เหมือนได้ยินเสียงพระสวดอยู่ตลอดเวลา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Areeka, 1 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่นะคะ คือเริ่มฝึกนั่งสมาธิได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้ค่ะคือไม่ได้นั่งเพื่อให้บรรลุหรือว่าอะไรนะคะคืออยากให้จิตสงบเท่านั้นแต่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ก็เริ่มได้ยินเสียงเหมือนพระสวดดังที่ข้างหูตลอดเวลาตอนแรกนึกว่าหูอื้อแต่มันไม่ใช่ค่ะกระทั่งตอนนี้ก็ยังได้ยินอยู่ คืออยากขอคำแนะนำค่ะว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรต่อไปและเสียงที่ได้ยินอยู่นี่มันดีหรือไม่ดีคะ
    ปล. อยู่ต่างประเทศค่ะจึงมั่นใจว่าไม่ใช่เสียงจากวัดแน่นอน ขอบคุณค่ะ
     
  2. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ต้องดีสิคะ? จะไม่ดีได้อย่างไร ดิฉันก็เป็น แต่เวลาทำสมาธิจะไม่ได้ยินพระสวดนะคะ จะได้ยินเสียงคนจำนวนมากสวดบางครั้งเป็นเสียงกลุ่มผู้ชายหลายคน บางครั้งจะได้ยินกลุ่มผู้หญิงหลายคนสวดค่ะ และที่แปลกแต่จริงคือเสียงที่ได้ยินออกมาจาก Air Condition (เครื่องปรับอากาศนะคะ) ไม่แค่นั้น นั้งรถไปต่างจังหวัดกับครอบครัวก็ได้ยินเสียงสวดมนต์คนเดียวจนต้องเปิดหน้าต่างรถ น้องสาวบอกเสียงล้อรถมันเสียดกับถนน แปลกไหมคะ? และที่น่าตระหนกตกใจคือ เมื่อวานสด ๆ ร้อน ๆ ดิฉันนั้่งพิมพ์งานทีคอมพิวเตอร์ ลำโพงอะไรก็ปิดสนิท TV ก็ไม่ได้เปิด ท่านเชื่อหรือไม่มีเสียงคนสวดมนต์ออกมาจาก คอมที่ดิฉันกำลังพิมพ์ fb กับเพื่อนมันเวลา เกือบ 5 ทุ่มน่ะค่ะ เป็นเสียงสวดมนต์ผู้ชายหลายคนมาก นี่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะคะ ดิฉันจึงหยุดพิมพ์ทันที และพูดดัง ๆ ว่า รู้แล้ว ๆ ๆ จะรีบไปอาบน้ำและจะรีบลงมาสวดมนต์ค่ะ ทราบแล้ว ๆ และก็รีบไปอาบน้ำและลงมาสวดมนต์ค่ะ บ่อยมากค่ะ และหากบางวันหากเราล้าจากการทำงานบางทีก็มีแอบสบาย ๆ นั่งดู TV พอหย่อนก้นนั่ง โซฟายังไม่ทันได้อะไรเลย มาแล้วโหเสียงคนจำนวนมากทั้งชายหญิง มีเราได้ยินอยู่คนเดียว ก็รีบดีดตัวผึงทันทีลุกขึ้นและพูด ไปแล้ว ๆ ทราบแล้ว

