ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

สวัสดีค่า พี่น้ำใส
ขออนุญาตรบกวนพี่น้ำใสค่ะ ค้างคาใจเสียแล้ว T_T

วันนี้พี่น้องที่บ้านอินทราพงษ์ เราคุยกันสองสามคน เกี่ยวกับประเด็นที่ diya
มักจะโอนเงินเป็นยอดเงินที่ใครเห็นก็รู้ว่าเป็น diya ไปแล้ว ๑๑๑.๑๑ บาท
มีการเปิดประเด็นเรื่อง ย้ายเจดีย์ ค่ะ

ยอมรับว่าจิตเคยคิดสงสัยขึ้นมาแว่บว่าจะไปทำให้ต้นบุญเดือดร้อนหรือป่าว
แต่ก็ปัดมันทิ้งไปเสีย และยังคงการโอนเงินร่วมบุญตามยอดดังกล่าว

ไม่ได้ถือเคล็ดใดๆ จากการโอนยอดเงินเป็นตัวเลขนั้นนะคะ เหมือนมีเหตุปัจจัยเริ่มต้น แล้วก็เลยตามเลย

ขอเข้าสู่คำถามนะคะ แหะๆๆ
....กรณีต้นบุญมีการเปิด บช ให้ร่วมบุญ เเต่ไม่ได้สร้างบัญชีไว้โดยเฉพาะ
เช่นบัญชีที่มีชื่อโครงการหนึ่ง ใช้บัญชีเดียว พอหมดโครงการตรงนี้ ก็เอาบัญชีเดิมบอกบุญใหม่
เเละในกรณีที่ผู้ร่วมบุญโอนเข้าบัญชีเป็นเศษสตางค์ เช่น ๑๑๑.๑๑ ไอ้ตัว ๑๑ สตางค์ หรือ ๕๐ สตางค์
ถ้าต้นบุญไม่ได้ถอนเงินออกมาใช้ในโครงการบุญที่บอกไปครั้งนี้ให้หมด เเต่เหลือติดค้างอยู่ในบัญชี
เเละคราวต่อไปต้นบุญนั้นบอกบุญประเภทอื่นๆ อีก เเล้วเงินเศษสตางค์นั้นอาจโดนเอาไปใช้ในเรื่องบุญใหม่นั้น
ต้นบุญนั้นจะมีความผิดมั้ยคะ ถือเป็นการย้ายเจดีย์มั้ยคะ

ถ้าหากต้องทำให้คนอื่นมีความผิดแบบนี้ diya จะได้เปลี่ยนตัวเลขโอนร่วมบุญใหม่ค่ะ

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญพี่น้ำใสล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ
diya

ปอลิง ขออนุญาตถามหน้ากระทู้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ด้วยค่ะ

 

..ตอบน้อง diya ค่ะ...

_________________________________

สำหรับพี่ในการเป็นต้นบุญสำหรับวัดต่าง ๆ ไม่เกี่ยวกับงานกองบุญฯ พี่มักจะปิดยอดบุญโดยปัดเป็นเลขกลม ๆ ไม่มีเศษสตางค์ และโอนเกินจำนวนที่ได้รับบริจาคทุกครั้ง และไม่เคยหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยการสร้างบุญในคณะของเรา ทำอย่างนี้ตลอดมา เพื่อกันการติดหนี้สงฆ์ค่ะ

ส่วนกรณีที่มีวัตถุประสงค์ทำในนามกองบุญ ฯ พี่จะแจ้งรายละเอียดว่า จะคงยอดค้างไว้เท่าไร เพื่อให้ผู้ร่วมบุญได้บุญต่อ ๆ ไปของกองบุญ ฯ

กรณีนี้ไม่ถือว่า ย้ายเจดีย์หรือติดหนี้สงฆ์ เนื่องจากแจ้งวัตถุประสงค์ในครั้งแรกแล้วค่ะ

ถ้าไม่ได้แจ้้งตั้งแต่ต้น ควรนำปัจจัยนั้นคืนแก่วัด หรือสถานที่ที่เคยบอกบุญในครั้งแรก แม้โครงการนั้นสำเร็จเรียบร้อย โดยทำเป็นชำระหนี้สงฆ์ค่ะ ทำเกินไม่เป็นไร แต่ไม่ควรขาด

