เชิญร่วมบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหม มวลสารดาบฟ้าฟื้นเหล็กสัตตะวชิระโลหะเพื่อ ๖ งานบุญ

ผมขอร่วมทำบุญบูชาพระขรรค์มหาวชิระพรหมเนื้อสัมฤทธิเดช ขนาด 4 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม ขอจองหมายเลข 199 ครับ

 

หมายเลขนี้มีผู้จองแล้วครับ

 

ตารางหมายเลขพระขรรค์สัมฤทธิเดช ขนาด ๔ นิ้ว

 

ขอเปลี่ยนเป็นจองหมายเลข 195 ครับ

 

รับทราบครับ ขออนุโมทนา

ดูรายละเอียดการจองได้ที่นี้นะครับ

ลำดับจองที่155ครับ

 

รบกวนสอบถามครับ ถ้าจองเป็นชุด เช่นจองขนาด ๕ เซนติเมตรทุกเนื้อ จะได้เลขเดียวกันป่าวครับ โมทนาครับ

 

จะไม่ได้เลขเดียวกันครับ
สำหรับพระขรรค์ขนาด ๕ ซม.เฉพาะสัมฤทธิเดช ที่สามารถเลือกหมายเลขได้ครับ
ส่วนเนื้ออื่น ได้แก่ เงิน นวโลหะ นาก ทองคำ นั้น หมายเลขจะรันตามลำดับของผู้ที่สั่งจองเข้ามาครับ ทำตามจอง ไม่ได้ทำเผื่อ

 

สาธุครับ

 

คุณ ชณัฐชนม์

ร่วมเป็นเจ้าภาพดาบมหาวชิระพรหม เล่มใหญ่ ๑ เล่ม และ
พระขรรค์มหาวชิระพรหม ๕ ซม. นวโลหะ ๑ เล่ม

ขออนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนา ทุกท่าน ที่ร่วมจองเป็นเจ้าภาพ​

พระขรรค์มหาวชิระพรหม เพื่อ ๖ งานบุญ​

สามารถชำระเงินได้ที่

บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธ. กสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 13 เมษายน 2557

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วรชัย 081-1901125

พิเศษ สำหรับผู้ที่สั่งจองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหม ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2557
จะได้รับลูกอมปัจเจกพุทธวชิรปารมี 1 ลูก ต่อ 1 รายการจอง รายละเอียดดังนี้
1 ผู้สั่งจองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหมเนื้อสัมฤทธิเดช ขนาด 5 เซนติเมตร รับลูกอม 1 ลูก ต่อ พระขรรค์ 1 เล่ม
2 ผู้สั่งจองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหมเนื้อเงิน, นวโลหะ, นาก, ทองคำ ขนาด 5 เซนติเมตร รับลูกอมฝังตระกรุดทองคำ 1 ลูก ต่อ พระขรรค์ 1 เล่ม
3 ผู้สั่งจองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหมเนื้อสัมฤทธิเดช ขนาด 4 นิ้ว รับลูกอมฝังตระกรุดทองคำ 1 ลูก ต่อ พระขรรค์ 1 เล่ม
4 ผู้สั่งจองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์ และ ดาบ มหาวชิระพรหม เล่มใหญ่ รับลูกอมฝังตระกรุดทองคำ 1 ลูก ต่อ พระขรรค์ หรือ ดาบ 1 เล่ม
5 ผู้สั่งจองเป็นเจ้าภาพมหาวชิรพรหมาวุธ ขนาด 12 นิ้ว รับลูกอมฝังตระกรุดทองคำ 1 ลูก ต่อ วชิระ 1 ด้าม

​

 

