ปฏิบัติแล้วเห็นหน้าผี (ช่วยทีครับ)

ด้วยความเคารพครับ
แฟนผมน่ะครับ ไม่ไช่ผม
...ผมสอนให้เค้าถือศีล 5 นั่งสมาธิ แล้วให้ปฏิบัติดูกายดูจิตแบบหลวงพ่อปราโมทย์ (ชวนไปฟังท่านเทศน์มาแล้วด้วย)
แล้วคอยเอาเรื่องเล่าของพระพุทธเจ้า คำสอน ฯ เรื่องเล่าหลวงพ่อฤาษีลิงดํา มาเล่าให้ฟังตลอด

จากที่ปฏิบัติมา1-2 ปี มักมีสิ่งนี้
- มักเห็นหน้าผี หน้าเดียวบ้าง หลายหน้าบ้าง
ขณะ สวดมนต์ แผ่เมตตา หรือ ขณะนอนสมาธิ
- เห็นท่อ หมุนๆ วนๆ ตรงหน้า เหมือนท่อข้ามมิติในหนัง
- ไปต่างถิ่น ผมก็พาสวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตา
...เค้าเห็นเด็กแต่งตัวเหมือนกุมารทอง มีแสงออกจากตัว ...มายิ้มให้

จากการสอบถาม
- เค้าไม่ได้คิด ไม่ได้นึก ไม่ได้ตั้งใจ ...แต่ภาพมันฉายออกมาเอง เหมือนเราดูหนังงี้ละมั้งครับ (ผมไม่แน่ใจ ผมไม่เคยเห็นนิมิตร)
- เป็นมากๆ เค้ากลัว แล้วไม่ค่อยยอมปฏิบัติ

...ผมได้แต่แนะนำด้วยความรู้จากการอ่านว่า ..ไม่ต้องไปสนใจ ปฏิบัติของเราไป เท่านี้เอง

*** ขอคำแนะนำด้วยครับ ว่าคืออะไร ต้องแก้ไขอย่างไร ***

ขอขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

 

เมื่อก่อนเคยเจอบ่อยๆเหมือนกัน

หลวงพ่อพุทธ ฐานิโย ท่านว่า อย่าเพิ่งไปเอะอะตกใจ ให้กำหนดดูรู้ไปเรื่อยๆอย่างนั้นแหละ
พอเราเสร็จการเจริญกรรมฐาน ก็แผ่เมตตาอุทิศบุญกุศล เท่านี้ก็จบ

ถ้ายังกลัวมาก เมื่อเริ่มเข้าสมาธิ ก็อารธนาคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้คุ้มครองปกปักรักษา อย่าให้มีผู้ใดมาก่อกวน เมื่อเสร็จจากกรรมฐาน ก็แผ่เมตตาอย่างเคย

แผ่เมตตาเป็นนิสสัย จิตใจจะสงบร่มเย็น

 

อุทิศบุญกุศลให้เค้าไปครับ

ทำทาน ถวายสังฆทาน รักษาศีล ภาวนา อุทิศบุญกุศลให้ผีเค้าไป เค้าได้รับบุญที่อุทิศ ก็จะเปลี่ยนภพ กลายเป็นเทวดา แทนครับ

แล้วก็จะไม่ต้องเจอผี อีกต่อไป ครับ

^^

 

จิตใต้สำนึกหลอกหลอน เพราะเหตุจากความฟุ้งซ่านชอบคิดถึงเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็น แนะนำให้ไปหาหมอสะกดจิต ปรับปรุงจิตใต้สำนึกเสียใหม่ ( อ.แซม สะกดจิต )

 

แฟนคุณเค้าจิตอ่อน แล้วพื้นฐานยังไม่แน่น นั่งสมาธิเห็นผีก็กลัวเป็นของธรรมดา
ก็เลิกนั่งสมาธิไปก่อน พอใจแค่ทำบุญ ฟังธรรม ก็ทำแค่นั้นไปก่อน
ตัวเค้าพร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยนั่งสมาธิใหม่
โดยพาไปนั่งในห้องที่มีพระพุทธรูป เปิดไฟให้สว่าง ผีจะได้ไม่มากวน
แฟนคุณจะได้อุ่นใจไม่กลัวผีตอนนั่งสมาธิ

 

