นผู้ทรยศต่อผู้นำประเทศคนปัจจุบัน นายคิม จอง-อึน ลูกชายนายคิม จอง-อิล

เกาหลีเหนือขู่จะโจมตีสหรัฐฯและเกาหลีใต้เป็นประจำ ในครั้งนี้เกาหลีใต้โต้ตอบโดยการประกาศว่า จะใช้มาตรการเข้มงวดในการตอบโต้ถ้าหากมีการโจมตีจริง

นายมาร์ติน แดมซี่ ประธานคณะกรรมาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่าการกระทำแบบนี้ของเกาหลีเหนือเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชน จากสิ่งที่เกาหลีเหนือตั้งใจจะทำจริงๆ ที่ไม่ต้องการเปิดเผย ซึ่งต้องสืบค้นต่อไปว่าคืออะไร


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 20 Dec 2013

 

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 56
กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นต่อไปจนถึงช่วงปีใหม่

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-25 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : มีเมฆบางส่วน ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง คลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

พิษณุโลกประกาศพื้นที่ภัยหนาว 3 อำเภอ ขณะที่แม่คะนิ้งเกิดอีกวันที่ 5 แล้ว







วันจันทร์ 23 ธันวาคม 2556 เวลา 10:07 น.
วันนี้( 23 ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านร่องกล้า หมู่ที่ 10 ต.เนินเพิ่มอ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นหมู่บ้านภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเช้าวันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศา ส่วนอุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ 1 องศาทำให้เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็งยอดหญ้า หรือ แม่คะนิ้ง เป็นวงกว้างกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา บางจุดอยู่บนหลังคาบ้าน เห็นขาวโพน ซึ่งปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งยอดหญ้าหรือ แม่คะนิ้ง ที่บ้านร่อง ถือเป็นวันที่ 5 แล้ว มีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวเดินทางมาเที่ยวชมกันจำนวนมาก

ด้านนายบุญยิ่ง คุ้มสุวรรณป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าขณะนี้หลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลกได้มีสภาพอากาศที่หนาวและเย็นลงอย่างต่อเนื่อง และต่ำกว่า 15 องศาโดยเฉพาะพื้นที่ยอดดอย มีอุณหภูมิ 0-5 องศา เท่านั้นส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากภัยหนาวนี้จำนวนมากโดยเช้าวันนี้อุณหภูมิพื้นราบในจังหวัดพิษณุโลก อยู่ที่ 14 องศา ทำให้ขณะนี้ทางจังหวัดพิษณุโลก ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหนาวแล้ว 3อำเภอคือ อ.นครไทย อ.ชาติตระการ และ อ.เมือง จำนวนทั้งสิ้น 37 ตำบลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 130,000 ครัวเรือน ขณะนี้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลกได้ประสานขอผ้าห่มกันหนาวจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกไปมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อน แล้วคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้โดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นการช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น

 

ยอดผู้ประสบภัยหนาวสูงนับแสนคน ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนเดินสายมอบผ้าห่มให้ชาวบ้าน

วันจันทร์ 23 ธันวาคม 2556 เวลา 09:46 น.



เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับ นายเพิ่มวิทยา กันทะทรงหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เดินสายมอบไออุ่นให้กับราษฏรผู้ยากไร้ที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบไปด้วยอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และ อำเภอสบเมย อำเภอละ 500 ผืน รวม 1,500 ผืนเพื่อเป็นการช่วยเหลือราษฏรที่ประสบภัยหนาวในเบื้องต้นรอบแรกทั้ง 7 อำเภอรวมผ้าห่ม 4 พันผืน ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยในเขตเมืองอยู่ที่ 12 – 13 องศาบนยอดดอย ประมาณ 4 – 5 องศา ทำให้ขณะนี้มีราษฏรประสบภัยหนาวมียอด กว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะราษฏรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยอดดอยชายแดน ซึ่งทางจังหวัดจะได้เร่งดำเนินการแจกจ่ายผ้าห่มอย่างรวดเร็วและทันต่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 7อำเภอ 45 ตำบลของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่ประสบพิบัติ(ภัยหนาว)แล้ว เนื่องจากในที่ผ่านมามีอุณหภูมิต่ำกว่า15 องศาเซลเซียสติดต่อกัน ซึ่งเป็นการประกาศตามระเบียบของทางราชการด้านการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวขณะนี้ก็ได้มีการระดมการช่วยเหลือจากหลายฝ่ายโดยทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เตรียมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว เป็นกรณีเร่งด่วน ในอำนาจของผู้ว่าได้อนุมัติเงิน 1ล้านบาทในการซื้อผ้าห่มกันหนาว จำนวน 4 พันผืน ออกแจกจ่ายให้ผู้มีความเดือดร้อนเร่งด่วนก่อนในขณะเดียวกันได้ขอสนับสนุนไปยังกระทรวงมหาดไทย จำนวน 6 หมื่นผืน จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางจังหวัดได้ขอสนับสนุนผ้าห่มเพิ่มเติมอีก จำนวน 4 หมื่นผืน เพื่อจะนำมาช่วยเหลือในระยะต่อไปได้จัดงบประมาณในอำนาจผู้ว่าฯโดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้สภาพอากาศหนาวเย็นมาก เป็นห่วงประชาชนที่ประสบภัยหนาว และ ขอให้หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งช่วยเหลือ ตามอำนาจและกำลังเบื้องต้น เช่นเดียวกันเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความขาดแคลนเครื่องกันหนาวต่อไปแล้ว