หากจะถามว่า จำนวนเงินนั้นขึ้นร้ายแรงถึงกับผิดในโทษฐานย้ายเจดีย์หรือไม่ อาจจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่จะเป็นการติดหนี้สงฆ์ค่ะ

คำตอบของพี่ก็คือ ไม่ว่าปัจจัยจำนวนเท่าใดก็ตาม ควรจะโอนให้ครบทุกบาททุกสตางค์ เพื่อป้องกันการติดหนี้สงฆ์ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้อง diya ด้วยค่ะ

Numsai

 

(f)ขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญสำหรับคำตอบค่าพี่น้ำใส
นู๋มานึกได้อย่างว่า เคยฟังท่านจิตโตท่านสอนว่า ...ไม่ต้องไปคิดแทนคนอื่น กังวลแทนคนอื่น ดูว่าเค้าจะทำผิด คิดผิด อย่างโน้นอย่างนี้
ให้ดูที่จิตเจ้าเองตั้งเจตนาไว้อย่างไร ใจสบาย ไปสบาย (diya สรุปความเอาน่ะค่ะ) ...

 

ชายขอบใจ พี่น้ำใส ด้วยเพคะ ที่ช่วยลงธรรมทานให้ชายได้อ่านนะเพคะ

สำหรับ ชาย แล้ว มาร กับ เจ้ากรรมนายเวร เป็นสิ่งอันตรายทั้งคู่

แต่หนี้สงฆ์ของ ดิย่า ก็น่ากลัวนะ ซึ่งหลวงปู่ปาน ท่านก็สอนให้พยายามชำระหนี้สงฆ์บ่อยๆ
อะไรที่เป็นของสงฆ์ ไม่ควรประมาท ขนาดอีกาไปคาบของที่ใส่บาตรพระ ยังเป็น กากะเปรต เลย

ใน 3 อย่างที่กล่าวนะ ชายกลัวติดหนี้สงฆ์ที่สุด มารยังพอระวังตัว เจ้ากรรมก็ยังขออโหสิกรรมได้
แต่หนี้สงฆ์ที่ดิ่งลงอเวจีเลย น่ากลัวนะเพคะ พี่น้ำใส ไม่อยากไปเที่ยวเล่นที่นั่นหรอก

เสียเวลาสร้างบารมีเปล่าๆเพคะ pity_pig

 

ท่านชายเพคะ เรื่องของมาร และเจ้ากรรม บางกรณีที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร และเป็นมารด้วย ถือว่า เราได้แจ็คพ็อตอย่างจัง จะหนักเป็นสองเท่า

ในบางกรณีก็มีทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน อย่างนี้ก็มีเพคะท่านชาย ถ้าใครได้พบทั้งสองกรณี ไม่ธรรมดา ต้องอาศัยบารมีทั้งสิบทัศน์จึงจะผ่านไปได้

หลัก ๆ ก็ได้ใช้ขันติบารมี และเมตตาบารมีอย่างยิ่งยวด แต่ถ้าผ่านวาระของการชดใช้ หรือผ่านการทดสอบ จิตจะยกระดับสูงขึ้นมา

ส่วนเรื่องหนี้สงฆ์ ไม่ขอกล่าวในที่นี้เพคะ

ขออนุโมทนากับท่านชาย และน้อง diya ด้วยค่ะ

P' Numsai

 

๒๘ มีค.นี้ ๑๘.๒๘ น.-ประมูลดวงแก้วสหัสสดินทร์มหิทธิกร ขนาด ๑๐ กว่ากก.ค่ะ

​

ดวงแก้วสหัสสดินทร์มหิทธิกร อธิษฐานโดยพระสหัสสดินทร์ฤาษี ก่อนในสมัยพุทธกาลสมเด็จพระโสภิตะพุทธเจ้า