    ในกรณีคุณที่ได้ยินเสียงพระสวดมนต์ตลอดเวลาอันนี้ไม่ทราบนะคะรอให้ท่านผู้รู้มาตอบจะดีที่ีสุด แต่ในความเห็นดิฉันคิดว่าคุณต้องมีของเก่าอยู่ไม่น้อยละค่ะอาจเคยปฏิบัติมาไม่น้อยเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ ดิฉันก็เจอเรื่องออกจะเหนือธรรมชาติมากมายจนตอนนี้ได้แต่ยิ้มนะคะเฉย ๆ แล้วแต่ดีใจที่ได้พบเห็นทำให้ทราบว่าเรื่องเช่นนี้มีอยู่จริง จนล่าสุด หลวงพ่อพระอาจารย์คำพอง ปัญญาวุโธ(หลวงพ่อน้อย) แห่งวัดป่านานาชาติ สหรัฐอเมริกา เผอิญท่านมาประเทศไทยและรับนิมนต์มาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯลฯ EGAT กับทางชมรมพุทธศาสนาของกฟผ. ดิฉันก็๋ได้ขึ้นไปทำบุญกับท่าน ถวายเข็มด้ายเย็บจีวร กรรไกร และมีดโกนหนวดให้ท่าน พร้อมปัจจัย ท่านให้ศีลให้พร........และดิฉันได้เรียนถามท่านถึงความผิดปรกติของดิฉันกับท่าน........ท่านก็สั่งให้มาเลยมาฝึกกรรมฐานกับท่านๆ จะสอนให้ และถามว่าดิฉันปฏิบัติสมาธิมานานหรือยัง ก็ตอบว่าไม่นานเมือปีที่แล้วแบบเข้ม ๆบ้าง ไม่เข้มบ้างเท่านั้นค่ะ ท่านก็หานามบัตรท่านและให้ดิฉันไปปฏิบัติที่วัดในไทยคือวัดสิริกมลาวาส/วัดใหม่เสนานิคม ถนนลาดพร้าววังหิน เขตลาดพร้าว ดิฉันดีใจจนน้ำตาคลออยากไปมากที่สุดแต่ติดที่ตอนนี้สถาณการณืบ้านเมืองเราแบบนี้ คือท่่านสอนกรรมฐานคนเยอะนะคะเริ่มประมาณ 1 ทุ่ม นั่งกรรมฐาน ถึง 2 ทุ่ม และ2 ทุ่มถึง 4 ทุ่มท่านบรรยายธรรมมะให้ฟัง อยากไปน่ะคะ แต่นนทบุรี กับลาดพร้าวน่ะ หากออกมาจากวัดก็ปาไป 22:00 น - 23 น. แล้วกว่าจะกลับ เชื่อว่าเหตุการณ์ความรุนแรงวันนี้ก็มีให้เห็น จึงยังไม่ได้ไป ส่วนเรื่องของท่านน่าจะเป็นเรื่องดีนะคะ รอผู้รู้เข้ามาตอบให้หายข้องใจเถิดนะคะ
    เจริญในธรรม กำหนดมีพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติเสมอค่ะ
     
  3. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    นิมิตเกิดขึ้นได้ทางทวารต่าง ๆ เช่น ตา จากการนั่งเห็นรูปหรือแสงสี บางทีก็เห็นเป็นแสงจุดเล็ก ๆ แล้วสว่างจ้า บางทีก็เห็นเป็นพระพุทธรูป บางทีก็เห็นเป็นภาพสวรรค์ หรือภาพต่าง ๆ นานา การเห็นนิมิตทางตาแม้จะหลับตาก็ตาม จะเป็นทางนำไปสู่ทิพจักขุ (ตาทิพย์) หรือจักขุญาณ (เห็นด้วยตาใน) นอกจากนี้ก็อาจจะมีนิมิตทางเสียง โดยหูของเราอาจได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีวัดหรือมีใครสวดมนต์อยู่แถวนั้น นิมิตที่ปรากฏทางเสียงจะนำไปสู่ทิพยโสต (หูภายในได้ยิน) หรือโสตญาณ ที่เรียกว่าหูทิพย์ ซึ่งทั้งหูทิพย์และตาทิพย์นี้ เป็นที่ยอมรับกันในพุทธศาสนาว่ามีจริง เป็นจริง จะปฏิเสธว่าไม่มีไม่ได้ ผู้ปฏิบัติบางคนอาจได้กลิ่นหอมหรือกลิ่นประหลาดเข้ามากระทบจมูกชั่ววูบของลมหายใจ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีต้นเหตุของกลิ่นนั้นให้สัมผัสนี่ก็เป็นนิมิตทางกลิ่นเหมือนกัน หรือบางคนอาจจะได้นิมิตทางลิ้น คือรู้สึกว่ารสใด รสหนึ่งเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รับประทานอะไรในขณะนั้น หรือบางคนอาจจะได้นิมิตทางโผฏฐัพพะ คือเหมือนกับมีอะไรมาถูกต้องกาย เช่น เหมือนมีตัวไรมาไต่บนใบหน้าทำให้รู้สึกคันยุกยิก แต่พอลืมตาหรือเอามือมาลูบดูกลับไม่เห็นมีอะไร

