**ณ ราตรีหนึ่ง**

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 9 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อืม เมื่อคืนฝันว่าไปทำบุญมา ได้เปลี่ยนแสงบุญแล้วก็พูดอธิบายวิธีไปเยอะแยะ เป็นเรื่องแปลกที่ตัวเองไม่เคยรู้ แต่ในฝันพูดเป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็เข้าใจศัพท์แต่ละคำซะด้วยซิ อุปทิเสส อะไรสักอย่างนี่แหละ ตอนที่นอนมาธิอ่ะ เห็นแสงสีขาวเจิดจรัสขอบๆ ของแสงเป็นสีแดง สว่างจ้าเหมือนจะแสบตา แต่ก็ไม่แสบตาหนอ เห็นพระด้วย น่าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐม

    แล้วก็ฝันเรื่องราวของแสงแห่งบุญ แสงแห่งบุญของแต่ละคนไม่เท่ากัน ผู้ที่มีแสงแห่งบุญมากๆ สามารถแปรแสงนั้นไปทำประโยชน์หรือเลื่อนขั้นในทางธรรมได้ จนหลุดพ้น นี่เป็นเรื่องที่พูดอธิบายให้หลายๆ คนและพระฟังในฝันนะ และก็แสดงให้ดูด้วย เก่งจริงหนอเรา

    แสงแห่งบุญ แสงแห่งธรรม เคยตื่นมาเห็นตอนดึกๆ ทั้งที่ห้องปิดไฟมืด แต่กลับมองเห็นดวงกลมๆ สีขาว บางครั้งก็อยู่ที่หัวนอน บางครั้งก็อยู่ที่ปลายเท้า

    อ๋อ จำได้แระว่าเมื่อคืนพูดถึงเรื่อง อนุปาทิเสส ไปค้นหาก่อนนะว่าหมายถึงอะไร? และอุปทิเสส คืออะไร เจอแล้วหนอ อืม สิ่งที่พูดคุยในฝันมันมีจริงด้วยหนอ แปลกดี...นำมาแชร์ค่ะ

    อุปทิเสส หมายถึง ขันธ์อันเป็นส่วนที่เหลือ
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ลักษณะแห่งนิพพานธาตุสองชนิด

    ภิกษ ุ ท.! นิพ พ านธาตุมี ๒ อย่าง, สองอย่างเหล่าไหนเล่า?
    สองอย่างคือ สองปาทิเสสนิพพานธาตุ และอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ.

    ก. สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
    ภิกษุ ท.! สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท.! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันต์ ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ได้ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว ได้บรรลุถึงประโยชน์ของตนแล้ว มีกิเลสอันเป็นเครื่องผูกติดให้อยู่กับภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ. อินทรีย์ห้าของเธอยังตั้งอยู่ เพราะเป็นอินทรีย์ที่ยังไม่ถูกกำจัด เธอย่อมเสวยอารมณ์อันเป็นที่ชอบใจบ้าง ไม่เป็นที่ชอบใจบ้าง ให้รู้สึกสุขและทุกข์บ้าง. ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่งโมหะของเธอ อันใด,. ภิกษุ ท.! อันนั้นแหละ เราเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ.

    ข. อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
    ภิกษุ ท.! ก็ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท.! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันต์ ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ได้ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว ได้บรรลุถึงประโยชน์ของตนแล้ว มีกิเลสอันเป็นเครื่องผูกติดอยู่กับภพสิ้นไปรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ. ภิกษุ ท.! เวทนาทั้งหลายทั้งปวงของเธอ อันเธอไม่เพลิดเพลินแล้ว จักดับเย็นในโลกนี้เอง. ภิกษุ ท.! อย่างนี้แล เราเรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ.