มีกายสิทธิ์ ๕๒,๗๘๕,๐๐๐ องค์ พระโพธิราชมหัทธศักดิ์พรหม เป็นผู้ดูแลดวงแก้ว ปัจจุบันอยู่พรหมชั้น ๑๑ เป็นประธาน และเทวดาจากชั้นนิมมานรดีอีก ๕ องค์ เป็นผู้ดูแล

เริ่มต้นประมูลที่ ๑๘,๙๙๙ บาท ​

กติกาในการประมูล

๑. ประมูลวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ภายใน ๑๘.๒๘ น. ตามภูมิปาฤกษ์ ตรงกับวันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง

๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก

๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai ค่ะ
กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 080-252647-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์
สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์

ปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่าย ปัจจัยส่วนหนึ่งร่วมบุญดังนี้

๑. ๒๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายร่วมสร้างสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ขนาดหน้า ๔ ศอก สร้างด้วยหินทรายขาว

๒. ๑๐% หลังหักค่าใช้จ่ายร่วมบุญในกองบุญพระพุทธวิปัสสี ฯ เพื่อปล่อยปลา ๑๐๘ ตัว บุญถวายเทียน ๑๐๘ เล่ม และบุญอื่น ๆ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

เรื่องเจ้ากรรม กับมาร ร่วมมือกันผมเข้าใจนะครับ พี่น้ำใส
ดูตัวอย่างได้จากเรื่องของน้ำตาล กับเจ้าเมืองที่รักมากเลยกลายมาเป็นมารกลับมา
เพื่อแก้แค้นเมื่อถูกนอกใจนะครับ เล่นซะน้ำตาล อ่วมอรทัยไปเลย
สุดท้ายม้าแก้ว พี่น้ำใสยังได้รับผลกระทบไปด้วย เป็นเรื่องหนึ่งที่อ่านแล้ว สนุกมากนะครับ

ขอบคุณและอนุโมทนาในธรรมทานกับพี่น้ำใสด้วยนะครับ

ธรรมวิวัฒน์

 

ไหนๆ ก็ไหนๆ คุยกันเรื่องมารแล้ว
กันขออนุญาตสอบถามพี่น้ำใสและท่านอื่นๆ ด้วยนะคะ

๑. เราจะรู้ได้ยังไงคะว่า เป็นมาร เป็นผี หรือเป็นเจ้ากรรมนายเวร มาหลอกเรา
มีข้อแตกต่างตอนมาไหมคะ เช่น เสียง กลิ่น เหตุการณ์ เวลา เป็นต้น

๒. เรื่องกลิ่นหอม กันเคยได้กลิ่นหอมหลายครั้ง แต่บางทีจะหอมไม่เหมือนกัน
เช่น กลิ่นน้ำอบไทย กลิ่นหอมดอกมะลิ กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ กลิ่นหอมแบบฉุนๆก็มี
แต่กลิ่นหอมนั้นๆ จะหาไม่เจอว่าส่งกลิ่นมาจากที่ไหน กันอยากทราบว่า
กลิ่นหอมแต่ละกลิ่นนั้น มีข้อแตกต่างอย่างไรและทำไมถึงได้กลิ่นต่างกันคะ

อ้อ ขอถามอีกข้อนะคะ
ถ้าเราเกิดความกลัว (สิ่งที่มองไม่เห็น) แล้วจะฝึกมโนมยิทธิได้ไหมคะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนากับคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้อง tharathan ด้วยค่ะ พี่ขอตอบเลยนะคะ

๑. ขอแยกกรณีของผี(สัมภเวสี) และเจ้ากรรมนายเวรก่อนนะคะ ผู้ที่เห็นและสัมผัส ส่วนใหญ่จะทราบค่ะ หากเป็นสัมภเวสี แต่ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรนั้น ภาพที่เห็น และกระแสที่สัมผัส เราจะรู้สึกสงสาร บางครั้งปรากฏได้เพียงแว็บเดียว เพื่อขอส่วนบุญ

ส่วนเจ้ากรรมนายเวร อาจจะปรากฏในกายสัมภเวสี หรือกายต่าง ๆ ตามสภาพ หรือภาพที่เราเคยทรมานท่านเหล่านั้นในอดีต

