69.สายลมหนาวที่เกาหลี

เดินตามไม่ทันคณะ เห็นหลังไกลลิบๆ โน่น....




​

 

แต่ไกด์ไทยก็เดินมาคอยอยู่แถวๆ อนุสาวรีย์หมี ยังมีเพื่อนในกลุ่มมุงถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์อยู่ ไกด์ก็ยิ้มแล้วบอกไม่ต้องรีบแถมช่วยถ่ายรูปให้ด้วย ไม่ได้เร่งเหมือนกับไกด์นำเที่ยวในประเทศไทย ตรงนี้น่ารักมาก...

ขึ้นรถโค้ชได้ก็เวลาเกือบบ่ายโมง คนอื่นขึ้นกันหมดแล้วไม่มีใครประณาม...

​

 

ออกรถได้มุ่งสู่ร้านอาหาร มื้อกลางวันนี้เป็นเมนูบูลโกกิ(Bulkoki) เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในเกาหลี ทำมาจากเนื้อสันนอกหั่นบางๆ หมักในซอสถั่วเหลืองผสมน้ำมันงา พริกไทยดำ กระเทียม หัวหอม ขิง ไวน์และน้ำตาล หมักประมาณ ๒ - ๔ ชั่วโมงเพื่อรสชาติที่ดี บูลโกกิ เป็นอาหารประเภทย่างสูตรดั้งเดิมของเกาหลี พร้อมกับส่วนผสมอย่างกลีบกระเทียม หัวหอม พริกเขียว เวลาทานบูลโกกิจะนิยมห่อในใบผักกาดหอม ใบงาหรือผักชนิดอื่นๆ ในวิธีทำเขาบอกว่าหมักไวน์ด้วย แต่ตอนที่ทานนี่ไม่รู้ว่าหมักไวน์ด้วยหรือเปล่า...ถ่ายรูปกระทะย่างไม่ถึงอยู่ไกลไปหน่อย มื้อนี้ทานได้นิดเดียวอีกตามเคย...

​

 

ทานเสร็จแล้วตรงหน้าร้านอาหารมีรถมาขายของ เป็นเรื่องธรรมดาที่ตามวิสัยนักท่องเที่ยวที่จะมุงซื้อกัน...สร้อยฟ้าฯ ไม่ได้ไปมุงด้วย ลมพัดหนาวขึ้นรถดีกว่า...ขึ้นมานั่งบนรถ เริ่มคิดถึงโค้ก แป๊ปซี่ น้ำอัดลม ขนม ฯลฯ ถ้าเป็นที่เมืองไทยป่านนี้เสบียงเต็มที่...

​

ตอนนี้ก็นั่งรถกันยาวๆ อีกครั้งมุ่งหน้าสู่ที่ๆ เย็นยะเยือกลานสกี...

ช่วงนี้ไกด์โฮ่งก็เล่าประวัติต้นกำเนิดประเทศเกาหลีให้ฟังก็ตั้งแต่เรื่องหมีกับเสือแล้วเลยถึงการปกครองของราชวงค์ต่างๆ สร้อยฟ้าฯ ไม่ลงข้อมูลดีกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ประวัติศาสตร์เกาหลีไป มีอยู่ช่วงนึงไกด์พูดว่า ตามภาษาอังกฤษเขียนชื่อประเทศเกาหลีว่า Korea โคเรีย โคเรีย นะก๊าะ แต่ทำไมคนไทยเรียกเกาหลี เกาหลี ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน ก๊ะ...ต้องพูดว่า โควเดรียว (โอ๊ย เขียนตามภาษาพูดไม่ถูกแฮะ ทั้งห่อลิ้น ห่อปาก คำพูดเขียนเป็นภาษาเขียนยากจัง) แต่ชื่อเกาหลีจริงๆ เรียกว่า แทฮันมินกุก หรือ ฮัลกึล ไกด์บอกต่อไปอีกว่า สมัยก่อนโน้น นานมาแล้ว มีทูตไทยเดินทางมาที่ประเทศจีนแล้วผ่านมาถึงเกาหลี ขณะนั้นภาษาเกาหลีใช้อักษรเดียวกับภาษาจีนแต่ออกเสียงไม่เหมือนกันแค่คล้ายๆ ทูตไทยเก่งภาษาจีนเลยอ่าน โควเดรียว เป็นเกาหลี...(เรื่องนี้จริงเปล่าเนี่ยะ)....