    (คาถาผนวกท้ายพระสูตรนี้ มีว่า นิพพานธาตุ อันพระผู้มีพระภาคผู้มีจักษุ ผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยแล้ว ผู้คงที่ ได้ประกาศไว้แล้ว มีอยู่ ๒ อย่าง เหล่านี้คือนิพพานธาตุอย่างหนึ่ง (มี) เพราะความสิ้นไปแห่งภวเนตติ เป็นไปในทิฎฐธรรมนี้ (อิธ ทิฎฺฐธมฺมิกา) ยังมีอุปาทิเหลือ, และนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง) ไม่มีอุปาทิเหลือ เป็นไปในกาลเบื้องหน้า (สมฺปรายิกา) เป็นที่ดับแห่งภพทั้งหลายโดยประการทั้งปวง.

    บุคคลเหล่าใดรู้ทั่วถึงแล้วซึ่งนิพพานธาตุสองอย่างนั่นอันเป็นอสังขตบท เป็นผู้มีจิตหลุดพ้นพิเศษแล้วเพราะความสิ้นไปแห่งภวเนตติ; บุคคลเหล่านั้น ยินดีแล้ว ในความสิ้นไป (แห่งทุกข์) เพราะการถึงทับซึ่งธรรมอันเป็นสาระ เป็นผู้คงที่ ละแล้วซึ่งภพทั้งปวง, ดังนี้.

    เนื้อความแม้นี้ เป็นเนื้อความอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้วอย่างนี้, ดังนี้

    (ถ้อยคำในพากย์บาลี มีดังต่อไปนี้
    เทฺว อิมา จกฺขุมตา ปกาสิตา
    นิพฺพานธาตู อนิสฺสิเตน ตาทินา
    เอกา หิ ธาตุ อิธ ทิฏฺฐธมฺมิกา
    สอุปาทิเสสา ภวเนตฺติสงฺขยา
    อนุปาทิเสสา ปน สมฺปรายิกา
    ยมฺหิ นิรุชฺฌนฺติ ภวานิ สพฺพโส.
    เย เอตทญฺญาย ปทํ อสงฺขตํ
    วิมุตฺตจิตฺตา ภวเนตฺติสงฺขยา
    เต ธมฺมสาราธิคมกฺขเย รตา
    ปหํสุ เต สพฺพภวานิ ตาทิโนติ.
    อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุตนฺติ.

    - อิติวุ. ขุ. ๒๕/๒๕๘-๒๕๙/๒๒๒.

    (นิพพานธาตุทั้งสองอย่างนี้ เป็นนิพพานธาตุสำหรับพระอรหันต์ผู้สิ้นอาสวะกิเลสแล้ว ทั้งสองชนิด หากแต่ผู้บรรลุนิพพานธาตุชนิดสอุปาทิเสสะนั้น ระบบแห่งความรู้สึกทางอินทรีย์ห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ของท่าน ยังไม่ถูกกำจัดโดยสิ้นเชิงด้วยอำนาจนิพพานธาตุนั้น ความเคยชินในความรู้สึกต่ออารมณ์สำหรับจะรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ยังเหลืออยู่ จึงเรียกว่า สอุปาทิเสสะ - มีอุปาทิเหลืออยู่ นั่นคือดังข้อความข้อ ก.; ส่วนพระอรหันต์จำพวกหลังนั้น ความเคยชินในความรู้สึกต่ออารมณ์ของอินทรีย์ทั้งห้า ถูกนิพพานธาตุอย่างที่สองกำจัดแล้วสิ้นเชิง เวทนาของท่านจึงเย็นสนิท ไม่รู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ จึงเรียกว่า อนุปาทิเสสะ - ไม่มีอุปาทิ เหลืออยู่ ดังข้อความที่กล่าวแล้วในข้อ ข. หาใช้ต้องทำลายขันธ์ถึงมรณภาพไปไม่ เพราะบาลีมีอยู่อย่างชัดเจนว่า เวทนาเหล่านั้นดับเย็น (คือไม่เป็นสุขหรือเป็นทุกข์) ในอัตภาพนี้หรือในโลกนี้เอง.