 

กรมทางหลวง ยันเดินหน้าเวนคืนที่ดินก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมาได้
คาดใช้งบปี 58 จ่ายชดเชย แทน 2 ล้านล้าน ส่วนงบก่อสร้างเป็นเรื่องระดับนโยบายตัดสินใจ


นายเชวง บัวหมื่นชลผู้อำนวยการกลุ่มสำรวจและประมาณราคาที่ 2 กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมชี้แจงการประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเขตเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ตอนที่ 2 โดยจะสรุปข้อมูลแนวเส้นทางที่จะเวนคืนให้เสร็จในเดือนก.พ.57 ขณะที่งบประมาณในการก่อสร้างจะต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้ตัดสินหากพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านผ่านก็ใช้งบจากส่วนนี้ แต่หากพ.ร.บ.ไม่ผ่าน ก็ต้องดูว่าจะผลักดันใช้เงินส่วนอื่นเช่น งบประมาณปี 58 มาใช้ก่อสร้างแทนหรือไม่

ทั้งนี้การประชุมได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ประชาชนควรรับทราบเพื่อให้ได้รับค่าชดเชยอย่างครบถ้วน และเปิดโอกาสให้ประชาชนสอบถามข้อมูลเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องโดยเฉพาะเส้นทางตอนที่ 2 ระยะทาง 59กม.เบื้องต้นมีที่ดินที่จะต้องถูกเวนคืนประมาณ 1,200แปลง สิ่งปลูกสร้าง 400-500 ราย อย่างไรก็ตามระหว่างสำรวจแนวเวนคืนที่ดินพบว่า มีที่ดินเปล่าที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือทำให้มีผู้ที่ต้องได้รับค่าชดเชยเพิ่มขึ้นแม้พื้นที่เวนคืนจะมีจำนวนเท่าเดิมแต่ยืนยันว่าค่าชดเชยที่ดินจะอยู่ในวงเงินที่คาดการณ์ไว้

“เบื้องต้นมีประชาชนที่รู้ว่าจะต้องถูกเวนคืนประมาณ60-70% โดยพิจารณาตามแนวพรฏ.เวนคืนที่ดินที่ประกาศไปเมื่อต้นปี56และได้ขอเข้ามาดูแบบก่อสร้างกับบริษัทที่ปรึกษา รวมทั้งหารือกับกรมทางหลวงเพื่อขอปรับแบบกรณีที่แนวเวนคืนปิดทางเข้า-ออกหน้าบ้านซึ่งเรื่องนี้กรมทางหลวงเปิดกว้างรับฟังและแก้ไขให้อย่างต่อเนื่องคาดว่าความชัดเจนในการเวนคืนที่ดินว่ามีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนทั้งหมดเท่าไรในเดือนก.พ.57”

สำหรับรายละเอียดโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา แบ่งแนวสำรวจออกเป็น 4ตอน ระยะทาง 196 กม. ซึ่งอยู่ในแผนของพ.ร.บ. 2 ล้านล้านทั้งหมดโดยใช้งบประมาณรวม 84,600 ล้านบาท เป็นค่าเวนคืน 6,600ล้านบาท และค่าก่อสร้างกว่า 77,000 ล้านบาท โดยมียอดเวนคืนรวมเบื้องต้น 3,200แปลง แนวเส้นทางจะตัดผ่านพื้นที่ 3 จังหวัด 12อำเภอ และหากพ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทผ่านกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มประกาศประกวดราคาและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 57

 

'นครพนม' ประกาศภัยหนาว ทั้งจังหวัด

จ.นครพนม หนาวเย็นต่อเนื่อง พบอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 10-14 องศา ผู้ว่าฯ ประกาศให้ 12 อำเภอ ทั่วทั้งจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว พร้อมสั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือ เร่งแจกเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้ผู้เดือดร้อนกว่าแสนราย...

วันที่ 23 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.นครพนม ยังคงมีสภาพอากาศหนาวเย็น หลังอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง บวกกับมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม พบอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 10-14 องศา ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่ ประสบความเดือดร้อนจากภัยหนาว
ทั้งนี้ นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม ประกาศให้ จ.นครพนม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ครบทั้งหมด 12 อำเภอ หลังอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ต่อเนื่อง 3 วัน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ เบื้องต้น จากการสำรวจพบมีประชาชนที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว กว่า 1.2 แสนราย รวมประมาณ 1.4 แสนครอบครัว ซึ่งทางจังหวัดดำเนินการแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวไปแล้ว กว่า 30,000 ผืน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์
นอกจากนี้ จ.นครพนม ยังมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหาภัยหนาวของจังหวัดขึ้น ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม รวมถึงอำเภอที่ประสบภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อทำการสำรวจให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่จัดเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาว และระวังการเกิดอัคคีภัย จากการก่อไฟผิงคลายหนาวในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ซึ่งขณะนี้มีเงินงบประมาณการช่วยเหลืออนุมัติแล้ว อำเภอละ 1 ล้านบาท และสามารถขยายวงเงินได้อีกหากไม่เพียงพอ.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

นักท่องเที่ยว แห่ชมแม่คะนิ้งที่ 'ดอยอินทนนท์'

นักท่องเที่ยวแห่พักแรมกางเต็นท์ "ดอยอินทนนท์" ที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น พบว่า "แม่คะนิ้ง" ยังจับตัวตามต้นหญ้า ดอกไม้...