คืนนี้ขออนุญาตนำแบบร่างของ"มหาวชิระพรหมาวุธ"
มาให้ชมกันครับ ต้องขออภัยหลายๆ ท่านที่รอคอยดูรูปแบบว่าจะออกมาอย่างไร ก่อนที่จะเห็นรูปแบบก็ขอเลาถึงความเป็นมาของการสร้างวชิระเล่มนี้กันก่อนนะครับ เดิมทีพระอาจารย์ท่านเคยดำริที่จะสร้างวชิระตั้งแต่เมื่อครั้งทำดาบ “วชิระพรหม” ปี 56 แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ประจบเหมาะจึงไม่ได้สร้าง จนมาถึงครั้งนี้พระอาจารย์ยุคลธรณ์ท่านจะสร้างศาสตราวุธออกมาให้บูชาครั้งนี้ครั้งสุดท้าย จึงเห็นสมควรว่าครั้งนี้เหมาะแล้ว
วชิระที่พระอาจารย์ท่านเห็นแล้วนำมาให้เป็นต้นแบบ คือ เล่มนี้ครับ
วชิระใบทำจากเงิน ฝีมือร้านกรุช่าง ดิโอลด์สยามพลาซ่า

พระอาจารย์ท่านบอกว่ารูปแบบเหมือนอาวุธของพระอินทร์มาก จึงให้เริ่มคิดจากเล่มนี้

วชิระ อาวุธประจำกายของพระอินทร์

เมื่อกล่าวถึงมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์ เป็นประธานเทพในเทวสภา ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งมีเรื่องราวเกี่ยวข้องในการอนุเคราะห์แก่พระพุทธศาสนา ซึ่งปรากฏในพระสูตร พระไตรปิฏก ตลอดจนกล่าวในพระปริตมนต์ที่เรียกว่า 'ธชัคคังปริต' นั้นก็คงเข้าใจได้ว่านั่นย่อมหมายถึง 'สักกะเทวราช' หรือที่รู้จักเรียกหาว่า 'พระอินทร์' นั่นเอง ซึ่งสัญลักษณ์ประจำองค์พระอินทร์ที่เเสดงถึงอำนาจที่ขจัดความยุ่งยาก อวมงคล ทั้งยังเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงปัญญาอันเเหลมคมในการเอาชนะอุปสรรค์ข้อขัดข้องต่าง ๆ โดยสัญลักษณ์นี้ยังเป็นหนึ่งในสี่ยอดศาสตราสุดวิเศษที่ตำนานในพุทธศาสนากล่าวยกย่อง ว่ามีอำนาจทำลายโลกธาตุให้ป่นเป็นธุลีได้ในบัดเดี๋ยวใจ ก็คือ วชิรัม หรือ วชิราวุธ (วชิระ+อาวุธ คืออาวุธที่เเกร่งประดุจเพชร)
จนแล้ววันนี้ก็วาดเสร็จออกมาอย่างที่เห็นครับ

ขนาดที่เห็นเป็นขนาดเท่าของจริงนะครับ ความยาวตลอดคือประมาณ 30 เซนติเมตร (เท่ากับบารมี 30 ทัศ) ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือบุญจัดสรรแต่ออกมา 30 ซ.ม. พอดีครับ (คนวาดไม่ได้ตั้งใจจะวาดให้ความยาวออกมาเท่านี้แต่แรก)

วชิระทั้ง 2 ด้านประกอบด้วยพระพรหมสี่หน้าประจำวชิระทั้ง 4 ด้าน เปรียบเสมือนการขออาราธนาบารมีของพระพรหมทั่วทุกสารทิศมาสถิตย์ ณ ”มหาวชิระพรหมาวุธ เล่มนี้

ใบทำมาจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะทุกเล่มทั้ง 10 เล่ม เท่ากับ บารมี 10 คือ ทาน, ศีล, เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ, อธิษฐาน, เมตตา, อุเบกขา

เหนือพระพรหมและวชิระขึ้นไป คือ กงจักร
ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของพระนารายณ์เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ
และเป็นส่วนหนึ่งของธรรมจักร ซึ่งหมายถึงการหมุนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหนก็ตาม อันได้แก่อริยสัจ 4
กงจักรยังคงมีเหมือนกับพระขรรค์ “มหาวชิระพรหม” ขนาด 4 นิ้ว


นอกจากนั้นพระอาจารย์ยุคลธรณ์ท่านยังให้สร้างวชิระ “มหาวชิระพรหม” ด้านเดียว คือ 5 แฉก ใบทำจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะเช่นเดียวกัน ความยาวตลอดเล่มประมาณ 20 เซนติเมตร