ภาษาทางศาสนาเรียก นิมิต นิมิตจำพวกนี้จะเกิดหลังจากจิตเริ่มๆมีสมาธิแล้ว

วิธีแก้ไข พึงกำหนดจิตตามที่เห็น ตามที่ได้ ตามที่ได้กลิ่น ฯลฯ ตัวอย่าง เช่น เห็น (นิมิต) ปุ๊บว่าในใจปั๊บเลย เห็นหนอๆๆๆๆๆๆๆ แล้วนิมิตนั้นก็จางคลาย หายไป ฯลฯ เห็นอีก ว่าตามที่เห็นอีก แต่อาจเกิดนิมิตอื่นๆ ที่กล้าแข็งขึ้นอีก

ปล. ขอแนะให้ภรรยาคุณหยุดทำอย่างที่เคยทำไปก่อน (เพื่อให้จิตคลายตัว) ช่วงนี้อยู่ในขั้นที่ต้องให้การแนะนำจากผู้มีประสบการณ์อย่างใกล้ชิด

 

อยากเห็นส่วนไหนของผีเหรอ

 

ตามนั้น...

ถ้าเป็นผี จริง ก็แค่ธาตุลม ทำได้แค่เปิดปิดประตู
ตามจริง น่าสงสารเขามากกว่า ส่วนมาก มักจะมาขอส่วนบุญ
แต่ที่เห็น ทำรูปร่าง น่ากลัว ๆ หนะ เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาทำรูปได้แค่นั้น
เราเอง วันหนึ่งข้างหน้า ก็อาจจะเป็นเช่นเขาได้
เจอเขา ก็กำหนดจิต ส่งบุญให้...(ไหนๆเขาก็มาแล้ว ส่งบุญให้เขา เรายังได้รับมาเป็นทวีคูณ ถือวิกฤตเป็นโอกาส สะเลย เจอบ่อยๆน่าจะชินเอง นา...)

ถ้ากลัวจริงๆ ฝึกในช่วงตอนกลางวันก็ได้

 

คำว่า "นิมิต" ที่ทางศาสนาใช้มีทั้งทางวินัย กับ ทางธรรมปฏิบัติ

นิมิต ในทางพระวินัย หมายถึง วัตถุที่เป็นเครื่องหมายเขตที่ประชุมสงฆ์บ้าง หมายถึงอาการแสวงหาลาภในทางที่ผิดด้วยวิธีขอเขาแบบเชิญชวนโดยนัย บ้าง

แต่ในทางธรรมปฏิบัติ (ทางจิต) หมายถึงภาพที่เห็นในใจในการเจริญกรรมฐาน

 

ด้วยความเคารพเช่นกันครับ..กรุณาอ่านให้ดีๆและอ่านให้จบนะครับ..คุณพาแฟน
ฟังแนวดูจิตบวกกับเล่าเรื่องตามแนวหลวงพ่อสายวิชาพิเศษ..ถ้าปกติคน
ไม่มีจริตมาทางสายวิชาพิเศษจะไม่ชอบฟังครับ..
ฟังหูไว้หูนะครับ..บอกได้เลยครับจากกิริยาทางจิตที่คุณเล่าให้ฟังมาแฟน
คุณในอดีตชาติเคยได้กรรมฐานมาไม่ต่ำกว่าระดับอรูปฌานแน่นอน
และเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่ามีอภิญญาจิตภายในด้วยครับ..
นี้ถ้าทันสมัยหลวงพ่อสายวิชาพิเศษท่านอยู่ป่านนี้เป็นลูกศิษย์ระดับแถวหน้า
แน่นอนครับ..เพียงแต่กิริยาที่เกิดกับแฟนคุณมักจะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆกับบุคคล
ทั่วไป..ถ้าเป็นพวกอาจารย์สอนสายวิชาพิเศษหรือพวกที่มีอภิญญาจิต
หรือพวกมีกำลังจิตมักจะเข้าใจเรื่องทำนองนี้ดี.
เด่วจะตอบให้ทีละข้อแล้วเสริมแนวทางปฏิบัติต่อให้นะครับ..
ยังไงลองอ่านดูก่อนนะครับ..

ปล.ถ้าว่างลองอ่านดูครับยาวหน่อยแต่มีประโยชน์
ขอบคุณครับ.