สนทนาเรื่อง ทำดีไม่ได้ดี ทำไม่ดีแต่ได้ดี

ขอเปิดสนทนาแลกเปลี่ยนแนวคิด เรื่อง ทำดีไม่ได้ดี สักหน่อย
จากมุมมองของด้านบน ได้แง่คิดว่า

จิตที่ดี กระทำดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ดี ... ยังไงก็ได้ดี
จิตที่ดี กระทำไม่ดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ดี ... ยังไงก็ได้ดี

จิตที่ไม่ดี กระทำดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ดี ... ยังไงก็ได้ดี
จิตที่ไม่ดี กระทำไม่ดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ดี ... ยังไงก็ได้ดี

-------------------------------------------------------------
จิตที่ดี กระทำดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ไม่ดี ... ยังไงก็ไม่ดี
จิตที่ดี กระทำไม่ดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ไม่ดี ... ยังไงก็ไม่ดี

จิตที่ไม่ดี กระทำดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ไม่ดี ... ยังไงก็ไม่ดี
จิตที่ไม่ดี กระทำไม่ดี อยู่ใน โซนแห่งผลออกมา ไม่ดี ... ยังไงก็ไม่ดี

--------------------------------------------------------------

เมื่อ ตี โซนเหล่านี้ จนแตกฉาน ดังนั้นการกระทำใดๆ ถึงแม้จะเป็นกุศลธรรม ก็พึงระวัง ข้อจำกัด นานา ประการเช่น เช่น
- รูปกาย เป็นที่ดึงดูดหรือไม่ (มีเสน่ห์ หรือไม่)
- ฐานะ เป็นที่ยอมรับในระดับ ในสังคม (ภาษาชาวบ้าน มีเงินหรือไม่?)
- ทำดีกับใครสักคน เป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง ยังงั้ย เขาก็ไม่เคยเห็นความดี หรือความลำบากยากเข็ญ ที่อุตสาห์ทำให้
(ละครน้ำเน่า ถ้าฉันรู้ว่าพี่เป็นคนดีขนาดนี้ ฉันน่าจะเลือกพี่ ซะครั้งกระนั้นแล้ว ... ตอนพูด สายไปแล้ว)
- จะทำดีสักกี่ครั้งกี่ครา ไม่เคยมีโชคช่วยในด้านใดเลยๆ และทุกครั้งที่ทำความดีจะมีเรื่องเดือดร้อนเข้ามาเสมอ
(ละครน้ำเน่า มึงไปทำกรรมอะไรมาวะ ชะตาชีวิตมึงถึงได้เป็นเช่นนี้ เวรกรรม เวรกรรม ... ได้แต่เวทนา แต่ช่วยอะไรไม่ได้ วิบากของมึง เรืองของมึง)
- จะทำไม่ดีสักกี่ครั้งกี่ครา มีโชคช่วยเสมอ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนทุกข์ร้อนผ่านเข้ามาเลย ทำไม่ดีทุกเรื่องผ่านฉลุย ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
(ละครน้ำเน่า โกงกิน คอรัปชั่น ลอบทำร้าย ดัดหลังหักหลัง เลื่อยขาเก้าอี้ )
- จะหลอกมัน จะหาประโยชน์จากมัน จะใช้มันเป็นเครื่องมือ ใครๆก็มองว่าสิ่งที่เขาจะกระทำนั้น ดีไปหมด มองมุมไหนก็ดีไปหมด หาสิ่งที่ไม่ดีไม่เจอเลย
(ละครน้ำเน่า มอมเมาพวกมันไปจนวันพวกมันตายเลย ไม่ให้พวกมันตาสว่างเด็ดขาด ... อกุศลธรรมแบบแอบแฝง)

ยังอีกนานับประการเล้ยยยย

เออออ แล้วตั้งกระทู้นี้มาทำไมหละนี่ ???~
เกือบลืมไป ต้องการฟังเสียงสะท้อนกลับ อิอิอิ