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 56 เวลา 09.00 น ที่ จ.เชียงใหม่ นายจิรเดช บุญมาก ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในเช้าวันนี้ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ยังพบว่า อากาศยังคงหนาวเย็น มีแม่คะนิ้งตั้งแต่บริเวณกิ่วแม่ปาน จนถึงยอดดอยอินทนนท์ โดยอุณหภูมิยอดดอยอินทนนท์ บริเวณหน้าศูนย์บริการท่องเที่ยวอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส บริเวณกิ่วแม่ปาน 0 องศาเซลเซียส และบริเวณสนามหน้าที่ทำการอุทยานฯ 6 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวขึ้นมากางเต็นท์นอนเป็นจำนวนมาก.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

มหาสารคาม ประกาศภัยพิบัติหนาว 13 อำเภอ
มหาสารคามหนาวต่อเนื่อง อุณหภูมิต่ำสุด 13 องศา ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเขตภัยพิบัติหนาวแล้วทั้ง 13 อำเภอ ประชาชนขาดเครื่องกันหนาว 1.7 แสนคน



เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผวจ.มหาสารคาม เผยว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทุกพื้นที่ของจังหวัดมหาสารคาม มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดในช่วงกลางคืน ซึ่งอุณหภูมิต่ำสุดของจังหวัดที่สถานีอุตุนิยมวิทยามหาสารคาม อ.โกสุมพิสัย วัดได้ที่ 13 องศาเซลเซียส และคาดว่าอากาศจะยังคงหนาวเย็นต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ จึงได้ประกาศให้จังหวัดมหาสารคามเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวครอบคลุม13 อำเภอทั้งจังหวัด มีราษฎรขาดแคลนเครื่องกันหนาวกว่า 170,000 คน ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ออกแจกจ่ายเครื่องกันหนาวกระจายไปยังอำเภอต่างๆ รวมแล้วกว่า 20,000 ชุด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นให้กับราษฎรผู้ประสบภัย

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในช่วงเช้า ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย และลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งกลุ่มคนที่ก่อกองไฟ เพื่อคลายความหนาวเย็นตลอดช่วงระยะนี้ระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยไว้ด้วย

 

พายุทอร์นาโดและหิมะพากันพัดถล่มฝั่งตะวันออกของสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ

วันจันทร์ 23 ธันวาคม 2556
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา23ธ.ค.ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐรายงานว่าฝั่งตะวันออกของสหรัฐกำลังเผชิญกับฤดูหนาวที่ผิดแผกไปจากทุกปีในช่วงก่อนวันคริสต์มาสนี้เนื่องจากนอกจากหิมะแล้วบางพื้นที่ยังต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดฝน น้ำท่วม และลมแรง

พายุหิมะมีแนวโน้มที่จะพัดถล่มฝั่งตะวันออกต่อมาจนถึงวันจันทร์ส่งผลให้เที่ยวบินหลายพันเที่ยวต้องถูกยกเลิกหรือล่าช้าออกไปโดยเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวในสนามบินของนครนิวยอร์กและเมืองฟิลาเดลเฟียต้องล่าช้าเนื่องจากเจอพายุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากรมอุตุกล่าวว่าแม้พายุจะพัดเข้าถล่มหลายพื้นที่แต่อุณหภูมิที่วัดได้กลับสูงขึ้นกว่าในอดีตโดยฤดูหนาวปีนี้อุณภูมิในนครนิวยอร์กซึ่งวัดจากบริเวณสวนสาธารณะ“เซ็นทรัล พาร์ค” อยู่ที่21.6 องศาเซลเซียสและที่เมืองฟิลาเดลเฟียอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณภูมิที่สูงผิดปกติเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายคริสตศตวรรษที่19

นอกจากนี้ในรัฐเมน รัฐเวอร์มอนต์รัฐนิวแฮมป์เชียร์และตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กพายุหิมะได้พัดเข้าถล่มจนถนนหลายสายถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและเกิดอุบัติเหตุหลายแห่งโดยเหตุที่เกิดขึ้นได้แก่อุบัติเหตุขับรถพุ่งชนต้นไม้รถตกน้ำและอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย7 ศพรวมทั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟฟ้าดับส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายพัน

รัฐทางตอนใต้ของสหรัฐอย่างอาร์คันซอก็ถูกพายุทอร์นาโดเคลื่อนตัวเข้าถล่มที่เมืองเรดฟิลด์ทำให้ไฟฟ้าดับต้นไม้หักโค่นและมีรายงานบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายแห่ง

 

ปีใหม่แล้ว คนส่วนใหญ่มักวางแผนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด และสัมผัสลมหนาว สถานที่ท่องเที่ยวที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้มีปริมาณการเดินทาง

ปีใหม่แล้ว คนส่วนใหญ่มักวางแผนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด และสัมผัสลมหนาว สถานที่ท่องเที่ยวที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้มีปริมาณการเดินทางหนาแน่นในเส้นทางมุ่งสู่ทุกภูมิภาค ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดหนัก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่เป็นที่รู้จัก

ทุกปีเมื่อถึงช่วงเทศกาล กรมทางหลวง (ทล.) จะมีการประชาสัมพันธ์เส้นทางออกสู่ภูมิภาคต่าง ๆ หลายเส้นทาง ให้ประชาชนใช้เป็นทางเลือกในการเดินทาง ให้มีการกระจายการเดินทางแบบหลากหลายเส้นทาง ลดปัญหาการจราจรติดขัด