    การที่มีผู้เข้าใจไปว่า นิพพานธาตุอย่างแรกเป็นของพระอรหันต์ผู้ยังมีชีวิตอยู่ และนิพพานธาตุอย่างหลังเป็นของพระอรหันต์ผู้ถึงแก่มรณภาพแล้วดังนี้นั้น คงจะเนื่องจากความเข้าใจผิดต่อคำ บาลีสองคำ ในคาถาผนวกท้ายสูตรนั่นเอง คือคำ ว่า สมฺปรายิกา ซึ่งแปลกันว่า โลกหน้า หรือต่อตายแล้ว ซึ่งที่แท้แปลว่า ในเวลาถัด ๆ ไป ก็ได้, ส่วนคำ ว่า ทิฏฐธมฺมิกา มีความหมายว่า ทันทีทันใดที่เหตุการณ์นั้น ๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่จำ เป็นจะต้องระบุว่าในชาตินี้ภพนี้เสมอไป.

    ผู้รวบรวมมีความเห็นว่า นิพพานธาตุทั้งสองอย่างนี้ มีสำหรับพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ต่างกันเพียงแต่ว่า พวกแรกนั้น อินทรีย์ยังรู้สึกต่อสุขและทุกข์ แม้จะไม่มีความยึดถือในเวทนานั้น, , ส่วนพวกหลังนั้นไม่มีความรู้สึกเป็นสุขหรือทุกข์ จึงกล่าวว่าเวทนาเป็นของเย็น ในอัตภาพนี้ หรือในโลกนี้. ข้อนี้จะยุกติเป็นอย่างไร ผู้ศึกษาจงพิจารณาดูเองเถิด).

    ภิกษุ ท.! สังขตลักษณะแห่งสังขตธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่สามอย่างอย่างไรเล่า? สามอย่างคือ :-
    ๑. มีการเกิดปรากฏ (อุปฺปาโท ปญฺญายติ);
    ๒. มีการเสื่อมปรากฏ (วโย ปญฺญายติ) ;
    ๓. เมื่อตั้งอยู่ ก็มีภาวะอย่างอื่น ปรากฏ (?ิตสฺส อญ ฺญถตฺตํ ปญฺญายติ).
    ภิกษุ ท.! สามอย่างเหล่านี้แล คือสังขตลักษณะแห่งสังขตธรรม.
    ภิกษุ ท.! อสังขตลักษณ ะของอสังขตธรรม ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่ สามอย่างอย่างไรเล่า? สามอย่างคือ :-
    ๑. ไม่ปรากฏมีการเกิด (น อุปฺปาโท ปญฺญายติ) ;
    ๒. ไม่ปรากฏมีการเสื่อม (น วโย ปญฺญายติ) ;
    ๓. เมื่อตั้งอยู่ ก็ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ (น ?ิตสฺส อญฺ ญถตฺตํปญฺญายติ).
    ภิกษุ ท.! สามอย่างเหล่านี้แล คืออสังขตลักษณะของอสังขตธรรม.

    - ติก. อํ. ๒๐/๑๙๒/๔๘๖-๔๘๗.
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ฝันไปได้หนอ เรื่องนิพพาน แล้วก็คุยเป็นตุเป็นตะ 555
     
  4. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ราตรีหนึ่ง ราตรีนั้นสำคัญไฉน
    คิดสงสัยไปไยเล่าหนา
    ราตรีหนึ่ง ราตรีนั้น ยาวหรือสั้นนา
    อยู่ึที่ว่าหลับอยู่หรือตื่นเอย

    สติคือคุณธรรมให้จิตตื่น
    ให้สดชื่นรื่นในธรรมล้ำมิจฉา
    มิหลับไหลในห้วงจินตนา
    เป็นผู้อยู่ ณ ราตรีหนึ่งนั้น เจริญ!
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อคืนฝันเห็นพระภิกษุสงฆ์มากมาย เยอะจริงๆ เหมือนเมื่อครั้งพุทธกาลเลย แล้วก็ไ้ด้พูดคุยกัน แต่ลืมเรื่องที่สนทนาไปแล้วอ่ะ