    ไม่ว่านิมิตจะเป็นอะไรเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป อย่าไปหลงใหล อย่าไปยึดติด อย่าไปชอบ อย่าไปชัง ขอเพียงมีสติ รู้ แล้วละเสีย

    ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่มักจะเอานิสัยทางโลกเข้ามาปนกับการปฏิบัติทางธรรม นิสัยทางโลกนั้นหากประสบกับสิ่งที่ตนพอใจก็ชอบ อยากพบ อยากเห็น อยากสัมผัส อยากสัมพันธ์ อยากครอบครอง แต่ถ้าพบในสิ่งที่ตนไม่ปรารถนาก็ชัง ไม่อยากพบ ไม่อยากเห็น ดังนั้นเมื่อเจอนิมิตที่ตนพอใจก็อยากเจออีกหรืออยากให้อยู่นาน ๆ เป็นกามตัณหา เพราะมีราคะกิเลส แต่ถ้าเป็นนิมิตที่ตนไม่พอใจก็อยากผลักใสไม่อยากให้ดำรงอยู่ เป็นวิภวตัณหา (ความอยากในสิ่งที่ไม่อยาก) เพราะมีโทสะกิเลส (ความโกรธ) ซึ่งความชอบความชังดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มพูนกิเลสเข้าไปในจิตใจ แทนที่จะเอากิเลสออกจากจิต ดังนั้นจึงต้องมีสติคอยกำกับจิตและมีปัญญาเท่าทัน อย่าไปหลงใหล อย่าไปชอบ อย่าไปชัง เพียงรู้ รู้แล้วก็ละ (คือว่าที่ใจ หรือให้ใจว่า ละ นี่คือวิปัสสนา )

    ความจริงถ้าเรามีอิทธิบาท ๔ ที่แก่กล้า เราก็จะไม่หลงในนิมิต กล่าวคือ ถ้ามีฉันทะหรือความพอใจต่อการปฏิบัติ รักที่จะปฏิบัติ มีวิริยะพากเพียรต่อการปฏิบัติโดยไม่เกรงกลัวต่อความเหนื่อยยาก มีจิตตะหรือมีใจจดจ่อต่อการปฏิบัติ แม้จะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับกายกับจิต ก็ระลึกรู้ทันท่วงทีด้วยการมีสติคอยกำกับ เช่น รู้ว่ามีนิมิตเกิดขึ้นแล้วและมีวิมังสา คือใคร่ครวญไตร่ตรองในธรรมหรือในนิมิตที่เกิดขึ้นว่าเป็นของไม่เที่ยง ผ่านมาก็ผ่านไป ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ไม่ปรุงแต่งไปในทางที่ชอบที่ชัง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ละ หรือปล่อยวาง ในนิมิตได้ หากทำได้เช่นนี้ตัววิมังสาก็จะเป็นตัวปัญญา

    นอกจากนิมิตแล้ว ขณะที่เราภาวนาอิทธิบาท ๔ คือท่องคำว่า ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อาจจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งนอกเหนือไปจากนิมิตเกิดขึ้นกับกายกับจิตของเรา เช่น รู้สึกปวดเมื่อย คัน ตัวหนัก ตัวเบา ตัวร้อน ตัวเย็น หรือมีอารมณ์จรไปเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ให้รู้แล้วละเสีย ตัวรู้คือสติ ตัวละตัวปัญญา (สติ : ระลึกได้มีปัญญารู้ติดตามมา )