​

 

ขอเล่าถึงจังหวัดคังวอนโดหน่อยนะ ดูจากแผนที่จังหวัดนี้ใหญ่ไม่ใช่เล่นและเขาซอรัคซานก็อยู่ในจังหวัดนี้เหมือนกัน ทีแรกนึกว่าอยู่คนละจังหวัดเพราะว่านังรถโค้ชจากซอรัคซานมาที่ลานสกีใช้เวลาเกือบค่อนวันเลยนะ..ในสมัยก่อนจังหวัดคังวอนโด (Gangwon Do : 강원도) เป็นแหล่งทำเหมืองแร่ที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นในจังหวัดแห่งนี้จะมีร่องรอยการทำเหมืองแร่อยู่มากมาย ต่อมาเมื่อแร่ธาตุต่าง ๆ เริ่มร่อยหรอลง รัฐบาลและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ จึงมีแผนที่จะสร้างให้จังหวัดแห่งนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีหิมะปกคลุม และมีทิวทัศน์เป็นภูเขาที่สวยงามอย่างมากใน ฤดูหนาว จึงทำเกิดรีสอร์ทหรูๆ และโรงแรมมากมาย โดยเฉพาะสกีรีสอร์ทเป็นที่ขึ้นชื่อโด่งดังไปทั่วโลก ว่าถ้าจะเล่นสกีต้องคิดถึงเกาหลีเป็นอันดับต้นๆ แต่แรกก่อนที่จะทำเป็นโรงแรมและรีสอร์ทนี้ ก็ต้องมีการซื้อที่ดินและใช้แรงงานในการสร้างจำนวนมากเป็นการลงทุนมหาศาล เมื่อเกิดการผุดขึ้นของสกีรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆ ที่นี่ยังเปิดเป็นคาสิโนด้วย ในระยะแรกก็ให้คนในประเทศสามารถเล่นได้ เมื่อแรกๆ ไม่มีอะไร แต่นานๆ เข้า เล่นกันจนลืมว่ามีเงินในกระเป๋ามีเท่าไหร่หมดตัวกันเลยก็มี ไกด์โฮ่งเล่าว่า ถ้าไปดูตอนดึกๆ จะเห็นคนเหล่านี้กลับบ้านไม่ได้ไม่มีเงินค่ารถ ต่อมาในคาสิโนบางแห่งจึงจำกัดสิทธิ์ให้ชาวต่างชาติเล่นอย่างเดียว...

ตอนนี้จากถนนกว้างๆ รถเริ่มวิ่งเข้าสู่ทางแคบๆ เพื่อลัดเลาะไปตามเขา ถนนหนทางบ้านเขาไม่น่ากลัวเหมือนบ้านเรา ถึงแม้จะวิ่งผ่ายเขาแต่ไม่มีทางสูงชันหรือโค้งหักแคบๆ เลย ที่นี่เจาะถนนทะลุเขาไปเลยหล่ะนะ...พอเข้าสู่ถนนแคบๆ แล้วช่วงนี้บนถนนมีหิมะ รถก็มีเป๋บ้างพอให้รู้สึก เวลาตอนนี้ก็ประมาณเกือบห้าโมงเย็นคณะของเราก็มาถึง HIGH 1 สกีรีสอร์ท

​

 