โดยเส้นทางสู่ภาคเหนือมีทางเลือก 6 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ถึงต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่อ่างทอง
เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) จนถึงต่างระดับบางปะอินแล้วใช้ถนนสายเอเซีย เข้าสู่จังหวัดกำแพงเพชร ตาก ลำปาง เชียงใหม่
เส้นทางที่ 3 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) ใช้ถนนวงแหวนตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีไปสู่จังหวัดชัยนาท เข้าถนนสายเอเซีย
เส้นทางที่ 4 ใช้เส้นทางถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนต่างระดับลำลูกกา (ทางหลวงหมายเลข 9) ถึงแยกพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวซ้ายไปต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนเอเซีย
เส้นทางที่ 5 ใช้ถนนพหลโยธิน ไปทางสระบุรี เข้าจังหวัดลพบุรี เข้าสู่อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อมุ่งหน้าจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์
เส้นทางที่ 6 ใช้ถนนแจ้งวัฒนะ (ทางหลวงหมายเลข 304) ถึงห้าแยกปากเกร็ด ใช้ถนนติวานนท์ (ทางหลวงหมายเลข 306) เลี้ยวขวาข้ามถนนบางพูน -บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) ผ่านต่างระดับเชียงรากน้อยจนบรรจบถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ที่ อำเภอบางปะหัน แล้วเดินทางไปภาคเหนือ

มีเส้นทางเลี่ยงรถติดขัดในจังหวัดนครสวรรค์ 2 เส้นทาง ได้แก่
1. จากต่างระดับอินทร์บุรีเลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (อินทร์บุรี-เชียงใหม่) ผ่านอำเภอตากฟ้า ท่าตะโก สากเหล็ก ถึงสามแยกวังทอง เลี้ยวซ้าย มุ่งสู่จังหวัดพิษณุโลก และ
2. เมื่อถึงแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (กม. 331+810 บนทางหลวงหมายเลข 1) ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (ทางหลวงหมายเลข 122) ถึงสามแยกหนองตะโก สามารถเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดกำแพงเพชร หรือเลี้ยวขวาไปจังหวัดพิษณุโลก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 6 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ถึงต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรีเพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (ทางหลวงหมายเลข 302) เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) จนถึงต่างระดับบางปะอินแล้วใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี
เส้นทางที่ 3 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนต่างระดับลำลูกกา (ทางหลวงหมายเลข 9) ถึงแยกพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวขวาเพื่อเดินทางสู่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 4 จากบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ (ทางหลวงหมายเลข 304) ถึงห้าแยกปากเกร็ด ใช้ถนนติวานนท์ (ทางหลวงหมายเลข 306) เลี้ยวขวาข้ามถนนบางพูน-บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) ผ่านต่างระดับเชียงรากน้อยจนบรรจบถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ที่ อำเภอบางปะหัน เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี
เส้นทางที่ 5 จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต-องครักษ์ (ทางหลวงหมายเลข 305) ผ่านทางต่างระดับธัญบุรี ตรงไปจังหวัดนครนายก กบินทร์บุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ
เส้นทางที่ 6 จากถนนรามอินทรา ใช้ถนนรามอินทรา-สุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา พนมสารคาม กบินทร์บุรี ปักธงชัย เข้าสู่ถนนมิตรภาพ (สาย 2) ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยมีเส้นทางเลี่ยงรถติดขัดในจังหวัดสระบุรี 2 เส้นทาง ได้แก่
1. จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันออก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบถนนมิตรภาพ เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งสู่ จังหวัดนครราชสีมา
2. จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) มุ่งหน้าไปทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงแยกอำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2256 ถึง อำเภอด่านขุนทด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 201 ไป จังหวัดชัยภูมิ เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภาคตะวันออก มี 3 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 ไปตามถนนบางนา-บางปะกง (ทางหลวงหมายเลข 34) จนถึง กม.39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 7) ที่ต่างระดับบางควาย มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 2 จากถนนศรีนครินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 3 จากถนนรามอินทรา (ทางหลวงหมายเลข 304) ใช้ถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่าน จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าทางหลวงหมายเลข 314 แล้วใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก

เส้นทางสู่ภาคใต้ มี 3 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : ถนนพระราม 2) ถึงแยกวังมะนาว เลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่จังหวัด ภาคใต้
เส้นทางที่ 2 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดภาคใต้ และ
เส้นทางที่ 3 ใช้ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สู่จังหวัดภาคใต้