    : ธรรมะหลวงพ่อสรวง วัดถ้ำขวัญเมือง จ.ชุมพร
     
  4. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอบคุณทั้งสองท่านมากคะที่มาตอบและอธิบายให้ได้ทราบ ก็จะพยายามปฏิบัติต่อไปค่ะเพราะรู้สึกว่าจิตนิ่งและสงบกว่าแต่ก่อนมากหากมีปัญหาอื่นที่ไม่เข้าใจอีกจะมารบกวนถามใหม่นะคะ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เด่วช่วยเสริมครับเล่าให้ฟังเพื่ออนาคตแล้วกันครับ.
    .ปกติเสียงที่ได้ยินจะเป็นแบบคนสวดมนต์เป็นกลุ่มเหมือน
    ที่คุณ siwatcha กล่าวไว้ ณ ใช่แล้วครับ.ส่วนใหญ่คนมาแนวนี้มักชอบได้ยินเสียงคนที่กำลัง
    กล่าวถึงเราในระยะไกลกว่าปกติแบบไม่รู้ตัว..และเสียงสวดมนต์นั้นอาจจะฟังรู้
    เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็สุดแล้วแต่.และสังเกตุดีๆมักจะได้ยินทางหูด้านขวา.
    หรือได้ยินแล้วแยกไม่ได้ว่าหูด้านไหน.แม้ว่าจะเหมือนได้ยิน
    ใกล้ๆหูก็ตามแต่เรามักหาตำแหน่งของกลุ่มต้นเสียงไม่เจอ.แต่อาจเดาๆได้ว่ามาจากตรงนั้นตรงนี้.
    และถ้าสังเกตุอีกทีเส้นเสียงจะสูงกว่าแนวรูหูเราเล็กน้อย.
    .ถามว่าอาการอย่างนี้ดีไหม
    ก็ตอบว่าดีครับ.แต่ไม่ต้องให้ความสำคัญมาก.เพราะถ้าพยายามไปตั้งใจฟังเสียงมักจะหายไป
    .เชื่อกันว่าเป็นเสียงสวดมนต์ของเทวดาที่มีมิติที่อยู่ใกล้เคียงกับโลกเรานี่หละครับ.

    และถ้าว่ากันในมุมของความสามารถพิเศษ..ก็ถือว่าเคยมีของเก่าทางด้านนี้มาหรืออาจไม่เคยมี
    แต่จิตในขณะอยู่ในระดับคลื่นความถี่ที่ไปตรงกับคลื่นเสียงทางนั้นพอดี..และถ้าสมมุติว่า
    เราไม่สนใจนะครับ.จะพัฒนามาเป็นเสียงเรียกใกล้ๆหูแบบเดี่ยวๆได้.
    .จากนั้นต่อมาจะพัฒนามาเป็นเสียงเรียกตรงใจกลางกระโหลกศีรษะด้านในแบบได้ยินทั้งประโยค
    แต่เราฟังได้เพียงพยางค์เดียว...และพัฒนาต่อมาเป็นเสียงที่เรียก
    แบบมีพลังออกมาจากจิตเราตรงต่ำแหน่งบริเวณลิ้นปี่ได้.

    .ขั้นต่อมาพัฒนามาเป็นเสียง
    เรียกในระดับเสียงขนานกับรูหูด้านขวาเราได้.
    หรือเสียงสูงเยื้องไปมุมบนด้านขวาสูงประมาณ ๒ ถึง ๓ เมตรได้
    ช่วงนี้อาจได้ยินเสียงทางหูด้านซ้ายแต่
    ไม่ชัดร่วมด้วย(ให้อุทิศส่วนกุศล)
    .และพัฒนาต่อมาได้ยินเสียงอะไรก็ตามตรงต่ำแหน่งเยื้องกลาง
    กระโหลกศรีษะมาทางด้านขวาเล็กน้อยแต่เป็นเสียงคนบนโลกที่อยู่ไกลจากที่เราอยู่
    .และขั้นต่อมา.ก็จะพัฒนาเข้าสู่ความสงบในระดับ
    ที่ได้ยินแม้กระทั้งแมลงบินได้ หรือได้ยินเสียงปลีกของแมลงแบบดังฟังชัด.