แต่ความจริงนั้น ถ้าเราไม่ได้ทิพยจักขุญาณก็จะไม่ปรากฏให้เราเห็น แต่อาจจะปรากฏเป็นฝันร้ายซ้ำ ๆ ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว จิตใจกังวล

และในชีวิตจริง จะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น มีอุปสรรคในชีวิต หรือเกิดปัญหาต่าง ๆ ให้ตามแก้ไม่หยุด นี่คือการทวงหนี้ของเจ้ากรรมนายเวร

วิธีแก้ไข ต้องหมั่นทำทาน รักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ และสวดมนต์นั่งสมาธิให้มากกว่าเดิม และแผ่เมตตาให้แก่ท่านเหล่านั้นให้มาก ๆ เพื่อขออโหสิกรรม

ส่วนเรื่องของมาร ปกติจะไม่ปรากฏกายให้ใครเห็นง่าย ๆ ค่ะ แม้แต่พระภิกษุบางรูปยังโดนมารหลอกได้

การฝึกสมาธิขั้นละเอียดจริง ๆ จะสามารถเห็นได้ หรือหากมารผู้นั้นเป็นเจ้ากรรม อาจจะปรากฏให้เห็นได้ค่ะ

ท่านเหล่านี้สามารถแทรกได้ทุกอณูจิตของเรา เพื่อทำให้เราหลงในลาภ ยศ สรรเสริญ

หากเป็นทางโลกก ก็จะทำให้มีความสำเร็จมาก ๆ รวยมาก ๆ และมัวเมาอยู่ในอบายมุข

คนเหล่านั้นจะคิดว่า ความสำเร็จต่าง ๆ ได้ไม่ได้เกิดจากผลบุญ แต่เกิดจากความสามารถ ความเฉลียวฉลาดของตน ไม่เชื่อเรื่องบุญ-บาป พยายามแสวงหาอำนาย เงินทองจนไม่มีเวลาทำบุญ สุดท้ายก็ตกสู่อบายภูมิทั้ง ๔

ส่วนนักปฏิบัติธรรม ก็จะทำให้ไปพบสายธรรมะที่มีความเชื่อผิด ๆ คิดว่า สายของตนดีที่สุด ปฏิเสธหรือยอมรับความสามารถ หรือสายอื่น ๆ ใครที่มีความคิดผิดจากตน

บางท่านได้ทิพยจักขุญาณ ก็จะสร้างภาพให้เห็น ดำเนินเรื่องไป ทำให้หลงว่า ตนเองได้อภิญญา หรือมีความสามารถมากกว่าผู้อื่น

หากมีใครมาแนะนำ ตักเตือนจะไม่เชื่อ ไม่สนใจ แต่จะเชื่อความคิดของตนเองเป็นใหญ่ หนัก ๆ เข้าผู้รู้ หรือครูบาอาจารย์ก็ไม่ตักเตือน ทำให้ผู้นั้นห่างจากความดีไปเรื่อย ๆ จนเป็นพวกของฝ่ายนั้นในที่สุด

๒. เรื่องของกลิ่น มีหลายประเภทคือ

กลิ่นน้ำอบ เป็นกลิ่นของนางฟ้า หรือเทพธิดา ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของท่านในสมัยที่เป็นมนุษย์

กลิ่นธูปหอม กลิ่นชานหมาก เป็นกลิ่นของพรหมชั้นสูง หรือพระภิกษุที่ละสังขารไปแล้ว มาสงเคราะห์

กลิ่นหอมคล้ายดอกบัว หรือฝรั่งสุกผสมกัน เป็นกลิ่นของพระพุทธเจ้า แต่ละพระองค์ก็มีกลิ่นแตกต่างกันค่ะ

พี่เองจะได้กลิ่นก่อน เห็นภาพ และได้ยินเสียงค่ะ

๓. เรื่องการฝึกมโนมยิทธินั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องความกลัวค่ะ หลักสำคัญของการฝึกมโนฯ คือ

๑. การตัดกาย หรือตัดขันธ์ ๕ หมายถึง ไม่มีความสนใจในกายของตน หรือกายของผู้อื่น คิดว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์

๒.รักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ บริสุทธิ์

๓. นึกถึงความตายอยู่เสมอ คิดว่า ตายจากชาตินี้จะไปพระนิพพาน หรือตายจากชาตินี้จะขอไปสุคติภูมิ

เมื่อฝึกมโนฯได้แล้ว ฝึกจนมีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ความหวาดกลัวต่าง ๆ จะหายไป แม้แต่กลัวความตายก็ตามค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาสาธุในธรรมทานของพี่น้ำใส นะครับ สาธุ สาธุ

 

..เรื่องการสื่อสารทางจิต...โดย Lopen Gembo Dorji..