วชิระเป็นอาวุธแห่งเทพน้อยนักที่จะมีการจัดสร้างขึ้น และ “มหาวชิระพรหมาวุธ” เล่มนี้ได้รวบรวมรวบรวมวิชาที่เกี่ยวเนื่องกับวชิระไว้แล้ว เช่น
เหล็กสัตตะวชิระโลหะ ได้นำวชิระ ของทิเบต, ทองแดงสายล่อฟ้า, เหล็กจากขวานฟ้าผ่า, ยอดเจดีย์สัมฤทธิ์ศิลปะทางเขมรซึ่งก็คือ วชิระ 4 แฉกนั้นเอง หลอมรวมเข้าไปในเนื้อเหล็ก
ผงที่ใช้บรรจุอยู่ในด้ามมีผงของไม้ที่ถูกฟ้าผ่า, และผงผลึกสายฟ้าที่เกิดจากสายฟ้าผ่าลงในดินทราย
เหล็กจากขวานฟ้าผ่า

ยอดเจดีย์สัมฤทธิ์ศิลปะทางเขมรก็คือ วชิระ 4 แฉกนั้นเอง

ผงผลึกสายฟ้าที่เกิดจากสายฟ้าผ่าลงในดินทราย


สำหรับท่านที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพจอง “มหาวชิระพรหมาวุธ”
มหาวชิระ แบบ 2 ด้าน 10 แฉก บูชาเล่มละ 25,000 บาท
มหาวชิระ แบบ 1 ด้าน 5 แฉก บูชาเล่มละ 20,000 บาท

สามารถโอนปัจจัยมาได้ที่
บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธ. กสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วรชัย 081-1901125

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้หรือส่งเมล์มาได้ที่ Worachaiku58@gmail.com

 

ครั้งนี้ขอนำรูปต้นแบบของดาบ “มหาวชิระพรหม” เล่มยาวมาให้ชมกันนะครับ ดาบต้นแบบที่พระอาจารย์ท่านนำมาให้เป็นแบบอย่าง คือ
ดาบนักรบสมัยโบราณคาดว่าอยู่ในสมัยอยุธยา
หุ้มด้วยเงินแล้วถักหวายรัดฝักและด้ามอีกครั้ง เป็นดาบที่สง่างามดูเข้มคลัง ดุดันและสวยงามรวมอยู่ในเล่มเดียวกัน เล่มนี้พระอาจารย์ท่านบอกกว่าเป็นเล่มที่ใช้ในการต่อสู้จริง เจ้าของดาบน่าจะเป็นนายทหารระดับสูงระดับหัวหมู่นายกอง ดังรูป



และดาบอีกเล่มที่พระอาจารย์ท่านนำมาให้เป็นรูปแบบ คือ

ดาบวชิระพรหม

ดุลลายด้วยเงิน พระอาจารย์ท่านสร้างจากเหล็กสัตตะวิชระโลหะที่ท่านทำการหลวมครั้งแรก ด้ามทำจากแก่นมะขามโปร่งฟ้า ส่วนฝักทำจากไม้สาธร สวยงาม เฉียบคม ดังรูป





เมื่อนำทั้ง 2 เล่มรวมกันจึงได้ต้นแบบออกมาเล่มแรกดังนี้




จากนั้นก็กลายมาเป็นแบบนี้






ใบตีจากเหล็กสัตตะวชิระโลหะ





ด้ามทำมาจากแก่นมะขามโปร่งฟ้า



จากนั้นผมก็วาดต้นแบบเติมลวดลายเข้าไปให้ดาบ “มหาวชิระพรหม” ออกมาสง่า สวยงาม และแฝงไปด้วยความเข้มขลัง
ดังรูปต่อไปนี้ครับ

ฝักและด้ามเล่มที่เห็นทำมาจากแก่นมะขามโปร่งฟ้า หายากมาก




ด้ามปั้นเป็นลายกลีบบัวซ้อน

ปลอกฝักปั้นเป็นรูปท่านท้าวเวสุวรรณ

ปลายฝัก

สัตตะวิชา รวมที่สุดแห่ง ๗ วิชา สร้างพระขรรค์มหาวชิระพรหม

๑ วิชาสัตตะโลหะ ตำราพระร่วงเจ้า แห่งกรุงสุโขทัย ว่าด้วยเรื่องโฉลกสัดส่วนของศาสตรา และการหลอมรวมโลหะอาถรรพ์ ซึ่งเป็นวิชาที่ขุนแผนใช้ตีดาบฟ้าฟื้น