นายชัชวาล บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เส้นทางที่มีปัญหาติดขัดในช่วงเทศกาล สำหรับ
สายเหนือจะมีปัญหาที่ต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นจุดรวมรถของสายเหนือและสายอีสาน รวมถึงจะมีปัญหาที่ตัวเมืองนครสวรรค์เป็นหลัก
ส่วนสายอีสานจะมีปัญหาทางขึ้นเขาแถวมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ต่อเนื่องนครราชสีมา และบนถนนพหลโยธินมีการก่อสร้างสะพานกลับรถ 2 จุด ที่ช่วงนวนคร และช่วงเข้าจังหวัดสระบุรี ซึ่งได้ให้ผู้รับเหมาหยุดงานและคืนพื้นผิวการจราจร อาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัวบ้าง ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามคลองระพีพัฒน์ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว นอกจากนี้อาจมีปัญหาการจราจรบนถนนสาย 304 ช่วงวังนํ้าเขียว ที่เป็นทางขึ้นเขาที่มี 2 ช่องจราจรสวนกัน
ขณะนี้ที่เส้นทางออกภาคตะวันออก หากใช้ถนนบางนา-ตราด อาจได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงถนนบางนา-ตราด ช่วงออกจากบางนาไปประมาณ 20 กม. แนะนำให้ใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีตั้งแต่ต้นทางจะได้รับความสะดวกที่สุด
ส่วนเส้นทางลงสายใต้ จะมีปัญหาการจราจรที่แยกวังมะนาว จังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางล่วงหน้าได้ที่สายด่วน 1586 ซึ่งควรเช็กเส้นทางก่อนรถติดจะได้ประโยชน์กว่า

พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่าประชาชนจะออกเดินทางสู่ต่างจังหวัดกันมากในช่วงวันที่ 27 ธ.ค. และเดินทางกลับวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นมาก ทั้งนี้ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแล้ว และให้ผู้กำกับการแต่ละท้องที่ ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาแก้ปัญหาจราจรเฉพาะหน้า เพื่อให้การจราจรไหลลื่นได้ ทั้งนี้อยากให้ประชาชนวางแผนการเดินทางให้ดี และติดตามฟังข่าวสารจากวิทยุรายงานสภาพการจราจร เพื่อวางแผนการเดินทางและหลีกเลี่ยงจุดที่เป็นปัญหาการจราจรได้ทันท่วงที หรือโทรฯ สอบถามเส้นทางและแจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1193 เพื่อให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว และเสียเวลาบนท้องถนนน้อยที่สุด ทั้งนี้ตามเส้นทางบนถนนสายหลัก บก.ทล.มีจุดพักรถ และการบริการคลายง่วงให้กับผู้ขับขี่ เพื่อให้สามารถเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย

แม้ว่าช่วงเทศกาลจะมีปริมาณการเดินทางหนาแน่น แต่หากเรารู้จักวางแผน ศึกษาพื้นที่ก่อนออกเดินทาง บางครั้งอาจต้องเลือกเส้นทางวิ่งอ้อมไกลกว่าเดิมสักหน่อย เพื่อวิ่งได้ตลอดทำเร็วได้ไม่ต้องจอดนิ่งในเส้นทางที่เป็นที่นิยม ก็จะช่วยลดเวลาการเดินทางช่วงเทศกาลได้มาก.

โดย ประพิม เก่งกรีฑาพล /

 

ชาวนาพิจิตรฮือปิดถนนประท้วงไม่ได้เงินจำนำข้าว

ชาวนา 3 อำเภอ จ.พิจิตร ประท้วงรัฐ ฮือ ปิดถนนสายพิษณุโลก-นครสวรรค์ ทวงเงินจำนำข้าว จากการขายข้าวเปลือก 4 เดือน ยังไม่ได้รับเงินจาก ธกส...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 23 ธ.ค. 56 ได้มีกลุ่มชาวนาจาก อ.โพทะเล อ.บึงนาราง และ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ประมาณ 1 พันคน ได้มาชุมนุมปิดถนนขาล่อง สาย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ บริเวณสี่แยกโพธิ์ไทรงาม อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดยการนำของ นายประกาศิต แจ่มจำรัส นายก อบต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งกลุ่มชาวนาดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนจากการขายข้าวเปลือก ในโครงการจำนำข้าวฤดูการผลิต 55/56 ที่ผ่านมา ประมาณ 4 เดือนแล้ว และยังไม่ได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. แต่อย่างใด และเรียกร้องให้จ่ายให้กับเกษตรกรภายใน 31 ธ.ค. นี้ โดย พ.ต.ท.ปกรณ์ ปานผล รอง ผกก.ป สภ.บึงนาราง ได้นำกำลังตำรวจ 50 นาย มารักษาความปลอดภัย ในขณะเดียวกัน นายประธาน นรรัตน์ พาณิชย์ จ.พิจิตร และคณะ กำลังเข้าเจรจากับแกนนำชาวนากลุ่มดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดการจราจรให้ผู้ใช้รถยนต์ขาล่องไปใช้อีกเลนหนึ่งแทน ซึ่งผู้ใช้เส้นทางสาย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ ยังคงใช้เส้นทางดังกล่าวได้.




ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

แห่จองที่พักสถานีเกษตรฯ อ่างขางเต็มถึงปีหน้า

นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปสัมผัสอากาศหนาว และ จองบ้านพัก ที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ทำให้ยอดจองเต็มยาวจนถึงกลางเดือนมกราคมปีหน้า ขณะที่ชาวเขาถือโอกาสดี นำสินค้าพื้นเมือง มาวางขาย สร้างรายได้วันละหลายหมื่นบาท...
วันที่ 23 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นปลายปีนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทย เดินทางไปสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น รวมทั้งเที่ยวชมพันธุ์ไม้และดอกไม้เมืองหนาว ที่ปลูกอยู่ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง พร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก


เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ บ้านพักภายในสถานี จำนวน 20 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 150 - 200 คน ถูกจองเต็มยาวไปจนถึงกลางเดือนมกราคม 2557 ขณะที่ ที่พักรอบบริเวณดอยอ่างขาง มียอดจองสูงถึงร้อยละ 90 แล้วเช่นกัน ซึ่งปีนี้ยอดจองห้องพักถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติ จึงทำให้นักท่องเที่ยววางแผนเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับอากาศหนาวธรรมชาติบนดอยสูง และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น

ทั้งนี้ บรรยากาศการท่องเที่ยวที่คึกคัก ส่งผลให้ร้านจำหน่ายสินค้าของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเลือกซื้อสินค้า ทั้งของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ดอยคำของมูลนิธิโครงการหลวง ที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปชนิดต่างๆ วางจำหน่าย ขณะที่ชาวเขาโดยรอบพื้นที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ต่างนำสินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึกต่างๆ มาวางขายให้นักท่องเที่ยว สร้างรายได้วันละหลายหมื่นบาท.



ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

ผอ.อุตุฯภาคเหนือชี้อุณหภูมิจะลดลงอีก3-4 องศา หลายจังหวัดภาคเหนือหนาวสั่นงั่ก ดอยอินทนนท์เตือนเที่ยวดอยระวังอุบัติเหตุ








วันจันทร์ 23 ธันวาคม 2556
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. นายสมาน ปราการรัตน์ ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า อิทธิพลจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้เกิดอากาศหนาวเย็นในเขตภาคเหนือโดยจากการคาดการณ์แล้วอุณหภูมิจะยังลดลงได้อีก 3-4 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเข้าสู่ช่วงที่อากาศหนาวลดลงต่ำที่สุดอีกช่วงหนึ่งของปี ทั้งนี้คาดว่าในเขตภาคเหนือตอนบน จะมีอากาศที่หนาวเย็นไปจนกระทั่งกลางเดือนกุมภาพันธ์จึงจะค่อยๆอบอุ่นขึ้น สำหรับเช้าวันเดียวกันนี้ อุณหภูมิพื้นราบของภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์หนาวจัด ต่ำสุด 9-12 องศา โดยบริเวณเทือกเขา และยอดดอยจะมีอากาศหนาวจัดขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากอากาศที่เย็นลงมากไว้ด้วย เกษตรกรต้องระวังความเสียหายในช่วงที่เกิดฝนตกและมีอากาศหนาวจัด พืชผักสวนครัวอาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ



พยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สภาพอากาศในช่วงนี้ได้มีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปนอกจากนี้บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริเวณต่างๆของประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นต่อไปจนถึงช่วงปีใหม่สำหรับภาคเหนือตอนบน จะมีอากาศหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้ วัดได้ 2.0 องศาเซลเซียส ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่



น.ส.จารุวรรณ ยิ้มหิ้น ประชาสัมพันธ์สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่า ช่วงนี้อากาศหนาว อุณหภูมิบนยอดดอย 5-6 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเป็นจำนวนมากสร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวนอกจากนี้ในช่วงตอนเช้าจะมีทะเลหมอกสวยงาม และช่วงเวลานี้ดอกซากุระพันธุ์แท้ๆจากประเทศญี่ปุ่นที่ทางสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขางได้รับมาและเพาะขยายพันธุ์ซึ่งขณะนี้กำลังผลิดอกบานกันแทบทุกต้นสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง



ด้าน นายวุฒิพงษ์ ดงคำฟู ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ลดต่ำลง ในช่วงเช้าอยู่ที่ 1 องศาเซลเซียส ส่วนที่กิ่วแม่ปาน เกือบถึงยอดดอยมีอุณหภูมิ 0 องศาทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบขาวโผลนตามยอดหญ้าตลอดสองข้างทางที่จะขึ้นถึงยอดดอยทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวที่อุทยานโดยในวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมราว 1,000 คน และในวันหยุดสุดสัปดาห์จำนวนนักท่องเที่ยวมีมากถึง 3,000 คน สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาเที่ยวที่ดอยอินทนนท์ทางเราอยากจะแนะนำให้ทุกคนควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝนและเสื้อกันหนาวเนื่องจากสภาพอากาศยังมีความแปรปรวนและอาจทำให้นักท่องเที่ยวเจ็บป่วยได้พร้อมย้ำนักท่องเที่ยวที่ขับขี่รถยนต์ให้ใช้ความมัดระวังมากเป็นพิเศษเนื่องจากในบางจุดมีหมอกลงหนาอาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่รถยนต์ลดน้อยลงควรเปิดไฟไว้ตลอด การขับขี่รถลงเขาควรใช้เกียร์ต่ำและมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง

 

'รฟท.'เพิ่มรถ 27 ขบวน-พ่วงตู้โดยสารเต็มกำลัง รับปีใหม่


"การรถไฟฯ" เตรียมพร้อมรับมือคนเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงปีใหม่ เพิ่มขบวนรถอีก 27 ขบวน-พ่วงตู้โดยสารเพิ่มเต็มกำลัง รองรับผู้โดยสาร 120,000 คน/วัน มั่นใจไม่มีตกค้าง...