ก่อนที่จะนำเสนอประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ต่อ ขออนุญาตนำข้อความที่ได้เขียนไปถามท่าน Gembo รองสมเด็จพระสังฆราชแห่งภูฏานเกี่ยวกับการสื่อสารทางจิต

และถามว่า คนที่สามารถสื่อสารทางจิตด้วยเหตุใด ท่านอนุญาตให้เป็นธรรมทานได้ดังนี้ค่ะ ___________________________________________

Hi!

So nice to hear from you again.

Communication through heart can be possible due to

(1) karma, (2) mutual connection and (3) realization.

(1) Through Karma (life and relationship in our earlier lives) the cord of connection is created. That is why some people feel as if we have met or known each other though we never met before. More stronger the relation is more the closeness and connection is that will even link our hearts, think same, feel same and like or dislike same things.

(2) Mutual connection means the kind of faith, love, affection, respect or closeness we have to each other. Like relationship between teacher and student, husband and wife, or parent and children- closer we grow to each other, clearer the connection or communication it will become.

(3) And, when someone reach certain level of enlightenment or masters in certain art to train or control one's mind, we will be able to connect uninterrupted.

Forces like devotion from the student and blessing from the teacher or respect from the child and loving kindness from the parent does contribute to bring this kind of realization too.

Wish you good health, mind peace and happiness.

With warmest regards from the Himalayas.

Sincerely,

Gembo

____________________________

ปล.ขออนุญาตไม่แปลนะคะ เนื่องจากยังขาดความเชี่ยวชาญในการแปลภาษา พอสื่อสารเข้าใจได้ หากท่านใดมีความสามารถในการแปลภาษา ขอเชิญได้เพื่อเป็นธรรมทานค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สำหรับความหมายของ Communication through heart หรือการสื่อสารด้วยจิต ก็คือ เจโตปริยญาณ นั่นเองค่ะ

เหตุที่ได้เขียนส่งเมลล์ไปถึงท่านเจมส์โบ เนื่องจากหลายครั้งที่ท่านสงเคราะห์สอนในสมาธิหลายครั้ง เคยถามพระภิกษุในสายมโนมยิทธิ ท่านตอบว่า สื่อสารทางจิตกับท่านได้จริง และท่านเคยเป็นครูอาจารย์มาก่อนค่ะ

จึงได้กราบเรียนถามท่าน เพื่อความกระจ่าง และท่านให้คำตอบดังกล่าวมาแล้วค่ะ ล่าสุดท่านได้ส่งเมลล์ว่า หากมีปัญหาจะถามเรื่องเกี่ยวกับสมาธิ ท่านยินดีตอบ

ยุคนี้เป็นยุคที่เข้าสู่ยุคอภิญญา เรื่องใดก็เกิดขึ้นได้

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอเปิดประมูลดวงแก้ว สหัสดินทร์มหิทธิกร 19,900 บาทครับ

 

ประมูลดวงแก้ว สหัสดินทร์มหิทธิกร 23,000 บาท

 

ขอประมูลเพิ่ม 25,500 บาทครับ

 

ร่วมประมูลที่ 25900 บาทครับ

 

วันนี้เวลา 18.11 น. โอนเงินร่วมทำบุญแสงสว่าง ไ ไทยพานิชย์เลขที่ 0802526472 จำนวน 100 บาทค่ะ

 

ขอร่วมประมูลดวงแก้วสหัสดินทร์มหิทธิกร 31,000 บาท

 

ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วสหัสสดินทร์มหิทธิกร 32,000 บาท