 

ศึกษาธรรม แบบ จับโน้นจับนี้ คว้าเรื่องที่ไม่ได้เนื่องกัน เอามาเนื่องกัน เขาเรียกว่า ศึกษาธรรม แบบ แกะขอดด้าย

ขอดด้าย คือ ม้วนของเส้นใยผ้าเป็นเส้นเอามาขดเป็นก้อนกลมๆ แล้วให้ คนเอาไปแกะ

ร้อยละร้อย แกะเส้นหนึ่ง ก็จะ ทะลึ่งแล่นไปเส้นอื่น แก้เส้นอื่น จับเส้นอื่น หากสามารถ
จับแต่เส้นเดิมแล้วค่อยๆ ถอด ก็ไม่มีปัญหา แต่ ร้อยละลร้อย ย่อม คิดเอาเอง ด้นเด้า
เดาเอา เสร็จแล้วก็โดน สังขารธรรม นั้น ย้อมติดจิต จนเบลอ ละทิ้ง ด้ายเส้นเดิม
ไปคว้าเอาด้ายอีกเส้น เหมือนลิงไล่จับเถาวัลย์ฉะนั้น

ทำดี ได้ดี
ทำชั่ว ได้ชั่ว

เป็นสำนวนธรรมไทย ที่ถอดมาจาก สำนวนใหญ่

มโน ปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฎฐา มโนมยา
มนสา เจ ปทุฏเฐนะ ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นัง ทุกขมันเวติ จักกังวะ วะหะโตปทัง

ขอแปลโศลกข้างบนง่ายๆ ว่า "ทำชั่ว ได้ชั่ว"


มโน ปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
มนสา เจ ปปสันเนนะ ภาสติ วา กโรติ วา
ตโต นัง สุขมันเวติ ฉายาวะ อนุปายินีติ

ขอแบลโศลกข้างบนง่ายๆ ว่า "ทำดี ได้ดี"

หรือ สำนวนไทยพื้นบ้าน

" โลกสีชมพู มองอะไรก็สีชมพู ไปหมด "


********************************

หมายถึง จิตหากเราทำให้มัน สะอาด สว่าง สงบ ผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมี
อะไรมากระทบ ย่อม สะอาด สว่าง สงบ ได้ [ ทำดี ได้ดี 1000% ]

ไม่มีหรอก ทำดี ทำจิตให้สว่าง สะอาด สงบ แล้ว จะได้ชั่ว ...นั่นไป หยิบ
เส้นด้าย สายปฏิจสมปุบาท คนละ เส้น คนหละ ปัจจัย แล้ว ครับท่าน !!!

ท่านต้อง หันกลับมา ดื่มนม ฉลาดใน ปัจจัยการ อธิปัจจัยตา เข้ามา แล้ว
จะได้ไม่เผลอไป จับนม !!! ไม่ต้องร้อง อิอิอิ ให้เมื่อยส้นหน้า !!

 

ทำดีได้ดี นั่นถูกแล้วครับ

ทำดี ไม่ได้ดี เรียกว่า ไม่ได้ทำดีจริง บ้านผมเรียกว่า กระแดะ คือมันเอาหน้า

ทำชั่วได้ชั่ว นี่ก็แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ตัวช่วย ไม่ต้องใช้สลิง รับเองเต็มๆ


จิต
หากอบรมดีแล้ว ความ สว่าง สงบ ผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมี
อะไรมากระทบ ย่อม สะอาด สว่าง สงบ ได้ [ ทำดี ได้ดี 100% ]

ไม่มีหรอก หากอบรมจิตมาดีแล้ว จะได้ชั่ว

 

ความคิดเห็นส่วนตัว ••ทำดีต้องได้ดีแน่นอน•• ค่ะ

 