    .และขั้นต่อมาก็คือจะได้
    ยินเสียงของสัตว์ตัวเล็กๆคุยกันได้
    (คือรู้ตำแหน่งแต่มองไม่เห็น.พูดวนไปวนมาเรื่องเดิมๆ
    เป็นคลื่นเสียงรอบๆแมลงแต่เราแปลงเป็นภาษาเราได้)..แต่ที่เล่ามานี้ยังไม่ถือว่าเป็น
    การได้หูทิพย์ในระดับใช้งานครับ.แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงและอยู่ในแนวทางจะถึงการได้หูทิพย์.จนกระทั่งเราลืมตาอยู่เฉยๆ
    แล้วเราได้ยินเสียงนามธรรมต่างๆคุยกันชนิดที่ว่าเสียงใสกิ๊ก.และรู้ว่าเป็นใคร.ระดับนี้
    ถึงว่าเป็นระดับใช้งานได้ครับ..ลองๆอ่านไว้เล่นๆครับ.เพื่ออนาคตจะเจอจะได้ทราบ
    ว่ามันเป็นกิริยาปกติในทางปฏิบัติที่เราจะเจอได้เป็นปกติครับ.

    .ปล.ที่ส่วนตัวพอจะเล่าให้ฟังได้ประมาณนี้หละครับ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2014
  6. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอบคุณค่ะคุณ nopphakan ณ ตอนนี้ที่สามารถอธิบายได้คือ มั่นใจว่าเสียงที่ได้ยินนั้นดังจากทางหูด้านขวาค่ะเป็นเสียงกลุ่มผู้ชายสวดแต่ไม่ทราบว่าบทไหนนะคะ บางเวลาเราคุยหรือสนใจเรื่องอื่นอยู่เสียงจะหายไปเราก็จะประมาณว่าหายไปแล้วเหรอแล้วพอลองเงี่ยหูฟังเสียงสวดก็จะกลับมาใหม่อ่ะค่ะตอนแรกก็คิดว่าตัวเองปฏิบัติผิดวิธีหรือเปล่า เช่นสวดมนต์ไม่ถูกหรือนั่งสมาธิผิดวิธีก็เลยทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้อ่ะค่ะ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ตอนนี้คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วนะครับ..
    มิต้องกังวลใดๆครับ.พวกการรับรู้พิเศษแม้ว่าเราไม่ต้องการ
    แต่ถ้าจิตเราสงบหรือในอดีตเราเคยทำมาถึงเวลาที่ความสงบ
    มันย้อนลงไปค้นพบข้อมูลมันก็ทำได้ของมันเอง.แต่ไม่ว่าจะความ
    สามารถในการรับรู้อะไรก็ตามให้เราเฉยๆไว้มองว่าเป็นธรรมดาที่เกิด
    ขึ้นได้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องการเดินปัญญาลดละกิเลสครับ.;)
    .ส่วนเรื่องเสียงต่อไปก็ต้องระวังเสียง
    ที่ดังเพียงพยางค์เดียวสั้นๆแบบไม่มีเส้นเสียง
    ตำแหน่งไม่แน่นอน.พวกนี้ถ้านั่งในห้องพระจะทำให้เราตกใจได้
    ให้ฝืนซักถึง ครั้งจะทำให้เราชินได้และไม่หลุดสมาธิครับ
    และถ้าเสียงลักษณะนี้อยู่ในบริเวณบ้านเราหรือนอก
    บ้านเราให้เงียบๆไว้ทุกกรณีครับ...:boo:.