High 1

เป็นรีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดคังวอนโด Gangwon-Do ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีใต้ เป็นรีสอร์ทสุดหรูที่เปิดใหม่ ระดับ ๕ ดาว มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก และยังมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อการพักผ่อนอย่างครบอรรถรส สามารถมาพักอยู่ที่นี่หลายๆ วันก็ได้ รีสอร์ทที่นี่เปิดให้บริการทุกฤดูกาล มีที่พักทั้งที่เป็นโรงแรมและคอนโดมิเนียม กระจายอยู่รอบทุกพื้นที่ ที่สำคัญมีสนามกอล์ฟที่ถูกใช้เป็นสนามแข่งจริง ทางรีสอร์มพรีเซ้นโดยเอารูปนักกอล์ฟดังๆ ติดไว้เต็มไปหมด พร้อมทั้งมีคาสิโนหรูหราขนาดใหญ่ ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเสี่ยงดวงกันได้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของรีสอร์ทจะเต็มไปด้วยภูเขาเล็กใหญ่เต็มไปหมด ภูเขาที่สูงที่สุดของที่นี่คือ Baekwoon Mountain มีความสูงถึง ๑,๓๔๕ เมตร ในช่วงฤดูหนาวลานสกีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเล่น โดยเนินสกีเค้ามี ๓ ระดับจ้า มีตั้งแต่ระดับ Elementary, Intermediate และ Advanced ไล่ตามความถนัดเลย รวมๆแล้ว ๑๘ เนิน นักท่องเที่ยวบางคนอยากนั่งกระเช้า หรือกอนโดล่าชมวิวหุบเขาก็ได้นะ มีกระเช้าแบบห้อยขาและกอนโดล่า แต่ละแบบใช้เวลานั่งอยู่ที่ ๒ นาที ไปจนถึง ๑๒ นาที ขึ้นอยู่กับระยะทาง

​

 

HIGH 1 สกีรีสอร์ท




​

 

ไกด์ถามก่อนลงรถว่าจะมีใครสนใจเล่นสกีไหม ทุกคนบนรถเงียบหมด ที่เงียบไม่ใช่ว่าไม่อยากเล่น แต่คิดว่าตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว มีเวลาอีก ๑ ชั่วโมง ลานสกีก็จะปิดเพื่อเคลียร์ลานหนึ่งชั่วโมงเสียเวลาคอย จึงได้แค่ลงไปเดินเล่นบนลานสกี ป้ายบอกอุณหภูมิอยู่ที่ -๔ องศา แต่เป็น –๔ ที่รู้สึกหนาวกว่าตอนอยู่บนเขาซอรัคซานเสียอีกหรือว่าเพราะเป็นลานสกีกว้างๆ จึงทำให้รู้สึกหนาวๆๆๆๆ ถุงมือถอดได้แป๊ปเดียวต้องใส่ต่อแล้วยังต้องซุกมือเข้ากับกระเป๋าเสื้ออีกที เดินเล่นไม่ถึงสิบห้านาทีต้องพากันหลบเข้าตัวอาคาร ยืนอยู่นานไม่ไหวแล้ว

HIGH 1 สกีรีสอร์ท




​

 

HIGH 1 สกีรีสอร์ท




​

 

HIGH 1 สกีรีสอร์ท




​

 

พอทุกคนในคณะรวมตัวกับครบก็ขึ้นรถไปทานอาหารค่ำมื้อนี้เป็นเมนู Shabu Shabu ระหว่างอยู่บนรถไกด์ถามว่าคืนนี้มีท่านใดสนใจจะมาเล่นสกีไหม เดี๋ยวจะจัดรถมาส่งให้และจะมาเป็นเพื่อนด้วย ต่างคนเริ่มลังเลว่าจะมา แต่ไกด์บอกต่อไปอีกว่า คืนนี้โรงแรมที่พักของเรามีคาสิโนให้ลองเข้าไปเล่นได้ และคืนนี้ก็ยังมีโชว์พิเศษของชาวรัสเซียให้ดูด้วย พอพูดถึงโชว์รัสเซียกับคาสิโนทุกคนลืมเรื่องสกีไปเลย....

​

 

แล้วพวกเราก็มาถึงร้านอาหารเมนู ชาบู ชาบู คือ สุกี้หม้อไฟ "ชาบูเห็ด" สุกี้หม้อไฟสไตล์เกาหลี อาหารพื้นเมืองของคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่สมัยมองโกเลียบุกคาบสมุทรเกาหลี ลักษณะคล้ายสุกี้หม้อไฟของญี่ปุ่น โดยนำเห็ดตามฤดูหลากหลายชนิด เบคอนหมู และอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ มาจัดเรียงให้ในหม้อ ทานพร้อมข้าวสวยและเครื่องเคียงนานาชนิด แต่ของเกาหลีแท้ๆ เขาทานกันแบบจืดๆ ทางไกด์ของเราได้เตรียมน้ำจิ้มสุกี้คนไทยมาให้ด้วย ไกด์เกาหลียังบอกว่ารสชาติของไทยอร่อยกว่า เริ่มปิ๊งไอเดีย แล้วคนเกาหลีส่วนมากชอบอาหารรสชาติแบบไทยๆ หรือเปล่า ขนาดไกด์ยังชอบถ้ามาเปิดชาบู ชาบู สไตล์คนไทยมาแข่งกับชาบู ชาบู เกาหลีน่าจะไปได้สวย....