๒ วิชาวชิระธาตุ วชิระโลหะ ตำรับวิชาของธิเบต เพื่อสร้างอาวุธเทพเจ้า โดยจะนำยอดของสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า ๗ อย่าง มาหลอมรวมกัน

๓ วิชาสายวัดประดู่โรงธรรม สมัยอยุธยา ปรมาจารย์ต้นวิชา คือ สมเด็จพระสังฆราช พนรัตน์ วัดป่าแก้ว พระอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาถวายสมเด็จพระนเรศวร ส่วนผู้ที่ทำให้สายดาบวิชานี้โด่งดัง คือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์

๔ วิชาพระขรรค์โสฬส ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นวิชาที่แตกแขนกมาจากตำราวิชาสัตตะโลหะ ของพระร่วงเจ้า โดยการนำบารมี ๓๐ ทัศ ของพระพุทธเจ้า ประจุ อีกทั้ง ใส่วัตถุอาถรรพ์ต่างๆ ผสมเพิ่มเข้าไป

๕ วิชาของหลวงตาดำ พระบรมครูธรรมเทพโลกอุดร โดยมีการประจุเลขยันต์ลงในด้าม ได้แก่ ๑ ยันต์ นะมหากลับ นะมหาสะท้อน ใช้สะท้อนคุณไสย อวิชชา ๒ ยันต์ โล่เกราะเพชร ใช้กันสิ่งชั่วร้ายภยันตรายต่างๆ และจะมีการประจุวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงในด้ามด้วย

๖ วิชายันต์ตระกรุดกำแพงแก้ว ๗ ชั้น ๑ ดอก ป้องกัน ๒ ดอก เป็นอาวุธ ซึ่งเป็นวิชาที่พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ได้รับถ่ายทอดมาจาก อาจารย์แปลก ร้อยกลางบาง ลูกศิษย์ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง โดยจะนำตระกรุดนี้ประจุลงในด้ามด้วย

๗ วิชายันต์ตระกรุดหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหลวงปู่ได้รับถ่ายทอดมาจาก ฤาษีพรหมอัตถะ วิชานี้พระอาจารย์ยุคลธรณ์ได้รับมาในนิมิต โดยหลวงปู่เฒ่ายิ้มมามอบไว้ให้
ทั้ง ๗ วิชานี้ได้ถูกรวมมาไว้ในพระขรรค์มหาวชิระพรหมเพียงเล่มเดียว และที่เหนือไปกว่านั้นพระอาจารย์ท่านได้อธิษฐานจิตให้ดาบวชิระพรหมทรงไว้ซึ่งพุทธบารมีและมหาบารมีของพระโพธิสัตว์จึงทำให้ดาบวชิระพรหมมีอานุภาพมากมายมหาศาล

สำหรับท่านที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพดาบ"มหาวชิระพรหม" ให้บูชาเล่มละ 17,777 บาท
ร่วมทำบุญมาได้ที่
บัญชีพระครูวินัยธรยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต
ธ. กสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 697-2-07515-7

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม วรชัย 081-1901125 ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้หรือส่งเมล์มาได้ที่Worachaiku58@gmail.com
สำหรับท่านเจ้าภาพที่สั่งจองพระขรรค์และดาบ “มหาวชิระพรหม” เล่มยาวจำนวน ๓๐ เล่มแรก จะได้ด้ามที่ทำมาจากไม้แก่นมะขามโปร่งฟ้าแน่นอน ลำดับต่อจากนั้นต้องดูอีกทีครับว่าแก่นมะขามโปร่งฟ้าจะมีพอหรือเปล่า

 

ดูรายชื่อผู้จองเป็นเจ้าภาพพระขรรค์มหาวชิระพรหม ได้ที่นี้

ดูหมายเลขพระขรรค์สัมฤทธิเดช ๕ เซนติเมตร

>> ตารางหมายเลขพระขรรค์ ๔ นิ้ว << คลิก

 

ขออนุโมทนาบุญครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณเจมส์ จ. ตรัง
ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์เล่มยาว 1 เล่ม

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณธิติ, คุณสุกัญณิกา
ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์เล่มยาว 1 เล่ม

 

ขออนุโมทนาบุญกับพระพิศิษฐ์
ร่วมเป็นเจ้าภาพพระขรรค์ขนาด 4 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม หมายเลข 51

 

พระขรรค์มหาวชิระพรหม ขนาดใบ ๔ นิ้ว

สุดยอดมวลสารดาบฟ้าฟื้น และมวลสารเหล็กสัตตะวชิระโลหะ รวมที่สุดแห่งวิชาทั้ง ๗ เป็น สัตตะวิชา​

สนใจจองร่วมเป็นเจ้าภาพได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อ ๖ งานบุญ
๑. ปลดหนี้ค่าที่ดินวัด
๒. มหาอุโบสถขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒ ไร่
๓. สร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อสัมฤทธิ์หน้าตัก ๖ เมตร ประดิษฐานเป็นพระประธานในมหาอุโบสถ
๔. โรงทาน, หอฉันทาวิสุทธิ์ เพื่อรองรับผู้มาปฏิบัติธรรม
๕. โครงการสร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก จำนวน ๑๐๘ องค์
๖. สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๘ ศอก ณ วัดวังโพธิการาม อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี

สร้างขึ้นเพียง ๓๓๓ เท่านั้น
ร่วมเป็นเจ้าภาพเล่มละ ๕,๕๕๕ บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ วรชัย 081-1901125

คลิกที่นี้ เพื่อตรวจสอบดูหมายเลขที่ยังว่าง

ร่วมเป็นเจ้าภาพได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการแจ้งชื่อไว้ในกระทู้หรือส่งเมล์มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

**ภาพต้นแบบ​

 

กรรมวิธีการตี การลงอัขระเลขยันต์

"เมื่อได้ฤกษ์วันดีคือวันเสาร์ข้างขึ้นราวขึ้น ๑๕ ค่ำ นั้นแหละหนา
จึงบูชาครูอาจารย์ เทพยดา ทั่วโลกามาสถิต ณ พิธี
และจึงเริ่มตีดาบขึ้นในทันใด เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี
เอาถ่านที่ต้องย่างวางในนี้ เป็นอันเริ่มพิธีสร้างศาสตรา
หาช่างเหล็กมีฝีมือลือทั่วกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน
วงสายสิญจน์เสกลงเลขยันต์ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี
ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์
สูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีเหล็กร้อนแรงแดงดุจไฟ"

ให้ลงยันต์สำหรับลงเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในพิธีกรรมไม่ว่ายันต์เพดานหน้า เพดานหลัง ยันต์ลงฟืน ลงคีม ลงทั่ง ลงมีด ลงกระโหมดจมูกวัว ยันต์ลงแปดทิศ ยันต์โสฬสลงหน้าหิน หน้าลูกไก่

"เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับ"

​

แล้วลงกั่นดาบข้างแบน ด้วยคาถาบารมีพระพุทธเจ้า คือ
“อายันตุโภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจา อธิษฐานะ เมตตา อุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะ อาวุธานีติ”

ลงกั่นดาบด้านสัน ด้วยพระคาถาหัวใจพระยาสมาส ดังนี้
“นานามุสะระ หะระ บัพพะตะคะรุ กะลิงคะระ สะระธนู คะทาสิโต มาระหัตถา มาระคะนา”