     
  8. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    จะพยายามปฏิบัติให้ได้นะคะขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากค่ะ
    อยากบอกว่าสิ่งแรกที่ทำคือโทรไปถามแม่ว่าที่บ้านมีใครเป็นอะไรหรือเปล่าเพราะกลัวว่านี่จะเป็นลางไม่ดีอ่ะค่ะ ^_^
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    บ้านคุณแม่ที่ต่างประเทศหรือที่ไหนครับ..ส่วนมากที่ต่างประเทศ
    ภพภูมิที่พอมีอันตรายในเขตเมืองจะเป็นภูมิอสูรกายที่กลายมาจากคน
    ที่เสียชีวิตมานานพอสมควรแล้วฤิทธิ์ไม่ค่อยมากหน้าตาเหมือนๆคน
    แต่ว่าดูย่นๆและออกแนวชราๆหน่อย..นอกนั้นก็จะพอประมาณปรากฏตัวได้ใน
    ลักษณะกิริยาก่อนตายที่ตนทำเป็นปกติ..ถ้าเราไปเจอคนที่เค้าดุๆ
    เจ้าระเบียบหน่อยก่อนตายก็ถือว่าซวยไปครับ..๕๕๕..
    แต่พวกนี้จะกลัวคำภีร์ไบเบิลแบบที่ต้องกลางคัมภีร์ออกนะครับ.
    อย่าไปใช้พระเครื่องนะครับ..เผลอจะมาขอดูพระเครื่องเราด้วย.
    ๕๕๕ เล่าให้ฟังเล่นๆนะครับเพื่อไว้..
     
  10. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    คือแม่อยู่ที่ไทยค่ะส่วนนี่อยู่นอร์เวย์ค่ะ 5555 ชักเริ่มระแวงซะแล้วสิเนี่ย :'(
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ๕๕๕ ถ้าบ้านคุณแม่ที่เมืองไทยไม่น่าห่วงครับ.
    กระแสพระเกจิดังๆที่ละสังขารไปแล้วปกคลุมอยู่แล้วครับ
    ขอให้ยึดพระรัตน์ตรัยไว้ในใจจริงๆก็พอครับ.
    แค่คุณแม่นึกชื่อท่านใดที่เคารพได้ ณ เวลานั้นๆ
    และขอบารมีท่านช่วยอะไรไม่ดีกระเด็น
    แล้วครับเร็วกว่าวินาทีเลยครับถ้าเชื่อมกระแสติด

    ..ยกเว้นว่าเราจะเปิดรับให้สิ่งไม่ดีเข้ามาเอง
    ที่บอกให้เงียบเรื่องเสียงก็เป็นวิธีการเปิดรับเข้าตัว
    กับอีกวิธีคือการรับประทานเข้าไปเองในร่างกาย.
    รวมๆไม่มีไรหรอกครับ.

    ยิ่งคุณนะมีแต่วิญญานจะมาขอส่วนบุญนะครับ.กลัวแต่คุณจะคิด
    ว่าเค้ามาหลอกมากกว่า.๕๕๕ และอาจมาแบบมารยาทเมืองนอก
    คือคนไทยอาจจะมองว่าไม่สุภาพ
    เพียงแต่หากุสโลบายให้เค้าพูดคำว่า โมทนาให้ได้.
    แค่นี้ก็จบครับ๕๕๕..ผีฝรั่งส่วนตัวเคยเคลียร์มาบ้างพอ
    เข้าใจอยู่ครับ...
     
  12. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    นั่นคงเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะค่ะกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแถมยังต้องให้พูดว่าโมทนาอีกคิดว่าถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็อย่ามาให้เจอเลยค่ะเกรงใจ
    ปล. การได้ยินเสียงสวดมนต์ตลอดเวลานี่เป็นอุปสรรคต่อการทำสมาธิอย่างยิ่งยวดนะคะ:'(
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ๕๕๕ แหมๆเรื่องคุยไม่ยากครับ.แค่เราคิดเค้าก็รู้แล้วครับ.และการที่เค้าจะตอบ
    เราได้เค้าก็ต้องใช้กำลังพอสมควรครับ..การรับรู้ระหว่างเรากับเค้าคล้ายเป็นคลื่น
    ความถี่เป็นช่องสัญญานครับ..เหมือนเราจูนคลื่นวิทยุครับ.ตอนส่งเป็นคลื่นไงครับ
    แต่เราได้ยินเป็นเสียงนั่นหละครับ..และถ้าไม่จำเป็นจริงๆเค้าไม่มาให้เห็นครับ.๕๕๕