​

 

ทานอาหารเรียบร้อยขึ้นรถตรงไปยังโรงแรมที่พัก ระหว่างทางมีร้านสะดวกซื้ออยู่ริมทางมากมายไกด์ได้ให้ลงไปซื้อเสบียงกัน ได้จ่ายใช้เงินวอนครั้งแรกแล้ว ซื้อขนม เป๊ปซี่ นม มาตุนไว้ พอเช็คบิล เกิดอาการ งง กับค่าเงินด้วยเลขที่ธนบัตรเลขศูนย์เยอะไปหน่อยมีทั้งแบงค์ ๑๐๐๐, ๕๐๐๐, ๑๐๐๐๐, ๕๐๐๐๐ วอน เราๆ ชินกับแบงค์ ๒๐, ๕๐, ๑๐๐, ๕๐๐, ๑๐๐๐ พอเจอเลขศูนย์หลังแบงค์เยอะๆ แล้วสับสน ดูแบงค์ ๑๐๐๐ กับแบงค์ ๑๐๐๐๐ คล้ายกันแต่ความยาวและความกว้างของแบงค์ต่างกัน หมดค่าขนมครั้งแรกไปน่าจะหมื่นกว่าวอน และแล้วก็ได้แป๊ปซี่มา ๑ ขวด ขนม ๒ ห่อ นมกล้วย ๑ ขวด หมื่นกว่าวอนแปลงเป็นเงินไทย ๓๐๐ กว่าบาท ซื้อ ๔ อย่างหมดไปแล้ว ๓๐๐ ใช้เงินวอนไม่รู้สึกแพงพอแปลงเป็นเงินไทยไม่อยากคิด....

ส่วนเพื่อนๆ ก็ซื้อกันเมามันเหมือนกันและที่ขาดไม่ได้คือ โซจู เหล้าเกาหลี ซื้อกันมาครึ่งโหล คืนนี้มีเปิดห้องปาร์ตี้กัน....

​

 

เดินทางมาถึงโรงแรม Kangwon Land Hotel (강원랜드호텔) คืนนี้พวกเราพักกันที่นี่เป็นโรงแรม ๕ ดาว ไกด์นัดเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งจะพาไปดูโชว์รัสเซียและจะพาไปที่ห้องคาสิโนสำหรับผู้ที่สนใจ...

ห้องพักคณะของเราอยู่ชั้น ๑๐ จะขึ้นไปชั้นห้องพักได้ต้องใช้คีย์การ์ดของห้องพักเสียบที่ช่องกดชั้นของลิฟท์ถึงจะขึ้นได้ ใครไม่มีคีย์การ์ดหมดสิทธิ์ขึ้นชั้นบน จัดแจงเก็บกระเป๋าเข้าห้องเรียบร้อยก็นัดกันลงมาดูโชว์ บางคนก็ไม่ดูตรงดิ่งไปคาสิโนเลย สร้อยฟ้าฯ ไม่เข้าคาสิโน แต่เดินไปดูโชว์ดีกว่า

วิวที่หน้าต่าง โรงแรม Kangwon Land



​

 

มาเกาหลีช่วงนี้อยู่ระหว่างเทศกาลคริสมาส ตามที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะจัดเป็น Theme Christmas ทั้งนั้น เป็นอะไรที่ตื่นตามาก...

บรรยากาศอย่างนี้ไม่ได้เจอมานานแล้วตั้งแต่จบจากโรงเรียนคริสต์...

​

 

​

 

โชว์รัสเซีย



​

 

ดูโชว์เสร็จแล้วก็ชวนเพื่อนๆ ออกไปข้างนอกโรงแรม ที่ลานข้างนอกมีการประดับไฟสวยมาก

​

 

โรงแรม Kangwon Land



​

 

เดินดูไฟก็ต้องทนกับอากาศหนาว แล้วสร้อยฟ้าฯ ก็ไม่ได้เอาถุงมือลงมาจากห้องด้วยสิ มือชาๆๆๆๆๆ เริ่มทนไม่ไหว

โรงแรม Kangwon Land​

​

​