เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย สวนพลู, 18 สิงหาคม 2010.

  1. รุ่งฉวี

    รุ่งฉวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +1,757
    สุดยอดครับ ติดตามแบบกระชั้นชิดครับ
     
  2. Anakeeza

    Anakeeza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +592
    มีงดด้วย อิอิอิ น้อยใจเหรอ ครับ
     
  3. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    โฮ่ๆๆๆ มีคนมาคุยแล้ว โฮ่ๆๆๆ

    ไม่น้อยใจครับผม แค่งอล ไม่อยากจะเพ้อ โพสคนเดียวเล่นๆครับ อิอิ
     
  4. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,221
    กราบพ่อแม่ครูอาจารย์

    ติดตามครับตามประสาคนบ้านเดียวกัน
    แต่เราลูกครึ่งอ่ะ
    พ่อบ้านหมี่ แม่บางปะหัน อยุธยาครับ
    แหะๆ
     
  5. punthai

    punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    รอติดตามตอนต่อไป
     
  6. dragon184

    dragon184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,029
    รอติดตามครับ น่าสนใจมากครับ
     
  7. puniw

    puniw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    744
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,061
    อย่าน้อยใจเลยคัฟ มารออ่านอยู่ทุกวันคร๊าฟผม :boo:
     
  8. nopsena

    nopsena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +4,662
    รอติดตามด้วยครับ
     
  9. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    กระผมนึกว่าไม่มีคนอ่าน ก็เลยงดไปครับ หุหุหุ เดี๋ยวจัดต่อครับ
     