    และทุกกิริยาทางสมาธินะครับ.ไม่ว่าทางตา หู จมูก กาย และจิต
    ถ้าเรายังไม่ถึงขั้นที่สัมผัสแล้วทราบคำตอบเลย ณ ตอนนั้น
    .เค้าให้เพียงแค่รับรู้ และก็ต้องวางครับ พูดง่ายๆคือไม่ต้องไปสนใจ.
    แล้วเราจะก้าวไปได้อีกขั้นของมันเองครับ แล้วมารู้ทีหลังมันจะง่ายครับ..
    ..เหมือนตอนนี้เราเรียน ป.๑ อยู่เรารู้สึก
    ว่ามันย๊ากๆ.แต่เราก็พอผ่านๆไปเรียน ป.๒ ป.๓ ต่อพอกลับมาดูที่เคยเรียน
    ป.๑ เราจะรู้สึกว่าทำไมมันง่ายๆ.แต่ทั้งที่มันง่ายๆแต่ตอนนั้นมันทำไมย๊ากๆสำหรับเรา

    ประมาณนี้หละครับ...
     
  14. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    แหะ ๆ งั้นพอจะมีเทคนิคแนะนำไม๊คะประมาณว่าแนะแนวข้อสอบอ่ะค่ะจะได้เลื่อนชั้นได้บ้างไม่งั้นคงได้เรียนซ้ำชั้นนานแน่นอนค่ะ:p
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ก็ไม่ต้องสนใจเสียงครับถ้าอยู่ในช่วงที่กำลังตามลมหายใจแบบใช้คำภาวนา
    แต่หายใจให้ลึกถึงท้องไว้ให้ต่อเนื่องนะครับ.
    แล้วถ้าเราเหมือนเผลอได้ยินเสียงอีกนะครับ..ตอนนี้อารมย์จะสมาธิ
    อาจจะขาดช่วงให้กลับมาตามลมหายใจต่อให้เลิกคบเสียงไปเลย
    ..ให้มาตามลมหายใจไปเรื่อยๆถ้าเสียงมาอีกเราตัดออกไปมาดูลมหายใจ
    อย่างเดียวแบบไม่ต้องใช้คำภาวนา.ต่อไปอาจจะพัฒนามาเป็นเหมือนๆกับ
    ตัวเราเอียงจนกระทั่งหน้าจะคว่ำได้แต่ไม่ต้องสนใจอีกให้ค่อยๆยกไหล่ขึ้นมา
    แต่ห้ามลืมตา..เด่วต่อจากนี้ระดับสมาธิจะก้าวกระโดดไปอีกขั้นได้ของมันเองคับ
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    สาธุในกุศลเจตนา

    เสียงที่ได้ยินลักษณะนี้ เกิดจากการปรุงแต่งจากสังขาร

    ถามว่าดีไหม ? ถ้าใช้ชีวิตตามปกติประจำวัน มีใครมาพูดกับเราแล้วเราได้ยินเสียงพูดของเราอย่างนี้ดี (ปกติ) แต่ถ้าทำสมาธิแล้วได้ยินเสียงทำนองนี้ไม่ดี (แต่ก็เป็นธรรมดา เพราะสติสมาธิปัญญาเป็นต้นเรายังอ่อน) ถามว่า เมื่อเราทำสมาธิแล้วได้เห็น ได้ิยิน ได้กลิ่น...จะแก้ยังไง คือท่าให้กำหนดตามสภาวะที่เกิด ณ ขณะนั้นๆ เช่น เห็น ก็เห็นหนอๆ ได้ยินเสีย ก็เสียงหนอ ได้กลิ่น ก็กลิ่นหนอๆๆๆ...
     