เคยคิดนะคะว่า ความดีที่ทำไปถึงมันจะยังไม่ส่งผล และจะด้วยเวรกรรม วิบากกรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในอนาคตความดีที่ทำไว้มันต้องส่งผลแน่นอน ไม่ว่าจะทำดีเอาหน้าหรือตั้งใจทำก็ตาม (มันต้องได้กลับมาบ้างแน่ ๆ) แต่ส่วนใหญ่คนที่เค้าทำความดีจริง ๆ เค้าไม่นึกถึงเรื่องที่ว่าความดีมันจะเข้าหาตัวเค้าหรอกค่ะ เค้าอาจจะแค่น้อยใจในบางครั้งถ้าเค้าทำดีแล้วไม่ได้ดี แต่มีแต่เรื่องแย่ ๆ ประเดประดังเข้ามาแทน (ซึ่งก็น่าเห็นใจมาก ๆ)

ในทางกลับกันคนที่ทำชั่ว ที่ตอนนี้อาจจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอกอบโกยไว้ก่อน มีแต่ได้กับได้ อาจจะเป็นเพราะกุศลผลบุญเก่าของเค้าที่เค้าทำไว้หลาย ๆ ชาติมาเกื้อหนุนด้วย แต่พอถึงเวลาบุญเค้าหมดเท่านั้นแหละ....ไม่อยากจะคิด

 

..ทำดีได้ดี ก้ คงเหมือนท่าน นิวรณ์ ว่าไว้....ส่วนถ้าเป็นเรื่องการงานหรือเรื่องชีวิต ก็ คงขอยก อิทธิบาทสี่ เหมือนเคย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ปัญหา คือ เรามีเพียงพอหรือยัง....ขอยกตัวอย่างเดิมเดิม ที่มีคนเคยยกมาแล้ว เช่น โธมัส อันวา เอดิสัน กว่า จะหา ไส้หลอดไฟฟ้า ที่เหมาะสมได้ ต้องล้มเหลวเป็น 1000 ครั้ง เพื่อจะเจอ เพียง1 เดียว....หรือ เอาใกล้ตัวมาก ก็ คงเป็นคำสอนของพ่อ เรื่อง พระมหา ชนก...หรือ การ ค้นพบหญ้าแฝก หรือ การแกล้งดิน...ก็ คือ อิทธิบาทสี่ เป็นหลักแหละครับ..สู้ สู้

 

ฟุ้งอีกนิด..มีเพื่อนเป็นพวกช่างยนต์ช่างซ่อมรถ ผมยังชื่นชมเขาว่า มันเป็นงานที่สอนให้รู้จัก ขั้นตอน เหตุ ปัจจัยการ ไปสู่ผล เพราะถ้าคุณถอดออกมาแล้ว เวลาประกอบก็ต้องเรียงลำดับ ขั้นตอนและ ชิ้นส่วนให้ถูกต้อง งานที่คล้ายคล้ายกันนี้คงมี อีก เยอะ....ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความเข้าใจ เหตุ และผล หรอ อิทธิบาทสี่ได้ จริง....ส่วนสำหรับสังคมไทย ที่คุ้นเคยกับ คอรัปชั่นท์ โกงได้โกงดี ตุนอาวุธหนัก...พอเจอของแข็งเข้า ก็ ร้องโอดโอย เพราะ คง งง ว่า เมื่อก่อน ไม่ เคยเจอ นี่นา

 

+++ อ่านดูแล้ว เหมือนเอา "กฏแห่งกรรม" มา "สมมุติ" ผ่าออกเป็น 4 ส่วน แล้วทำ "วิเคราะห์เจาะลึก" เพื่ออะไรก็ไม่รู้

+++ กฏแห่งกรรม เป็น "อจินไตย" นั่นคือ "ไม่สามารถรู้ได้ จากอาการสมมุติ" (นึกคิด เปรียบเทียบ)