  10. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เมื่อครั้งยังเด็ก .........(9)
    กราบสวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่ ทุกๆท่าน และขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานครับ ......... แอบอู้งานไปนิดนึงครับ......คนเขียนเป็นคนขี้เหงาครับ .....หากไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรเลย ก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไม โพสเองอ่านเอง .....ผมคงไม่เป็นอะไรขนาดนั้น...หลายๆท่านอาจจะมีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับผม แต่ไม่ได้เรียบเรียงออกมาเป็นตัวหนังสือ...บทความบางช่วงบางตอนต้องใช้วิจารณยาน(โตงเตง)ของท่านเอง ในการวิเคราะห์ บวกกับการจินตนาการบ้างนิดหน่อย เพื่อให้เห็นภาพ การอ่านบทความให้สนุก คือต้องนึกภาพตามครับ...ส่วนตัวผมแล้ว ผมคิดว่า ปู่ฤาษีนารอทนั้น....น่าจะเป็นฤาษีที่ใหญ่สุดก็ว่าได้นะ...... ต่อกันเลยนะครับ......... หลังจากคลื่นมวลมหาคนทรง(ใช้ศัพท์นี้ก่อนช่วงนี้ฮิตครับ....หุหุ)......แหวกเป็นทาง....ด้วยความเคารพบ้าง เฉยๆบ้าง....แต่ก็ต้องหลบ ...........แล้วปู่(ในร่างของแม่ผม) ก็เดินไปที่หลังศาลา......หายลับตาผมไปได้พักนึง......ปู่ก็อุ้มรูปปั้น (น่าจะเป็นปูนปั้นไม่ก็ปูนปลาสเตอร์ ถ้าได้กลับลพบุรีจะถ่ายรูปมาให้ชมครับ) เป็นรูปฤาษี นั่งขัดสมาธิ มีหม้อยา หรือครก อยู่บนตัก........ปู่ก็อุ้มประคองมาไกลๆ จนมาถึงตั่งเดิม คือตั่งที่นั่งกับหลวงพ่อทาบ............ทางขากลับคลื่นมหาคนทรงก็ยังแหวกเหมือนเดิม ..........มันก็แปลกๆดีครับ.....เมื่อถึงที่นั่งแล้ว ปู่ก็นั่งเคี้ยวหมากเป็นปกติ.......โดยธรรมดา เวลาปู่มาลงที่แม่ผมไม่เคยได้เห็นท่านคายหมากเลย กลืนหมดเกลี้ยง ....... แต่รอบนี้ ไม่เหมือนเก่า หลวงพ่อทาบ ท่านเอ่ยปากว่า จะขอชานหมากปู่........แล้วปู่ก็คายออกมา......ลักษณะชานหมากแปลกดี ..... คือไม่ได้เป็นชานหมากเปียกๆ แหลกบ้างไม่แหลกบ้าง ทั่วๆไป.....แต่ชานหมากที่ปู่คายไว้ครั้งนี้ มีลักษณะ ป่นมากๆ แห้ง...จนเกือบจะเป็นผง ผมก็ยังแปลกใจ มิน่า....หลวงพ่อทาบท่านเลยขอไว้ เพราะหลวงพ่อทาบท่านก็เคี้ยวหมากเหมือนกัน.......คงจะเอาไปทำอะไรซักอย่าง ไม่แน่ใจครับ...........ปู่คายหมากเสร็จ ก็พูดว่า นี่....องค์นี้ขอไว้ให้ร่างมันเอาไปบูชานะ......(รูปปั้นนี้ไม่ได้อยู่ตรงที่เขาให้บูชาวัตถุมงคล แต่มารู้ที่หลังคือ อยู่ในกุฏิหลวงพ่อทาบ)........หลวงพ่อทาบก็บอกว่า ......ได้ซิปู่ เอาไปเถอะ...........เมื่อปู่คุยกับหลวงพ่อทาบได้อีกซักพัก ปู่ก็นิ่งไป......ไม่พูด ไม่จา เป็นเวลาน่าจะหลายนาที .......... แล้วหลวงพ่อทาบท่านก็บอกให้คนมาพยุงแม่ผมลงจากตั่ง....นั่งกับพื้นเหมือนเดิม.......เหมือนแม่ไม่มีสติ สุดท้าย แม่ผม ก็ไม่ได้ครอบเศียรอะไรเลย ........ และหลวงพ่อทาบ ท่านก็ไม่ครอบให้......ท่านบอกว่า ไม่ต้องครอบหรอก และก็ไม่ต้องไปครอบที่ไหนด้วย........นั่นแหละครับคือเหตุที่หลวงพ่อทาบ บอกตอนที่ลงจากรถ เมื่อมาถึง...ที่ท่านบอกว่า ก็องค์ใหญ่เขามาด้วย.......ไม่มารับได้ไง.........หากจะวิเคราะห์กันแล้ว ปู่ฤาษีนารอท ท่านมีศักดิ์ศรีใหญ่ขนาดไหน ลองอ่านบทโองการไหว้ครูดูครับ ท่านจะอยู่ในชื่อต้นๆ คาดเดาว่าท่านน่าจะเป็นบรมครูของฤาษีทั้งหมด.........ตัวอย่างบทไหว้ครูบางที่ครับ
    อิติปิโสภะคะวา ข้าพเจ้าขออันเชิญพระพุทธมาอยู่เหนือเกล้า
    พระพรหม มาอยู่บ่าซ้าย พระนารายณ์มาอยู่บ่าขวา
    พระแม่คงคามาเป็นน้ำลาย พระพายมาเป็นลมปาก
    พระยานาคมาเป็นสร้อยสังวาลย์
    ขอเชิญพระกาฬมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใด
    ขอภูติพรายอย่าได้มา กลายใกล้
    ขออย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขอให้ปราศจากอาเภทใดๆ
    ขอเชิญคุณครูแต่หนหลัง ครูเทพเทวาครูพ่อปู่ฤาษีนารอด
    ปู่ฤาษีนารายณ์ ปู่ฤาษีตาไฟ ปู่เจ้าสมิงพราย ปู่พิราพ
    ครูฤาษีทั้ง ๑๐๘ ตน ด้วยเดชะ บารมีอันล้ำเลิศ
    ขอให้การบวงสรวงบูชาครูแลรับเทพเทวาจงประสิทธิผล