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 56 นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางออกต่างจังหวัดของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งในปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ดังนั้น ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.56 - 3 ม.ค. 57 การรถไฟฯ จึงจัดเดินขบวนรถพิเศษ เพื่อการโดยสารเพิ่มในเส้นทางต่างๆ โดยในเที่ยวไปเพิ่ม 12 ขบวน ส่วนเที่ยวกลับกรุงเทพฯ เพิ่ม 15 ขบวน

นอกจากนี้ ยังได้พ่วงตู้โดยสารให้เต็มกำลังหน่วยลากจูงในขบวนรถที่เดินประจำ จำนวน 242 ขบวน 
อีก 1-2 ตู้ต่อขบวน หรือเติมพิกัดของการลากจูง ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120,000 คนต่อวัน รวมถึงจะสำรองขบวนรถพิเศษตามความจำเป็นกรณีที่อาจมีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีรถไฟกรุงเทพและสถานีในเขตปริมณฑล

“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีวันหยุดหลายวัน การเดินทางโดยรถไฟฯ จึงมีความหนาแน่น ดังนั้น จึงได้ขอความร่วมมือมายังประชาชนเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ขอให้ระมัดระวังทรัพย์สิน อย่าฝากสิ่งของไว้กับบุคคลแปลกหน้า ห้ามขึ้นรถในขณะที่ขบวนรถกำลังเคลื่อนที่ เพราะอาจพลัดตกเสียชีวิตได้ ห้ามยืนระหว่างหัวต่อรถโดยสาร และห้ามใช้บันได หรือหลังคา เป็นที่โดยสารเพราะอาจพลัดตกจากขบวนรถได้”

ทั้งนี้ เพื่อรักษาสิทธิ์ของผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟฟรี ผู้โดยสารจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ในการขอรับตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟก่อนขบวนรถออกทุกครั้ง.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

ทางหลวง คลอด 7 มาตรการดูแลคนเดินทางปีใหม่

กรมทางหลวง เร่งคืนผิวจราจรรองรับการเดินทางช่วงปีใหม่ พร้อมรายงานสภาพจราจรเรียลไทม์ 24 ชม. เน้นเดินทางปลอดภัย เตือนเมาแล้วขับถูกจับแน่...

นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จะมีปริมาณรถยนต์ที่เดินทางออกต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ทุกปี โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือที่ปีนี้มีอากาศหนาวและมีปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างน้ำค้างแข็ง (แม่คะนิ้ง) หลายจุด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง พร้อมป้องกันและลดการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ตรวจการณ์ของตำรวจทางหลวง และรถยนต์บริการประชาชนของกรมทางหลวง

ทั้งนี้ กรมทางหลวงวาง 7 มาตรการ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางออกต่างจังหวัดของประชาชน
คือ 1. ตรวจสอบ บำรุง แก้ไขพื้นผิวจราจรให้อยู่ในสภาพดี และขอความร่วมมือผู้รับจ้างคืนผิวทาง และการจัดช่องทางพิเศษ ช่วงเทศกาล
2. ติดตั้งป้ายเตือน แนะนำเส้นทางเลี่ยง-ทางลัด ทุก 3 กิโลเมตร
3. บำรุงรักษาไฟฟ้าส่องสว่าง และไฟสัญญาณจราจรให้เห็นชัด
4. จุดให้บริการทั่วไทย 200 แห่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
5. รายงานสภาพจริงการจราจรแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
6. สายด่วน 1586 บริการตลอด 24 ชั่วโมง
7. ใช้มอเตอร์เวย์ฟรี บนทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมืองหมายเลข 7 และหมายเลข 9 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2557 เวลา 24.00 น.

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพราะสาเหตุหลักของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ คือ เมาแล้วขับ และการใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

เตือนภัย 'โรคปอดบวม' ช่วงหน้าหนาว ไข้เกิน 3 วัน ต้องพบแพทย์

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนภัยโรคปอดบวมช่วงหน้าหนาว เผยรอบ 11 เดือนปีนี้ ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้ว 175,221 ราย เสียชีวิต 991 ราย พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มักเกิดตามมาหลังป่วยเป็นไข้หวัด ย้ำเตือนหากประชาชนป่วยมีไข้สูงเกิน 3 วัน ไอมาก หายใจหอบ น้ำมูกเปลี่ยนสี ขอให้รีบพบแพทย์...

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 56 นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้อากาศหนาวเย็น ประชาชนอาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจมากขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดและปอดบวม ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่อากาศหนาวเย็น จากรายงานของสำนักระบาดวิทยา ในปี 2556 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 14 ธันวาคม พบผู้ป่วยโรคปอดบวมแล้ว 175,221 ราย กลุ่มที่พบว่าป่วยสูงที่สุด คือ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 69,731 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 ของผู้ป่วยทั้งหมด รองลงมาพบในกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป จำนวน 49,330 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 991 ราย พบในจังหวัดภาคกลางมากที่สุด 648 ราย รองลงมา คือ ภาคใต้ 241 ราย ภาคเหนือ 102 ราย

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า โรคปอดบวมที่พบขณะนี้ มักเกิดตามมาหลังจากป่วยเป็นไข้หวัด จากการติดตามสถานการณ์โรคทางเดินหายใจในช่วงหน้าหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น ที่ รพ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะนี้มีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ ร้อยละ 15 และพบโรคปอดบวมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 จึงขอแนะนำประชาชน หากป่วยเป็นไข้หวัดขอให้นอนพักผ่อนให้มากๆ และอาจกินยาลดไข้ประเภทพาราเซตามอล อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หากไข้สูงเกิน 3 วัน ไอมากและเจ็บหน้าอก น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองอ่อนๆ เป็นสีเขียว ขอให้สงสัยว่า อาจมีโรคแทรกซ้อนที่ปอด ต้องรีบพบแพทย์ ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หากป่วยเป็นไข้หวัด พ่อแม่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ให้เด็กดื่มน้ำหรือนมบ่อยๆ นอนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา และให้กินยาลดไข้ประเภทพาราเซตามอล อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น ไข้ลดลง และหายป่วยประมาณ 1 สัปดาห์ แต่หากยังไม่ดีขึ้นใน 3 วัน หรือเด็กมีอาการซึมลง ไม่กินน้ำ ไม่กินนม หรือมีไข้สูง ไอ หายใจหอบเร็ว หรือหายใจมีเสียงฮืด หรือเสียงหวีด หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคปอดบวม ให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก อันตรายต่างๆ จะน้อยลง