+++ สามารถกล่าวได้ว่า "สมมุติให้ตาย ก็ไม่รู้ ต้องหยุดสมมุติ จึงรู้" ก็แล้วกัน

+++ "หยุดสมมุติ จึงรู้" ก็คือ "ญาณ" (ยาน) นั่นแหละ

+++ "ทำดีไม่ได้ดี ทำไม่ดีแต่ได้ดี" แต่ทึ่อ่านดู รู้สึกว่า "ดี" ในที่นี้คือ "ถูกใจ" ไม่ใช่ "ถูกต้อง"

- รูปกาย เป็นที่ดึงดูดหรือไม่ (มีเสน่ห์ หรือไม่)

+++ ดีในประโยคนี้คือ "ราคะ"

- ฐานะ เป็นที่ยอมรับในระดับ ในสังคม (ภาษาชาวบ้าน มีเงินหรือไม่?)

+++ ดีในประโยคนี้คือ "โลภะ" (ภาษาชาวบ้าน โกงทั้งโคตร โคตรโกง)

- ทำดีกับใครสักคน เป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง ยังงั้ย เขาก็ไม่เคยเห็นความดี หรือความลำบากยากเข็ญ ที่อุตสาห์ทำให้
(ละครน้ำเน่า ถ้าฉันรู้ว่าพี่เป็นคนดีขนาดนี้ ฉันน่าจะเลือกพี่ ซะครั้งกระนั้นแล้ว ... ตอนพูด สายไปแล้ว)

+++ นั่นนะซิ แล้วจะเรียกว่า "ดี" ได้ยังไง ถ้ายัง "เชื่อว่าดี" ก็ "ทุกข์" ต่อไปจนกว่าจะพ้นกรรม

- จะทำดีสักกี่ครั้งกี่ครา ไม่เคยมีโชคช่วยในด้านใดเลยๆ และทุกครั้งที่ทำความดีจะมีเรื่องเดือดร้อนเข้ามาเสมอ
(ละครน้ำเน่า มึงไปทำกรรมอะไรมาวะ ชะตาชีวิตมึงถึงได้เป็นเช่นนี้ เวรกรรม เวรกรรม ... ได้แต่เวทนา แต่ช่วยอะไรไม่ได้ วิบากของมึง เรืองของมึง)

+++ ฟังดูเหมือนกับว่า "ความดี" ในประโยคนี้คือ "การแทงหวย" (ไม่เกี่ยวกับข้อความในวงเล็บ)

- จะทำไม่ดีสักกี่ครั้งกี่ครา มีโชคช่วยเสมอ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนทุกข์ร้อนผ่านเข้ามาเลย ทำไม่ดีทุกเรื่องผ่านฉลุย ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
(ละครน้ำเน่า โกงกิน คอรัปชั่น ลอบทำร้าย ดัดหลังหักหลัง เลื่อยขาเก้าอี้ )

+++ ประโยคนี้ น่าจะไปปรึกษากับ "ประยุทธ จันทร์โอชา" ดูสักนิดนะ รู้สึกว่าตอนนี้กำลังทำ "วิจัย" ตรงนี้อยู่พอดี น่าจะ "โชคช่วย" อีกสักเคสนะ

- จะหลอกมัน จะหาประโยชน์จากมัน จะใช้มันเป็นเครื่องมือ ใครๆก็มองว่าสิ่งที่เขาจะกระทำนั้น ดีไปหมด มองมุมไหนก็ดีไปหมด หาสิ่งที่ไม่ดีไม่เจอเลย
(ละครน้ำเน่า มอมเมาพวกมันไปจนวันพวกมันตายเลย ไม่ให้พวกมันตาสว่างเด็ดขาด ... อกุศลธรรมแบบแอบแฝง)

+++ ตรงนี้เป๊ะเลย "รีบ ๆ ไปมอบตัวกับ คสช ซะ" อย่าให้เขามาหาถึงบ้าน แล้วฝากบอกด้วยว่า "ให้รีบ ๆ สอบสวนพวกละครน้ำเน่าโดยเร็ว" เพราะมันทำให้ "เน่าทั้งประเทศ" มาแล้ว