ลงถมทองแดงที่ใช้สําหรับห่อหุ้มกั่นดาบด้วยพระคาถา ดังต่อไปนี้
พระคาถา นวหรคุณ ๑๐๘ ครั้ง
“อะสังวิสุโลปุสะพุภะ”
พระคาถาพุทธนิมิตร ลงถม ๙ ครั้ง
“พุทธัสสะ อิธิพุทธัสสะ พุทธะนิมิตตัง ปฏิมานะพุทโธ ธาตุพุทโธ นิมิตตะพุทโธ กายะพุทโธ สูญญะพุทโธ เอคะตานัง กายะรูปะสูญยัง พุทธะนิมิตตัง อิทธิฤทธิ์พุทธะนิมิตตัง”
คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ ลงถม ๙ ครั้ง
“อะสิสัตติ ธนูเจวะ สัพเพเตอาวุทธานิจะ ภัคคะภัคคา วิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ”
คาถาพรหมสี่หน้า ลงถม ๙ ครั้ง
“สหัสสะสีเส ปิเจโปโส สีเสสีเส สะตังมุกขา มุกเข มุกเข สะตังชิวหา ชีวะกัปโป มหิทธิโก นะสักโกติ จะวัณเณตุง”
คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ลงถม ๙ ครั้ง
“อิติปารมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม”
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ลงถม ๙ ครั้ง
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิอิโสตังพุทธะปิติอิ”
คาถายันต์เกราะเพชร หรือ คาถาอรหันต์ ๘ ทิศ ๙ ครั้ง
“อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโลปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา อะวิสุนุสานุติ”
แล้วตามด้วย
“พุทธังกันตัง ธัมมังกันตัง สังฆังกันตัง พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ” ๙ ครั้ง
แล้วลงถมตามด้วยคาถา
“นะผุด ผัดผิด ปฏิเสวามิ” ๙ ครั้ง
แล้วจึงลงประทับด้วยคาถานี้อีกครั้งหนึ่งว่า
“สัตถาธะนุง อากัตถิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ”(บทนี้เมื่อลงให้ผ่อนลมหายใจออกลงจบเดียว)
“กัณหะเนหะ” หายใจเข้า “พุทธังปัจจุขาด ธัมมังปัจจุขาด สังฆังปัจจุขาด”(หายใจเข้าออก สลับกันไปทีละบท )

สําหรับแผ่นทองแดงด้านหลังนั้นลงถมประทับด้วยพระคาถา ดังต่อไปนี้
“อะระหัง สุคะโต ภะคะวา” ๙ ครั้ง
แล้วตามด้วย
“นะโมพุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา โนวะปะตานุภาเวนะ มาระเสนา อะติกกันตา มาระนิทรา ทัสสะปาระมิตา ทะมาระนิทรา ปาระชังฆานิทรา ทัสสะปาระมิตา โลหะกันตา นามะเตนะโม มาตาปิตุพุทธะคุณัง สัพพะสัตรูวิธังเสนตุ อะเสสะโต เอวังทัสสะวัณโณ ปฏิฐิตัง จักรวาฬะ สัพพะสัตตานุภาเวนะ มาราโมระอะติกกันตา ทัสสะพรหมมานุภาเวนะ สัพพะสัตรูวินาสสันติ”

เมื่อลงทองแดงห่อกั่นดาบแล้วก็มาถึงเรื่องการปรุงยาที่จะปะจุด้ามพระขรรค์, ดาบ มีดังนี้
จึงเอาเกสร ๑๐๘ และ ยามุกใหญ่ (ยามุกใหญ่คือยาสารพัดอย่าง ) มาบดให้ละเอียด เพื่อบรรจุในด้าม
ดีแร้ง ดีนกยูง ดีกาด ดีนกกฎ ดีปลากฎ ดีเสือ ตาเสือ รังแมงใหญ่จับตาพระทั้งเก้า ลูกสวาท คราบงูเหลือม เมล็ดในมะกลำดำ ไคลเสมาเก้าวัด ใบไม้รู้นอนทั้งเก้า ใบหิงหายเกสรร้อยแปด ว่านทั้งเก้า ตะใคร่เสาตะลุงช้าง ตะใคร่ประตูพระนครแปดทิศ ผงดินสอทั้งเก้า ผงดินสอกำบังใบตาเสือเก้าใบ ง่วนผึ้ง กฤษณา กะลำพัก ขอนดอก จันทั้งสอง ชะมด พิมเสน ยาทั้งหมดนี้เมื่อจะบดให้บดลงที่หน้าหินลูกหินตามอุปเท่ห์