ในการป้องกันโรคปอดบวมในช่วงฤดูหนาว ขอให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค ให้กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และชำระล้างมือบ่อยๆ เพื่อขจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่ติดมากับมือ ผู้สูงอายุขอให้ใส่เสื้อกันหนาว หรือใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น ส่วนในเด็กเล็ก ขอให้ผู้ปกครองดูแลความอบอุ่น สวมเสื้อผ้าหนาๆ หรือเสื้อกันหนาว หลีกเลี่ยงพาเด็กเล็กเข้าไปในบริเวณที่มีคนแออัด หรือมีควันไฟในบ้าน ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ซึ่งทำให้มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่าย ส่วนหญิงหลังคลอดขอแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ภูมิต้านทานจากแม่จะส่งผ่านไปให้ลูกทางน้ำนม เด็กจะไม่เจ็บป่วยง่าย เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติให้เด็ก

ทั้งนี้ โดยทั่วไปโรคไข้หวัดเป็นโรคติดต่อที่ไม่อันตราย ติดต่อกันจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยเชื้อจะแพร่กระจายมาจากน้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วยโดยตรง หรือติดมากับสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย เริ่มแรกมักมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ คัดจมูก ไอจาม ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย อาการมักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ โดยหลังจากวันที่ 3 อาการควรจะเริ่มดีขึ้น ไข้ลดลง แต่อาจไอต่อไปได้อีก 1-2 สัปดาห์


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 23 Dec 2013

 

พบตายเพิ่มอีก กระทิงป่ากุยตัวที่ 13 ชาวบ้านเชื่อโดนวางยาพิษ






เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ธ.ค. นายปรีชา วิทยพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร.ท.ณรงค์ชัย แตงอ่อนหัวหน้าชุดประสานงานโครงการพระราชดำริบ้านรวมไทย ,ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกกองกำลังสุรสีห์ ,ทหารพรานจากกองร้อยที่ 1404 กองพลทหารราบที่ 9 , ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 145 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน อาสาสมัครฝ่ายปกครองรวมกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่ที่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากก่อนหน้านี้พบกระทิงป่าตายติดต่อกันถึง 12 ตัวในระยะเวลาเพียง 21 วัน

จากการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นตามป่าและแหล่งน้ำติดต่อกันจนมาถึงร่องห้วยหุบมะกรูดด้านทิศตะวันตก ห่างจากพบกระทิงตัวก่อนๆราว 1 กม. เจ้าหน้าที่พบซากกระทิงตายเพิ่มอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 13 แล้ว เป็นกระทิงเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 1 ตัน สภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่กระดูกส่งกล่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว มีร่องรอยถูกสัตว์แทะกินเนื้อ แต่ส่วนหัวยังมีเขาติดอยู่และไม่มีร่องรอยของการถูกฆ่าแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพโดยรอบ และนำซากกระทิงส่งตรวจพิสูจน์หาสาเหตุต่อไป

นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนัน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สบายใจที่เห็นสัตว์ป่าตายต่อเนื่องจำนวนมากโดยเฉพาะกระทิงซึ่งเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ ที่ผ่านมาชาวบ้านกุยบุรีและเจ้าหน้าที่อุทยานร่วมกันกันอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดีทำให้สัตว์ป่าอยู่อย่างเป็นสุขและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี การตายของกระทิงจำนวนมากในครั้งนี้ ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมตายพร้อมกันเหมือนมีเลศนัย ความรู้สึกส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะใช่จากโรคระบาดจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบให้แน่ชัดเกิดจากสารพิษตัวไหน เกิดจากตายตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ โดยขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการทำของมนุษย์ โดยเกิดความขัดแย้งกันหรือเกิดการดิสเครดิตที่เป็นข้าราชการในอุทยานด้วยกันอยากจะให้ผู้ใหญ่ในกรมอุทยานตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ในส่วนของตนได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัครช่วยกันหาข่าวอีกทางเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง

“ผมกลัวว่ากระทิงฝูงนี้ที่แยกออกมาจากฝูงใหญ่มีประมาณ 22 ตัว อาจจะตายหมดยกฝูง เพราะได้พบเห็นซากล้มตายอยู่ทุกวันลักษณะการตายเหมือนไปกินอาหารผิดสำแดงเข้าและกระจายกันออกไปตายเป็นระยะๆห่างกันไม่เกิน 200-300 เมตร เรื่องนี้ทางอุทยานต้องรีบหาคำตอบให้ชาวบ้านได้ทราบโดยไว” นายศรีสวัสดิ์ กล่าว

 

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา04:00 น.วันที่ 24 ธ.ค.ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกสำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป มีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นต่อไปจนถึงช่วงปีใหม่



พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา06:00 วันนี้ ถึง 06:00วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 23-27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-6องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-25 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35กม./ชม.



ภาคกลาง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม.



ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร



ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา:ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร



ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร



กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30กม./ชม.