ยังอีกนานับประการเล้ยยยย

+++ ยังไม่เหนื่อยอีกเหรอ

เออออ แล้วตั้งกระทู้นี้มาทำไมหละนี่ ???~

+++ นั่นนะซิ

เกือบลืมไป ต้องการฟังเสียงสะท้อนกลับ อิอิอิ

+++ เอกโค่วัน เรียก เอกโค่ทู.... เอกโค่วัน เรียก เอกโค่ทู ....

 

ทฤษฎีอะไรก็ไม่รู้ ดูแล้วมึน
เอาง่ายๆ เลยดีก่า...กรรมที่กระทำ เรียงลำดับตามที่เราทำ ก่อน-หลังเอาไว้แล้ว
ทำดีตอนนี้...แล้วยังไม่ได้ดีตอนนี้...ก็เพราะ กรรมไม่ดีในอดีต ยังส่งผลกับเราอยู่
ทำไม่ดีตอนนี้...แต่กลับได้ดีเอ๊า ดีเอา...ก็เพราะ กรรมดีในอดีต ยังส่งผลกับเราอยู่
ยกเว้น กรรมแรงๆ บางชนิด ที่สามารถตัดรอน หรือแซงคิวได้...
โปรดเข้าใจว่า...กรรม ยุติธรรมเสมอ...

 

ดีแบบไหนล่ะ ไม่ดีแบบไหนล่ะ ที่คุณตั้งฉากต้องการอยากจะไห้มันเป็น
อยากรู้ หรืออยากได้
1.มีอาชีพ ฆ่า หมู วัว ควาย เพื่อหาเลี้้ยงครอบครัว
2.หาปลาฆ่าปลาขายได้ 100กิโลกรัม กก.ล่ะ 120 บาท เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
3.เก็บผักขายได้ 100กิโลกรัม กก.ล่ะ 10 บาท เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
4.เจ้านายสั่งลูกน้องไปฆ่าคนที่ตนไม่ชอบขัดผลประโยชน์ งานสำเร็จ เจ้านายชอบ
ใจ ให้เงินลูกน้องไป 1ล้าน
5.ผู้จัดการ หรือ พนักงานทำงานดี ตรงตามกฏระเบียบ วินัย ได้เงือนเดือนเพิ่ม
ได้เลื่อนตำแหน่ง คำชมเชย แต่พนักงานด้วยกัน หรือ ผู้้ใต้บังคับบัญชาไม่มี
ใครชอบสมาคมด้วยเลย
6.ผู้มีศีลธรรม อยู่อย่างพอเพียง สมถะ กับ ผู้มีทรัพย์ มีปัญา ความฉลาด
มีความรู้ ความสามารถ ใครมีสิทธิ์จะได้เป็น นายกรัฐมนตรี
7.ผู้มีศีลธรรม อยู่อย่างพอเพียง สมถะ กับ ผู้มีทรัพย์ มีปัญา ความฉลาด
มีความรู้ ความสามารถ ใครมีสิทธิ์จะได้ไปสวรรค์

ฯลฯ มากมายเหตุผล มันมีผลของการกระทำอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกดีหรือชั่ว
หวังผลในปปัจจุบันหรืออนาคต กระทำสิ่งดีชั่วในความเป็นมนุษย์ปถุชนผู้มีความอยาก
ในกิเลส หรือกระทำดีชั่วในทางธรรมที่นำไปสู่ความเจริญแห่งการหลุพ้น ในบางครั้ง
ความดีชั่วผลจะได้ ย่อมมีอุปสรรคเป็นบททดสอบ

 