หินซึ่งใช้บดยานั้นลงด้วยพระคาถาดังต่อไปนี้
พระคาถามหาโสฬสมงคล ลงถม ๙ ครั้ง ตามด้วย
คาถาหัวใจพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ ๙ ครั้ง
คาถาพรหมสี่หน้า ๙ ครั้ง
คาถาพุทธนิมิต ๙ ครั้ง
คาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ๙ ครั้ง
คาถาอรหันต์ ๘ ทิศ ๙ ครั้ง
คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ๙ ครั้ง
คาถาหัวใจสนธิ “งะญะนะมะ” ๙ครั้ง
คาถาพระกรณีย์ “จะภะกะสะ” ๙ ครั้ง

ขณะบดยาให้ภาวนาพระคาถานี้จนกว่าจะบดยาเสร็จ
“งะญะนะมะ จะภะกะสะ อะระหังสุคะโตภะคะวา นะมะพะทะ อิกะวิติ อิสวาสุ นะโมพุทธายะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ปะติลิยะติ พุทธังสิทธิธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ”

ส่วนด้ามพระขรรค์, ดาบ นั้น ให้หาไม้ราชพฤษ์, ชัยพฤษ์ หรือ โลหะสำริด มาแกะหรือปั้น เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ และปฐมฤาษีฯ เขียนคาถาเป็นตัวเลข ลงที่องค์ท่าน ดังนี้
ลงเลข ๓ ตรีนิสิงเห ที่ปากท้าวเวสสุวรรณ ว่าด้วยสูตรคือ “มะอะอุตรีนิสิงเห”
ลงเลข ๗ ที่ตาทั้งสองของท่าน ว่าสูตร “สะธะวิปิปะสะอุสัตตะนาเค”
ลงเลข ๕ ที่อกของท่านว่า “อาปามะจุปะปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะ”
ลงเลข ๔ ที่หัวไหล่ทั้งสองของท่านว่า “นะมะพะทะจัตตุเทวา”
ลงเลข ๖ ที่ขาทั้งสองของท่านว่า “อิสวาสุฉอวัชชะราชา”
ลงเลข ๕ ที่ด้านหลังท่านว่า “ทีมะสังอังขุปัญจะ อินทรานะเมวะจะ
ลงเลข ๑ ที่ตาตุ่มทั้งสองข้างว่า “มิเอกะยักขา”
ลงเลข ๙ ที่ศีรษะท่านว่า “อะสังวิสุโลปุสะพุภะนวะเทวา”
ลงเลข ๕ ที่แขนซ้ายว่า “สหะชะตะตรีปัญจะพรหมาสะหะบดี”
ลงเลข ๕ ที่แขนขวาว่า “นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง”
ลงเลข ๒ ที่ศอกทั้งสองข้างว่า “พุทโธทะเวราชา”
ลงเลข ๘ ที่สะโพกทั้งสองข้างว่า “เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอะระหันตา”

ใช้พระคาถาท้าวเวสสุวรรณลงด้ามมีดให้ทั่ว และลงกระบองท้าวเวสสุวรรณด้วย ว่าดังนี้
“เวสสุวรรโณมหาราชา สัพเพเทวาเสเจวะ อาฬะวะกาทะโย ปิจะขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ เวสสุวรรโณมหาราชา จัตตุโลกะปาลายัสสะสิโน อิติภูตา มหาภูตา สัพเพยักขาปะลายันติ”


นี้เป็นส่วนหนึ่งของคาถา และพิธีกรรม ของการสร้างพระขรรค์ และ ดาบ มหาวชิระพรหม
ยังไม่จบ และหมดเท่านี้นะครับ ยังมีตอนต่อไป จะเอามาลงให้อ่านอีกเรื่อยๆ ครับ
พระขรรค์ และดาบ เล่มนี้ พระอาจารย์ท่านจะสร้างออกมาให้เช่าบูชา เป็นครั้งสุดท้าย เรียกว่าทิ้งทวนเลยทีเดียว
หากท่านใดสนใจจองเป็นเจ้าภาพ ติดต่อได้ที่ วรชัย 081-1901125
หรือจะแจ้งชื่อไว้ในกระทู้ หรือส่งเมล์มาได้ที่ worachaiku58@gmail.com

 

พี่บอลครับ วัชระพรหมาวุธ 2 ด้าน 10 แฉกของผม อย่าลืมนะครับ ขอหมายเลข 2 ครับ ขอบคุณครับ