  17. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    อาจเป็นสัญญาเดิมคือความจำได้หมายรู้ที่ท่านเคยบำเพ็ญมาแล้วในอดีตชาติ และอาจหมายรวมถึงการร่วมอนุโมทนาจากเหล่าเทพยดาฟ้าดินให้คุณระลึกถึงแต่สิ่งดี ๆ เป็นสิริมงคล ถือเป็นเรื่องดีนะคะ ได้ยินเสียงสวดมนต์ ทำให้เกิดสติ มีสมาธิ เป็นมงคล แต่ไม่ว่าสิ่งนั้นคืออะไรก็ขอให้ทำดีต่อไปไม่ต้องสนหรอกว่าใครมาดลใจ แต่เราต้องทำด้วยตัวเราเอง นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด หากขณะทำสมาธิไม่ต้องการได้ยินเสียงก็ลองอธิษฐานดูสิคะ
     
  18. tamonwun

    tamonwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +181
    เคยนั่งสวดมนต์กับน้องชาย แล้วได้ยินเสียงพระแก่ๆหลายๆองค์สวดมนต์ เหมือนกันค่ะ ตอนแรกที่ได้ยินคิดว่าเสียงมาจากข้างนอก เลยหยุดสวดมนต์แล้วนั่งฟัง หาที่มาของเสียง ปรากฎว่าเสียงมาจากในห้องพระที่กำลังสวดมนต์อยู่ พอยิ่งตั้งใจฟัง เสียงที่ได้ยินก้องๆก็ชัดแจ๋วทั้งๆที่ห้องพระกว้างมากชั้นสี่ทั้งชั้นเป็นห้องพระโล่งๆ แถมเพราะมากเลยฟังแล้วรู้สึกมีความสุขดี นั่งฟังอยู่สักพักก็สวดมนต์ กับนั่งสมาธิต่อ แต่ได้ยินเฉพาะตอนน้องชายสวดมนต์นะคะ ไม่ได้ ได้ยินตลอดเวลาเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้าตัวข้าพเจ้าสวดเองไม่ได้ยินอะไรเลยเพราะสวดมนต์ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่ตัวน้องชายที่สวดมนต์กลับไม่ได้ยินเสียงเหมือนที่ข้าพเจ้าได้ยิน ก็เลยเก็บความสงสัยไว้ไปถามผู้รู้มา ผู้รู้บอกว่าน้องชายสมาธิดีตอนสวดมนต์ เลยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาร่วมโมทนาด้วย แต่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย เพราะเวลาน้องชายสวดมนต์เค้าหลับตาสวด เค้าไม่ใช้หนังสือสวดเหมือนข้าพเจ้า ตอนนี้น้องชายกลับไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว เลยอดฟังเสียงสวดมนต์เพราะๆเลย
     
  19. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอบคุณทุกท่านะคะเดี๋ยวจะลองทำตามที่คุณดาวเดียวแนะนำจะลองอธิฐานจิตตอนนั่งสมาธิคือได้ยินตอนปกติจะไม่เท่าไหร่แต่ตอนนั่งสมาธินี่มันก็ทำให้จิตไม่สงบได้เหมือนกันค่ะ
    คุณ tamonwun ดิฉันก็ยังเปิดอ่านบทสวดอยู่เลยค่ะยังมิได้แก่กล้าแต่ประการใดค่ะ
     
  20. Areeka

    Areeka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +40
    และอยากจะถามผู้รู้อีกสักเรื่องค่ะ(หากยังมีผู้เข้ามาอ่าน) ปกติจะนั่งสมาธิแต่ตอนกลางคืนหลังสวดมนต์เสร็จแต่หากว่าตอนนี้อยากนั่งตอนกลางวันด้วยเราต้องทำยังไงบ้างคะ คือต้องสวดมนต์บทไหนก่อนหรือเปล่าต้องอาบน้ำให้ร่างกายสะอาดก่อนหรือเปล่า อันนี้ถามอย่างผู้ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...