    นี่ละมั้งครับ.........แต่แม่ผมก็บอกว่า ปู่ฤาษีนารอท ท่านเป็นหมอยานะ และผมก็เชื่อนะครับ เด็กๆ เวลาป่วย แม่จะเอากล้วย ที่ถวายขึ้นหิ้งให้ปู่ฤาษีนารอท ลาลง แล้วเอามาให้กิน แม่จะบอกว่า กินซะจะได้หายเร็วๆ ในวิทยาศาสตร์ กล้วย อาจจะมีวิตามินเยอะ ที่ร่างกายต้องการตอนป่วยก็เป็นได้ครับ ......ทุกเช้า แม่ก็จะชงชา ถวายขึ้นหิ้งทุกวันไม่ได้ขาด ...... ผมก็เลยผูกพันกับปู่มาตั้งแต่เด็กๆ โดยจะไปเรียน หรือสอบ แม่ก็บอกก่อนออกจากบ้านให้ไหว้ปู่ก่อน ขอให้ปู่ช่วย ........ผมก็ต้องทำตามแม่ไปครับ .......ขัดไม่ได้อยู่แล้ว..อีกวิชาคือ....การกวาดยาของแม่......ไม่เคยเรียกร้องเงินทอง ........ขอเพียงเตรียมของมาให้ครบ...ยาแสงหมึก...ยาตราหัวสิงห์..มะนาว....เด็กๆแถวบ้านกลัวนิ้มมหาประลัยของแม่ผมทั้งนั้น.....นิ้วแม่ผมค่อนข้างอ้วนใหญ่ .....เด็กเล็กๆมีจุกคอแน่.....วิธีการคงไม่ต้องอธิบายนะครับ แต่ตอนเอานิ้วควักจากช้อนขึ้นมา แม่ก็จะพงึมพงำเป่าๆ.....แล้วก็ล้วงคอเด็กๆ ผมเห็นตอนนั้นก็สงสารเด็กครับ เห็นหน้าแม่ผมทีไรก็จะหันหนีทุกคน เพราะเข็ด.....จึงหาเด็กที่ติดแม่ผมยาก......กลัวกันหมด....แต่ก็ไม่เคยต้องกวาดคอเด็กคนไหนเกิน 2 ครั้ง ต่อ1 การป่วยเลย....ผมก็ชอบเก็บตามช้อนที่เหลือๆกินครับ อร่อยดี เปรี้ยวๆขมๆ ...และแม่ก็สามารถฉีดยาได้ด้วย เนื่องจากเคยทำงานในอนามัย บางคนป่วยก็ไม่ไปหาหมอแผนปัจจุบัน ก็มาบ้านผมนี่แหละ ซื้อยามาให้แม่ผม เตรียมอุปกรณ์ฉีดยาให้ แล้วแม่ก็จัดการให้ไม่เคยขัด ไม่เคยเก็บเงินเก็บทองใคร นี่แหละครับ หมอชาวบ้านตัวจริง .........ครั้งนี้ขอจบเรื่องแม่ผมก่อน ตอนหน้าเมื่อผมได้นั่งสมาธิครั้งแรก......ตอนเรียนชั้นประถมไม่น่าจะเกิน ป.4 โดนบังคับนั่ง.....ตอนนี้ขอจบภาคแรกกับปู่ฤาษีนารอทครับ
     
  11. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    แหม...เข้ามาดูช้า เกือบอดอ่านเลย จขกท.งอน ซะงั้น แหะๆ
     
  12. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    เข้ามาให้กำลังใจคนเขียนครับ... "ความจริงผลัดกันเล่า"
     
  13. punthai

    punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    โปรดติดตามตอนต่อไป
     
  14. arnubismummy

    arnubismummy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +13
    รอติดตามด้วยคนครับ
     
  15. พัน

    พัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +324
    ชอบครับ ขอติดตามเรื่อยๆครับ
     
  16. nopsena

    nopsena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +4,662
    รอติดตามครับ
     
  17. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    สืบเนื่องจากกระทู้พี่ modpong เรื่องของหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ใครอยากได้ลูกอมทองไหล ให้ติดต่อที่วัดได้โดยตรงเลยนะ ราคาอาจจะสูงซักหน่อย แต่คิดว่าไม่แพง เพราะได้ทำบุญเข้าวัด ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งวัตถุมงคล คุ้มค่าครับ
     
  18. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    กราบสวัสดีมิตรรักแฟนๆกระทู้ทุกท่าน แอบหนีเที่ยวต่างจังหวัดมา สามสี่วัน หุหุ เลยมิได้เขียนอะไรเลย ยังไงพรุ่งนี้จะพยายามนะครับ
     
  19. arnubismummy

    arnubismummy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +13
    แฟนคลับรอติดตามอยู่ครับ
     