    ตื่นนอนตอนเช้า ลืมตาแต่ยังนอนอยู่ก็เลยพิจารณาเรื่อง ภพภูมิและธรรมจักร เราก็ได้ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาครบทุกภูมิแล้ว รู้เห็นอะไรมาก็เยอะแล้ว สรุปลงที่ธรรมจักรที่หมุนวน ทบทวนคำที่แม่ย่าเคยบอกว่าเราชอบจังเลยธรรมจักรเนี่ย เมื่อไหร่จะเลิกชอบซะที

    พิจารณาได้ว่า ธรรมจักร ก็คือ ธรรมะที่มีอยู่ในวัฏจักรนี่เอง ธรรมะ ธรรมชาติ ที่ทำให้ได้เวียนว่ายตายเกิดกันไม่จบไม่สิ้น ธรรมะที่มีอยู่ในวัฏจักร มี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในทุกภพภูมิหนีธรรมชาตินี้กันไม่พ้น ธรรมะที่มีอยู่ในวัฏจักร หรือวัฏสงสารนั่นเอง

    เราออกมาอยู่ข้างนอกธรรมจักรดีไหม?...นี่คือ สิ่งที่พิจารณาได้เมื่อเช้านี้ แต่ยังเห็นในมุมมองที่กว้างออกไป ยังไม่ได้ลงไปในรายละเอียดมากนัก...ขอพิจารณาเพิ่มเติมอีกในหลายๆ วัน หุหุ
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อยากเล่า แต่ลืมทุกที 555
    นานๆ มาที คงจะดีเหมือนกันหนอ
    มีเรื่องเล่าที่ไม่ใช่ ณ ราตรีหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ได้ไปพบปะผู้คนในโลกออนไลน์
    เรื่องราวความหลัง อดีตชาติภพ ซึ่งดูเหมือนเวิ่นเว้อ...ก็เลยไม่รู้ว่าจะเล่าแนวไหนดี
    ขอเวลาไตร่ตรองทบทวนนานๆ ก่อนแล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อคืนฝันแปลก จะว่าน่ากลัวก็เหมือน จะว่าไม่น่ากลัวก็ใช่ ยังงงๆ อยู่
    จำได้บ้าง บ่ได้บ้าง มีกลุ่มคนร้ายใส่ชุดดำ ใส่หน้ากากถือปืน ไล่จับใครบางคน
    ไปที่ไหนก็บ่รู้ บ่รู้จักอีกแระ...เป็นเส้นทางสองเส้นที่คู่ขนานกัน

    ทางเส้นหนึ่งมีลักษณะเป็นดินโคลนเฉอะแฉะกว้างมาก
    ทางอีกเ้ส้นหนึ่งเป็นคอนกรีต ทั้งสองเส้นทางทอดคู่กันไป
    มีฟุตบาทด้วยหนอ เราเดินอยู่บนฟุตบาท มองสองเส้นทางนั้น บ่รู้ว่าไปตามหาใครเหมือนกัน
    มีเด็กผู้ชายตามไปด้วยหนึ่งคน แปลกหนอ เดี๋ยวนี้ฝันทีไรต้องมีเด็กผู้ชายตามไปด้วยทุกที

    เดินๆ ไป นึกอยากจะเปลี่ยนทางเดิน โดยจะไปเดินบนถนนคอนกรีต
    ทางที่เป็นดินโคลนนั้นกว้างมาก ต้องเดินผ่านทางนี้ซะด้วยซิ แต่ถ้าเดินลงไปเราก็ต้องเปรอะโคลน และไม่รู้่ว่าโคลนนั้นลึกแค่ไหน ก็เลยตัดสินใจกระโดดข้าม ไม่น่าเชื่อหนอ กระโดดข้ามมันไปได้ด้วย หุหุ ความกว้างหลายเมตรอยู่หนอ กระโดดแบบตัวลอย พอเท้าแตะพื้นคอนกรีต เด็กที่ตามมากระโดดตามบ่ได้ ก็ร้องบอกว่าให้ระวังคนชุดดำ ทางด้านหลัง