ปลูกมะม่วง ได้ต้นมะม่วง
ปลูกมะพร้าว ได้ต้นมะพร้าว
ทำดี ก็ต้องได้ดี
ถ้าทำดี ได้ชั่ว ก็คงเป็นเพราะที่ตัวทำชั่วแล้วคิดว่าดี
ถ้าทำชั่ว ได้ดี ก็คงเป็นเพราะที่ตัวทำดีแต่คิดว่าทำชั่ว
บุคคลที่คิดแบบดังกล่าวได้ ต้องเป็นพวกขาดสติมากๆ แยกแยะดีชั่วไม่ออก
มีชีวิตลำบากแล้วล่ะงั้น แต่สมัยนี้ก็มีเยอะเหมือนกันนะคนประเภทนี้
สังคมมันถึงวุ่นวายปานนี้

 

เข้ามาอ่านแต่ไม่ค่อยอยากจะออกความเห็นครับ..
ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล.ยังไม่ขอก้าวล่วงครับ.
สมมุติว่า ถ้าคนตั้งกระทู้เป็นผมนะครับ..
แล้วมาอ่านข้อความที่ คุณนิวรณ์ แนะนำใน #Rep ที่ 2
ผมคงจะต้องตั้งใจอ่านหลายๆรอบ
แล้วปิดกระทู้และไปนั่งทบทวนความคิดตัวเอง
ว่าเราพลาดอะไรไปหรือหว๋า ไม่ต้องอ่านความคิด
ของท่านอื่นๆต่อ.เพราะอ่านต่ออาจถึงขั้นต้อง
ย้ายไปอยู่ดาวอื่น....เพราะเรื่องการเขียน
แซะทำนองนี้บวกกับการสอนแนวนี้
ต้องยอมรับว่า คุณนิวรณ์ ไม่เป็นสอง
รองใครในเวปนี้ เท่าที้ได้เคยสัมผัสมา..
และกรณีนี้บังเอิญว่าดันเห็นด้วยครับ.
.
หรือไปนั่งพิจารณาดูอีกทีว่า..ตั้งมาเพื่ออะไร.
หรือว่าควรจะปิดกระทู้ได้หรือยังครับ..
เพราะแค่เริ่่มต้นอ่าน ก็รู้ว่ามันหลงทางตั้งแต่ต้นแล้วครับ..
แต่ถ้าหากว่าคุณคิดว่า มีเจตนาดีเป็นอื่นๆ ก็ต้องขออภัยด้วยครับ.
แต่ควรแสดงเจตนาหรือมีความเห็นที่ชัดเจนให้คน
อื่นๆได้รู้ ได้อ่าน ได้เข้าใจบ้าง ซึ่งจะเป็นผลดีทั้ง
กับตัวคุณเองและคนอื่นๆที่เข้ามาอ่านครับ.
หลังจากคุณแสดงความเห็นคุณแล้ว.เด่วค่อยว่ากันต่ออีกรอบ
ประมาณนี้ หวังว่าจะพอเข้าใจเจตนาที่สื่อ
.ขอบคุณมากครับ..

 

ลองได้มีคนมาอยู่รวมกัน 2 คนขึ้นล่ะเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้อยู่แ้ล้วนะแหละครับ ก็เลยมีกิจกรรมทางสังคมที่มาเพิ่มปัจจัยให้ อธิ
1. ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ยา คลีนิคศัลยกรรม ฯลฯ ขนาดผมเป็นผู้ชายก็ใช้เหมือนกัน
2. บ่อน หวย ช่วยเพิ่มทางรวยแบบลัดๆ
3. มีโรงเรียนสอนโน้น นี่ นั่น ให้เก่งมีทักษะ มีความรู้

สารพัดแหละครับ ใครๆ ก็อยากให้มีคนมารัก สนใจสิ่งที่เราพูด ประสบความสำเร็จในเรื่องน้อยใหญ่

เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ

 

ทำไมผมปลูกถั่วเขียวได้ถั่วงอกอ่ะครับ -..-

 