  20. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เล่าเรื่องภาค 2 ตอน 1
    กราบสวัสดี ทุกท่าน กระผมกลับมาประจำการอีกครั้งนึง.. หลังจากได้เคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว และได้แอบเที่ยวไปหลายวัน พักผ่อนสมองบ้างตามสมควร เรื่องเล่าตอนนี้ก็จะย้อนวัยเหมือนเดิม เริ่มกันยาวๆ ก็จะมีสยองขวัญบ้างตามสมควร พร้อมกับบรรยากาศเก่าๆ ตามประสาบ้านนอกบ้างละกัน.... ย้อนไปในวัยเยาว์ เมื่อประมาณผมอยู่ ป.1 ได้ ในวันสำคัญต่างๆ แม่จะพาผม กลับไปลพบุรี.....เพื่อเยี่ยมเยือนญาติพี่น้อง....ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าลำบากอยู่พอสมควร ..... รถที่จะไป ก็ต้องไปนั่งที่หมอชิตเก่า รถบัสสีแดงๆ...ไม่มีแอร์ นั่งกินลม พร้อมกับฝุ่น แล้วรถพวกนี้ จะไปลพบุรี มันจะเข้า สระบุรีก่อน ทำให้ช้ามาก ใช้เวลานานเลยทีเดียว.......สามถึงสี่ชั่วโมงได้ ในการเดินทางไปลพบุรีในแต่ละครั้ง และหลังๆ ก็เริ่มมีรถแอร์ แต่ก็นั่งไม่ได้ เพราะผมเมารถ อ้วกแตกอยู่เป็นประจำถ้านั่งรถแอร์นานๆ ........แต่โตขึ้นมาก็หาย........การเดินทางพอลงในเมืองเสร็จ ก็ต้องนั่งรถสองแถวใหญ่ สีเขียว เขียนว่าบ้านกุ่ม-ลพบุรี เข้าไปอีก ตลอดเส้นทาง ก็ทางลูกรังนี่แหละครับ จอดส่งคนแต่ละที ฝุ่นแดงๆ เต็มรถไปหมด ผมเผ้าไม่ต้องห่วง ถ้าผมยาวๆ เป็นได้แดงกันทุกคน ไม่ต้องพึ่งพายาย้อมผมแต่อย่างใด......แต่เบื่อตรงที่ จะต้องนั่งตักแม่เวลาที่มีคนขึ้นมานั่งเยอะๆ เพราะอึดอัด ไม่สะดวกที่จะซน ช่วงหยุดยาวๆ แม่ก็จะไปทำบุญ ที่บ้านเกิดอยู่ตลอด .... และในจังหวะนั้นเอง ผมในวัยเยาว์ก็ไปด้วย เพราะสนุก กลับไปได้เล่นซ่อนแอบในกองฟางบ้าง เล่นว่าวบ้าง ไปดูเขาดักหนู ดักนก ตีไก่ เล่นไพ่ในกอไผ่ และการละเล่นแบบบ้านๆที่หาไม่มีในชุมชนคอนกรีต .......อยู่ กทม.มันไม่มีให้เล่น ซึ่งในสมัยนั้น เวลากลับไปก็ตื่นตาตื่นใจ อยู่ กทม. อย่างเก่ง ก็ซ่อนแอบตามตึก ตามซอกซอย หรือไม่ก็ปาลูกข่าง นอกนั้นก็เล่นเกมส์ เตะบอล ก็เข้าเรื่องกันเลยดีฝ่า.........เกริ่นบรรยากาศอารมแบบเด็กๆสมัยนั้นครับ...........ในบรรยากาศแบบบ้านๆ นานๆกลับที ไม่ได้มีน้ำประปา หรือไฟฟ้า แต่อย่างใด อาบน้ำทีก็ต้องไปบ่อโยก ไปโยกเยกเพื่อเอาน้ำมาใส่ตุ่ม ด้วยการหาบ หรือไม่ก็อาบตรงบ่อโยกเลย แต่บางทีมีการมาต่อคิวบ้าง แต่สนุกดี เพราะกรุงเทพ ไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็น ......... ในบรรยากาศแบบโพล้เพล้ .... ดวงอาทิตย์ ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียง แสงสลัวๆ แดงๆ ที่ยังคงพอจะมีให้เห็น แสงสว่าง ก็พอจะเห็นหน้ากันได้บ้าง รางๆ ในเวิ้งระแวกบ้าน ก็จะเป็นบ้าน ปลูกกันแบบ ห่างๆ ไม่ชิดกันเท่าไรนัก ไม่มีรั้วรอบขอบชิดแบบสมัยนี้ ก็จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่เต็มไปหมด และมีต้นมะขามเทศ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาขนาดใหญ่ ประมาณต้นหูกวางที่โตเต็มวัย บริเวณนี้ จะเป็นจุดที่เด็ก ไปเล่นกัน เพราะเป็นลานกว้าง มีพื้นที่หน่อย ยิ่งพอเวลายิ่งค่ำลงไปเรื่อย ก็ยิ่งน่ากลัว แต่ก่อนก็พอจะมีสัตว์ประเภทลิง หลงมาบ้าง พังพอน งู ก็พอจะมีให้เห็นในบริเวณนี้ และโผล่มาหน้าบ้านก็เจอ.... บ้านต่างจังหวัดก็ปลูกกันสะเปะสะปะ ไม่ได้จัดระเบียบอะไร.....ซึ่งในเวลาพลบค่ำ แต่ยังพอมีแสงรางๆ ผมก็วิ่งเล่นอยู่ ..ข้างล่าง แต่ก่อน บ้านภาคกลาง จะปลูกแบบใต้ถุนสูง ข้างล่างโล่ง ไม่ได้มีการทำครึ่งตึกครึ่งไม้ ......... วิ่งเล่นอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง ด้วยความจำที่ลางเลือน ผมจำไม่ได้ว่าเล่นอะไรกันอยู่............จบก่อนนะครับ เดี๋ยวว่างๆ จะมาต่อให้ครับ เกริ่นเรื่องเอาพอสนุกสนานครับ ภาคนี้ก็จะเป็นเรื่องของผีๆหน่อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...