    เส้นทางนี้ เป็นเขตหวงห้ามของพวกมัน ใครผ่านเข้ามาต้องถูกจับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  8. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    โอ้ เหาะได้ในความฝันหนอ
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หันไปมองทางด้านหลัง จริงซะด้วย ชายใส่ชุดดำปิดหน้าถือปืน ส่องไฟมาที่เราและำกำลังวิ่งตามมาทางด้านหลังพร้อมด้วยพวกที่นั่งมาบนรถหลายคัน นี่มันอะไรกันเนี่ย เค้ากำลังทำศึกกันอยู่หรือ

    ไม่ต้องคิดมากเลย เอาตัวรอดก่อนดีกว่า ก็เลยกระโดดกลับไปที่ฟุตบาท ที่มีรั้วสูงกั้นบังอยู่ ไปแอบด้านหลังรั้วนั้น ฝ่ายเจ้าเด็กน้อยวิ่งตามเรามา บอกใ้ห้มาแอบ ดันวิ่งออกไปที่โล่งให้พวกมันเห็นอีก...

    พวกชายชุดดำตามหาเราไม่เจอ แต่มันเห็นเด็กน้อยนี่ซิ เราก็เลยคว้าตัวมาแอบด้วยกัน ต่อจากนั้น....................ตื่นมาดูนาฬิกาตีสี่เกือบตีห้า ยังไม่เช้าเลยหนอ
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    รอฟัง ณ ราตรีหนึ่ง ของคุณคุรุวาโรค่ะ จัดเต็มเลยนะ
     
  11. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ออกแนวเพ้อเจ้อนะครับ แบบว่าชอบนิมิตเห็นแต่ที่แปลกๆครับ จะฟังไหมหนอ
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ชอบๆ เพ้อเหมือนกันค่ะ รอฟังหนอ
     
  13. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ฟังเป็นนิทานแล้วกันครับ วันหนึ่งภาวนาไปปรากฏว่าพบว่าตนเองไปอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง คล้ายๆห้องเรียนครับ เลยเดินเข้าไปเรียนหนังสือกับเพื่อนๆในห้องเรียนครับ วิชาที่เรียนนั้นแปลกมากครับ
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เรียนวิชาอะไรหรือคะ งุงิๆๆ ป่ะ
     
  15. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    อักษรนั้นเป็นลักษณะคล้ายๆอักษรขอม แต่แปลกพบว่าตนเองนั้นอ่านออก แบบเหมือยเคยอ่านอักษรแบบนี้เป็นประจำครับ ที่นั่งข้างๆมีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดออกสีขาวหม่นๆครับ แต่ใส่ชฏา มีเครื่องประดับมาแนะนำตัวว่า มาจากชั้นมายามีนามว่า ปรมินทร์ราชบดีครับ
     
  16. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    วิชาที่เรียนนั้น ชื่อว่า วิชาเนรมิตครับ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของเทวดาชั้นปกครอง ก็แปลกดีเหมือนกัน มีภาคปฏิบัติด้วย ในนิมิตนั้นต้องไปทดสอบภาคปฏิบัติที่หิมพานต์แดนสาม ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่ามารด้วยครับ ขอจบแค่นี้นะครับ
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ฮั่นแน่ ฝันถึงแฟนนี่เองหนอ คริคริ
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อ้าว :':)':)'(
     
  19. yui_61

    yui_61 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +1,285
    สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอพี่นุ๊กนานเลยนะคะ ฝันอะไรเยอะแยะค่ะ (แซวเล่นนะคะ)
     
  20. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    รายละเอียดนะเหรอครับ กฏของวิชานี้ก็ต้องใช้พลังเทพฉายให้ไปอยู่ที่ปลายนิ้วแล้วต้องผูกเงื่อนของเวลาเอาไว้ด้วยว่า ผู้ที่ถูกเนรมิตให้เป็นไปนั้น ต้องกระทำการอันใดถึงจะพ้นจากการถูกเนรมิตครับ ส่วนการทดสอบในนิมิตขออนุญาติไม่เล่าครับ เพราะออกแนวเพ้อเจ้อมากไปหน่อยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...