ต้องขอบคุณผู้แสดงความคิดเห็น เข้ามา ทุกท่านได้สะท้อนถึงการเข้าถึง และมุมมอง ให้เห็นได้เป็นอย่างดี

ข้อกระทู้นี้ หลวงปู่โต พรหมรังสี ท่านเคยเปรยไว้ ว่า การทำดีไม่ได้ดีนั้น ผู้คนลืมไปว่า อนิสงค์จากการทำความดีมันมีเหตุและปัจจัยและวิบากเดิม รวมถึงสภาพแวดล้อมให้เป็นไปเช่นนั้น

เมื่อมองทั้งภายนอก(สังคมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นที่ใดๆ) และที่สำคัญมองเข้าไปในภายใน จะเห็นซึ่งเหตุและปัจจัย

เมื่อเอาทุกความคิดเห็นมารวมกัน ทำให้มุมมองครบถ้วนทุกด้าน และบริบูรณ์
(ขอเน้นว่า ทุกความคิดเห็นเลยทีเดียว)

ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ความคิดเห็น

 

ขอถามเจ้าของกระทู้......ว่า...

คำว่า ดี...ตามความคิดของคุณคือ อะไรบ้าง
คำว่า ไม่ดี ตามความคิดของคุณคือ อะไรบ้าง
คำว่า ทำดี ....ตามความคิดของคุณ คืออย่างไร
คำว่า ทำไม่ดี...ตามความคิดของคุณ คืออย่างไร
คำว่า ไม่ได้ดี...ตามความคิดของคุณ หมายถึง ไม่ได้อะไรที่คุณเห็นว่าเป็นสิ่งดี
คำว่า ได้ดี....ตามความคิดของคุณ หมายถึง ได้อะไรที่คุณเห็นว่าเป็นสิ่งดี
คำว่า ทำดีไม่ได้ดี...ตามความคิดของคุณ คือ ทำดีอย่างไร...ไม่ได้ดี หมายถึง ไม่ได้อะไร เช่น ทรัพย์สิน สิ่งของ ฯลฯ
คำว่า ทำไม่ดี แต่ได้ดี...ตามความคิดของคุณ คือ ทำไม่ดีอย่างไร..ได้ดี หมายถึง ได้อะไร เช่น ทรัพย์สิน สิ่งของ ฯลฯ

ลองตอบคำถามข้างต้นซิขอรับ แล้วคุณจะได้คำตอบด้วยตัวคุณเอง......ตามที่คุณต้องการ

 

ถ้าเข้าใจเรื่องวิบากกรรม ก็จะเห็นครับว่า ทำดี ยังไงผลก็ต้องเป็น วิบากดี แต่วิบากจะส่งผลเมื่อไหร่ อันนี้เป็นอจินไตยครับไม่ต้องไปคิดครับ หรือแม้แต่ ทำชั่ว ยังไงผลก็ต้องเป็น วิบากไม่ดี เพราะทุกๆความคิด จะดีหรือไม่ดีมันฝังไปในสุขุมรูป เรียบร้อบโรงเรียนจีน ตรงนี้อันตราย บางครั้งจะเห็นว่าจิตอยู่ๆก็คิดเลวขึ้นมาเอง มันมาจากปัจจัยที่เราเคยสะสมไว้ในอนุสัยลึกๆๆๆ เราขุดมาไม่เห็น แต่เหมือนเป็นน้ำมัน คอยสแตนบายอยู่ พอมีผัสสะเข้ากระทบ ก็รุกพลึ่บเลย กลายเป็นกรรม ส่งผลเป็นวิบาก แต่ทั้งหมดก็เป็นขันธ์ที่มันสร้างกรรม และก็เป็นขันธ์อีกนั่นแหละครับ ที่รับวิบาก แต่เราฝืนได้นะครับด้วยการสร้างเหตุใหม่เข้าไป และจะแก้ตรงนี้ก็มีอย่างเดียว คือ อริยมรรคมีองค์8 ครับ