พระเจ้าจักรพรรษ์,ผู้สละราชสมบัติออกบวช,caseบ้านเมืองยุคนี้

ได้ฟังมาหลายๆcaseพระอรหันตืหลายท่านได้เป็นพระจ้าจักรพรรามานับไม่ถ้วน
ชาติสุดท้ายสละสมบัติออกบวชมาก็เยอะเหมือนหนีลยไม๊ครับ
Caseลักษณะนี้จะมีทุกๆพุทธันดรเลยไช่ไม๊ครับ
-อยากทราบว่าหลังพระราชาทิ้งสมบัติออกบวชบ้านเมืองหลังจากนั้นจะวุ่นไม๊ครับ
ลักษณะคล้ายยุคนี้ที่กษัตร์ลาหมดความวุ่นวายจะเกิดไม๊ครับจะแย่งกันเป็นไหญ่ไม๊ครับ

 

ในประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนรัชกาล หรือการผลัดแผ่นดิน ก็มีทั้งวุ่นและไม่วุ่น
มีทั้งตายมาก มีทั้งตายน้อย
ถึงจะวุ่นวายมากอย่างไร จะตายมากอย่างไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป และก็กลายมาเป็นประวัติศาสตร์ให้จดจำ

ในกรณีที่ไม่วุ่น เพราะกษัตริย์เข้มแข็ง คุมอำมาตย์อยู่ และมีความชัดเจนว่าจะยกราชสมบัติให้ใคร โดยอำมาตย์ไม่กล้าหือ และกษัตริย์เองก็ยังสนับสนุนผลักดันองค์รัชทายาทเต็มที่

เมื่อกษัตริย์ได้วางแผนและควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ได้ ก็อาจสละราชสมบัติให้องค์รัชทายาทโดยมาเป็นที่ปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงให้กษัตริย์องค์ใหม่ หรือไม่ก็อาจเสด็จออกผนวชเป็นพระภิกษุ แต่ในประวัติศาสตร์ส่วนมากแล้วกษัตริย์จะอยู่ครองราชย์จนกว่าจะสวรรคต

นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับบุญบารมีขององค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทเองก็ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน โดยเฉพาะกำลังพล กองทหาร ผู้ที่ไว้ใจ ผู้ที่ใกล้ชิดที่มีความจงรักภักดี โดยให้คนเหล่านี้มาดำรงตำแหน่งในหน้าที่ต่างๆ ส่วนขุนนางอำมาตย์หรือบริวารของกษัตริย์องค์เดิมที่ยึดถือตามจารีตประเพณีกฏมณเฑียรบาล และมีความเคารพรักในองค์รัชทายาท กษัตริย์พระองค์ใหม่ก็ทรงชุบเลี้ยงต่อไป และให้ดำรงตำแหน่งในหน้าที่เดิม

สำหรับที่วุ่น เพราะกษัตริย์อ่อนแอ องค์รัชทายาทก็อ่อนแอ และอำมาตย์หรือเชื้อพระวงศ์องค์อื่นคิดแย่งชิงราชสมบัติ โดยเฉพาะกษัตริย์ที่ด่วนสวรรคตในขณะที่องค์รัชทายาทยังเป็นเด็กเล็ก

นอกจากนี้ กษัตริย์บางพระองค์ไม่มีความชัดเจนว่าจะยกราชบัลลังค์ให้แก่พระองค์ใด คือมีความหวงอำนาจ จะอยู่ครองอำนาจไปเรื่อยๆ เมื่อสวรรคตไปแล้วจึงเกิดการแย่งชิงอำนาจ

ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไหน หรือออกมาเป็นรูปแบบไหน ล้วนก็ผ่านมาเป็นประวัติศาสตร์ให้ศึกษา ไม่ว่าจะมีคนชั่วคนเลวมากมายเพียงใด สุดท้ายก็มีคนอีกส่วนหนึ่งเข้ามาปราบ หรือไม่ก็คนชั่วคนเลวเหล่านั้นได้ตายลง ซึ่งก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป อยู่ที่ว่าจะช้าจะเร็ว ตามเหตุตามปัจจัย และตามกรรม

 

ตามพระไตร

ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิ์ออกผนวชจะไม่วุ่นครับ เพราะปกติพระเจ้าจักรพรรดิ์จะผนวชก็ต่อเมื่อพระอุปราช(โอรสองค์โต)มีความสามารถเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ต่อไปได้

แต่เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวชนี้ค่อนข้างวุ่นวายครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะท่านกลัวครับ
เพราะในเวลาที่พระองค์เห็นพระราหุลความรักเหลือประมาณเกิดขึ้นในตัวพระโอรส
พระองค์กลัวความรักนั้นจะเจริญขึ้นไปจนไม่สามารถแสวงหาสัจธรรมได้ จึงออกผนวชในราตรีนั้นเลย

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

แล้วตอนตายด้วยกรณีต่างๆ เช่น ป่วยตาย เกิดอุบัติเหตุตาย เป็นต้น นี้ไม่กังวลว่าจะวุ่นวายบ้างหรือครับ

อันที่จริงในยุคพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่แท้จริงที่จะปกครองแผ่นดินทั้งหมดโดยมีมหาสมุทรทั้งสี่โดยรอบนั้น
คนที่จะเป็นได้นั้น เกิดจากบุญญาธิการของท่านนั้นๆ เอง .. ไม่สามารถยกให้ใครได้

 

อย่าไปสนใจเรื่องโลกๆ เลยครับ มันวุ่นวายของมัน เป็นปกติ ยิ่งการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ในระบอบสมบูรณ์ เป็นอะไรที่วุ่นวาย มากๆ ส่วนมากมักจะมาพร้อมความตายของคนเยอะๆ เป็นปกติอยู่แล้ว พระเจ้าปเสนธิโกศล เป็นพุทธมามกะ เป็นนิตยโพธิสัตว์ ไปอ่านดูสิ ท่านสิ้นพระชนน์ยังไง